Site icon Digital Learning Classroom

จากปราชญ์ผู้โดดเดี่ยวสู่ผู้นำแห่งความร่วมมือ: สำรวจเส้นทางการเปลี่ยนผ่านของครูในศตวรรษที่ 21

แชร์เรื่องนี้

จากปราชญ์ผู้โดดเดี่ยวสู่ผู้นำแห่งความร่วมมือ: สำรวจเส้นทางการเปลี่ยนผ่านของครูในศตวรรษที่ 21

ดร.อนุศร หงษ์ขุนทด
ศึกษานิเทศก์ วิทยฐานะศึกษานิเทศก์เชี่ยวชาญ สพม.นครราชสีมา
Musicmankob@gmail.com 4 ตุลาคม 2568


__________________________________

บทนำ: ความจำเป็นของความร่วมมือในวันครูโลก 2568

วิวัฒนาการของวิชาชีพครูจากผู้ปฏิบัติงานที่โดดเดี่ยวไปสู่วิชาชีพที่เน้นความร่วมมือ ไม่ใช่เป็นเพียงกระแสการเปลี่ยนแปลง แต่เป็นความจำเป็นพื้นฐานเพื่อรับมือกับความซับซ้อนของโลกในศตวรรษที่ 21 รายงานฉบับนี้จะใช้แนวคิดหลักขององค์การยูเนสโก (UNESCO) สำหรับวันครูโลก ปี 2568 ในหัวข้อ “การปรับเปลี่ยนวิชาชีพครูสู่วิชาชีพแห่งความร่วมมือ” (Recasting Teaching as a Collaborative Profession) เป็นแกนหลักในการวิเคราะห์ การเปลี่ยนแปลงสู่ความร่วมมือนี้ถือเป็นคำตอบที่สำคัญต่อพลังขับเคลื่อนสามประการ ได้แก่ มรดกแห่งการทำงานอย่างโดดเดี่ยวที่สืบทอดมาจากรูปแบบการสอนในอดีต การเปลี่ยนแปลงอย่างพลิกผันและโอกาสที่เกิดจากปัญญาประดิษฐ์ (AI) และความจำเป็นเร่งด่วนในการบ่มเพาะทักษะที่ซับซ้อนชุดใหม่ให้แก่ผู้เรียนเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตที่คาดเดาได้ยาก

แก่นสำคัญของรายงานฉบับนี้คือ โลกสมัยใหม่เรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนผ่านจากบทบาทครูในฐานะผู้ปฏิบัติงานเพียงลำพัง (solo task) ไปสู่ผู้ประกอบวิชาชีพที่เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่าย ซึ่งมีส่วนร่วมในการทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ สิ่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเติบโตทางวิชาชีพ การรักษาครูให้อยู่ในระบบ และการยกระดับผลลัพธ์ทางการเรียนรู้ ท่ามกลางวิกฤตการขาดแคลนครูทั่วโลกที่ต้องการครูเพิ่มถึง 44 ล้านคนภายในปี 2573 และอัตราส่วนครูที่ผ่านการฝึกอบรมที่ลดลงในบางภูมิภาค การสนับสนุนและรักษาบุคลากรครูที่มีอยู่ผ่านการทำงานร่วมกันจึงกลายเป็นภารกิจที่สำคัญอย่างยิ่งยวด รายงานฉบับนี้จะนำเสนอโครงสร้างการวิเคราะห์ตามลำดับดังนี้: การวิเคราะห์เชิงประวัติศาสตร์ของบทบาท “ปราชญ์ผู้โดดเดี่ยว” การสำรวจบทบาทของ AI ในฐานะตัวเร่งการเปลี่ยนแปลง การเจาะลึกทักษะที่จำเป็นสำหรับอนาคต และบทสรุปที่นำเสนอ “ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ” (Professional Learning Communities: PLCs) เป็นกลไกหลักในการสร้างวัฒนธรรมแห่งความร่วมมือในวิชาชีพครู

ตอนที่ 1: มรดกแห่งปราชญ์ผู้โดดเดี่ยว: การทบทวนบทบาทครูในเชิงประวัติศาสตร์

ส่วนนี้จะติดตามพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของบทบาทครู โดยเน้นบริบทของไทยเป็นหลักและอ้างอิงถึงแนวโน้มของโลก เพื่อชี้ให้เห็นถึงรากฐานทางวัฒนธรรมและโครงสร้างที่หยั่งรากลึกของการทำงานอย่างโดดเดี่ยวในวิชาชีพครู ประเด็นหลักคือ อัตลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ของครูในฐานะผู้มีอำนาจและความรู้แต่เพียงผู้เดียว แม้จะมีคุณค่าในยุคสมัยนั้น แต่ก็ได้สร้างแรงเฉื่อยทางวัฒนธรรมที่ขัดขวางต่อรูปแบบการทำงานร่วมกันที่จำเป็นในปัจจุบัน

