fbpx
Digital Learning Classroom
กิจกรรมการสอนนโยบายการศึกษาหลักสูตรฐานสมรรถนะ

แนวทางการจัดการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์ และหน้าที่พลเมือง

แชร์เรื่องนี้

สรุปแนวทางการจัดการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์ และหน้าที่พลเมือง

เป้าหมายของการเรียนประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมือง

ประวัติศาสตร์

  • ใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์มาวิเคราะห์เหตุการณ์ต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ
  • เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาติ และสามารถวิเคราะห์ผลกระทบที่เกิดขึ้น
  • เข้าใจความเป็นมาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย มีความรัก ความภูมิใจและธำรงความเป็นไทย

หน้าที่พลเมือง

  • ปฏิบัติตนตามหน้าที่ของการเป็นพลเมืองดี
  • มีค่านิยมที่ดีงาม
  • ธำรงรักษาประเพณีและวัฒนธรรมไทย
  • ดำรงชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข
  • ยึดมั่น ศรัทธา และธำรงรักษาไว้ซึ่งการปกครองระบอบประซาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

สภาพปัจจุบัน ปัญหาการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ และหน้าที่พลเมือง

  1.  เน้นการเรียนรู้เชิงรับ (Passive Learning)
  2. มีรูปแบบตายตัวใช้ข้อมูลเพียงชุดเดียวในการเรียนรู้
  3. เริ่มต้นจากสิ่งไกลตัว
  4. ใช้สื่อตำราเรียน มากกว่าการใช้แหล่งเรียนรู้
  5. ถูกจำกัดให้เป็นเพียงสาระหนึ่งในการจัดการเรียนรู้
  6. ไม่ได้ถูกนำมาใช้ในการพัฒนาครู

บทบาทของหน่วยงานกับการขับเคลื่อนการเรียนการสอนประวัติศาสตร์

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

  1. จัดทำประกาศ ศร. เรื่องการบริหารจัดการโครงสร้างหลักสูตร 8+1
  2. จัดกลุ่มตัวชี้วัด ประวัติศาสตร์หน้าที่พลเมือง
  3. ส่งเสริมการใช้ที่หลากหลาย และกันสมัย เช่น สื่อดิจิทัล การ์ตูนแอนิเมชั่น VR AR
  4. “One Team ประวัติศาสตร์ชาติไทย” ใน 7 พื้นที่
  5. ส่งเสริมและสร้างความตระหนักในบทบาทหน้าที่
  6. จัดโครงการ “Young Gen History Teacher OBEC” : YGHT
  7. จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และเผยแพร่ผลงาน
  8. ติดตาม ให้คำปรึกษา

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

  1. ส่งเสริมการใช้แหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ท้องถิ่น
  2. สื่อสารสร้างการรับรู้
  3. จัดอบรมพัฒนาครู และบุคลากรทางการศึกษา
  4. พัฒนาศึกษานิเทศก์ต้นแบบ
  5. ลงพื้นที่ติดตามให้คำปรึกษา และถอดบทเรียน

สถานศึกษา

  1. จัดการเรียนรู้เชิงรุกโดยใช้แหล่งเรียนรู้ ท้องถิ่น ชุมชน
  2. ประเมินระหว่างเรียน ประเมินตามสภาพจริง และวิธีการประเมินที่หลากหลาย
  3. สนับสนุน กำกับ ติดตาม

การเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551

2551

  • กำหนดสาระประวัติศาสตร์เป็นหนึ่งสาระจาก 5 สาระฯ ของกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม

2552

  • กำหนดเวลาเรียนชั้น ป.1 – ม.3 เรียน 40 ชม./ปี
  • ชั้น ม.4 – 6 เรียนรวม 3 ปี 80 ชม.

2557

กำหนดจุดเน้นการจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ 5 ประเด็น

  1. ความเป็นมาของชาติไทย
  2. สัญลักษณ์ของชาติไทย
  3. สถาบันพระมหากษัตริย์
  4. บรรพบุรุษไทย
  5. ภูมิปัญญา และวัฒนธรรมไทย

2559

  • วิเคราะห์ตัวชี้วัด ต้องรู้ – ควรรู้  ของสาระประวัติศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ

2561

ปรับโครงสร้างเวลาเรียน ได้อย่างยืดหยุ่น 8 กลุ่มสาระฯ  ยกเว้น รายวิชาพื้นฐานประวัติศาสตร์

  • ชั้น ป.1 – ม.3 เรียน 40 ชม./ปี
  • ชั้น ม.4 – 6 เรียนรวม 3 ปี 80 ชม.

