Site icon Digital Learning Classroom

ตัวอย่างแผนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

แชร์เรื่องนี้

ตัวอย่างแผนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

หน่วยการเรียนรู้: “พืชในสวนครัว: จากเมล็ดสู่โต๊ะอาหาร”


การออกแบบตาม ADDIE Model

ANALYZE (การวิเคราะห์)

การวิเคราะห์ผู้เรียน (Learner Analysis)

กลุ่มเป้าหมาย: นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 (อายุ 9-10 ปี) จำนวน 30 คน

Learning Style Analysis:

Digital Literacy Level:

การวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)

มาตรฐานการเรียนรู้:

ทักษะที่ต้องการพัฒนา:

การวิเคราะห์การวัดและประเมินผล

การวัด (Measurement):

การประเมิน (Assessment):


 DESIGN (การออกแบบ)

วัตถุประสงค์เชิงปฏิบัติ (Performance Objectives)

ด้านความรู้ (Cognitive Domain):

  1. นักเรียนสามารถจำแนกชนิดของพืชในสวนครัวได้อย่างน้อย 10 ชนิด
  2. นักเรียนสามารถอธิบายวงจรชีวิตของพืชได้ 4 ขั้นตอน
  3. นักเรียนสามารถวิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของพืช

ด้านทักษะ (Psychomotor Domain):

  1. นักเรียนสามารถปลูกและดูแลพืชผักได้อย่างถูกวิธี
  2. นักเรียนสามารถใช้เครื่องมือวัดและบันทึกข้อมูลได้
  3. นักเรียนสามารถสร้าง Digital Portfolio เกี่ยวกับการปลูกพืช

ด้านเจตคติ (Affective Domain):

  1. นักเรียนมีจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อม
  2. นักเรียนเห็นคุณค่าของการเกษตรอินทรีย์
  3. นักเรียนมีความภาคภูมิใจในผลงานของตนเองและกลุ่ม

กลยุทธ์การสอนตาม T-PACK Model

Technology Knowledge:

Content Knowledge:

Pedagogical Knowledge:


DEVELOPMENT (การพัฒนา)

สื่อการสอนที่สร้างสำหรับ OBEC Content Center

1. หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-book): “สวนครัวน้อยของหนู”

เนื้อหา:

การพัฒนา:

2. วิดีโอการสอน (Video): “การปลูกผักปลอดสารพิษ”

เนื้อหา:

การผลิต:

3. แอปพลิเคชัน (APK): “Plant Master Junior”

ฟีเจอร์หลัก:

การพัฒนา:

4. ข้อสอบออนไลน์ (Quiz): “ทดสอบความรู้เรื่องพืชผัก”

รูปแบบข้อสอบ:

5. Infographic: “เส้นทางจากเมล็ดสู่โต๊ะอาหาร”

เนื้อหา:


 IMPLEMENT (การนำไปใช้)

แผนการจัดการเรียนรู้ 4 สัปดาห์

สัปดาห์ที่ 1: “รู้จักพืชในสวนครัว” (Engage & Explore)

คาบที่ 1-2 (120 นาที)

นาทีที่ 1-10: เปิดบทเรียน (Engage)

นาทีที่ 11-40: สำรวจความรู้ (Explore)

นาทีที่ 41-80: สำรวจจริงในสวนโรงเรียน

นาทีที่ 81-110: แลกเปลี่ยนผลการสำรวจ

นาทีที่ 111-120: สรุปและมอบหมายงาน


สัปดาห์ที่ 2: “วงจรชีวิตของพืช” (Explain & Elaborate)

คาบที่ 3-4 (120 นาที)

นาทีที่ 1-15: ทบทวนและเชื่อมโยง (Review & Connect)

นาทีที่ 16-45: สำรวจวงจรชีวิต (Explain)

นาทีที่ 46-90: ปฏิบัติการปลูกพืช (Elaborate)

นาทีที่ 91-110: สร้าง Digital Portfolio

นาทีที่ 111-120: สะท้อนการเรียนรู้


สัปดาห์ที่ 3: “การดูแลรักษาและสังเกตการเจริญเติบโต”

คาบที่ 5-6 (120 นาที)

นาทีที่ 1-20: ตรวจสอบการเจริญเติบโต

นาทีที่ 21-50: เรียนรู้การดูแลรักษา

นาทีที่ 51-85: กิจกรรมกลุ่ม “Plant Doctor”