รากฐานการสอนในสังคมไทย: มุขปาฐะและอำนาจเชิงศีลธรรม

รูปแบบการสอนในยุคแรกของไทยมีลักษณะเป็นการถ่ายทอดความรู้แบบตัวต่อตัว ผ่านคำพูด (“บอกด้วยวาจาและใช้มือชี้”) และการสาธิตให้ดูเป็นตัวอย่าง (“ทำให้ดูและจับมือศิษย์ให้ทำ”) พ่อแม่ ผู้ใหญ่ในชุมชน และพระภิกษุ คือครูคนแรกที่สอนทักษะชีวิตและคุณธรรมจริยธรรม โดยมีรากฐานมาจากหลักพุทธศาสนาและคัมภีร์พระไตรปิฎก ครูจึงมีบทบาทเสมือนบิดาผู้ปกครองที่ต้องชี้นำ ปกป้องคุ้มครอง และดูแลให้ศิษย์สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองได้ (“ป้องกันอันตรายทั้งปวงให้แก่ศิษย์,” “สอนฝึกให้ศิษย์จักลี้ยงตัว”) ซึ่งความสัมพันธ์ในลักษณะนี้ได้สถาปนาโครงสร้างแบบลำดับชั้นจากหนึ่งไปสู่หลายคน

การสถาปนากระบวนทัศน์ครูเป็นศูนย์กลาง

การศึกษาเริ่มมีรูปแบบที่เป็นทางการมากขึ้นหลังจากการเกิดขึ้นของแบบเรียนเล่มแรกของไทย คือ “จินดามณี” ในสมัยอยุธยา และอิทธิพลจากมิชชันนารีชาวตะวันตกในเวลาต่อมา ซึ่งนำมาซึ่งวิชาและรูปแบบการสอนใหม่ๆ สิ่งนี้สอดคล้องกับรูปแบบ “การศึกษาแบบดั้งเดิม” (traditional education) ของโลก (ประมาณช่วงปี ค.ศ. 1800-1930) ซึ่งตอกย้ำบทบาทของครูในฐานะ “ปราชญ์บนเวที” (sage on the stage) รูปแบบดังกล่าวมีลักษณะเด่นดังนี้:

การสร้างมาตรฐานวิชาชีพที่ตอกย้ำการทำงานอย่างโดดเดี่ยว

การจัดตั้งโรงเรียนฝึกหัดครูอย่างเป็นทางการในประเทศไทย (เช่น ที่วัดเทพศิรินทราวาส ในปี พ.ศ. 2449 และโรงเรียนฝึกหัดครูสตรีแห่งแรกในปี พ.ศ. 2456) เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างความเป็นวิชาชีพครู อย่างไรก็ตาม หน้าที่ความรับผิดชอบของครูที่ถูกกำหนดขึ้น ไม่ได้มีเพียงการสอน แต่ยังรวมถึงงานธุรการ การจัดการชั้นเรียน และการประสานงานกับผู้ปกครอง ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นภาระของครูเพียงคนเดียว สิ่งนี้ได้สร้างระบบนิเวศของห้องเรียนที่สมบูรณ์ในตัวเองและถูกบริหารจัดการโดยครูเพียงคนเดียว

วิวัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของวิชาชีพครูได้หล่อหลอมอัตลักษณ์ทางวิชาชีพที่หยั่งรากลึกอยู่บนความเป็นอิสระและความรับผิดชอบส่วนบุคคล “วัฒนธรรมแห่งความโดดเดี่ยว” นี้ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นสัญลักษณ์ของความสามารถและอำนาจทางวิชาชีพ ปัจจุบันกลับกลายเป็นอุปสรรคสำคัญทั้งในเชิงโครงสร้างและจิตวิทยาต่อการนำรูปแบบการทำงานร่วมกันที่จำเป็นต่อการศึกษาในศตวรรษที่ 21 มาปรับใช้ ข้อมูลในอดีตแสดงให้เห็นอย่างสม่ำเสมอว่าครูเป็นศูนย์กลางและมักเป็นผู้กุมอำนาจและความรู้แต่เพียงผู้เดียวในห้องเรียน โครงสร้างทางกายภาพและองค์กรของโรงเรียน (ห้องเรียนเดี่ยว ความรับผิดชอบส่วนบุคคลในการสอนและรักษาวินัย) ยิ่งตอกย้ำรูปแบบการทำงานที่โดดเดี่ยวนี้ เมื่อเวลาผ่านไป สิ่งนี้ได้บ่มเพาะบรรทัดฐานทางวิชาชีพที่ตัดสินความสามารถของครูจากความสามารถในการจัดการห้องเรียนของตนเองได้อย่างอิสระ การขอความช่วยเหลือหรือการร่วมมืออย่างจริงจังจึงอาจถูกมอง (ทั้งโดยรู้ตัวและไม่รู้ตัว) ว่าเป็นสัญญาณของความอ่อนแอ ดังนั้น เมื่อมีการปฏิรูปการศึกษาสมัยใหม่ เช่น การนำ PLC มาใช้ จึงไม่ใช่เป็นเพียงการเชิญครูเข้าร่วมประชุมอีกครั้งหนึ่ง แต่เป็นการท้าทายอัตลักษณ์ทางวิชาชีพที่มีมานานกว่าศตวรรษ นี่คือคำอธิบายถึงการต่อต้านหรือการนำไปปฏิบัติเพียงผิวเผินที่มักเกิดขึ้น เพราะวัฒนธรรมพื้นฐานของวิชาชีพยังไม่ได้เปลี่ยนจากการให้คุณค่ากับความเป็นอิสระไปสู่การพึ่งพาซึ่งกันและกัน

