แนวทางการปฏิบัติเพื่อการบรรลุสมรรถนะด้านการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ (ข้อ 6 (ข)) ตามมาตรฐานวิชาชีพครูปฐมวัย พ.ศ. 2568
ภาคที่ 1: รากฐานเชิงปรัชญาและบริบทเชิงมาตรฐาน
1.1 การตีความเจตนารมณ์ของคุรุสภา พ.ศ. 2568: การเปลี่ยนกระบวนทัศน์
ข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูปฐมวัย พ.ศ. 2568 ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 1 ถือเป็นเอกสารเชิงนโยบายที่มีนัยสำคัญยิ่งต่อวงการการศึกษาปฐมวัยไทย เจตนารมณ์หลักของข้อบังคับนี้ คือการยกระดับผู้ประกอบวิชาชีพครูปฐมวัยให้มี “สมรรถนะทางวิชาชีพที่ทันสมัย” และสามารถปฏิบัติงานได้อย่างสอดคล้องกับ “บริบทความเปลี่ยนแปลงของการจัดการศึกษาในยุคปัจจุบัน” 2
การวิเคราะห์เจตนารมณ์นี้ชี้ให้เห็นว่า นี่ไม่ใช่เพียงการปรับปรุงเอกสารมาตรฐานเดิม แต่เป็นการส่งสัญญาณ “การเปลี่ยนกระบวนทัศน์” (Paradigm Shift) อย่างเป็นทางการ โดยเปลี่ยนจุดเน้นจากการประเมินครูที่อิง “ความรู้” (Knowledge-based) ไปสู่การประเมินที่อิง “สมรรถนะ” (Competency-based) นั่นคือ การมุ่งเน้นสิ่งที่ครูสามารถ ปฏิบัติได้จริง ในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย
สมรรถนะหลักลำดับที่สอง (ข้อ 6 (ข)) เรื่อง “การจัดประสบการณ์การเรียนรู้” จึงเป็นกลไกเชิงนโยบาย (Policy Mechanism) ที่ถูกออกแบบมาเพื่อบังคับใช้ (Enforce) และรับประกันว่าปรัชญาการศึกษาปฐมวัยสมัยใหม่จะเกิดขึ้นจริงในห้องเรียนทั่วประเทศ การเปลี่ยนแปลงนี้ได้รับแรงผลักดันจากความเข้าใจใหม่ด้านการเรียนรู้ของสมองเด็ก 3 และความจำเป็นในการสร้างสมรรถนะพื้นฐานสำหรับพลเมืองในศตวรรษที่ 21 4 มาตรฐานนี้จึงเป็นเครื่องมือที่ผลักดันให้ครูปฐมวัยต้องก้าวข้ามการสอนแบบท่องจำ (Rote Learning) และประยุกต์ใช้แนวทางที่ซับซ้อนและตอบสนองต่อเด็กเป็นรายบุคคล ซึ่งแนวทางปฏิบัติทั้งหมดนี้ถูกบรรจุไว้ในองค์ประกอบย่อย 5 ประการของสมรรถนะ 6 (ข)
1.2 ความเชื่อมโยงแบบ “เครื่องยนต์คู่”: มาตรฐานครู (6 ข) และ หลักสูตรปฐมวัย (2568)
การปฏิบัติงานของครูตามมาตรฐานคุรุสภา (ข้อ 6 ข) ไม่สามารถแยกขาดออกจาก “หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2568” 4 ได้ มาตรฐานสมรรถนะ 6 (ข) กำหนดให้ครูต้องสามารถจัดประสบการณ์ที่ “สอดคล้องกับพัฒนาการตามวัยของเด็กปฐมวัย” และมีเป้าหมายเพื่อให้เด็กมี “สมรรถนะพื้นฐานในการเรียนรู้และการดำรงชีวิต”
ข้อกำหนดนี้สอดคล้องโดยตรงกับปรัชญาของหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พ.ศ. 2568 ซึ่งมุ่งพัฒนาเด็กอย่าง “เป็นองค์รวม” (Holistic Development) 5 บนพื้นฐานของ “การเรียนรู้ผ่านการเล่น” (Play-Based Learning) และ “การลงมือปฏิบัติ” (Hands-on Practice) 4
ความสัมพันธ์นี้สามารถอธิบายได้ในลักษณะ “เครื่องยนต์คู่” (Dual-Engine) ที่ทำงานประสานกัน:
- หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พ.ศ. 2568 คือ เป้าหมายสำหรับ เด็ก (What the Child Achieves) โดยกำหนดคุณภาพและความสามารถที่เด็กพึงมี 4
- มาตรฐานคุรุสภา (ข้อ 6 ข) คือ สมรรถนะสำหรับ ครู (What the Teacher Must Do) โดยกำหนดการปฏิบัติงานที่ครูต้องแสดงออก เพื่อให้เด็กบรรลุเป้าหมายตามหลักสูตร
ดังนั้น สมรรถนะของครูในข้อ 6 (ข) จึงถูกออกแบบมาเพื่อ รับประกัน ว่าปรัชญาของหลักสูตร 2568 จะถูกนำไปปฏิบัติจริงในห้องเรียน แนวทางปฏิบัติในรายงานฉบับนี้ จึงเป็นการวิเคราะห์สมรรถนะ 6 (ข) โดยใช้ปรัชญาของหลักสูตร 2568 เป็นเลนส์หลักในการตีความ
ภาคที่ 2: วงจรการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ (The Cycle of Learning Experience Implementation)
การวิเคราะห์องค์ประกอบย่อย 5 ด้านของสมรรถนะ 6 (ข) ชี้ให้เห็นว่า องค์ประกอบทั้งห้าไม่ได้ทำงานแยกส่วนกันในลักษณะบัญชีตรวจสอบ (Checklist) แต่ทำงานเป็น “วงจรต่อเนื่อง” (Continuous Cycle) ที่ขับเคลื่อนซึ่งกันและกัน วงจรนี้สะท้อนกระบวนการทำงานของครูมืออาชีพ กล่าวคือ:
(1) ครู ออกแบบ แผนการเรียนรู้ -> (2) จัดประสบการณ์ และปรับให้เหมาะกับ รายบุคคล -> (3) โดยใช้ สื่อและสภาพแวดล้อม เป็นเครื่องมือ -> (4) ซึ่งเน้นการบูรณาการใน กิจวัตร และการสร้าง ทักษะชีวิต/อารมณ์ -> (5) และครูทำการ สังเกตและประเมินผล ตลอดเวลา -> (ป้อนกลับ) เพื่อนำข้อมูลไปปรับการ ออกแบบ ในวงจรถัดไป
2.1 (องค์ประกอบที่ 1) การออกแบบและการวางแผนเชิงสร้างสรรค์: สถาปัตยกรรมแห่งการเล่น
ข้อกำหนดมาตรฐาน: ครูต้องสามารถ ออกแบบ วางแผน การจัดประสบการณ์การเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ โดยบูรณาการการเรียนรู้ผ่านการเล่นและกิจกรรมที่หลากหลาย
