Site icon Digital Learning Classroom

เมื่อศึกษานิเทศก์ต้อง…เขียนแผนการนิเทศ

แชร์เรื่องนี้

เมื่อศึกษานิเทศก์ต้อง…เขียนแผนการนิเทศ

ความสำคัญของการเขียนแผนนิเทศ

จากที่ผมได้ทำงานก้านการนิเทศการศึกษามาพอสมควร สิ่งที่ค้นพบคือ แผนนิเทศเปรียบเสมือนแผนที่นำทางในการทำงานของเราเลยครับ เพราะงานนิเทศเป็นงานที่ละเอียดอ่อน ต้องทำงานกับคนหลายฝ่าย ทั้งผู้บริหาร ครู และผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ

ลองคิดดูนะครับ ถ้า…เราไม่มีแผนนิเทศจะเป็นอย่างไร? สมมุติว่า…

วันนี้ถ้าเราจะไปนิเทศโรงเรียน A พรุ่งนี้ไปโรงเรียน B แต่ไม่มีจุดเน้นที่ชัดเจน ไม่รู้ว่าจะพัฒนาครูด้านไหน อย่างไร ทำให้การนิเทศขาดทิศทาง และที่สำคัญครูอาจจะสับสนว่าเราต้องการให้พัฒนาอะไร?

แต่…ถ้าเรามีแผนนิเทศที่ชัดเจน เช่น ปีนี้เราเน้นพัฒนาครูด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก เราก็จะรู้ว่า…..

1. ต้องเตรียมเครื่องมือนิเทศอะไรบ้าง
2. จะพัฒนาครูด้วยวิธีไหน เช่น อบรม coaching หรือ PLC
3. จะวัดผลอย่างไร มีตัวชี้วัดอะไรบ้าง

ที่สำคัญ เวลาเราไปนิเทศโรงเรียน เราจะมีความมั่นใจมากขึ้น เพราะเรามีแผนรองรับ มีเครื่องมือพร้อม และรู้ว่าจะพูดคุยกับครูในประเด็นไหน

ผมเคยเจอปัญหาตอนที่ไม่มีแผนนิเทศที่ชัดเจน คือ

– บางทีไปนิเทศซ้ำซ้อนกับเพื่อนศึกษานิเทศก์คนอื่น
– ไม่สามารถติดตามความก้าวหน้าของครูได้
– ขาดข้อมูลในการรายงานผล
– ทำงานไม่ทันตามเวลาที่กำหนด

แต่พอมี….แผนนิเทศที่ชัดเจน ก็เหมือนมีเข็มทิศนำทาง ทำให้…

– การทำงานเป็นระบบมากขึ้น
– ประสานงานกับเพื่อนร่วมงานได้ง่าย
– ติดตามผลได้ชัดเจน
– มีข้อมูลในการพัฒนาต่อยอด

อีกอย่างที่สำคัญคือ… เวลาผู้บริหารถามถึงผลการพัฒนาครู เราสามารถตอบได้ชัดเจน มีข้อมูลสนับสนุน และสามารถแสดงให้เห็นพัฒนาการของครูได้อย่างเป็นรูปธรรม

และที่น่าภูมิใจมากๆ คือ….

เมื่อครูได้รับการนิเทศอย่างเป็นระบบ เขาจะรู้สึกว่าได้รับการดูแล ช่วยเหลือจริงๆ ไม่ใช่แค่มานั่งดูการสอนแล้วก็กลับ แต่เป็นการพัฒนาที่ต่อเนื่องและเห็นผล

สุดท้ายนี้ ผมอยากฝากว่า การเขียนแผนนิเทศไม่ใช่เรื่องยาก แค่เราต้อง…..