ตอนที่ 2: การพลิกผันด้วยดิจิทัลและการถือกำเนิดของเพื่อนร่วมงาน AI

ส่วนนี้วิเคราะห์ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะปัญญาประดิษฐ์ (AI) ต่อวิชาชีพครู ประเด็นหลักคือ AI ไม่ได้เข้ามาเพื่อทดแทนครู แต่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาอันทรงพลังที่ช่วยทำงานเสริมต่างๆ ให้เป็นอัตโนมัติและสร้างการเรียนรู้ที่เฉพาะบุคคลอย่างยิ่งยวด (hyper-personalized learning) การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีนี้ได้ปรับเปลี่ยนบทบาทของครูอย่างสิ้นเชิง โดยผลักดันให้ครูต้องก้าวออกจากบทบาทผู้ส่งมอบข้อมูลไปสู่การทำหน้าที่ที่มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่ทำได้ ซึ่งสร้างความจำเป็นเร่งด่วนให้เกิดความร่วมมือทางวิชาชีพเพื่อรับมือกับภูมิทัศน์ใหม่นี้

การทำงานเสริมโดยอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มคุณค่าของความเป็นมนุษย์

AI สามารถลดภาระงานธุรการของครูได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยทำงานที่ซ้ำซากและใช้เวลานานให้เป็นอัตโนมัติ เช่น การตรวจงาน การจัดตารางสอน และการสื่อสาร งานวิจัยชี้ว่าสิ่งนี้อาจช่วยให้ครูมีเวลาเพิ่มขึ้นถึง 13 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เวลาที่ได้กลับคืนมานี้ช่วยให้ครูสามารถทุ่มเทให้กับปฏิสัมพันธ์ที่มีคุณค่าสูงและมีเพียงมนุษย์ที่ทำได้ เช่น การเป็นพี่เลี้ยง (mentoring) การโค้ช การอำนวยความสะดวกในการอภิปรายที่ซับซ้อน และการให้การสนับสนุนทางสังคมและอารมณ์ ซึ่งเป็นงานที่ AI ไม่สามารถทำแทนได้

รุ่งอรุณแห่งการเรียนรู้ที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคล

AI ช่วยให้เกิดการเรียนรู้ที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคล (personalized learning) และการเรียนรู้แบบปรับเปลี่ยนได้ (adaptive learning) ในวงกว้าง ซึ่งก้าวข้ามโมเดล “หนึ่งขนาดเหมาะกับทุกคน” ในอดีต กลไกสำคัญประกอบด้วย:

การนำทางสู่พรมแดนใหม่: ความเท่าเทียม จริยธรรม และประสิทธิภาพ

การบูรณาการ AI มาพร้อมกับความท้าทายและความเสี่ยงที่สำคัญซึ่งต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ:

AI ทำหน้าที่เป็นพลัง “แยกส่วน” (unbundling) บทบาทของครู โดยแยกหน้าที่ด้านธุรการและการส่งมอบข้อมูลออกจากหน้าที่ด้านการสอนและความสัมพันธ์ การแยกส่วนนี้ก่อให้เกิดวิกฤตอัตลักษณ์ทางวิชาชีพที่สามารถแก้ไขได้ผ่านการทำงานร่วมกันเท่านั้น ในอดีต บทบาทของครูเป็น “มัดรวม” ของภาระงานต่างๆ: ผู้บรรยาย ผู้ทำงานธุรการ ผู้ตรวจงาน ผู้รักษาวินัย พี่เลี้ยง และอื่นๆ ปัจจุบัน AI สามารถทำงานด้านธุรการ การตรวจงาน และการให้ข้อมูลพื้นฐานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า สิ่งนี้เป็นการ “แยกส่วน” บทบาทเดิมออกไป และบีบให้เกิดคำถามว่า “คุณค่าที่ไม่อาจทดแทนได้ของครูที่เป็นมนุษย์คืออะไร” คำตอบอยู่ในหน้าที่ที่ AI ไม่สามารถ ทำได้ นั่นคือ การส่งเสริมการคิดเชิงวิพากษ์ ความคิดสร้างสรรค์ ความเห็นอกเห็นใจ และการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน อย่างไรก็ตาม ครูส่วนใหญ่ได้รับการฝึกฝนมาเพื่อบทบาทแบบ “มัดรวม” พวกเขาจึงต้องเผชิญกับความจำเป็นอย่างยิ่งในการยกระดับทักษะและนิยามการปฏิบัติงานทางวิชาชีพของตนเองใหม่โดยมีหน้าที่เหล่านี้เป็นแกนกลาง การนิยามใหม่นี้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้อย่างโดดเดี่ยว แต่ต้องอาศัยความพยายามร่วมกันในรูปแบบของชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ ที่ซึ่งครูสามารถทดลองวิธีการสอนใหม่ๆ แบ่งปันสิ่งที่ได้ผลในการบูรณาการ AI ร่วมกันพัฒนากรอบจริยธรรม และสนับสนุนซึ่งกันและกันในระหว่างการเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่นี้ ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงที่เกิดจาก AI จึงทำให้โมเดลความร่วมมือตามแนวคิดของยูเนสโกกลายเป็นความจำเป็นเร่งด่วน ไม่ใช่เพียงอุดมคติที่ห่างไกล