นาทีที่ 86-110: การทดลองปัจจัยการเจริญเติบโต

นาทีที่ 111-120: บันทึกและสรุป


สัปดาห์ที่ 4: “การนำเสนอและประเมินผล” (Evaluate)

คาบที่ 7-8 (120 นาที)

นาทีที่ 1-25: เก็บผลการทดลอง

นาทีที่ 26-70: เตรียมการนำเสนอ

นาทีที่ 71-110: การนำเสนอผลงาน

นาทีที่ 111-120: สะท้อนและสรุป


 EVALUATION (การประเมิน)

การประเมินระหว่างทาง (Formative Assessment)

1. การสังเกตพฤติกรรม (Daily Observation)

เครื่องมือ: Checklist พฤติกรรมการเรียนรู้

พฤติกรรมดีมาก (4)ดี (3)พอใช้ (2)ปรับปรุง (1)
ความตั้งใจในการเรียนตั้งใจและมีส่วนร่วมตลอดเวลาตั้งใจส่วนใหญ่ตั้งใจบางช่วงไม่ค่อยตั้งใจ
การใช้เทคโนโลยีใช้ได้อย่างเหมาะสมและสร้างสรรค์ใช้ได้เหมาะสมใช้ได้แต่ต้องช่วยเหลือใช้ไม่ได้
การทำงานร่วมกันเป็นผู้นำและช่วยเหลือเพื่อนทำงานร่วมกันได้ดีทำงานตามที่ได้รับมอบหมายไม่ร่วมมือ
การดูแลพืชดูแลอย่างสม่ำเสมอและเอาใจใส่ดูแลสม่ำเสมอดูแลบางครั้งไม่ดูแล
2. การประเมิน Digital Portfolio

เกณฑ์การประเมิน:

3. แบบทดสอบระหว่างเรียน

รูปแบบ: ข้อสอบออนไลน์ผ่านแอป “Plant Master Junior”

การประเมินสรุป (Summative Assessment)

1. การทดสอบความรู้ (Knowledge Test)

Pre-Post Test Comparison:

หัวข้อการทดสอบจำนวนข้อคะแนนเต็มเกณฑ์ผ่าน
การจำแนกพืช52016
วงจรชีวิตพืช52016
การดูแลรักษา52016
การประยุกต์ใช้31512
การวิเคราะห์2108

ผลลัพธ์ที่คาดหวัง:

2. การประเมินโครงงาน (Project Assessment)

Rubric การประเมินโครงงาน “My First Garden”:

เกณฑ์การประเมินดีเยี่ยม (4)ดี (3)พอใช้ (2)ปรับปรุง (1)
การวางแผนมีการวางแผนละเอียด มีเหตุผลวางแผนดี มีรายละเอียดวางแผนพอใช้ไม่มีการวางแผน
การปฏิบัติปฏิบัติตามแผนอย่างสม่ำเสมอปฏิบัติตามแผนส่วนใหญ่ปฏิบัติบางส่วนไม่ปฏิบัติตามแผน
การบันทึกข้อมูลบันทึกครบถ้วน แม่นยำบันทึกครบ ถูกต้องบันทึกไม่ครบไม่บันทึก
การวิเคราะห์วิเคราะห์ได้ลึกซึ้ง มีเหตุผลวิเคราะห์ได้ดีวิเคราะห์พื้นฐานไม่สามารถวิเคราะห์
การนำเสนอนำเสนอได้ชัดเจน น่าสนใจนำเสนอได้ดีนำเสนอพอใช้นำเสนอไม่ชัดเจน
3. การประเมินทักษะด้านเทคโนโลยี

Digital Literacy Assessment:

การวิเคราะห์ประสิทธิภาพของสื่อ (Media Effectiveness Analysis)

1. การวิเคราะห์การใช้งานสื่อ (Usage Analytics)
ประเภทสื่อจำนวนผู้เข้าถึงเวลาเฉลี่ย/ครั้งอัตราความพึงพอใจ
E-book “สวนครัวน้อยของหนู”30/30 (100%)25 นาที4.2/5.0
วิดีโอ “การปลูกผักปลอดสารพิษ”28/30 (93%)15 นาที4.5/5.0
แอป “Plant Master Junior”30/30 (100%)35 นาที4.6/5.0
ข้อสอบออนไลน์30/30 (100%)8 นาที4.1/5.0
Infographic25/30 (83%)5 นาที4.0/5.0
2. การประเมินประสิทธิภาพตาม Learning Style

