จากปราชญ์ผู้โดดเดี่ยวสู่ผู้นำแห่งความร่วมมือ: สำรวจเส้นทางการเปลี่ยนผ่านของครูในศตวรรษที่ 21
จากปราชญ์ผู้โดดเดี่ยวสู่ผู้นำแห่งความร่วมมือ: สำรวจเส้นทางการเปลี่ยนผ่านของครูในศตวรรษที่ 21
ดร.อนุศร หงษ์ขุนทด
ศึกษานิเทศก์ วิทยฐานะศึกษานิเทศก์เชี่ยวชาญ สพม.นครราชสีมา
Musicmankob@gmail.com 4 ตุลาคม 2568
__________________________________
บทนำ: ความจำเป็นของความร่วมมือในวันครูโลก 2568
วิวัฒนาการของวิชาชีพครูจากผู้ปฏิบัติงานที่โดดเดี่ยวไปสู่วิชาชีพที่เน้นความร่วมมือ ไม่ใช่เป็นเพียงกระแสการเปลี่ยนแปลง แต่เป็นความจำเป็นพื้นฐานเพื่อรับมือกับความซับซ้อนของโลกในศตวรรษที่ 21 รายงานฉบับนี้จะใช้แนวคิดหลักขององค์การยูเนสโก (UNESCO) สำหรับวันครูโลก ปี 2568 ในหัวข้อ “การปรับเปลี่ยนวิชาชีพครูสู่วิชาชีพแห่งความร่วมมือ” (Recasting Teaching as a Collaborative Profession) เป็นแกนหลักในการวิเคราะห์ การเปลี่ยนแปลงสู่ความร่วมมือนี้ถือเป็นคำตอบที่สำคัญต่อพลังขับเคลื่อนสามประการ ได้แก่ มรดกแห่งการทำงานอย่างโดดเดี่ยวที่สืบทอดมาจากรูปแบบการสอนในอดีต การเปลี่ยนแปลงอย่างพลิกผันและโอกาสที่เกิดจากปัญญาประดิษฐ์ (AI) และความจำเป็นเร่งด่วนในการบ่มเพาะทักษะที่ซับซ้อนชุดใหม่ให้แก่ผู้เรียนเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตที่คาดเดาได้ยาก
แก่นสำคัญของรายงานฉบับนี้คือ โลกสมัยใหม่เรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนผ่านจากบทบาทครูในฐานะผู้ปฏิบัติงานเพียงลำพัง (solo task) ไปสู่ผู้ประกอบวิชาชีพที่เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่าย ซึ่งมีส่วนร่วมในการทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ สิ่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเติบโตทางวิชาชีพ การรักษาครูให้อยู่ในระบบ และการยกระดับผลลัพธ์ทางการเรียนรู้ ท่ามกลางวิกฤตการขาดแคลนครูทั่วโลกที่ต้องการครูเพิ่มถึง 44 ล้านคนภายในปี 2573 และอัตราส่วนครูที่ผ่านการฝึกอบรมที่ลดลงในบางภูมิภาค การสนับสนุนและรักษาบุคลากรครูที่มีอยู่ผ่านการทำงานร่วมกันจึงกลายเป็นภารกิจที่สำคัญอย่างยิ่งยวด รายงานฉบับนี้จะนำเสนอโครงสร้างการวิเคราะห์ตามลำดับดังนี้: การวิเคราะห์เชิงประวัติศาสตร์ของบทบาท “ปราชญ์ผู้โดดเดี่ยว” การสำรวจบทบาทของ AI ในฐานะตัวเร่งการเปลี่ยนแปลง การเจาะลึกทักษะที่จำเป็นสำหรับอนาคต และบทสรุปที่นำเสนอ “ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ” (Professional Learning Communities: PLCs) เป็นกลไกหลักในการสร้างวัฒนธรรมแห่งความร่วมมือในวิชาชีพครู
ตอนที่ 1: มรดกแห่งปราชญ์ผู้โดดเดี่ยว: การทบทวนบทบาทครูในเชิงประวัติศาสตร์
ส่วนนี้จะติดตามพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของบทบาทครู โดยเน้นบริบทของไทยเป็นหลักและอ้างอิงถึงแนวโน้มของโลก เพื่อชี้ให้เห็นถึงรากฐานทางวัฒนธรรมและโครงสร้างที่หยั่งรากลึกของการทำงานอย่างโดดเดี่ยวในวิชาชีพครู ประเด็นหลักคือ อัตลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ของครูในฐานะผู้มีอำนาจและความรู้แต่เพียงผู้เดียว แม้จะมีคุณค่าในยุคสมัยนั้น แต่ก็ได้สร้างแรงเฉื่อยทางวัฒนธรรมที่ขัดขวางต่อรูปแบบการทำงานร่วมกันที่จำเป็นในปัจจุบัน
รากฐานการสอนในสังคมไทย: มุขปาฐะและอำนาจเชิงศีลธรรม
รูปแบบการสอนในยุคแรกของไทยมีลักษณะเป็นการถ่ายทอดความรู้แบบตัวต่อตัว ผ่านคำพูด (“บอกด้วยวาจาและใช้มือชี้”) และการสาธิตให้ดูเป็นตัวอย่าง (“ทำให้ดูและจับมือศิษย์ให้ทำ”) พ่อแม่ ผู้ใหญ่ในชุมชน และพระภิกษุ คือครูคนแรกที่สอนทักษะชีวิตและคุณธรรมจริยธรรม โดยมีรากฐานมาจากหลักพุทธศาสนาและคัมภีร์พระไตรปิฎก ครูจึงมีบทบาทเสมือนบิดาผู้ปกครองที่ต้องชี้นำ ปกป้องคุ้มครอง และดูแลให้ศิษย์สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองได้ (“ป้องกันอันตรายทั้งปวงให้แก่ศิษย์,” “สอนฝึกให้ศิษย์จักลี้ยงตัว”) ซึ่งความสัมพันธ์ในลักษณะนี้ได้สถาปนาโครงสร้างแบบลำดับชั้นจากหนึ่งไปสู่หลายคน
การสถาปนากระบวนทัศน์ครูเป็นศูนย์กลาง
การศึกษาเริ่มมีรูปแบบที่เป็นทางการมากขึ้นหลังจากการเกิดขึ้นของแบบเรียนเล่มแรกของไทย คือ “จินดามณี” ในสมัยอยุธยา และอิทธิพลจากมิชชันนารีชาวตะวันตกในเวลาต่อมา ซึ่งนำมาซึ่งวิชาและรูปแบบการสอนใหม่ๆ สิ่งนี้สอดคล้องกับรูปแบบ “การศึกษาแบบดั้งเดิม” (traditional education) ของโลก (ประมาณช่วงปี ค.ศ. 1800-1930) ซึ่งตอกย้ำบทบาทของครูในฐานะ “ปราชญ์บนเวที” (sage on the stage) รูปแบบดังกล่าวมีลักษณะเด่นดังนี้:
- การสอนแบบบรรยายและการท่องจำ: ครูเป็นผู้บรรยายและถ่ายทอดความรู้ ในขณะที่นักเรียนเป็นผู้รับข้อมูลอย่างเฉยเมย โดยเน้นการท่องจำและการทำแบบฝึกหัดซ้ำๆ
- ครูเป็นแหล่งความรู้เพียงหนึ่งเดียว: ครูและตำราเรียนคือผู้มีอำนาจสูงสุดในด้านความรู้ ห้องเรียนจึงมีครูเป็นศูนย์กลาง โดยแทบไม่มีพื้นที่สำหรับการเรียนรู้ที่นำโดยผู้เรียน
- แนวทางที่เป็นมาตรฐานเดียว (One-Size-Fits-All): บทเรียนถูกออกแบบมาสำหรับนักเรียนทั้งชั้นเรียน โดยไม่มีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับรูปแบบการเรียนรู้ ความเร็ว หรือความสามารถที่แตกต่างกันของแต่ละบุคคล