คำว่า “ออกแบบเชิงสร้างสรรค์” (Creative Design) ในมาตรฐานนี้ ไม่ได้หมายถึงความสามารถทางศิลปะของครู (เช่น การประดิษฐ์สื่อการสอนที่สวยงาม) แต่หมายถึง “ความคิดสร้างสรรค์เชิงการสอน” (Pedagogical Creativity) ซึ่งเป็นสมรรถนะขั้นสูงในการเลือกและผสมผสานโมเดลการเรียนรู้ต่างๆ เพื่อสร้าง “สถาปัตยกรรมแห่งการเล่น” (Architecture of Play)
แนวคิดหลัก (Core Concepts):
- การเรียนรู้ผ่านการเล่น (Play-Based Learning – PBL): นี่คือหัวใจหลักของมาตรฐาน 6 ครูต้องเปลี่ยนกระบวนทัศน์จากการมองว่า “การเล่น” คือ “เวลาพัก” ไปสู่การมองว่า “การเล่น” คือ “วิธีการเรียนรู้” ที่ทรงพลังที่สุด 6 การออกแบบ PBL ที่มีคุณภาพนั้น การเล่นจะต้องมีเป้าหมาย (Purposeful Play) เน้นที่กระบวนการ (Process-focused) มากกว่าคำตอบที่ถูกต้อง 8 และสำคัญที่สุดคือ เด็กต้องเป็นผู้กำกับการเรียนรู้ของตนเอง (Child-directed) 8
- การเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning): การออกแบบของครูต้องวางแผนให้เด็กได้ “ลงมือทำจริง” (Hands-on) 9 ซึ่งเป็นปรัชญาที่ปรากฏชัดในหลักสูตร 2568 4
โมเดลการออกแบบขั้นสูง (Advanced Design Models):
สมรรถนะเชิงสร้างสรรค์ของครู คือความสามารถในการสังเคราะห์ (Synthesize) โมเดลการสอนเหล่านี้เข้าด้วยกัน:
- การจัดการเรียนรู้แบบโครงการ (Project Approach): ครูออกแบบการเรียนรู้ระยะยาวที่เปิดโอกาสให้เด็ก “เรียนรู้ในสิ่งที่เด็กสนใจ” 9 เด็กจะเป็นผู้ตั้งคำถาม วางแผนสืบค้น และนำเสนอองค์ความรู้ด้วยตนเอง 9
- กระบวนการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking): ครูสามารถใช้ Design Thinking เป็นกรอบในการออกแบบโปรเจกต์ 10 เพื่อพัฒนาทักษะการแก้ปัญหา 6 เช่น การให้เด็กๆ สำรวจปัญหา (สัมภาษณ์ผู้ใช้ที่จอดรถ) และ “ออกแบบที่จอดรถ” ใหม่สำหรับโรงเรียน 10
- การเรียนรู้ภาษาธรรมชาติแบบองค์รวม (Whole Language): การออกแบบกิจกรรมที่บูรณาการทักษะการฟัง พูด อ่าน และเขียน ให้เกิดขึ้นพร้อมกันอย่างเป็นธรรมชาติ 9
ครูที่มีสมรรถนะสูง จะสามารถผสมผสานโมเดลเหล่านี้ได้ เช่น ใช้ Design Thinking 10 เป็น กระบวนการ (Process) เพื่อให้เด็กทำ Project Approach 9 ในหน่วยการเรียนรู้ที่เด็กๆ สนใจ ซึ่งครูค้นพบประเด็นความสนใจนั้นผ่านการสังเกตการเล่นเสรี (PBL) 8 ของเด็ก
2.2 (องค์ประกอบที่ 2) การจัดประสบการณ์แบบบูรณาการและความแตกต่างรายบุคคล
ข้อกำหนดมาตรฐาน: ครูต้องสามารถ จัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการ ที่สอดคล้องกับพัฒนาการตามวัย คำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลและความต้องการพิเศษ
องค์ประกอบนี้เรียกร้องสมรรถนะ 2 ส่วนที่ต้องทำงานพร้อมกัน คือ (1) การบูรณาการ และ (2) การสอนที่แตกต่าง
กลไกการบูรณาการ (Integration Mechanism): “กิจกรรมหลัก 6 กิจกรรม”
เครื่องมือหลักที่ครูใช้ในการจัดประสบการณ์แบบบูรณาการ (Integrate) คือ “กิจกรรมหลัก 6 กิจกรรม” 11 ตามแนวทางของหลักสูตร 14 ได้แก่:
- กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ 11
- กิจกรรมเสริมประสบการณ์ 15
- กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ 11
- กิจกรรมการเล่นเสรี (เช่น การเล่นตามมุม) 16
- กิจกรรมกลางแจ้ง (เช่น เล่นน้ำ เล่นทราย) 11
- กิจกรรมเกมการศึกษา 12
การตอบสนองต่อความแตกต่าง (Responding to Differences):
“กิจกรรมหลัก 6 กิจกรรม” เป็นเพียง กรอบการทำงาน (Framework) ไม่ใช่ จุดสิ้นสุด ของสมรรถนะ สมรรถนะที่แท้จริง (True Competency) ของครูในข้อนี้ คือ “การสอนที่แตกต่าง” (Differentiated Instruction) ภายใน กิจกรรมทั้ง 6 นั้น
- ความแตกต่างระหว่างบุคคล: ครูต้องตระหนักว่าเด็กแต่ละคนมี “พัฒนาการตามวัย” และ “ความสามารถ” ที่ต่างกัน 4 จึงต้องจัดกิจกรรมให้ยืดหยุ่น 14
- ความต้องการพิเศษ (Special Needs): มาตรฐานนี้บังคับให้ครูต้องมีความสามารถในการจัดการศึกษาแบบเรียนรวม (Inclusive Education) 17 ซึ่งหมายถึงการ “จัดบริการพิเศษตามความต้องการจำเป็นของแต่ละบุคคล” 17 ครูต้องสามารถปรับสิ่งแวดล้อมและวิธีการสอน 19 สร้างแรงจูงใจ 19 และทำงานร่วมกับผู้ปกครองอย่างใกล้ชิด 19
ครูที่มีสมรรถนะสูง จะไม่ใช่แค่ “จัดกิจกรรมเกมการศึกษา” 12 แต่จะสามารถตอบคำถามได้ว่า “ในขณะที่เด็กทั้งห้องกำลังเล่นเกมจับคู่ภาพ ครูได้ปรับกติกาหรือสื่ออย่างไร 19 เพื่อให้เด็กที่มีพัฒนาการล่าช้า 20 และเด็กที่มีความสามารถสูง สามารถเรียนรู้และบรรลุเป้าหมายของตนเองได้พร้อมกันในกิจกรรมเดียว”
2.3 (องค์ประกอบที่ 3) การจัดสื่อและสภาพแวดล้อม: “ครูคนที่สาม”
ข้อกำหนดมาตรฐาน: ครูต้อง จัดสื่อ สภาพแวดล้อมทางกายภาพ และทางสังคม ทั้งในและนอกห้องเรียนที่เหมาะสม เพื่อให้เอื้อต่อการเรียนรู้
แนวคิดการศึกษาปฐมวัยสมัยใหม่มองว่า สภาพแวดล้อมไม่ใช่แค่ “ฉากหลัง” (Backdrop) ของการเรียนรู้ แต่คือ “ครูคนที่สาม” (The Third Teacher) (รองจากครูและผู้ปกครอง) ที่ทำหน้าที่สอนเด็กโดยตรง สมรรถนะของครูคือการออกแบบสภาพแวดล้อมทั้งสองมิติให้ สอดคล้อง และ ส่งเสริม ซึ่งกันและกัน