Visual Learners (40% = 12 คน):

Kinesthetic Learners (35% = 11 คน):

Auditory Learners (25% = 7 คน):


 ผลลัพธ์และการปรับปรุง (Results & Improvement)

ผลการเรียนรู้ที่ได้รับ

1. ด้านความรู้ (Cognitive Outcomes)

การเปรียบเทียบ Pre-Post Test:

การวิเคราะห์รายหัวข้อ:

2. ด้านทักษะ (Psychomotor Outcomes)

ทักษะการใช้เทคโนโลยี:

ทักษะการปลูกพืช:

3. ด้านเจตคติ (Affective Outcomes)

การประเมินด้วยแบบสอบถาม 5 ระดับ:

การปรับปรุงสื่อตาม Feedback

1. การปรับปรุง E-book

ปัญหาที่พบ:

การปรับปรุง:

2. การปรับปรุงแอปพลิเคชัน

ปัญหาที่พบ:

การปรับปรุง:

3. การปรับปรุงวิดีโอ

ปัญหาที่พบ:

การปรับปรุง:


ข้อเสนอแนะเชิงกลยุทธ์สำหรับ OBEC Content Center

1. การพัฒนาสื่อแบบบูรณาการ (Integrated Media Development)

แนวคิด “One Topic, Multiple Media”

ตัวอย่างการประยุกต์:

หัวข้อ: "พืชในสวนครัว"
├── E-book (สำหรับ Visual Learners)
├── Video Series (สำหรับ Auditory Learners)  
├── Mobile App (สำหรับ Kinesthetic Learners)
├── Infographic (สำหรับการสรุป)
├── Online Quiz (สำหรับการประเมิน)
└── Template (สำหรับครูผู้สอน)

2. ระบบ Adaptive Learning ใน OBEC Content Center

การปรับเนื้อหาตาม Learning Style

ตัวอย่าง Algorithm:

IF student_type == "Visual Learner":
    recommend(E-book, Infographic, Image Gallery)
ELIF student_type == "Kinesthetic Learner":
    recommend(Mobile_App, Virtual_Lab, Interactive_Game)
ELIF student_type == "Auditory Learner":
    recommend(Video, Audio, Podcast)

3. ระบบประเมินคุณภาพสื่อแบบ Real-time

เกณฑ์การประเมิน OBEC Quality Standards

ด้านเนื้อหา (40%):

ด้านเทคนิค (30%):

ด้านการศึกษา (30%):

ระบบ Auto-Feedback

4. การสร้างเครือข่ายครูนวัตกร (Teacher Innovator Network)

โครงสร้างเครือข่าย

ระดับชาติ: ศูนย์พัฒนาสื่อ OBEC
├── ระดับภาค: Hub ครูนวัตกร (6 Hub)
    ├── ระดับจังหวัด: Lead Teacher (77 คน)
        ├── ระดับเขต: Mentor Teacher (225 คน)
            └── ระดับโรงเรียน: Creator Teacher (2,000+ คน)

กิจกรรมเครือข่าย

5. การขยายผลสู่ National Digital Learning Platform (NDLP)

Integration Strategy

Phase 1: ปีที่ 1-2

Phase 2: ปีที่ 3-4

Phase 3: ปีที่ 5+


 เกณฑ์วัดความสำเร็จระดับชาติ (National Success Metrics)

1. ตัวชี้วัดเชิงปริมาณ (Quantitative KPIs)

2. ตัวชี้วัดเชิงคุณภาพ (Qualitative KPIs)

การใช้ ADDIE Model ในการออกแบบการเรียนรู้เชิงรุกสำหรับ OBEC Content Center ไม่เพียงแต่ช่วยยกระดับคุณภาพสื่อการสอนเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างระบบนิเวศการเรียนรู้ที่ยั่งยืน สามารถปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและความต้องการของสังคม และสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการศึกษาไทยในอนาคต


ตัวอย่างแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4

หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง พืชในสวนครัว: จากเมล็ดสู่โต๊ะอาหาร

รหัสวิชา ว 21101 รายวิชา วิทยาศาสตร์

กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567

เวลา 2 ชั่วโมง (120 นาที)

