Site icon Digital Learning Classroom

เจาะลึกบทบาทศึกษานิเทศก์: สู่ความเป็นเลิศทางวิชาชีพ

แชร์เรื่องนี้

เจาะลึกบทบาทศึกษานิเทศก์: สู่ความเป็นเลิศทางวิชาชีพ

ดร.อนุศร หงษ์ขุนทด
ศึกษานิเทศก์ วิทยฐานะศึกษานิเทศก์เชี่ยวชาญ สพม.นครราชสีมา
Musicmankob@gmail.com 17 กันยายน 2568

บทนำ

ในระบบการศึกษาไทย ตำแหน่ง “ศึกษานิเทศก์” หรือที่เรียกโดยย่อว่า “ศน.” มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในฐานะกลไกเชื่อมต่อระหว่างนโยบายการศึกษาระดับชาติกับการปฏิบัติจริงในห้องเรียน ศึกษานิเทศก์ไม่ได้เป็นเพียงผู้ตรวจเยี่ยมหรือผู้ประเมิน แต่เป็นผู้นำทางวิชาการ เป็น “ครูของครู” และเป็น “กัลยาณมิตร” ของสถานศึกษา 1 ที่มีภารกิจในการส่งเสริม สนับสนุน และยกระดับคุณภาพการจัดการเรียนการสอนให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด บทบาทนี้จึงเปรียบเสมือนแกนกลางที่ค้ำจุนและขับเคลื่อนคุณภาพการศึกษาของประเทศให้ก้าวไปข้างหน้า

อย่างไรก็ตาม เส้นทางสู่ตำแหน่งศึกษานิเทศก์และการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนี้เต็มไปด้วยความท้าทายและความซับซ้อน ทั้งในมิติของภาระงานที่หลากหลาย ความคาดหวังจากทุกภาคส่วน และพลวัตของระบบการศึกษาที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ตำแหน่งที่เคยได้รับความสนใจอย่างสูงกลับเผชิญกับภาวะขาดแคลนผู้สมัครในบางพื้นที่ 2 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการทำความเข้าใจบทบาทนี้อย่างลึกซึ้งและรอบด้าน

รายงานฉบับนี้จึงจัดทำขึ้นเพื่อเป็นแนวทางสำหรับบุคลากรทางการศึกษาที่มีความมุ่งมั่นและสนใจในเส้นทางวิชาชีพศึกษานิเทศก์ โดยจะทำการวิเคราะห์อย่างเจาะลึกในทุกมิติ ตั้งแต่การถอดรหัสมาตรฐานตำแหน่งและภาระความรับผิดชอบ การเปรียบเทียบโครงสร้างการทำงานในระดับต่างๆ การสำรวจคุณลักษณะและสมรรถนะที่จำเป็นสำหรับศึกษานิเทศก์ยุคใหม่ ไปจนถึงการฉายภาพเส้นทางความก้าวหน้าทางวิชาชีพ และที่สำคัญที่สุดคือการ “ถอดบทเรียน” จากกรณีศึกษาผลงานวิชาการระดับเชี่ยวชาญ เพื่อให้เห็นกระบวนการคิดและการพัฒนานวัตกรรมที่เป็นรูปธรรม รายงานนี้มุ่งหวังที่จะมอบองค์ความรู้ที่ครอบคลุมและเป็นประโยชน์ เพื่อให้ผู้ที่สนใจสามารถวางแผนและเตรียมความพร้อมสู่การเป็นศึกษานิเทศก์มืออาชีพ ผู้มีส่วนสำคัญในการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพให้กับการศึกษาไทยได้อย่างแท้จริง


ส่วนที่ 1: แก่นแท้ของตำแหน่งศึกษานิเทศก์: บทวิเคราะห์ตามมาตรฐานตำแหน่ง

การทำความเข้าใจตำแหน่งศึกษานิเทศก์ต้องเริ่มต้นจากการวิเคราะห์มาตรฐานตำแหน่งที่กำหนดโดยสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ซึ่งเป็นกรอบการทำงานหลักที่กำหนดทั้งหน้าที่ความรับผิดชอบ คุณสมบัติ และเส้นทางการเข้าสู่ตำแหน่ง มาตรฐานเหล่านี้ไม่เพียงเป็นข้อกำหนดทางกฎหมาย แต่ยังสะท้อนถึงปรัชญาและความคาดหวังที่ระบบการศึกษามีต่อผู้ดำรงตำแหน่งนี้

หน้าที่และความรับผิดชอบหลัก

ตามมาตรฐานกำหนดตำแหน่ง หน้าที่และความรับผิดชอบหลักของศึกษานิเทศก์ครอบคลุม 3 ด้านสำคัญ คือ การนิเทศการศึกษา การส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการศึกษา และการพัฒนาตนเองและวิชาชีพ 3 ซึ่งสามารถขยายความได้ดังนี้

ภารกิจเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าศึกษานิเทศก์ไม่ใช่เพียงผู้ให้คำแนะนำ แต่เป็น “ผู้นำการเปลี่ยนแปลงทางวิชาการ” ที่ต้องทำงานเชิงรุก ตั้งแต่การวิเคราะห์สภาพปัญหา การวางแผนการนิเทศ การสร้างเครื่องมือ ไปจนถึงการติดตามและประเมินผลเพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการพัฒนางานอย่างเป็นระบบ 4