สภาพแวดล้อมทางกายภาพ (Physical Environment):
- ความปลอดภัยและเพียงพอ: สภาพแวดล้อมและสื่อต้อง “ปลอดภัยและเพียงพอ” 21
- มุมประสบการณ์ (Learning Corners): กลยุทธ์หลักในการจัดสภาพแวดล้อมกายภาพ คือการออกแบบ “มุมประสบการณ์” หรือ “มุมเรียนรู้” 22 ที่ครอบคลุมพัฒนาการ 4 ด้าน 22 เช่น มุมภาษาและหนังสือ, มุมบทบาทสมมติ, มุมบล็อกและก่อสร้าง, มุมศิลปะ, มุมวิทยาศาสตร์และธรรมชาติ และมุมดนตรี 22
- การกระตุ้นและการเข้าถึง: มุมต้องกระตุ้นให้เด็กอยากสำรวจ 23 ใช้วัสดุที่หลากหลาย (Sensory Play) 24 และอาจรวมถึงการให้บริการสื่อเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับวัย 21
สภาพแวดล้อมทางสังคม (Social Environment):
- บรรยากาศเชิงบวก: ครูต้องมีความสามารถในการสร้าง “บรรยากาศโรงเรียนเชิงบวก” (Positive School Climate) 25
- ความปลอดภัยทางจิตใจ: การจัดบรรยากาศที่ “เอื้อต่อการเรียนรู้” 21 หมายถึงการสร้างพื้นที่ที่เด็กรู้สึกปลอดภัยทางจิตใจ (Psychological Safety) กล้าแสดงความคิดเห็น กล้าลองผิดลองถูก และกล้าที่จะล้มเหลว
การออกแบบที่ชาญฉลาดคือการที่มิติทางกายภาพและสังคมหนุนเสริมกัน เช่น ครูออกแบบ “มุมศิลปะ” (กายภาพ) 22 ครูต้องสร้าง “บรรยากาศ” (สังคม) 25 ที่ อนุญาต ให้เด็กทำเลอะเทอะได้ (Allowing mess) และครูต้องชื่นชมกระบวนการ (Praising effort) มากกว่าผลงานที่สวยงาม ในทางกลับกัน “มุมหนังสือ” (กายภาพ) 22 สามารถถูกออกแบบให้เป็น “มุมสงบ” (Calm-down Corner) เพื่อสนับสนุนการจัดการอารมณ์ (สังคม) ได้ด้วย
2.4 (องค์ประกอบที่ 4) การจัดกิจกรรมและกิจวัตรประจำวัน: การบ่มเพาะทักษะชีวิตและตัวตน
ข้อกำหนดมาตรฐาน: ครูต้อง จัดกิจกรรมและกิจวัตรประจำวัน ที่เสริมสร้างทักษะชีวิต ทักษะอารมณ์ สังคม อย่างมีความหมาย และต้องคำนึงถึงความสนใจ, ความสุขในการเรียนรู้, และการเห็นคุณค่าในตนเอง (Self-Esteem) ของเด็ก
องค์ประกอบนี้ถือเป็น รากฐานที่สำคัญที่สุด ของสมรรถนะทั้งหมด เพราะมันเชื่อมโยงโดยตรงกับความพร้อมในการเรียนรู้ (Readiness to Learn) ของเด็ก
กิจวัตรประจำวัน (Daily Routines) เพื่อทักษะชีวิต (Life Skills):
ครูที่มีสมรรถนะ จะไม่มองว่ากิจวัตรประจำวัน (เช่น การรับประทานอาหารกลางวัน การแปรงฟัน การเข้าห้องน้ำ) เป็นเพียง “งานธุรการ” แต่จะมองว่าสิ่งเหล่านี้คือ “บทเรียน” ที่สำคัญที่สุดในการสร้างทักษะชีวิต 9 ครูต้องออกแบบการปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน 27 เพื่อให้เด็กได้ฝึกการช่วยเหลือตนเอง 15 เช่น การแต่งตัว การรับประทานอาหารด้วยตนเอง 15 และการสร้างวินัยในตนเอง เช่น การเก็บของเล่น การเข้าแถว 15
กิจกรรมเพื่อทักษะอารมณ์และสังคม (Social-Emotional Learning – SEL):
ครูต้องสามารถออกแบบกิจกรรมที่ส่งเสริม SEL 28 และการตระหนักรู้ในตนเอง (Self-awareness) 29 อย่างจงใจ ไม่ใช่ปล่อยให้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
การสร้างการเห็นคุณค่าในตนเอง (Self-Esteem) และความสุข:
นี่คือหัวใจขององค์ประกอบที่ 4 30 ครูต้องเข้าใจกลไกการสร้าง Self-Esteem ว่าไม่ได้เกิดจากการ “ชม” ว่า “หนูเก่ง” แต่เกิดจาก 2 ปัจจัยหลัก:
- การตอบสนองอย่างเหมาะสม (Responsive Caregiving): การที่เด็กรับรู้ว่าตนเองเป็นที่รัก ได้รับการดูแลเอาใจใส่เมื่อต้องการความช่วยเหลือ 30
- การทำได้ด้วยตนเอง (Mastery): การที่เด็กรู้สึกภูมิใจเมื่อสามารถ “ทำอะไรด้วยตัวเอง” ได้สำเร็จ 31
ความเชื่อมโยงที่ลึกซึ้งคือ: เด็กที่มี “Self-Esteem สูง” (เห็นคุณค่าตนเอง) จะนำไปสู่การมี “Growth Mindset” (กรอบคิดแบบเติบโต) 30 ซึ่ง Growth Mindset (ความเชื่อว่าความสามารถพัฒนาได้) นี้เอง ที่เป็น เงื่อนไขจำเป็น (Prerequisite) ที่จะทำให้เด็กกล้าที่จะ “ล้มเหลว” และ “ทดลอง” ในกิจกรรมการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ที่ครูออกแบบไว้ในองค์ประกอบที่ 1 (เช่น Design Thinking 10 หรือ Project Approach 9)
หากเด็กมี Self-Esteem ต่ำและมี Fixed Mindset (กลัวความล้มเหลว) การออกแบบเชิงสร้างสรรค์ของครู (องค์ประกอบ 1) จะล้มเหลวทันที เพราะเด็กจะไม่กล้าเข้าร่วม ดังนั้น สมรรถนะในข้อ 6(ข).4 (การสร้าง Self-Esteem) จึงเป็น รากฐาน ที่จะทำให้สมรรถนะในข้อ 6(ข).1 (การออกแบบเชิงสร้างสรรค์) สามารถเกิดขึ้นได้จริง
2.5 (องค์ประกอบที่ 5) การสังเกตและประเมินอย่างเป็นระบบ: การประเมินตามสภาพจริง
ข้อกำหนดมาตรฐาน: ครูต้องสามารถ สังเกต บันทึกและประเมินพัฒนาการของเด็กแต่ละคนอย่างรอบด้านและเป็นระบบ เพื่อใช้เป็น แนวทางในการส่งเสริมและแก้ไขปัญหาพฤติกรรมและพัฒนาการของเด็ก
