แนวทางการพัฒนาตนเอง ตาม ว21
แนวทางการปฏิบัติงานตามโครงการพัฒนาครูรูปแบบครบวงจร ของข้าราชการครู เพื่อพัฒนาตนเองในหลักสูตรที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาตนเองรายบุคคล (ID PLAN) และสอดคล้องกับ บริบทของสถานศึกษาและผู้เรียน
บทบาทหน้าที่ของข้าราชการครู
1. จัดทําแผนพัฒนาตนเองรายบุคคล (ID Plan) ตามความต้องการพัฒนาตนเองท่ีสอดคล้องกับภาระ งานในหน้าที่ของตนเองและบริบทของสถานศึกษาและผู้เรียน
2. ศึกษา ทําความเข้าใจหลักสูตร คู่มือ หลักเกณฑ์ กฎ ระเบียบของทางราชการท่ีเก่ียวข้อง และการ ดําเนินการอื่นๆ ที่เก่ียวข้องอย่างละเอียด
3. ข้าราชการครูเข้าระบบผ่านเว็บไซต์ training.obec.go.th
3.1 กรณีข้าราชการครูยังไม่เคยลงทะเบียน ให้ทําการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์
training.obec.go.th
3.2 กรณีข้าราชกรรครูเคยลงทะเบียนแล้ว ให้ตรวจสอบและแก้ไขประวัติส่วนบุคคลให้
ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน
**กรณี ข้าราชการครูลืมรหัสผ่านเข้าระบบ ให้ดําเนินการตามขั้นตอนการใช้งรนระบบลงทะเบียน
ติดตามและประเมินผล (training.obec.go.th)
4. ข้าราชการครูทําการลงทะเบียนแสดงความต้องการพัฒนาตนเองในหลักสูตรที่สนใจ (Booking)
โดยยึดตามแผนพัฒนาตนเองรายบุคคล (ID Plan) และกรอกค่าใช้จ่าย ดังต่อไปนี้
4.1 ค่าที่พัก
– กรณีหน่วยพัฒนาครูไม่จัดที่พัก ให้ข้าราชการครูกรอกค่าท่ีพักให้เป็นไปตามระเบียบ ของทางราชกรรและมาตรการประหยัด ของสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
– กรณีหน่วยพัฒนาครูจัดที่พักให้กรอกค่าที่พักเป็นศูนย์บาท
4.2 ค่าพาหนะเดินทางให้กรอกเป็นศูนย์บาท (สํฝามารถระบุค่าพาหนะเดินทางได้ในเอกสสร ยืมเงินทดรองราชการ หลังจากทราบแล้วว่าต้องเดินทํางไปอบรมที่ใด)
**ค่าพาหนะเดินทาง เจ้าหน้าที่กลุ่มบริหารงานการเงินและสินทรัพย์ของสํานักงานเขตพื้นท่ี กํฝารศึกษาประถมศึกษา/มัธยมศึกษา/สํานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เป็นผู้กําหนดค่าพาหนะเดินทางตาม ระเบียบของทางราชการและมาตรการประหยัดของสํานักงสนคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในภายหลัง
4.3 ค่าเบี้ยเลี้ยง
5. ข้าราชการครูเข้าระบบผ่านเว็บไซต์ training.obec.go.th เพื่อทําการยืนยันและเลือกหลักสูตรอบรม (Shopping)
5.1 ให้ข้าราชการครูตรวจสอบสถานะการลงทะเบียนหลักสูตรท่ีได้ด้ลงทะเบียนแสดง ความต้องการพัฒนาตนเองในหลักสูตรท่ีสนใจ (Booking) ใน “หลักสูตรที่ลงทะเบียน ทั้งหมด” จากหน้าระบบ
5.2 กรณีข้าราชการครูมีงบประมาณในการเลือกหลักสูตรอบรมคงเหลือและไม่ได้ลงทะเบียน แสดงความต้องการพัฒนาตนเองในหลักสูตรที่สนใจ (Booking) สามารถเลือกหลักสูตร อบรมที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาตนเองรายบุคคล (ID Plan) และต้องอยู่ในจังหวัดที่ ปฏิบัติหน้าที่ / จังหวัดใกล้เคียง / จังหวัดในเขตตรวจ ราช การ หรือในภูมิภาค ตามลำดับ ดังต่อไปนี้
(1) เลือกรุ่นในการอบรมพัฒนรในจังหวัดที่ปฏิบัติหน้าที่