คุณสมบัติและเส้นทางการเข้าสู่ตำแหน่ง

การเข้าสู่ตำแหน่งศึกษานิเทศก์มีกระบวนการคัดเลือกที่เข้มข้นและมีคุณสมบัติเฉพาะที่ชัดเจน เพื่อให้ได้บุคลากรที่มีความพร้อมทั้งในด้านความรู้และประสบการณ์

การวิเคราะห์ข้อดี-ข้อด้อย: โอกาสและความท้าทายในวิชาชีพ

ตำแหน่งศึกษานิเทศก์มีทั้งโอกาสและความท้าทายที่ผู้สนใจควรพิจารณาอย่างรอบด้าน การตัดสินใจเข้าสู่เส้นทางนี้จึงต้องอาศัยการชั่งน้ำหนักระหว่างผลตอบแทนทางวิชาชีพกับความท้าทายในการปฏิบัติงานจริง

ข้อดี (Pros):

ข้อด้อย (Cons):

ภาวะที่ตำแหน่งศึกษานิเทศก์ได้รับความสนใจลดลงในปัจจุบัน 2 ไม่ได้เกิดจากภาระงานที่หนักเพียงอย่างเดียว แต่มีรากฐานมาจากความขัดแย้งเชิงโครงสร้างระหว่าง “เป้าประสงค์ตามมาตรฐานตำแหน่ง” กับ “การปฏิบัติงานจริง” มาตรฐานตำแหน่งได้กำหนดบทบาทของศึกษานิเทศก์ในฐานะผู้นำทางวิชาการที่มุ่งพัฒนาคุณภาพการสอน 1 แต่ในทางปฏิบัติ ระบบบริหารจัดการมักใช้ศึกษานิเทศก์เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนนโยบายและจัดการภารกิจเร่งด่วนของเขตพื้นที่ 13 ความขัดแย้งนี้ส่งผลให้ศึกษานิเทศก์ไม่สามารถทุ่มเทให้กับภารกิจหลักได้อย่างเต็มที่ นำไปสู่ความไม่พึงพอใจในงานของตนเอง และสร้างการรับรู้เชิงลบจากฝั่งครูผู้สอน 14 ซึ่งมองว่าการมาของศึกษานิเทศก์คือการเพิ่มภาระงานมากกว่าการสนับสนุนทางวิชาการ ปรากฏการณ์นี้ได้สร้าง “คอขวด” ที่สำคัญในระบบการศึกษา เพราะกลไกหลักที่จะแปลงนโยบายไปสู่การปฏิบัติในห้องเรียนกำลังถูกเบี่ยงเบนไปทำหน้าที่อื่น ทำให้การปฏิรูปการศึกษาหยั่งรากได้ยากและอาจนำไปสู่ภาวะชะงักงันในการพัฒนาการสอนในภาพรวมของประเทศ

มิติ (Aspect)ข้อดี (Advantage)ข้อด้อย (Disadvantage)
ผลกระทบทางวิชาชีพ (Professional Impact)สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงและยกระดับคุณภาพการศึกษาในวงกว้าง เป็น “ครูของครู” 1ถูกเบี่ยงเบนไปทำงานธุรการและงานนโยบาย ทำให้การนิเทศการสอนซึ่งเป็นภารกิจหลักไม่มีประสิทธิภาพ 13
ความก้าวหน้าในอาชีพ (Career Development)มีเส้นทางวิทยฐานะที่ชัดเจนและได้รับการยอมรับในแวดวงวิชาการ 11การทำผลงานวิชาการมีความซับซ้อนและต้องพึ่งพาผลจากครู การนับเวลาต่อเนื่องอาจมีปัญหา 11
สมดุลงานและชีวิต (Work-Life Balance)มีโอกาสในการพัฒนาตนเองผ่านการอบรมและสร้างเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง 11ภาระงานล้นมือ เดินทางบ่อย ไม่มีช่วงปิดเทอมเหมือนครูผู้สอน 2
ความสัมพันธ์กับสถานศึกษา (Relationship with Schools)สามารถเป็นกัลยาณมิตรและที่ปรึกษาที่ได้รับความไว้วางใจจากครูและผู้บริหาร 11อาจถูกมองว่าเป็นผู้ตรวจสอบหรือผู้สั่งงาน ทำให้เกิดทัศนคติเชิงลบและความร่วมมือลดลง 14
ความเป็นอิสระและความรับผิดชอบ (Autonomy & Responsibility)มีความเป็นอิสระในการวางแผนและออกแบบกระบวนการนิเทศของตนเองต้องรับผิดชอบต่อนโยบายจำนวนมากจากส่วนกลาง ซึ่งอาจจำกัดความเป็นอิสระในการทำงานตามบริบทพื้นที่ 2

ส่วนที่ 2: โครงสร้างและพลวัตการทำงาน: จากนโยบายสู่ห้องเรียน

การทำงานของศึกษานิเทศก์เป็นกระบวนการที่เชื่อมโยงกันหลายระดับ ตั้งแต่การรับนโยบายจากส่วนกลาง การวางแผนและปฏิบัติการในระดับเขตพื้นที่การศึกษา ไปจนถึงการทำงานร่วมกับสถานศึกษาอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกิดการพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างเป็นรูปธรรม

บทบาทในระดับนโยบาย: การขับเคลื่อนภารกิจจาก สพฐ.

