Site icon Digital Learning Classroom

กลยุทธ์การออกแบบหัวข้อวิจัยและนวัตกรรมสู่ วิทยฐานะศึกษานิเทศก์เชี่ยวชาญ (ว 11/2564)

แชร์เรื่องนี้


กลยุทธ์การออกแบบหัวข้อวิจัยและนวัตกรรมสู่ วิทยฐานะศึกษานิเทศก์เชี่ยวชาญ (ว 11/2564)

ดร.อนุศร หงษ์ขุนทด
ศึกษานิเทศก์ วิทยฐานะศึกษานิเทศก์เชี่ยวชาญ สพม.นครราชสีมา
Musicmankob@gmail.com 


__________________________________

บทนำ: การเปลี่ยนกระบวนทัศน์ (Paradigm Shift) จาก “ผู้ชำนาญการ” สู่ “ผู้คิดค้นและปรับเปลี่ยน”

การยื่นขอเลื่อนวิทยฐานะในระดับ “ศึกษานิเทศก์เชี่ยวชาญ” นับเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในเส้นทางวิชาชีพ การคัดเลือกหัวข้อวิจัยหรือการพัฒนานวัตกรรมจึงไม่ได้เป็นเพียงการปฏิบัติตามข้อกำหนด แต่คือการออกแบบ “หลักฐานเชิงกลยุทธ์” (Strategic Evidence) ที่ทรงพลัง เพื่อพิสูจน์ความสามารถในการก้าวข้ามจากบทบาท “ผู้ปฏิบัติงานที่ชำนาญการ” (Specialist) ไปสู่ “ผู้นำการเปลี่ยนแปลงและผู้สร้างองค์ความรู้” (Change Leader & Knowledge Creator)

ตามเจตนารมณ์ของ ก.ค.ศ. การประเมินในระดับนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับ “สิ่งที่ชอบ” หรือ “ความถนัดส่วนบุคคล” เพียงอย่างเดียว แต่ต้องเป็นจุดตัด (Intersection) ที่สมบูรณ์แบบขององค์ประกอบสำคัญ 3 ประการ:

  1. ความเชี่ยวชาญและภาระงาน (Expertise & Job Description): หัวข้อนั้นต้องงอกเงยมาจากภาระงานและปัญหาหน้างานที่รับผิดชอบโดยตรง 1
  2. ความต้องการของพื้นที่และนโยบายชาติ (Contextual & Policy Needs): หัวข้อนั้นต้องตอบสนองต่อบริบทปัญหาของสถานศึกษาในความรับผิดชอบ และสอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาการศึกษาของชาติในปัจจุบัน 3
  3. ข้อกำหนดที่เข้มงวดของ ก.ค.ศ. (OCSC Criteria): หัวข้อนั้นต้องสะท้อน “ระดับการปฏิบัติที่คาดหวัง” (Expected Performance Level) ที่ ก.ค.ศ. กำหนดไว้อย่างชัดเจน 5

รายงานฉบับนี้จึงมิใช่เพียงการรวบรวมเทคนิค แต่เป็นบทวิเคราะห์เชิงลึกและการสังเคราะห์แนวทางปฏิบัติ เพื่อให้ศึกษานิเทศก์สามารถ “ออกแบบ” หัวข้อวิจัยที่ทรงพลัง มีความแปลกใหม่ “ทำได้จริง” และที่สำคัญที่สุด คือสามารถ “โดนใจกรรมการ” และ “ผ่านฉลุย” ได้ตั้งแต่การประเมินรอบแรก โดยมุ่งเน้นการตีความเกณฑ์ ว 11/2564 เพื่อให้บรรลุเป้าหมายสูงสุดของระดับเชี่ยวชาญ นั่นคือ “การคิดค้นและปรับเปลี่ยน” (Invent & Transform)

ส่วนที่ 1: การถอดรหัสเกณฑ์การประเมิน ว 11/2564 – หัวใจคือ “คิดค้นและปรับเปลี่ยน” (Invent & Transform)

ความสำเร็จในการขอเลื่อนวิทยฐานะศึกษานิเทศก์เชี่ยวชาญ เริ่มต้นจากการ “ตีโจทย์” ของ ก.ค.ศ. ให้แตก ซึ่งเกณฑ์หลักที่ใช้ในปัจจุบันคือ หนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.3/ว 11 ลงวันที่ 20 พฤษภาคม 2564 6 (ยกเว้นในบริบทเฉพาะ เช่น กรุงเทพมหานคร ที่อาจยังอยู่ระหว่างการปรับใช้หลักเกณฑ์ 8)

1.1 การทำความเข้าใจ ว 11/2564 ในฐานะ “แผนที่” นำทาง

หลักเกณฑ์ ว 11/2564 ได้เปลี่ยนโฉมหน้าการประเมิน โดยเชื่อมโยงผลงานวิชาการเข้ากับการปฏิบัติงานจริงผ่าน “ข้อตกลงในการพัฒนางาน” (Performance Agreement: PA) 6

การประเมินผลงานทางวิชาการเพื่อเลื่อนวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จะพิจารณาจากผลการดำเนินงานที่ปรากฏใน PA โดยเฉพาะผลงานที่แสดงถึงการพัฒนา “กลยุทธ์ สื่อ นวัตกรรม หรือเทคโนโลยี” ในการนิเทศการศึกษา 12 หัวใจสำคัญคือ ผลงานนั้นต้องแสดงให้เห็นถึง “สภาพปัญหา ที่มา หรือแรงบันดาลใจ” ที่ชัดเจน และนำไปสู่การแก้ปัญหาหรือพัฒนางานในหน้าที่อย่างเป็นรูปธรรม

1.2 การตีความ “ระดับการปฏิบัติที่คาดหวัง” (Expected Performance Level)

