VASK: องค์ประกอบของสมรรถนะและการบูรณาการกับทักษะแห่งศตวรรษที่ 21
VASK คืออะไร
VASK เป็นกรอบแนวคิดสำหรับการพัฒนาสมรรถนะ (Competency) ของผู้เรียนในหลักสูตรฐานสมรรถนะ โดยคำว่า VASK เป็นตัวย่อที่มาจากองค์ประกอบสำคัญ 4 ด้านของสมรรถนะ ได้แก่:
- V – Values (ค่านิยม): การตระหนักถึงคุณค่า ความสำคัญ และประโยชน์ของสิ่งที่เรียนรู้ รวมถึงการเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น
- A – Attitudes (เจตคติ): ความรู้สึก ความคิดเห็น ความสนใจ และท่าทีที่มีต่อสิ่งที่เรียนรู้ รวมถึงแรงจูงใจและความพร้อมที่จะเรียนรู้
- S – Skills (ทักษะ): ความสามารถและความชำนาญในการปฏิบัติ การลงมือทำ การประยุกต์ใช้ความรู้ในสถานการณ์ต่าง ๆ
- K – Knowledge (ความรู้): ความเข้าใจในเนื้อหา หลักการ ทฤษฎี แนวคิด และข้อเท็จจริงต่าง ๆ
แนวคิด VASK มีพื้นฐานมาจากทฤษฎีการเรียนรู้แบบองค์รวม (Holistic Learning) ที่มองว่าการเรียนรู้ที่แท้จริงและยั่งยืนต้องพัฒนาผู้เรียนในทุกมิติ ไม่ใช่เพียงแค่การถ่ายทอดความรู้เท่านั้น การพัฒนาสมรรถนะตามกรอบ VASK จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถนำสิ่งที่เรียนรู้ไปใช้ในชีวิตจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความหมาย
ความสำคัญของ VASK ในหลักสูตรฐานสมรรถนะ
ในหลักสูตรฐานสมรรถนะ (Competency-Based Curriculum) การพัฒนาองค์ประกอบ VASK มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจาก:
- การเรียนรู้ที่ลึกซึ้ง: การพัฒนา VASK ช่วยให้เกิดการเรียนรู้ที่ลึกซึ้งและยั่งยืน ไม่ใช่เพียงการท่องจำเนื้อหาเพื่อสอบ
- การเชื่อมโยงกับชีวิตจริง: ผู้เรียนสามารถเชื่อมโยงสิ่งที่เรียนรู้กับชีวิตจริง เห็นคุณค่าและประโยชน์ของการเรียนรู้
- การพัฒนาที่สมดุล: พัฒนาผู้เรียนอย่างสมดุลทั้งด้านความรู้ ทักษะ เจตคติ และค่านิยม
- การประเมินที่ครอบคลุม: การประเมินสมรรถนะตามกรอบ VASK ช่วยให้เห็นพัฒนาการของผู้เรียนได้อย่างรอบด้าน
แนวทางการพัฒนา VASK บูรณาการกับทักษะแห่งศตวรรษที่ 21
การบูรณาการการพัฒนา VASK กับทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 เป็นแนวทางสำคัญในการจัดการศึกษาที่ตอบสนองต่อความท้าทายและความต้องการในโลกปัจจุบัน ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ที่สำคัญ ได้แก่ ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม ทักษะสารสนเทศ สื่อ และเทคโนโลยี และทักษะชีวิตและอาชีพ (3Rs และ 7Cs) ซึ่งสามารถบูรณาการกับการพัฒนา VASK ได้ดังนี้
1. การพัฒนาค่านิยม (Values) ในบริบทของทักษะแห่งศตวรรษที่ 21
- ค่านิยมด้านความร่วมมือ: ส่งเสริมให้ผู้เรียนเห็นคุณค่าของการทำงานร่วมกับผู้อื่น การรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง และการสร้างสรรค์ผลงานร่วมกัน
- ค่านิยมด้านนวัตกรรม: ปลูกฝังให้ผู้เรียนเห็นคุณค่าของความคิดสร้างสรรค์ การสร้างนวัตกรรม และการพัฒนาสิ่งใหม่ๆ
- ค่านิยมด้านจริยธรรมดิจิทัล: ส่งเสริมให้ผู้เรียนตระหนักถึงความสำคัญของการใช้เทคโนโลยีอย่างมีจริยธรรม การเคารพลิขสิทธิ์ และการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล
- ค่านิยมด้านความเป็นพลเมืองโลก: ปลูกฝังค่านิยมของการเป็นพลเมืองที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมในบริบทโลก
แนวทางการพัฒนา:
- จัดกิจกรรมที่ให้ผู้เรียนได้อภิปรายและสะท้อนคิดเกี่ยวกับค่านิยมที่สำคัญในศตวรรษที่ 21
- ใช้กรณีศึกษาและสถานการณ์จำลองที่เกี่ยวข้องกับประเด็นทางจริยธรรมในโลกดิจิทัล
- ส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านโครงงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาในชุมชนและสังคม
2. การพัฒนาเจตคติ (Attitudes) ในบริบทของทักษะแห่งศตวรรษที่ 21
- เจตคติต่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต: ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความกระตือรือร้น สนใจใฝ่รู้ และพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ตลอดชีวิต
- เจตคติต่อความผิดพลาด: พัฒนาเจตคติที่ดีต่อความผิดพลาด มองว่าเป็นโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนา (Growth Mindset)
- เจตคติต่อความหลากหลาย: ส่งเสริมการเปิดกว้างและยอมรับความแตกต่างหลากหลายทางวัฒนธรรม ความคิด และวิถีชีวิต
- เจตคติต่อการเปลี่ยนแปลง: พัฒนาเจตคติที่ดีต่อการเปลี่ยนแปลง การปรับตัว และการเผชิญกับความไม่แน่นอน
แนวทางการพัฒนา:
- จัดกิจกรรมที่ท้าทายและกระตุ้นให้ผู้เรียนออกจากพื้นที่ปลอดภัย (Comfort Zone)
- ใช้การเรียนรู้แบบโครงงานที่ต้องเผชิญกับอุปสรรคและการแก้ปัญหา
- สร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่ปลอดภัย ไม่ต่อต้านความผิดพลาด และส่งเสริมการทดลอง
3. การพัฒนาทักษะ (Skills) ในบริบทของทักษะแห่งศตวรรษที่ 21
- ทักษะการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหา: พัฒนาความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูล การให้เหตุผล และการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์
- ทักษะการสื่อสาร: พัฒนาความสามารถในการสื่อสารทั้งการพูด การฟัง การอ่าน และการเขียน รวมถึงการสื่อสารในบริบทดิจิทัล
- ทักษะการทำงานร่วมกัน: พัฒนาความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น การประสานงาน และการจัดการความขัดแย้ง
- ทักษะการใช้เทคโนโลยี: พัฒนาความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพและมีจริยธรรม
แนวทางการพัฒนา:
- ใช้การเรียนรู้แบบ Active Learning ที่เน้นการลงมือปฏิบัติ
- จัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน (Project-Based Learning) ที่ผู้เรียนต้องใช้ทักษะหลากหลาย
- ใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้และสร้างสรรค์ผลงาน
- จัดกิจกรรมที่ส่งเสริมการทำงานเป็นทีมและการแก้ปัญหาร่วมกัน
4. การพัฒนาความรู้ (Knowledge) ในบริบทของทักษะแห่งศตวรรษที่ 21
- ความรู้พื้นฐานในสาขาวิชาหลัก: พัฒนาความเข้าใจในเนื้อหาสาระของวิชาหลัก ซึ่งยังคงมีความสำคัญในศตวรรษที่ 21
- ความรู้ข้ามศาสตร์: พัฒนาความเข้าใจในการเชื่อมโยงความรู้จากหลากหลายสาขาวิชา (Interdisciplinary Knowledge)
- ความรู้เท่าทันสื่อและสารสนเทศ: พัฒนาความเข้าใจในการวิเคราะห์ ประเมิน และสร้างสรรค์สื่อและสารสนเทศ
- ความรู้เกี่ยวกับโลกและวัฒนธรรมที่หลากหลาย: พัฒนาความเข้าใจเกี่ยวกับบริบทโลก ความหลากหลายทางวัฒนธรรม และประเด็นสำคัญในระดับโลก
แนวทางการพัฒนา:
- ใช้การเรียนรู้แบบบูรณาการที่เชื่อมโยงเนื้อหาจากหลากหลายวิชา
- จัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะ (Inquiry-Based Learning) ที่ให้ผู้เรียนแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง
- ใช้กรณีศึกษาและสถานการณ์จริงในการเรียนรู้
- ส่งเสริมการอ่านและการวิจัยในหัวข้อที่สนใจ
ตัวอย่างการออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ที่บูรณาการ VASK กับทักษะแห่งศตวรรษที่ 21
ตัวอย่างที่ 1: โครงงานสำรวจปัญหาสิ่งแวดล้อมในชุมชน
- ค่านิยม (V): ปลูกฝังค่านิยมเรื่องความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน
- เจตคติ (A): พัฒนาเจตคติที่ดีต่อการแก้ปัญหาและการทำงานร่วมกัน