องค์ประกอบนี้คือ “เครื่องยนต์” ที่ขับเคลื่อนวงจรการทำงานทั้งหมด ไม่ใช่ขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการ
หลักการ: การประเมินตามสภาพจริง (Authentic Assessment):
มาตรฐานนี้บังคับให้ครูเปลี่ยนจากการ “ทดสอบ” (Testing) ที่เน้นการวัดผลปลายทาง ไปสู่การ “ประเมินตามสภาพจริง” (Authentic Assessment) 33 ซึ่งมีลักษณะสำคัญดังนี้:
- เป็นการประเมินตาม “สภาพจริง” ที่เกิดขึ้นในกิจวัตรประจำวัน 21
- เกิดขึ้นขณะที่เด็กกำลังทำกิจกรรม โดยที่เด็กไม่รู้สึกว่าตนกำลังถูกประเมิน 34
- เป็นการประเมินที่บูรณาการเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสอน 14 ไม่ใช่การแยกเด็กออกมาสอบ
เครื่องมือและเทคนิค (Tools and Techniques):
ครูที่มีสมรรถนะต้องมี “กล่องเครื่องมือ” การประเมินที่หลากหลาย ไม่ใช่แค่แบบทดสอบ 36
- การสังเกตอย่างเป็นระบบ (Systematic Observation): เป็นวิธีการหลักและดีที่สุด 34
- การสัมภาษณ์ (Interview): การพูดคุยซักถามกับเด็ก หรือสัมภาษณ์ผู้ปกครอง 34 ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญ 37
- การบันทึกพฤติกรรม (Anecdotal Records): การจดบันทึกเหตุการณ์สำคัญที่สะท้อนพัฒนาการหรือพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ 38
- แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolios): การรวบรวมผลงานของเด็กอย่างเป็นระบบ เพื่อแสดงให้เห็น “ความก้าวหน้า” (Progress) เมื่อเวลาผ่านไป 37
- แบบสำรวจรายการ (Checklists) และ มาตรประมาณค่า (Rating Scales): เครื่องมือช่วยในการสังเกตอย่างมีโครงสร้าง 36
- สังคมมิติ (Sociogram): เครื่องมือเฉพาะทางสำหรับประเมินความสัมพันธ์ทางสังคมในกลุ่ม 34
คำว่า “เป็นระบบ” (Systematic) ในข้อ 6(ข).5 ไม่ได้แปลว่า “ทำอย่างมีระเบียบ” เท่านั้น แต่หมายถึงการเป็น “ระบบ” (System) หรือ “วงจรป้อนกลับ” (Feedback Loop) สมรรถนะของครูไม่ใช่การ เก็บ ข้อมูลลงแฟ้ม แต่คือการ ใช้ ข้อมูลนั้น เพื่อขับเคลื่อนวงจรการสอนในภาคที่ 3
ตารางที่ 1: การสังเคราะห์ 5 องค์ประกอบของสมรรถนะการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ (ข้อ 6 (ข))
ตารางนี้สรุปการวิเคราะห์องค์ประกอบทั้ง 5 ในฐานะวงจรการปฏิบัติงานที่เชื่อมโยงกัน
| องค์ประกอบมาตรฐาน (ข้อ 6(ข)) | หลักการสำคัญ (Core Principle) | แนวทางปฏิบัติ/เครื่องมือ (Examples of Practice) | การเชื่อมโยงกับองค์ประกอบอื่น (System Link) |
| 1. การออกแบบเชิงสร้างสรรค์ | การบูรณาการผ่านการเล่น (Play-Based Integration) | Play-Based Learning (PBL) 6, Project Approach 9, Design Thinking 10 | รับข้อมูลจาก (5) การประเมิน เพื่อนำมาออกแบบแผน |
| 2. การบูรณาการและความแตกต่าง | การสอนที่แตกต่าง (Differentiation) | กิจกรรม 6 หลัก 11, การจัดการศึกษาแบบเรียนรวม (Inclusive Ed) [17], การปรับวิธีการสอน 19 | ปรับการออกแบบ (1) ให้เหมาะกับความต้องการพิเศษ [18] |
| 3. การจัดสื่อและสภาพแวดล้อม | “ครูคนที่สาม” (The Third Teacher) | มุมประสบการณ์ (Learning Corners) 22, บรรยากาศเชิงบวก (Positive Climate) 25, สื่อที่ปลอดภัย 21 | สร้างพื้นที่ทางกายภาพและสังคม (3) เพื่อรองรับกิจวัตร (4) |
| 4. กิจกรรมและกิจวัตรประจำวัน | การสร้างตัวตนและทักษะชีวิต (Self & Life Skills) | กิจวัตรประจำวัน (Routines) 27, Social-Emotional Learning (SEL) 28, การสร้าง Self-Esteem 30 | (4) คือรากฐานของ Growth Mindset 30 ซึ่งจำเป็นสำหรับ (1) |
| 5. การสังเกตและประเมิน | การประเมินตามสภาพจริง (Authentic Assessment) | การสังเกต (Observation) 34, แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolios) 37, บันทึกพฤติกรรม (Anecdotal Records) 38 | (5) คือเครื่องยนต์ที่ป้อนข้อมูลกลับ (Feedback) ไปยัง (1) และ (2) |
ภาคที่ 3: การขับเคลื่อนวงจร: การใช้ข้อมูลประเมินเพื่อยกระดับการเรียนรู้
3.1 การสร้างวงจรป้อนกลับ: หัวใจของคำว่า “เป็นระบบ”
สมรรถนะในองค์ประกอบที่ 5 ไม่ได้จบที่การประเมิน แต่จบที่การนำผลไป “ส่งเสริมและแก้ไขปัญหา” และ “นำผลการประเมินมาพัฒนาเด็ก” 21 นี่คือหัวใจของ “การสอนที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล” (Data-Driven Instruction Cycle) ซึ่งเป็นสมรรถนะขั้นสูงสุดของครูปฐมวัย
ครูที่มีสมรรถนะจะปฏิบัติงานเป็นวงจรป้อนกลับ (Feedback Loop) ดังนี้:
- Phase 1: ออกแบบ (องค์ประกอบ 1): ครูวางแผนหน่วยการเรียนรู้เรื่อง “ฝน”
- Phase 2: จัดประสบการณ์ (องค์ประกอบ 2, 3, 4): ครูจัด “กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์” 15 คือ “การวาดภาพสายฝน” ใน “มุมศิลปะ” 22 ที่จัดเตรียมไว้อย่างปลอดภัย
- Phase 3: ประเมิน (องค์ประกอบ 5): ขณะเด็กทำกิจกรรม ครูใช้ “การสังเกต” 34 และ “บันทึกพฤติกรรม” 38 พบว่า:
