Site icon Digital Learning Classroom

กลยุทธ์การออกแบบหัวข้องานวิจัยและนวัตกรรมสู่วิทยฐานะเชี่ยวชาญ (ว 12/2564) สำหรับรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

แชร์เรื่องนี้


กลยุทธ์การออกแบบหัวข้องานวิจัยและนวัตกรรมสู่วิทยฐานะเชี่ยวชาญ (ว 12/2564) สำหรับรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

ดร.อนุศร หงษ์ขุนทด
ศึกษานิเทศก์ วิทยฐานะศึกษานิเทศก์เชี่ยวชาญ สพม.นครราชสีมา
Musicmankob@gmail.com 


__________________________________

บทนำ: ภูมิทัศน์ใหม่ของการประเมินวิทยฐานะ ว 12/2564

การเสนอขอเลื่อนวิทยฐานะเชี่ยวชาญในตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (รอง ผอ.สพท.) ภายใต้หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะฯ (ว 12/2564) 1 ถือเป็นการยกระดับที่ท้าทายอย่างยิ่ง การเปลี่ยนผ่านจากระดับ “ชำนาญการพิเศษ” สู่ “เชี่ยวชาญ” ไม่ได้เป็นเพียงการพิสูจน์ปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น แต่เป็นการเปลี่ยนกระบวนทัศน์ (Paradigm Shift) อย่างสิ้นเชิง จากบทบาท “ผู้บริหาร” (Administrator) ที่เน้นการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพ สู่บทบาท “ผู้นำการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบ” (Systemic Transformer) ที่ต้องสร้างผลกระทบในวงกว้าง

หลักเกณฑ์ ว 12/2564 ได้กำหนดเจตนารมณ์ที่ชัดเจน โดยมุ่งเน้นปรัชญา “Back to school” และ “Focus on classroom” 1 แม้ว่าผู้ดำรงตำแหน่ง รอง ผอ.สพท. จะปฏิบัติงานในระดับนโยบายของเขตพื้นที่ฯ แต่ผลงานทางวิชาการและการปฏิบัติงานทั้งหมด จะถูกประเมินโดยมีเป้าหมายสุดท้ายคือ การพิสูจน์ให้เห็นถึงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงต่อคุณภาพผู้เรียน คุณภาพครู และคุณภาพของสถานศึกษาในสังกัด 1

รายงานการวิจัยฉบับพิเศษนี้ จึงทำหน้าที่เป็น “แผนที่ยุทธศาสตร์” (Strategic Map) ที่จะนำเสนอแนวทาง เทคนิค และขั้นตอนการคิดอย่างละเอียด เพื่อการออกแบบ “ผลงานทางวิชาการ” (ด้านที่ 3) 1 ที่ไม่เพียงแต่จะสอดคล้องตามตัวอักษรของหลักเกณฑ์ แต่ยังสามารถสะท้อนภาวะผู้นำทางวิชาการในระดับ “เชี่ยวชาญ” ที่คณะกรรมการประเมินคาดหวัง อันจะนำไปสู่การ “ผ่านฉลุยตั้งแต่รอบแรก” ตามความมุ่งหมายของผู้เสนอขอ


บทที่ 1: การถอดรหัสเกณฑ์การประเมิน (ว 12/2564) – สิ่งที่คณะกรรมการ (ก.ค.ศ.) คาดหวังจาก “รอง ผอ.สพท. เชี่ยวชาญ”

การวางแผนเพื่อจัดทำผลงานทางวิชาการให้ “โดนใจกรรมการ” จำเป็นต้องเริ่มต้นจากการทำความเข้าใจสิ่งที่คณะกรรมการมองหา ซึ่งถูกระบุไว้ในเกณฑ์การประเมินอย่างเป็นระบบ