นี่คือหัวใจที่แท้จริงของรายงานฉบับนี้ ก.ค.ศ. ได้วาง “บันได” ของความคาดหวังทางวิชาชีพไว้อย่างชัดเจน การที่ศึกษานิเทศก์จะยื่นขอระดับ “เชี่ยวชาญ” ได้นั้น จำเป็นต้องก้าวกระโดดจากระดับ “ชำนาญการพิเศษ” อย่างมีนัยสำคัญ 5

การตีความสองคำนี้จึงเป็นสิ่งชี้ขาด:

1. “คิดค้น” (Invent):

คำนี้มีความหมายหนักแน่นกว่า “ปรับปรุง” (Improve) หรือ “ประยุกต์ใช้” (Apply) ในระดับชำนาญการพิเศษ การ “คิดค้น” ในบริบทนี้ หมายถึง การ “สร้าง” (Create) สิ่งใหม่ที่ยังไม่เคยมีในบริบทพื้นที่นั้นๆ หรือเป็นการสังเคราะห์องค์ความรู้เดิมจนเกิดเป็น “รูปแบบ” (Model), “นวัตกรรม” (Innovation), หรือ “กลยุทธ์” (Strategy) ที่มีความซับซ้อน เป็นระบบ และผ่านกระบวนการตรวจสอบคุณภาพทางวิชาการมาแล้ว 5 นี่คือการสร้าง “ต้นแบบ” (Prototype) ไม่ใช่แค่การ “ใช้งาน” (User)

2. “ปรับเปลี่ยน” (Transform):

คำนี้คือผลลัพธ์ของการ “คิดค้น” หากผลงานของระดับชำนาญการพิเศษอาจต้องการเพียง “ผลลัพธ์ที่ดี” (Good results) ผลงานระดับเชี่ยวชาญต้องแสดงหลักฐานการ “สร้างการเปลี่ยนแปลง” (Create Change) 5 นวัตกรรมที่ “คิดค้น” ขึ้นนั้น ต้องสามารถ “ปรับเปลี่ยน” วิธีคิด (Mindset), วิธีการทำงาน (Practice), หรือผลลัพธ์ (Outcomes) ของครูและสถานศึกษาที่รับการนิเทศได้อย่างยั่งยืน และต้องสามารถแสดงหลักฐานเชิงประจักษ์ของการเปลี่ยนแปลงนั้นได้

1.3 “กับดัก” ที่ต้องเลี่ยง: ความแตกต่างระหว่าง ชำนาญการพิเศษ vs เชี่ยวชาญ

ความล้มเหลวส่วนใหญ่ในการยื่นผลงานระดับเชี่ยวชาญ เกิดจากการทำงานที่ “ดี” แต่ “ผิดระดับ” (Good, but at the wrong level)

งานระดับชำนาญการพิเศษ (ที่มักเข้าใจผิดว่าคือเชี่ยวชาญ):

ลักษณะงาน: “รายงานการประเมินโครงการ” (Project Evaluation Report) 5, “การพัฒนางานในหน้าที่” 1, หรือ “การศึกษา/สำรวจสภาพปัญหา”

งานระดับเชี่ยวชาญ (ที่ ก.ค.ศ. คาดหวัง):

ลักษณะงาน: “งานวิจัยและพัฒนา (R&D)” หรือ “การพัฒนารูปแบบ/กลยุทธ์ใหม่” 5

นี่คือสาเหตุสำคัญที่หัวข้องานวิจัยประเภท “การประเมิน” (Evaluation research) หรือ “การสำรวจ” (Survey research) มักจะไม่ “โดนใจ” กรรมการสำหรับระดับเชี่ยวชาญ เพราะสะท้อนความคาดหวังของระดับชำนาญการพิเศษ

ตารางที่ 1.1: การวิเคราะห์เปรียบเทียบระดับการปฏิบัติที่คาดหวัง5

ตารางนี้จะช่วยให้ศึกษานิเทศก์สามารถประเมินตนเอง (Self-Assess) ได้ว่าแนวคิดหัวข้อของตนตกอยู่ในระดับใด

วิทยฐานะคำสำคัญของความคาดหวังลักษณะผลงานทางวิชาการตัวอย่างคำกริยา/คำนาม ในชื่อเรื่อง
ชำนาญการพิเศษริเริ่ม, พัฒนา (Initiate, Develop)– การพัฒนางานในหน้าที่
– การประเมินโครงการ
– การแก้ปัญหาที่ซับซ้อน
การพัฒนา…
การประเมิน…
การศึกษา…
รายงานผลการใช้…
เชี่ยวชาญคิดค้น, ปรับเปลี่ยน (Invent, Transform)งานวิจัยและพัฒนา (R&D) ที่สร้าง นวัตกรรม/รูปแบบ/กลยุทธ์ ใหม่การพัฒนารูปแบบ…
การวิจัยและพัฒนา…
การสร้างกลยุทธ์…
เชี่ยวชาญพิเศษสร้างการเปลี่ยนแปลง (Create Change)– งานวิจัยที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในวงกว้าง
– สร้างองค์ความรู้ใหม่ระดับชาติ
การพัฒนาระบบ…
การสร้างองค์ความรู้ใหม่…

ส่วนที่ 2: การวิเคราะห์ “เหมืองทอง” ของศึกษานิเทศก์: การค้นหาโจทย์วิจัยจากมาตรฐานตำแหน่ง

หัวข้อวิจัยที่ “โดนใจ” กรรมการ ต้องไม่ “ลอย” ออกมาจากภาระงาน แต่ต้องเป็น “ผลผลิต” ที่ตกผลึกจากการปฏิบัติงานในหน้าที่อย่างแท้จริง 1

2.1 การ “ขุด” ปัญหาจากภาระงานหลัก 3 ด้าน (The 3 Pillars)