การสร้างมาตรฐานวิชาชีพที่ตอกย้ำการทำงานอย่างโดดเดี่ยว
การจัดตั้งโรงเรียนฝึกหัดครูอย่างเป็นทางการในประเทศไทย (เช่น ที่วัดเทพศิรินทราวาส ในปี พ.ศ. 2449 และโรงเรียนฝึกหัดครูสตรีแห่งแรกในปี พ.ศ. 2456) เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างความเป็นวิชาชีพครู อย่างไรก็ตาม หน้าที่ความรับผิดชอบของครูที่ถูกกำหนดขึ้น ไม่ได้มีเพียงการสอน แต่ยังรวมถึงงานธุรการ การจัดการชั้นเรียน และการประสานงานกับผู้ปกครอง ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นภาระของครูเพียงคนเดียว สิ่งนี้ได้สร้างระบบนิเวศของห้องเรียนที่สมบูรณ์ในตัวเองและถูกบริหารจัดการโดยครูเพียงคนเดียว
วิวัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของวิชาชีพครูได้หล่อหลอมอัตลักษณ์ทางวิชาชีพที่หยั่งรากลึกอยู่บนความเป็นอิสระและความรับผิดชอบส่วนบุคคล “วัฒนธรรมแห่งความโดดเดี่ยว” นี้ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นสัญลักษณ์ของความสามารถและอำนาจทางวิชาชีพ ปัจจุบันกลับกลายเป็นอุปสรรคสำคัญทั้งในเชิงโครงสร้างและจิตวิทยาต่อการนำรูปแบบการทำงานร่วมกันที่จำเป็นต่อการศึกษาในศตวรรษที่ 21 มาปรับใช้ ข้อมูลในอดีตแสดงให้เห็นอย่างสม่ำเสมอว่าครูเป็นศูนย์กลางและมักเป็นผู้กุมอำนาจและความรู้แต่เพียงผู้เดียวในห้องเรียน โครงสร้างทางกายภาพและองค์กรของโรงเรียน (ห้องเรียนเดี่ยว ความรับผิดชอบส่วนบุคคลในการสอนและรักษาวินัย) ยิ่งตอกย้ำรูปแบบการทำงานที่โดดเดี่ยวนี้ เมื่อเวลาผ่านไป สิ่งนี้ได้บ่มเพาะบรรทัดฐานทางวิชาชีพที่ตัดสินความสามารถของครูจากความสามารถในการจัดการห้องเรียนของตนเองได้อย่างอิสระ การขอความช่วยเหลือหรือการร่วมมืออย่างจริงจังจึงอาจถูกมอง (ทั้งโดยรู้ตัวและไม่รู้ตัว) ว่าเป็นสัญญาณของความอ่อนแอ ดังนั้น เมื่อมีการปฏิรูปการศึกษาสมัยใหม่ เช่น การนำ PLC มาใช้ จึงไม่ใช่เป็นเพียงการเชิญครูเข้าร่วมประชุมอีกครั้งหนึ่ง แต่เป็นการท้าทายอัตลักษณ์ทางวิชาชีพที่มีมานานกว่าศตวรรษ นี่คือคำอธิบายถึงการต่อต้านหรือการนำไปปฏิบัติเพียงผิวเผินที่มักเกิดขึ้น เพราะวัฒนธรรมพื้นฐานของวิชาชีพยังไม่ได้เปลี่ยนจากการให้คุณค่ากับความเป็นอิสระไปสู่การพึ่งพาซึ่งกันและกัน
ตอนที่ 2: การพลิกผันด้วยดิจิทัลและการถือกำเนิดของเพื่อนร่วมงาน AI
ส่วนนี้วิเคราะห์ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะปัญญาประดิษฐ์ (AI) ต่อวิชาชีพครู ประเด็นหลักคือ AI ไม่ได้เข้ามาเพื่อทดแทนครู แต่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาอันทรงพลังที่ช่วยทำงานเสริมต่างๆ ให้เป็นอัตโนมัติและสร้างการเรียนรู้ที่เฉพาะบุคคลอย่างยิ่งยวด (hyper-personalized learning) การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีนี้ได้ปรับเปลี่ยนบทบาทของครูอย่างสิ้นเชิง โดยผลักดันให้ครูต้องก้าวออกจากบทบาทผู้ส่งมอบข้อมูลไปสู่การทำหน้าที่ที่มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่ทำได้ ซึ่งสร้างความจำเป็นเร่งด่วนให้เกิดความร่วมมือทางวิชาชีพเพื่อรับมือกับภูมิทัศน์ใหม่นี้
การทำงานเสริมโดยอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มคุณค่าของความเป็นมนุษย์
AI สามารถลดภาระงานธุรการของครูได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยทำงานที่ซ้ำซากและใช้เวลานานให้เป็นอัตโนมัติ เช่น การตรวจงาน การจัดตารางสอน และการสื่อสาร งานวิจัยชี้ว่าสิ่งนี้อาจช่วยให้ครูมีเวลาเพิ่มขึ้นถึง 13 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เวลาที่ได้กลับคืนมานี้ช่วยให้ครูสามารถทุ่มเทให้กับปฏิสัมพันธ์ที่มีคุณค่าสูงและมีเพียงมนุษย์ที่ทำได้ เช่น การเป็นพี่เลี้ยง (mentoring) การโค้ช การอำนวยความสะดวกในการอภิปรายที่ซับซ้อน และการให้การสนับสนุนทางสังคมและอารมณ์ ซึ่งเป็นงานที่ AI ไม่สามารถทำแทนได้
รุ่งอรุณแห่งการเรียนรู้ที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคล
AI ช่วยให้เกิดการเรียนรู้ที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคล (personalized learning) และการเรียนรู้แบบปรับเปลี่ยนได้ (adaptive learning) ในวงกว้าง ซึ่งก้าวข้ามโมเดล “หนึ่งขนาดเหมาะกับทุกคน” ในอดีต กลไกสำคัญประกอบด้วย:
- การนำเสนอเนื้อหาที่ปรับเปลี่ยนได้: อัลกอริทึมของ AI จะปรับความยากง่าย จังหวะ และประเภทของเนื้อหาให้เข้ากับผลการเรียนรู้และความชอบของนักเรียนแต่ละคนแบบเรียลไทม์
- การให้ข้อมูลป้อนกลับทันทีและการระบุช่องว่างทางการเรียนรู้: การประเมินผลที่ขับเคลื่อนด้วย AI ให้ข้อมูลป้อนกลับแก่นักเรียนได้ทันที และใช้การวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ (predictive analytics) เพื่อระบุช่องว่างทางการเรียนรู้หรือนักเรียนกลุ่มเสี่ยง ทำให้ครูสามารถเข้าช่วยเหลือได้ตั้งแต่เนิ่นๆ
- เพิ่มความเป็นเจ้าของการเรียนรู้ของผู้เรียน: เส้นทางการเรียนรู้ที่ออกแบบเฉพาะบุคคล การใช้เกมมิฟิเคชัน (gamification) และการติดตามความก้าวหน้าแบบเรียลไทม์ ช่วยส่งเสริมให้นักเรียนมีบทบาทในการกำหนดการศึกษาของตนเองมากขึ้น