ศึกษานิเทศก์คือบุคลากรด่านหน้าที่รับผิดชอบการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญและจุดเน้นจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ไปสู่การปฏิบัติในพื้นที่ 15 พวกเขาทำหน้าที่เป็น “สะพานเชื่อม” ที่สำคัญ โดยต้องมีความสามารถในการตีความและแปลงนโยบายระดับมหภาค เช่น การยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน O-NET, การพัฒนาทักษะการอ่านออกเขียนได้ หรือนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” ให้กลายเป็นแผนปฏิบัติการที่สอดคล้องกับบริบทของแต่ละโรงเรียน 15 ในทางกลับกัน ศึกษานิเทศก์ยังมีหน้าที่รวบรวมข้อมูล สรุป และรายงานผลการดำเนินงานตามนโยบายกลับไปยังหน่วยงานต้นสังกัด 15 ซึ่งเป็นข้อมูลย้อนกลับที่สำคัญในการปรับปรุงและพัฒนานโยบายในอนาคต บทบาทนี้จึงต้องการความเข้าใจอย่างลึกซึ้งทั้งในเจตนารมณ์ของนโยบายและสภาพความเป็นจริงของพื้นที่ปฏิบัติงาน 17

การปฏิบัติงานในระดับเขตพื้นที่การศึกษา

ศูนย์กลางการทำงานของศึกษานิเทศก์อยู่ที่ “กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา” ภายในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 4 ซึ่งมีกระบวนการทำงานที่เป็นระบบและต่อเนื่อง ดังนี้

กลไกความร่วมมือกับสถานศึกษา: หัวใจของการพัฒนา

ประสิทธิผลของการนิเทศไม่ได้ขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญของศึกษานิเทศก์เพียงฝ่ายเดียว แต่ขึ้นอยู่กับคุณภาพของ “ความร่วมมือ” กับสถานศึกษา การนิเทศยุคใหม่ได้เปลี่ยนผ่านจากรูปแบบการตรวจราชการที่เน้นการควบคุมสั่งการ ไปสู่กระบวนการทำงานร่วมกันแบบประชาธิปไตยที่ตั้งอยู่บนฐานของความเป็นกัลยาณมิตร 20

เป้าหมายสูงสุดของกลไกความร่วมมือเหล่านี้ คือการสร้างความเข้มแข็งให้กับ “ระบบนิเทศภายใน” ของสถานศึกษา 15 เพื่อให้โรงเรียนสามารถขับเคลื่อนกระบวนการพัฒนาคุณภาพได้อย่างยั่งยืนด้วยตนเองในระยะยาว 22

ประสิทธิผลของศึกษานิเทศก์ในปัจจุบันจึงขึ้นอยู่กับความสามารถในการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์การทำงานจาก “ผู้ตรวจสอบ” (Auditor) ไปสู่ “ที่ปรึกษาและผู้อำนวยความสะดวก” (Consultant and Facilitator) อย่างสมบูรณ์ รูปแบบการนิเทศแบบดั้งเดิมที่เน้นการประเมินและตัดสินผลกำลังถูกแทนที่ด้วยแนวทางที่เป็นประชาธิปไตยและเน้นการเสริมสร้างศักยภาพจากภายใน การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนให้เห็นว่าบทบาทของศึกษานิเทศก์ได้วิวัฒนาการไปสู่การเป็น “ตัวเร่งปฏิกิริยา” (Catalyst) สำหรับการสร้างวัฒนธรรมการทำงานร่วมกันในโรงเรียน แทนที่จะเป็นเพียงผู้สังเกตการณ์จากภายนอก การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลอย่างลึกซึ้งต่อการคัดเลือกและพัฒนาศึกษานิเทศก์ในอนาคต การเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาวิชาใดวิชาหนึ่งนั้นไม่เพียงพออีกต่อไป แต่ศึกษานิเทศก์ยุคใหม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านพลวัตของมนุษย์ การอำนวยความสะดวกในกลุ่ม และการบริหารการเปลี่ยนแปลง หากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาใดไม่สามารถสนับสนุนการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์นี้ได้ ศึกษานิเทศก์ในสังกัดก็จะประสบปัญหาในการสร้างความร่วมมือกับสถานศึกษา นำไปสู่การปฏิบัติงานเพียงเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบ แต่ไม่เกิดการพัฒนาการสอนอย่างแท้จริง


ส่วนที่ 3: บุคลิกภาพและสมรรถนะ: ใครคือผู้ที่เหมาะสมกับตำแหน่งศึกษานิเทศก์

การเป็นศึกษานิเทศก์ที่มีประสิทธิภาพไม่ได้อาศัยเพียงความรู้ทางวิชาการ แต่ยังต้องการคุณลักษณะส่วนบุคคลและชุดทักษะที่เหมาะสม เพื่อให้สามารถสร้างความน่าเชื่อถือ สร้างแรงบันดาลใจ และทำงานร่วมกับบุคลากรทางการศึกษาได้อย่างราบรื่น

คุณลักษณะที่พึงประสงค์: จากงานวิจัยสู่การปฏิบัติ

งานวิจัยจำนวนมากได้สรุปคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของศึกษานิเทศก์ ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นมิติต่างๆ ได้ดังนี้

ทักษะและความรู้แห่งศตวรรษที่ 21

นอกเหนือจากคุณลักษณะส่วนบุคคล ศึกษานิเทศก์ยุคใหม่จำเป็นต้องมีสมรรถนะและทักษะที่เฉพาะเจาะจง เพื่อรับมือกับความท้าทายของการศึกษาในศตวรรษที่ 21