ตามมาตรฐานตำแหน่งศึกษานิเทศก์ (ว3/2564) 13 ภาระงานหลักของศึกษานิเทศก์ประกอบด้วย 3 ด้านหลัก ซึ่งเป็น “เหมืองทอง” ในการค้นหาโจทย์วิจัย 2:

  1. ด้านการนิเทศการศึกษา: นี่คือหัวใจหลัก รวมถึงการออกแบบแผนการนิเทศ, การคัดสรร สร้าง หรือพัฒนาสื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยี 6, การปฏิบัติการนิเทศ และการติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผล 15
  2. ด้านการส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการศึกษา: รวมถึงการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายและความต้องการจำเป็น, การประสานความร่วมมือ และการสร้างเครือข่าย 15
  3. ด้านการพัฒนาตนเองและวิชาชีพ: รวมถึงการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง และการให้บริการทางวิชาการแก่ชุมชนและสังคม 16

สำหรับผลงานระดับ “เชี่ยวชาญ” ควรเป็นงานที่บูรณาการภาระงานทั้ง 3 ด้านเข้าด้วยกัน 15 กล่าวคือ ศึกษานิเทศก์ควร (1) “คิดค้น” นวัตกรรมการนิเทศ (ด้านที่ 1) (2) โดยอาศัยการวิเคราะห์ข้อมูลและสร้างเครือข่ายความร่วมมือ (ด้านที่ 2) และ (3) สามารถนำนวัตกรรมนั้นไปเผยแพร่ในวงวิชาชีพในฐานะผู้เชี่ยวชาญ (ด้านที่ 3)

2.2 เทคนิคการเปลี่ยน “ปัญหาหน้างาน” สู่ “ประเด็นท้าทาย” (Challenging Issue)

แนวทางจากผู้มีประสบการณ์แนะนำให้ “ถามตัวเองก่อนว่าท่านมีภาระงานใดบ้างที่สัมฤทธิ์ผลและมีปัญหา” 1 การยกระดับจาก “ปัญหา” สู่ “ประเด็นท้าทาย” คือการเปลี่ยนกรอบความคิด

ปัญหาหน้างาน (Routine Problem): “ครูในเขตพื้นที่สอนแบบบรรยาย ไม่ยอมใช้ Active Learning” 17

คำถามระดับชำนาญการพิเศษ: “จะอบรมครูเรื่อง Active Learning อย่างไรให้มีประสิทธิภาพ?”

ประเด็นท้าทาย (Challenging Issue – ระดับเชี่ยวชาญ): “จะ ‘คิดค้น’ กระบวนการนิเทศ (Invent) รูปแบบใด ที่สามารถ ‘ปรับเปลี่ยน’ (Transform) ครูผู้สอนกลุ่มใหญ่ในเขตพื้นที่ ให้เกิดการปรับเปลี่ยนวิธีคิด (Mindset) และมีสมรรถนะ (Competency) ในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ได้อย่างยั่งยืน”

การเปลี่ยนคำถามจาก “การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า” (เช่น การอบรม) ไปสู่ “การสร้างระบบหรือนวัตกรรมเพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน” (เช่น การสร้างรูปแบบการนิเทศ) คือหัวใจของการยกระดับหัวข้อสู่ระดับเชี่ยวชาญ

2.3 บทบาท ศน. ในฐานะ “ผู้วิจัยและพัฒนา” (Researcher & Developer)

ในอดีต การทำผลงานอาจแยกเป็น 3 ส่วน คือ 1) วิจัยเพื่อค้นหาปัญหา 2) สร้างนวัตกรรม (เช่น คู่มือ) และ 3) วิจัยประเมินผลการใช้นวัตกรรม 1

ในปัจจุบัน การทำผลงานระดับเชี่ยวชาญคือการ “รวบ” กระบวนการทั้งหมดนี้ให้เป็น “วงจรการวิจัยและพัฒนา (R&D)” 18 หรือ “การพัฒนารูปแบบ” ที่สมบูรณ์ภายในรายงานฉบับเดียว โดยศึกษานิเทศก์ต้องสวมบทบาทเป็น “ผู้วิจัยและพัฒนา” (Researcher & Developer) ที่มุ่งพัฒนาครูเป็นหลัก 1 และต้องมีการติดตามประเมินผลที่เข้มข้น ไม่ใช่แค่การประเมินความพึงพอใจหลังการอบรม แต่ต้องติดตามไปจนถึงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน

ส่วนที่ 3: การวางทิศทางวิจัยให้สอดคล้องกับนโยบาย (Policy-Driven Research) เพื่อ “ความโดนใจ”

3.1 ทำไมต้องอิงนโยบาย?

กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ประเมินผลงาน คือผู้ที่เข้าใจนโยบายและทิศทางการพัฒนาการศึกษาระดับชาติ การที่หัวข้อวิจัย “ตอบโจทย์” นโยบายปัจจุบันของกระทรวงศึกษาธิการ หรือ จุดเน้นของ สพฐ. 19 แสดงให้เห็นว่าศึกษานิเทศก์ผู้นั้น “ทันสมัย” (Current) “มีวิสัยทัศน์” (Visionary) และกำลังทำงานในระดับ “มหภาค” (Macro) ที่เชื่อมโยงกับภาพใหญ่ของประเทศ ไม่ใช่แค่การทำงาน “จุลภาค” (Micro) ในพื้นที่ของตนเองอย่างโดดเดี่ยว

3.2 การวิเคราะห์จุดเน้น สพฐ. (ปี 2568-2569) เพื่อหา “คีย์เวิร์ด”

การวิเคราะห์นโยบายและจุดเน้นของ สพฐ. ประจำปีงบประมาณ 2568-2569 3 ช่วยให้พบ “คีย์เวิร์ด” ที่เป็น “แต้มต่อ” ในการทำวิจัย 4 ประเด็นสำคัญที่ศึกษานิเทศก์สามารถนำไปพัฒนาต่อได้ ได้แก่:

“ปรับกระบวนการจัดการเรียนรู้ให้หลากหลาย ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย” 4

“ต่อยอดแนวคิดการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) และการคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล” 4

“จัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมือง ศีลธรรม และประชาธิปไตย” 4

การเลือกทำวิจัยในประเด็นเหล่านี้ (เช่น การพัฒนารูปแบบการนิเทศเพื่อส่งเสริม Active Learning) ถือว่ามี “ความโดนใจ” โดยธรรมชาติ เพราะสอดคล้องกับสิ่งที่ สพฐ. กำลังผลักดันอย่างเร่งด่วน

3.3 กลยุทธ์การเชื่อมโยง: การประยุกต์ใช้แนวคิด “INNOVATION”

สพฐ. ได้นำเสนอ “แนวคิด INNOVATION” เพื่อเป็นกรอบในการพัฒนางานนิเทศการศึกษาให้เชื่อมโยงกับนโยบาย 4 ด้าน (ความปลอดภัย, โอกาส, คุณภาพ, ประสิทธิภาพ) 24 นี่คือเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ที่ทรงพลังที่สุดที่ศึกษานิเทศก์สามารถนำมาใช้ “ออกแบบ” การวิจัยของตนเองได้ 25

แนวคิด “INNOVATION” (ซึ่งมี 8 องค์ประกอบ) ไม่ใช่แค่คำย่อ แต่เป็น “สูตรสำเร็จ” ในการออกแบบกระบวนการนิเทศ 24

ตัวอย่างการประยุกต์ใช้:

สมมติว่า ศึกษานิเทศก์ต้องการแก้ปัญหาด้าน “คุณภาพ” (Quality) ซึ่ง สพฐ. ระบุว่าเกี่ยวข้องกับการนิเทศ Active Learning 25 ตารางแนวคิด INNOVATION 25 ได้ “ชี้เป้า” เครื่องมือที่ควรใช้ไว้แล้ว ได้แก่:

จากแนวคิดนี้ ศึกษานิเทศก์สามารถสังเคราะห์หัวข้อวิจัยที่ “สอดคล้องกับนโยบาย” ได้ทันที เช่น “การพัฒนารูปแบบการนิเทศโดยใช้การชี้แนะ (Coaching) และข้อมูลเป็นฐาน (Data-Based) เพื่อพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครู”

ส่วนที่ 4: การคัดสรรระเบียบวิธีวิจัย (Methodology) สำหรับการ “Invent & Transform”

เมื่อได้ประเด็นท้าทาย (จากส่วนที่ 2) และทิศทางตามนโยบาย (จากส่วนที่ 3) แล้ว ขั้นต่อไปคือการเลือก “เครื่องมือ” หรือระเบียบวิธีวิจัย ที่ทรงพลังพอจะ “คิดค้น” และ “ปรับเปลี่ยน” ได้จริง

4.1 ทางเลือกที่ 1: การวิจัยและพัฒนา (R&D)

นิยาม: กระบวนการที่เป็นระบบที่ผสมผสานการประเมินความต้องการ การออกแบบและพัฒนา และการทดสอบ เพื่อ “สร้างผลิตภัณฑ์” (Create Product) หรือ “นวัตกรรม” (Innovation) 18

เหมาะสำหรับ: การสร้างนวัตกรรมที่จับต้องได้ (Tangible) เช่น “ชุดฝึกอบรม” 1, “คู่มือการนิเทศ”, “สื่อดิจิทัลเพื่อการนิเทศ”, “แพลตฟอร์มการนิเทศออนไลน์”

ขั้นตอนหลัก: โดยทั่วไปประกอบด้วย 1) การประเมินความต้องการ (Needs Assessment/Analysis) 2) การออกแบบและพัฒนาต้นแบบ (Design & Development) 3) การทดสอบและปรับปรุง (Testing & Improvement) 18

จุดเด่น: เน้นการ “Invent” ที่ตัว “นวัตกรรม” หรือ “ผลิตภัณฑ์” เป็นหลัก 18

4.2 ทางเลือกที่ 2: การพัฒนารูปแบบ (Model Development)

นิยาม: ถือเป็นรูปแบบหนึ่งของ R&D แต่เน้นการสร้าง “รูปแบบ” (Model) หรือ “กระบวนการ” (Process) ใหม่ ที่เป็นนามธรรม (Abstract) มากกว่าผลิตภัณฑ์ 26

เหมาะสำหรับ: การสร้าง “ระบบ” การทำงานใหม่ เช่น “รูปแบบการนิเทศนักศึกษาฝึกประสบการณ์ฯ (PPIE Model)” 26, “รูปแบบการนิเทศตามแนวคิดของกลิ๊กแมน” 28, “รูปแบบการนิเทศภายในสถานศึกษา” 27

ขั้นตอนหลัก (4 ระยะ): มักอ้างอิงกระบวนการ 4 ระยะ 26

  1. ศึกษาวิเคราะห์สภาพและข้อมูลพื้นฐาน (Analysis)
  2. พัฒนารูปแบบ (Design/Development) (ขั้นตอนนี้มักใช้เทคนิคการวิจัย เช่น เทคนิคเดลฟาย (Delphi Technique) 27 หรือการสนทนากลุ่ม (Focus Group) 29 เพื่อยืนยันองค์ประกอบของรูปแบบ)
  3. ทดลองใช้รูปแบบ (Implementation/Try-out) (ขั้นตอนนี้อาจใช้การวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research) 18 ในการทดลอง)
  4. ประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบ (Evaluation & Improvement)

จุดเด่น: นี่คือระเบียบวิธีวิจัยที่ “ปลอดภัย” และ “ตรงธง” ที่สุดสำหรับ ก.ค.ศ. ระดับเชี่ยวชาญ ดังที่ปรากฏในงานวิจัยและวิทยานิพนธ์จำนวนมาก 10

