Site icon Digital Learning Classroom

ตัวอย่างการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ด้วย TIP Model

แชร์เรื่องนี้

แผนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ด้วย TIP Model

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง: การสำรวจระบบสุริยะ

รายวิชา: วิทยาศาสตร์
ระดับชั้น: ประถมศึกษาปีที่ 6
หน่วยการเรียนรู้: ระบบสุริยะของเรา
เรื่อง: การสำรวจระบบสุริยะ
เวลา: 3 ชั่วโมง

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด

2. จุดประสงค์การเรียนรู้

3. สาระสำคัญ

ระบบสุริยะประกอบด้วยดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลาง และมีดาวเคราะห์ 8 ดวง รวมทั้งดาวเคราะห์แคระ ดาวเคราะห์น้อย ดาวหาง โคจรรอบดวงอาทิตย์ ดาวเคราะห์แต่ละดวงมีลักษณะ ขนาด ระยะห่างจากดวงอาทิตย์ และคุณสมบัติที่แตกต่างกัน การศึกษาระบบสุริยะช่วยให้เข้าใจปรากฏการณ์ธรรมชาติและจักรวาลที่เราอาศัยอยู่

4. กิจกรรมการเรียนรู้

ชั่วโมงที่ 1: การสำรวจระบบสุริยะผ่านเทคโนโลยี

ขั้นนำ: สร้างความสนใจ (Engagement) – 15 นาที

  1. ครูเปิดคลิปวิดีโอแอนิเมชัน “การกำเนิดระบบสุริยะ” จาก OBEC Content Center
  2. ครูใช้คำถามกระตุ้นความคิด:
    • “ถ้านักเรียนจะเดินทางไปเยี่ยมชมดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง นักเรียนอยากไปดวงใดมากที่สุด เพราะอะไร?”
    • “นักเรียนคิดว่าดาวเคราะห์แต่ละดวงมีลักษณะที่แตกต่างกันอย่างไร?”
  3. ครูแนะนำวัตถุประสงค์การเรียนรู้และกิจกรรมที่จะทำในคาบเรียนนี้

ขั้นสำรวจ: สืบค้นและรวบรวมข้อมูล (Exploration) – 25 นาที

  1. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน
  2. ครูสาธิตการใช้แอปพลิเคชัน Solar System Scope บนจอโปรเจคเตอร์
  3. นักเรียนแต่ละกลุ่มใช้แท็บเล็ตหรือคอมพิวเตอร์เพื่อสำรวจระบบสุริยะผ่านแอปพลิเคชัน โดยแต่ละกลุ่มได้รับมอบหมายให้ศึกษาดาวเคราะห์ดวงที่แตกต่างกัน
  4. นักเรียนบันทึกข้อมูลลงในใบกิจกรรม “สำรวจดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ” โดยระบุ:
    • ชื่อดาวเคราะห์
    • ลำดับจากดวงอาทิตย์
    • ขนาดเปรียบเทียบกับโลก
    • ระยะเวลาในการโคจรรอบดวงอาทิตย์
    • ลักษณะพิเศษที่น่าสนใจ
    • ภาพดาวเคราะห์ที่สำรวจพบ

ขั้นอธิบาย: วิเคราะห์และสรุปผล (Explanation) – 20 นาที

  1. นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอข้อมูลดาวเคราะห์ที่ตนศึกษา โดยใช้แอปพลิเคชันประกอบการนำเสนอ
  2. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเปรียบเทียบความเหมือนและความแตกต่างของดาวเคราะห์แต่ละดวง
  3. ครูเสริมความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดกลุ่มดาวเคราะห์ (ดาวเคราะห์หิน และดาวเคราะห์แก๊ส)

ชั่วโมงที่ 2: การสร้างแบบจำลองระบบสุริยะ

ขั้นขยายความรู้: ประยุกต์ใช้ความรู้ (Elaboration) – 50 นาที

  1. ครูทบทวนความรู้เกี่ยวกับระบบสุริยะจากชั่วโมงที่แล้ว
  2. นักเรียนแต่ละกลุ่มสร้างแบบจำลองระบบสุริยะโดยใช้ Google Earth และ Solar System Scope ประกอบการออกแบบ
  3. นักเรียนจัดทำแบบจำลองทางกายภาพของระบบสุริยะ โดยใช้วัสดุต่างๆ ที่ครูเตรียมให้
  4. นักเรียนคำนวณขนาดและระยะห่างของดาวเคราะห์ในแบบจำลองโดยใช้มาตราส่วนที่เหมาะสม
  5. นักเรียนตกแต่งแบบจำลองให้มีรายละเอียดตามข้อมูลที่ได้ศึกษาจากแอปพลิเคชัน

ชั่วโมงที่ 3: การนำเสนอและประเมินผล

ขั้นประเมินผล: นำเสนอและสะท้อนคิด (Evaluation) – 50 นาที

  1. นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอแบบจำลองระบบสุริยะที่สร้างขึ้น
  2. นักเรียนอธิบายลักษณะเด่นของดาวเคราะห์แต่ละดวงและความสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะ
  3. นักเรียนกลุ่มอื่นและครูร่วมกันให้ข้อเสนอแนะและประเมินผลงาน
  4. นักเรียนทำแบบทดสอบความรู้เรื่องระบบสุริยะผ่านแอปพลิเคชัน Kahoot
  5. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้ทั้งหมด
  6. นักเรียนสะท้อนการเรียนรู้ของตนเองผ่าน Exit Ticket ในรูปแบบดิจิทัล