2565

จัดโครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษาตามนโยบาย 8 + 1 แยกประวัติศาสตร์ออกมาอย่างชัดเจน

  • ชั้น ป.1 – ม.3 เรียน 40 ชม. /ปี ตามประกาศ ศร.
  • ชั้น ม.4 – 6 เรียนรวม 3 ปี 80 ชม.

การจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์วิธีการทางประวัติศาสตร์

  1.  ตั้งประเด็นศึกษา
  2. เสาะหาแหล่งข้อมูลหลักฐาน
  3. รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน
  4. วิเคราะห์ตรวจสอบ ประเมินคุณค่าหลักฐาน
  5. ตีความเพื่อตอบประเด็นศึกษาได้ว่า ทำไม และอย่างไร
  6. นำเสนอเรื่องราวที่ค้นพบได้อย่างมีเหตุผลและน่าสนใจ

การวัดและประเมินผลเชิงบูรณาการ

  1. จัดการเรียนรู้เชิงรุกโดยใช้แหล่งเรียนรู้ ท้องถิ่น ชุมชน
  2. ประเมินระหว่างเรียนประเมินตามสภาพจริง และวิธีการประเมินที่หลากหลาย
  3. สนับสนุน กำกับ ติดตามบทบาทสถานศึกษา

ตัวอย่างเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การวัดและประเมินผลเชิงบูรณาการ

  1. เป้าหมายการเรียนรู้และวัตถุประสงค์การเรียนรู้โดยทั่วไป

กำหนดเป้าหมายการเรียนรู้ร่วมกัน

    1. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน (การคิด การสื่อสาร)
    2. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน รักความเป็นไทย)
    3. มาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัด
  1. การวัดประเมินก่อนเรียน
    • KPA (ที่จำเป็น/ส่งผลต่อการเรียนรู้) ข้อมูลนักเรียน จากกาคเรียนที่ผ่านมา ความถนัด ความสนใจ ผลการสำรวจแวงความสามารถพิเศษด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์
  2. กำหนดจุดประสงค์ และกำหนดหลักฐานการเรียนรู้  และการวัดประเมินระหว่างเรียน
    • การเขียน story board (กาษาไทย) การออกแบบเครื่องแต่งกายตัวละคร (ศิลปะ) การทำคลิปตัวอย่าง/ปชส. (เทคโนโลยี) การอธิบายปรากฏการณ์ด้วยหลักวิทยาศาสตร์ (วิทยาศาสตร์)
  3. การวางแผนการจัดการเรียนรู้ 
    • ไช้วิธีการทางประวัติศาสตร์
      1. ตั้งประเด็นศึกษา
      2. เสาะหาแหล่งข้อมูลหลักฐาน
      3. รวบรวมข้อนลที่เกี่ยวข้องได้ครบถ้วน
      4. วิเคราะห์ตรวจสอบประเมินคุณค่าหลักฐาน
      5. นำเสนอเรื่องราวที่ค้นพบได้อย่างมีเหตุผล และน่าสนใจ
  4. การวางแผนการจัดการเรียนรู้ และการเรียนรู้อย่างมีปฏิสัมพันธ์
    • กระบวนการกลุ่ม
    • การถกแถลง
    • อภิปราย
    • สร้างคุณลักษณะอันพึ่งประสงค์
    • สื่อสารอย่างสร้างสรรค์
    • การวางแผน
  5. การวัดประเมินหลังเรียน และการวัดประเมินระหว่างเรียน
    • ละครประวัติศาสตร์ / การแสดงบทบาทสมมติ

วิธีการวัดประเมินที่ส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์

คำถามที่ทรงพลัง (Power Questions)

  • คำถามกระตุ้นให้มีจุดหมายในการคิด (focus questions)
  • คำถามที่เสริมพลัง (empowerment questions)
  • คำถามเชิงลึก (depth questions)
  • คำถามกระตุ้นความปรารถนา (passion questions)
  • คำถามกระตุ้นแรงบันดาลใจ (inspiration questions)

เทคนิคการตั้งคำถามและการให้ข้อมูลย้อนกลับเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้

  1. รอเวลา
  2. ไม่มีการยกมือ
  3. การตั้งต่อยอด
  4. บัตรคำ ABCDE
  5. การสัมมนาแบบโสเครติส
  6. การตั้งคำถามแบบสืบสวน/สอบสวน
  7. การตอบเพิ่มเติม
  8. การตอบบนกระดาน (ไวท์บอร์ด)
  9. การตั้งคำถามโดยใช้ไม้ไอศกรีม
  10. การใช้คำถามแบบเจาะลึกความเข้าใจ