จะเห็นได้ว่าสมรรถนะที่จำเป็นสำหรับศึกษานิเทศก์ได้เกิดวิวัฒนาการที่สำคัญ จากเดิมที่เน้นการเป็น “ผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหา” (Content Expert) ไปสู่การเป็น “ผู้เชี่ยวชาญด้านกระบวนการและระบบ” (Process and Systems Expert) แม้ความรู้เชิงลึกในสาขาวิชาจะยังคงเป็นรากฐานที่สำคัญ แต่ศึกษานิเทศก์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในยุคปัจจุบันคือผู้ที่เชี่ยวชาญใน “กระบวนการ” ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการพัฒนาครู, กระบวนการพัฒนาโรงเรียน, หรือกระบวนการขับเคลื่อนนโยบายในระบบการศึกษาที่ซับซ้อน การเปลี่ยนแปลงนี้อาจบ่งชี้ถึงความไม่สอดคล้องกันระหว่างสมรรถนะที่ต้องการกับกระบวนการคัดเลือกและพัฒนาศึกษานิเทศก์ในปัจจุบัน ระบบอาจยังคงให้ความสำคัญกับประสบการณ์การสอนในสาขาใดสาขาหนึ่งมากเกินไป ในขณะที่อาจประเมินค่าของทักษะด้านการเรียนรู้ของผู้ใหญ่ (Adult Learning), การพัฒนาองค์กร, และภาวะผู้นำที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-driven Leadership) ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น เพื่อสร้างกองทัพศึกษานิเทศก์แห่งศตวรรษที่ 21 ที่มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง จำเป็นอย่างยิ่งที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องทบทวนและปรับปรุงโมเดลสมรรถนะเพื่อให้น้ำหนักกับทักษะเชิงกระบวนการเหล่านี้มากขึ้นทั้งในขั้นตอนการสรรหาและการพัฒนาต่อเนื่อง

ด้าน (Competency Domain)สมรรถนะ (Specific Competency)ความสำคัญต่อบทบาท (Relevance to Supervisor’s Role)
ภาวะผู้นำทางวิชาการ (Academic Leadership)ความเชี่ยวชาญด้านหลักสูตร การสอน และการประเมินผล 13สร้างความน่าเชื่อถือและสามารถให้คำแนะนำเชิงลึกแก่ครูและผู้บริหารได้
การคิดเชิงวิเคราะห์ สังเคราะห์ และวิจารณญาณ 27สามารถวิเคราะห์ปัญหานโยบายและสภาพหน้างานเพื่อออกแบบการนิเทศที่ตรงจุด
มนุษยสัมพันธ์และการสื่อสาร (Interpersonal & Communication)การฟังอย่างลึกซึ้งและการโค้ชเพื่อการสะท้อนคิด 27สร้างความไว้วางใจและกระตุ้นให้ครูค้นพบแนวทางการพัฒนาด้วยตนเอง
การสื่อสารอย่างสร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพ 27สามารถถ่ายทอดนโยบายที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่าย และให้ข้อมูลป้อนกลับที่ไม่ทำลายขวัญกำลังใจ
การวิจัยและการใช้ข้อมูล (Research & Data Literacy)การนิเทศโดยใช้การวิจัยเป็นฐาน (Research-based Supervision) 28ทำให้การนิเทศมีหลักการทางวิชาการรองรับและเพิ่มโอกาสความสำเร็จ
การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจ 18สามารถใช้ข้อมูลผลสัมฤทธิ์และข้อมูลเชิงคุณภาพเพื่อระบุความต้องการและวางแผนการนิเทศได้อย่างแม่นยำ
เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital & Technological Fluency)การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและ AI ในการปฏิบัติงาน 13เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดภาระงานเอกสาร และสร้างนวัตกรรมการนิเทศที่ทันสมัย
การส่งเสริมให้ครูใช้เทคโนโลยีในการจัดการเรียนรู้ช่วยยกระดับคุณภาพการสอนให้สอดคล้องกับทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21
จรรยาบรรณวิชาชีพ (Professional & Ethical Practice)การมีวินัย คุณธรรม จริยธรรม และความเป็นกัลยาณมิตร 3เป็นรากฐานสำคัญในการสร้างศรัทธาและความร่วมมือจากผู้รับการนิเทศ
การพัฒนาตนเองและวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง 3ทำให้ศึกษานิเทศก์มีความรู้และทักษะที่ทันสมัย สามารถนำการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ส่วนที่ 4: เส้นทางความก้าวหน้าทางวิชาชีพและการพัฒนาตนเอง

เส้นทางความก้าวหน้าในวิชาชีพศึกษานิเทศก์ถูกกำหนดไว้อย่างเป็นระบบผ่านลำดับขั้นของวิทยฐานะ ซึ่งการจะไต่เต้าขึ้นไปในแต่ละระดับนั้นจำเป็นต้องอาศัยการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง โดยมี “ข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement: PA)” เป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนและประเมินผล

ลำดับขั้นวิทยฐานะ

วิทยฐานะของศึกษานิเทศก์เป็นเครื่องหมายแสดงถึงระดับความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในวิชาชีพ โดยแบ่งออกเป็น 4 ระดับหลัก 12:

  1. ศึกษานิเทศก์ชำนาญการ (Practitioner)
  2. ศึกษานิเทศก์ชำนาญการพิเศษ (Senior Practitioner)
  3. ศึกษานิเทศก์เชี่ยวชาญ (Expert)
  4. ศึกษานิเทศก์เชี่ยวชาญพิเศษ (Senior Expert)