1. วิเคราะห์สภาพปัจจุบันให้ชัดเจน
2. ตั้งเป้าหมายที่เป็นไปได้
3. ออกแบบวิธีการนิเทศที่เหมาะสม
4. มีเครื่องมือนิเทศที่มีคุณภาพ
5. ติดตามประเมินผลอย่างต่อเนื่อง

เชื่อว่าถ้าเราทำงานอย่างมีแผน งานนิเทศของเราจะมีคุณภาพมากขึ้น และที่สำคัญคือครูจะได้รับการพัฒนาอย่างแท้จริงครับ”

คำจำกัดความของแผนนิเทศ

ความหมายเชิงวิชาการ

แผนนิเทศ หมายถึง เอกสารที่แสดงแนวทางการดำเนินงานอย่างเป็นระบบในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ประกอบด้วยเป้าหมาย วิธีการ และขั้นตอนการดำเนินงานที่ชัดเจน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาและปรับปรุงการจัดการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพ

ความหมายเชิงปฏิบัติการ

แผนนิเทศ คือ กรอบและทิศทางในการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่กำหนด

– วัตถุประสงค์และเป้าหมายที่ชัดเจน
– วิธีการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรม
– ระยะเวลาการดำเนินงานที่แน่นอน
– การวัดและประเมินผลที่เป็นระบบ

ความหมายเชิงบริหาร

แผนนิเทศ เปรียบเสมือนเครื่องมือในการบริหารจัดการดังนี้

– กำหนดทิศทางการพัฒนา
– จัดสรรทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
– ประสานการทำงานระหว่างผู้เกี่ยวข้อง
– ควบคุมและติดตามผลการดำเนินงาน

องค์ประกอบสำคัญของแผนนิเทศ

1. หลักการและเหตุผล

– สภาพปัจจุบัน
– ปัญหาและความต้องการ
– ความจำเป็นในการพัฒนา

2. วัตถุประสงค์และเป้าหมาย

– จุดมุ่งหมายที่ต้องการบรรลุ
– ผลลัพธ์ที่คาดหวัง
– ตัวชี้วัดความสำเร็จ

3. วิธีดำเนินการ

– ขั้นตอนการทำงาน
– กิจกรรมการนิเทศ
– ปฏิทินการนิเทศ

4. การประเมินผล

– วิธีการประเมิน
– เครื่องมือประเมิน
– เกณฑ์การประเมิน

ลักษณะของแผนนิเทศที่ดี

1. มีความชัดเจน

– เข้าใจง่าย
– ปฏิบัติได้จริง
– วัดผลได้

2. มีความยืดหยุ่น

– ปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์
– ตอบสนองความต้องการ
– รองรับการเปลี่ยนแปลง

3. มีความเป็นระบบ

– เชื่อมโยงทุกขั้นตอน
– สอดคล้องกับนโยบาย
– บูรณาการทุกภาคส่วน

4. มีความต่อเนื่อง

– พัฒนาอย่างต่อเนื่อง
– ติดตามผลเป็นระยะ
– ปรับปรุงและพัฒนา

หน้าที่ของแผนนิเทศ

1. เป็นเครื่องมือพัฒนาคุณภาพ

– พัฒนาครู
– พัฒนาการเรียนการสอน
– พัฒนาผู้เรียน

2. เป็นเครื่องมือบริหารจัดการ

– วางแผนการทำงาน
– จัดสรรทรัพยากร
– ติดตามความก้าวหน้า

3. เป็นเครื่องมือประกันคุณภาพ

– กำหนดมาตรฐาน
– ควบคุมคุณภาพ
– ประเมินผลสำเร็จ

การนำแผนนิเทศไปใช้

1. ขั้นเตรียมการ

– ศึกษาและทำความเข้าใจ
– เตรียมทรัพยากร
– ประสานผู้เกี่ยวข้อง

2. ขั้นดำเนินการ

– ปฏิบัติตามแผน
– บันทึกผลการนิเทศ
– ปรับปรุงตามสถานการณ์

3. ขั้นประเมินผล

– เก็บรวบรวมข้อมูล
– วิเคราะห์ผล
– รายงานผลการพัฒนา

ขั้นตอนการเขียนแผนการนิเทศการศึกษา

การเขียนหลักการและเหตุผล ประกอบด้วย

1. สภาพปัจจุบัน/ปัญหา

– ผลการประเมินที่ผ่านมา
– สภาพปัญหาที่พบ
– ความต้องการพัฒนา

2. นโยบายที่เกี่ยวข้อง

– นโยบาย สพฐ.
– แผนพัฒนาการศึกษา
– มาตรฐานการศึกษา

3. ความจำเป็นในการพัฒนา

– เหตุผลความจำเป็น
– ผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
– ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