- ทักษะ (S): พัฒนาทักษะการสำรวจ การเก็บข้อมูล การวิเคราะห์ การนำเสนอ และการทำงานเป็นทีม
- ความรู้ (K): สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับระบบนิเวศ มลพิษ และการจัดการสิ่งแวดล้อม
กิจกรรมนี้บูรณาการทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ด้านการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา การสื่อสาร การร่วมมือ และการใช้เทคโนโลยี
ตัวอย่างที่ 2: การพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อแก้ปัญหาในโรงเรียน
- ค่านิยม (V): ปลูกฝังค่านิยมเรื่องการสร้างนวัตกรรมเพื่อประโยชน์ส่วนรวม
- เจตคติ (A): พัฒนาเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้เทคโนโลยีและการแก้ปัญหา
- ทักษะ (S): พัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรม การออกแบบ การทดสอบ และการทำงานเป็นทีม
- ความรู้ (K): สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการเขียนโปรแกรม การออกแบบส่วนต่อประสาน และการจัดการโครงการ
กิจกรรมนี้บูรณาการทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ด้านความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม การคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และการใช้เทคโนโลยี
ปัจจัยสู่ความสำเร็จในการพัฒนา VASK บูรณาการกับทักษะแห่งศตวรรษที่ 21
- การออกแบบการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ: จัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับความสนใจ ความถนัด และความต้องการของผู้เรียน
- การใช้วิธีการสอนที่หลากหลาย: บูรณาการวิธีการสอนที่หลากหลาย เช่น การเรียนรู้แบบโครงงาน การเรียนรู้แบบสืบเสาะ การเรียนรู้ผ่านการเล่น
- การประเมินที่ครอบคลุม: ใช้วิธีการประเมินที่หลากหลายและครอบคลุมทั้ง V-A-S-K ไม่เน้นเพียงการทดสอบความรู้
- การพัฒนาครูอย่างต่อเนื่อง: พัฒนาความรู้และทักษะของครูในการออกแบบและจัดการเรียนรู้ที่บูรณาการ VASK กับทักษะแห่งศตวรรษที่ 21
- การสร้างบรรยากาศและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้: จัดสภาพแวดล้อมทั้งทางกายภาพและทางสังคมที่ส่งเสริมการเรียนรู้
- การมีส่วนร่วมของครอบครัวและชุมชน: ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างโรงเรียน ครอบครัว และชุมชนในการพัฒนาผู้เรียน
สรุป
VASK เป็นกรอบแนวคิดสำคัญในการพัฒนาสมรรถนะของผู้เรียนอย่างรอบด้าน ครอบคลุมทั้งค่านิยม เจตคติ ทักษะ และความรู้ การบูรณาการการพัฒนา VASK กับทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 เป็นแนวทางสำคัญในการจัดการศึกษาที่ตอบสนองต่อความท้าทายและความต้องการในโลกปัจจุบัน ซึ่งไม่เพียงแต่มุ่งเน้นความรู้เท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะ เจตคติ และค่านิยมที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตและการทำงานในศตวรรษที่ 21 อย่างมีคุณภาพและมีความสุข
ตัวอย่างการพัฒนา VASK บูรณาการใน ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21
โครงร่างวิจัยในชั้นเรียน 5 บท
เรื่อง การพัฒนาสมรรถนะด้านการอ่านพยัญชนะและสระภาษาไทยโดยใช้การเรียนรู้แบบ Active Learning ร่วมกับเทคนิค 5W1H ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
บทที่ 1 บทนำ
- ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา
- สภาพปัญหาการเรียนการสอนพยัญชนะและสระในชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
- ความสำคัญของทักษะการอ่านและเขียนพยัญชนะและสระ
- ความจำเป็นในการพัฒนาสมรรถนะด้านภาษาไทยตามองค์ประกอบ VASK
- แนวคิดการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning และ 5W1H
- วัตถุประสงค์ของการวิจัย
- เพื่อพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning ร่วมกับเทคนิค 5W1H สำหรับการเรียนรู้พยัญชนะและสระ
- เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องพยัญชนะและสระของนักเรียน
- เพื่อประเมินสมรรถนะด้านภาษาไทยตามองค์ประกอบ VASK ของนักเรียน
- สมมติฐานของการวิจัย
- นักเรียนที่เรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning ร่วมกับเทคนิค 5W1H มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
- นักเรียนมีการพัฒนาสมรรถนะด้านภาษาไทยทั้ง 4 องค์ประกอบ (VASK) หลังการจัดกิจกรรม
- ขอบเขตของการวิจัย
- ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง: นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
- ตัวแปรที่ศึกษา:
- ตัวแปรต้น: การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ร่วมกับเทคนิค 5W1H
- ตัวแปรตาม: ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และสมรรถนะด้านภาษาไทย (VASK)
- เนื้อหา: พยัญชนะและสระในรายวิชาภาษาไทย ท11101
- ระยะเวลา: ภาคเรียนที่ x ปีการศึกษา x
- นิยามศัพท์เฉพาะ
- สมรรถนะด้านภาษาไทย (ทั้ง 4 องค์ประกอบ)
- การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning
- เทคนิค 5W1H
- พยัญชนะและสระมหัศจรรย์
- ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
- ได้แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องพยัญชนะและสระสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
- นักเรียนมีสมรรถนะด้านภาษาไทยเพิ่มขึ้น
- เป็นแนวทางในการพัฒนาการสอนภาษาไทยสำหรับครูผู้สอนคนอื่นๆ
บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
- หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน และหลักสูตรฐานสมรรถนะ
- สาระและมาตรฐานการเรียนรู้วิชาภาษาไทยชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
- แนวคิดเกี่ยวกับหลักสูตรฐานสมรรถนะ
- แนวคิดเกี่ยวกับสมรรถนะ (Competencies) และองค์ประกอบของสมรรถนะ
- ความหมายและความสำคัญของสมรรถนะ
- องค์ประกอบของสมรรถนะ VASK
- ค่านิยม (Values): คุณค่าที่เห็นประโยชน์ของภาษาไทย
- เจตคติ (Attitude): ความรู้สึกที่ดีต่อการเรียนภาษาไทย
- ทักษะ (Skills): ความสามารถในการอ่านและเขียนพยัญชนะและสระ
- ความรู้ (Knowledge): ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการอ่านและเขียนพยัญชนะและสระ
- การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning
- ความหมายและหลักการของ Active Learning
- รูปแบบและเทคนิคการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning
- บทบาทของครูและนักเรียนในการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning
- เทคนิค 5W1H ในการจัดการเรียนรู้
- ความหมายและองค์ประกอบของเทคนิค 5W1H
- What (อะไร): เนื้อหาเกี่ยวกับพยัญชนะและสระ
- Why (ทำไม): เหตุผลและความสำคัญของการเรียนรู้
- Where (ที่ไหน): บริบทการใช้พยัญชนะและสระในชีวิตประจำวัน
- When (เมื่อไร): เวลาที่เหมาะสมในการใช้ความรู้
- Who (ใคร): บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้
- How (อย่างไร): วิธีการเรียนรู้และการนำไปใช้
- ความหมายและองค์ประกอบของเทคนิค 5W1H
- แนวคิดและทฤษฎีเกี่ยวกับการสอนอ่านเขียนภาษาไทยระดับประถมศึกษา
- หลักการสอนอ่านเขียนภาษาไทยสำหรับเด็กเริ่มเรียน
- การสอนพยัญชนะและสระภาษาไทย
- งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
- งานวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนาสมรรถนะด้านภาษาไทย
- งานวิจัยเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning
- งานวิจัยเกี่ยวกับการสอนพยัญชนะและสระภาษาไทย
บทที่ 3 วิธีดำเนินการวิจัย
- ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
- ประชากร: นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียน X
- กลุ่มตัวอย่าง: นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/X จำนวน X คน
- วิธีการเลือกกลุ่มตัวอย่าง
- เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
- แผนการจัดการเรียนรู้เรื่องพยัญชนะและสระ โดยใช้ Active Learning ร่วมกับเทคนิค 5W1H
- แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน
- เครื่องมือประเมินสมรรถนะด้านภาษาไทยตามองค์ประกอบ VASK
- แบบประเมินค่านิยม (Values) ต่อการเรียนภาษาไทย
- แบบประเมินเจตคติ (Attitude) ต่อการเรียนภาษาไทย
- แบบประเมินทักษะ (Skills) การอ่านและเขียนพยัญชนะและสระ
- แบบทดสอบความรู้ (Knowledge) เกี่ยวกับพยัญชนะและสระ
- แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้
- แบบบันทึกสะท้อนคิดของนักเรียน
- การสร้างและหาคุณภาพของเครื่องมือ
- ขั้นตอนการสร้างเครื่องมือ
- การตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือ (ความเที่ยงตรง ความเชื่อมั่น)
- การเก็บรวบรวมข้อมูล
- ขั้นเตรียมการ
- ขั้นดำเนินการทดลอง
- ทดสอบก่อนเรียน
- ดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแผน
- ทดสอบหลังเรียน
- ประเมินสมรรถนะด้านภาษาไทย (VASK)
- การวิเคราะห์ข้อมูล
- สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ
- ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
- การทดสอบค่าที (t-test) เพื่อเปรียบเทียบคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียน
- การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพจากการสังเกตและบันทึกสะท้อนคิด
- สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ
- เกณฑ์การประเมินสมรรถนะด้านภาษาไทย
- เกณฑ์การประเมินค่านิยม (Values)
- เกณฑ์การประเมินเจตคติ (Attitude)
- เกณฑ์การประเมินทักษะ (Skills)
- เกณฑ์การประเมินความรู้ (Knowledge)
บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล
- ผลการวิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
- เปรียบเทียบคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียน
- การทดสอบสมมติฐาน
- ผลการประเมินสมรรถนะด้านภาษาไทยของนักเรียน
- ผลการประเมินค่านิยม (Values)
- ตารางแสดงค่าเฉลี่ย และระดับค่านิยมต่อการเรียนภาษาไทย
- กราฟแสดงพัฒนาการด้านค่านิยม
- ข้อมูลเชิงคุณภาพจากการสังเกตและบันทึกสะท้อนคิด
- ผลการประเมินเจตคติ (Attitude)
- ตารางแสดงค่าเฉลี่ย และระดับเจตคติต่อการเรียนภาษาไทย
- กราฟแสดงพัฒนาการด้านเจตคติ
- ข้อมูลเชิงคุณภาพจากการสังเกตและบันทึกสะท้อนคิด
- ผลการประเมินทักษะ (Skills)
- ตารางแสดงค่าเฉลี่ย และระดับทักษะการอ่านและเขียนพยัญชนะและสระ
- กราฟแสดงพัฒนาการด้านทักษะ
- ข้อมูลเชิงคุณภาพจากการสังเกตและบันทึกสะท้อนคิด
- ผลการประเมินความรู้ (Knowledge)
- ตารางแสดงค่าเฉลี่ย และระดับความรู้เกี่ยวกับพยัญชนะและสระ
- กราฟแสดงพัฒนาการด้านความรู้
- ข้อมูลเชิงคุณภาพจากการสังเกตและบันทึกสะท้อนคิด
- ผลการประเมินค่านิยม (Values)
- ผลการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบของสมรรถนะ
- ความสัมพันธ์ระหว่างค่านิยม เจตคติ ทักษะ และความรู้
- ข้อค้นพบสำคัญเกี่ยวกับการพัฒนาสมรรถนะ
