Site icon Digital Learning Classroom

แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุกที่ส่งเสริมพหุปัญญาอย่างมีประสิทธิภาพ

แชร์เรื่องนี้

พหุปัญญา (Multiple Intelligence)

พหุปัญญา (Multiple Intelligence) เป็นทฤษฎีที่เสนอโดย Howard Gardner นักจิตวิทยาชาวอเมริกัน ในปี 1983 ทฤษฎีนี้เสนอว่าความฉลาดของมนุษย์ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ความสามารถทางด้านภาษาและตรรกะ-คณิตศาสตร์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงความสามารถในด้านอื่นๆ ด้วย

คำนิยามของพหุปัญญา

พหุปัญญา คือ แนวคิดที่มองว่าสติปัญญาของมนุษย์มีหลากหลายรูปแบบ โดยแต่ละคนมีความสามารถที่แตกต่างกันในแต่ละด้าน ทฤษฎีนี้เสนอว่าแต่ละคนมีความฉลาดหลายประเภท ซึ่งสามารถพัฒนาและแสดงออกได้ในระดับที่แตกต่างกัน

ตามทฤษฎีของ Gardner พหุปัญญาประกอบด้วย 8 ด้านหลัก (และภายหลังได้เพิ่มเติมอีก 1 ด้าน) ได้แก่

1. ด้านภาษา (Linguistic Intelligence)
2. ด้านตรรกะ-คณิตศาสตร์ (Logical-Mathematical Intelligence)
3. ด้านมิติสัมพันธ์ (Spatial Intelligence)
4. ด้านดนตรี (Musical Intelligence)
5. ด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว (Bodily-Kinesthetic Intelligence)
6. ด้านมนุษยสัมพันธ์ (Interpersonal Intelligence)
7. ด้านการเข้าใจตนเอง (Intrapersonal Intelligence)
8. ด้านธรรมชาติวิทยา (Naturalistic Intelligence)
9. ด้านการดำรงอยู่ของชีวิต (Existential Intelligence) – เพิ่มเติมภายหลัง

ความสำคัญในการศึกษาของทฤษฎีพหุปัญญา

1. ตระหนักถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล
2. ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนอย่างรอบด้าน
3. ช่วยให้ครูออกแบบการเรียนการสอนที่หลากหลาย ตอบสนองความสามารถที่แตกต่างของผู้เรียน
4. สนับสนุนแนวคิดว่าทุกคนมีความสามารถพิเศษในด้านใดด้านหนึ่ง

โดยสรุป พหุปัญญาเป็นแนวคิดที่มองว่าความฉลาดของมนุษย์มีหลายมิติ ไม่จำกัดอยู่เพียงด้านใดด้านหนึ่ง และแต่ละคนมีศักยภาพที่จะพัฒนาปัญญาด้านต่างๆ ได้