การนำทางสู่พรมแดนใหม่: ความเท่าเทียม จริยธรรม และประสิทธิภาพ
การบูรณาการ AI มาพร้อมกับความท้าทายและความเสี่ยงที่สำคัญซึ่งต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ:
- ความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล (Digital Divide): โมเดลการเรียนรู้ที่พึ่งพา AI เป็นหลักต้องอาศัยอุปกรณ์ที่เชื่อถือได้ อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และไฟฟ้าที่เสถียร ซึ่งยังไม่สามารถเข้าถึงได้อย่างทั่วถึง และอาจทำให้ความไม่เท่าเทียมที่มีอยู่เดิมรุนแรงขึ้น
- ความพร้อมและการฝึกอบรมคณาจารย์: อุปสรรคสำคัญคือครูจำนวนมากยังไม่มีความเชี่ยวชาญด้าน AI ผลสำรวจชี้ว่ามีเพียงส่วนน้อยที่ระบุว่าตนเองเป็นผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งสะท้อนถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการฝึกอบรมและพัฒนาวิชาชีพอย่างเป็นระบบ
- ข้อกังวลด้านจริยธรรม: ประเด็นเรื่องความเป็นส่วนตัวของข้อมูล อคติของอัลกอริทึม และความน่าเชื่อถือของเนื้อหาที่ AI สร้างขึ้น ถือเป็นข้อกังวลหลักของนักการศึกษา
- การพึ่งพาที่มากเกินไปและทักษะที่ถดถอย: มีความเสี่ยงในเชิงการสอนที่นักเรียนอาจพึ่งพา AI ในการแก้ปัญหามากเกินไป ซึ่งอาจทำให้ทักษะการคิดเชิงวิพากษ์และการวิเคราะห์ของตนเองอ่อนแอลง
AI ทำหน้าที่เป็นพลัง “แยกส่วน” (unbundling) บทบาทของครู โดยแยกหน้าที่ด้านธุรการและการส่งมอบข้อมูลออกจากหน้าที่ด้านการสอนและความสัมพันธ์ การแยกส่วนนี้ก่อให้เกิดวิกฤตอัตลักษณ์ทางวิชาชีพที่สามารถแก้ไขได้ผ่านการทำงานร่วมกันเท่านั้น ในอดีต บทบาทของครูเป็น “มัดรวม” ของภาระงานต่างๆ: ผู้บรรยาย ผู้ทำงานธุรการ ผู้ตรวจงาน ผู้รักษาวินัย พี่เลี้ยง และอื่นๆ ปัจจุบัน AI สามารถทำงานด้านธุรการ การตรวจงาน และการให้ข้อมูลพื้นฐานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า สิ่งนี้เป็นการ “แยกส่วน” บทบาทเดิมออกไป และบีบให้เกิดคำถามว่า “คุณค่าที่ไม่อาจทดแทนได้ของครูที่เป็นมนุษย์คืออะไร” คำตอบอยู่ในหน้าที่ที่ AI ไม่สามารถ ทำได้ นั่นคือ การส่งเสริมการคิดเชิงวิพากษ์ ความคิดสร้างสรรค์ ความเห็นอกเห็นใจ และการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน อย่างไรก็ตาม ครูส่วนใหญ่ได้รับการฝึกฝนมาเพื่อบทบาทแบบ “มัดรวม” พวกเขาจึงต้องเผชิญกับความจำเป็นอย่างยิ่งในการยกระดับทักษะและนิยามการปฏิบัติงานทางวิชาชีพของตนเองใหม่โดยมีหน้าที่เหล่านี้เป็นแกนกลาง การนิยามใหม่นี้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้อย่างโดดเดี่ยว แต่ต้องอาศัยความพยายามร่วมกันในรูปแบบของชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ ที่ซึ่งครูสามารถทดลองวิธีการสอนใหม่ๆ แบ่งปันสิ่งที่ได้ผลในการบูรณาการ AI ร่วมกันพัฒนากรอบจริยธรรม และสนับสนุนซึ่งกันและกันในระหว่างการเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่นี้ ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงที่เกิดจาก AI จึงทำให้โมเดลความร่วมมือตามแนวคิดของยูเนสโกกลายเป็นความจำเป็นเร่งด่วน ไม่ใช่เพียงอุดมคติที่ห่างไกล
ตอนที่ 3: การบ่มเพาะปัญญาแห่งอนาคต: ความจำเป็นของทักษะชุดใหม่
ส่วนนี้จะให้รายละเอียดเกี่ยวกับทักษะและความสามารถที่จำเป็นสำหรับผู้เรียนเพื่อการเติบโตในโลกที่ขับเคลื่อนด้วยโลกาภิวัตน์และ AI โดยสังเคราะห์จากกรอบแนวคิดหลัก เช่น World Economic Forum (WEF) และ Partnership for 21st Century Skills (P21) ประเด็นหลักคือ ธรรมชาติของทักษะเหล่านี้ ซึ่งเน้นการทำงานร่วมกัน การสื่อสาร และการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน เรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพื้นฐานในวิธีการสอน โดยเปลี่ยนบทบาทของครูจากผู้สอนไปสู่ผู้อำนวยความสะดวกในการสร้างประสบการณ์การเรียนรู้
การจำแนกชุดทักษะแห่งศตวรรษที่ 21
กรอบแนวคิดชั้นนำได้ระบุทักษะที่จำเป็นไว้อย่างเป็นระบบ ดังนี้:
กรอบแนวคิดของ WEF: แบ่ง 16 ทักษะออกเป็น 3 หมวดหมู่หลัก
- ความรู้พื้นฐาน (Foundational Literacies): ทักษะหลัก เช่น การอ่านออกเขียนได้ การคำนวณ ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (ICT) ความรู้ทางการเงิน และความรู้ทางวัฒนธรรมและพลเมือง
- ความสามารถ (Competencies): วิธีที่นักเรียนใช้รับมือกับความท้าทายที่ซับซ้อน ประกอบด้วย “4Cs” ได้แก่ การคิดเชิงวิพากษ์/การแก้ปัญหา (Critical Thinking/Problem-Solving) ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) การสื่อสาร (Communication) และความร่วมมือ (Collaboration)
- คุณลักษณะ (Character Qualities): วิธีที่นักเรียนใช้รับมือกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงความอยากรู้อยากเห็น ความคิดริเริ่ม ความมุมานะ/ความเพียร (Persistence/Grit) การปรับตัว ภาวะผู้นำ และความตระหนักรู้ทางสังคมและวัฒนธรรม
