ตัวอย่างการใช้ AI สั่ง Prompt เขียนแผนการจัดการเรียนรู้เชิงรุกแบบ 7E เรื่องการวิเคราะห์กราฟความเร็วกับเวลา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
Prompt คำสั่ง
ท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเขียนแผนการจัดการเรียรู้เชิงรุก ผมตจ้องการเขียนแผนการสอนเชิงรุกแบบ 7e หน่วยที่ 1: การวิเคราะห์การเคลื่อนที่แนวตรง เรื่องการวิเคราะห์กราฟความเร็วกับเวลา โดยเน้นให้เกิดทักษะตามแบบ VASK หลักการด้านการศึกษาสมัยใหม่ พร้อมกับการวัดและประเมิน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 วิชาวิทยาศาสตร์กายภาพ
ผลการเขียนแผนจะได้
แผนการจัดการเรียนรู้เชิงรุกแบบ 7E เรื่องการวิเคราะห์กราฟความเร็วกับเวลา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
แผนการสอนนี้ได้เน้นการพัฒนาทักษะตามแบบ VASK (Values, Attitude, Skills และ Knowledge) โดยครอบคลุมทั้ง 4 ด้าน:
- Values (ค่านิยม) – เน้นให้นักเรียนเห็นคุณค่าของการใช้กราฟในการอธิบายปรากฏการณ์ทางฟิสิกส์ มีความซื่อสัตย์ในการบันทึกข้อมูลและมีความรับผิดชอบในการทำงานกลุ่ม
- Attitude (เจตคติ) – ส่งเสริมให้นักเรียนมีความสนใจและกระตือรือร้นในการเรียนรู้ มีเจตคติที่ดีต่อการใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์ และมีความมุ่งมั่นในการแก้ปัญหา
- Skills (ทักษะ) – พัฒนาทักษะการวิเคราะห์และแปลความหมายข้อมูลจากกราฟ การคำนวณความเร่งและการกระจัด และการใช้เทคโนโลยีในการเก็บข้อมูล
- Knowledge (ความรู้) – เน้นให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างความเร็วและเวลา ความหมายของความชันและพื้นที่ใต้กราฟ และลักษณะของกราฟในการเคลื่อนที่ลักษณะต่างๆ
กิจกรรมการเรียนรู้ได้ออกแบบตามขั้นตอนของ 7E ได้แก่:
- ตรวจสอบความรู้เดิม (Elicitation)
- สร้างความสนใจ (Engagement)
- สำรวจและค้นหา (Exploration)
- อธิบาย (Explanation)
- ขยายความรู้ (Elaboration)
- ประเมินผล (Evaluation)
- นำความรู้ไปใช้ (Extension)
การวัดและประเมินผลได้ครอบคลุมทั้ง 4 ด้านตาม VASK โดยใช้เครื่องมือที่หลากหลาย เช่น แบบทดสอบ การประเมินการปฏิบัติ การสังเกตพฤติกรรม และการสะท้อนคิด
ได้แผนการสอนดังนี้ครับ
Prompt คำสั่ง
ช่วยเขียนบันทึกหลังการสอนตาม 8 ตัวชี้วัด ว9/2564 ชั้นม5/1 จำนวน 28 คน ชาย 10 คน หญิง 18 คน
บันทึกหลังการสอนนี้ได้ครอบคลุมการประเมินตนเองตามตัวชี้วัดทั้ง 8 ด้าน ได้แก่
- ด้านการจัดการเรียนรู้ที่สร้างโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมอย่างเชิงรุก – แสดงให้เห็นว่านักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมอย่างกระตือรือร้น โดยเฉพาะในกิจกรรม “การเคลื่อนที่ตามกราฟ” และกิจกรรมกลุ่ม
- ด้านการส่งเสริมกระบวนการคิดขั้นสูง – นักเรียนได้ฝึกวิเคราะห์กราฟ คำนวณความเร่งและการกระจัด และสร้างสถานการณ์ที่สอดคล้องกับกราฟ
- ด้านการส่งเสริมการสร้างสื่อและเทคโนโลยีในการเรียนรู้ – มีการใช้สื่อที่หลากหลาย เช่น PowerPoint, PhET Simulation และแอปพลิเคชันวัดความเร็ว
- ด้านการจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ – จัดห้องเรียนแบบกลุ่ม สร้างบรรยากาศที่ปลอดภัยทางความคิด
- ด้านการใช้คำถามที่กระตุ้นความคิด – ใช้คำถามหลากหลายระดับเพื่อกระตุ้นการคิดวิเคราะห์
- ด้านการส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความมั่นใจ – ให้ข้อมูลย้อนกลับเชิงบวก ส่งเสริมให้นักเรียนที่ไม่ค่อยกล้าแสดงออกมีส่วนร่วมมากขึ้น
- ด้านการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ – บูรณาการความรู้จากฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ
- ด้านการใช้การวิจัยเชิงปฏิบัติการ – นำผลจากการวิจัยมาพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ที่ตรงกับปัญหาของนักเรียน
ในแต่ละด้านได้ระบุจุดเด่น จุดที่ควรพัฒนา และแนวทางการพัฒนาไว้อย่างชัดเจน พร้อมทั้งสรุปประเด็นสำคัญและแนวทางการพัฒนาในภาพรวม เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนรู้ครั้งต่อไป
บันทึกหลังสอนนี้สามารถนำไปใช้เป็นหลักฐานในการประเมินวิทยฐานะตามหลักเกณฑ์ ว9/2564 ได้ครับ
ตัวอย่างการบันทึกหลังการสอน
ตามตัวชี้วัดการประเมินเพื่อขอมีและเลื่อนวิทยฐานะ (ว9/2564)
ข้อมูลทั่วไป
- รายวิชา: วิทยาศาสตร์กายภาพ
- ระดับชั้น: มัธยมศึกษาปีที่ 5/1
- จำนวนนักเรียน: 28 คน (ชาย 10 คน, หญิง 18 คน)
- หน่วยการเรียนรู้: การวิเคราะห์การเคลื่อนที่แนวตรง
- เรื่อง: การวิเคราะห์กราฟความเร็วกับเวลา
- วันที่สอน: …………………………….
