Site icon Digital Learning Classroom

แบบจำลองการวางแผนบูรณาการเทคโนโลยี (Technology Integration Planning Model – TIP) 9th Edition และตัวอย่าง OCC

แชร์เรื่องนี้

แบบจำลองการวางแผนบูรณาการเทคโนโลยี (Technology Integration Planning Model – TIP) 9th Edition

แบบจำลองการวางแผนบูรณาการเทคโนโลยี (Technology Integration Planning Model – TIP) ตามแนวคิดของ Hughes และ Roblyer (2022) คือกรอบการทำงานเชิงระบบที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ครูและนักการศึกษาสามารถบูรณาการเทคโนโลยีเข้ากับการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นแบบจำลองที่เน้นการเริ่มต้นจากปัญหาในการปฏิบัติจริง (problems of practice) มากกว่าการเริ่มจากเทคโนโลยีที่มีอยู่

TIP Model ประกอบด้วย 3 ระยะหลักและ 9 ขั้นตอนย่อย ซึ่งครอบคลุมกระบวนการตั้งแต่การระบุปัญหาในการปฏิบัติ การออกแบบและดำเนินการสอน ไปจนถึงการประเมินผลและแบ่งปันบทเรียน โดยมุ่งเน้นการวางแผนอย่างรอบคอบและเป็นระบบ เพื่อให้การบูรณาการเทคโนโลยีสามารถตอบสนองต่อความต้องการทางการศึกษาอย่างแท้จริง สร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่มีความหมาย และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงวิธีการเรียนการสอนในเชิงบวก

แบบจำลองนี้มองการบูรณาการเทคโนโลยีเป็นกระบวนการที่ต่อเนื่องและเป็นวงจร ซึ่งต้องมีการประเมิน ปรับปรุง และแบ่งปันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อพัฒนาการใช้เทคโนโลยีในการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมทั้งส่งเสริมให้เกิดชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพในการใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา

ระยะที่ 1 เริ่มต้นจากปัญหาในการปฏิบัติที่ยั่งยืน

ระยะที่ 1 ศึกษาปัญหา และความต้องการในการปฏิบัติ

ขั้นตอนที่ 1: ระบุปัญหาในการปฏิบัติ (Problems of Practice – POPs)

ขั้นตอนที่ 2: ประเมินทรัพยากรทางเทคโนโลยี

ขั้นตอนที่ 3: ระบุความเป็นไปได้ทางเทคโนโลยีและเลือกกลยุทธ์การบูรณาการ

ระยะที่ 2 ออกแบบและสอนบทเรียนการบูรณาการเทคโนโลยี

ระยะที่ 2 ออกแบบและสอนบทเรียนการบูรณาการเทคโนโลยี

ขั้นตอนที่ 4: กำหนดวัตถุประสงค์การเรียนรู้และการประเมิน

ขั้นตอนที่ 5: พิจารณาข้อได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบ: RATify บทเรียนที่วางแผนไว้

ขั้นตอนที่ 6: เตรียมสภาพแวดล้อมการเรียนรู้และสอนบทเรียน

ระยะที่ 3 ประเมิน ปรับปรุง และแบ่งปัน

ระยะที่ 3 ประเมิน ปรับปรุง และแบ่งปัน

ขั้นตอนที่ 7: ประเมินผลลัพธ์และผลกระทบของบทเรียน

ขั้นตอนที่ 8: ปรับปรุงตามผลลัพธ์

ขั้นตอนที่ 9: แบ่งปันบทเรียน การปรับปรุง และผลลัพธ์กับเพื่อนครู

แบบจำลอง TIP นี้เป็นกระบวนการที่เป็นวงจร โดยข้อมูลจากการประเมินและแบ่งปันในระยะที่ 3 สามารถนำไปสู่การระบุปัญหาในการปฏิบัติใหม่หรือปรับปรุงในระยะที่ 1 สำหรับรอบการพัฒนาต่อไป