กรอบแนวคิด P21: กรอบนี้บูรณาการ “ผลลัพธ์ของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21” เข้ากับ “ระบบสนับสนุน” โดยเน้นผลลัพธ์สำคัญของผู้เรียนดังนี้
- วิชาหลักและแนวคิดเชิงสหวิทยาการแห่งศตวรรษที่ 21: เน้นแนวคิดที่เชื่อมโยงข้ามสาขาวิชา เช่น ความตระหนักรู้ระดับโลก (Global Awareness) และความรู้ด้านพลเมือง (Civic Literacy)
- ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม (The 4Cs): การคิดเชิงวิพากษ์ การสื่อสาร ความร่วมมือ และความคิดสร้างสรรค์
- ทักษะด้านสารสนเทศ สื่อ และเทคโนโลยี: ความรู้ทางดิจิทัลเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง
- ทักษะชีวิตและอาชีพ: ความยืดหยุ่น การปรับตัว ความคิดริเริ่ม การชี้นำตนเอง ภาวะผู้นำ และความรับผิดชอบ
ตารางที่ 1: กรอบแนวคิดความสามารถที่สำคัญในศตวรรษที่ 21
หมวดหมู่ | ทักษะตามกรอบของ World Economic Forum (WEF) | ทักษะตามกรอบของ Partnership for 21st Century Skills (P21) |
ความรู้พื้นฐาน | การอ่านออกเขียนได้, การคำนวณ, วิทยาศาสตร์, ICT, การเงิน, วัฒนธรรมและพลเมือง | วิชาหลัก (ภาษา, คณิตศาสตร์, วิทยาศาสตร์ ฯลฯ) และแนวคิดเชิงสหวิทยาการ (ความตระหนักรู้ระดับโลก ฯลฯ) |
ความสามารถ | การคิดเชิงวิพากษ์, ความคิดสร้างสรรค์, การสื่อสาร, ความร่วมมือ | ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม (The 4Cs: การคิดเชิงวิพากษ์, ความคิดสร้างสรรค์, การสื่อสาร, ความร่วมมือ) |
ทักษะเทคโนโลยี | (รวมอยู่ในความรู้ด้าน ICT) | ทักษะด้านสารสนเทศ สื่อ และเทคโนโลยี |
คุณลักษณะและทักษะชีวิต | ความอยากรู้อยากเห็น, ความคิดริเริ่ม, ความมุมานะ, การปรับตัว, ภาวะผู้นำ, ความตระหนักรู้ทางสังคม | ทักษะชีวิตและอาชีพ (ความยืดหยุ่น, การปรับตัว, ความคิดริเริ่ม, การชี้นำตนเอง, ภาวะผู้นำ ฯลฯ) |
ความสำคัญของทักษะ “ที่มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่ทำได้”
ในยุคที่ AI สามารถจัดการงานที่ต้องใช้กระบวนการคิดแบบซ้ำๆ ได้ ทักษะที่มีคุณค่าที่สุดคือทักษะที่มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่ทำได้:
- การคิดเชิงวิพากษ์และการแก้ปัญหา: ความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อน แยกแยะข้อเท็จจริงออกจากข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง เข้าใจอคติ และแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ
- การปรับตัวและความฉลาดทางอารมณ์ (EQ): ความสามารถในการจัดการอารมณ์ของตนเอง เข้าใจอารมณ์ของผู้อื่น รับมือกับความเครียด และปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการทำงานร่วมกันและภาวะผู้นำที่มีประสิทธิภาพ
- ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม: ความสามารถในการสร้างสรรค์แนวคิดและวิธีการแก้ปัญหาใหม่ๆ ซึ่งเป็นทักษะที่ก้าวข้ามการจดจำรูปแบบไปสู่การประดิษฐ์คิดค้นอย่างแท้จริง
การเปลี่ยนแปลงกระบวนการสอนที่จำเป็น
ทักษะที่จำเป็นเหล่านี้เชื่อมโยงโดยตรงกับความต้องการวิธีการสอนรูปแบบใหม่ ทักษะเหล่านี้ไม่สามารถสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านการบรรยายที่ผู้เรียนเป็นฝ่ายรับเพียงอย่างเดียว จุดเน้นต้องเปลี่ยนจากการถ่ายทอดความรู้ไปสู่การอำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (problem-based learning) และการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน (project-based learning) เป้าหมายไม่ใช่เพียง “เรียนเพื่อหางาน” อีกต่อไป แต่เป็นการ “เรียนเพื่อสร้างอนาคต” โดยการพัฒนาทักษะและความสามารถที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ในหลากหลายสถานการณ์ แทนที่จะเป็นเพียงความรู้เฉพาะทาง
มีความสัมพันธ์แบบย้อนกลับ (recursive relationship) ระหว่างทักษะที่สอนและวิธีการสอน กล่าวคือ เพื่อที่จะสอนทักษะการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ครูต้องใช้วิธีการที่ส่งเสริมการทำงานร่วมกัน เพื่อบ่มเพาะความคิดสร้างสรรค์ ครูต้องสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่เปิดกว้างและขับเคลื่อนด้วยการตั้งคำถาม ซึ่งหมายความว่าสภาพแวดล้อมทางวิชาชีพของครูเองก็ต้องเป็นต้นแบบของสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่พวกเขาคาดหวังจะสร้างขึ้นให้กับนักเรียน อนาคตเรียกร้องให้นักเรียนมีทักษะการทำงานร่วมกันที่แข็งแกร่ง แต่การเรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากการฟังบรรยาย แต่ต้องเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติจริง—ผ่านโครงงานกลุ่ม การแก้ปัญหาร่วมกันเป็นทีม และการให้ข้อมูลป้อนกลับระหว่างเพื่อน ดังนั้น ห้องเรียนจึงต้องถูกออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้เกิดการเรียนรู้ในลักษณะนี้ และเพื่อให้ครูสามารถออกแบบและจัดการห้องเรียนดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ พวกเขาเองก็จำเป็นต้องเป็นผู้ร่วมมือที่มีทักษะ พวกเขาต้องทำงานร่วมกับเพื่อนครูเพื่อร่วมกันออกแบบโครงงานข้ามสาขาวิชา แบ่งปันกลยุทธ์ในการจัดการพลวัตของกลุ่ม และวิเคราะห์ผลลัพธ์ของกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกัน สิ่งนี้นำไปสู่ข้อสรุปที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ว่า: วัฒนธรรมแห่งความร่วมมือในวิชาชีพ (ตามที่ยูเนสโกสนับสนุน) เป็นเงื่อนไขเบื้องต้นที่จำเป็นสำหรับการสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือสำหรับนักเรียน วิธีการที่ครูทำงานร่วมกันส่งผลโดยตรงต่อความสามารถในการสอนทักษะแห่งอนาคต