ตัวอย่าง

จากผลการประเมินคุณภาพการศึกษาปี 2566 พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนยังไม่เป็นที่น่าพอใจ โดยเฉพาะด้านการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหา ซึ่งมีคะแนนต่ำกว่าระดับประเทศร้อยละ 5 สาเหตุสำคัญประการหนึ่งคือครูยังจัดการเรียนการสอนแบบเดิม ไม่เน้นการจัดการเรียนรู้เชิงรุกประกอบกับนโยบาย สพฐ. ปี 2567-2568 ได้กำหนดให้มีการพัฒนาครูด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก จึงจำเป็นต้องมีการนิเทศเพื่อพัฒนาครูอย่างเป็นระบบ…

การกำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมาย ประกอบด้วย

1. วัตถุประสงค์

– เฉพาะเจาะจง
– วัดได้
– เป็นไปได้
– มีกำหนดเวลา

2. เป้าหมาย

– เชิงปริมาณ
– เชิงคุณภาพ
– ตัวชี้วัดความสำเร็จ

ตัวอย่าง

วัตถุประสงค์

1. เพื่อพัฒนาครูให้สามารถจัดการเรียนรู้เชิงรุกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน

เป้าหมาย

เชิงปริมาณ

– ครูร้อยละ 80 สามารถจัดการเรียนรู้เชิงรุกได้
– ผลสัมฤทธิ์เพิ่มขึ้นร้อยละ 5

เชิงคุณภาพ

– ครูมีความมั่นใจในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก
– นักเรียนมีทักษะการคิดขั้นสูง

การออกแบบวิธีดำเนินการ ประกอบด้วย

1. กิจกรรมการนิเทศ

– ขั้นเตรียมการ
– ขั้นดำเนินการ
– ขั้นติดตามผล

2. ระยะเวลา

– ปฏิทินการนิเทศ
– กำหนดการชัดเจน

3. ผู้รับผิดชอบ

– ทีมนิเทศ
– ผู้เกี่ยวข้อง

ตัวอย่าง

ขั้นที่ 1: การเตรียมการ (พ.ค. 67)

– ประชุมวางแผน
– จัดทำเครื่องมือนิเทศ
– เตรียมสื่อและเอกสาร

ขั้นที่ 2: การดำเนินการ (มิ.ย.-ส.ค. 67)

– อบรมเชิงปฏิบัติการ
– นิเทศชั้นเรียน
– PLC แลกเปลี่ยนเรียนรู้

ขั้นที่ 3: การติดตามผล (ก.ย. 67)

– ประเมินผลการพัฒนา
– สรุปและรายงานผล

การกำหนดสื่อและเครื่องมือ ประกอบด้วย

1. สื่อการนิเทศ

– เอกสาร
– สื่อดิจิทัล
– คู่มือการนิเทศ

2. เครื่องมือนิเทศ

– แบบนิเทศ
– แบบประเมิน
– แบบบันทึก

ตัวอย่าง

สื่อการนิเทศ

1. คู่มือการจัดการเรียนรู้เชิงรุก
2. คลิปวิดีโอตัวอย่างการสอน
3. แพลตฟอร์มออนไลน์

เครื่องมือนิเทศ

1. แบบนิเทศการจัดการเรียนรู้
2. แบบประเมินแผนการสอน
3. แบบบันทึก PLC

การกำหนดวิธีการประเมินผล ประกอบด้วย

1. วิธีการประเมิน

– การสังเกต
– การทดสอบ
– การสัมภาษณ์

2. เครื่องมือประเมิน

– แบบประเมิน
– แบบทดสอบ
– แบบสอบถาม

3. เกณฑ์การประเมิน

– เกณฑ์เชิงปริมาณ
– เกณฑ์เชิงคุณภาพ

ตัวอย่าง

การประเมินผล

1. ประเมินสมรรถนะครู

– แบบประเมินการสอน
– เกณฑ์ผ่านร้อยละ 80

2. ประเมินผลสัมฤทธิ์

– ผลการทดสอบ
– เพิ่มขึ้นร้อยละ 5

3. ประเมินความพึงพอใจ

– แบบสอบถาม
– ระดับดีขึ้นไป

ข้อแนะนำในการเขียนแผน

1. ใช้ภาษาชัดเจน เข้าใจง่าย
2. มีความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ
3. สอดคล้องกับนโยบายและบริบท
4. เน้นการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย
5. กำหนดการวัดผลที่ชัดเจน