- ภาคเรียนที่: ……………… ปีการศึกษา: ………………..
การประเมินตนเองตามตัวชี้วัด 8 ตัวชี้วัด ตาม ว9/2564
1. ด้านการจัดการเรียนรู้ที่สร้างโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมอย่างเชิงรุก (Active Learning)
ผลการจัดการเรียนรู้: การจัดการเรียนรู้ในคาบนี้เน้นการมีส่วนร่วมของผู้เรียนอย่างเชิงรุกตลอดคาบเรียน โดยเริ่มต้นจากการกระตุ้นความคิดเกี่ยวกับการเดินทางจากบ้านมาโรงเรียน ซึ่งนักเรียนส่วนใหญ่ให้ความสนใจและร่วมแสดงความคิดเห็นอย่างกระตือรือร้น กิจกรรม “การเคลื่อนที่ตามกราฟ” เปิดโอกาสให้นักเรียนได้สังเกต วิเคราะห์ และลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง โดยมีนักเรียน 3 คน (นายสมชาย, นางสาวสมหญิง, และนายสมนึก) อาสาออกมาเคลื่อนที่ตามกราฟที่กำหนดให้ ซึ่งสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่สนุกสนานและน่าสนใจ
กิจกรรมกลุ่ม “วิเคราะห์สถานการณ์จากกราฟ” ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้แบบร่วมมือ โดยนักเรียนทั้ง 28 คนถูกแบ่งเป็น 6 กลุ่ม ทุกกลุ่มมีส่วนร่วมในการวิเคราะห์กราฟและสร้างสถานการณ์จากกราฟอย่างกระตือรือร้น สังเกตได้ว่านักเรียนที่มักไม่ค่อยกล้าแสดงออกในการเรียนแบบปกติ เช่น นางสาวมะลิ และนายอาทิตย์ มีความกระตือรือร้นในการแสดงความคิดเห็นภายในกลุ่มมากขึ้น
จุดเด่น:
- นักเรียนร้อยละ 92.85 (26 คน) มีส่วนร่วมในกิจกรรมกลุ่มอย่างกระตือรือร้น
- มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและอภิปรายภายในกลุ่มอย่างกว้างขวาง
- นักเรียนสามารถเชื่อมโยงความรู้ทางทฤษฎีกับสถานการณ์ในชีวิตประจำวันได้ดี
จุดที่ควรพัฒนา:
- นักเรียน 2 คน (นายภูมิ และนางสาวกุลธิดา) ยังไม่ค่อยมีส่วนร่วมในกิจกรรมกลุ่ม ควรหาวิธีกระตุ้นให้นักเรียนทั้งสองมีส่วนร่วมมากขึ้น
- การบริหารเวลาในขั้นตอนการนำเสนอผลงานกลุ่มยังไม่เหมาะสม ทำให้กลุ่มสุดท้ายมีเวลานำเสนอน้อย
แนวทางการพัฒนา:
- ในคาบต่อไป จะใช้เทคนิคการมอบหมายบทบาทที่ชัดเจนให้กับสมาชิกในกลุ่ม โดยเฉพาะนักเรียนที่ยังไม่ค่อยมีส่วนร่วม
- ปรับปรุงการบริหารเวลาโดยกำหนดเวลาในการนำเสนอของแต่ละกลุ่มให้ชัดเจนและควบคุมเวลาอย่างเคร่งครัด
2. ด้านการส่งเสริมกระบวนการคิดขั้นสูง (Higher-Order Thinking)
ผลการจัดการเรียนรู้: การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในคาบนี้เน้นการพัฒนาทักษะการคิดขั้นสูงของนักเรียนผ่านการวิเคราะห์กราฟความเร็วกับเวลา โดยนักเรียนได้ฝึกทักษะการวิเคราะห์ การประยุกต์ใช้ และการสร้างสรรค์ ในกิจกรรม “วิเคราะห์สถานการณ์จากกราฟ” นักเรียนต้องวิเคราะห์ลักษณะการเคลื่อนที่จากกราฟ คำนวณหาความเร่งและการกระจัด และสร้างสถานการณ์ที่สอดคล้องกับกราฟ ซึ่งเป็นการส่งเสริมการคิดเชิงวิเคราะห์และสร้างสรรค์
จากการสังเกต พบว่ากลุ่มที่ 2 และกลุ่มที่ 5 สามารถวิเคราะห์กราฟได้อย่างละเอียดและสร้างสถานการณ์ที่น่าสนใจ โดยเฉพาะกลุ่มที่ 5 ที่สร้างสถานการณ์เกี่ยวกับการขับรถผ่านเมืองที่มีการจราจรติดขัดได้อย่างสมเหตุสมผลและสอดคล้องกับกราฟอย่างชัดเจน ส่วนกลุ่มที่ 3 มีความคิดสร้างสรรค์ในการนำเสนอสถานการณ์การแข่งขันจักรยานที่เชื่อมโยงกับชีวิตจริงได้ดี
จุดเด่น:
- นักเรียนร้อยละ 85.71 (24 คน) สามารถวิเคราะห์ความชันของกราฟเพื่อหาความเร่งได้อย่างถูกต้อง
- นักเรียนสามารถเชื่อมโยงพื้นที่ใต้กราฟกับการกระจัดได้ดี
- มีการประยุกต์ใช้ความรู้ในการสร้างสถานการณ์ที่หลากหลายและสมเหตุสมผล
จุดที่ควรพัฒนา:
- นักเรียนบางคน (4 คน) ยังมีความสับสนในการคำนวณพื้นที่ใต้กราฟที่มีความซับซ้อน โดยเฉพาะในกรณีที่กราฟมีทั้งส่วนที่อยู่เหนือและใต้แกน x
- กลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่ 6 ยังไม่สามารถวิเคราะห์ความเร่งในช่วงที่กราฟเป็นเส้นโค้งได้อย่างถูกต้อง
แนวทางการพัฒนา:
- เพิ่มตัวอย่างการคำนวณพื้นที่ใต้กราฟที่มีความซับซ้อนในคาบถัดไป
- จัดทำใบความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการวิเคราะห์ความเร่งในกรณีที่กราฟเป็นเส้นโค้ง
- มอบหมายแบบฝึกหัดเพิ่มเติมสำหรับนักเรียนที่ยังมีความเข้าใจไม่ชัดเจน
3. ด้านการส่งเสริมการสร้างสื่อและเทคโนโลยีในการเรียนรู้อย่างเหมาะสม