– กรณีจํานวนคน / รุ่น ไม่เต็ม ข้าราชการครูสามารถเลือกรุ่นการอบรม (Shopping) พร้อมกรอกค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับกรรเดินทางไป ราชการ
– กรณีจํานวนคน / รุ่น เต็ม ข้าราชกํารครูสามารถเลือกยืนยันเป็นรายชื่อ สํารอง (waiting list) หรือดําเนินการตามข้อ (2)
(2) หากไม่มีรุ่นการอบรมพัฒนาในจังหวัดท่ีปฏิบัติหน้าท่ี หรือมีรุ่นการอบรมพัฒนา แต่จํานวนคน/รุ่น เต็ม ให้เลือกเข้ารับการพัฒนาในจังหวัดใกล้เคียง
– กรณีจํานวนคน / รุ่น ไม่เต็ม ข้าราชการครูสามารถการเลือกรุ่นการอบรม (Shopping) พร้อมกรอกค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางไปราชการ
– กรณีจํานวนคน / รุ่น เต็ม ข้าราชการครูสามารถเลือกยืนยันเป็นรายชื่อ สํารอง (waiting list) หรือดําเนินการตามข้อ (3)
(3) หากไม่มีรุ่นการอบรมพัฒนาในจังหวัดใกล้เคียง หรือจํานวนคน/รุ่น เต็ม ให้เลือกเข้ารับการพัฒนาในจังหวัดในเขตตรวจราชการ (Cluster)
– กรณีจํานวนคน / รุ่น ไม่เต็ม ข้าราชการครูสามารถการเลือกรุ่นการอบรม (Shopping) พร้อมกรอกค่าใช้จ่ายที่เก่ียวข้องกับการเดินทางไปราชการ
– กรณีจํานวนคน / รุ่น เต็ม ข้าราชการครูสามารถเลือกยืนยันเป็นรายชื่อสํารอง (waiting list) หรือดําเนินการตามข้อ (4)
(4) หากไม่มีรุ่นการอบรมพัฒนาในเขตตรวจราชการ (Cluster) หรือหรือจํานวนคน/รุ่น เต็ม ให้เลือกเข้ารับการพัฒนาในจังหวัดในภูมิภาค
– กรณีจํานวนคน / รุ่น ไม่เต็ม ข้าราชการครูสามารถการเลือกรุ่นการอบรม(Shopping) พร้อมกรอกค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางไปราชการ
– กรณีจํานวนคน / รุ่น เต็ม ข้าราชการครูสามารถเลือกยืนยันเป็นรายช่ือสํารอง (waiting list) หรือดําเนินการตามข้อ (5)
(5) หากไม่มีรุ่นการอบรมพัฒนาในภูมิภาค หรือจํานวนคน/รุ่น เต็ม ให้เลือกหลักสูตรการอบรมพัฒนาอื่นที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาตนเองรายบุคคล (ID Plan) โดยพื้นท่ีการอบรมพัฒนาอยู่ในจังหวัดที่ปฏิบัติหน้าท่ี/จังหวัดใกล้เคียง / จังหวัดในเขตตรวจราชการ หรือในภูมิภาค ตามลําดับ
– กรณีจํานวนคน / รุ่น ไม่เต็ม ข้าราชการครูสามารถการเลือกรุ่นการอบรม (Shopping) พร้อมกรอกค่าใช้จ่ายท่ีเกี่ยวข้องกับการเดินทางไปราชการ
– กรณีจํานวนคน / รุ่น เต็ม ข้าราชการครูสามารถเลือกยืนยันเป็นรายชื่อ สํารอง (waiting list) หรือเลือกหลักสูตรการอบรมพัฒนาอื่นท่ีสอดคล้อง กับแผนพัฒนาตนเองรายบุคคล (ID Plan)
6. ข้าราชการครูทําเรื่องขออนุมัติไปราชการ (ขออนุมัติระยะเวลาเดินทางให้ครอบคลุมเวลาเดินทาง ไป – กลับ) และพร้อมส่งเอกสารการขอยืมเงินทดรองราชการให้ สํานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา/โรงเรียนใน สังกัดสํานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ไม่เกิน 3 วันทําการ หลังจากผู้อํานวยการสถานศึกษาหรือรักษา ราชการแทนผู้อํานวยการสถานศึกษาอนุมัติการลงทะเบียนอบรมพัฒนา โดยข้าราชการครูต้องส่งเอกสารขอยืมเงิน ทดลองราชการ (ตามภาคผนวก ก.) ประกอบด้วยเอกสารดังต่อไปนี้
6.1 หนังสือนําส่งจากโรงเรียน
6.2 ใบเบิกค่าใช้จ่ายเดินทางไปราชการ (แบบ 8708)
6.3 ใบลงทะเบียนอบรมพัฒนาที่พิมพ์จากระบบผ่านเว็บไซต์ training.obec.go.th