ครูผู้สอน นางสาวสมใจ รักการสอน


1. มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด/ ผลการเรียนรู้

มาตรฐานการเรียนรู้

วท 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์และความพึ่งพาอาศัยกันของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ และความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมและวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต

ตัวชี้วัด

วท 2.1 ป.4/1 อธิบายความสำคัญของพืชต่อสิ่งมีชีวิต

วท 2.1 ป.4/2 อธิบายวงจรชีวิตของพืช

วท 2.1 ป.4/3 ระบุปัจจัยที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของพืช


2. สาระสำคัญ

Concept: พืชในสวนครัว (Kitchen Garden Plants)

ความหมาย: พืชผักที่ปลูกในบริเวณใกล้บ้านเพื่อนำมาบริโภคในครัวเรือน ซึ่งมีวงจรชีวิตที่ชัดเจน ตั้งแต่เมล็ด ต้นกล้า ต้นโต การออกดอก ติดผล และให้เมล็ดใหม่

ตัวอย่างประกอบ: ผักกาดขาว ผักคะน้า มะเขือเทศ พริก หอมแดง ใบโหระพา และผักสวนครัวอื่นๆ ที่สามารถปลูกและดูแลได้ง่าย มีประโยชน์ต่อการดำรงชีวิต และเป็นแหล่งอาหารที่ปลอดภัยสำหรับครอบครัว


3. จุดประสงค์การเรียนรู้

3.1 ความรู้ (Knowledge: K)

  1. นักเรียนสามารถจำแนกชนิดของพืชในสวนครัวได้อย่างน้อย 8 ชนิด
  2. นักเรียนสามารถอธิบายวงจรชีวิตของพืชได้ครบ 4 ขั้นตอน (เมล็ด ต้นกล้า ต้นโต การสืบพันธุ์)
  3. นักเรียนสามารถระบุปัจจัยที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของพืชได้ 5 ปัจจัย (แสง น้ำ อากาศ ดิน อุณหภูมิ)

3.2 ทักษะ (Skill: S)

  1. นักเรียนสามารถปลูกและดูแลรักษาพืชผักได้อย่างถูกวิธี
  2. นักเรียนสามารถสังเกตและบันทึกการเจริญเติบโตของพืชได้อย่างเป็นระบบ
  3. นักเรียนสามารถใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการสร้าง Portfolio การปลูกพืชได้
  4. นักเรียนสามารถทำงานร่วมกันและนำเสนอผลงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3.3 เจตคติ/คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (Attribute / Attitude: A)

  1. นักเรียนมีจิตสำนึกในการรักษ์สิ่งแวดล้อมและเห็นคุณค่าของการเกษตรอินทรีย์
  2. นักเรียนมีความอดทนและมีความรับผิดชอบในการดูแลพืชผัก
  3. นักเรียนมีความภาคภูมิใจในผลงานของตนเองและเห็นคุณค่าของการทำงานร่วมกัน
  4. นักเรียนมีความสนใจและแรงจูงใจในการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ผ่านการลงมือปฏิบัติ

4. ชิ้นงานหรือภาระงาน (Value: V)

  1. โครงงานปลูกพืช “My First Garden” – การปลูกและดูแลผักกาดขาวในแก้วพลาสติกเป็นเวลา 2 สัปดาห์
  2. Digital Portfolio – การสร้างแฟ้มผลงานดิจิทัลบน Google Sites ที่บันทึกกระบวนการปลูกพืช รูปภาพ และการสะท้อนการเรียนรู้
  3. การนำเสนอกลุ่ม “Young Farmer Showcase” – การนำเสนอผลการทดลองและความรู้เกี่ยวกับการปลูกพืชต่อชั้นเรียน
  4. แผนภูมิวงจรชีวิตพืช – การสร้างแผนภูมิแสดงขั้นตอนการเจริญเติบโตของพืชด้วยภาพและคำอธิบาย

5. กระบวนการเรียนรู้

ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน (Poll) (ขั้นปฐมนิเทศและเร้าความสนใจ 10 นาที)

  1. นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรม “Mystery Vegetable Box” โดยใช้ประสาทสัมผัสสัมผัสผัก-ผลไม้ 5 ชนิดที่อยู่ในกล่อง และเดาชื่อพร้อมบอกประโยชน์
  2. นักเรียนตอบแบบสำรวจความรู้เดิมผ่าน Kahoot Poll “ผักโปรดของหนู” และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประสบการณ์การปลูกพืชของตนเอง

