แนวทางการออกแบบและเขียนแผนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)
ออกแบบและเขียนแผนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก แบบรวมพลังอย่าง easy
มีใจความสำคัญดังนี้
การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)
การจัดการเรียนรู้เชิงรุกมุ่งเน้นให้นักเรียนมีส่วนร่วมและปฏิสัมพันธ์ในกระบวนการเรียนรู้มากกว่าการฟังเฉพาะผู้สอน เป็นวิธีการที่นักเรียนมีบทบาทเป็นศูนย์กลางในการเรียนรู้ โดยให้ความสำคัญกับการคิดวิเคราะห์ สร้างสรรค์ และประยุกต์ใช้ความรู้
แผนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก
การออกแบบและเขียนแผนการเรียนรู้เชิงรุกสามารถทำได้ตามขั้นตอนดังนี้
- การวิเคราะห์ผู้เรียน (Learner Analysis):
- ประเมินพื้นฐานของผู้เรียน เช่น ความรู้เดิม ทักษะ ความสนใจ และบริบททางสังคม เพื่อให้เข้าใจความต้องการและพัฒนาการของผู้เรียน
- การกำหนดวัตถุประสงค์การเรียนรู้ (Learning Objectives):
- ตั้งวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน โดยใช้เกณฑ์ SMART (Specific, Measurable, Achievable, Relevant, Time-bound) เพื่อให้สามารถประเมินผลได้
- การออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ (Design Learning Activities):
- ออกแบบกิจกรรมที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วม เช่น การทำงานกลุ่ม การแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ การอภิปราย และการใช้เกมหรือเทคโนโลยีในการเรียนรู้
- การเลือกวิธีการประเมินผล (Assessment Methods):
- เลือกวิธีการประเมินผลที่หลากหลาย เช่น การประเมินจากงานที่ทำ การนำเสนอ หรือการทดสอบที่วัดความสามารถในด้านต่าง ๆ ของผู้เรียน
- การจัดเตรียมสื่อการเรียนรู้ (Prepare Learning Materials):
- จัดเตรียมสื่อที่สนับสนุนการเรียนรู้ เช่น เอกสารอ้างอิง วิดีโอ สื่อดิจิทัล และแหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
- การบริหารจัดการเวลา (Time Management):
- กำหนดเวลาให้เหมาะสมสำหรับแต่ละกิจกรรม และปรับให้ยืดหยุ่นตามความต้องการของผู้เรียน
การรวมพลังใน New Normal
การรวมพลังในบริบท New Normal มุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีและการร่วมมือกันอย่างมีประสิทธิภาพ:
- เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Technology):
- ใช้เครื่องมือดิจิทัลในการสื่อสาร การทำงานร่วมกัน และการประเมินผล เช่น แพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์ หรือแอปพลิเคชันเพื่อการศึกษา
- การสื่อสารและการร่วมมือ (Communication and Collaboration):
- ส่งเสริมการสื่อสารที่เปิดเผยและการทำงานเป็นทีมระหว่างครูและผู้เรียน เพื่อสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่หลากหลายและเป็นมิตร
- การปรับตัวและความยืดหยุ่น (Adaptability and Flexibility):
- ปรับกระบวนการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ใหม่ เช่น การเรียนออนไลน์ และการเรียนแบบผสมผสาน (Blended Learning)
สรุป:
วิดีโอนี้แนะนำแนวทางการออกแบบและเขียนแผนการจัดการเรียนรู้เชิงรุกอย่างง่าย ๆ ภายใต้บริบท New Normal โดยเน้นการมีส่วนร่วมของผู้เรียน การใช้เทคโนโลยี และการรวมพลังในการสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพและทันสมัย
การเขียนแผนการจัดการเรียนรู้แบบ Active learning
วิดีโอ “การเขียนแผนการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning” จากช่อง “ผู้ช่วยศาสตราจารย์สมยศ นาวีการ” อธิบายขั้นตอนและเทคนิคการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning อย่างละเอียด ซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้:
ใจความสำคัญ
1. การวิเคราะห์ผู้เรียน (Learner Analysis)
- รวบรวมข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับผู้เรียน เช่น ความรู้เดิม ความสนใจ และบริบทการเรียนรู้ เพื่อให้สามารถออกแบบการเรียนรู้ที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้เรียนได้