ผลการจัดการเรียนรู้: ในการจัดการเรียนรู้ครั้งนี้ ได้มีการใช้สื่อและเทคโนโลยีที่หลากหลายเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียน อาทิ การใช้สื่อนำเสนอ PowerPoint ที่มีภาพเคลื่อนไหวแสดงการเปลี่ยนแปลงของกราฟความเร็วกับเวลาในลักษณะต่างๆ การใช้แอปพลิเคชัน PhET Simulation ในการจำลองการเคลื่อนที่และแสดงกราฟความเร็วกับเวลาแบบ real-time ซึ่งช่วยให้นักเรียนเห็นภาพและเข้าใจความสัมพันธ์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
นักเรียนให้ความสนใจกับการใช้แอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนในการวัดความเร็วของการเคลื่อนที่ในช่วงกิจกรรม “การเคลื่อนที่ตามกราฟ” ทำให้นักเรียนสามารถเห็นข้อมูลจริงและเปรียบเทียบกับกราฟทางทฤษฎีได้ ส่งผลให้นักเรียนเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างการเคลื่อนที่จริงกับการแสดงผลบนกราฟได้ดีขึ้น
จุดเด่น:
- การใช้สื่อนำเสนอที่มีภาพเคลื่อนไหวช่วยให้นักเรียนเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของกราฟได้ดี
- แอปพลิเคชัน PhET Simulation ช่วยให้นักเรียนเห็นความสัมพันธ์ระหว่างการเคลื่อนที่กับกราฟได้ชัดเจน
- การใช้แอปพลิเคชันวัดความเร็วบนสมาร์ทโฟนช่วยเชื่อมโยงทฤษฎีกับปฏิบัติได้ดี
จุดที่ควรพัฒนา:
- การฉายภาพจากโปรเจคเตอร์ยังไม่ชัดเจนเท่าที่ควร เนื่องจากแสงในห้องเรียนค่อนข้างสว่าง
- การใช้แอปพลิเคชันวัดความเร็วบนสมาร์ทโฟนในบางกลุ่มประสบปัญหาด้านเทคนิค ทำให้เสียเวลาในการตั้งค่า
แนวทางการพัฒนา:
- ปรับปรุงสภาพแสงในห้องเรียนให้เหมาะสมกับการใช้โปรเจคเตอร์
- จัดเตรียมคู่มือการใช้แอปพลิเคชันอย่างละเอียดและทดสอบอุปกรณ์ให้พร้อมก่อนเริ่มคาบเรียน
- พัฒนาสื่อดิจิทัลที่นักเรียนสามารถเข้าถึงได้ด้วยตนเองนอกเวลาเรียน เพื่อทบทวนและฝึกฝนเพิ่มเติม
4. ด้านการจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้
ผลการจัดการเรียนรู้: การจัดสภาพแวดล้อมในคาบเรียนนี้ได้มีการจัดโต๊ะเรียนแบบกลุ่ม ทำให้เอื้อต่อการทำงานร่วมกันและการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น บรรยากาศในห้องเรียนเป็นไปด้วยความผ่อนคลายและเป็นกันเอง มีการตกแต่งห้องเรียนด้วยป้ายนิเทศแสดงความรู้เกี่ยวกับการเคลื่อนที่แนวตรงและกราฟลักษณะต่างๆ ซึ่งช่วยกระตุ้นความสนใจของนักเรียน
พื้นที่ด้านหน้าห้องเรียนมีพื้นที่ว่างเพียงพอสำหรับกิจกรรม “การเคลื่อนที่ตามกราฟ” ซึ่งทำให้นักเรียนทั้งชั้นสามารถสังเกตการณ์ได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ ได้มีการสร้างบรรยากาศที่ปลอดภัยทางความคิด โดยเปิดโอกาสให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นและแม้จะตอบไม่ถูกต้องก็ไม่มีการตำหนิ แต่ใช้วิธีการชี้แนะให้คิดต่อยอด
จุดเด่น:
- การจัดโต๊ะเรียนแบบกลุ่มช่วยส่งเสริมการทำงานร่วมกันและการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
- บรรยากาศในห้องเรียนเป็นไปด้วยความผ่อนคลายและเป็นกันเอง ทำให้นักเรียนกล้าแสดงความคิดเห็น
- การมีพื้นที่ว่างเพียงพอสำหรับกิจกรรมการเคลื่อนที่ช่วยให้การสาธิตมีประสิทธิภาพ
จุดที่ควรพัฒนา:
- เสียงจากห้องเรียนข้างเคียงค่อนข้างดัง รบกวนสมาธิในบางช่วงของการเรียน
- พื้นที่สำหรับแต่ละกลุ่มค่อนข้างจำกัด ทำให้การทำกิจกรรมกลุ่มอาจไม่สะดวกเท่าที่ควร
แนวทางการพัฒนา:
- ประสานงานกับครูห้องข้างเคียงเพื่อหาแนวทางลดเสียงรบกวน
- ปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดโต๊ะเรียนให้แต่ละกลุ่มมีพื้นที่ทำงานมากขึ้น หรือพิจารณาใช้พื้นที่อื่นๆ เช่น ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ที่มีพื้นที่กว้างกว่า
- จัดทำป้ายนิเทศหรือสื่อความรู้เพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับบทเรียนให้มากขึ้น
5. ด้านการใช้คำถามหรือกิจกรรมที่กระตุ้นความคิดและท้าทายความสามารถของผู้เรียน
ผลการจัดการเรียนรู้: ในการจัดการเรียนรู้ครั้งนี้ ได้มีการใช้คำถามที่หลากหลายเพื่อกระตุ้นความคิดของนักเรียน โดยเฉพาะคำถามที่ส่งเสริมการคิดวิเคราะห์และการประยุกต์ใช้ เช่น “จากกราฟนี้ เราจะรู้ได้อย่างไรว่าวัตถุมีความเร่งเป็นบวกหรือลบ?” “พื้นที่ใต้กราฟบอกอะไรเราได้บ้าง?” และ “ถ้ากราฟเป็นเส้นตรงขนานกับแกนเวลา แสดงว่าวัตถุเคลื่อนที่อย่างไร?”