ขั้นตอนและตัวอย่างการเขียนแผนการนิเทศการศึกษา

การวิเคราะห์สภาพปัจจุบัน (Analysis)

ขั้นตอน

1. วิเคราะห์นโยบาย
2. ศึกษาข้อมูลพื้นฐาน
3. สำรวจความต้องการ
4. วิเคราะห์จุดเด่น-จุดพัฒนา

ตัวอย่าง

1. สภาพปัจจุบัน:

– ผลสัมฤทธิ์ O-NET ปี 2566 ต่ำกว่าระดับประเทศร้อยละ 3
– ครูร้อยละ 60 ยังไม่คุ้นเคยกับการจัดการเรียนรู้เชิงรุก
– มีการใช้เทคโนโลยีในการเรียนการสอนน้อย

2. ความต้องการ

– พัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก
– เพิ่มทักษะการใช้เทคโนโลยี
– ยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

การกำหนดเป้าหมาย (Goal Setting)

ขั้นตอน

1. กำหนดวัตถุประสงค์
2. ตั้งเป้าหมายเชิงปริมาณ
3. ตั้งเป้าหมายเชิงคุณภาพ
4. กำหนดตัวชี้วัดความสำเร็จ

ตัวอย่าง

วัตถุประสงค์

1. เพื่อพัฒนาครูด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก

เป้าหมาย

เชิงปริมาณ

– ครูร้อยละ 80 จัดการเรียนรู้เชิงรุกได้
– ผลสัมฤทธิ์เพิ่มขึ้นร้อยละ 5

เชิงคุณภาพ

– ครูมีสมรรถนะด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก
– นักเรียนมีทักษะการคิดขั้นสูง

การวางแผนดำเนินการ (Planning)

ขั้นตอน

1. กำหนดกิจกรรม
2. จัดทำปฏิทิน
3. กำหนดผู้รับผิดชอบ
4. จัดสรรทรัพยากร

 ตัวอย่าง

กิจกรรมที่ 1: การอบรมเชิงปฏิบัติการ  

ระยะเวลา: มิถุนายน 2567

กิจกรรมย่อย

1. Workshop Active Learning
2. ฝึกออกแบบแผนการสอน
3. สาธิตการสอน

ผู้รับผิดชอบ: ทีมนิเทศ A

งบประมาณ: 50,000 บาท

กิจกรรมที่ 2: การนิเทศชั้นเรียน

ระยะเวลา: กรกฎาคม-สิงหาคม 2567

กิจกรรมย่อย

1. สังเกตการสอน
2. Coaching รายบุคคล
3. PLC แลกเปลี่ยนเรียนรู้

ผู้รับผิดชอบ: ทีมนิเทศ B

งบประมาณ: 30,000 บาท

การกำหนดวิธีการนิเทศ (Methodology)

ขั้นตอน

1. เลือกรูปแบบการนิเทศ
2. กำหนดเทคนิคการนิเทศ
3. เตรียมเครื่องมือนิเทศ
4. วางแผนการประเมินผล

 ตัวอย่าง

รูปแบบการนิเทศ: SPEED UP Model

เทคนิคการนิเทศ

1. การนิเทศแบบชี้แนะ (Coaching)

– สังเกตการสอน
– ให้คำแนะนำ
– ติดตามผล

2. การนิเทศแบบออนไลน์

– ประชุมออนไลน์
– คลินิกให้คำปรึกษา
– แลกเปลี่ยนเรียนรู้

เครื่องมือนิเทศ

1. แบบนิเทศการจัดการเรียนรู้
2. แบบประเมินแผนการสอน
3. แบบบันทึก PLC

การกำหนดสิ่งสนับสนุน (Support)

ขั้นตอน

1. จัดเตรียมทรัพยากร
2. เตรียมสื่อและเอกสาร
3. วางระบบสนับสนุน
4. ประสานความร่วมมือ

ตัวอย่าง

ทรัพยากรที่ต้องใช้

1. ระบบนิเทศออนไลน์
2. คู่มือการนิเทศ
3. คลังสื่อดิจิทัล
4. แพลตฟอร์ม PLC

เครือข่ายความร่วมมือ

1. ศึกษานิเทศก์
2. ผู้บริหารโรงเรียน
3. ครูแกนนำ
4. ผู้เชี่ยวชาญภายนอก

การประเมินผล (Evaluation)