2. การกำหนดวัตถุประสงค์การเรียนรู้ (Learning Objectives)
- กำหนดวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน โดยใช้แนวทางของ Bloom’s Taxonomy เพื่อระบุระดับของการเรียนรู้ที่ต้องการให้บรรลุ เช่น การจำ (Remember), การเข้าใจ (Understand), การนำไปใช้ (Apply), การวิเคราะห์ (Analyze), การสังเคราะห์ (Synthesize), และการประเมินค่า (Evaluate)
3. การออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ (Designing Learning Activities)
- กิจกรรมต้องเน้นการมีส่วนร่วม (Engagement) และการโต้ตอบ (Interaction) ของผู้เรียน เช่น:
- การเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning): การทำงานเป็นทีมเพื่อให้ผู้เรียนมีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดและช่วยเหลือกัน
- การเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-Based Learning): ให้ผู้เรียนแก้ไขปัญหาจริงหรือจำลอง เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหา
- การเรียนรู้แบบใช้โครงการเป็นฐาน (Project-Based Learning): ผู้เรียนทำโครงการที่เกี่ยวข้องกับบทเรียนและนำเสนอผลการเรียนรู้
4. การประเมินผล (Assessment)
- ออกแบบการประเมินที่หลากหลายและเชื่อมโยงกับวัตถุประสงค์การเรียนรู้ เช่น:
- การประเมินแบบรวมตัว (Formative Assessment): การประเมินในระหว่างการเรียนเพื่อปรับปรุงกระบวนการเรียนรู้
- การประเมินแบบสรุป (Summative Assessment): การประเมินเมื่อสิ้นสุดหน่วยการเรียนรู้เพื่อวัดความสำเร็จของผู้เรียน
- การประเมินเพื่อน (Peer Assessment) และ การประเมินตนเอง (Self-Assessment): เพื่อส่งเสริมการสะท้อนตนเองและการพัฒนาตนเอง
5. การใช้เทคโนโลยี (Utilizing Technology)
- ใช้เครื่องมือดิจิทัลและแพลตฟอร์มออนไลน์ในการสนับสนุนการเรียนรู้ เช่น:
- ระบบการจัดการเรียนรู้ (LMS) เพื่อจัดการสื่อการเรียนรู้และการสื่อสาร
- แอปพลิเคชันสำหรับการทำงานร่วมกัน (Collaboration Tools) เช่น Google Docs, Padlet เพื่อส่งเสริมการทำงานกลุ่ม
6. การวางแผนการจัดการเรียนรู้ (Planning the Learning Management):
- จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้โดยละเอียด ซึ่งควรรวมถึง:
- การจัดลำดับการสอน (Sequencing): วางแผนลำดับเนื้อหาที่จะสอนอย่างเป็นระบบ
- การจัดเวลา (Timing): จัดเวลาให้เหมาะสมกับกิจกรรมต่าง ๆ
- การจัดเตรียมทรัพยากร (Resource Preparation): เตรียมสื่อและอุปกรณ์การสอน
7. การพัฒนาและปรับปรุงแผนการสอน (Developing and Refining the Teaching Plan):
- ทดลองใช้แผนการสอนและรับความคิดเห็นจากผู้เรียนเพื่อปรับปรุงแผนการสอนอย่างต่อเนื่อง
สรุป
การเขียนแผนการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning เน้นการวิเคราะห์ผู้เรียน การตั้งวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน การออกแบบกิจกรรมที่เน้นการมีส่วนร่วม การประเมินที่หลากหลาย การใช้เทคโนโลยีสนับสนุน และการพัฒนาแผนการสอนอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพและสามารถตอบสนองความต้องการของผู้เรียนในบริบทที่แตกต่างกัน
ลิงก์วิดีโอ
การเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิด Active learning
ใจความสำคัญ
1. ความสำคัญของ Active Learning
- การมีส่วนร่วมของผู้เรียน: Active Learning เน้นการให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้ มากกว่าการฟังบรรยายจากครูเพียงอย่างเดียว
- การพัฒนาทักษะสำคัญ: กระบวนการนี้ช่วยพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และการทำงานร่วมกัน
- การสร้างสรรค์ประสบการณ์การเรียนรู้: เน้นการสร้างประสบการณ์ที่มีความหมายและมีความสนุกสนานในการเรียนรู้
2. ขั้นตอนการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning
2.1 การวิเคราะห์และกำหนดวัตถุประสงค์การเรียนรู้ (Learning Objectives)