- ข้อมูล 1: เด็กหญิง A ไม่กล้าใช้สีน้ำ เพราะกลัวมือเลอะ (สะท้อนปัญหาองค์ประกอบ 4: Self-Esteem/ความกังวล)
- ข้อมูล 2: เด็กชาย B วาดรูปคนไม่สมส่วน แขนขาหายไป (สะท้อนปัญหาองค์ประกอบ 2: พัฒนาการ)
- Phase 4: ปรับปรุง (ป้อนกลับไปยัง องค์ประกอบ 1 & 2): ครูนำข้อมูลนี้ไป “แก้ไขปัญหา” ในวันถัดไป:
- สำหรับเด็ก A: ครู ออกแบบ (องค์ประกอบ 1) กิจกรรมใหม่ คือ “การเล่นสีน้ำแบบไม่ใช้พู่กัน” (เช่น ใช้ที่หยดสี) เพื่อลดความกังวลเรื่องความเลอะเทอะ (แก้ไขปัญหาองค์ประกอบ 4)
- สำหรับเด็ก B: ครู จัดประสบการณ์รายบุคคล (องค์ประกอบ 2) โดยนำ “เกมการศึกษา” 12 ประเภท “ภาพตัดต่อ” (Puzzle) รูปคนมาให้ B เล่น เพื่อส่งเสริมความเข้าใจเรื่องอวัยวะและร่างกาย
นอกจากนี้ การ “แก้ไขปัญหาพฤติกรรม” ในบริบทนี้ ไม่ได้หมายถึงการ “ลงโทษ” พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ แต่หมายถึงการ วิเคราะห์ พฤติกรรมนั้นในฐานะ “ข้อมูล” (Data) เพื่อค้นหาว่าเด็กมีความต้องการใดที่ยังไม่ได้รับการตอบสนอง (เช่น เบื่อ, ทำไม่ได้, ต้องการความสนใจ) และครูต้องปรับการออกแบบการสอน (องค์ประกอบ 1) หรือสภาพแวดล้อม (องค์ประกอบ 3) อย่างไรเพื่อตอบสนองความต้องการนั้น
3.2 แนวทางการส่งเสริมและแก้ไขปัญหา: การจัดทำแผนสนับสนุนรายบุคคล
เมื่อการประเมินตามสภาพจริง (องค์ประกอบ 5) 35 บ่งชี้ว่ามีเด็กที่มีพัฒนาการล่าช้า 20 หรือเด็กที่มีความต้องการพิเศษ 39 สมรรถนะของครูคือการใช้ข้อมูลนั้นอย่างเป็นรูปธรรมในการจัดทำแผนสนับสนุนรายบุคคล
การประเมินตามสภาพจริง (Authentic Assessment) 40 เป็นเครื่องมือที่จำเป็นในการรวบรวมข้อมูลเพื่อพัฒนา “แผนการให้บริการครอบครัวรายบุคคล” (Individualized Family Service Plan – IFSP) 41 หรือแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP) ในระดับที่เหมาะสม
ขั้นตอนการปฏิบัติงานสำหรับครูในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย 39 ควรประกอบด้วย:
- การประเมิน (Assessment): ใช้เครื่องมือประเมินพัฒนาการที่เป็นมาตรฐาน 42 ร่วมกับการสังเกตตามสภาพจริง (องค์ประกอบ 5) เพื่อระบุความล่าช้าหรือความต้องการจำเป็น 20
- การวางแผน (IFSP Development): ครู (ร่วมกับผู้ปกครองและผู้เชี่ยวชาญ) ใช้ข้อมูลประเมิน 41 เพื่อกำหนดเป้าหมายการพัฒนาที่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน (Functional IFSP Outcomes)
- การดำเนินการ (Service Implementation): ครู ปรับ การจัดประสบการณ์ในห้องเรียน (องค์ประกอบ 2) และใช้เทคนิคการสอนเฉพาะ 19 เพื่อช่วยให้เด็กบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ 41
- การติดตาม (Progress Monitoring): ครูใช้การสังเกตอย่างต่อเนื่อง (องค์ประกอบ 5) เพื่อติดตามความก้าวหน้าของเด็กเทียบกับเป้าหมายในแผน และทำการปรับแผนตามความจำเป็น 41
ภาคที่ 4: การขยายระบบนิเวศการเรียนรู้ (สมรรถนะ 6 (ค))
4.1 การผนวกรวมสมรรถนะ “ความสัมพันธ์กับผู้ปกครองและชุมชน” (ข้อ 6 (ค))
แม้ว่าคำสั่งหลักจะเน้นที่ข้อ 6 (ข) แต่การวิเคราะห์มาตรฐานวิชาชีพโดยรวม 2 และหลักสูตร 2568 5 ยืนยันว่า “การสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้ปกครองและชุมชน” (สมรรถนะ 6 (ค)) เป็นองค์ประกอบที่ขาดไม่ได้
สมรรถนะ 6 (ข) (การจัดประสบการณ์) ไม่สามารถบรรลุผลได้ หากปราศจากสมรรถนะ 6 (ค) (ผู้ปกครอง/ชุมชน) เนื่องจากระบบนิเวศการเรียนรู้ (Learning Ecosystem) ของเด็กปฐมวัยจะต้อง “ไร้รอยต่อ” (Seamless) ระหว่างบ้านและสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย
ความเชื่อมโยงนี้ชัดเจนมาก:
- ครูจะจัดประสบการณ์ที่คำนึงถึง “ความแตกต่างระหว่างบุคคล” (6(ข).2) ได้อย่างไร หากไม่ได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับบริบทที่บ้านของเด็กจากผู้ปกครอง (6(ค))?
- ครูจะ “ประเมินอย่างรอบด้าน” (6(ข).5) ได้อย่างไร หากไม่นับรวมข้อมูลการสังเกตจากผู้ปกครอง ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้เรียนได้ดีที่สุด?37
- ครูจะ “แก้ไขปัญหาพัฒนาการ” (6(ข).5) ให้สำเร็จได้อย่างไร หากไม่ “ร่วมมือกับผู้ปกครอง” (6(ค)) 19 ในการส่งเสริมเด็กอย่างต่อเนื่องที่บ้าน?
ดังนั้น สมรรถนะ 6 (ค) จึงเป็น ปัจจัยนำเข้า (Critical Input) ที่สำคัญที่สุดของวงจรการทำงานในสมรรถนะ 6 (ข)
4.2 กลยุทธ์การสร้างความร่วมมือกับผู้ปกครอง
ครูที่มีสมรรถนะ 6 (ข) และ 6 (ค) ต้องแสดงความสามารถในการสร้างความร่วมมือกับผู้ปกครอง ดังนี้:
- การสื่อสารสองทาง (Two-way Communication): พัฒนาระบบการสื่อสารที่ไม่ใช่แค่การ “แจ้ง” ผู้ปกครอง (เช่น สมุดพก) แต่เป็นการ “รับฟัง” ข้อมูลจากผู้ปกครอง 37 และสื่อสารโต้ตอบอย่างสม่ำเสมอ เช่น ผ่านช่องทางออนไลน์ 43
