Site icon Digital Learning Classroom

12 แบบจำลองการตัดสินใจที่จำเป็นสำหรับงานวิจัยและการนิเทศการศึกษา

แชร์เรื่องนี้

12 แบบจำลองการตัดสินใจที่จำเป็นสำหรับงานวิจัยและการนิเทศการศึกษา

การตัดสินใจเป็นกระบวนการสำคัญที่ผู้บริหารการศึกษา นักวิจัย และศึกษานิเทศก์ต้องเผชิญในการปฏิบัติงานประจำวัน การเลือกใช้แบบจำลองการตัดสินใจที่เหมาะสมจะช่วยให้การตัดสินใจมีประสิทธิภาพและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด บทความนี้จะนำเสนอ 12 แบบจำลองการตัดสินใจพร้อมตัวอย่างการประยุกต์ใช้ในบริบทการศึกษาและงานวิจัย

1. การวิเคราะห์ข้อดี-ข้อเสีย (Pros and Cons Analysis)

หลักการ

แบบจำลองนี้เป็นวิธีการพื้นฐานที่เหมาะสำหรับการตัดสินใจง่าย ๆ โดยการแจกแจงข้อดีและข้อเสียของแต่ละทางเลือก แล้วชั่งน้ำหนักเพื่อเปรียบเทียบ

การประยุกต์ใช้ในงานวิจัย

ตัวอย่าง: การเลือกวิธีการเก็บข้อมูลในงานวิจัยเชิงคุณภาพ

การประยุกต์ใช้ในการนิเทศการศึกษา

ตัวอย่าง: การตัดสินใจเลือกรูปแบบการนิเทศครู

2. การวิเคราะห์ SWOT

หลักการ

SWOT ย่อมาจาก Strengths (จุดแข็ง), Weaknesses (จุดอ่อน), Opportunities (โอกาส), และ Threats (ภัยคุกคาม) เป็นเครื่องมือวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ที่ช่วยให้เห็นภาพรวมของสถานการณ์

การประยุกต์ใช้ในงานวิจัย

ตัวอย่าง: การวิเคราะห์โครงการวิจัยพัฒนาหลักสูตรใหม่

การประยุกต์ใช้ในการนิเทศการศึกษา

ตัวอย่าง: การวางแผนพัฒนาโรงเรียน

3. เมทริกซ์การตัดสินใจ (Decision Matrix)

หลักการ

การใช้ตารางเพื่อประเมินทางเลือกต่าง ๆ ตามเกณฑ์ที่กำหนด โดยให้คะแนนแล้วคำนวณผลรวมเพื่อหาทางเลือกที่ดีที่สุด

การประยุกต์ใช้ในงานวิจัย

ตัวอย่าง: การเลือกโปรแกรมวิเคราะห์ข้อมูลเชิงสถิติ

โปรแกรมราคา (30%)ความง่าย (25%)ฟีเจอร์ (25%)การสนับสนุน (20%)คะแนนรวม
SPSS6 (1.8)8 (2.0)9 (2.25)9 (1.8)7.85
R10 (3.0)5 (1.25)10 (2.5)7 (1.4)8.15
Stata7 (2.1)7 (1.75)8 (2.0)8 (1.6)7.45

การประยุกต์ใช้ในการนิเทศการศึกษา

ตัวอย่าง: การเลือกโรงเรียนต้นแบบในเขตพื้นที่การศึกษา

4. เทคนิคบันไดเลื่อน (Stepladder Technique)

หลักการ

การให้สมาชิกในกลุ่มเข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจทีละคนเพื่อป้องกันการครอบงำของเสียงส่วนใหญ่

การประยุกต์ใช้ในงานวิจัย

ตัวอย่าง: การประชุมทีมวิจัยเพื่อกำหนดกรอบแนวคิด

  1. หัวหน้าทีมและนักวิจัยหลักนำเสนอปัญหาวิจัย
  2. เชิญนักวิจัยคนที่ 3 เข้าร่วม แสดงความเห็น แล้วอภิปราย
  3. เชิญนักวิจัยคนที่ 4 เข้าร่วม ทำเช่นเดียวกัน
  4. ดำเนินการจนครบทุกคนแล้วตัดสินใจร่วมกัน

การประยุกต์ใช้ในการนิเทศการศึกษา

ตัวอย่าง: การประชุมวางแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของกลุ่มโรงเรียน

5. การระดมสมอง (Brainstorming)

หลักการ

การสร้างสรรค์ไอเดียอย่างเสรีโดยไม่มีการตัดสินหรือวิจารณ์ในขั้นแรก เน้นปริมาณของไอเดียก่อนคัดกรอง

การประยุกต์ใช้ในงานวิจัย

ตัวอย่าง: การหาแนวทางแก้ไขปัญหาการเรียนการสอนออนไลน์

การประยุกต์ใช้ในการนิเทศการศึกษา

ตัวอย่าง: การหากิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียนในช่วงปิดเทอม

6. วิธีเดลฟาย (Delphi Method)

หลักการ

การรวบรวมความเห็นผู้เชี่ยวชาญหลายรอบจนได้ข้อสรุปที่เป็นฉันทามติ โดยไม่ต้องประชุมแบบเผชิหน้า

การประยุกต์ใช้ในงานวิจัย

ตัวอย่าง: การกำหนดตัวชี้วัดคุณภาพครูในศตวรรษที่ 21

  1. รอบที่ 1: ส่งแบบสอบถามเปิดให้ผู้เชี่ยวชาญ 50 คน เสนอตัวชี้วัด
  2. รอบที่ 2: สรุปตัวชี้วัดจากรอบ 1 ให้ผู้เชี่ยวชาญจัดลำดับความสำคัญ
  3. รอบที่ 3: นำเสนอผลรอบ 2 ให้ปรับปรุงและยืนยันอีกครั้ง
  4. สรุป: ได้ตัวชี้วัดที่ผู้เชี่ยวชาญเห็นพ้องต้องกัน