ตอนที่ 3: การบ่มเพาะปัญญาแห่งอนาคต: ความจำเป็นของทักษะชุดใหม่

ส่วนนี้จะให้รายละเอียดเกี่ยวกับทักษะและความสามารถที่จำเป็นสำหรับผู้เรียนเพื่อการเติบโตในโลกที่ขับเคลื่อนด้วยโลกาภิวัตน์และ AI โดยสังเคราะห์จากกรอบแนวคิดหลัก เช่น World Economic Forum (WEF) และ Partnership for 21st Century Skills (P21) ประเด็นหลักคือ ธรรมชาติของทักษะเหล่านี้ ซึ่งเน้นการทำงานร่วมกัน การสื่อสาร และการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน เรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพื้นฐานในวิธีการสอน โดยเปลี่ยนบทบาทของครูจากผู้สอนไปสู่ผู้อำนวยความสะดวกในการสร้างประสบการณ์การเรียนรู้

การจำแนกชุดทักษะแห่งศตวรรษที่ 21

กรอบแนวคิดชั้นนำได้ระบุทักษะที่จำเป็นไว้อย่างเป็นระบบ ดังนี้:

กรอบแนวคิดของ WEF: แบ่ง 16 ทักษะออกเป็น 3 หมวดหมู่หลัก

  1. ความรู้พื้นฐาน (Foundational Literacies): ทักษะหลัก เช่น การอ่านออกเขียนได้ การคำนวณ ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (ICT) ความรู้ทางการเงิน และความรู้ทางวัฒนธรรมและพลเมือง
  2. ความสามารถ (Competencies): วิธีที่นักเรียนใช้รับมือกับความท้าทายที่ซับซ้อน ประกอบด้วย “4Cs” ได้แก่ การคิดเชิงวิพากษ์/การแก้ปัญหา (Critical Thinking/Problem-Solving) ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) การสื่อสาร (Communication) และความร่วมมือ (Collaboration)
  3. คุณลักษณะ (Character Qualities): วิธีที่นักเรียนใช้รับมือกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงความอยากรู้อยากเห็น ความคิดริเริ่ม ความมุมานะ/ความเพียร (Persistence/Grit) การปรับตัว ภาวะผู้นำ และความตระหนักรู้ทางสังคมและวัฒนธรรม

กรอบแนวคิด P21: กรอบนี้บูรณาการ “ผลลัพธ์ของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21” เข้ากับ “ระบบสนับสนุน” โดยเน้นผลลัพธ์สำคัญของผู้เรียนดังนี้

  1. วิชาหลักและแนวคิดเชิงสหวิทยาการแห่งศตวรรษที่ 21: เน้นแนวคิดที่เชื่อมโยงข้ามสาขาวิชา เช่น ความตระหนักรู้ระดับโลก (Global Awareness) และความรู้ด้านพลเมือง (Civic Literacy)
  2. ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม (The 4Cs): การคิดเชิงวิพากษ์ การสื่อสาร ความร่วมมือ และความคิดสร้างสรรค์
  3. ทักษะด้านสารสนเทศ สื่อ และเทคโนโลยี: ความรู้ทางดิจิทัลเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง
  4. ทักษะชีวิตและอาชีพ: ความยืดหยุ่น การปรับตัว ความคิดริเริ่ม การชี้นำตนเอง ภาวะผู้นำ และความรับผิดชอบ

ตารางที่ 1: กรอบแนวคิดความสามารถที่สำคัญในศตวรรษที่ 21

หมวดหมู่ทักษะตามกรอบของ World Economic Forum (WEF)ทักษะตามกรอบของ Partnership for 21st Century Skills (P21)
ความรู้พื้นฐานการอ่านออกเขียนได้, การคำนวณ, วิทยาศาสตร์, ICT, การเงิน, วัฒนธรรมและพลเมืองวิชาหลัก (ภาษา, คณิตศาสตร์, วิทยาศาสตร์ ฯลฯ) และแนวคิดเชิงสหวิทยาการ (ความตระหนักรู้ระดับโลก ฯลฯ)
ความสามารถการคิดเชิงวิพากษ์, ความคิดสร้างสรรค์, การสื่อสาร, ความร่วมมือทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม (The 4Cs: การคิดเชิงวิพากษ์, ความคิดสร้างสรรค์, การสื่อสาร, ความร่วมมือ)
ทักษะเทคโนโลยี(รวมอยู่ในความรู้ด้าน ICT)ทักษะด้านสารสนเทศ สื่อ และเทคโนโลยี
คุณลักษณะและทักษะชีวิตความอยากรู้อยากเห็น, ความคิดริเริ่ม, ความมุมานะ, การปรับตัว, ภาวะผู้นำ, ความตระหนักรู้ทางสังคมทักษะชีวิตและอาชีพ (ความยืดหยุ่น, การปรับตัว, ความคิดริเริ่ม, การชี้นำตนเอง, ภาวะผู้นำ ฯลฯ)

ความสำคัญของทักษะ “ที่มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่ทำได้”

ในยุคที่ AI สามารถจัดการงานที่ต้องใช้กระบวนการคิดแบบซ้ำๆ ได้ ทักษะที่มีคุณค่าที่สุดคือทักษะที่มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่ทำได้:

การเปลี่ยนแปลงกระบวนการสอนที่จำเป็น

ทักษะที่จำเป็นเหล่านี้เชื่อมโยงโดยตรงกับความต้องการวิธีการสอนรูปแบบใหม่ ทักษะเหล่านี้ไม่สามารถสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านการบรรยายที่ผู้เรียนเป็นฝ่ายรับเพียงอย่างเดียว จุดเน้นต้องเปลี่ยนจากการถ่ายทอดความรู้ไปสู่การอำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (problem-based learning) และการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน (project-based learning) เป้าหมายไม่ใช่เพียง “เรียนเพื่อหางาน” อีกต่อไป แต่เป็นการ “เรียนเพื่อสร้างอนาคต” โดยการพัฒนาทักษะและความสามารถที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ในหลากหลายสถานการณ์ แทนที่จะเป็นเพียงความรู้เฉพาะทาง

มีความสัมพันธ์แบบย้อนกลับ (recursive relationship) ระหว่างทักษะที่สอนและวิธีการสอน กล่าวคือ เพื่อที่จะสอนทักษะการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ครูต้องใช้วิธีการที่ส่งเสริมการทำงานร่วมกัน เพื่อบ่มเพาะความคิดสร้างสรรค์ ครูต้องสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่เปิดกว้างและขับเคลื่อนด้วยการตั้งคำถาม ซึ่งหมายความว่าสภาพแวดล้อมทางวิชาชีพของครูเองก็ต้องเป็นต้นแบบของสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่พวกเขาคาดหวังจะสร้างขึ้นให้กับนักเรียน อนาคตเรียกร้องให้นักเรียนมีทักษะการทำงานร่วมกันที่แข็งแกร่ง แต่การเรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากการฟังบรรยาย แต่ต้องเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติจริง—ผ่านโครงงานกลุ่ม การแก้ปัญหาร่วมกันเป็นทีม และการให้ข้อมูลป้อนกลับระหว่างเพื่อน ดังนั้น ห้องเรียนจึงต้องถูกออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้เกิดการเรียนรู้ในลักษณะนี้ และเพื่อให้ครูสามารถออกแบบและจัดการห้องเรียนดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ พวกเขาเองก็จำเป็นต้องเป็นผู้ร่วมมือที่มีทักษะ พวกเขาต้องทำงานร่วมกับเพื่อนครูเพื่อร่วมกันออกแบบโครงงานข้ามสาขาวิชา แบ่งปันกลยุทธ์ในการจัดการพลวัตของกลุ่ม และวิเคราะห์ผลลัพธ์ของกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกัน สิ่งนี้นำไปสู่ข้อสรุปที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ว่า: วัฒนธรรมแห่งความร่วมมือในวิชาชีพ (ตามที่ยูเนสโกสนับสนุน) เป็นเงื่อนไขเบื้องต้นที่จำเป็นสำหรับการสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือสำหรับนักเรียน วิธีการที่ครูทำงานร่วมกันส่งผลโดยตรงต่อความสามารถในการสอนทักษะแห่งอนาคต

ตอนที่ 4: ครูในฐานะผู้ประกอบวิชาชีพเครือข่าย: จากผู้อำนวยการเรียนรู้สู่ผู้นำแห่งความร่วมมือ

ส่วนสุดท้ายนี้จะสังเคราะห์การวิเคราะห์ทั้งหมดเพื่อนำเสนอวิสัยทัศน์ที่ครอบคลุมของครูในศตวรรษที่ 21 ประเด็นหลักคือ การทำงานอย่างโดดเดี่ยวในอดีตต้องถูกแทนที่ด้วยวัฒนธรรมแห่งความร่วมมือที่ลึกซึ้ง ซึ่งดำเนินการผ่านกลไกต่างๆ เช่น ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLCs) นี่คือการนำแนวคิดของยูเนสโกในปี 2568 มาปฏิบัติให้เป็นรูปธรรม และเป็นหนทางเดียวที่จะบูรณาการ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพและบ่มเพาะทักษะที่พร้อมสำหรับอนาคตให้แก่นักเรียน

เครื่องมือของครูสมัยใหม่: โค้ช ผู้อำนวยการเรียนรู้ และผู้ร่วมเรียนรู้

บทบาทของครูในศตวรรษที่ 21 ได้เปลี่ยนจาก “ผู้สอน” (teacher) ไปสู่ “ผู้อำนวยการเรียนรู้” (learning facilitator) หรือ “โค้ช” (coach) การปฏิบัติและทักษะที่เป็นรูปธรรมที่เกี่ยวข้องกับบทบาทใหม่เหล่านี้ ได้แก่:

ตารางที่ 2: การวิเคราะห์เปรียบเทียบบทบาทครูที่เปลี่ยนแปลงไป

มิติครูแบบดั้งเดิม (“ปราชญ์บนเวที”)ครูในศตวรรษที่ 21 (“ผู้นำทางข้างๆ”)
บทบาทหลักผู้ถ่ายทอดความรู้; ผู้มีอำนาจแต่เพียงผู้เดียวผู้อำนวยการเรียนรู้; โค้ช; ผู้ร่วมเรียนรู้
พลวัตในห้องเรียนครูเป็นศูนย์กลาง; การสอนแบบบรรยาย; ผู้เรียนเป็นฝ่ายรับผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง; การเรียนรู้เชิงสืบเสาะ; ผู้เรียนมีส่วนร่วมและทำงานร่วมกัน
แหล่งความรู้ครูและตำราเรียนแหล่งข้อมูลหลากหลาย (อินเทอร์เน็ต, เพื่อน, ชุมชน); ครูเป็นผู้คัดสรร
การใช้เทคโนโลยีเครื่องมือเสริม (เช่น โปรเจคเตอร์, ซอฟต์แวร์ยุคแรก)เครื่องมือที่บูรณาการเพื่อการเรียนรู้เฉพาะบุคคล การทำงานร่วมกัน และการสร้างสรรค์ (AI, LMS)
การประเมินผลเน้นการประเมินผลสรุป; เพื่อวัดการท่องจำ (การสอบ)เน้นการประเมินเพื่อพัฒนาและการประเมินตามสภาพจริง; เพื่อปรับปรุงการเรียนรู้และประเมินทักษะ
จุดยืนทางวิชาชีพผู้ปฏิบัติงานที่โดดเดี่ยว; ความเป็นอิสระส่วนบุคคลผู้ประกอบวิชาชีพที่ทำงานร่วมกัน; ความรับผิดชอบร่วมกัน