พหุปัญญาทักษะทางการรู้คิดตัวอย่างกิจกรรมการเรียนรู้
ด้านภาษา (Linguistic)• การพูดสุนทรพจน์
• การอ่าน
• การเขียน
• การสื่อสารกับบุคคลอื่น
• ฟังเรื่องเล่า ฟังข่าว
• พูดเล่าเรื่อง พูดนำเสนอ
• อ่านบทละคร อ่านเรื่องสั้น
• เขียนข่าวสั้น เรื่องสั้น
• แต่งนิทาน เขียนบทร้อยกรอง
• ฟังนิทาน ฟังเรื่องเล่า
• เล่าเรื่อง เล่านิทาน
• กิจกรรมอื่นๆ
ที่มา: ดัดแปลงจาก วิชัย วงษ์ใหญ่ และมารุต พัฒผล : พหุปัญญาในชั้นเรียน
พหุปัญญาทักษะทางการรู้คิดตัวอย่างกิจกรรมการเรียนรู้
ด้านตรรกะ-คณิตศาสตร์ (Logical-Mathematical)• การให้เหตุผลเชิงคณิตศาสตร์
• การคิดให้เหตุผลเชิงตรรกะ
• เล่มเกมคณิตศาสตร์
• ให้เหตุผลสนับสนุนความคิด
• แสวงหาแบบรูป (Patterns)
• ออกแบบการทดลอง
• คิดคำนวณ
• ใช้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์
• เขียน Code คำสั่ง
• ออกแบบโปรแกรม
• ออกแบบขั้นตอนการทำงาน
• กิจกรรมอื่นๆ
ที่มา: ดัดแปลงจาก วิชัย วงษ์ใหญ่ และมารุต พัฒผล : พหุปัญญาในชั้นเรียน
พหุปัญญาทักษะทางการรู้คิดตัวอย่างกิจกรรมการเรียนรู้
ด้านมิติสัมพันธ์ (Spatial)• การรับรู้เชิงมิติสัมพันธ์
• การทำงานกับสิ่งที่จับต้องได้
• การทำงานด้านทัศนศิลป์
• การนำทางเชิงพื้นที่ (Spatial Navigation)
• สร้าง model หรือแบบจำลอง
• ออกแบบเส้นทาง
• ลำดับขั้นการเดินทาง
• เขียนนำเสนอความรู้ความคิดโดยใช้concept mapping,mind mapping, Venn diagrams, Timelines
• กิจกรรมอื่นๆ
ที่มา: ดัดแปลงจาก วิชัย วงษ์ใหญ่ และมารุต พัฒผล : พหุปัญญาในชั้นเรียน
พหุปัญญาทักษะทางการรู้คิดตัวอย่างกิจกรรมการเรียนรู้
ด้านดนตรี(Musical)• การรับรู้ทางดนตรี
• การตอบสนองทางดนตรี
• การสร้างผลงานทางดนตรี
• ฟังเพลง
• แต่งเพลง
• ร้องเพลง
• นำเสนอผลงานด้วยเพลง
• ออกแบบทำนอง
• เล่นดนตรี
• กิจกรรมอื่นๆ
ที่มา: ดัดแปลงจาก วิชัย วงษ์ใหญ่ และมารุต พัฒผล : พหุปัญญาในชั้นเรียน
พหุปัญญาทักษะทางการรู้คิดตัวอย่างกิจกรรมการเรียนรู้
ด้านร่างกาย(Kinesthetic)• การควบคุมร่างกาย
• การเคลื่อนไหวร่างกาย
• แสดงบทบาทสมมติ
• ออกแบบท่าทาง
• ออกแบบท่าเต้น
• แสดงท่าทาง
• เต้นประกอบดนตรี
• กิจกรรมอื่นๆ
ที่มา: ดัดแปลงจาก วิชัย วงษ์ใหญ่ และมารุต พัฒผล : พหุปัญญาในชั้นเรียน
พหุปัญญาทักษะทางการรู้คิดตัวอย่างกิจกรรมการเรียนรู้
ด้านความเข้าใจระหว่างบุคคล(Interpersonal)• การรับรู้เชิงสังคม
• การเข้าใจบุคคลอื่น
• การแสดงออกถึงภาวะผู้นำ
• ร่วมกันทำโครงงานกับเพื่อน
• จับคู่ทำกิจกรรมกับเพื่อน
• สัมภาษณ์บุคคลอื่น
• แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพื่อน
• ปรึกษาหารือกับเพื่อน
• กิจกรรมอื่นๆ
ที่มา: ดัดแปลงจาก วิชัย วงษ์ใหญ่ และมารุต พัฒผล : พหุปัญญาในชั้นเรียน
พหุปัญญาทักษะทางการรู้คิดตัวอย่างกิจกรรมการเรียนรู้
ความเข้าใจตนเอง(Intrapersonal) •การตระหนักรู้ในตนเอง
• การกำกับตนเอง•การจัดการตนเอง
• การควบคุมตนเอง
• เขียนสะท้อนคิดตนเอง
• ถอดบทเรียนตนเอง
• กำหนดเป้าหมายของตนเอง
• วางแผนการเรียนรู้ของตนเอง
• ประเมินตนเอง
• เขียน Journal writing
• กิจกรรมอื่นๆ
ที่มา: ดัดแปลงจาก วิชัย วงษ์ใหญ่ และมารุต พัฒผล : พหุปัญญาในชั้นเรียน
พหุปัญญาทักษะทางการรู้คิดตัวอย่างกิจกรรมการเรียนรู้
ด้านธรรมขาติ(Naturalist)• การทำความเข้าใจสรรพสิ่งรอบตัว
• การชื่นชมธรรมชาติ•ความไวต่อธรรมชาติ
• ดูแลสิ่งแวดล้อมของห้องเรียน
• สำรวจต้นไม้ในโรงเรียน
• สังเกตพฤติกรรมสัตว์ต่างๆ
• ฟังเสียงธรรมชาติรอบตัว
• กิจกรรมอื่นๆ
ที่มา: ดัดแปลงจาก วิชัย วงษ์ใหญ่ และมารุต พัฒผล : พหุปัญญาในชั้นเรียน
พหุปัญญาทักษะทางการรู้คิดตัวอย่างกิจกรรมการเรียนรู้
ด้านจิตนิยมหรือการดำรงอยู่ของชีวิต(Existential)• การตั้งคำถามเกี่ยวกับการดำรงอยู่ของมนุษย์• ตั้งคำถามเกี่ยวกับคุณค่าของ
• การมีชีวิตอยู่
• สะท้อนคิดคุณค่าของตนเอง
• กระตุ้นบุคคลอื่นให้เชื่อมั่นใน
• ศักยภาพของตนเอง
• กิจกรรมอื่นๆ
ที่มา: ดัดแปลงจาก วิชัย วงษ์ใหญ่ และมารุต พัฒผล : พหุปัญญาในชั้นเรียน

การจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุกที่ส่งเสริมพหุปัญญาอย่างมีประสิทธิภาพ

บทนำ

ในยุคที่การศึกษากำลังเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ การจัดการเรียนการสอนที่ตอบสนองต่อความหลากหลายของผู้เรียนเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง การบูรณาการแนวคิดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) เข้ากับทฤษฎีพหุปัญญา (Multiple Intelligences) ของ Howard Gardner นำเสนอแนวทางที่มีประสิทธิภาพในการพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนอย่างรอบด้าน บทความนี้จะนำเสนอแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุกที่ส่งเสริมพหุปัญญาให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

ความสำคัญของการเรียนรู้เชิงรุกและพหุปัญญา

การเรียนรู้เชิงรุกเป็นแนวคิดที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้อย่างกระตือรือร้น ไม่ใช่เพียงแค่รับฟังข้อมูลอย่างเดียว ในขณะที่ทฤษฎีพหุปัญญาเสนอว่า มนุษย์มีความฉลาดหลากหลายรูปแบบ ไม่ใช่เพียงแค่ด้านภาษาและตรรกะ-คณิตศาสตร์เท่านั้น การผสมผสานแนวคิดทั้งสองนี้จะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่เอื้อต่อการพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนทุกคน

แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุกที่ส่งเสริมพหุปัญญา

1. การเข้าใจผู้เรียนเป็นรายบุคคล หมายถึง การประเมินความสามารถและความสนใจของผู้เรียนแต่ละคนเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ ครูควรใช้เครื่องมือประเมินพหุปัญญาและสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนเพื่อออกแบบกิจกรรมที่เหมาะสม

2.  การออกแบบกิจกรรมที่หลากหลาย หมายถึง กิจกรรมการเรียนรู้ควรครอบคลุมพหุปัญญาหลายด้าน เช่น การใช้ดนตรีประกอบการสอน การทำโครงงาน การแสดงบทบาทสมมติ และการทำงานกลุ่ม เพื่อให้ผู้เรียนทุกคนมีโอกาสใช้จุดแข็งของตนในการเรียนรู้

3. การสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้ หมายถึง สภาพแวดล้อมทางกายภาพและอารมณ์มีผลต่อการเรียนรู้ การจัดพื้นที่ที่ยืดหยุ่น และการสร้างบรรยากาศที่ปลอดภัยทางอารมณ์จะช่วยส่งเสริมการมีส่วนร่วมและการกล้าแสดงออกของผู้เรียน

4. การใช้เทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพ หมายถึง เทคโนโลยีสามารถเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการส่งเสริมการเรียนรู้เชิงรุกและพหุปัญญา เช่น การใช้แอปพลิเคชันเพื่อฝึกทักษะต่างๆ หรือการสร้างสื่อมัลติมีเดียเพื่อนำเสนอผลงาน

5. การเชื่อมโยงกับชีวิตจริง หมายถึง การนำประเด็นหรือปัญหาจากชีวิตจริงมาใช้ในการเรียนการสอนจะช่วยให้ผู้เรียนเห็นความสำคัญและการประยุกต์ใช้ความรู้ ซึ่งจะกระตุ้นความสนใจและการมีส่วนร่วมมากขึ้น

6. การให้ทางเลือกแก่ผู้เรียน หมายถึง การเปิดโอกาสให้ผู้เรียนเลือกวิธีการเรียนรู้และการนำเสนอผลงานที่สอดคล้องกับความถนัดของตนจะช่วยส่งเสริมความเป็นเจ้าของการเรียนรู้และแรงจูงใจ

7. การประเมินผลที่หลากหลาย หมายถึง การใช้วิธีการประเมินผลที่หลากหลาย เช่น การประเมินตามสภาพจริง การประเมินโดยเพื่อน และการสะท้อนคิด จะช่วยให้เห็นพัฒนาการของผู้เรียนในหลายมิติ

8. การพัฒนาทักษะการคิดขั้นสูง หมายถึง กิจกรรมการเรียนรู้ควรส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ การคิดสร้างสรรค์ และการแก้ปัญหา ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในศตวรรษที่ 21

9. การสร้างโอกาสในการสะท้อนคิด หมายถึง การให้เวลาผู้เรียนได้คิดทบทวนสิ่งที่เรียนรู้ ทั้งผ่านการเขียนบันทึกหรือการอภิปรายกลุ่ม จะช่วยเสริมสร้างความเข้าใจที่ลึกซึ้งและการนำความรู้ไปใช้

10. การพัฒนาวิชาชีพครูอย่างต่อเนื่อง หมายถึง ครูควรศึกษาค้นคว้าและพัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอ เพื่อนำแนวคิดและวิธีการใหม่ๆ มาปรับใช้ในการจัดการเรียนการสอน

การออกแบบการเรียนรู้เชิงรุกแบบบูรณาการที่ส่งเสริมพหุปัญญา

การออกแบบการเรียนรู้เชิงรุกแบบบูรณาการที่ส่งเสริมพหุปัญญา เป็นวิธีการสอนที่มีประสิทธิภาพในการพัฒนาทักษะหลากหลายด้านของผู้เรียน โดยมีองค์ประกอบสำคัญดังนี้

  1. การเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)
    • ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้อย่างกระตือรือร้น
    • ส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และการสร้างสรรค์
  2. การบูรณาการ (Integration)
    • เชื่อมโยงเนื้อหาจากหลายวิชาเข้าด้วยกัน
    • สร้างความเข้าใจที่ลึกซึ้งและเห็นความสัมพันธ์ระหว่างสาขาวิชา
  3. ทฤษฎีพหุปัญญา (Multiple Intelligences)
    • คำนึงถึงความสามารถที่หลากหลายของผู้เรียน เช่น ด้านภาษา ตรรกะ-คณิตศาสตร์ มิติสัมพันธ์ ดนตรี ร่างกายและการเคลื่อนไหว มนุษยสัมพันธ์ การเข้าใจตนเอง และธรรมชาติวิทยา