แนวทางในการนำแบบจำลอง TIP ไปประยุกต์ใช้ในโรงเรียนและห้องเรียน

การประยุกต์ใช้ในระดับโรงเรียน

ระยะที่ 1: เริ่มต้นจากปัญหาในการปฏิบัติที่ยั่งยืน

  1. จัดตั้งคณะทำงานด้านเทคโนโลยีการศึกษา
    • รวบรวมตัวแทนครูจากทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้
    • ระดมความคิดเห็นเพื่อระบุปัญหาในการจัดการเรียนการสอนที่พบบ่อย
    • สำรวจความต้องการใช้เทคโนโลยีของครูและนักเรียน
  2. จัดทำแผนที่ทรัพยากรเทคโนโลยี (Technology Resource Mapping)
    • สำรวจและจัดทำฐานข้อมูลอุปกรณ์เทคโนโลยีที่มีอยู่
    • ประเมินความเพียงพอและความทันสมัยของอุปกรณ์
    • วิเคราะห์ช่องว่างระหว่างทรัพยากรที่มีกับความต้องการที่แท้จริง
  3. พัฒนาแผนกลยุทธ์การบูรณาการเทคโนโลยีของโรงเรียน
    • กำหนดวิสัยทัศน์และพันธกิจด้านเทคโนโลยีการศึกษา
    • จัดลำดับความสำคัญของการลงทุนด้านเทคโนโลยี
    • วางแผนการพัฒนาบุคลากรอย่างเป็นระบบ

ระยะที่ 2: ออกแบบและดำเนินการบูรณาการเทคโนโลยี

  1. จัดหลักสูตรพัฒนาสมรรถนะด้านเทคโนโลยีให้กับครู
    • ออกแบบหลักสูตรที่สอดคล้องกับความต้องการจริง
    • แบ่งระดับการอบรมตามความเชี่ยวชาญของครู
    • จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง
  2. พัฒนาระบบสนับสนุนและช่วยเหลือ
    • จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือด้านเทคโนโลยี (Tech Support Center)
    • สร้างเครือข่ายครูแกนนำด้านเทคโนโลยี
    • พัฒนาคู่มือและแหล่งเรียนรู้ออนไลน์สำหรับครู
  3. สร้างวัฒนธรรมการบูรณาการเทคโนโลยี
    • จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประจำเดือน
    • ยกย่องและให้รางวัลครูที่ใช้เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์
    • สร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ด้านเทคโนโลยี

ระยะที่ 3: ประเมิน ปรับปรุง และแบ่งปัน

  1. พัฒนาระบบการติดตามและประเมินผล
    • กำหนดตัวชี้วัดความสำเร็จที่ชัดเจน
    • เก็บข้อมูลทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ
    • จัดประชุมวิเคราะห์ผลการประเมินเป็นประจำ
  2. จัดทำแผนการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
    • นำผลการประเมินมาปรับปรุงแผนกลยุทธ์
    • จัดลำดับความสำคัญของการพัฒนาในรอบต่อไป
    • สร้างความยั่งยืนให้กับการบูรณาการเทคโนโลยี
  3. ขยายผลและแบ่งปันความสำเร็จ
    • จัดงานนิทรรศการแสดงผลงานประจำปี
    • สร้างเครือข่ายกับโรงเรียนอื่นเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์
    • เผยแพร่แนวปฏิบัติที่ดีผ่านช่องทางต่างๆ

การประยุกต์ใช้ในระดับห้องเรียน

ระยะที่ 1: เริ่มต้นจากปัญหาในการปฏิบัติที่ยั่งยืน

  1. วิเคราะห์ผู้เรียนและระบุปัญหาการเรียนรู้
    • สังเกตและบันทึกพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียน
    • ระบุเนื้อหาหรือทักษะที่นักเรียนมีความยากลำบากในการเรียนรู้
    • สอบถามความคิดเห็นและความต้องการของนักเรียน
  2. ประเมินทรัพยากรเทคโนโลยีในห้องเรียน
    • ตรวจสอบอุปกรณ์เทคโนโลยีที่มีในห้องเรียน
    • สำรวจทักษะด้านเทคโนโลยีของนักเรียน
    • ระบุเทคโนโลยีที่นักเรียนสามารถเข้าถึงได้นอกห้องเรียน
  3. ค้นหาแนวทางการบูรณาการเทคโนโลยีที่เหมาะสม
    • ค้นคว้าแอพพลิเคชันและเครื่องมือดิจิทัลที่เหมาะกับเนื้อหาและวัตถุประสงค์การเรียนรู้
    • พิจารณาความสอดคล้องกับบริบทและข้อจำกัดที่มี
    • เลือกเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ปัญหาการเรียนรู้ที่ระบุไว้