นอกจากนี้ ยังมีการตั้งคำถามท้าทายเพิ่มเติมสำหรับนักเรียนที่มีความสามารถสูง เช่น “ถ้ากราฟความเร็วกับเวลาเป็นพาราโบลา ความเร่งของวัตถุเป็นอย่างไร?” และ “จากกราฟความเร็วกับเวลา เราสามารถหากราฟตำแหน่งกับเวลาได้อย่างไร?” ซึ่งกระตุ้นให้นักเรียนคิดต่อยอดและเชื่อมโยงความรู้ในระดับที่สูงขึ้น
กิจกรรม “วิเคราะห์สถานการณ์จากกราฟ” เป็นกิจกรรมที่ท้าทายความสามารถของนักเรียน เนื่องจากแต่ละกลุ่มได้รับกราฟที่มีความซับซ้อนแตกต่างกันไป โดยกลุ่มที่มีความพร้อมสูงจะได้รับกราฟที่มีความซับซ้อนมากกว่า
จุดเด่น:
- การใช้คำถามที่หลากหลายระดับช่วยกระตุ้นความคิดของนักเรียนได้ดี
- การใช้คำถามแบบต่อยอดช่วยให้นักเรียนเชื่อมโยงความรู้เดิมกับความรู้ใหม่ได้
- กิจกรรมที่มีความท้าทายเหมาะสมกับระดับความสามารถของนักเรียนแต่ละกลุ่ม
จุดที่ควรพัฒนา:
- นักเรียนบางคนยังไม่กล้าตอบคำถามที่ต้องใช้การคิดวิเคราะห์ในระดับสูง
- คำถามบางข้อค่อนข้างซับซ้อนเกินไปสำหรับนักเรียนบางกลุ่ม ทำให้ไม่ได้รับการตอบสนอง
แนวทางการพัฒนา:
- ปรับระดับความยากง่ายของคำถามให้เหมาะสมกับนักเรียนแต่ละคนมากขึ้น
- ใช้เทคนิคการถามที่เปิดโอกาสให้นักเรียนได้คิดและตอบมากขึ้น เช่น การให้เวลาคิด (Wait Time) หรือการใช้กิจกรรม Think-Pair-Share
- พัฒนาแบบฝึกหัดที่มีคำถามหลากหลายระดับเพื่อให้นักเรียนได้ฝึกคิดและวิเคราะห์ด้วยตนเอง
6. ด้านการส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความมั่นใจในการพัฒนาตนเองและการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
ผลการจัดการเรียนรู้: ในคาบเรียนนี้ ได้มีการส่งเสริมให้นักเรียนมีความมั่นใจในการพัฒนาตนเองผ่านการให้ข้อมูลย้อนกลับเชิงบวกและการเสริมแรงอย่างสม่ำเสมอ เมื่อนักเรียนแสดงความคิดเห็นหรือตอบคำถาม จะได้รับคำชมเชยหรือการยอมรับในความพยายาม แม้คำตอบจะไม่ถูกต้องทั้งหมด
การจัดกิจกรรมกลุ่มที่เปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงความคิดเห็นและมีส่วนร่วมอย่างทั่วถึง ช่วยให้นักเรียนที่ไม่ค่อยกล้าแสดงออก เช่น นางสาวกมลชนก และนายพิชัย เริ่มมีความมั่นใจและกล้าแสดงความคิดเห็นมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงการนำเสนอผลงานกลุ่ม
นอกจากนี้ ยังมีการแนะนำแหล่งเรียนรู้เพิ่มเติม เช่น เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และหนังสืออ้างอิง ที่นักเรียนสามารถศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองนอกเวลาเรียน เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
จุดเด่น:
- การให้ข้อมูลย้อนกลับเชิงบวกและการเสริมแรงช่วยเพิ่มความมั่นใจให้นักเรียน
- นักเรียนที่ไม่ค่อยกล้าแสดงออกเริ่มมีส่วนร่วมในกิจกรรมมากขึ้น
- การแนะนำแหล่งเรียนรู้เพิ่มเติมช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยตนเองนอกห้องเรียน
จุดที่ควรพัฒนา:
- นักเรียนบางคนยังขาดความมั่นใจในการนำเสนอหน้าชั้นเรียน
- ข้อมูลย้อนกลับในบางครั้งยังไม่ละเอียดพอที่จะช่วยให้นักเรียนเข้าใจข้อผิดพลาดและวิธีการปรับปรุง
แนวทางการพัฒนา:
- จัดกิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับนักเรียน เช่น การฝึกพูดหน้าชั้นเรียนในกลุ่มย่อยก่อนนำเสนอต่อทั้งชั้น
- พัฒนารูปแบบการให้ข้อมูลย้อนกลับที่ละเอียดและเฉพาะเจาะจงมากขึ้น
- สร้างบรรยากาศที่ปลอดภัยและสนับสนุนให้นักเรียนกล้าแสดงความคิดเห็นและทดลองสิ่งใหม่ๆ
7. ด้านการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ
ผลการจัดการเรียนรู้: การจัดการเรียนรู้ในคาบนี้ได้มีการบูรณาการความรู้จากหลากหลายศาสตร์ ได้แก่ ฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยนักเรียนได้นำความรู้ทางคณิตศาสตร์เรื่องการหาความชันและพื้นที่ใต้กราฟมาใช้ในการวิเคราะห์กราฟความเร็วกับเวลา ซึ่งเป็นเนื้อหาในวิชาฟิสิกส์ และใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ผล