PLCs ในฐานะเครื่องมือขับเคลื่อนความร่วมมือ

ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLCs) เป็นโครงสร้างที่มีประสิทธิภาพและมีหลักฐานเชิงประจักษ์สนับสนุนมากที่สุดในการทำให้วิสัยทัศน์ของยูเนสโกเรื่องวิชาชีพแห่งความร่วมมือเป็นจริง

หลักการสำคัญของ PLCs:

  1. มุ่งเน้นที่การเรียนรู้ ไม่ใช่การสอน: คำถามสำคัญคือ “เราต้องการให้นักเรียนเรียนรู้อะไร” และ “เราจะรู้ได้อย่างไรว่าพวกเขาเรียนรู้แล้ว” โดยมีผลลัพธ์ของผู้เรียนเป็นหัวใจสำคัญ
  2. วัฒนธรรมแห่งความร่วมมือ: PLCs สร้างการทำงานเป็นทีมอย่างเป็นระบบ ทำลายกำแพงความโดดเดี่ยวของห้องเรียน ครูจะทำงานเป็นทีม (ตามระดับชั้น, กลุ่มสาระวิชา ฯลฯ) เพื่อวางแผน วิเคราะห์งานของนักเรียน และแก้ไขปัญหาการสอนร่วมกัน
  3. ความมุ่งมั่นต่อผลลัพธ์: การตัดสินใจขับเคลื่อนด้วยหลักฐานและข้อมูลจากผลการเรียนรู้ของนักเรียน วงจรการทำงานประกอบด้วยการสืบเสาะร่วมกันเพื่อค้นหาวิธีปฏิบัติที่ดีที่สุด การลงมือทำ และการวิเคราะห์ผลลัพธ์

ประโยชน์ของ PLCs:

ตารางที่ 3: หลักการและประโยชน์ของชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLCs)

หลักการสำคัญของ PLC ที่มีประสิทธิภาพประโยชน์ต่อครูประโยชน์ต่อนักเรียน
1. มีพันธกิจ วิสัยทัศน์ และค่านิยมร่วมกัน• ลดความโดดเดี่ยวทางวิชาชีพ• ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการสูงขึ้น
2. การสืบเสาะร่วมกันเพื่อหาวิธีปฏิบัติที่ดีที่สุด• เพิ่มความมุ่งมั่นต่อพันธกิจ• อัตราการสอบตกและออกกลางคันลดลง
3. การมุ่งเน้นการลงมือปฏิบัติและทดลอง• พัฒนาแนวทางการสอนให้ดีขึ้น• การมีส่วนร่วมในการเรียนรู้สูงขึ้น
4. ความมุ่งมั่นในการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง• สร้างความสัมพันธ์ทางวิชาชีพที่แข็งแกร่ง• หลักสูตรมีความสอดคล้องกันมากขึ้นในแต่ละระดับชั้น
5. การมุ่งเน้นผลลัพธ์ (ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล)• เพิ่มความพึงพอใจในงานและขวัญกำลังใจ• พัฒนาทักษะแห่งศตวรรษที่ 21

การสนับสนุนเชิงระบบเพื่อสร้างวัฒนธรรมแห่งความร่วมมือ

เพื่อให้การทำงานร่วมกันกลายเป็นบรรทัดฐาน จะต้องมีการส่งเสริมและสนับสนุนอย่างตั้งใจในระดับระบบ

การเปลี่ยนผ่านสู่วิชาชีพแห่งความร่วมมือเป็นการเปลี่ยนแปลง “ศูนย์กลางการควบคุม” (locus of control) สำหรับการเติบโตทางวิชาชีพอย่างสิ้นเชิง ในรูปแบบดั้งเดิม การพัฒนาวิชาชีพเป็นกิจกรรมจากภายนอกที่ “ถูกจัดให้” กับครู (เช่น การอบรมหนึ่งวัน) ในรูปแบบความร่วมมือ (PLCs) การพัฒนาวิชาชีพเป็นกระบวนการภายในที่ต่อเนื่องและฝังอยู่ในการทำงาน ซึ่งขับเคลื่อน โดย ครูเอง สิ่งนี้เป็นการเสริมพลังให้ครูในฐานะผู้กำหนดการเรียนรู้ทางวิชาชีพของตนเองและในฐานะผู้นำการพัฒนาโรงเรียน