ขั้นตอน

1. กำหนดวิธีการประเมิน
2. สร้างเครื่องมือประเมิน
3. เก็บรวบรวมข้อมูล
4. วิเคราะห์และรายงานผล

ตัวอย่าง

การประเมินผล

1. ประเมินก่อน-หลังการพัฒนา
2. ประเมินระหว่างดำเนินการ
3. ประเมินความพึงพอใจ
4. ประเมินผลสัมฤทธิ์

การรายงานผล

1. รายงานรายเดือน
2. รายงานรายภาคเรียน
3. รายงานประจำปี

เทคนิคการเขียนแผนให้มีคุณภาพ

1. เขียนให้ชัดเจน เป็นรูปธรรม
2. สอดคล้องกับนโยบายและบริบท
3. มีความเป็นไปได้ในการปฏิบัติ
4. เน้นการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย
5. มีการติดตามประเมินผลที่ชัดเจน

ข้อควรคำนึง

1. ยึดหลักการนิเทศแบบกัลยาณมิตร
2. คำนึงถึงความแตกต่างของแต่ละโรงเรียน
3. มุ่งเน้นการพัฒนาที่ยั่งยืน
4. บูรณาการเทคโนโลยีอย่างเหมาะสม
5. สร้างเครือข่ายการพัฒนา

ตัวอย่างการออกแบบเครื่องมือนิเทศการศึกษาและเกณฑ์การประเมิน

แบบนิเทศการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)

 ส่วนที่ 1: ข้อมูลทั่วไป

ชื่อครูผู้สอน: _______________________
วิชา: _________________ ชั้น: _______
เรื่องที่สอน: _______________________
วันที่นิเทศ: ________________________

ส่วนที่ 2: การประเมินการจัดการเรียนรู้
 

เกณฑ์การให้คะแนน

4 = ดีมาก (ปฏิบัติได้ครบถ้วน มีประสิทธิภาพสูง)
3 = ดี (ปฏิบัติได้ครบถ้วน มีประสิทธิภาพ)
2 = พอใช้ (ปฏิบัติได้บางส่วน ต้องปรับปรุง)
1 = ปรับปรุง (ปฏิบัติได้น้อย ต้องพัฒนา)

รายการประเมิน

1. การเตรียมการสอน

[ ] มีแผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้น Active Learning
[ ] กำหนดจุดประสงค์การเรียนรู้ชัดเจน
[ ] เตรียมสื่อและอุปกรณ์การเรียนรู้ครบถ้วน
[ ] ออกแบบกิจกรรมที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ

2. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้

[ ] จัดกิจกรรมที่กระตุ้นการคิดและลงมือปฏิบัติ
[ ] ใช้คำถามกระตุ้นการคิดขั้นสูง
[ ] เปิดโอกาสให้ผู้เรียนแสดงความคิดเห็น
[ ] จัดกิจกรรมกลุ่มที่ส่งเสริมการเรียนรู้ร่วมกัน

3. การใช้สื่อและเทคโนโลยี

[ ] ใช้สื่อที่หลากหลายและเหมาะสม
[ ] บูรณาการเทคโนโลยีในการจัดการเรียนรู้
[ ] สื่อสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้
[ ] ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการใช้สื่อ

4. การวัดและประเมินผล

[ ] ใช้วิธีการประเมินที่หลากหลาย
[ ] ประเมินตามสภาพจริง
[ ] ให้ข้อมูลย้อนกลับที่เป็นประโยชน์
[ ] นำผลการประเมินมาพัฒนาผู้เรียน

 เกณฑ์การประเมินรวม

52-64 คะแนน = ดีมาก
39-51 คะแนน = ดี
26-38 คะแนน = พอใช้
16-25 คะแนน = ปรับปรุง

2. แบบประเมินแผนการจัดการเรียนรู้

รายการประเมิน

1. องค์ประกอบของแผน (20 คะแนน)

มาตรฐาน/ตัวชี้วัด (5 คะแนน)
จุดประสงค์การเรียนรู้ (5 คะแนน)
สาระสำคัญ/สาระการเรียนรู้ (5 คะแนน)
การวัดและประเมินผล (5 คะแนน)

2. กิจกรรมการเรียนรู้ (40 คะแนน)