4.3 ทางเลือกที่ 3: การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (PAR)

นิยาม: การวิจัยที่นักวิจัย (ศึกษานิเทศก์) และผู้ปฏิบัติ (ครู/ผู้บริหาร) ร่วมกันเป็น “ผู้ร่วมวิจัย” เพื่อศึกษาและแก้ปัญหาในบริบทจริง 31 โดยมีเป้าหมายเพื่อ “การเปลี่ยนแปลง” ที่ยั่งยืน 17

เหมาะสำหรับ: การ “Transform” (ปรับเปลี่ยน) วัฒนธรรมองค์กรของโรงเรียน 17, การเปลี่ยนวิธีคิด (Mindset) ของครู, หรือการแก้ปัญหาที่ซับซ้อนที่ศึกษานิเทศก์ไม่สามารถแก้ได้โดยการสั่งการจากภายนอก

ขั้นตอนหลัก (วงจร Cyclical): ดำเนินการเป็นวงจรซ้ำๆ คือ วางแผน (Plan) -> ปฏิบัติ (Do/Act) -> สังเกตผล (Check/Observe) -> สะท้อนผล (Reflect) 17

จุดเด่น: เน้นการ “Transform” ที่ตัว “บุคคล” และ “บริบท” เป็นหลัก 17

ตารางที่ 4.1: ตารางเปรียบเทียบการเลือกใช้ระเบียบวิธีวิจัยสำหรับ ศน.เชี่ยวชาญ

ตารางนี้จะช่วยในการตัดสินใจเลือก Methodology ที่เหมาะสมกับ “ผลผลิต” ที่ต้องการสร้าง

ระเบียบวิธีวิจัยเป้าหมายหลัก (Invent / Transform)ผลผลิตหลัก (Output)จุดแข็งข้อควรระวัง
การวิจัยและพัฒนา (R&D)เน้น Invent (คิดค้น)“นวัตกรรม/ผลิตภัณฑ์” (เช่น ชุดฝึกอบรม, แพลตฟอร์ม)ได้นวัตกรรมที่ชัดเจน, จับต้องได้, ขยายผลง่ายต้องใช้ทักษะการออกแบบและพัฒนาสูง
การพัฒนารูปแบบ (Model Dev)Invent + Transform“รูปแบบ/กระบวนการ” (เช่น รูปแบบการนิเทศ, ระบบการทำงาน)เป็นที่ยอมรับสูงในวงการศึกษา, “ตรงธง” ระดับเชี่ยวชาญต้องเข้มงวดในขั้นตอนการตรวจสอบคุณภาพรูปแบบ (เช่น Delphi)
การวิจัยเชิงปฏิบัติการฯ (PAR)เน้น Transform (ปรับเปลี่ยน)“การเปลี่ยนแปลง” (เช่น การเปลี่ยน Mindset ครู, วัฒนธรรมองค์กร)สร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน, พัฒนาคนไปพร้อมกับงานต้องใช้เวลาและความสัมพันธ์ที่ดี, อาจถูกมองว่าขาดความเข้มงวด หากบันทึกข้อมูลและสะท้อนผลไม่เป็นระบบ

ส่วนที่ 5: เทคนิคและกลยุทธ์การ “สร้าง” หัวข้อวิจัย (Topic Formulation Strategies)

การตั้งชื่อหัวข้อวิจัย คือ “การตลาด” (Marketing) ด่านแรกที่ต้องสื่อสารกับกรรมการ ชื่อเรื่องที่ดีต้องสามารถ “ขาย” ความเป็น “เชี่ยวชาญ” ได้ภายใน 15 วินาที

5.1 สูตรการตั้งชื่อเรื่องที่ “ทรงพลัง” และ “ผ่านฉลุย”

จากการวิเคราะห์ผลงานที่ผ่านการอนุมัติและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง (เช่น 10) สามารถสกัด “สูตรทองคำ” (The Golden Formula) ในการตั้งชื่อเรื่องระดับเชี่ยวชาญได้ ดังนี้:

“การพัฒนา[นวัตกรรม/รูปแบบ/กลยุทธ์]… (Invent)…เพื่อ[ผลลัพธ์/เป้าหมาย]… (Transform)…ของ[กลุ่มเป้าหมาย]…”

5.2 การใช้คำกุญแจ (Keywords) ที่สะท้อนระดับเชี่ยวชาญ

ชื่อเรื่องต้องประกอบด้วยคำหลักที่ “เน้นย้ำ” เพื่อบอกระดับความเชี่ยวชาญออกมา

คำที่ “ต้องมี” (สะท้อน “Invent”):

คำที่ “ต้องมี” (สะท้อน “Transform”):

คำที่ “ควรมี” (สะท้อน “เครื่องมือ” หรือ “แนวคิด” ที่ใช้):

5.3 “กับดัก” ของหัวข้อที่ต้องเลี่ยง (Common Pitfalls)

หัวข้อที่ใช้คำกริยาหรือแนวคิดต่อไปนี้ มักจะถูกตั้งคำถามว่า “ใช่ระดับเชี่ยวชาญหรือไม่” เพราะไม่สะท้อนการ “Invent & Transform”:

หัวข้อเหล่านี้ “ไม่โดนใจ” เพราะไม่ตอบโจทย์ระดับการปฏิบัติที่คาดหวัง “คิดค้น ปรับเปลี่ยน” ของ ก.ค.ศ. 5

ส่วนที่ 6: ตัวอย่างการสังเคราะห์หัวข้อวิจัย (Case Studies in Topic Generation)

ส่วนนี้จะแสดง “กระบวนการคิด” (Thought Process) ในการประยุกต์ใช้กรอบแนวคิดจากส่วนที่ 2 (ปัญหา) + ส่วนที่ 3 (นโยบาย) + ส่วนที่ 4 (Methodology) เพื่อสร้างหัวข้อวิจัยจริง