นอกจากนี้ ในกิจกรรม “วิเคราะห์สถานการณ์จากกราฟ” นักเรียนได้สร้างสถานการณ์ที่เชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันและสาขาวิชาอื่นๆ เช่น กลุ่มที่ 3 ได้สร้างสถานการณ์เกี่ยวกับการแข่งขันจักรยานซึ่งเชื่อมโยงกับวิชาพลศึกษา กลุ่มที่ 4 ได้สร้างสถานการณ์เกี่ยวกับการเดินทางไปทัศนศึกษาซึ่งเชื่อมโยงกับวิชาสังคมศึกษา และกลุ่มที่ 5 ได้สร้างสถานการณ์เกี่ยวกับการขับรถผ่านเมืองซึ่งเชื่อมโยงกับวิชาภูมิศาสตร์
จุดเด่น:
- การบูรณาการความรู้จากหลากหลายศาสตร์ช่วยให้นักเรียนเห็นความเชื่อมโยงของเนื้อหา
- นักเรียนสามารถประยุกต์ใช้ความรู้และทักษะจากหลายวิชาในการแก้ปัญหา
- การเชื่อมโยงเนื้อหากับสถานการณ์ในชีวิตประจำวันช่วยให้การเรียนรู้มีความหมายมากขึ้น
จุดที่ควรพัฒนา:
- การบูรณาการกับบางศาสตร์ยังไม่ลึกซึ้งเท่าที่ควร โดยเฉพาะการเชื่อมโยงกับวิชาสังคมศึกษาและภูมิศาสตร์
- นักเรียนบางคนยังไม่เห็นความสำคัญของการบูรณาการ และมุ่งเน้นเฉพาะเนื้อหาทางฟิสิกส์
แนวทางการพัฒนา:
- ออกแบบกิจกรรมที่เน้นการบูรณาการอย่างชัดเจนมากขึ้น โดยอาจมีการประสานงานกับครูในรายวิชาอื่นๆ
- จัดทำโครงงานบูรณาการที่เชื่อมโยงความรู้จากหลายวิชาในการแก้ปัญหาหรือสร้างชิ้นงาน
- สร้างความตระหนักให้นักเรียนเห็นความสำคัญของการบูรณาการความรู้จากหลายศาสตร์
8. ด้านการใช้การวิจัยเชิงปฏิบัติการในชั้นเรียนเพื่อพัฒนาการเรียนรู้
ผลการจัดการเรียนรู้: การจัดการเรียนรู้ในคาบนี้ได้นำผลจากการวิจัยเชิงปฏิบัติการในชั้นเรียนเรื่อง “การพัฒนาความสามารถในการวิเคราะห์กราฟความเร็วกับเวลาโดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกแบบ 7E” มาประยุกต์ใช้ โดยเฉพาะในประเด็นที่พบว่านักเรียนมักมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างความชันของกราฟกับความเร่ง และระหว่างพื้นที่ใต้กราฟกับการกระจัด
จากการสังเกตและประเมินผลระหว่างเรียน พบว่ากิจกรรม “การเคลื่อนที่ตามกราฟ” ที่ได้พัฒนาขึ้นจากผลการวิจัยช่วยให้นักเรียนเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างกราฟกับการเคลื่อนที่จริงได้ดีขึ้น โดยเฉพาะนักเรียนที่เป็นผู้เรียนแบบ Visual และ Kinesthetic มีความเข้าใจที่ชัดเจนมากขึ้น
นอกจากนี้ ได้มีการเก็บข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประสิทธิภาพของกิจกรรม “วิเคราะห์สถานการณ์จากกราฟ” ผ่านการสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียน การตรวจผลงาน และการสัมภาษณ์นักเรียนหลังเรียน เพื่อนำไปพัฒนาและปรับปรุงการจัดการเรียนรู้ในวงจรต่อไป
จุดเด่น:
- การนำผลการวิจัยมาประยุกต์ใช้ในการออกแบบกิจกรรมช่วยแก้ปัญหาความเข้าใจคลาดเคลื่อนของนักเรียนได้
- กิจกรรม “การเคลื่อนที่ตามกราฟ” ที่พัฒนาจากงานวิจัยช่วยให้นักเรียนเข้าใจเนื้อหาได้ดีขึ้น
- การเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบช่วยให้มีข้อมูลเพียงพอสำหรับการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ในครั้งต่อไป
จุดที่ควรพัฒนา:
- การเก็บข้อมูลยังไม่ครอบคลุมนักเรียนทุกคน โดยเฉพาะนักเรียนที่ไม่ค่อยแสดงออก
- เครื่องมือในการเก็บข้อมูลบางอย่าง เช่น แบบสังเกตพฤติกรรม ยังไม่ละเอียดเพียงพอ
แนวทางการพัฒนา:
- พัฒนาเครื่องมือในการเก็บข้อมูลให้มีความละเอียดและครอบคลุมมากขึ้น
- เพิ่มการเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพ เช่น การสัมภาษณ์เชิงลึกกับนักเรียนที่มีความเข้าใจคลาดเคลื่อน
- นำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์อย่างเป็นระบบและวางแผนพัฒนาการจัดการเรียนรู้ในวงจรต่อไป
สรุปประเด็นสำคัญและแนวทางการพัฒนาในภาพรวม
ประเด็นสำคัญที่พบจากการจัดการเรียนรู้:
- นักเรียนส่วนใหญ่มีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุกเป็นอย่างดี