ตอนที่ 4: ครูในฐานะผู้ประกอบวิชาชีพเครือข่าย: จากผู้อำนวยการเรียนรู้สู่ผู้นำแห่งความร่วมมือ
ส่วนสุดท้ายนี้จะสังเคราะห์การวิเคราะห์ทั้งหมดเพื่อนำเสนอวิสัยทัศน์ที่ครอบคลุมของครูในศตวรรษที่ 21 ประเด็นหลักคือ การทำงานอย่างโดดเดี่ยวในอดีตต้องถูกแทนที่ด้วยวัฒนธรรมแห่งความร่วมมือที่ลึกซึ้ง ซึ่งดำเนินการผ่านกลไกต่างๆ เช่น ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLCs) นี่คือการนำแนวคิดของยูเนสโกในปี 2568 มาปฏิบัติให้เป็นรูปธรรม และเป็นหนทางเดียวที่จะบูรณาการ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพและบ่มเพาะทักษะที่พร้อมสำหรับอนาคตให้แก่นักเรียน
เครื่องมือของครูสมัยใหม่: โค้ช ผู้อำนวยการเรียนรู้ และผู้ร่วมเรียนรู้
บทบาทของครูในศตวรรษที่ 21 ได้เปลี่ยนจาก “ผู้สอน” (teacher) ไปสู่ “ผู้อำนวยการเรียนรู้” (learning facilitator) หรือ “โค้ช” (coach) การปฏิบัติและทักษะที่เป็นรูปธรรมที่เกี่ยวข้องกับบทบาทใหม่เหล่านี้ ได้แก่:
- จากการเตรียมบทเรียนสู่การเตรียมคำถาม: เปลี่ยนจากการสร้างเนื้อหาไปสู่การออกแบบคำถามและปัญหาที่กระตุ้นความสนใจใคร่รู้ของผู้เรียน
- การเรียนรู้ทักษะการอำนวยความสะดวก: เน้นทักษะหลักในการตั้งคำถามที่ทรงพลัง การรับฟังอย่างตั้งใจโดยไม่ตัดสิน และการให้ข้อมูลป้อนกลับที่สร้างสรรค์และมุ่งเน้นการพัฒนา
- จากผู้เชี่ยวชาญสู่ผู้ร่วมเรียนรู้: เปิดรับแนวคิดของการเรียนรู้ไปพร้อมกับนักเรียน และยอมรับว่าในโลกที่ข้อมูลมีไม่สิ้นสุด การกล่าวว่า “ครูไม่รู้ เรามาหาคำตอบด้วยกัน” เป็นสิ่งที่ยอมรับได้
ตารางที่ 2: การวิเคราะห์เปรียบเทียบบทบาทครูที่เปลี่ยนแปลงไป
มิติ | ครูแบบดั้งเดิม (“ปราชญ์บนเวที”) | ครูในศตวรรษที่ 21 (“ผู้นำทางข้างๆ”) |
บทบาทหลัก | ผู้ถ่ายทอดความรู้; ผู้มีอำนาจแต่เพียงผู้เดียว | ผู้อำนวยการเรียนรู้; โค้ช; ผู้ร่วมเรียนรู้ |
พลวัตในห้องเรียน | ครูเป็นศูนย์กลาง; การสอนแบบบรรยาย; ผู้เรียนเป็นฝ่ายรับ | ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง; การเรียนรู้เชิงสืบเสาะ; ผู้เรียนมีส่วนร่วมและทำงานร่วมกัน |
แหล่งความรู้ | ครูและตำราเรียน | แหล่งข้อมูลหลากหลาย (อินเทอร์เน็ต, เพื่อน, ชุมชน); ครูเป็นผู้คัดสรร |
การใช้เทคโนโลยี | เครื่องมือเสริม (เช่น โปรเจคเตอร์, ซอฟต์แวร์ยุคแรก) | เครื่องมือที่บูรณาการเพื่อการเรียนรู้เฉพาะบุคคล การทำงานร่วมกัน และการสร้างสรรค์ (AI, LMS) |
การประเมินผล | เน้นการประเมินผลสรุป; เพื่อวัดการท่องจำ (การสอบ) | เน้นการประเมินเพื่อพัฒนาและการประเมินตามสภาพจริง; เพื่อปรับปรุงการเรียนรู้และประเมินทักษะ |
จุดยืนทางวิชาชีพ | ผู้ปฏิบัติงานที่โดดเดี่ยว; ความเป็นอิสระส่วนบุคคล | ผู้ประกอบวิชาชีพที่ทำงานร่วมกัน; ความรับผิดชอบร่วมกัน |
PLCs ในฐานะเครื่องมือขับเคลื่อนความร่วมมือ
ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLCs) เป็นโครงสร้างที่มีประสิทธิภาพและมีหลักฐานเชิงประจักษ์สนับสนุนมากที่สุดในการทำให้วิสัยทัศน์ของยูเนสโกเรื่องวิชาชีพแห่งความร่วมมือเป็นจริง
หลักการสำคัญของ PLCs:
- มุ่งเน้นที่การเรียนรู้ ไม่ใช่การสอน: คำถามสำคัญคือ “เราต้องการให้นักเรียนเรียนรู้อะไร” และ “เราจะรู้ได้อย่างไรว่าพวกเขาเรียนรู้แล้ว” โดยมีผลลัพธ์ของผู้เรียนเป็นหัวใจสำคัญ
- วัฒนธรรมแห่งความร่วมมือ: PLCs สร้างการทำงานเป็นทีมอย่างเป็นระบบ ทำลายกำแพงความโดดเดี่ยวของห้องเรียน ครูจะทำงานเป็นทีม (ตามระดับชั้น, กลุ่มสาระวิชา ฯลฯ) เพื่อวางแผน วิเคราะห์งานของนักเรียน และแก้ไขปัญหาการสอนร่วมกัน
- ความมุ่งมั่นต่อผลลัพธ์: การตัดสินใจขับเคลื่อนด้วยหลักฐานและข้อมูลจากผลการเรียนรู้ของนักเรียน วงจรการทำงานประกอบด้วยการสืบเสาะร่วมกันเพื่อค้นหาวิธีปฏิบัติที่ดีที่สุด การลงมือทำ และการวิเคราะห์ผลลัพธ์
ประโยชน์ของ PLCs:
- สำหรับครู: ลดความรู้สึกโดดเดี่ยว สร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งขึ้น พัฒนาการสอนผ่านการให้ข้อมูลป้อนกลับจากเพื่อนครู และส่งเสริมการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับงานวิจัยและเทคโนโลยีใหม่ๆ
- สำหรับนักเรียน: นำไปสู่ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการที่สูงขึ้น ลดอัตราการสอบตก และสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่สอดคล้องกันมากขึ้น เนื่องจากครูได้ปรับหลักสูตรและกลยุทธ์การสอนให้สอดคล้องกัน
ตารางที่ 3: หลักการและประโยชน์ของชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLCs)
หลักการสำคัญของ PLC ที่มีประสิทธิภาพ | ประโยชน์ต่อครู | ประโยชน์ต่อนักเรียน |