การเลื่อนขึ้นสู่ระดับที่สูงขึ้นต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน ได้แก่ ระยะเวลาการดำรงตำแหน่งในวิทยฐานะเดิม, ผลการปฏิบัติงานตามข้อตกลง (PA), และที่สำคัญสำหรับวิทยฐานะระดับเชี่ยวชาญขึ้นไป คือการมี “ผลงานทางวิชาการ” ที่มีคุณภาพและแสดงให้เห็นถึงการสร้างองค์ความรู้ใหม่หรือนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อการนิเทศการศึกษา 12

แนวทางการพัฒนาตนเองและบทบาทของข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA)

ข้อตกลงในการพัฒนางาน หรือ PA เป็นกลไกหลักที่ ก.ค.ศ. กำหนดขึ้นเพื่อใช้ในการประเมินผลการปฏิบัติงาน การคงวิทยฐานะ และการขอเลื่อนวิทยฐานะ 32 สำหรับศึกษานิเทศก์ PA จะครอบคลุมการปฏิบัติงาน 3 ด้านหลัก ซึ่งสอดคล้องกับหน้าที่ความรับผิดชอบตามมาตรฐานตำแหน่ง 31:

PA จึงเป็นเครื่องมือที่บังคับให้ศึกษานิเทศก์ต้องวางแผนการพัฒนาตนเองและพัฒนางานอย่างเป็นระบบในทุกปีงบประมาณ การพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง (Upskill/Reskill) ถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในยุคที่องค์ความรู้และเทคโนโลยีทางการศึกษาเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว 11 ศึกษานิเทศก์ที่ประสบความสำเร็จคือผู้ที่ไม่หยุดนิ่งในการเรียนรู้ แสวงหาองค์ความรู้ใหม่ๆ เข้าร่วมเครือข่ายแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาชีพ 11 และสามารถนำความรู้ที่ได้มาประยุกต์ใช้ในการพัฒนานวัตกรรมการนิเทศของตนเอง เป้าหมายสูงสุดของการพัฒนานี้คือการเปลี่ยนบทบาทจากผู้ให้คำแนะนำ (Advisor) ไปสู่การเป็น “ผู้นำการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบ” (System Change Leader) ที่สามารถใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีเป็นฐานในการขับเคลื่อนคุณภาพการศึกษาได้อย่างแท้จริง 18

แม้ว่าระบบ PA จะถูกออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการพัฒนา แต่ในทางปฏิบัติก็อาจก่อให้เกิดผลกระทบที่ไม่ตั้งใจได้ กล่าวคือ ระบบนี้อาจส่งเสริมให้เกิดการมุ่งเน้นที่ “การปฏิบัติตามข้อกำหนดเชิงบริหาร” มากกว่า “การสร้างผลกระทบที่แท้จริงต่อการสอน” หากการบริหารจัดการไม่รัดกุม เนื่องจาก PA กำหนดให้ศึกษานิเทศก์ต้องจัดทำเอกสารหลักฐานเพื่อแสดงผลการปฏิบัติงานตามตัวชี้วัดต่างๆ 31 จึงเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็วกว่าที่จะรวบรวมหลักฐานที่เกิดจาก “ผลผลิต” (Outputs) ที่จับต้องได้ เช่น รายงานการประชุม, จำนวนครั้งที่ลงพื้นที่, หรือเอกสารโครงการ มากกว่าการวัดและจัดทำหลักฐานที่สะท้อน “ผลลัพธ์” (Outcomes) ที่แท้จริง ซึ่งเป็นนามธรรมและต้องใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล เช่น การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการสอนของครู หรือพัฒนาการในการเรียนรู้ของนักเรียน สถานการณ์นี้สร้างแรงกดดันเชิงระบบให้ศึกษานิเทศก์เลือกทำภารกิจที่สามารถสร้างเอกสารรายงานได้ง่าย เพื่อให้ผ่านการประเมิน PA ซึ่งอาจต้องแลกมาด้วยการลดทอนเวลาและพลังงานที่จะใช้ในงานที่ซับซ้อนและต้องใช้ความทุ่มเทสูงอย่างการโค้ชและการสร้างศักยภาพครูในระยะยาว ดังนั้น เพื่อให้ระบบ PA เป็นกลไกขับเคลื่อนคุณภาพอย่างแท้จริง ตัวชี้วัดและเกณฑ์การประเมินสำหรับศึกษานิเทศก์จำเป็นต้องได้รับการพัฒนาให้สามารถสะท้อนผลกระทบเชิงคุณภาพได้มากขึ้น เช่น การใช้กรณีศึกษา (Case Study) การพัฒนาครู, การวิเคราะห์แฟ้มผลงานนักเรียน, หรือการใช้ข้อมูลสะท้อนกลับจากสถานศึกษามาประกอบการประเมิน หากไม่มีการปรับเปลี่ยนนี้ ระบบ PA ก็อาจกลายเป็นอีกหนึ่งภาระงานเอกสารที่ดึงศึกษานิเทศก์ให้ออกห่างจากภารกิจหลักของตนเอง และยิ่งซ้ำเติมปัญหาความขัดแย้งในบทบาทที่ได้กล่าวไว้ในตอนต้น