การให้ข้อมูลย้อนกลับที่พัฒนาการเรียนรู้

  • Feed – up ทบทวนสาระสำคัญแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้กระตุ้นแรงจูงใจภายในสร้างความเชื่อมั่น
  • Checking for understanding สังเกตพฤติกรรมชักถามผู้เรียนรายบุตคลให้ความช่วยเหลืออธิบายเพิ่มเติม
  • Power questions ตั้งคำถามกระตุ้นการติด ใช้คำถามหลากหลาย ใช้เหดนิดกระตุ้นให้หาคำตอบ ชื่นชมคำตอบทุกคำตอบ
  • Feedback สรุปสาระสำคัญร่วมกันชื่นชมในความพยายามสะท้อนจุดที่/จุดต้องพัฒนาแนะแนวทางการพัฒนา
  • Feed – forward ให้ผู้เรียนแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ให้กำลังใจขี้ประเด็นที่ควรค้นคว้าเพิ่มใช้พลังคำถาม
เทคนิคการให้ข้อมูลย้อนกลับ

การขับเคลื่อนและการนิเทศ กำกับ ติดตาม ฯ การเรียนการสอนประวัติศาสตร์

  1. สร้างความเข้าใจ ศึกษาหลักการ รูปแบบ วิธีการขับเคลื่อนการจัดการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ : หลักสูตร การจัดการเรียนรู้
  2. การใช้สื่อ แหล่งเรียนรู้ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
    • วิเคราะห์ เชื่อมโยง และวางแผนการนำไปใช้จัดการเรียนการสอน 2 รายวิชาประวัติศาสตร์ บูรณาการหน้าที่พลเมืองและกิจกรรมต่าง ๆ
    • ใช้สื่อ แหล่งเรียนรู้ท้องถิ่นและแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์
  3. ร่วมคิด พาทำ ออกแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยวิธีการทางประวัติศาสตร์ บูรณาการหน้าที่พลเมือง ต่อยอด Active Learning และนำสู่การเรียนรู้ในห้องเรียนและนอกเรียน
  4. นิเทศ ติดตาม ช่วยเหลือ สนับสนุนการจัดการเรียนรู้ การใช้สื่อ แหล่งเรียนรู้ การวัดและประเมินผลหลากหลาย ร่วมกับเครือข่ายหนุนเสริม
    • สรุปและประเมินผล แลกเปลี่ยนเรียนรู้ Best Practice/นวัตกรรม

แนวทางการดำเนินงานนิเทศเพื่อบูรณาการแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น/ประวัติศาสตร์กับหลักสูตรสถานศึกษา

  1. วางแผนร่วมกับผู้บริหารสถานศึกษา ครู และเครือข่ายฯ สำรวจ ศึกษาวิเคราะห์แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น/แหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ (ในเขตพื้นที่/ใกล้โรงเรียน)
  2. ร่วมวิเคราะห์ และบูรณาการตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้สาระต่าง ๆ กับแหล่งเรียนรู้ฯ เชื่อมโยงการออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้บูรณาการเป็นห้องเรียนรวมวิชา
  3. ส่งเสริม
    • ให้ครูจัดกิจกรรมให้นักเรียนได้ศึกษา ณ แหล่งเรียนรู้บูรณาการวิธีการทางประวัติศาสตร์
    • การใช้สื่อและการวัดประเมินผลการเรียนรู้ต่อยอด Active Learning
    • สะท้อนผลการเรียนรู้ การคิดโดยใช้ประเด็นคำถาม
  4. ประเมินผล พัฒนา ปรับปรุงการจัดการเรียนรู้ร่วมกับครูและสถานศึกษา
  5. นิเทศ ติดตาม ช่วยเหลือการจัดการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ที่ยั่งยืนโดยสร้างความร่วมมือกับเครือข่ายฯ
    .

เอกสารประกอบการเสวนา

ที่มา: การประชุมสื่อสารสร้างความเข้าใจการบริหารจัดการโครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ และ 1 รายวิชาพื้นฐานประวัติศาสตร์ ของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน เริ่มนาที ที่ 50.00

Comments

comments

Powered by Facebook Comments

ติดต่อ ดร.อนุศร หงษ์ขุนทด
error: Content is protected !!