ขั้นจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (ปฏิบัติ) (Lecture, Active Learning, Discussion)

1. ขั้นดำเนินการจัดการเรียนรู้ บรรยายหรือสอนแบบดั้งเดิม (Lecture) (15 นาที)

1.1 นักเรียนศึกษา E-book “สวนครัวน้อยของหนู” บทที่ 1 เรื่องการรู้จักพืชในสวนครัว ผ่านแท็บเล็ต (กลุ่มละ 2-3 คน) พร้อมจดบันทึกชื่อพืชที่รู้จักและไม่รู้จัก

1.2 ครูอธิบายเสริมจาก Infographic “เส้นทางจากเมล็ดสู่โต๊ะอาหาร” เกี่ยวกับความสำคัญของพืชผักต่อการดำรงชีวิตและวงจรชีวิตพืชเบื้องต้น

2. ขั้นปฏิบัติงานกลุ่ม การจัดกิจกรรมโดยเน้นให้ผู้เรียนได้ลงมือกระทำ (Active Learning) (40 นาที)

2.1 นักเรียนแบ่งกลุ่มเป็น 6 กลุ่ม ๆ ละ 5 คน ทำกิจกรรม “Plant Safari” โดยใช้แอป “Plant Master Junior” สำรวจพืชในสวนโรงเรียน ถ่ายรูปและระบุชื่อพืช พร้อมเก็บคะแนนในแอป

2.2 นักเรียนดูวิดีโอ “การปลูกผักปลอดสารพิษ” ตอนที่ 1-2 (การเตรียมดินและการเพาะเมล็ด) แล้วลงมือปฏิบัติปลูกผักกาดขาวในแก้วพลาสติกตามขั้นตอนที่เรียนรู้

3. ขั้นสร้างองค์ความรู้ร่วมกัน โดยการจัดกิจกรรมโดยเน้นให้ผู้เรียนได้ลงมือกระทำ (Active Learning) (25 นาที)

3.1 นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอพืชที่พบจากการสำรวจ 3 ชนิด ในรูปแบบ Gallery Walk พร้อมข้อมูลที่ได้จากแอป และอธิบายประโยชน์ของพืชแต่ละชนิด

3.2 นักเรียนสร้างหน้าแรกของ Digital Portfolio บน Google Sites โดยถ่ายรูปการปลูกพืชและอัปโหลดพร้อมเขียนบันทึกวันแรกของการปลูก

4. ขั้นสรุปกิจกรรม ด้วยการอภิปราย หรือทำการสรุปเนื้อหา (Discussion) (20 นาที)

4.1 นักเรียนร่วมกันสรุปความรู้ที่ได้รับเกี่ยวกับชนิดของพืชในสวนครัว วงจรชีวิตของพืช และปัจจัยที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต ผ่านการ Think-Pair-Share

4.2 ครูเสริมสร้างความเข้าใจโดยใช้แผนภูมิวงจรชีวิตพืชและเชื่อมโยงกับประสบการณ์จริงของนักเรียนในการปลูกพืช

5. ขั้นประเมินผล ด้วยการอภิปราย หรือทำการสรุปเนื้อหา (Discussion) (10 นาที)

5.1 นักเรียนทำ Quiz ด้วยแอป “Plant Master Junior” เพื่อทดสอบความรู้เกี่ยวกับพืชในสวนครัวและวงจรชีวิตพืช (10 ข้อ)

5.2 นักเรียนเขียน Exit Ticket ผ่าน Google Forms ตอบคำถาม “วันนี้เรียนรู้อะไรใหม่? อยากรู้อะไรเพิ่มเติม?” และแสดงความรู้สึกต่อการเรียนรู้

ขั้นสรุปการเรียนรู้

  1. นักเรียนร่วมกันสรุปประเด็นสำคัญเกี่ยวกับความสำคัญของพืชในสวนครัว วงจรชีวิตของพืช และปัจจัยที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโต พร้อมเชื่อมโยงกับชีวิตประจำวัน
  2. ครูเน้นย้ำคุณค่าของการเกษตรอินทรีย์และความรับผิดชอบในการดูแลสิ่งแวดล้อม พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้นักเรียนดูแลพืชผักที่ปลูกอย่างต่อเนื่อง

