การแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์ และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู
ที่ ศธ 0206.3/456 สำนักงาน ก.ค.ศ. สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ 14 มีนาคม 2566
เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์ และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา และตำแหน่งศึกษานิเทศก์
เรียน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เลขาธิการ ศึกษาธิการจังหวัด และผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
อ้างถึง
1. หนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.3/ว 9 ลงวันที่ 20 พฤษภาคม 2564
2. หนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.3/ว 10 ลงวันที่ 20 พฤษภาคม 2564
3. หนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.3/ว 11 ลงวันที่ 20 พฤษภาคม 2564
สิ่งที่ส่งมาด้วย
1. หลักเกณฑ์ และวิธีการประเมินตำแหน่ง และวิทยฐานะข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาตำแหน่งครู แก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะฯ ตามหนังสือ สำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.3/ว 9 ลงวันที่ 20 พฤษภาคม 2564
2. หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่ง และวิทยฐานะข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา แก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะฯ ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.3/ว 10 ลงวันที่ 20 พฤษภาคม 2564 3. หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่ง และวิทยฐานะข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาตำแหน่งศึกษานิเทศก์ แก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์ และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะฯ ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.3/ว 11 ลงวันที่ 20 พฤษภาคม 2564
ตามหนังสือที่อ้างถึง 1 – 3 สำนักงาน ก.ค.ศ. ได้แจ้งหลักเกณฑ์ และวิธีการประเมินตำแหน่ง และวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา และตำแหน่งศึกษานิเทศก์ ให้ส่วนราชการ และหน่วยงานการศึกษาทราบ และถือปฏิบัติ โดยในหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ดังกล่าวกำหนดให้ กศจ. มีบทบาทและหน้าที่ในการพิจารณาเกี่ยวกับการประเมินดังกล่าว
ซึ่งต่อมาพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 19/2560 เรื่อง การปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาค ของกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ 3 เมษายน พุทธศักราช 2560 พ.ศ. 2565 กำหนดให้
- อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา และ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ทำหน้าที่เกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลสำหรับข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา
- และพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2565 กำหนดให้
- กรณีที่ผู้ขออนุญาตได้ยื่นคำขออนุญาต หรือติดต่อกับผู้อนุญาต หรือหน่วยงานของรัฐโดยใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์แล้ว
- การติดต่อ หรือออกเอกสารหลักฐานใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผู้นั้น ให้ทำโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ เว้นแต่ผู้นั้นจะได้ระบุไว้เป็นประการอื่นในการยื่นคำขออนุญาต หรือในการติดต่อ นั้น
ก.ค.ศ. พิจารณาแล้วเห็นว่า
- เพื่อให้การดำเนินการประเมินตามหลักเกณฑ์ และวิธีการประเมิน ตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตามหนังสือที่อ้างถึง 1 – 3 ของ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาเป็นไปอย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับบริบทที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน
- จึงมีมติแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์ และวิธีการประเมินตำแหน่ง และวิทยฐานะข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา
- ตำแหน่งครู
- ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา
- และตำแหน่งศึกษานิเทศก์ ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 1 – 3
สิ่งที่ส่งมาด้วย 1
หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู
แก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะฯ
ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.3/ว 9 ลงวันที่ 20 พฤษภาคม 2564
(ส่งพร้อมหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.3/456 ลงวันที่ 14 มีนาคม 2566)
โดยที่ มาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 19/2560 เรื่อง การปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ 3 เมษายน พุทธศักราช 2560 พ.ศ. 2565 กำหนดให้มี อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา และ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสำหรับแต่ละเขตพื้นที่การศึกษา แล้วแต่กรณี ดังนั้น เพื่อให้การประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู ตามหลักกณฑ์ และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.3/ว 9 ลงวันที่ 20 พฤษภาคม 2564 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับบริบทและสภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปของกระทรวงศึกษาธิการในปัจจุบัน
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 19 (4) มาตรา 54 และมาตรา 55 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 ก.ค.ศ. จึงแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ.ที่ ศธ 0206.3/ว 9 ลงวันที่ 20 พฤษภาคม 2564 ดังนี้
1. เพิ่มเติมหมวด 1 นิยาม
“สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หมายความว่า สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา และ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา หมายความว่า อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา และอ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา”
2. ให้แก้ไขคำว่า “กศจ.” เป็น “อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา” ทุกแห่ง
3. ให้แก้ไขคำว่า “สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด” ในหมวด 3 วิธีการ ข้อ 5 และ ข้อ 6 เป็น “สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา”
4. ให้แก้ไขข้อความในหมวด 3 วิธีการ ข้อ 3 เป็นดังนี้
“3. กรณีผู้ขอสังกัด
-
- สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
- สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ
- สถาบันพัฒนาครูคณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา
- สถานศึกษาที่ขึ้นตรงต่อสำนักงาน กศน.
- หรือสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
ให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สำนักงานปลัดกระรวศึกษาธิการ สำนักงาน กศน. หรือสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา แล้วแต่กรณี ตรวจสอบและรับรองคุณสมบัติ รวมทั้งหลักฐานของผู้ขอตามที่กำหนดไว้ในวิธีการข้อ 1.1 – ข้อ 1.4 จากระบบ DPA
สำหรับกรณีผู้ขอสังกัด
ศูนย์การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอ/เขตสำนักงาน กศน. ให้สำนักงาน กศน. จังหวัด/กรุงเทพมหานคร ส่งผ่านข้อมูลไปยังสำนักงาน กศน. เพื่อตรวจสอบ และรับรองคุณสมบัติ รวมทั้งหลักฐานของผู้ขอตามที่กำหนดไว้ในวิธีการ ข้อ 1.1 – ข้อ 1.4 จากระบบ DPA”
5. ให้แก้ไขข้อความในหมวด ๆ วิธีการ ข้อ 8 เป็นดังนี้
” 8. การพิจารณาดำเนินการของ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา หรือ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้งให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา หรือ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้ง แล้วแต่กรณี พิจารณาผลการประเมินของกรรมการทั้ง 3 คน และมีมติอนุมัติหรือไม่อนุมัติ แล้วให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สำนักงาน กศน.จังหวัดกรุงเทพมหานคร หรือส่วนราชการ แล้วแต่กรณี แจ้งมติผ่านระบบ DPA ให้สถานศึกษา เพื่อแจ้งให้ผู้ขอรับทราบ”
6. ให้แก้ไขข้อความในหมวด 4 วิธีการ ข้อ 3 เป็นดังนี้
“3. กรณีผู้ขอสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สถาบันพัฒนาครูคณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา สถานศึกษาที่ขึ้นตรงต่อสำนักงาน กศน. หรือสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงาน กศน. หรือสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา แล้วแต่กรณี ตรวจสอบและรับรองคุณสมบัติ รวมทั้งหลักฐานของผู้ขอตามที่กำหนดไว้ในวิธีการข้อ 1.1 – ข้อ 1.4 จากระบบ DPA
สำหรับกรณีผู้ขอสังกัดศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอ/เขต สำนักงาน กศน. ให้สำนักงาน กศน. จังหวัด/กรุงเทพมหานคร ส่งผ่านข้อมูลไปยังสำนักงาน กศน. เพื่อตรวจสอบ และรับรองคุณสมบัติ รวมทั้งหลักฐานของผู้ขอตามที่กำหนดไว้ในวิธีการ ข้อ 1.1 – ข้อ 1.4 จากระบบ DPA
กรณีตรวจสอบแล้วปรากฏว่า ผู้ขอมีคุณสมบัติและส่งหลักฐานครบถ้วน
-
- ให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สำนักงาน กศน. สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ หรือสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เสนอ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา หรือ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้ง แล้วแต่กรณีพิจารณาให้ความเห็นชอบคุณสมบัติ ก่อนส่งผ่านข้อมูลคำขอพร้อมทั้งหลักฐานตามที่กำหนดดังกล่าวในระบบ DPA ไปยังสำนักงาน ก.ค.ศ.