1. มีพันธกิจ วิสัยทัศน์ และค่านิยมร่วมกัน | • ลดความโดดเดี่ยวทางวิชาชีพ | • ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการสูงขึ้น |
2. การสืบเสาะร่วมกันเพื่อหาวิธีปฏิบัติที่ดีที่สุด | • เพิ่มความมุ่งมั่นต่อพันธกิจ | • อัตราการสอบตกและออกกลางคันลดลง |
3. การมุ่งเน้นการลงมือปฏิบัติและทดลอง | • พัฒนาแนวทางการสอนให้ดีขึ้น | • การมีส่วนร่วมในการเรียนรู้สูงขึ้น |
4. ความมุ่งมั่นในการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง | • สร้างความสัมพันธ์ทางวิชาชีพที่แข็งแกร่ง | • หลักสูตรมีความสอดคล้องกันมากขึ้นในแต่ละระดับชั้น |
5. การมุ่งเน้นผลลัพธ์ (ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล) | • เพิ่มความพึงพอใจในงานและขวัญกำลังใจ | • พัฒนาทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 |
การสนับสนุนเชิงระบบเพื่อสร้างวัฒนธรรมแห่งความร่วมมือ
เพื่อให้การทำงานร่วมกันกลายเป็นบรรทัดฐาน จะต้องมีการส่งเสริมและสนับสนุนอย่างตั้งใจในระดับระบบ
- บทบาทของผู้นำ: ผู้บริหารโรงเรียนต้องเปลี่ยนบทบาทจากผู้จัดการเป็นผู้นำการเรียนรู้ โดยเข้าร่วมและปกป้องกระบวนการ PLC อย่างแข็งขัน
- สภาพแวดล้อมเชิงนโยบาย: ระบบการศึกษาต้องจัดสรรทรัพยากรที่จำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดสรรและรับรองเวลาสำหรับให้ครูได้พบปะและทำงานร่วมกัน
- การพัฒนาวิชาชีพ: การฝึกอบรมไม่ควรเน้นเพียงความรู้ในเนื้อหาส่วนบุคคล แต่ควรมุ่งเน้นทักษะการทำงานเป็นทีม การโค้ชเพื่อนครู และการวิเคราะห์ข้อมูล
การเปลี่ยนผ่านสู่วิชาชีพแห่งความร่วมมือเป็นการเปลี่ยนแปลง “ศูนย์กลางการควบคุม” (locus of control) สำหรับการเติบโตทางวิชาชีพอย่างสิ้นเชิง ในรูปแบบดั้งเดิม การพัฒนาวิชาชีพเป็นกิจกรรมจากภายนอกที่ “ถูกจัดให้” กับครู (เช่น การอบรมหนึ่งวัน) ในรูปแบบความร่วมมือ (PLCs) การพัฒนาวิชาชีพเป็นกระบวนการภายในที่ต่อเนื่องและฝังอยู่ในการทำงาน ซึ่งขับเคลื่อน โดย ครูเอง สิ่งนี้เป็นการเสริมพลังให้ครูในฐานะผู้กำหนดการเรียนรู้ทางวิชาชีพของตนเองและในฐานะผู้นำการพัฒนาโรงเรียน
บทสรุปและข้อเสนอแนะเชิงกลยุทธ์
รายงานฉบับนี้ได้สำรวจเส้นทางการเปลี่ยนผ่านที่จำเป็นของครูจากบุคคลผู้ทรงภูมิที่โดดเดี่ยวไปสู่ผู้ประกอบวิชาชีพที่เชื่อมโยงและทำงานร่วมกัน วิวัฒนาการนี้เป็นการตอบสนองที่จำเป็นต่อความท้าทายและโอกาสในยุคสมัยของเรา การทำงานร่วมกันตามแนวทางที่ยูเนสโกส่งเสริม คือแกนกลางที่เชื่อมโยงองค์ประกอบอื่นๆ ทั้งหมด เป็นทั้งวิธีการที่ครูจะสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีได้อย่างประสบความสำเร็จ และเป็นหนทางที่พวกเขาจะสามารถสอนทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อเสนอแนะเชิงปฏิบัติการ
- สำหรับผู้กำหนดนโยบาย: กำหนดและจัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนเวลาการทำงานของ PLC ในทุกโรงเรียน ปรับปรุงกรอบการประเมินครูให้รวมถึงความสามารถในการทำงานร่วมกันและภาวะผู้นำในหมู่เพื่อนครูเป็นสมรรถนะหลัก และลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลที่แข็งแกร่งเพื่อลดช่องว่างความเท่าเทียม
- สำหรับผู้บริหารสถานศึกษา: ส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งความไว้วางใจและการสืบเสาะร่วมกัน ปรับโครงสร้างตารางเวลาของโรงเรียนเพื่อให้ความสำคัญกับเวลาสำหรับการทำงานร่วมกัน และทำหน้าที่เป็นผู้นำด้านการสอนที่เข้าร่วมในกระบวนการ PLC อย่างแข็งขัน แทนที่จะเป็นเพียงผู้บริหารจัดการ
- สำหรับสถาบันผลิตครู: ออกแบบหลักสูตรการฝึกหัดครูใหม่โดยมีรูปแบบการทำงานร่วมกันเป็นแกนกลาง เพื่อให้แน่ใจว่าครูใหม่สำเร็จการศึกษาพร้อมประสบการณ์ในการสอนเป็นทีม การสังเกตการณ์ชั้นเรียนของเพื่อนครู และการสืบเสาะที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล
- สำหรับครู: เปิดรับกรอบความคิดของประสิทธิภาพร่วมกัน (collective efficacy) เข้าร่วมใน PLC อย่างแข็งขัน เปิดใจรับข้อมูลป้อนกลับจากเพื่อนครู และรับผิดชอบร่วมกันต่อการเรียนรู้ของนักเรียนทุกคน ไม่ใช่เพียงนักเรียนในห้องเรียนของตนเอง
Works cited
- Recasting teaching as a collaborative profession – UNESCO, accessed October 5, 2025, https://www.unesco.org/sites/default/files/medias/fichiers/2025/10/wtd-2025-factsheet.pdf
- World Teachers’ Day 2025: Recasting Teaching as a Collaborative Profession, accessed October 5, 2025, https://www.uni-muenster.de/Physik.TP/teaching/courses/numerical_methods_for_complex_systems_ii_ss2019.html?sport-news-294240-2025-10-03-world-teachers-day-2025-recasting-teaching-as-a-collaborative-profession
- World Teachers’ Day 2025: Collaboration is key to making teachers thrive – UNESCO, accessed October 5, 2025, https://www.unesco.org/en/articles/world-teachers-day-2025-collaboration-key-making-teachers-thrive
- ครูยุคโบราณ – กระทรวงศึกษาธิการ, accessed October 5, 2025, https://www.moe.go.th/%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%84%E0%B9%82%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%93/