ส่วนที่ 5: เจาะลึกผลงานวิชาการระดับเชี่ยวชาญ: กรณีศึกษาและกระบวนการถอดบทเรียน

การก้าวสู่ตำแหน่ง “ศึกษานิเทศก์เชี่ยวชาญ” ถือเป็นจุดหมายสำคัญในเส้นทางวิชาชีพ ซึ่งหัวใจของการประเมินในระดับนี้คือ “ผลงานทางวิชาการ” ที่มีคุณภาพสูง การทำความเข้าใจกระบวนการสร้างสรรค์ผลงานเหล่านี้ผ่านการถอดบทเรียนจากกรณีศึกษาจริง จะช่วยให้ผู้ที่สนใจเห็นภาพที่ชัดเจนและสามารถวางแนวทางการพัฒนางานของตนเองได้อย่างมีทิศทาง

ภาพรวมของผลงานวิชาการเพื่อเลื่อนวิทยฐานะ

ตามหลักเกณฑ์ของ ก.ค.ศ. การขอเลื่อนเป็นวิทยฐานะศึกษานิเทศก์เชี่ยวชาญ กำหนดให้ผู้ขอต้องมีผลงานทางวิชาการจำนวน 1 รายการ ซึ่งต้องเป็น “ผลงานวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนาการนิเทศการศึกษา” หรือ “นวัตกรรมการนิเทศการศึกษา” 31 ผลงานดังกล่าวต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติงานที่คาดหวังตามมาตรฐานวิทยฐานะ และต้องจัดทำในรูปแบบไฟล์ PDF เพื่อเสนอเข้าระบบการประเมิน 31 ผลงานนี้จึงไม่ใช่เพียงรายงานการปฏิบัติงานทั่วไป แต่ต้องเป็นงานที่ผ่านกระบวนการศึกษาค้นคว้าอย่างเป็นระบบ มีการสร้างองค์ความรู้ใหม่ หรือพัฒนานวัตกรรมที่สามารถนำไปใช้แก้ปัญหาและพัฒนาคุณภาพการศึกษาได้อย่างเป็นรูปธรรม 12

กรณีศึกษาที่ 1: การพัฒนารูปแบบการนิเทศเพื่อส่งเสริมความสามารถของครู

กระบวนการถอดบทเรียน

การพัฒนานวัตกรรมลักษณะนี้มักใช้กระบวนการวิจัยและพัฒนา (Research and Development: R&D) ซึ่งสามารถถอดบทเรียนตามหลักการ “Why-How-What-Impact” ได้ดังนี้

  1. Why (เหตุผลและความจำเป็น):
  1. How (กระบวนการวิจัยและพัฒนา):
  1. What (นวัตกรรมที่เกิดขึ้น):
  1. Impact (ผลกระทบที่เกิดขึ้น):

กรณีศึกษาที่ 2: การพัฒนาครูผ่านนวัตกรรมคู่มือการจัดการเรียนรู้

ชื่องาน: การพัฒนาครูผู้สอนด้านการจัดการเรียนรู้ที่เน้นทักษะการวิเคราะห์ โดยใช้คู่มือฝึกอบรมการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นทักษะการวิเคราะห์ 36

ผู้จัดทำ: นางจันทรา ด่านคงรักษ์

ประเภทผลงาน: นวัตกรรมการนิเทศการศึกษา (คู่มือและกระบวนการฝึกอบรม)

กระบวนการถอดบทเรียน

ผลงานชิ้นนี้มุ่งเน้นการสร้างเครื่องมือที่เป็นรูปธรรม (คู่มือ) เพื่อใช้ในการพัฒนาครู ซึ่งสามารถถอดบทเรียนได้ดังนี้

  1. Why (เหตุผลและความจำเป็น):
  1. How (กระบวนการวิจัยและพัฒนา):

กระบวนการพัฒนานวัตกรรมชิ้นนี้สามารถมองผ่านกรอบแนวคิด “SALA” (Show, Learn, Apply, Reflect) ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติที่ทันสมัยในการพัฒนาบุคลากร 18 ได้อย่างชัดเจน

  1. What (นวัตกรรมที่เกิดขึ้น):
  1. Impact (ผลกระทบที่เกิดขึ้น):

การถอดบทเรียนจากทั้งสองกรณีศึกษาแสดงให้เห็นว่า การสร้างผลงานวิชาการระดับเชี่ยวชาญของศึกษานิเทศก์นั้น มีหัวใจอยู่ที่การมองเห็น “ปัญหา” หรือ “ความต้องการ” ในพื้นที่ แล้วใช้ “กระบวนการวิจัยและพัฒนา” ที่เป็นระบบในการสร้างสรรค์ “นวัตกรรม” ที่สามารถแก้ไขปัญหาและสร้าง “ผลกระทบ” เชิงบวกต่อคุณภาพการศึกษาได้อย่างแท้จริง


บทสรุป

ตำแหน่งศึกษานิเทศก์เป็นบทบาทที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อระบบการศึกษาไทย เป็นจุดเชื่อมต่อที่ขาดไม่ได้ระหว่างนโยบายระดับชาติและการปฏิบัติในชั้นเรียน จากการวิเคราะห์อย่างรอบด้านจะเห็นได้ว่าบทบาทนี้มีลักษณะสองด้านที่เด่นชัด ด้านหนึ่งคือศักยภาพในการสร้างผลกระทบเชิงบวกในวงกว้าง สามารถยกระดับคุณภาพการสอนและเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงทางวิชาการได้อย่างแท้จริง แต่อีกด้านหนึ่งก็ต้องเผชิญกับความท้าทายเชิงระบบที่หนักหน่วง ทั้งภาระงานที่หลากหลายเกินขอบเขต ความคาดหวังที่สูงจากทุกฝ่าย และความขัดแย้งระหว่างภารกิจหลักด้านการนิเทศกับภาระงานด้านบริหารและนโยบายที่มักเข้ามาเบียดบังเวลาและทรัพยากร