ขั้นนำ (10 คะแนน)
ขั้นสอน (20 คะแนน)
ขั้นสรุป (10 คะแนน)

3. สื่อและแหล่งเรียนรู้ (20 คะแนน)

ความเหมาะสม (10 คะแนน)
ความหลากหลาย (10 คะแนน)

4. การวัดและประเมินผล (20 คะแนน)

เครื่องมือวัด (10 คะแนน)
เกณฑ์การประเมิน (10 คะแนน)

 เกณฑ์การประเมิน

80-100 คะแนน = ดีมาก
70-79 คะแนน = ดี
60-69 คะแนน = พอใช้
ต่ำกว่า 60 คะแนน = ปรับปรุง

 แบบบันทึก PLC

ส่วนที่ 1: ข้อมูลการประชุม

วันที่: ___________________________
ครั้งที่: _________________________
สมาชิกผู้เข้าร่วม: _________________
ประเด็นที่พัฒนา: _________________

ส่วนที่ 2: บันทึกการแลกเปลี่ยนเรียนรู้

1. สภาพปัญหา/ความต้องการพัฒนา
2. แนวทางการแก้ปัญหา/พัฒนา
3. การนำไปใช้และผลที่เกิดขึ้น
4. การสะท้อนผลและแนวทางพัฒนาต่อ

 เกณฑ์การประเมิน PLC

การมีส่วนร่วม (10 คะแนน)
คุณภาพการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (10 คะแนน)
การนำไปใช้จริง (10 คะแนน)
ผลที่เกิดกับผู้เรียน (10 คะแนน)

แบบประเมินนวัตกรรมการสอน

ส่วนที่ 1: ข้อมูลนวัตกรรม

ชื่อนวัตกรรม: ______________________
ผู้พัฒนา: _________________________
กลุ่มสาระ: ________________________
ระดับชั้น: ________________________

ส่วนที่ 2: เกณฑ์การประเมิน

1. ความเป็นนวัตกรรม (20 คะแนน)

– ความใหม่ (10 คะแนน)
– ความแตกต่าง (10 คะแนน)

2. คุณภาพนวัตกรรม (30 คะแนน)

– วัตถุประสงค์ชัดเจน (10 คะแนน)
– กระบวนการพัฒนาเป็นระบบ (10 คะแนน)
– การใช้งานมีประสิทธิภาพ (10 คะแนน)

3. ประโยชน์และผลกระทบ (30 คะแนน)

– ประโยชน์ต่อผู้เรียน (15 คะแนน)
– การนำไปใช้ได้จริง (15 คะแนน)

4. การเผยแพร่ (20 คะแนน)

– วิธีการเผยแพร่ (10 คะแนน)
– การยอมรับ (10 คะแนน)

เกณฑ์การประเมินรวม

– 80-100 คะแนน = ดีเยี่ยม
– 70-79 คะแนน = ดีมาก
– 60-69 คะแนน = ดี
– ต่ำกว่า 60 คะแนน = พอใช้

แบบติดตามการพัฒนาวิชาชีพ

ส่วนที่ 1: ข้อมูลการพัฒนา

ชื่อครู: ___________________________
เรื่องที่พัฒนา: _____________________
ระยะเวลา: ________________________

ส่วนที่ 2: การติดตามความก้าวหน้า

1. การวางแผนพัฒนา (20 คะแนน)
2. การดำเนินการพัฒนา (30 คะแนน)
3. ผลการพัฒนา (30 คะแนน)
4. การนำไปใช้ต่อยอด (20 คะแนน)

เกณฑ์การประเมิน

– 80-100 = ดีเยี่ยม
– 70-79 = ดีมาก
– 60-69 = ดี
– ต่ำกว่า 60 = พอใช้

การนำเครื่องมือไปใช้

1. ใช้แบบนิเทศครบทุกด้าน
2. บันทึกผลอย่างสม่ำเสมอ
3. วิเคราะห์ผลเพื่อพัฒนา
4. ให้ข้อมูลย้อนกลับทันที
5. ติดตามผลการพัฒนาต่อเนื่อง

การรายงานผล

1. รายงานรายครั้ง
2. รายงานรายเดือน
3. รายงานรายภาคเรียน
4. รายงานประจำปี

ดาว์นโหลด

https://tinyurl.com/4k8azn6s

Comments

comments

Powered by Facebook Comments

Exit mobile version