ขั้นนำไปใช้

  1. นักเรียนได้รับมอบหมายให้ดูแลพืชผักที่ปลูกไว้ โดยรดน้ำทุกวัน สังเกตการเปลี่ยนแปลง และบันทึกข้อมูลใน Digital Portfolio ตลอด 2 สัปดาห์
  2. นักเรียนศึกษาเพิ่มเติมจากวิดีโอ “การปลูกผักปลอดสารพิษ” ตอนที่ 3-4 ที่บ้าน และเตรียมตัวสำหรับการทดลองปัจจัยการเจริญเติบโตในสัปดาห์หน้า

6. สื่อการสอน

  1. E-book “สวนครัวน้อยของหนู” จาก OBEC Content Center (4 บท พร้อม Interactive Quiz)
  2. วิดีโอ “การปลูกผักปลอดสารพิษ” (4 ตอน รวม 22 นาที)
  3. แอปพลิเคชัน “Plant Master Junior” สำหรับระบุพืชและทำ Quiz
  4. Infographic “เส้นทางจากเมล็ดสู่โต๊ะอาหาร”
  5. แท็บเล็ต/สมาร์ทโฟน สำหรับเข้าถึงสื่อดิจิทัลและการสร้าง Portfolio
  6. อุปกรณ์การปลูก: แก้วพลาสติก, ดิน, เมล็ดผักกาดขาว, ที่วัดน้ำ, แว่นขยาย

7. แหล่งเรียนรู้ในหรือนอกสถานที่

  1. สวนโรงเรียน – พื้นที่สำรวจพืชในธรรมชาติและการปฏิบัติการปลูกพืช
  2. ห้องเรียนดิจิทัล – การใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้และสร้างผลงาน
  3. OBEC Content Center – แหล่งรวมสื่อการเรียนรู้ออนไลน์
  4. Google Sites และ Google Forms – เครื่องมือสำหรับสร้างผลงานและประเมินผล
  5. บ้านของนักเรียน – การขยายผลการเรียนรู้สู่ครอบครัวและชุมชน

8. การประเมิน

8.1 วิธีการวัดและประเมินผล

การประเมินระหว่างเรียน (Formative Assessment)

การประเมินปลายทาง (Summative Assessment)

8.2 เครื่องมือ

  1. แบบสังเกตพฤติกรรม (Observation Checklist) 4 ระดับ
  2. Rubric การประเมินโครงงาน ครอบคลุม 5 เกณฑ์ (การวางแผน, การปฏิบัติ, การบันทึก, การวิเคราะห์, การนำเสนอ)
  3. แบบทดสอบออนไลน์ 20 ข้อ (เลือกตอบ 15 ข้อ, อัตนัย 5 ข้อ)
  4. แบบประเมิน Digital Portfolio ประเมินความสมบูรณ์, ความถูกต้อง, ความคิดสร้างสรรค์
  5. แบบสอบถามความพึงพอใจ ต่อสื่อการเรียนรู้และกิจกรรม

8.3 เกณฑ์การประเมิน

เกณฑ์ผ่าน: คะแนนรวม 70% ขึ้นไป โดยมีคะแนนในแต่ละด้านดังนี้

การกระจายน้ำหนักคะแนน:


9. กิจกรรมเสนอแนะ

  1. การจัดตลาดนัดผักปลอดสารโรงเรียน – ให้นักเรียนนำผักที่ปลูกสำเร็จมาจำหน่ายในโรงเรียน
  2. การขยายผลสู่ครอบครัว – ส่งเสริมให้นักเรียนสอนพ่อแม่ปลูกผักที่บ้าน
  3. การแลกเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ – สร้างธนาคารเมล็ดพันธุ์ของโรงเรียน
  4. การจัดนิทรรศการ “Young Farmer” – แสดงผลงานการปลูกพืชของนักเรียนทุกระดับชั้น

10. บันทึกผลหลังการสอน

สรุปผลการเรียนการสอน

1. นักเรียนจำนวน 30 คน

ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ 26 คน คิดเป็นร้อยละ 86.7

ไม่ผ่านจุดประสงค์ 4 คน คิดเป็นร้อยละ 13.3

ได้แก่

  1. นายสมชาย ใจดี (ขาดเรียนบ่อย, ไม่ส่งงาน)
  2. นางสาวมาลี สวยงาม (ไม่เข้าใจเทคโนโลยี, ต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม)