- การวิเคราะห์ผู้เรียน: เข้าใจพื้นฐานและความต้องการของผู้เรียน เช่น ความรู้เดิมและความสนใจ
- การกำหนดวัตถุประสงค์: ใช้หลักการ SMART (Specific, Measurable, Achievable, Relevant, Time-bound) ในการตั้งวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนและวัดผลได้
2.2 การออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ (Designing Learning Activities)
- การเลือกกิจกรรมที่เหมาะสม: กิจกรรมต้องส่งเสริมการมีส่วนร่วมและการโต้ตอบของผู้เรียน เช่น:
- การเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning): ผู้เรียนทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกัน
- การแก้ปัญหา (Problem-Based Learning): ผู้เรียนเผชิญกับปัญหาจริงและต้องใช้ทักษะในการแก้ไขปัญหา
- การใช้โครงการ (Project-Based Learning): ผู้เรียนทำโครงการที่เชื่อมโยงกับบทเรียนและนำเสนอผลการเรียนรู้
- การอภิปรายกลุ่ม (Group Discussion): ส่งเสริมให้ผู้เรียนแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและความคิด
- การใช้เทคนิคและเครื่องมือดิจิทัล: ใช้สื่อการสอนและเครื่องมือดิจิทัล เช่น วิดีโอ บทเรียนออนไลน์ แอปพลิเคชันเพื่อการทำงานร่วมกัน (เช่น Google Classroom, Kahoot)
2.3 การประเมินผลการเรียนรู้ (Assessment)
- การประเมินแบบรวมตัว (Formative Assessment): ตรวจสอบและปรับปรุงการเรียนรู้ระหว่างกระบวนการ เช่น การประเมินผ่านกิจกรรมหรือการสอบระหว่างการเรียน
- การประเมินแบบสรุป (Summative Assessment): ประเมินความสำเร็จของผู้เรียนเมื่อสิ้นสุดหน่วยการเรียนรู้ เช่น การทดสอบ การทำรายงาน หรือโครงงาน
- การประเมินตนเองและการประเมินเพื่อน (Self and Peer Assessment): ส่งเสริมการสะท้อนตนเองและการรับข้อเสนอแนะจากเพื่อนร่วมชั้น
2.4 การวางแผนและเตรียมการสอน (Planning and Preparation)
- การจัดลำดับเนื้อหา (Content Sequencing): จัดลำดับเนื้อหาการสอนอย่างเป็นระบบและเหมาะสมกับเวลา
- การจัดเวลา (Timing): จัดเวลาสำหรับแต่ละกิจกรรมให้เหมาะสม และยืดหยุ่นตามสถานการณ์
- การจัดเตรียมสื่อและทรัพยากร (Resource Preparation): เตรียมสื่อการสอนที่สนับสนุนการเรียนรู้ เช่น เอกสารประกอบการสอน สื่อดิจิทัล หรืออุปกรณ์สำหรับกิจกรรม
2.5 การพัฒนาและปรับปรุงแผนการสอน (Developing and Refining the Plan)
- การทดลองใช้ (Pilot Testing): นำแผนการสอนไปใช้จริงเพื่อประเมินผลและรับข้อเสนอแนะ
- การปรับปรุง (Improvement): ปรับปรุงแผนการสอนตามผลการทดลองใช้และความคิดเห็นจากผู้เรียน
3. ตัวอย่างการออกแบบกิจกรรม Active Learning
- กิจกรรมการเรียนรู้ผ่านเกม (Game-Based Learning): ใช้เกมในการสอนเพื่อเพิ่มความสนุกสนานและความสนใจ
- การใช้สถานการณ์จำลอง (Simulations): สร้างสถานการณ์จำลองเพื่อให้ผู้เรียนฝึกทักษะการแก้ปัญหา
- การอภิปรายกรณีศึกษา (Case Study Discussion): นำกรณีศึกษาเข้ามาในห้องเรียนเพื่ออภิปรายและวิเคราะห์ปัญหา
สรุป
การเขียนแผนการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning มุ่งเน้นการวิเคราะห์ผู้เรียน การตั้งวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน การออกแบบกิจกรรมที่เน้นการมีส่วนร่วม การประเมินผลที่หลากหลาย การวางแผนการสอนที่เป็นระบบ และการปรับปรุงแผนการสอนอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพและตอบสนองต่อความต้องการของผู้เรียนในบริบทต่าง ๆ
ลิงก์วิดีโอ:
การเขียนแผนการจัดการเรียนรู้
ว PA เขียนแผนการสอนอย่างไรให้ครบ 8 ประเด็น
เขียนแผนการสอนอย่างไรให้ไม่ผิด
สมรรถนะคืออะไร การจัดการออกแบบการเรียนการที่เน้นสมรรถนะทำได้อย่างไร
EdTalk เปิดมุมมองโลกการศึกษา : Active Learning คืออะไร
การเขียนแผนการจัดการเรียนรู้
https://youtu.be/8hw-jmkuCd4?si=7ueiTddwlxJbGZC4
ที่มาของข้อมูลและการรวบรวมจาก วิชาการหวานเจี๊ยบ https://www.facebook.com/CareKrubyDrJeab
Comments
comments
Powered by Facebook Comments