- กิจกรรม “การเคลื่อนที่ตามกราฟ” และ “วิเคราะห์สถานการณ์จากกราฟ” ช่วยพัฒนาทักษะการคิดขั้นสูงของนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การใช้สื่อและเทคโนโลยีที่หลากหลายช่วยส่งเสริมความเข้าใจของนักเรียน
- การบูรณาการความรู้จากหลากหลายศาสตร์ช่วยให้นักเรียนเห็นความเชื่อมโยงและสามารถประยุกต์ใช้ความรู้ได้
- นักเรียนบางคนยังมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับการวิเคราะห์กราฟที่มีความซับซ้อน
แนวทางการพัฒนาในภาพรวม:
- พัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของนักเรียนทุกคน โดยเฉพาะนักเรียนที่ยังไม่ค่อยกล้าแสดงออก
- สร้างแบบฝึกทักษะเพิ่มเติมที่มีระดับความยากง่ายหลากหลาย เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกวิเคราะห์กราฟที่มีความซับซ้อนมากขึ้น
- พัฒนาสื่อการเรียนการสอนดิจิทัลที่นักเรียนสามารถเข้าถึงได้นอกเวลาเรียน
- จัดกิจกรรมบูรณาการร่วมกับรายวิชาอื่นๆ เพื่อเชื่อมโยงความรู้และทักษะ
- ดำเนินการวิจัยเชิงปฏิบัติการในชั้นเรียนอย่างต่อเนื่อง เพื่อแก้ปัญหาและพัฒนาการจัดการเรียนรู้
การนำไปประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนรู้ครั้งต่อไป:
- ปรับปรุงแผนการจัดการเรียนรู้ในหัวข้อถัดไปเรื่อง “ความสัมพันธ์ระหว่างกราฟความเร็วกับเวลาและกราฟตำแหน่งกับเวลา” โดยเพิ่มกิจกรรมที่เน้นการมีส่วนร่วมและการคิดวิเคราะห์
- พัฒนาใบความรู้และแบบฝึกหัดเพิ่มเติมสำหรับนักเรียนที่ยังมีความเข้าใจคลาดเคลื่อน
- ประสานงานกับครูในรายวิชาคณิตศาสตร์เพื่อบูรณาการการเรียนรู้เรื่องการวิเคราะห์กราฟ
- จัดกิจกรรมเสริมนอกเวลาเรียนสำหรับนักเรียนที่ต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม
- พัฒนาเครื่องมือวัดและประเมินผลที่มีความละเอียดและหลากหลายมากขึ้น
ลงชื่อ……………………………………………………..
(………………………………………………………)
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ…………………………………
Prompt คำสั่ง
ช่วยเขียนสลิปการสอนเพื่อถ่ายคลิปวิดีโอการสอนใน60 นาที ตามเกณฑ์ วิทยฐานะ ว9/2564
ตัวอย่างการจัดทำสคริปต์การสอนเพื่อใช้ในการถ่ายคลิปวิดีโอการสอน 60 นาที ตามเกณฑ์วิทยฐานะ ว9/2564
สคริปต์นี้ได้ออกแบบให้สอดคล้องกับมาตรฐานการประเมินวิทยฐานะ โดยแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) และการพัฒนาทักษะการคิดขั้นสูงของผู้เรียน
โครงสร้างของสคริปต์แบ่งเป็น 5 ช่วงหลักๆ ดังนี้:
- เกริ่นนำและตรวจสอบความรู้เดิม (8 นาที) – ทักทายนักเรียน เชื่อมโยงความรู้เดิม และสำรวจพื้นฐานความเข้าใจของนักเรียน
- สร้างความสนใจและนำเสนอเนื้อหาใหม่ (15 นาที) – ใช้กิจกรรม “การเคลื่อนที่ตามกราฟ” เพื่อดึงดูดความสนใจ และอธิบายหลักการสำคัญของการวิเคราะห์กราฟความเร็ว-เวลา
- การเรียนรู้เชิงรุกผ่านกิจกรรมกลุ่ม (20 นาที) – นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์กราฟและสร้างสถานการณ์ที่สอดคล้องกับกราฟ
- นำเสนอผลงานและอภิปราย (12 นาที) – นักเรียนนำเสนอผลงานกลุ่ม และมีการอภิปรายร่วมกัน
- ประเมินผลและสรุปบทเรียน (5 นาที) – ทบทวนความเข้าใจและสรุปหลักการสำคัญ
สคริปต์นี้ยังมีคำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับการถ่ายทำ ทั้งเรื่องมุมกล้อง การบันทึกเสียง และการแสดงความสามารถตามเกณฑ์ ว9/2564 เพื่อให้วิดีโอที่ถ่ายทำออกมามีคุณภาพและตรงตามเกณฑ์การประเมิน
สคริปต์การสอนเพื่อถ่ายคลิปวิดีโอการสอน 60 นาที ตามเกณฑ์วิทยฐานะ ว9/2564
ข้อมูลทั่วไป
- รายวิชา: วิทยาศาสตร์กายภาพ
- ระดับชั้น: มัธยมศึกษาปีที่ 5
- หน่วยการเรียนรู้: การวิเคราะห์การเคลื่อนที่แนวตรง
- เรื่อง: การวิเคราะห์กราฟความเร็วกับเวลา
- เวลา: 60 นาที
- ผู้สอน: ………………………………………
- โรงเรียน: …………………………………..
- สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา: …………………………………….