- ความเป็นมา และระบบการจัดการศึกษาไทย, accessed October 5, 2025, https://www2.st.pnu.ac.th/download/outsideclass/65_ARTICLE1.pdf
- ประวัติศาสตร์การศึกษาไทย – YouTube, accessed October 5, 2025, https://www.youtube.com/watch?v=PGtnSStjAxw
- บทที่ 3 บทบาท หน้าที่และภาระงานของครู | PDF – Scribd, accessed October 5, 2025, https://www.scribd.com/document/698480161/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%97%E0%B8%B5-3-%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97-%E0%B8%AB%E0%B8%99-%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B5-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9
- โฉมหน้าใหม่ของการศึกษาไทยในสมัยรัชกาลที่ ๔ – KMUTT Library, accessed October 5, 2025, https://www.lib.kmutt.ac.th/kingmongkutstudy-thaieducation/
- Traditional teaching and learning strategies – At ITAC, accessed October 5, 2025, https://www.itac.edu.au/resources/traditional-teaching
- The Evolution Of Teaching Methods: From Traditional Classrooms To Modern Digital Learning – Zee News, accessed October 5, 2025, https://zeenews.india.com/lifestyle/the-evolution-of-teaching-methods-from-traditional-classrooms-to-modern-digital-learning-2802798.html
- Traditional education – Wikipedia, accessed October 5, 2025, https://en.wikipedia.org/wiki/Traditional_education
- ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในด้านการศึกษา – Intel, accessed October 5, 2025, https://www.thailand.intel.com/content/www/th/th/learn/ai-in-education.html
- ครูยุคใหม่ใช้ AI ในห้องเรียนยังไงบ้าง? – Amity Solutions, accessed October 5, 2025, https://www.amitysolutions.com/th/blogs/how-teachers-using-ai-in-classroom
- AI in the Classroom: Personalized Learning and the Future of …, accessed October 5, 2025, https://blog.workday.com/en-us/ai-in-the-classroom-personalized-learning-and-the-future-of-education.html
- Are India’s schools ready for AI-powered classrooms without walls?, accessed October 5, 2025, https://www.indiatoday.in/education-today/news/story/ai-in-classrooms-will-indian-schools-bridge-the-digital-divide-2796619-2025-10-02
- AI in Personalized Learning for Smarter Corporate Training – Docebo, accessed October 5, 2025, https://www.docebo.com/learning-network/blog/personalized-learning-ai/
- (PDF) Personalized learning through AI – ResearchGate, accessed October 5, 2025, https://www.researchgate.net/publication/376814707_Personalized_learning_through_AI
- B-schools embrace AI in teaching, but faculty remains unprepared: Will curriculum change keep up?, accessed October 5, 2025, https://timesofindia.indiatimes.com/education/news/b-schools-embrace-ai-in-teaching-but-faculty-remains-unprepared-will-curriculum-change-keep-up/articleshow/124193871.cms
- เรียนวิทย์ยุคใหม่ _ สร้างสรรค์กับ AI ในยุคดิจิทัล – Starfish Labz, accessed October 5, 2025, https://www.starfishlabz.com/blog/1788-%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%84%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88-%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B9%8C%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A-ai-%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%84%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%A5
- 21st Century Skills ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 – Cubic Creative, accessed October 5, 2025, https://cubiccreative.org/21st-century-skill/
- 16 ทักษะจำเป็น แห่งศตวรรษที่ 21 สำหรับคนทำงาน และวัยเรียน : PPTVHD36, accessed October 5, 2025, https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%9F%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B9%84%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B9%8C/159158
- #อาสาสรุป “ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21” ทักษะเพื่อการอยู่รอดในโลกอนาคต จาก World Economic Forum | by Krittamate Pramniya | Medium, accessed October 5, 2025, https://krittamate.medium.com/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%9B-%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B0%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B8%95%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-21-%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%95-%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81-world-economic-forum-62a24388d6ef