- การสนับสนุนการเรียนรู้ที่บ้าน (Home-Based Learning Support): ครูต้องมีความสามารถในการ ออกแบบ (องค์ประกอบ 1) และจัดส่ง “ตารางกิจกรรม สื่อ อุปกรณ์” ให้ผู้ปกครองนำไปใช้ที่บ้านได้ 43 เพื่อให้การพัฒนาเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
- การดึงผู้ปกครองเป็นส่วนหนึ่งของการประเมิน (Parents as Assessment Partners): ครูที่มีสมรรถนะสูง จะสามารถออกแบบเครื่องมือประเมิน (เช่น แบบสังเกตพฤติกรรมง่ายๆ) ให้ผู้ปกครองใช้ประเมินพัฒนาการลูกที่บ้าน 44 และนำข้อมูลนั้นกลับมาใช้ในวงจรการวางแผนของครู (องค์ประกอบ 1 & 2)
4.3 การดึงทรัพยากรชุมชน
หลักสูตร 2568 เน้นย้ำการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับ “บริบทของครอบครัว ชุมชน” 2 และ “บริบทสังคมและวัฒนธรรมที่เด็กอาศัยอยู่” 4
ดังนั้น สมรรถนะ 6 (ข) ของครู จึงรวมถึงความสามารถในการ “ออกแบบ” (องค์ประกอบ 1) ประสบการณ์การเรียนรู้ที่ใช้ชุมชนเป็นแหล่งเรียนรู้ (Community as a Learning Resource) เช่น การจัด Project Approach 9 ในหัวข้อ “บุคคลและสถานที่สิ่งแวดล้อม” ในชุมชน 16 หรือการเชิญปราชญ์ชาวบ้านหรือผู้ปกครองที่มีอาชีพน่าสนใจเข้ามาเป็นวิทยากรในห้องเรียน นี่คือการบูรณาการสมรรถนะ 6 (ข) และ 6 (ค) อย่างสมบูรณ์แบบ
ภาคที่ 5: บทสรุปและข้อเสนอแนะเชิงปฏิบัติการ
สมรรถนะหลักด้าน “การจัดประสบการณ์การเรียนรู้” (ข้อ 6 (ข)) ตามข้อบังคับคุรุสภา พ.ศ. 2568 ถือเป็นหัวใจสำคัญของการยกระดับวิชาชีพครูปฐมวัย สมรรถนะนี้ไม่ได้ถูกกำหนดขึ้นเพื่อเป็นภาระเชิงเอกสาร แต่เป็นกรอบการปฏิบัติงานที่บังคับใช้ปรัชญาของหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พ.ศ. 2568 ให้เกิดขึ้นจริง
แนวทางปฏิบัตินี้ได้แสดงให้เห็นว่า องค์ประกอบย่อยทั้ง 5 ประการ ไม่ใช่รายการตรวจสอบที่แยกส่วนกัน แต่เป็น “วงจรการปฏิบัติงานเชิงวิชาชีพ” (Professional Practice Cycle) ที่ต่อเนื่องและขับเคลื่อนด้วยข้อมูล:
องค์ประกอบที่ 5 (การประเมินตามสภาพจริง) ทำหน้าที่เป็น เครื่องยนต์ ที่ป้อนข้อมูลกลับไปยัง องค์ประกอบที่ 1 (การออกแบบเชิงสร้างสรรค์) และ องค์ประกอบที่ 2 (การปรับให้เหมาะกับรายบุคคล) ซึ่งการออกแบบและการปฏิบัตินี้ จะเกิดขึ้นใน องค์ประกอบที่ 3 (สภาพแวดล้อม) และต้องตั้งอยู่บนรากฐานที่มั่นคงของ องค์ประกอบที่ 4 (การสร้าง Self-Esteem และทักษะชีวิต) โดยวงจรทั้งหมดนี้จะทำงานได้อย่างสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อเชื่อมโยงกับระบบนิเวศภายนอก คือ องค์ประกอบ 6 (ค) (ผู้ปกครองและชุมชน)
ข้อเสนอแนะเชิงปฏิบัติการ:
เพื่อให้ผู้ประกอบวิชาชีพครู (และนักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพ) สามารถบรรลุสมรรถนะนี้ได้จริง สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย สถาบันผลิตครู และหน่วยงานกำกับดูแล ควรยกระดับการพัฒนาวิชาชีพจากการมุ่งเน้น ความสอดคล้องเชิงเอกสาร (Compliance) ไปสู่ การพัฒนาเชิงลึกด้านการสอน (Pedagogical Coaching) ที่เน้นการสร้าง “วงจรการสอนที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล” (Data-Driven Cycle) การประเมินตามสภาพจริง (Authentic Assessment) และการสร้างความร่วมมือกับผู้ปกครองในฐานะหุ้นส่วนการเรียนรู้ (Learning Partners) อย่างแท้จริง
Works cited
- ราชกิจจานุเบกษา (22 สิงหาคม 2568) เผยแพร่ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูปฐมวัย พ.ศ. 2568 – 366 Q-KIDS, accessed November 5, 2025, https://www.366q-kids.com/news-2140/
- “อมลวรรณ”แจง ข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูปฐมวัย พ.ศ. 2568, accessed November 5, 2025, http://www.edunewssiam.com/th/articles/307711-%22%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%93%22%E0%B9%81%E0%B8%88%E0%B8%87%20%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%AA%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%9E%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B8%90%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%A2%20%E0%B8%9E.%E0%B8%A8.%202568
- คุรุสภาชวนศึกษากฏหมายมาตรฐานวิชาชีพครูปฐมวัย 2568 ด่วน! “อมลวรรณ” เผยข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยมาตรฐานว… – วิทยุศึกษา, accessed November 5, 2025, http://www.moeradiothai.net/news/14/7519
- หลักสูตร การ ศึกษา ปฐมวัย พุทธศักราช 2568, accessed November 5, 2025, https://nitedcr1.go.th/wp-content/uploads/2025/04/001_%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%9B%E0%B8%90%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%A2-%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%A8%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A-2568-%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%B8-3-6-%E0%B8%9B%E0%B8%B5.pdf
- สรุปหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2568 » – Digital Learning Classroom, accessed November 5, 2025, https://krukob.com/web/curriculum-2/
- Play-Based Learning การเรียนรู้ผ่านการเล่น – Code Genius, accessed November 5, 2025, https://codegeniusacademy.com/play-based-learning/
- เรียนปนเล่น เล่นปนเรียน: กระบวนการเรียนรู้ที่เหมาะสมสำหรับเด็กปฐมวัย – The Potential, accessed November 5, 2025, https://thepotential.org/family/play-based-learning/
- ออกแบบกิจกรรมปฐมวัยยังไง ให้เกิดการเรียนรู้ผ่านการเล่น – insKru, accessed November 5, 2025, https://inskru.com/idea/-O8LR8ijB9v5YMdQO7U1/
- แนวทางการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ระดับปฐมวัย, accessed November 5, 2025, https://academic.obec.go.th/web/images/news/1661483574_d_3.pdf
- การเรียนรู้ตามแนวคิด กระบวนการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) ในบริบทชั้นเรียนปฐมวัย, accessed November 5, 2025, https://www.scimath.org/article-stem/item/18361-17-04-2025
- แนวทางการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่หลากหลายในสถานพัฒนา เด็กปฐมวัยตามบริบทไทย – ONEC Backoffice for Administrator, accessed November 5, 2025, http://backoffice.onec.go.th/uploads/Book/1968-file.pdf
- การจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการ: 6 กิจกรรมหลักสำหรับเด็กปฐมวัย – Child Impact, accessed November 5, 2025, https://childimpact.co/learning/6activities-integrated-child
- การจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการ: 6 กิจกรรมหลักสำหรับเด็กปฐมวัย, accessed November 5, 2025, https://ecd.onec.go.th/knowledge/articles/3604/
- การจัดประสบการณ์ส าหรับเด็กปฐมวัย – ttb foundation, accessed November 5, 2025, https://www.ttbfoundation.org/images/knowledge-management/download_file/SDG04/%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%90%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%A2_2018.pdf
- ชุดกิจกรรมการจัดประสบการณ์ – สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา, accessed November 5, 2025, http://academic.obec.go.th/web/images/media/1675829264_d_1.pdf
- แนวทางการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ สำหรับเด็กปฐมวัย – youngciety.com, accessed November 5, 2025, https://www.youngciety.com/article/journal/experience-plan.html
- การศึกษาแบบเรียนรวมกับเรียนร่วม – SRU HiPerc, accessed November 5, 2025, https://hiperc.sru.ac.th/mod/resource/view.php?id=6685
- การจัดการศึกษาในห้องเรียนรวมและการให้ความช – thaijo.org, accessed November 5, 2025, https://so05.tci-thaijo.org/index.php/JTPLC/article/download/264327/178283/1028804
- การจัดการเรียนการสอนสาหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษ, accessed November 5, 2025, https://www.rajanukul.go.th/new/_admin/download/D0000071.pdf
- พัฒนาการล่าช้าในเด็ก (Developmental Delay in Children) – โรงพยาบาลเมดพาร์ค, accessed November 5, 2025, https://www.medparkhospital.com/disease-and-treatment/developmental-delay-in-children
- ประกาศมาตรฐานการศึกษาและค่าเป้าหมายความสำเร็จของสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา ๒๕๖๘ ตามกฎกระทรวงการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๑ – โรงเรียนสอนคนตาบอดในพระราชินูปถัมภ์ จังหวัดเชียงใหม่, accessed November 5, 2025, https://www.cmblind.ac.th/assets/uploads/news/bee6b-2568-1-.pdf
- มุมปฐมวัยมีอะไรบ้าง มาจัดมุมเรียนรู้ให้ลูกรักกันเถอะ – Enfa Smart Club, accessed November 5, 2025, https://www.enfababy.com/blogs/brain/learning-experience-corners
- ออกแบบมุมต่างๆ ในห้องเรียน จัดพื้นที่สมวัยให้อยากมาโรงเรียนทุกวัน! – IKEA, accessed November 5, 2025, https://www.ikea.com/th/th/ideas/corners-classroom-pub33238250/
- การสร้างมุมประสบการณ์สำหรับเด็กปฐมวัยอย่างมีประสิทธิภาพ – Lemon8-app, accessed November 5, 2025, https://www.lemon8-app.com/@sai_kitaya/7512297499047248402?region=us
- บรรยากาศเชิงบวกของโรงเรียน (Positive School Climate) – หลักสูตรศึกษาศาสตรดุษฎีบัณฑิตสาข, accessed November 5, 2025, https://phd.mbuisc.ac.th/cohort%207%20article%202.3/Somporn.pdf