1.1 การวิเคราะห์ “สามเหลี่ยมทองคำ”: ความเชื่อมโยงของการประเมิน 3 ด้าน

กลยุทธ์ที่ผิดพลาดที่สุด คือการจัดทำผลงานทางวิชาการ (ด้านที่ 3) แยกส่วนกับการปฏิบัติงาน (ด้านที่ 1 และ 2) หลักเกณฑ์ ว 12/2564 ถูกออกแบบมาให้มีการบูรณาการอย่างเข้มข้น 1 การประเมินทั้ง 3 ด้านมีความสัมพันธ์เชิงเหตุและผล (Cause-and-Effect Relationship) ดังนี้:

  1. ด้านที่ 3: ผลงานทางวิชาการ (The Blueprint – พิมพ์เขียว)
    สำหรับวิทยฐานะเชี่ยวชาญ นี่คือ “รายงานผลการวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนาการบริหารและการจัดการศึกษาหรือนวัตกรรมการบริหารและการจัดการศึกษา” 1 ผลงานชิ้นนี้คือ “พิมพ์เขียว” ทางปัญญาที่ท่านออกแบบขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาหรือพัฒนาระบบการศึกษาในเขตพื้นที่ฯ
  2. ด้านที่ 1: ทักษะการวางแผน กลยุทธ์ การใช้เครื่องมือหรือนวัตกรรมฯ (The Execution – การปฏิบัติ)
    นี่คือ “ทักษะ” ที่ท่านใช้ในการ นำพิมพ์เขียว (ด้านที่ 3) ไปปฏิบัติจริง โดยคณะกรรมการจะประเมินจาก “รายงานผลการดำเนินงานตามแผนพัฒนาการบริหารและการจัดการศึกษา” 1
  3. ด้านที่ 2: ผลลัพธ์ในการพัฒนาการบริหารและการจัดการศึกษา (The Evidence – หลักฐานเชิงประจักษ์)
    นี่คือ “ผลลัพธ์” ที่พิสูจน์ว่าพิมพ์เขียวของท่าน (ด้านที่ 3) ที่ถูกนำไปปฏิบัติ (ด้านที่ 1) นั้น ได้ผลจริง 1 โดยพิจารณาจากผลที่เกิดกับผู้เรียน, ครูและบุคลากร, และสถานศึกษา

กลยุทธ์ที่จะทำให้ “ผ่านฉลุย” คือการสร้าง “เส้นด้ายสีทอง” (Golden Thread) ที่ร้อยเรียงเอกสารทุกชิ้นให้เป็นเรื่องเดียวกัน กล่าวคือ ท่านต้องออกแบบ ด้านที่ 3 (งานวิจัย/นวัตกรรม) ให้เป็น “โครงการหลัก” (Flagship Project) ในการปฏิบัติงานจริงตลอดช่วงเวลาที่เก็บผลงาน จากนั้น ใช้ “รายงานผลการดำเนินงานตามแผนพัฒนาฯ” (สำหรับประเมิน ด้านที่ 1 และ 2) เป็น บันทึกการนำผลงานวิจัยนั้นไปปฏิบัติจริง เมื่อกรรมการเห็นความสอดคล้องเป็นหนึ่งเดียวนี้ พวกเขาจะประจักษ์ในความเชี่ยวชาญที่แท้จริง

1.2 การตีความเชิงลึก: “ผลงานทางวิชาการ” (ด้านที่ 3) สำหรับวิทยฐานะเชี่ยวชาญ

ตามหลักเกณฑ์ ว 12/2564 1 กำหนดชัดเจนว่าผลงานทางวิชาการสำหรับวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ต้องเป็น “รายงานผลการวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนาการบริหารและการจัดการศึกษา หรือนวัตกรรมการบริหารและการจัดการศึกษา” จำนวน 1 เล่ม