วิธีการออกแบบ

  1. กำหนดวัตถุประสงค์การเรียนรู้ที่ครอบคลุมทักษะหลายด้าน
  2. สร้างกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น
    • การอภิปรายกลุ่ม (ส่งเสริมปัญญาด้านภาษาและมนุษยสัมพันธ์)
    • การทดลองทางวิทยาศาสตร์ (ส่งเสริมปัญญาด้านตรรกะและธรรมชาติวิทยา)
    • การสร้างแบบจำลอง (ส่งเสริมปัญญาด้านมิติสัมพันธ์)
    • การแสดงบทบาทสมมติ (ส่งเสริมปัญญาด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว)
  3. ใช้สื่อการสอนที่หลากหลาย เช่น วิดีโอ เกม แอปพลิเคชัน เพื่อตอบสนองรูปแบบการเรียนรู้ที่แตกต่าง
  4. จัดสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่เอื้อต่อการทำงานร่วมกันและการค้นคว้าด้วยตนเอง
  5. ประเมินผลแบบองค์รวม โดยพิจารณาทั้งความรู้ ทักษะ และเจตคติ

การออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)

การออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุกควรคำนึงถึงความหลากหลาย ความยืดหยุ่น และการตอบสนองต่อความต้องการของผู้เรียน โดยมุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้คิด วิเคราะห์ และลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง ซึ่งจะช่วยพัฒนาทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรมุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมอย่างกระตือรือร้นในกระบวนการเรียนรู้ โดยมีแนวทางการจัดกิจกรรมดังนี้

  1. การเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-Based Learning)
    • นำเสนอปัญหาที่เกี่ยวข้องกับชีวิตจริง
    • ให้ผู้เรียนร่วมกันวิเคราะห์ปัญหาและหาแนวทางแก้ไข
    • ส่งเสริมการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหา
  2. การเรียนรู้แบบโครงงาน (Project-Based Learning)
    • มอบหมายโครงงานที่สอดคล้องกับเนื้อหาการเรียน
    • ให้ผู้เรียนวางแผน ดำเนินการ และนำเสนอผลงาน
    • พัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีมและการจัดการโครงการ
  3. การอภิปรายกลุ่ม (Group Discussion)
    • แบ่งกลุ่มผู้เรียนเพื่ออภิปรายประเด็นที่กำหนด
    • กระตุ้นให้แสดงความคิดเห็นและแลกเปลี่ยนมุมมอง
    • ฝึกทักษะการสื่อสารและการคิดวิเคราะห์
  4. การเรียนรู้แบบร่วมมือ (Collaborative Learning)
    • จัดกิจกรรมที่ต้องอาศัยความร่วมมือในการทำงาน
    • มอบหมายบทบาทหน้าที่ให้สมาชิกในกลุ่ม
    • ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์
  5. การสาธิตและการฝึกปฏิบัติ (Demonstration and Practice)
    •  แสดงวิธีการหรือขั้นตอนการปฏิบัติงาน
    • ให้ผู้เรียนได้ลงมือทำจริง
    • พัฒนาทักษะปฏิบัติและความเข้าใจในเนื้อหา
  6. การใช้เกมและการจำลองสถานการณ์ (Games and Simulations)
    • ออกแบบเกมการศึกษาที่สอดคล้องกับเนื้อหา
    • จำลองสถานการณ์เพื่อให้ผู้เรียนฝึกการตัดสินใจ
    • สร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่สนุกและน่าสนใจ
  7. การเรียนรู้แบบกลับด้าน (Flipped Classroom)
    • ให้ผู้เรียนศึกษาเนื้อหาด้วยตนเองก่อนเข้าชั้นเรียน
    • ใช้เวลาในชั้นเรียนสำหรับการอภิปราย ทำกิจกรรม หรือแก้ปัญหา
    • ส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยตนเองและการใช้เวลาในชั้นเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ
  8. การใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้ (Technology-Enhanced Learning)
    • ใช้แอปพลิเคชันหรือเครื่องมือดิจิทัลในการทำกิจกรรม
    • ส่งเสริมการสืบค้นข้อมูลและการนำเสนอผลงานด้วยเทคโนโลยี
    • พัฒนาทักษะด้านดิจิทัลและการเรียนรู้ตลอดชีวิต