บทสรุปและข้อเสนอแนะเชิงกลยุทธ์

รายงานฉบับนี้ได้สำรวจเส้นทางการเปลี่ยนผ่านที่จำเป็นของครูจากบุคคลผู้ทรงภูมิที่โดดเดี่ยวไปสู่ผู้ประกอบวิชาชีพที่เชื่อมโยงและทำงานร่วมกัน วิวัฒนาการนี้เป็นการตอบสนองที่จำเป็นต่อความท้าทายและโอกาสในยุคสมัยของเรา การทำงานร่วมกันตามแนวทางที่ยูเนสโกส่งเสริม คือแกนกลางที่เชื่อมโยงองค์ประกอบอื่นๆ ทั้งหมด เป็นทั้งวิธีการที่ครูจะสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีได้อย่างประสบความสำเร็จ และเป็นหนทางที่พวกเขาจะสามารถสอนทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อเสนอแนะเชิงปฏิบัติการ

Works cited

  1. Recasting teaching as a collaborative profession – UNESCO, accessed October 5, 2025, https://www.unesco.org/sites/default/files/medias/fichiers/2025/10/wtd-2025-factsheet.pdf
  2. World Teachers’ Day 2025: Recasting Teaching as a Collaborative Profession, accessed October 5, 2025, https://www.uni-muenster.de/Physik.TP/teaching/courses/numerical_methods_for_complex_systems_ii_ss2019.html?sport-news-294240-2025-10-03-world-teachers-day-2025-recasting-teaching-as-a-collaborative-profession
  3. World Teachers’ Day 2025: Collaboration is key to making teachers thrive – UNESCO, accessed October 5, 2025, https://www.unesco.org/en/articles/world-teachers-day-2025-collaboration-key-making-teachers-thrive
  4. ครูยุคโบราณ – กระทรวงศึกษาธิการ, accessed October 5, 2025, https://www.moe.go.th/%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%84%E0%B9%82%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%93/
  5. ความเป็นมา และระบบการจัดการศึกษาไทย, accessed October 5, 2025, https://www2.st.pnu.ac.th/download/outsideclass/65_ARTICLE1.pdf
  6. ประวัติศาสตร์การศึกษาไทย – YouTube, accessed October 5, 2025, https://www.youtube.com/watch?v=PGtnSStjAxw
  7. บทที่ 3 บทบาท หน้าที่และภาระงานของครู | PDF – Scribd, accessed October 5, 2025, https://www.scribd.com/document/698480161/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%97%E0%B8%B5-3-%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97-%E0%B8%AB%E0%B8%99-%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B5-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9
  8. โฉมหน้าใหม่ของการศึกษาไทยในสมัยรัชกาลที่ ๔ – KMUTT Library, accessed October 5, 2025, https://www.lib.kmutt.ac.th/kingmongkutstudy-thaieducation/
  9. Traditional teaching and learning strategies – At ITAC, accessed October 5, 2025, https://www.itac.edu.au/resources/traditional-teaching
  10. The Evolution Of Teaching Methods: From Traditional Classrooms To Modern Digital Learning – Zee News, accessed October 5, 2025, https://zeenews.india.com/lifestyle/the-evolution-of-teaching-methods-from-traditional-classrooms-to-modern-digital-learning-2802798.html
  11. Traditional education – Wikipedia, accessed October 5, 2025, https://en.wikipedia.org/wiki/Traditional_education
  12. ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในด้านการศึกษา – Intel, accessed October 5, 2025, https://www.thailand.intel.com/content/www/th/th/learn/ai-in-education.html
  13. ครูยุคใหม่ใช้ AI ในห้องเรียนยังไงบ้าง? – Amity Solutions, accessed October 5, 2025, https://www.amitysolutions.com/th/blogs/how-teachers-using-ai-in-classroom
  14. AI in the Classroom: Personalized Learning and the Future of …, accessed October 5, 2025, https://blog.workday.com/en-us/ai-in-the-classroom-personalized-learning-and-the-future-of-education.html
  15. Are India’s schools ready for AI-powered classrooms without walls?, accessed October 5, 2025, https://www.indiatoday.in/education-today/news/story/ai-in-classrooms-will-indian-schools-bridge-the-digital-divide-2796619-2025-10-02
  16. AI in Personalized Learning for Smarter Corporate Training – Docebo, accessed October 5, 2025, https://www.docebo.com/learning-network/blog/personalized-learning-ai/
  17. (PDF) Personalized learning through AI – ResearchGate, accessed October 5, 2025, https://www.researchgate.net/publication/376814707_Personalized_learning_through_AI
  18. B-schools embrace AI in teaching, but faculty remains unprepared: Will curriculum change keep up?, accessed October 5, 2025, https://timesofindia.indiatimes.com/education/news/b-schools-embrace-ai-in-teaching-but-faculty-remains-unprepared-will-curriculum-change-keep-up/articleshow/124193871.cms
  19. เรียนวิทย์ยุคใหม่ _ สร้างสรรค์กับ AI ในยุคดิจิทัล – Starfish Labz, accessed October 5, 2025, https://www.starfishlabz.com/blog/1788-%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%84%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88-%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B9%8C%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A-ai-%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%84%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%A5
  20. 21st Century Skills ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 – Cubic Creative, accessed October 5, 2025, https://cubiccreative.org/21st-century-skill/
  21. 16 ทักษะจำเป็น แห่งศตวรรษที่ 21 สำหรับคนทำงาน และวัยเรียน : PPTVHD36, accessed October 5, 2025, https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%9F%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B9%84%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B9%8C/159158