วัตถุประสงค์การเรียนรู้
เมื่อเรียนจบบทเรียนนี้แล้ว นักเรียนสามารถ:
- วิเคราะห์และแปลความหมายข้อมูลจากกราฟความเร็วกับเวลาได้
- คำนวณความเร่งจากความชันของกราฟความเร็วกับเวลาได้
- คำนวณการกระจัดจากพื้นที่ใต้กราฟความเร็วกับเวลาได้
- ประยุกต์ใช้ความรู้เกี่ยวกับกราฟความเร็วกับเวลาในการแก้ปัญหาสถานการณ์ในชีวิตประจำวันได้
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 60 นาที
ช่วงที่ 1: เกริ่นนำและตรวจสอบความรู้เดิม (8 นาที)
[00:00-00:01] กล่าวทักทายนักเรียน
- “สวัสดีครับ/ค่ะนักเรียนทุกคน วันนี้เราจะมาเรียนรู้เรื่อง ‘การวิเคราะห์กราฟความเร็วกับเวลา’ ซึ่งเป็นหัวข้อที่สำคัญในการศึกษาการเคลื่อนที่แนวตรง”
- แนะนำวัตถุประสงค์การเรียนรู้
[00:01-00:03] เชื่อมโยงความรู้เดิมกับบทเรียนใหม่
- “ก่อนที่เราจะเริ่มเรียนรู้เรื่องใหม่ ครูอยากให้นักเรียนลองนึกถึงการเดินทางจากบ้านมาโรงเรียน”
- “ในการเดินทาง นักเรียนคิดว่าความเร็วของนักเรียนเป็นอย่างไรบ้าง? มีช่วงไหนที่เร่งความเร็ว ช่วงไหนที่ชะลอความเร็ว หรือมีช่วงที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วคงที่หรือไม่?”
[00:03-00:08] สำรวจความรู้เดิมของนักเรียน
- ใช้คำถามกระตุ้นความคิด:
- “นักเรียนรู้จักกราฟความเร็วกับเวลาหรือไม่ และมีลักษณะอย่างไร?”
- “ถ้ามีรถคันหนึ่งกำลังเคลื่อนที่ นักเรียนคิดว่าเราจะรู้ได้อย่างไรว่ารถคันนี้กำลังเร่งความเร็วหรือลดความเร็ว?”
- “กราฟความเร็วกับเวลาบอกอะไรเราได้บ้าง นอกจากความเร็วของวัตถุ?”
- สุ่มเรียกนักเรียน 2-3 คนให้แสดงความคิดเห็น
- สรุปความรู้เดิมของนักเรียนและเชื่อมโยงกับเนื้อหาที่จะเรียน
ช่วงที่ 2: สร้างความสนใจและนำเสนอเนื้อหาใหม่ (15 นาที)
[00:08-00:13] สร้างความสนใจด้วยกิจกรรม “การเคลื่อนที่ตามกราฟ”
- แสดงกราฟความเร็วกับเวลาบนหน้าจอหรือกระดาน
- สาธิตการเคลื่อนที่ตามกราฟโดยเดินไปมาหน้าชั้นเรียน
- “ครูจะเดินตามกราฟนี้ ให้นักเรียนสังเกตการเคลื่อนที่ของครู”
- สาธิตการเดินช้าๆ แล้วค่อยๆ เร็วขึ้น (ความเร่งเป็นบวก)
- สาธิตการเดินด้วยความเร็วคงที่ (ความเร่งเป็นศูนย์)
- สาธิตการเดินแล้วค่อยๆ ช้าลง (ความเร่งเป็นลบ)
- เชิญนักเรียน 1-2 คนออกมาทดลองเคลื่อนที่ตามกราฟที่กำหนด
[00:13-00:23] นำเสนอเนื้อหาใหม่: การวิเคราะห์กราฟความเร็วกับเวลา
- อธิบายองค์ประกอบของกราฟความเร็วกับเวลา
- แกน x แทนเวลา (t) มีหน่วยเป็นวินาที (s)
- แกน y แทนความเร็ว (v) มีหน่วยเป็นเมตรต่อวินาที (m/s)
- อธิบายความสัมพันธ์ที่สำคัญ:
- ความชันของกราฟแสดงความเร่ง:
- ความชันบวก = ความเร่งเป็นบวก (ความเร็วเพิ่มขึ้น)
- ความชันเป็นศูนย์ = ความเร่งเป็นศูนย์ (ความเร็วคงที่)
- ความชันลบ = ความเร่งเป็นลบ (ความเร็วลดลง)
- สูตร: $a = \frac{\Delta v}{\Delta t}$
- พื้นที่ใต้กราฟแสดงการกระจัด:
- พื้นที่ใต้กราฟ = การกระจัด
- พื้นที่เหนือแกน x เป็นบวก = การกระจัดเป็นบวก (เคลื่อนที่ไปข้างหน้า)
- พื้นที่ใต้แกน x เป็นลบ = การกระจัดเป็นลบ (เคลื่อนที่ถอยหลัง)
- สูตร: $s = \int_{t_1}^{t_2} v , dt$ หรือพื้นที่ใต้กราฟ
- ความชันของกราฟแสดงความเร่ง:
ช่วงที่ 3: การเรียนรู้เชิงรุกผ่านกิจกรรมกลุ่ม (20 นาที)
[00:23-00:28] แบ่งกลุ่มและอธิบายกิจกรรม “วิเคราะห์สถานการณ์จากกราฟ”
- แบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน
- แจกใบกิจกรรมให้แต่ละกลุ่ม โดยแต่ละกลุ่มจะได้รับกราฟความเร็วกับเวลาที่แตกต่างกัน
- อธิบายขั้นตอนการทำกิจกรรม:
- วิเคราะห์กราฟที่ได้รับว่าแสดงการเคลื่อนที่ลักษณะใด
- คำนวณความเร่งในแต่ละช่วงของการเคลื่อนที่
- คำนวณการกระจัดทั้งหมดของการเคลื่อนที่
- สร้างเรื่องราวหรือสถานการณ์ในชีวิตประจำวันที่สอดคล้องกับกราฟ
[00:28-00:43] นักเรียนทำกิจกรรมกลุ่ม
- นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันวิเคราะห์กราฟและทำกิจกรรมตามที่ได้รับมอบหมาย
- ครูเดินสังเกตการทำงานกลุ่ม ให้คำแนะนำและช่วยเหลือเมื่อนักเรียนมีข้อสงสัย
- ครูตั้งคำถามกระตุ้นความคิดเพิ่มเติมกับแต่ละกลุ่ม เช่น:
- “ในช่วงนี้ของกราฟ วัตถุกำลังเคลื่อนที่อย่างไร?”
- “เราจะคำนวณการกระจัดในช่วงที่กราฟเป็นเส้นโค้งได้อย่างไร?”