นักเรียนที่มีความสามารถพิเศษ/นักเรียนพิการได้แก่

  1. นายเก่ง ฉลาดมาก (ความสามารถพิเศษด้านวิทยาศาสตร์ – เสนอขยายผลการทดลอง)
  2. นางสาวใหม่ ช้าเรียน (ความต้องการพิเศษ – ต้องการเวลาและการดูแลเป็นพิเศษ)

2. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ (Knowledge: K) นักเรียนจำนวน 28 คน

คำอธิบายเพิ่มเติม: นักเรียนส่วนใหญ่เข้าใจวงจรชีวิตของพืชและสามารถจำแนกพืชในสวนครัวได้ดี โดยเฉพาะจากการใช้แอปพลิเคชันที่ช่วยให้การเรียนรู้สนุกขึ้น

3. นักเรียนมีความรู้เกิดทักษะ (Skill: S) นักเรียนจำนวน 25 คน

คำอธิบายเพิ่มเติม: นักเรียนสามารถปลูกพืชได้สำเร็จ 87% และใช้เทคโนโลยีในการสร้าง Digital Portfolio ได้ดี ยกเว้นนักเรียนบางคนที่ยังต้องการความช่วยเหลือด้านเทคโนโลยี

4. นักเรียนมีเจตคติ/คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (Attribute / Attitude: A) นักเรียนจำนวน 29 คน

คำอธิบายเพิ่มเติม: นักเรียนแสดงความรับผิดชอบในการดูแลพืชเป็นอย่างดี มีความภาคภูมิใจในผลงาน และเกิดจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน


11. ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข

ปัญหา: แท็บเล็ตมีจำนวนไม่เพียงพอ (มี 10 เครื่อง แต่นักเรียน 30 คน) แนวทางแก้ไข: จัดกลุ่มนักเรียน 3 คนต่อเครื่อง และสนับสนุนให้ใช้สมาร์ทโฟนส่วนตัว

ปัญหา: นักเรียนบางคนไม่คุ้นเคยกับการใช้ Google Sites แนวทางแก้ไข: จัดกิจกรรม Peer Teaching ให้นักเรียนที่เก่งช่วยสอนเพื่อน

ปัญหา: ฝนตกทำให้ไม่สามารถออกไปสำรวจสวนได้ แนวทางแก้ไข: เตรียมกิจกรรมสำรองในห้องเรียน เช่น การดูวิดีโอเสริมหรือเกมจำลอง


12. เสนอแนะ

  1. ควรเพิ่มสื่อ VR/AR เพื่อให้นักเรียนสำรวจสวนครัวเสมือนจริงในกรณีที่สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย
  2. ควรพัฒนาแอปติดตามการเจริญเติบโต ที่สามารถถ่ายรูปและวิเคราะห์การเจริญเติบโตได้อัตโนมัติ
  3. ควรสร้างเครือข่ายแลกเปลี่ยน กับโรงเรียนอื่นๆ เพื่อแบ่งปันประสบการณ์การปลูกพืช
  4. ควรขยายผลสู่ชุมชน โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญท้องถิ่นมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์

ลงชื่อ นางสาวสมใจ รักการสอน

(นางสาวสมใจ รักการสอน)

ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ชำนาญการ

วันที่ 15 มกราคม 2568


ความเห็นของหัวหน้าสถานศึกษา/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย

ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของ นางสาวสมใจ รักการสอน แล้วมีความคิดเห็นดังนี้

1. องค์ประกอบของ

แผนการจัดการเรียนรู้ครบถ้วนและถูกต้อง ยังไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป

2. ความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับหลักสูตรสถานศึกษา

☑ สอดคล้อง ☐ ยังไม่สอดคล้อง ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป

3. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้

☑ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ☐ ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป

4. สื่อการเรียนรู้

☑ เหมาะสมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ☐ ยังไม่เหมาะสม ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป

5. การประเมินผลการเรียนรู้

☑ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ☐ ยังไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป

6. ข้อเสนอแนะอื่น ๆ

จุดเด่น:

ข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนา:

การอนุมัติ: อนุมัติให้นำแผนการจัดการเรียนรู้นี้ไปใช้ในการสอนได้ และสามารถเป็นแบบอย่างสำหรับครูท่านอื่นในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกด้วยสื่อดิจิทัล