สำหรับบุคลากรทางการศึกษาที่กำลังพิจารณาเส้นทางนี้ ข้อเสนอที่มีคุณค่าที่สุดจากรายงานฉบับนี้คือ การตระหนักว่าการเป็นศึกษานิเทศก์ที่ประสบความสำเร็จในยุคปัจจุบันนั้นต้องการมากกว่าความเชี่ยวชาญในสาขาวิชา แต่ต้องการส่วนผสมที่ลงตัวของ ภาวะผู้นำทางวิชาการ, ทักษะการสื่อสารและความเป็นกัลยาณมิตร, ความสามารถในการวิจัยและใช้ข้อมูล, และความคล่องตัวในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ผู้ที่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้คือบุคคลที่มีความยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนบทบาทจากผู้ให้ความรู้เป็นผู้โค้ช จากผู้ตรวจสอบเป็นผู้อำนวยความสะดวก และจากผู้ตามนโยบายเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบ

อนาคตของการศึกษาไทยขึ้นอยู่กับความสามารถในการสร้างและพัฒนาศึกษานิเทศก์รุ่นใหม่ที่มีพลวัต ขับเคลื่อนการทำงานด้วยข้อมูล และมีหัวใจของการทำงานร่วมกัน บุคคลเหล่านี้คือผู้ที่จะสามารถนำพาครูและสถานศึกษาให้ก้าวข้ามความท้าทาย และสร้างสรรค์การเรียนรู้ที่มีคุณภาพเพื่อผู้เรียนได้อย่างยั่งยืน แม้เส้นทางนี้จะเต็มไปด้วยอุปสรรค แต่สำหรับผู้ที่มีความมุ่งมั่นและมีคุณสมบัติที่เหมาะสมแล้ว ตำแหน่งศึกษานิเทศก์ยังคงเป็นหนึ่งในเส้นทางอาชีพที่ทรงคุณค่าและสร้างความภาคภูมิใจได้มากที่สุดในวงการศึกษา เพราะนี่คือการเปลี่ยนจากการสร้างอนาคตของเด็กในห้องเรียน ไปสู่การสร้างอนาคตทางการศึกษาของทั้งภูมิภาค