ระยะที่ 2: ออกแบบและสอนบทเรียนบูรณาการเทคโนโลยี

  1. ออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้
    • กำหนดวัตถุประสงค์การเรียนรู้ที่ชัดเจน
    • ออกแบบกิจกรรมที่บูรณาการเทคโนโลยีอย่างมีความหมาย
    • วางแผนการประเมินผลที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
  2. วิเคราะห์ตามกรอบ RAT (Replacement, Amplification, Transformation)
    • พิจารณาว่าเทคโนโลยีจะช่วยทดแทน เพิ่มประสิทธิภาพ หรือเปลี่ยนแปลงการเรียนการสอนอย่างไร
    • ปรับปรุงแผนการสอนเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับที่สูงขึ้น
    • เตรียมแผนสำรองในกรณีที่เทคโนโลยีไม่พร้อมใช้งาน
  3. ดำเนินการสอนตามแผน
    • จัดเตรียมห้องเรียนและอุปกรณ์ให้พร้อม
    • แนะนำการใช้เทคโนโลยีให้กับนักเรียนอย่างชัดเจน
    • สังเกตและบันทึกการตอบสนองของนักเรียนระหว่างเรียน

ระยะที่ 3: ประเมิน ปรับปรุง และแบ่งปัน

  1. ประเมินผลการจัดการเรียนรู้
    • ตรวจสอบความบรรลุวัตถุประสงค์การเรียนรู้
    • รวบรวมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากนักเรียน
    • วิเคราะห์จุดแข็งและจุดที่ต้องปรับปรุง
  2. ปรับปรุงแผนการจัดการเรียนรู้
    • ปรับปรุงกิจกรรมที่ไม่ประสบความสำเร็จ
    • เพิ่มเติมหรือปรับเปลี่ยนการใช้เทคโนโลยี
    • พัฒนาต่อยอดจากสิ่งที่ทำได้ดี
  3. แบ่งปันประสบการณ์กับเพื่อนครู
    • นำเสนอบทเรียนในการประชุมกลุ่มสาระการเรียนรู้
    • จัดทำเอกสารหรือวิดีโอสรุปการจัดการเรียนรู้
    • เปิดโอกาสให้เพื่อนครูเข้าสังเกตการณ์สอน

ตัวอย่างการประยุกต์ใช้ในสถานการณ์จริง

ตัวอย่างที่ 1: การบูรณาการเทคโนโลยีในวิชาวิทยาศาสตร์ระดับมัธยมต้น

ระยะที่ 1: ระบุปัญหาและทรัพยากร

ระยะที่ 2: ออกแบบและสอน

ระยะที่ 3: ประเมินและแบ่งปัน

ตัวอย่างที่ 2: การบูรณาการเทคโนโลยีในวิชาภาษาไทยระดับประถมปลาย

ระยะที่ 1: ระบุปัญหาและทรัพยากร

ระยะที่ 2: ออกแบบและสอน

ระยะที่ 3: ประเมินและแบ่งปัน

เคล็ดลับสำหรับการประยุกต์ใช้ TIP Model ให้ประสบความสำเร็จ

  1. เริ่มจากปัญหาที่แท้จริง ไม่ใช่เริ่มจากเทคโนโลยี
    • ให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ปัญหาการเรียนรู้อย่างลึกซึ้ง
    • เลือกเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ปัญหานั้นๆ โดยเฉพาะ
  2. คำนึงถึงบริบทและข้อจำกัด
    • ประเมินความพร้อมด้านทรัพยากรอย่างรอบด้าน
    • ออกแบบการบูรณาการที่สอดคล้องกับสภาพจริง
  3. พัฒนาทักษะครูอย่างต่อเนื่อง
    • จัดอบรมและให้การสนับสนุนที่ตรงกับความต้องการ
    • สร้างโอกาสให้ครูได้ทดลองและเรียนรู้จากความผิดพลาด
  4. สร้างการมีส่วนร่วมจากทุกฝ่าย
    • ให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการออกแบบการเรียนรู้
    • สร้างความร่วมมือกับผู้ปกครองและชุมชน
  5. ใช้การประเมินเพื่อการพัฒนา
    • เก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง
    • ใช้ผลการประเมินเพื่อปรับปรุงการดำเนินงาน
  6. มุ่งเน้นการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน
    • สร้างวัฒนธรรมการใช้เทคโนโลยีที่เข้มแข็ง
    • บูรณาการการใช้เทคโนโลยีเข้ากับวิสัยทัศน์ของโรงเรียน

การนำแบบจำลอง TIP ไปประยุกต์ใช้อย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้การบูรณาการเทคโนโลยีในโรงเรียนและห้องเรียนเป็นไปอย่างมีความหมาย ตอบสนองต่อปัญหาที่แท้จริง และนำไปสู่การพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนอย่างยั่งยืน

ตัวอย่างการออกแบบและพัฒนาแนวทางในการขับเคลื่อนระบบ OBEC Content Center ในสถานศึกษาโดยใช้ Technology Integration Planning Model (TIP)

ระยะที่ 1 เริ่มต้นจากปัญหาในการปฏิบัติที่ยั่งยืน

ขั้นตอนที่ 1: ระบุปัญหาในการปฏิบัติ (POPs)