- ผลการวิเคราะห์กระบวนการจัดการเรียนรู้และปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จ
- บทบาทของการเรียนรู้แบบ Active Learning
- ประสิทธิภาพของเทคนิค 5W1H
- ปัจจัยสนับสนุนและอุปสรรคในการพัฒนาสมรรถนะ
บทที่ 5 สรุปผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ
- สรุปผลการวิจัย
- สรุปผลตามวัตถุประสงค์การวิจัย
- ผลการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้
- ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
- ผลการพัฒนาสมรรถนะด้านภาษาไทย (VASK)
- สรุปผลตามวัตถุประสงค์การวิจัย
- อภิปรายผล
- อภิปรายผลการพัฒนาสมรรถนะด้านภาษาไทยตามองค์ประกอบ VASK
- การพัฒนาค่านิยม (Values)
- การพัฒนาเจตคติ (Attitude)
- การพัฒนาทักษะ (Skills)
- การพัฒนาความรู้ (Knowledge)
- อภิปรายผลการใช้ Active Learning ร่วมกับเทคนิค 5W1H
- อภิปรายปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการพัฒนาสมรรถนะ
- เปรียบเทียบผลการวิจัยกับทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
- อภิปรายผลการพัฒนาสมรรถนะด้านภาษาไทยตามองค์ประกอบ VASK
- ข้อเสนอแนะ
- ข้อเสนอแนะในการนำผลการวิจัยไปใช้
- ข้อเสนอแนะสำหรับครูผู้สอนภาษาไทย
- ข้อเสนอแนะสำหรับการพัฒนาสื่อและนวัตกรรม
- ข้อเสนอแนะสำหรับการบริหารจัดการชั้นเรียน
- ข้อเสนอแนะสำหรับการวิจัยครั้งต่อไป
- ข้อเสนอแนะในการนำผลการวิจัยไปใช้
ภาคผนวก
- เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
- ตัวอย่างแผนการจัดการเรียนรู้
- ตัวอย่างผลงานนักเรียน
- ภาพกิจกรรมการเรียนรู้
- ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเพิ่มเติม
หมายเหตุ: โครงร่างวิจัยนี้สามารถปรับเปลี่ยนรายละเอียดให้เหมาะสมกับบริบทของโรงเรียนและนักเรียนได้ตามความเหมาะสม
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2565). กรอบหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2565. กรุงเทพฯ: สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา.
ทิศนา แขมมณี. (2563). ศาสตร์การสอน: องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ (พิมพ์ครั้งที่ 24). กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
มารุต พัฒผล. (2564). การพัฒนาหลักสูตรฐานสมรรถนะ. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร, 23(4), 13-27.
วิจารณ์ พานิช. (2555). วิถีสร้างการเรียนรู้เพื่อศิษย์ในศตวรรษที่ 21. กรุงเทพฯ: มูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์.
วิชัย วงษ์ใหญ่ และมารุต พัฒผล. (2562). การโค้ชเพื่อพัฒนาศักยภาพผู้เรียน. กรุงเทพฯ: จรัลสนิทวงศ์การพิมพ์.
วิชัย วงษ์ใหญ่ และมารุต พัฒผล. (2563). การจัดการเรียนรู้ฐานสมรรถนะ. กรุงเทพฯ: จรัลสนิทวงศ์การพิมพ์.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2563). การบูรณาการสมรรถนะในการจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: บริษัทพริกหวานกราฟฟิค จำกัด.
สุวิมล ว่องวาณิช. (2564). การประเมินสมรรถนะผู้เรียน: กรอบแนวคิดและแนวทางปฏิบัติ. วารสารวิธีวิทยาการวิจัย, 34(1), 1-23.
Crockett, L., Jukes, I., & Churches, A. (2011). Literacy is NOT enough: 21st century fluencies for the digital age. Corwin Press.
Fadel, C., Bialik, M., & Trilling, B. (2015). Four-dimensional education: The competencies learners need to succeed. Center for Curriculum Redesign.
Schleicher, A. (2018). World class: How to build a 21st-century school system. OECD Publishing.
Comments
comments
Powered by Facebook Comments