ผลงานที่อ้างอิง

  1. โครงการศึกษานิเทศก์ดีของแผ่นดิน, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 15, 2025  https://www.thaisuprateacher.org/project/โครงการศึกษานิเทศก์ดีข/
  2. ก.ค.ศ.ถกแนวทางความก้าวหน้าวิชาชีพศึกษานิเทศก์, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 15, 2025 https://sobkroo.com/articledetail.asp?id=14152
  3. มาตรฐานกำหนดตำแหน่ง – ศึกษานิเทศก์, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 15, 2025 http://hr2.chpao.org/wp-content/pdf/มาตรฐานกำหนดตำแหน่งศึกษานิเทศก์.pdf
  4. คู่มือการปฏิบัติงานศึกษานิเทศก์, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 15, 2025 https://www.nsw2.go.th/wp/wp-content/uploads/2023/06/ma-june.pdf
  5. คู่มือปฏิบัติงานตำแหน่งศึกษานิเทศก์ฉบับนี้ จัดทำขึ้นเพื่อเป็นคู่มือการปฏิบัติงานในหน้าที่ – สพป.พังงา, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 15, 2025 https://www.phangngaedarea.go.th/site/wp-content/uploads/ita/67/O10/supervision/นต.-พจมาศ.pdf
  6. บทบาทหน้าที่ของ ศน. – กลุ่มนิเทศ ติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา สพป.อุทัยธานี เขต ๑, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 15, 2025 https://spv.utt1.go.th/hom/บทบาทหนาทของ-ศน
  7. การกำหนดตำแหน่งอื่นที่ ก.ค.ศ. เทียบเท่าเป็นคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง », เข้าถึงเมื่อ กันยายน 15, 2025 https://krukob.com/web/v9-5/
  8. ประกาศคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดตรัง – เรื่อง การคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำาแหน่งศึกษานิเทศก์, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 15, 2025 ประกาศคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดตรัง – เรื่อง การคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำาแหน่งศึกษานิเทศก์
  9. Untitled – กลุ่มบริหารงานบุคคล, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 15, 2025 https://personnel.seapt.go.th/wp-content/uploads/2025/03/รวมหลักเกณฑ์.pdf
  10. EP: 6 หลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งศึกษานิเทศก์, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 15, 2025 https://www.youtube.com/watch?v=yXjmbjf0kWw
  11. แนวทางการพัฒนาศึกษานิเทศก์ในมุมมองของครูผู้สอนในยุคของการ …, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 15, 2025 https://krukob.com/web/sv-11/
  12. ทางก้าวหน้าของศึกษานิเทศก์ 2539, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 15, 2025 www.nsdv.go.th/www2019/attachments/241_ทางก้าวหน้าของ2539.pdf
  13. ศึกษานิเทศก์ 4.0 เพิ่มพูนศักยภาพตนเองอย่างไร – สพป.พัทลุง เขต 1, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 15, 2025 ศึกษานิเทศก์ 4.0 เพิ่มพูนศักยภาพตนเองอย่างไร
  14. ศึกษานิเทศก์มีหน้าที่อะไรบ้าง ทำไมเห็นบางคนชอบทำตัวเป็นเจ้านายสั่งงานครูคะ ? – Pantip, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 15, 2025 https://pantip.com/topic/42388819
  15. ขอบข่ายงานของศึกษานิเทศก์สู่การปฏิบัติ (ตอนที่ 2) » – Digital Learning Classroom, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 15, 2025 https://krukob.com/web/sv-9/
  16. หน่วยศึกษานิเทศก์ – ฐานข้อมูลศึกษานิเทศก์, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 15, 2025 https://www.esdc.name/esdc2022/pages/index.php
  17. “บทบาทของศึกษานิเทศก์ ในการนิเทศการศึกษาสู่การพัฒนาคุณภาพผู้เรียนตามนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” – YouTube, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 15, 2025 https://www.youtube.com/watch?v=6yCzIztlY8w
  18. ถอดบทเรียนและต่อยอดองค์ความรู้: AI พลิกโฉมการนิเทศ สู่การศึกษาไทยที่ …, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 15, 2025 https://krukob.com/web/sv-23/
  19. แนวทางการนิเทศบูรณาการโดยใช้พื้นที่เป็นฐาน, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 15, 2025 http://web.kalasin3.go.th/web/news_file/p53183481951.pdf
  20. การนิเทศการศึกษา* – Educational Supervision – ThaiJO, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 15, 2025 https://so07.tci-thaijo.org/index.php/JMCR/article/download/1911/1301/9292
  21. รับชมย้อนหลัง ห้องเรียนอารมณ์ดี : ความสำเร็จและความก้าวหน้าของศึกษานิเทศก์ คืออะไร – YouTube, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 15, 2025 https://www.youtube.com/watch?v=YiOzVB_xXx0
  22. รูปแบบการนิเทศด้วยเครือข่ายความร่วมมือเพื่ – มหาวิทยาลัยนเรศวร, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 15, 2025 https://nuir.lib.nu.ac.th/dspace/bitstream/123456789/3380/3/61030440.pdf
  23. การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสมรรถนะในการปฏิบัติหน้าที่ของ …, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 15, 2025 https://fulltext.rmu.ac.th/fulltext/2558/116324/Chapter%204.pdf
  24. คุณลักษณะความเป็นกัลยาณมิตรของศึกษานิเทศก์ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 15, 2025 https://so05.tci-thaijo.org/index.php/tgt/article/view/110883
  25. เรื่องที่ 3.3 การพัฒนาภาพลักษณ์ของศึกษานิเทศก์, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 15, 2025 http://118.174.134.188/TEPE/D13/subject04/content8/index.php
  26. การพัฒนาตัวบ่งชี้สมรรถนะการปฏิบัติงานของศึกษานิเทศก์ กลุ่มงานวัดและประเมินผลการศึกษา – Burapha University Research Information – มหาวิทยาลัยบูรพา, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 15, 2025 https://buuir.buu.ac.th/bitstream/1234567890/6930/1/Fulltext.pdf
  27. ศึกษานิเทศก์ – WE Space, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 15, 2025 https://wespace.in.th/explore/career/E0301.00
  28. สมรรถนะการนิเทศการศึกษาของศึกษานิเทศก์ในศตวรรษที่ 21 – thaijo.org, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 15, 2025 https://so04.tci-thaijo.org/index.php/JAPDEAT/article/download/252224/177059/995413
  29. 1. ผลที่เกิดจากการนิเทศ ค้นพบวิธีการพัฒนาครูให้มีความกระตือรือร้นใส่ใจในการจัดการเรียนรู้, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 15, 2025 http://www.mkarea3.go.th/mk3/file/ID-Plan/ID-Plan-supervisors.pdf
  30. ประเภท บุคลากรทางการศึกษา – สายงาน นิเทศการศึกษา, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 15, 2025 https://www.chaechangsao.go.th/index/add_file/tfhoP1xWed40149.pdf
  31. แนวทำงกำรด ำเนินกำร, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 15, 2025 แนวทำงกำรด ำเนินกำร
  32. แนวทางการดำเนินการ (ว.PA) ตำแหน่งศึกษานิเทศก์ – PubHTML5, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 15, 2025 https://pubhtml5.com/jibv/kjih/
  33. การพัฒนาศึกษานิเทศก์สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเพื่อรองรับหลักสูตรฐานสมรรถนะ และการ – DSpace at Silpakorn University, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 15, 2025 http://ithesis-ir.su.ac.th/dspace/bitstream/123456789/5385/1/61252918.pdf
  34. – เผยแพร่ผลงานทางวิชาการ เรื่อง รายงานผลการใช้คู่มือนิเทศการจัดการศึกษาเรียนรวมของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาชลบุรี ระยอง ของ นางสาวศมณณ์ญา บุญประสพ ตำแหน่งศึกษานิเทศก์ และเรื่องการพัฒนารูปแบบการนิเทศเพื่อส่งเสริมความสามารถในการพัฒนาหลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติมของครู ในพื้นที่, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 15, 2025 https://www.sesapy.go.th/release/1711/
  35. (10) แนวทางการดำเนินกิจกรรม _ถอดบทเรียน – AnyFlip, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 15, 2025 https://anyflip.com/gykef/zywt/basic
  36. ก.ค.ศ.อนุมัติวิทยฐานะเชี่ยวชาญ 14 ราย | PDF – SlideShare, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 15, 2025 https://www.slideshare.net/slideshow/14-62692086/62692086

Comments

comments

Powered by Facebook Comments

Exit mobile version