5. สื่อและแหล่งการเรียนรู้

  1. คลิปวิดีโอแอนิเมชัน “การกำเนิดระบบสุริยะ” จาก OBEC Content Center
  2. แอปพลิเคชัน Solar System Scope
  3. แอปพลิเคชัน Google Earth
  4. แท็บเล็ตหรือคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
  5. วัสดุสำหรับสร้างแบบจำลอง (โฟม ลูกปิงปอง กระดาษสี สีเทียน ฯลฯ)
  6. ใบกิจกรรม “สำรวจดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ”
  7. แอปพลิเคชัน Kahoot สำหรับการทดสอบความรู้

6. การวัดและประเมินผล

  1. การประเมินด้านความรู้ (K):
    • แบบทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน Kahoot (20 คะแนน)
    • การนำเสนอข้อมูลดาวเคราะห์ (10 คะแนน)
  2. การประเมินด้านทักษะกระบวนการ (P):
    • การใช้แอปพลิเคชันในการสืบค้นข้อมูล (10 คะแนน)
    • การสร้างแบบจำลองระบบสุริยะ (20 คะแนน)
  3. การประเมินด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A):
    • การมีส่วนร่วมในกิจกรรมกลุ่ม (5 คะแนน)
    • ความสนใจใฝ่รู้และการสะท้อนคิด (5 คะแนน)

7. บันทึกหลังการสอน

ผลการจัดการเรียนรู้: …………………………….. ปัญหาและอุปสรรค: …………………………….. แนวทางแก้ไขและพัฒนา:……………………………..

สรุปและการประยุกต์ใช้โมเดล TIP ในการออกแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก

จากตัวอย่างแผนการจัดการเรียนรู้ เราสามารถเห็นแนวทางการนำโมเดล TIP (Technology Integration Planning) มาบูรณาการกับกระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุกตามรูปแบบ 5E (Engagement, Exploration, Explanation, Elaboration, Evaluation) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมีองค์ประกอบสำคัญดังนี้

1. การวางแผนอย่างเป็นระบบ

โมเดล TIP ช่วยให้ครูวางแผนการบูรณาการเทคโนโลยีในการสอนอย่างเป็นระบบ โดยคำนึงถึงปัจจัยสำคัญ ได้แก่ ความรู้ด้านเนื้อหา วิธีการสอน และเทคโนโลยี (TPCK) รวมถึงการพิจารณาความได้เปรียบของการใช้เทคโนโลยี การกำหนดวัตถุประสงค์ และการออกแบบกลยุทธ์การบูรณาการที่เหมาะสม

2. การใช้เทคโนโลยีที่หลากหลายและเหมาะสม

แต่ละแผนการเรียนรู้ใช้เทคโนโลยีที่หลากหลายและเหมาะสมกับเนื้อหา ได้แก่:

3. การส่งเสริมการเรียนรู้เชิงรุก

แผนการสอนเน้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้อย่างกระตือรือร้น ได้สำรวจ สืบค้น วิเคราะห์ และสร้างสรรค์ผลงานด้วยตนเอง โดยมีเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือสนับสนุน ส่งผลให้นักเรียนเกิดทักษะการคิดขั้นสูงและสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ได้จริง

4. การประเมินผลที่หลากหลาย

แผนการสอน มีการประเมินผลที่หลากหลายวิธี ทั้งการประเมินด้านความรู้ ทักษะกระบวนการ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยใช้เทคโนโลยีช่วยในการประเมิน เช่น Kahoot, Quizizz, Google Forms และ Padlet ทำให้การประเมินผลมีประสิทธิภาพและสามารถให้ข้อมูลย้อนกลับแก่ผู้เรียนได้อย่างรวดเร็ว

5. การปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

โมเดล TIP เน้นการประเมินและปรับปรุงการใช้เทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยให้ครูสามารถพัฒนาการสอนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยการบันทึกหลังการสอนและวางแผนการปรับปรุงในครั้งต่อไป

ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมในการนำโมเดล TIP ไปใช้

  1. เริ่มต้นจากทรัพยากรที่มีอยู่: เลือกใช้เทคโนโลยีที่โรงเรียนมีอยู่ก่อน เพื่อให้สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง ก่อนที่จะขยายไปสู่เทคโนโลยีใหม่ๆ
  2. เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ: เลือกเทคโนโลยีที่จะใช้ในการสอนอย่างพิถีพิถัน โดยพิจารณาว่าเทคโนโลยีนั้นจะช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ได้อย่างไร ไม่จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีหลายประเภทในคราวเดียว
  3. ฝึกอบรมและพัฒนาครู: จัดอบรมให้ครูมีความรู้และทักษะในการใช้เทคโนโลยีที่จะนำมาใช้ในการสอน เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  4. สร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้: ส่งเสริมให้ครูแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวปฏิบัติที่ดีในการบูรณาการเทคโนโลยีในการสอน
  5. ติดตามและประเมินผลอย่างต่อเนื่อง: มีระบบการติดตามและประเมินผลการใช้เทคโนโลยีในการสอน เพื่อนำข้อมูลมาปรับปรุงและพัฒนาการสอนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

โมเดล TIP เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการช่วยให้ครูวางแผนและออกแบบการจัดการเรียนรู้ที่บูรณาการเทคโนโลยีอย่างเป็นระบบ ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนได้เรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความสุขในการเรียน สามารถพัฒนาทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 และนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริงได้

Comments

comments

Powered by Facebook Comments

Exit mobile version