 

ตัวอย่างแผนการจัดการเรียนรู้ที่ครอบคลุมพหุปัญญาสำหรับห้องเรียน 1 ชั่วโมง โดยใช้หัวข้อ “ระบบนิเวศในท้องถิ่น” เป็นตัวอย่าง

แผนการจัดการเรียนรู้นี้ครอบคลุมพหุปัญญาทั้ง 9 ด้าน โดยเน้นการมีส่วนร่วมของผู้เรียนและการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ตรง ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจเนื้อหาได้ลึกซึ้งและนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้

หัวข้อ: ระบบนิเวศในท้องถิ่น
ระดับชั้น: มัธยมศึกษาปีที่ 2
เวลา: 1 ชั่วโมง

วัตถุประสงค์

1. เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจองค์ประกอบของระบบนิเวศในท้องถิ่น (K)
2. เพื่อให้ผู้เรียนวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ (P)
3. เพื่อให้ผู้เรียนตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ระบบนิเวศ (A)

กิจกรรมการเรียนรู้ 

ขั้นนำ (5 นาที)

 ขั้นสอน (40 นาที)

(ปัญญาด้านมิติสัมพันธ์, ร่างกายและการเคลื่อนไหว, ธรรมชาติวิทยา, มนุษยสัมพันธ์)

นำเสนอผลงานกลุ่ม (15 นาที)

ขั้นสรุป (15 นาที)

สื่อการสอน

  1.  เพลงเสียงธรรมชาติ
  2. วัสดุสำหรับสร้างแบบจำลอง (กระดาษ สี ดินน้ำมัน กรรไกร กาว ฯลฯ)
  3. กระดาษโปสเตอร์สำหรับนำเสนอ

การประเมินผล

  1. สังเกตการมีส่วนร่วมในกิจกรรมกลุ่ม
  2. ประเมินผลงานแบบจำลองระบบนิเวศ
  3. ประเมินการนำเสนอและการตอบคำถาม
  4.  ตรวจบันทึกการเรียนรู้

online : https://www.samsungscd.org/quiz

paper : https://samsungslc.org/wp-content/uploads/2020/05/MI_test_form_2019.pdf

บทสรุป

การจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุกที่ส่งเสริมพหุปัญญาเป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพในการพัฒนาผู้เรียนอย่างรอบด้าน การบูรณาการแนวคิดนี้เข้ากับการจัดการเรียนการสอนจะช่วยสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่มีความหมายและตอบสนองต่อความแตกต่างของผู้เรียน อย่างไรก็ตาม การนำแนวทางนี้ไปใช้ให้ประสบความสำเร็จต้องอาศัยความเข้าใจ การวางแผนที่ดี และความมุ่งมั่นของครูในการพัฒนาวิธีการสอนอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาที่เท่าเทียมและมีคุณภาพสำหรับผู้เรียนทุกคน

อ้างอิง

1. Gardner, H. (1983). Frames of mind: The theory of multiple intelligences. Basic Books.
2. Bonwell, C. C., & Eison, J. A. (1991). Active Learning: Creating Excitement in the Classroom. ASHE-ERIC Higher Education Report No. 1. Washington, D.C.: The George Washington University.
3. Armstrong, T. (2009). Multiple intelligences in the classroom (3rd ed.). ASCD.
4. Prince, M. (2004). Does active learning work? A review of the research. Journal of Engineering Education, 93(3), 223-231.
5. Darling-Hammond, L., Flook, L., Cook-Harvey, C., Barron, B., & Osher, D. (2020). Implications for educational practice of the science of learning and development. Applied Developmental Science, 24(2), 97-140.

Comments

comments

Powered by Facebook Comments

Exit mobile version