  22. #อาสาสรุป “ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21” ทักษะเพื่อการอยู่รอดในโลกอนาคต จาก World Economic Forum | by Krittamate Pramniya | Medium, accessed October 5, 2025, https://krittamate.medium.com/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%9B-%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B0%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B8%95%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-21-%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%95-%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81-world-economic-forum-62a24388d6ef
  23. P21 Framework Definitions To help practitioners integrate skills into the teaching of core academic subjects, the Partnership h – ERIC, accessed October 5, 2025, https://files.eric.ed.gov/fulltext/ED519462.pdf
  24. ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 – northnfe, accessed October 5, 2025, https://northnfe.blogspot.com/2018/10/21.html
  25. FRAMEWORK FOR 21st CENTURY LEARNING DEFINITIONS – Battelle for Kids, accessed October 5, 2025, https://static.battelleforkids.org/documents/p21/p21_framework_definitionsbfk.pdf
  26. 3 ทักษะในศตวรรษที่ 21 ที่พนักงานในองค์กรต้องมี – FROG GENIUS, accessed October 5, 2025, https://www.froggenius.com/news/21st-century-skills
  27. ทักษะแห งอนาคตใหม การเรียนรู ในศตวรรษที่ 21 – ครูใจดี, accessed October 5, 2025, http://krujaideedee.blogspot.com/2014/08/21_4.html
  28. การคิดเชิงวิพากษ์ (Critical thinking)คืออะไร มีแนวทางการพัฒนาทักษะนี้อย่างไร – Learning Institute, accessed October 5, 2025, https://li.kmutt.ac.th/critical-thinking/knowledge/
  29. องค์ประกอบของการคิดวิพากษ์ (Critical Thinking element) โดย.อ.ศศิมา สุขสว่าง – sasimasuk.com, accessed October 5, 2025, https://www.sasimasuk.com/17415330/%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B9%8C%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B9%8C-critical-thinking-element-
  30. EQ (Emotional quotient) ความฉลาดทางอารมณ์ คุณสมบัติสู่ความสำเร็จ – MedPark Hospital, accessed October 5, 2025, https://www.medparkhospital.com/lifestyles/eq-emotional-quotient
  31. การเปลี่ยนแปลงสำคัญในเทรนด์การศึกษาที่การศึกษาไทยในอนาคตต้องจับตามอง ตอนที่ 1, accessed October 5, 2025, https://www.starfishlabz.com/blog/1311-%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B9%8C%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%95%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-1
  32. ครูในยุคศตวรรษ ที่ 21 คือ ครูในยุคโลกาภิวัฒน์ จะต้องมีความรู้, accessed October 5, 2025, https://drsumaibinbai.wordpress.com/wp-content/uploads/2016/08/e0b89ae0b897e0b89ae0b8b2e0b897e0b884e0b8a3e0b8b9e0b983e0b899e0b8a8e0b895e0b8a7e0b8a3e0b8a3e0b8a9e0b897e0b8b5e0b988-21.pdf
  33. บทบาทหน้าที่ของครูในศตวรรษที่ 21 | mylove007 – WordPress.com, accessed October 5, 2025, https://mylove007.wordpress.com/%E0%B8%A8%E0%B8%95%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-21/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9-%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%A8%E0%B8%95/
  34. Teacher as Coach : จากครูสอนสู่ครูโค้ช, accessed October 5, 2025, https://www.coachthai.com/18140664/teacher-as-coach-%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%8A
  35. กระบวนการพัฒนาครูโค้ชสู่วิถีชีวิตด้วยหลักปัญญา 3 ฐาน – ThaiJO, accessed October 5, 2025, https://so02.tci-thaijo.org/index.php/EDMCU/article/download/257756/173293
  36. จากครูสู่ผู้อานวยการเรียนรู้ (From Teacher to Facilitator) เหตุ, accessed October 5, 2025, https://static.trueplookpanya.com/hash_cmsblog/201610/50208/1475568557/FILE_1475568557.pdf
  37. 4 benefits of an active professional learning community | ISTE, accessed October 5, 2025, https://iste.org/blog/4-benefits-of-an-active-professional-learning-community
  38. Professional learning community – Wikipedia, accessed October 5, 2025, https://en.wikipedia.org/wiki/Professional_learning_community
  39. www.ires.or.th, accessed October 5, 2025, https://www.ires.or.th/wp-content/uploads/2018/03/673.pdf
  40. What Is a Professional Learning Community? – Graduate Programs for Educators, accessed October 5, 2025, https://www.graduateprogram.org/blog/what-is-a-professional-learning-community/
  41. บทความ/แหล่งเรียนรู้ – plc.bj.ac.th, accessed October 5, 2025, https://plc.bj.ac.th/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A3
  42. ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ – องค์ความรู้ – Google Sites, accessed October 5, 2025, https://sites.google.com/rd.ac.th/plc-rd/%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3
  43. PLC คืออะไร?สาคัญอย่างไร ?, accessed October 5, 2025, http://www.thaischool1.in.th/_files_school/92010030/data/92010030_1_20170829-224522.pdf
  44. สรุปขั้นตอนการทำ PLC 3 Step I PLC I plan do see – YouTube, accessed October 5, 2025, https://www.youtube.com/watch?v=rkAjittrZFk

Comments

comments

Powered by Facebook Comments

Exit mobile version