กรณีศึกษาที่ 1: การแก้ปัญหา Active Learning (โจทย์นโยบายยอดนิยม)

การสังเคราะห์หัวข้อ

วิเคราะห์: หัวข้อนี้ “Invent” (รูปแบบการนิเทศแบบใหม่) และ “Transform” (เสริมสร้างสมรรถนะ AL) 5

กรณีศึกษาที่ 2: การนำเทคโนโลยี/AI มาใช้ (โจทย์ท้าทายใหม่)

1. ปัญหา (จากส่วนที่ 2): ศึกษานิเทศก์ 1 คน ต้องดูแลโรงเรียนจำนวนมาก การนิเทศแบบตัวต่อตัว (Face-to-Face) ไม่เพียงพอและไม่ทันเวลา

2. นโยบาย (จากส่วนที่ 3): สพฐ. เน้นเทคโนโลยีดิจิทัล, AI 4 และด้าน “ประสิทธิภาพ” (Efficiency) 25

3. แนวคิด 25: เลือกใช้ T: Technology และ I: Information (ใช้ข้อมูลเป็นฐาน)

4. Methodology (จากส่วนที่ 4): เลือก “การวิจัยและพัฒนา (R&D)” 18 เพราะจะสร้าง “ผลิตภัณฑ์” หรือ “แพลตฟอร์ม”

5. การสังเคราะห์หัวข้อ:

6. วิเคราะห์: หัวข้อนี้ “คิดค้น” (Invent) แพลตฟอร์ม AI อย่างชัดเจน 5 และมุ่ง “ปรับเปลี่ยน” (Transform) กระบวนการนิเทศให้มีประสิทธิภาพ 25

กรณีศึกษาที่ 3: การบูรณาการข้ามสาระ (เช่น ประวัติศาสตร์ + สมรรถนะ)

1. ปัญหา (จากส่วนที่ 2): ครูประวัติศาสตร์ในพื้นที่ เน้น “สอนเนื้อหา” เพื่อการท่องจำ ไม่เน้น “สมรรถนะการคิด” (Thinking Skills)

2. นโยบาย (จากส่วนที่ 3): สพฐ. เน้น “จัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์” 4 และ “การพัฒนาสมรรถนะผู้เรียน” 4

3. แนวคิด 25: เลือกใช้ N: Novel and Adaptive Thinking (ประยุกต์แนวคิดใหม่) และ V: Value (เพิ่มคุณค่าวิชาชีพ)

4. Methodology (จากส่วนที่ 4): เลือก “การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (PAR)” 17 เพราะปัญหาอยู่ที่ Mindset ของครู ซึ่งต้องใช้กระบวนการมีส่วนร่วมในการปรับเปลี่ยน

5. การสังเคราะห์หัวข้อ:

6. วิเคราะห์: หัวข้อนี้ใช้คำว่า “ปรับเปลี่ยน” (Transform) เป็นธงนำ 5 และใช้ PAR เป็นเครื่องมือในการ “คิดค้น” กระบวนการนิเทศที่เหมาะสมกับบริบท 17

ส่วนที่ 7: การสืบค้นผลงานที่ผ่านการอนุมัติ และบทสรุปเชิงกลยุทธ์

7.1 แนวทางการสืบค้นผลงานที่ “ผ่านแล้ว”

การค้นหา “ตัวอย่าง” หัวข้อที่ ก.ค.ศ. อนุมัติแล้ว เป็นสิ่งที่ท้าทาย เนื่องจาก ก.ค.ศ. มักเผยแพร่เพียง “รายชื่อผู้ที่ได้รับการอนุมัติ” 35 ไม่ได้เผยแพร่ “ชื่อหัวข้อวิจัย” โดยตรง อย่างไรก็ตาม มีช่องทางในการสืบค้นที่มีประสิทธิภาพ ดังนี้:

  1. คลังข้อมูลผลงานวิชาการ OTEPC: สำนักงาน ก.ค.ศ. มีคลังข้อมูลผลงานวิชาการ 34 สามารถสืบค้นโดยใช้คำสำคัญ “ศึกษานิเทศก์” และจำกัด “สังกัด สพฐ.” 34 และวิเคราะห์ชื่อเรื่องที่ปรากฏ แม้จะไม่ระบุวิทยฐานะ แต่ชื่อเรื่องที่ขึ้นต้นด้วย “การพัฒนารูปแบบ…” หรือ “การวิจัยและพัฒนา…” มักเป็นผลงานในระดับสูง
  2. คลังวิทยานิพนธ์ (เช่น ThaiLIS, TCI): กลยุทธ์ที่ดีที่สุดคือการสืบค้นงานวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาโท-เอก ในสาขาการบริหารการศึกษา หรือหลักสูตรและการสอน โดยใช้คำค้น เช่น “การพัฒนารูปแบบการนิเทศ” 10 เนื่องจากงานวิจัยระดับเชี่ยวชาญของ ก.ค.ศ. มักจะมีโครงสร้างและระเบียบวิธีวิจัยที่ใกล้เคียงกับดุษฎีนิพนธ์

7.2 บทสรุป: รายการตรวจสอบ (Checklist) สุดท้ายก่อนเลือกหัวข้อ

ก่อนตัดสินใจเลือกหัวข้อวิจัยเพื่อยื่นขอวิทยฐานะศึกษานิเทศก์เชี่ยวชาญ ให้ใช้รายการตรวจสอบสุดท้ายนี้ เพื่อประเมินว่าหัวข้อของท่าน “พร้อม” ที่จะ “ผ่านฉลุย” หรือไม่:

  1. [ ] ความเชื่อมโยงกับภาระงาน: หัวข้อนี้มาจาก “งานในหน้าที่” (Job Description) ของท่านโดยตรงหรือไม่? 2
  2. [ ] การตอบสนองนโยบาย: หัวข้อนี้ “ทันสมัย” และสอดคล้องกับ “นโยบาย” ปัจจุบัน (เช่น Active Learning, AI, สมรรถนะ, ประวัติศาสตร์) หรือไม่? 4
  3. [ ] ระดับ “คิดค้น” (Invent): หัวข้อนี้ใช้คำกริยาที่สะท้อนการ “คิดค้น” (เช่น การพัฒนารูปแบบ, การวิจัยและพัฒนา, การสร้างกลยุทธ์) หรือไม่? (หลีกเลี่ยง: การประเมิน, การศึกษา) 5
  4. [ ] ระดับ “ปรับเปลี่ยน” (Transform): หัวข้อนี้มีเป้าหมายที่ชัดเจนเพื่อ “ปรับเปลี่ยน” (เช่น เพื่อพัฒนาสมรรถนะ, เพื่อเสริมสร้าง, เพื่อยกระดับ) ครู สถานศึกษา หรือผู้เรียน หรือไม่? 5
  5. [ ] ความเหมาะสมของระเบียบวิธีวิจัย: ระเบียบวิธีวิจัยที่ท่านเลือก (R&D, Model Dev, PAR) เหมาะสมและทรงพลังพอที่จะ “Invent & Transform” ได้จริงหรือไม่? 17
  6. [ ] ความเป็นไปได้ (Feasibility): หัวข้อนี้ “ทำได้จริง” ในบริบท เวลา และทรัพยากรที่ท่านมีหรือไม่?
  7. [ ] ประโยชน์ของผลงาน: ท่านสามารถอธิบาย “ประโยชน์” ของผลงานนี้ต่อผู้เรียน, ครู, และ “วงวิชาการ” (เช่น การสร้างองค์ความรู้ใหม่ หรือการเป็นแบบอย่างที่ดี) ได้อย่างชัดเจนหรือไม่? 12

หากคำตอบของทุกข้อคือ “ใช่” นั่นหมายความว่า ท่านได้พบหัวข้อวิจัยที่ไม่ได้เป็นเพียง “สิ่งที่ท่านชอบ” แต่เป็น “หลักฐานเชิงกลยุทธ์” ที่พร้อมจะพิสูจน์ความเชี่ยวชาญในระดับ “คิดค้นและปรับเปลี่ยน” ต่อคณะกรรมการประเมินแล้ว