- ปีการศึกษา 2568 – PRC, accessed November 5, 2025, https://www.prc.ac.th/wp-content/uploads/2025/07/%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%9B%E0%B8%90%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%A2-%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2-2568.pdf
- กิจวัตรประจำวันตามช่วงวัย: พัฒนาการด้านการช่วยเหลือตนเอง – คณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล, accessed November 5, 2025, https://pt.mahidol.ac.th/ptcenter/knowledge-article/%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%87/
- Social-emotional Learning การเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะทางสังคมและความเข้าใจตนเอง, accessed November 5, 2025, https://www.thekommon.co/social-emotional-learning/
- เสริมทักษะ sel ผ่านกิจกรรมนอกบทเรียน – Educa, accessed November 5, 2025, https://www.educathai.com/knowledge/articles/635
- Esteem เด็กปฐมวัยจะพัฒนา ไปสู่ความสามารถในการกำกับตนเอง หรือมี Self- Control เมื่อโตขึ้น, accessed November 5, 2025, https://ecd-covidrecovery.rlg-ef.com/%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81-self-esteem-%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%90%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%B2/
- Self-Esteem ความภาคภูมิใจ, accessed November 5, 2025, https://dol.thaihealth.or.th/resourcecenter/sites/default/files/documents/73_pluukfang_self_esteem_khwaamphaakhphuumiaicch.pdf
- ปลูกฝัง Self-Esteem ความภาคภูมิใจในตนเองให้ลูก – Child Impact, accessed November 5, 2025, https://childimpact.co/learning/self-esteem
- การประเมินตามสภาพจริง (Authentic Assessment), accessed November 5, 2025, http://www.pvet.or.th/_files/data/data_OpbBnCac.pdf
- การวัดและประเมินผลพัฒนาการเด็กปฐมวัย – ครูเชียงราย, accessed November 5, 2025, https://www.kruchiangrai.net/2019/10/28/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%9B%E0%B8%90%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%A2/
- หลักการประเมินพัฒ นาการ – wbscport, accessed November 5, 2025, https://wbscport.dusit.ac.th/artefact/file/download.php?file=28448&view=6053&title=%E0%B8%A8%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3.pdf
- การประเมินตามสภาพจริง (Authentic Assesment) – นักเล่าเรื่อง, accessed November 5, 2025, https://sornorpoom.files.wordpress.com/2012/01/authentic.pdf
- การประเมินตามสภาพจริง ครั้งที่ 3, accessed November 5, 2025, http://sagawanketwong.blogspot.com/p/blog-page_45.html
- การประเมินพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย – ห้องเรียนครูแมว, accessed November 5, 2025, http://www.nareumon.com/index.php?option=com_content&task=view&id=15&Itemid=46
- คู่มือปฏิบัติงาน การส่งเสริมเด็กพัฒนาการล่าช้า เด็กพิเศษ อย่างเป็นองค์รวม …, accessed November 5, 2025, https://cf.mahidol.ac.th/th/wp-content/uploads/2024/02/%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%8F%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99_%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A9-%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B9%8C%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A1.pdf
- How to Use Authentic Assessment in Early Childhood Education – Brightwheel, accessed November 5, 2025, https://mybrightwheel.com/blog/authentic-assessment
- Authentic Assessment in Early Intervention, accessed November 5, 2025, http://go.illinois.edu/aalearnerguidepdf
- ผลของโปรแกรมการพัฒนาศักยภาพการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย ของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านในชุมชนแห่งหนึ่ง จังหวัดชัยนาท – ThaiJO, accessed November 5, 2025, https://he02.tci-thaijo.org/index.php/RHPC9Journal/article/download/269542/184892/1161696
- เด็กปฐมวัยกับการส่งเสริมการเรียนรู้แบบใหม่ E – in Thai, accessed November 5, 2025, https://so01.tci-thaijo.org/index.php/truhusocjo/article/download/247323/170351/948550
- การประเมินพัฒนาการเด็กปฐมวัยเมื่อต้องเรียนที่บ้าน – ThaiJo, accessed November 5, 2025, https://so06.tci-thaijo.org/index.php/tmd/article/download/253040/172190/931541
Comments
comments
Powered by Facebook Comments