ลงชื่อ นายประสิทธิ์ ผลงาม

(นายประสิทธิ์ ผลงาม)

ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียน

วันที่ 16 มกราคม 2568


ภาคผนวก: เอกสารประกอบ

A. รายชื่อนักเรียน

[แนบรายชื่อนักเรียนชั้น ป.4/1 จำนวน 30 คน]

B. ตัวอย่างแบบประเมิน

Rubric การประเมินโครงงาน “My First Garden”

เกณฑ์การประเมินดีเยี่ยม (4)ดี (3)พอใช้ (2)ปรับปรุง (1)คะแนน
การวางแผน (20%)มีการวางแผนละเอียด มีเหตุผล สามารถอธิบายขั้นตอนได้ชัดเจนวางแผนดี มีรายละเอียดพอสมควรวางแผนพอใช้ ขาดรายละเอียดบางส่วนไม่มีการวางแผนที่ชัดเจน…/4
การปฏิบัติ (25%)ปฏิบัติตามแผนอย่างสม่ำเสมอ เอาใจใส่ทุกขั้นตอนปฏิบัติตามแผนส่วนใหญ่ ดูแลอย่างสม่ำเสมอปฏิบัติบางส่วน ดูแลไม่สม่ำเสมอไม่ปฏิบัติตามแผน ไม่ดูแล…/4
การบันทึกข้อมูล (20%)บันทึกครบถ้วน แม่นยำ มีภาพประกอบชัดเจนบันทึกครบ ถูกต้อง มีภาพประกอบบันทึกไม่ครบ ถูกต้องบางส่วนไม่บันทึกหรือบันทึกผิด…/4
การวิเคราะห์ (20%)วิเคราะห์ได้ลึกซึ้ง มีเหตุผล เชื่อมโยงทฤษฎีได้วิเคราะห์ได้ดี มีเหตุผลพอสมควรวิเคราะห์พื้นฐาน เหตุผลไม่ชัดเจนไม่สามารถวิเคราะห์ได้…/4
การนำเสนอ (15%)นำเสนอได้ชัดเจน น่าสนใจ มีความมั่นใจนำเสนอได้ดี ชัดเจนพอสมควรนำเสนอพอใช้ ขาดความมั่นใจนำเสนอไม่ชัดเจน หรือไม่กล้านำเสนอ…/4
รวมคะแนน…/20

C. ตัวอย่างคำถาม Exit Ticket

  1. วันนี้สิ่งที่ประทับใจที่สุดในการเรียนคืออะไร?
  2. ความรู้ใหม่ที่ได้เรียนรู้วันนี้คือ?
  3. สิ่งที่ยังไม่เข้าใจและอยากเรียนรู้เพิ่มเติม?
  4. การใช้สื่อดิจิทัลวันนี้ช่วยให้เข้าใจบทเรียนมากขึ้นหรือไม่? อย่างไร?
  5. ถ้าได้ปลูกพืชชนิดอื่น อยากปลูกอะไรและทำไม?

D. ลิงก์สื่อ OBEC Content Center

E. แบบฟอร์มประเมินตนเองสำหรับนักเรียน

ชื่อ-นามสกุล: ………………………….. เลขที่: …….. ชั้น: ป.4/……

พฤติกรรมการเรียนรู้ทำได้ดีมากทำได้ดีทำได้พอใช้ต้องปรับปรุง
ฉันมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียน
ฉันใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้ได้
ฉันทำงานร่วมกับเพื่อนได้ดี
ฉันดูแลพืชที่ปลูกอย่างสม่ำเสมอ
ฉันเข้าใจเนื้อหาที่เรียน

สิ่งที่ภาคภูมิใจในการเรียนครั้งนี้: ………………………………………………………………………………………………………

สิ่งที่ต้องปรับปรุงในการเรียนครั้งหน้า: ………………………………………………………………………………………………………


หมายเหตุ: แผนการจัดการเรียนรู้นี้พัฒนาตามแนวทาง ADDIE Model สำหรับการใช้สื่อ OBEC Content Center ในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก สามารถปรับประยุกต์ใช้กับรายวิชาและระดับชั้นอื่นๆ ได้ตามความเหมาะสม

Comments

comments

Powered by Facebook Comments

Exit mobile version