แต่หากตรวจสอบแล้วปรากฏว่า ผู้ขอไม่มีคุณสมบัติ หรือข้อมูลคำขอและหลักฐานตามที่กำหนดไว้ในวิธีการ ข้อ 1.1 – ข้อ 1.4 ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน ให้ส่งเรื่องคืนพร้อมเหตุผลผ่านระบบ DPA ไปยังสถานศึกษาโดยเร็ว เพื่อแจ้งให้ผู้ขอทราบ”
7. ให้แก้ไขข้อความในหมวด 4 วิธีการ ข้อ 6.2 เป็นดังนี้
“6.2 กรณีคณะกรรมการประเมินด้านที่ 1 และด้านที่ 2 แล้ว มีผลการประเมินผ่านเกณฑ์แต่ด้านที่ 3 เห็นควรให้ปรับปรุงผลงานทางวิชาการ โดยมีผลการประเมินจากคณะกรรมการ ไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 คนผ่านเกณฑ์ ทั้งนี้
-
- ผลงานทางวิชาการต้องอยู่ในวิสัยที่สามารถปรับปรุงได้
- ซึ่งต้องไม่เป็นการแก้ไขข้อมูลที่กระทบต่อความถูกต้องตามหลักวิชาการ
- และ ก.ค.ศ. มีมติเห็นชอบให้ปรับปรุง โดยให้ปรับปรุงตามข้อสังเกตของกรรมการได้ภายใน 6 เดือน นับแต่วันที่สำนักงาน ก.ค.ศ. แจ้งมติผ่านระบบ DPA
- ให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สำนักงาน กศน. สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ หรือสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา แล้วแต่กรณี ทราบ”
เมื่อผู้ขอปรับปรุงผลงานทางวิชาการครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว
-
- ให้ส่งผลงานทางวิชาการในรูปแบบไฟล์ PDF จำนวน 1 ชุด ผ่านระบบ DPA ตามที่กำหนดไว้ในวิธีการ ข้อ 2 ไปยังสำนักงาน ก.ค.ศ. เพื่อส่งผลงานทางวิชาการให้คณะกรรมการคนเดิมที่ให้ปรับปรุงผลงานทางวิชาการตรวจและประเมินต่อไป
กรณีที่กรรมการประเมินคนเดิมไม่สามารถประเมินได้ด้วยเหตุผลใดก็ตาม ให้สำนักงาน ก.ค.ศ. เสนอ ก.ค.ศ. เห็นชอบให้สำนักงาน ก.ค.ศ. แต่งตั้งกรรมการคนอื่นแทนได้ โดยให้ดำเนินการผ่านระบบ DPA ตามที่ ก.ค.ศ. กำหนดให้คณะกรรมการประเมินส่งข้อมูลผลการประเมิน ตามแบบที่ ก.ค.ศ. กำหนด เข้าสู่ระบบ DPAให้สำนักงาน ก.ค.ศ. เพื่อนำเสนอ ก.ค.ศ. พิจารณา”
8. ให้แก้ไขข้อความในหมวด 4 วิธีการ ข้อ 7 วรรคแรก เป็นดังนี้
“7. การพิจารณาดำเนินการของ ก.ค.ศ. ให้สำนักงาน ก.ค.ศ. นำผลการประเมินจากกรรมการทั้ง 3 คน เสนอ ก.ค.ศ. พิจารณามีมติอนุมัติหรือไม่อนุมัติ แล้วให้สำนักงาน ก.ค.ศ. แจ้งมติผ่านระบบ DPA ไปยังหน่วยงาน หน่วยงานการศึกษา หรือส่วนราชการต้นสังกัด เพื่อแจ้งผู้ขอรับทราบ”
ที่มา