6.4 รํายละเอียดหลักสูตรที่เข้ารับการอบรมพัฒนาที่พิมพ์จากระบบผ่านเว็บไซต์ training.obec.go.th
6.5 หนังสืออนุมัติให้เดินทางไปราชการ
** กรณีครูลงทะเบียนเข้ารับการพัฒนาแล้วแต่ยังไม่ได้เข้ารับการพัฒนา หากย้ายไปต่าง สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา ให้ส่งเรื่องการขอยืมเงินและการขอเบิกเงินไปที่ต้นสังกัดเดิม
7. ข้าราชการครูเข้ารับการพัฒนาตนเองตามหลักสูตรที่ยืนยันและเลือกหลักสูตรการอบรม (Shopping) กรณีข้าราชการครูที่เลือกลงทะเบียนหลักสูตรแล้วไม่เข้ารับการพัฒนาตามวันเวลาและสถานท่ี ท่ีกําหนด “ถือว่าข้าราชการครูได้ใช้งบประมาณในส่วนน้ันไปแล้ว”
8. ข้าราชการครูสแกน QR Code เพื่อแสดงตัวตนในการเข้ารับการอบรมพัฒนาภายในระยะเวลาที่เข้าอบรม
8.1 กรณี ข้าราชการครูใช้สมาร์ทโฟน สามารถทาการสแกน QR Code ณ จุดพัฒนา
8.2 กรณี ข้าราชการครูไม่ใช้สมาร์ทโฟน ให้ลงลายมือชื่อพร้อมบันทึกภาพถ่ายของ ข้าราชการครู ณ จุดอบรม และให้หน่วยพัฒนาครูทําการยืนยันแสดงตัวตนในการเข้ารับการอบรม พัฒนาแทนผ่านเว็ปไซต์ http://site.training.obec.go.th/obechrd/course/Index
9. หลังจากข้าราชการครูเข้ารับการอบรมพัฒนา ให้ส่งเอกสาร ไปยังสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา/โรงเรียนในสังกัดสํานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ (ตามภาคผนวก ก.) ดังนี้
9.1 กรณีครูสํารองจ่ายค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ ให้ส่งเอกสารขอเบิกทันทีหลังจากเดินทางกลับจากการพัฒนา ประกอบด้วยเอกสารดังต่อไปน้ี
9.1.1 เอกสารตามข้อ 6.1 – 6.5 (ส่งไปสํานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาแล้ว)
9.1.2 ใบเสร็จรับเงินค่าลงทะเบียน, ใบเสร็จรับเงินค่าท่ีพัก (ถ้ามี), หรือใบรับรองแทนใบเสร็จรับเงิน (แบบ บก.111) ถ้าใบเสร็จรับเงินไม่สมบูรณ์
9.2 กรณีครูยืมเงิน ให้ส่งใช้เงินยืม ภายใน 15 วันหลังจากเดินทางกลับจากการพัฒนาประกอบด้วยเอกสารดังต่อไปนี้
9.2.1 เอกสารตามข้อ 6.1 – 6.5 (ส่งไปสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาแล้ว)
9.2.2 ใบเสร็จรับเงินค่าลงทะเบียน, ใบเสร็จรับเงินค่าที่พัก (ถ้ามี), หรือใบรับรอง แทนใบเสร็จรับเงิน (แบบ บก.111) ถ้าใบเสร็จรับเงินไม่สมบูรณ์
10. หลังจากข้าราชการครูเข้ารับการอบรมพัฒนาให้ข้าราชการครูเข้าระบบผ่านเว็บไซต์ training.obec.go.th เพื่อทําการประเมินความพึงพอใจหลักสูตรในการอบรมพัฒนา
11. ข้าราชการครูจัดทํา “รายงานผลการเข้ารับการอบรมพัฒนาและการนำไปใช้ในการจัดการเรียนรู้” หลังจากเข้ารับการพัฒนาให้ผู้อํานวยการสถานศึกษา หรือผู้รักษาราชการแทนรับทราบ ภายใน 7 วันทําการ
12. นําผลไปผลการพัฒนาตนเองไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนให้เกิดประสิทธิภาพและ ประสิทธิผลสูงสุด
ที่มา: ร่างแนวทางการปฏิบัติงาน ตามโครงการพัฒนาครูรูปแบบครบวงจร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 (หน้า 11-14)
สำนักพัฒนาครูและบุคลากรการศึกษาขั้นพื้นฐาน
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
Comments
Powered by Facebook Comments