Works cited

  1. ศึกษานิเทศก์ : การทำผลงานเพื่อเลื่อนวิทยฐานะชำนาญการพิเศษและเชี่ยวชาญพิเศษ – GotoKnow, accessed November 10, 2025, https://www.gotoknow.org/posts/271208
  2. แนวทาง-PA-ตำแหน่งศึกษานิเทศก์ – Flip eBook Pages 1-50 | AnyFlip, accessed November 10, 2025, https://anyflip.com/jlefp/xgpb/basic
  3. นโยบายและจุดเน้นของ สพฐ. ประจำปีงบประมาณ 2568-2569, accessed November 10, 2025, http://www.secondarytak.go.th/wp-content/uploads/2024/11/67-11-25-%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B8%AA%E0%B8%9E%E0%B8%90.-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%93-2568-2569.pdf
  4. นโยบายและจุดเน้นของ สพฐ. ประจำปีงบประมาณ 2568-2569, accessed November 10, 2025, http://www.secondarytak.go.th/wp-content/uploads/2024/11/67-11-25-นโยบายและจุดเน้นของ-สพฐ.-ประจำปีงบประมาณ-2568-2569.pdf
  5. แนวทางการสังเคราะห์และพัฒนางานวิจัยเพื่อเลื่อนวิทยฐานะเชี่ยวชาญ สำหรับผู้บริหารสถานศึกษา », accessed November 10, 2025, https://krukob.com/web/news-128/
  6. แนวทางการดำเนินการ (ว.PA) ตำแหน่งศึกษานิเทศก์ – PubHTML5, accessed November 10, 2025, https://pubhtml5.com/jibv/kjih/
  7. วิทยฐานะข้าราชการครู – Google Sites, accessed November 10, 2025, https://sites.google.com/view/rucovedsite/academic-standing
  8. 2564-ว11 หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและ วิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตำแหน่งศึกษานิเทศก์ – กรุงเทพมหานคร, accessed November 10, 2025, https://bma-csc.bangkok.go.th/csc/docs/2564v11kks20/
  9. ศึกษานิเทศก์ ทำ ว11/2564 (PA) อย่างไร » – Digital Learning Classroom, accessed November 10, 2025, https://krukob.com/web/sv-4/
  10. การพัฒนาศึกษานิเทศก์สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเพื่อรองรับหลักสูตรฐานสมรรถนะ และการ – DSpace at Silpakorn University, accessed November 10, 2025, http://ithesis-ir.su.ac.th/dspace/bitstream/123456789/5385/1/61252918.pdf
  11. มัดรวมข้อมูลสำคัญ ว.PA สำหรับศึกษานิเทศก์ – Starfishlabz, accessed November 10, 2025, https://www.starfishlabz.com/blog/603-%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%8D-%E0%B8%A7-pa-%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A8%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B8%81%E0%B9%8C
  12. แนวทางการขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ ตำแหน่งศึกษานิเทศก์ …, accessed November 10, 2025, https://krukob.com/web/v11-2564/
  13. 2. มาตรฐานตำแหน่ง – พัฒนาศึกษานิเทศก์ 2567, accessed November 10, 2025, https://sv1.esdc.go.th/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%81/%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A2%E0%B8%B0%E0%B8%97-1-%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%B2/2-%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%87
  14. ว3/2564 มาตรฐานตำแหน่งและมาตรฐานวิทยฐานะของข้าร, accessed November 10, 2025, https://fth1.com/uppic/64100418/news/64100418_1_20220905-204351.pdf
  15. คูมือการปฏิบัติงานรายบุคคลของศึกษานิเทศก, accessed November 10, 2025, https://www.sesaonkp.go.th/wp-content/uploads/2023/07/%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%8F%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%84%E0%B8%84%E0%B8%A5-%E0%B8%93%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B9%8C.pdf
  16. ศึกษานิเทศก์เชี่ยวชาญ – หลักเกณฑ์และวิธีการ – Google Sites, accessed November 10, 2025, https://sites.google.com/mattayom31.go.th/v17/%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%93%E0%B8%91%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%98%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3
  17. การพัฒนาคุณภาพครูในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน: การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม THE TEACHERQUALITY DEVELOPMENT IN A BASIC EDUCATION SCHOOL: A PARTICIPATORY ACTION RESEARCH., accessed November 10, 2025, https://ejournals.swu.ac.th/index.php/EAJ/article/view/5376
  18. การวิจัยและพัฒนาทางการนิเทศการศึกษา: แนวทางสู่นวัตกรรมการศึกษาที่ …, accessed November 10, 2025, https://krukob.com/web/sv-20/
  19. 13 นโยบายและจุดเน้น สพฐ. 2568 – 2569 – สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา …, accessed November 10, 2025, https://www.sesact.go.th/index.php/39484
  20. นโยบายการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 – 2569, accessed November 10, 2025, https://ops.moe.go.th/%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2-%E0%B8%A8%E0%B8%98-2568-2569/
  21. นโยบายการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 – 2569, accessed November 10, 2025, https://www.moe.go.th/%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2-%E0%B8%A8%E0%B8%98-2568-2569/
  22. ประกาศนโยบายและจุดเน้นของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568-2569, accessed November 10, 2025, https://plan.ssk3.go.th/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A8%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%99-2/
  23. การพัฒนารูปแบบการนิเทศการจัดการเรียนการสอนทางไกล โดยใช้ – สำนักงานศึกษาธิการภาค 9, accessed November 10, 2025, http://www.reo9.obec.in.th/gis/eoffice/10000005tbl_orgdownload/20211027102947mr1gnTS..pdf
  24. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตระหนักและมุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพ, accessed November 10, 2025, https://www.sesalpglpn.go.th/wp-content/uploads/2023/08/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8-%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81-%E0%B8%AA%E0%B8%9E%E0%B8%90.-8-3-66.pdf
  25. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตระหนักและมุ่งมั่นในการพัฒนา …, accessed November 10, 2025, https://www.sesalpglpn.go.th/wp-content/uploads/2023/08/หนังสือการพัฒนาคุณภาพการนิเทศ-จาก-สพฐ.-8-3-66.pdf
  26. การพัฒนารูปแบบการนิเทศนักศึกษาฝ กประสบการณ – ThaiJO, accessed November 10, 2025, https://he02.tci-thaijo.org/index.php/Veridian-E-Journal/article/viewFile/6961/6009
  27. การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการเพื่อพัฒนากระบวนการนิเทศภายในสถานศึกษา – ผลงานวิชาการ, accessed November 10, 2025, https://research.otepc.go.th/files/%E0%B8%89%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%9A%E0%B8%B9%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C_etw1p0ak.pdf
  28. การพัฒนารูปแบบการนิเทศการสอนตามแนวคิดของกล – ThaiJO, accessed November 10, 2025, https://he02.tci-thaijo.org/index.php/Veridian-E-Journal/article/download/7607/6583
  29. รูปแบบการพัฒนาทักษะการนิเทศการศึกษาของผู้บ – ThaiJO, accessed November 10, 2025, https://so02.tci-thaijo.org/index.php/JRKSA/article/download/260146/175911/1021357
  30. การพัฒนารูปแบบการนิเทศแบบมีส่วนร่วมเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะการวัด – ระบบสารสนเทศบัณฑิตวิทยาลัย – มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร, accessed November 10, 2025, https://gsmis.snru.ac.th/e-thesis/file_att1/2023022362632233108_fulltext.pdf
  31. การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (Participatory Action Research-PAR), accessed November 10, 2025, https://elib.life.ac.th/wp-content/uploads/2023/04/02-%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%8F%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1-%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88-%E0%B8%AF.pdf
  32. การวิจัยปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม: แนวทางการประยุกต์ใช้ในสถานศึกษา Participatory Action Research – ThaiJo, accessed November 10, 2025, https://so06.tci-thaijo.org/index.php/IEJ/article/download/263086/176405
  33. การพัฒนาคุณภาพครูในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน: การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม, accessed November 10, 2025, http://phd.mbuisc.ac.th/KKU_Thesis/A_Manop.pdf
  34. ผลงานวิชาการ, accessed November 10, 2025, https://research.otepc.go.th/
  35. รายชื่อผลงานที่ผ่านระดับ “เชี่ยวชาญ” ที่อนุมัติล่าสุด | ครูบ้านนอกดอทคอม, accessed November 10, 2025, https://www.kroobannok.com/44153
  36. การพัฒนารูปแบบการนิเทศการจัดการศึกษาเรียนรวมในโรงเรียนเรียนรวม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 1 The Development of Supervision Model for Inclusive Education in Chiang Rai Primary Educational Service Area 1 – ฐานข้อมูลผลงานการวิจัย | ThaiEdResearch, accessed November 10, 2025, http://www.thaiedresearch.org/home/paperview/3532/?
  37. เทคนิคการทําผลงานทางวิชาการสําหรับวิชาชีพครู, accessed November 10, 2025, https://www.kruchiangrai.net/wp-content/uploads/2019/11/%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B9%82%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%84%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%9E%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9.pdf

Comments

comments

Powered by Facebook Comments

Exit mobile version