- P21 Framework Definitions To help practitioners integrate skills into the teaching of core academic subjects, the Partnership h – ERIC, accessed October 5, 2025, https://files.eric.ed.gov/fulltext/ED519462.pdf
- ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 – northnfe, accessed October 5, 2025, https://northnfe.blogspot.com/2018/10/21.html
- FRAMEWORK FOR 21st CENTURY LEARNING DEFINITIONS – Battelle for Kids, accessed October 5, 2025, https://static.battelleforkids.org/documents/p21/p21_framework_definitionsbfk.pdf
- 3 ทักษะในศตวรรษที่ 21 ที่พนักงานในองค์กรต้องมี – FROG GENIUS, accessed October 5, 2025, https://www.froggenius.com/news/21st-century-skills
- ทักษะแห งอนาคตใหม การเรียนรู ในศตวรรษที่ 21 – ครูใจดี, accessed October 5, 2025, http://krujaideedee.blogspot.com/2014/08/21_4.html
- การคิดเชิงวิพากษ์ (Critical thinking)คืออะไร มีแนวทางการพัฒนาทักษะนี้อย่างไร – Learning Institute, accessed October 5, 2025, https://li.kmutt.ac.th/critical-thinking/knowledge/
- องค์ประกอบของการคิดวิพากษ์ (Critical Thinking element) โดย.อ.ศศิมา สุขสว่าง – sasimasuk.com, accessed October 5, 2025, https://www.sasimasuk.com/17415330/%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B9%8C%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B9%8C-critical-thinking-element-
- EQ (Emotional quotient) ความฉลาดทางอารมณ์ คุณสมบัติสู่ความสำเร็จ – MedPark Hospital, accessed October 5, 2025, https://www.medparkhospital.com/lifestyles/eq-emotional-quotient
- การเปลี่ยนแปลงสำคัญในเทรนด์การศึกษาที่การศึกษาไทยในอนาคตต้องจับตามอง ตอนที่ 1, accessed October 5, 2025, https://www.starfishlabz.com/blog/1311-%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B9%8C%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%95%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-1
- ครูในยุคศตวรรษ ที่ 21 คือ ครูในยุคโลกาภิวัฒน์ จะต้องมีความรู้, accessed October 5, 2025, https://drsumaibinbai.wordpress.com/wp-content/uploads/2016/08/e0b89ae0b897e0b89ae0b8b2e0b897e0b884e0b8a3e0b8b9e0b983e0b899e0b8a8e0b895e0b8a7e0b8a3e0b8a3e0b8a9e0b897e0b8b5e0b988-21.pdf
- บทบาทหน้าที่ของครูในศตวรรษที่ 21 | mylove007 – WordPress.com, accessed October 5, 2025, https://mylove007.wordpress.com/%E0%B8%A8%E0%B8%95%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-21/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9-%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%A8%E0%B8%95/
- Teacher as Coach : จากครูสอนสู่ครูโค้ช, accessed October 5, 2025, https://www.coachthai.com/18140664/teacher-as-coach-%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%8A
- กระบวนการพัฒนาครูโค้ชสู่วิถีชีวิตด้วยหลักปัญญา 3 ฐาน – ThaiJO, accessed October 5, 2025, https://so02.tci-thaijo.org/index.php/EDMCU/article/download/257756/173293
- จากครูสู่ผู้อานวยการเรียนรู้ (From Teacher to Facilitator) เหตุ, accessed October 5, 2025, https://static.trueplookpanya.com/hash_cmsblog/201610/50208/1475568557/FILE_1475568557.pdf
- 4 benefits of an active professional learning community | ISTE, accessed October 5, 2025, https://iste.org/blog/4-benefits-of-an-active-professional-learning-community
- Professional learning community – Wikipedia, accessed October 5, 2025, https://en.wikipedia.org/wiki/Professional_learning_community
- www.ires.or.th, accessed October 5, 2025, https://www.ires.or.th/wp-content/uploads/2018/03/673.pdf
- What Is a Professional Learning Community? – Graduate Programs for Educators, accessed October 5, 2025, https://www.graduateprogram.org/blog/what-is-a-professional-learning-community/
- บทความ/แหล่งเรียนรู้ – plc.bj.ac.th, accessed October 5, 2025, https://plc.bj.ac.th/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A3
- ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ – องค์ความรู้ – Google Sites, accessed October 5, 2025, https://sites.google.com/rd.ac.th/plc-rd/%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3
- PLC คืออะไร?สาคัญอย่างไร ?, accessed October 5, 2025, http://www.thaischool1.in.th/_files_school/92010030/data/92010030_1_20170829-224522.pdf
- สรุปขั้นตอนการทำ PLC 3 Step I PLC I plan do see – YouTube, accessed October 5, 2025, https://www.youtube.com/watch?v=rkAjittrZFk
Comments
Powered by Facebook Comments