การประยุกต์ใช้ในการนิเทศการศึกษา

ตัวอย่าง: การกำหนดมาตรฐานการปฏิบัติงานของศึกษานิเทศก์

7. การวิเคราะห์ต้นทุน-ผลประโยชน์ (Cost-Benefit Analysis)

หลักการ

การเปรียบเทียบต้นทุนที่ต้องลงทุนกับผลประโยชน์ที่จะได้รับ เพื่อตัดสินใจว่าโครงการหรือทางเลือกนั้นคุ้มค่าหรือไม่

การประยุกต์ใช้ในงานวิจัย

ตัวอย่าง: การตัดสินใจจัดซื้อซอฟต์แวร์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ

การประยุกต์ใช้ในการนิเทศการศึกษา

ตัวอย่าง: การตัดสินใจจัดอบรมครูด้านเทคโนโลจีการศึกษา

8. แผนภาพกระดูกปลา (Fishbone Diagram)

หลักการ

เครื่องมือวิเคราะห์สาเหตุของปัญหาโดยแสดงความสัมพันธ์เชิงเหตุและผลในรูปแบบคล้ายกระดูกปลา

การประยุกต์ใช้ในงานวิจัย

ตัวอย่าง: การวิเคราะห์สาเหตุของปัญหาการออกกลางคันของนักเรียน

การประยุกต์ใช้ในการนิเทศการศึกษา

ตัวอย่าง: การวิเคราะห์สาเหตุของการไม่บรรลุเป้าหมายคุณภาพการศึกษาของโรงเรียน

9. หมวกคิดหกใบ (Six Thinking Hats)

หลักการ

การมองปัญหาจากมุมมองต่าง ๆ ตามสีหมวก 6 สี โดยแต่ละสีแทนวิธีคิดแบบหนึ่ง

การประยุกต์ใช้ในงานวิจัย

ตัวอย่าง: การประชุมทีมวิจัยเพื่อออกแบบการทดสอบนวัตกรรมการเรียนการสอน

การประยุกต์ใช้ในการนิเทศการศึกษา

ตัวอย่าง: การประเมินโครงการพัฒนาโรงเรียนต้นแบบ

10. เทคนิคกลุ่มนามธรรม (Nominal Group Technique)

หลักการ

การระดมความคิดแบบมีโครงสร้าง โดยผู้เข้าร่วมเขียนไอเดียเป็นรายบุคคลก่อน แล้วจึงนำมาแชร์และโหวต

การประยุกต์ใช้ในงานวิจัy

ตัวอย่าง: การกำหนดปัญหาวิจัยสำหรับโครงการวิจัยชุมชน

  1. สมาชิกแต่ละคนเขียนปัญหาที่สนใจ 5 ข้อ
  2. รวบรวมปัญหาทั้งหมดโดยไม่ระบุชื่อ
  3. อภิปรายและจัดกลุ่มปัญหาที่คล้ายกัน
  4. โหวตเลือกปัญหาที่มีความสำคัญมากที่สุด

การประยุกต์ใช้ในการนิเทศการศึกษา

ตัวอย่าง: การกำหนดประเด็นการพัฒนาครูในเขตพื้นที่การศึกษา

11. การโหวตหลายรอบ (Multi-voting)

หลักการ

การลดตัวเลือกที่มีจำนวนมากให้เหลือตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุดผ่านการโหวตหลายรอบ

การประยุกต์ใช้ในงานวิจัย

ตัวอย่าง: การเลือกตัวแปรสำคัญจาก 20 ตัวแปรสำหรับการวิจัยเชิงปริมาณ

  1. รอบที่ 1: แต่ละคนโหวต 10 ตัวแปร
  2. รอบที่ 2: โหวต 5 ตัวแปรจากที่ได้คะแนนสูงสุด
  3. รอบที่ 3: โหวตขั้นสุดท้าย 3 ตัวแปร

การประยุกต์ใช้ในการนิเทศการศึกษา

ตัวอย่าง: การเลือกโรงเรียนเข้าร่วมโครงการนำร่องจากโรงเรียนในสังกัด 50 แห่ง

12. การวิเคราะห์พาเรโต (80/20 Rule)

หลักการ

หลักการที่ว่า 80% ของผลลัพธ์มาจาก 20% ของสาเหตุ ใช้ในการจัดลำดับความสำคัญและมุ่งเน้นปัจจัยสำคัญ

การประยุกต์ใช้ในงานวิจัย

ตัวอย่าง: การวิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

การประยุกต์ใช้ในการนิเทศการศึกษา

ตัวอย่าง: การปรับปรุงคุณภาพการศึกษา

การเลือกใช้แบบจำลองที่เหมาะสม

สำหรับงานวิจัย

สำหรับการนิเทศการศึกษา

บทสรุป

การใช้แบบจำลองการตัดสินใจที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการทำงานทั้งในด้านการวิจัยและการนิเทศการศึกษา ซึ่งสิ่งสำคัญคือการเลือกแบบจำลองให้สอดคล้องกับลักษณะของปัญหา ระดับความซับซ้อน และบริบทของการตัดสินใจ การฝึกฝนและประยุกต์ใช้แบบจำลองเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอจะช่วยพัฒนาทักษะการตัดสินใจและการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างยั่งยืนในที่สุด

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก Page Lean Six Sigma Global

จาก https://www.facebook.com/share/p/1ALj1BEXJ2/

Comments

comments

Powered by Facebook Comments

Exit mobile version