- “สถานการณ์ในชีวิตจริงที่อาจมีลักษณะการเคลื่อนที่แบบนี้คืออะไร?”
ช่วงที่ 4: นำเสนอผลงานและอภิปราย (12 นาที)
[00:43-00:53] นักเรียนนำเสนอผลงาน
- ตัวแทนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลการวิเคราะห์กราฟและสถานการณ์ที่สร้างขึ้น
- ให้เวลาแต่ละกลุ่มประมาณ 2-3 นาที
- หลังการนำเสนอของแต่ละกลุ่ม ครูและเพื่อนร่วมชั้นให้ข้อเสนอแนะหรือตั้งคำถามเพิ่มเติม
[00:53-00:55] ครูสรุปและเชื่อมโยงผลงานของนักเรียน
- ชี้ให้เห็นจุดเด่นในการวิเคราะห์ของแต่ละกลุ่ม
- เชื่อมโยงสถานการณ์ต่างๆ ที่นักเรียนสร้างขึ้นกับหลักการวิเคราะห์กราฟความเร็วกับเวลา
ช่วงที่ 5: ประเมินผลและสรุปบทเรียน (5 นาที)
[00:55-00:58] ประเมินผลการเรียนรู้
- ใช้คำถามทบทวนความเข้าใจ:
- “ความชันของกราฟความเร็วกับเวลาบอกอะไรเราได้บ้าง?”
- “พื้นที่ใต้กราฟความเร็วกับเวลาแสดงถึงอะไร?”
- “ถ้ากราฟความเร็วกับเวลาเป็นเส้นตรงขนานกับแกนเวลา แสดงว่าวัตถุเคลื่อนที่อย่างไร?”
- สุ่มเรียกนักเรียน 2-3 คนให้ตอบคำถาม
[00:58-01:00] สรุปบทเรียนและเชื่อมโยงไปสู่บทเรียนถัดไป
- สรุปหลักการสำคัญในการวิเคราะห์กราฟความเร็วกับเวลา:
- ความชันของกราฟ = ความเร่ง
- พื้นที่ใต้กราฟ = การกระจัด
- เชื่อมโยงไปสู่บทเรียนถัดไป:
- “ในคาบหน้า เราจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างกราฟความเร็วกับเวลาและกราฟตำแหน่งกับเวลา ซึ่งจะช่วยให้เราเข้าใจการเคลื่อนที่ได้ละเอียดยิ่งขึ้น”
- กล่าวขอบคุณนักเรียนสำหรับการมีส่วนร่วมในชั้นเรียน
สื่อและอุปกรณ์การสอน
- โปรเจคเตอร์หรือจอแสดงผลสำหรับนำเสนอสไลด์
- สไลด์นำเสนอเกี่ยวกับการวิเคราะห์กราฟความเร็วกับเวลา
- ใบกิจกรรม “วิเคราะห์สถานการณ์จากกราฟ” สำหรับแต่ละกลุ่ม
- กระดาษกราฟหรือกระดาษบรูฟสำหรับนักเรียนทำกิจกรรมกลุ่ม
- ปากกาเมจิกหลากสี
- กระดานสำหรับสาธิตการคำนวณ
การประเมินผล
-
การประเมินระหว่างเรียน:
- สังเกตการมีส่วนร่วมในการอภิปรายและตอบคำถาม
- สังเกตการทำงานกลุ่มและการร่วมมือกันของนักเรียน
- ตรวจสอบความเข้าใจระหว่างการทำกิจกรรม
-
การประเมินผลงาน:
- ความถูกต้องในการวิเคราะห์กราฟความเร็วกับเวลา
- ความถูกต้องในการคำนวณความเร่งและการกระจัด
- ความสมเหตุสมผลของสถานการณ์ที่สร้างขึ้น
- คุณภาพของการนำเสนอ
-
การประเมินหลังเรียน:
- การตอบคำถามทบทวนท้ายบทเรียน
- การเชื่อมโยงความรู้กับสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน
หมายเหตุสำหรับการถ่ายทำ
-
มุมกล้อง:
- ควรมีกล้องอย่างน้อย 2 ตัว:
- กล้องที่ 1: จับภาพครูผู้สอนและการปฏิสัมพันธ์กับนักเรียน
- กล้องที่ 2: จับภาพนักเรียนทั้งชั้นเรียนและการทำกิจกรรมกลุ่ม
- ในช่วงที่ครูอธิบายเนื้อหาบนกระดานหรือสื่อนำเสนอ ควรมีมุมกล้องที่เห็นทั้งครูและสื่อที่ใช้
- ควรมีกล้องอย่างน้อย 2 ตัว:
-
ด้านเสียง:
- ควรติดไมโครโฟนให้ครูเพื่อให้ได้ยินเสียงชัดเจน
- ควรมีไมโครโฟนสำหรับนักเรียนเมื่อต้องตอบคำถามหรือนำเสนอ
- ควรตรวจสอบระดับเสียงรบกวนในห้องเรียนก่อนถ่ายทำ
-
การแสดงความสามารถตามเกณฑ์ ว9/2564:
- แสดงให้เห็นการจัดการชั้นเรียนที่ส่งเสริมการเรียนรู้เชิงรุก
- แสดงการใช้คำถามกระตุ้นความคิดที่หลากหลาย
- แสดงการให้ข้อมูลย้อนกลับที่เป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้ของนักเรียน
- แสดงการสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้
- แสดงการบูรณาการความรู้กับชีวิตจริงหรือสาขาวิชาอื่น
- แสดงการใช้สื่อและเทคโนโลยีอย่างเหมาะสม
-
การแสดงภาพซ้อน (อาจทำในขั้นตอนการตัดต่อ):
- ช่วงที่มีการอธิบายหลักการ อาจซ้อนภาพสูตรหรือแผนภาพประกอบ
- ช่วงกิจกรรมกลุ่ม อาจซ้อนข้อความอธิบายเป้าหมายของกิจกรรม
- ช่วงสรุป อาจซ้อนข้อความสรุปประเด็นสำคัญ
Comments
comments
Powered by Facebook Comments