การที่ ก.ค.ศ. กำหนดให้เป็น “การวิจัย” หรือ “นวัตกรรม” 2 ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานอย่างชัดเจน ผลงานที่ไม่ใช่การวิจัย (เช่น บทความวิชาการ, การวิเคราะห์เอกสาร หรือรายงานโครงการทั่วไป) ไม่เพียงพออีกต่อไป หัวข้อวิจัยจึงต้องสะท้อน “ระเบียบวิธีวิจัย” (Research Methodology) ที่นำไปสู่การพัฒนาที่จับต้องได้

1.3 การวิเคราะห์เปรียบเทียบระดับการปฏิบัติที่คาดหวัง: การก้าวกระโดดครั้งสำคัญ

นี่คือหัวใจสำคัญที่สุดในการประเมิน และเป็นจุดที่ผู้เสนอขอมักประเมินตนเองผิดพลาด หลักเกณฑ์ ว 12/2564 ได้กำหนด “ระดับการปฏิบัติที่คาดหวัง” (Expected Level of Practice) ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน 1

ระดับชำนาญการพิเศษ (รอง ผอ.สพท.):

ระดับเชี่ยวชาญ (รอง ผอ.สพท.):

คณะกรรมการจะมองหา “รอยต่อ” ของการยกระดับนี้ หากผลงานที่เสนอขอวิทยฐานะเชี่ยวชาญ เป็นเพียงการ “ปรับปรุง” (Improve) โครงการเดิมให้ดีขึ้น เช่น เพิ่มงบประมาณอบรม, จัดอบรมบ่อยขึ้น—นั่นคือระดับ “ชำนาญการพิเศษ” และจะ ไม่ผ่าน การประเมิน “เชี่ยวชาญ” โดยทันที งานของท่านต้องแสดงถึง “การคิดค้น” (Invent) ที่นำไปสู่การทำงาน “แบบใหม่” (Transform) ทั้งกระบวนการ


บทที่ 2: นิยาม “คิดค้น ปรับเปลี่ยน (Invent & Transform)” ในบริบทการบริหารเขตพื้นที่การศึกษา

เพื่อออกแบบหัวข้อวิจัยให้สอดคล้องกับระดับคาดหวัง “คิดค้น ปรับเปลี่ยน” 3 ผู้เสนอขอจำเป็นต้องเข้าใจนิยามของคำทั้งสองในบริบทการบริหารเขตพื้นที่ฯ

2.1 “Invent” (คิดค้น) ไม่ได้หมายถึงการสร้างสิ่งใหม่จากศูนย์

ในบริบทการบริหารการศึกษา “การคิดค้น” ไม่ได้หมายถึงการประดิษฐ์สิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อนในโลก แต่หมายถึง “การสังเคราะห์” (Synthesis) หรือ “การออกแบบเชิงระบบ” (System Design) ที่เป็นใหม่สำหรับบริบทของเขตพื้นที่นั้นๆ 3

2.2 “Transform” (ปรับเปลี่ยน) คือการสร้างผลกระทบที่วัดผลได้และยั่งยืน

“การปรับเปลี่ยน” คือผลลัพธ์เชิงประจักษ์ที่เกิดขึ้นจริงจากการ “คิดค้น” ของท่าน 1 นี่คือส่วนที่ท่านต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า การ “Invent” ของท่านไม่ได้เป็นเพียงทฤษฎีในเอกสาร แต่ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงจริง

หากท่าน “Invent” (คิดค้น) รูปแบบการนิเทศแบบใหม่ (เช่น การนิเทศแบบ AI-Assisted) ท่านต้องพิสูจน์การ “Transform” (ปรับเปลี่ยน) โดยแสดงหลักฐานที่สอดคล้องกับเกณฑ์การประเมิน ด้านที่ 2 1 ว่า:

  1. ผลลัพธ์ที่เกิดกับข้าราชการครูฯ: ครู เปลี่ยน พฤติกรรมการสอน, ผู้บริหาร เปลี่ยน วิธีการบริหารโรงเรียน
  2. ผลลัพธ์ที่เกิดกับผู้เรียนฯ: นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์สูงขึ้น หรือมีสมรรถนะที่พึงประสงค์เพิ่มขึ้น
  3. ผลลัพธ์ที่เกิดกับสถานศึกษาฯ: โรงเรียนมีวัฒนธรรมองค์กรที่ดีขึ้น หรือระบบการประกันคุณภาพภายในเข้มแข็งขึ้น

การ “Transform” นี้ ต้องสอดคล้องกับมาตรฐานตำแหน่งของ รอง ผอ.สพท. ทั้ง 5 ด้าน (ด้านการบริหารและความเป็นผู้นำ, ด้านการบริหารจัดการองค์กร, ด้านการบริหารการเปลี่ยนแปลง, ด้านการบริหารงานชุมชนและเครือข่าย, และด้านการพัฒนาตนเอง) 1


บทที่ 3: กระบวนการ 5 ขั้นตอนในการคัดเลือกหัวข้อวิจัย “ที่ผ่านฉลุย” (The 5-Step Topic Selection Funnel)

กระบวนการต่อไปนี้ คือขั้นตอนเชิงระบบที่จะช่วยกรองความคิดและออกแบบหัวข้อวิจัยที่สอดคล้องกับเกณฑ์ ว 12/2564 ในระดับเชี่ยวชาญ

ขั้นตอนที่ 1: การวิเคราะห์สภาพปัญหา (Identify the Battlefield)

เริ่มต้นจาก “ปัญหา” ที่แท้จริง ไม่ใช่ “หัวข้อ” ที่สวยหรู งานวิจัยระดับเชี่ยวชาญต้องแก้ปัญหาสำคัญ (Pain Point) ของเขตพื้นที่การศึกษา

แหล่งข้อมูลสำหรับปัญหา:

เกณฑ์การเลือกปัญหา: ต้องเป็นปัญหาที่ “ใหญ่” (ระดับเขตพื้นที่ฯ) และ “เร่งด่วน” พอที่จะแสดงบทบาทของ รอง ผอ.สพท. (ไม่ใช่ปัญหาที่ ผอ.โรงเรียน หรือครู สามารถแก้ไขได้เอง)

ขั้นตอนที่ 2: การเชื่อมโยงนโยบาย (Align with National Policy)

นี่คือเทคนิคสำคัญที่จะทำให้ผลงาน “โดนใจกรรมการ” หัวข้อของท่านต้องแสดงว่าท่านเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ และ สพฐ.

นโยบายปัจจุบันที่ควรพิจารณา (ปี 2567-2568):

การสังเคราะห์เพื่อ “Invent”:

  1. ปัญหา (ขั้นตอนที่ 1): ครูในเขตฯ ยังสอนแบบบรรยาย, ไม่ใช้เทคโนโลยี 4
  2. นโยบาย (ขั้นตอนที่ 2): สพฐ. เน้น Active Learning และ Digital Classroom 10
  3. การเชื่อมโยง (Invent): ท่านต้อง “คิดค้น” รูปแบบการบริหารจัดการ หรือ กลไกการสนับสนุน ของเขตพื้นที่ฯ ที่จะ ผลักดัน ให้ครูในสังกัดเกิดการเปลี่ยนแปลงนี้
  4. ผลลัพธ์ (Transform): พิสูจน์ว่าโรงเรียนในสังกัดมีการใช้ Active Learning และ Digital Classroom เพิ่มขึ้นจริง

ขั้นตอนที่ 3: การเลือกกรอบระเบียบวิธีวิจัย (Choose the Methodology)

นี่คือหัวใจทางวิชาการที่ตอบโจทย์ “รายงานผลการวิจัย หรือนวัตกรรม” 1

ทางเลือกที่ 1: การวิจัยและพัฒนา (R&D – Research & Development) 2

ทางเลือกที่ 2: การวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research – AR) 5