ขั้นตอนที่ 2: ประเมินทรัพยากรทางเทคโนโลยี

ขั้นตอนที่ 3: ระบุความเป็นไปได้ทางเทคโนโลยีและเลือกกลยุทธ์การบูรณาการ

ระยะที่ 2 ออกแบบและสอนบทเรียนการบูรณาการเทคโนโลยี

ขั้นตอนที่ 4: กำหนดวัตถุประสงค์การเรียนรู้และการประเมิน

ขั้นตอนที่ 5: พิจารณาข้อได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบ: RATify บทเรียนที่วางแผนไว้

ขั้นตอนที่ 6: เตรียมสภาพแวดล้อมการเรียนรู้และสอนบทเรียน

ระยะที่ 3 ประเมิน ปรับปรุง และแบ่งปัน

ขั้นตอนที่ 7: ประเมินผลลัพธ์และผลกระทบของบทเรียน

ขั้นตอนที่ 8: ปรับปรุงตามผลลัพธ์

ขั้นตอนที่ 9: แบ่งปันบทเรียน การปรับปรุง และผลลัพธ์กับเพื่อนครู

ตัวอย่างการพัฒนาแนวทางการดำเนินงานขับเคลื่อนระบบคลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน (OBEC Content Center) ของโรงเรียนสุขสบาย สพม.นครราชสีมา โดยใช้แบบจำลอง TIP

ตามเกณฑ์ประเภท ผู้ขับเคลื่อนระบบคลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน (OBEC Content Center) สถานศึกษา

ระยะที่ 1 เริ่มต้นจากปัญหาในการปฏิบัติที่ยั่งยืน

การออกแบบและพัฒนาแนวทางหรือกระบวนการในการขับเคลื่อนระบบ OBEC Content Center

ขั้นตอนที่ 1: ระบุปัญหาในการปฏิบัติ (Problems of Practice – POPs)

สภาพปัญหาที่พบในโรงเรียนสุขสบาย:

ความต้องการในการพัฒนา:

ขั้นตอนที่ 2: ประเมินทรัพยากรทางเทคโนโลยี

ทรัพยากรของนักเรียน:

ทรัพยากรของครู:

ทรัพยากรของโรงเรียน:

ทรัพยากรของชุมชน:

ขั้นตอนที่ 3: ระบุความเป็นไปได้ทางเทคโนโลยีและเลือกกลยุทธ์การบูรณาการ

กลยุทธ์การบูรณาการ OBEC Content Center:

  1. กลยุทธ์ “Digital Learning Ecosystem”
    • พัฒนาระบบนิเวศการเรียนรู้ดิจิทัลที่เชื่อมโยง OBEC Content Center กับการเรียนการสอนในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้
    • สร้างวัฒนธรรมการแบ่งปันและใช้ทรัพยากรดิจิทัลร่วมกัน
  2. กลยุทธ์ “Progressive Digital Competency”
    • พัฒนาสมรรถนะด้านดิจิทัลของครูอย่างเป็นขั้นตอน จากระดับพื้นฐานสู่ระดับก้าวหน้า
    • ใช้ระบบพี่เลี้ยงและการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างเพื่อนครู
  3. กลยุทธ์ “Blended Learning Integration”
    • ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบผสมผสานที่บูรณาการสื่อจาก OBEC Content Center
    • พัฒนาแนวทางการใช้สื่อดิจิทัลทั้งในและนอกห้องเรียน

ระยะที่ 2 ออกแบบและสอนบทเรียนการบูรณาการเทคโนโลยี

กระบวนการขับเคลื่อนที่เป็นระบบ

ขั้นตอนที่ 4: กำหนดวัตถุประสงค์การเรียนรู้และการประเมิน

วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์:

  1. เพื่อพัฒนาทักษะของครูในการใช้งานระบบ OBEC Content Center ให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพภายในปีการศึกษา 2566
  2. เพื่อส่งเสริมการบูรณาการสื่อดิจิทัลจาก OBEC Content Center เข้าสู่กระบวนการจัดการเรียนรู้ในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้
  3. เพื่อสร้างเครือข่ายการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการใช้สื่อดิจิทัลในโรงเรียน
  4. เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนผ่านการใช้สื่อดิจิทัลที่มีคุณภาพ

ตัวชี้วัดความสำเร็จ:

  1. ครูร้อยละ 90 สามารถใช้งานระบบ OBEC Content Center ได้
  2. มีแผนการจัดการเรียนรู้ที่บูรณาการสื่อจาก OBEC Content Center อย่างน้อยร้อยละ 70 ของทุกรายวิชา
  3. ความพึงพอใจของครูและนักเรียนต่อการใช้สื่อจาก OBEC Content Center อยู่ในระดับดีขึ้นไป (3.5 จาก 5.0)
  4. มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และเผยแพร่แนวปฏิบัติที่ดีอย่างน้อยภาคเรียนละ 2 ครั้ง
  5. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 ในรายวิชาที่มีการใช้สื่อจาก OBEC Content Center

การประเมินผล:

ขั้นตอนที่ 5: พิจารณาข้อได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบ: RATify บทเรียนที่วางแผนไว้

การวิเคราะห์ RAT (Replacement, Amplification, Transformation):

1. Replacement (การทดแทน):

2. Amplification (การเพิ่มประสิทธิภาพ):

3. Transformation (การเปลี่ยนแปลง):

ขั้นตอนที่ 6: เตรียมสภาพแวดล้อมการเรียนรู้และสอนบทเรียน

การเตรียมโครงสร้างพื้นฐาน:

การพัฒนาบุคลากร:

กระบวนการนำไปใช้ในห้องเรียน:

ระยะที่ 3 ประเมิน ปรับปรุง และแบ่งปัน

การสร้างการมีส่วนร่วมและเครือข่าย

ขั้นตอนที่ 7: ประเมินผลลัพธ์และผลกระทบ

กระบวนการประเมิน:

การประเมินผลกระทบ:

การสะท้อนผล:

ขั้นตอนที่ 8: ทำการปรับปรุงตามผลลัพธ์

กระบวนการปรับปรุง:

การปรับปรุงด้านต่างๆ:

การพัฒนาต่อยอด:

ขั้นตอนที่ 9: แบ่งปันบทเรียน การปรับปรุง และผลลัพธ์

การสร้างเครือข่ายภายในโรงเรียน:

การสร้างเครือข่ายภายนอกโรงเรียน:

การเผยแพร่แนวปฏิบัติที่ดี:

การบูรณาการสู่ความยั่งยืน:

แผนปฏิบัติการขับเคลื่อน OBEC Content Center โรงเรียนสุขสบาย

ระยะสั้น (ภาคเรียนที่ 1)

  1. จัดตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อน OBEC Content Center
  2. สำรวจและประเมินทรัพยากรทางเทคโนโลยีและทักษะของครู
  3. จัดอบรมเชิงปฏิบัติการการใช้งาน OBEC Content Center ให้กับครูทุกคน
  4. พัฒนาคู่มือและระบบช่วยเหลือการใช้งาน
  5. กำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัดความสำเร็จ

ระยะกลาง (ภาคเรียนที่ 2)

  1. ติดตามและประเมินผลการใช้งาน OBEC Content Center
  2. จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้และถอดบทเรียน
  3. ปรับปรุงแนวทางการดำเนินงานตามผลการประเมิน
  4. ขยายเครือข่ายการใช้งานสู่โรงเรียนอื่นในเขตพื้นที่
  5. พัฒนานวัตกรรมการใช้ OBEC Content Center ที่เป็นเอกลักษณ์ของโรงเรียน

ระยะยาว (ปีการศึกษาถัดไป)

  1. ประเมินผลกระทบในระยะยาวของการใช้ OBEC Content Center
  2. พัฒนาโรงเรียนสู่การเป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านการใช้สื่อดิจิทัล
  3. จัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายในการขับเคลื่อน OBEC Content Center
  4. สร้างความยั่งยืนให้กับการใช้สื่อดิจิทัลในการเรียนการสอน
  5. เผยแพร่องค์ความรู้และแนวปฏิบัติที่ดีในระดับชาติ

การพัฒนาแนวทางการดำเนินงานขับเคลื่อนระบบ OBEC Content Center ของโรงเรียนสุขสบาย ด้วยแบบจำลอง TIP นี้ จะช่วยให้โรงเรียนสามารถนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาบูรณาการในการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน นำไปสู่การพัฒนาคุณภาพการศึกษาและเตรียมความพร้อมให้ผู้เรียนสำหรับโลกยุคดิจิทัลต่อไป

ดร.อนุศร หงษ์ขุนทด

ที่มา:
อนุศร  หงษ์ขุนทด.  (2558).  การพัฒนารูปแบบระบบการเรียนแบบห้องเรียนกลับด้านผ่านสื่อ3 แบบ ด้านทักษะดนตรี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา.  ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.

Roblyer, M.  and J. Hughes.  (2022).  Integrating Educational Technology into Teaching: Transforming Learning across Disciplines, 9th Edition.   Pearson Education.

Comments

comments

Powered by Facebook Comments

Exit mobile version