ข้อเสนอแนะเชิงกลยุทธ์: สำหรับ รอง ผอ.สพท. ที่ต้องการแสดงภาวะผู้นำระดับ “เชี่ยวชาญ”, การวิจัยและพัฒนา (R&D) มักจะทรงพลังกว่า เพราะนำไปสู่การสร้าง “นวัตกรรมการบริหาร” ที่เป็นระบบและขยายผลได้ (Scalable) หากใช้ AR ต้องมั่นใจว่าเป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการระดับ เขตพื้นที่ (ESAO-level Action Research) ไม่ใช่ระดับโรงเรียน

ขั้นตอนที่ 4: การสร้าง “ประเด็นท้าทาย” (PA) ให้เป็น “ผลงานวิชาการ” (ด้านที่ 3)

นี่คือการบูรณาการที่สำคัญที่สุด ตามแบบ PA 1/บก. สำหรับ รอง ผอ.สพท. วิทยฐานะเชี่ยวชาญ (หรือผู้ที่ประสงค์จะขอ) 1 ส่วนที่ 2 “ข้อตกลงในการพัฒนางานที่เสนอเป็นประเด็นท้าทายฯ” คือ “สัญญา” ที่ท่านทำกับผู้บังคับบัญชา และมัน คือ บทคัดย่อของงานวิจัย ด้านที่ 3 ของท่าน

กลยุทธ์การเขียน PA ส่วนที่ 2 (ประเด็นท้าทาย) 1:

ขั้นตอนที่ 5: ศิลปะการตั้งชื่อหัวข้อ (The Art of Titling)

ชื่อหัวข้อคือ “ป้ายโฆษณา” ที่บอกคณะกรรมการทันทีว่าท่านอยู่ในระดับ “Improve” (ชำนาญการพิเศษ) หรือ “Invent & Transform” (เชี่ยวชาญ)


บทที่ 4: ตัวอย่างต้นแบบ (Archetypes) หัวข้อวิจัยและนวัตกรรมสำหรับ รอง ผอ.สพท. (ระดับเชี่ยวชาญ)

แม้ว่าการค้นหาตัวอย่างผลงานที่ผ่านการอนุมัติจาก ก.ค.ศ. จะไม่สามารถระบุชื่อเรื่องที่ชัดเจนได้จากข้อมูลที่มี 13 แต่การสร้าง “ต้นแบบ” (Archetypes) ของหัวข้อวิจัยตามกระบวนการ 5 ขั้นตอนข้างต้น จะมีประโยชน์ในการประยุกต์ใช้มากกว่า

ตารางที่ 1: ตารางสังเคราะห์การพัฒนาหัวข้อวิจัยตามแนวทาง “Invent & Transform” สำหรับ รอง ผอ.สพท.

สภาพปัญหา (ขั้นตอนที่ 1) + นโยบาย (ขั้นตอนที่ 2)ระเบียบวิธีวิจัย (ขั้นตอนที่ 3)“การคิดค้น” (Invent) (สิ่งที่สร้างขึ้นใหม่)“การปรับเปลี่ยน” (Transform) (ผลลัพธ์ที่คาดหวัง)ตัวอย่างชื่อหัวข้อวิจัย (ขั้นตอนที่ 5)
ปัญหา: ครูในเขตฯ ขาดทักษะการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และ AI 6
นโยบาย: สพฐ. 10 เน้นการใช้ AI และ Digital Classroom (ข้อ 3.3)
การวิจัยและพัฒนา (R&D) 2“รูปแบบการบริหารเขตพื้นที่ฯ” (ESAO Management Model) ที่ใช้ AI ขับเคลื่อนการพัฒนาครูครูในสังกัดมีสมรรถนะดิจิทัลสูงขึ้น (Digital Competency) และนำ AI ไปใช้ในการจัดการเรียนรู้ได้จริง“การพัฒนารูปแบบการบริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI-Driven ESAO Model) เพื่อยกระดับสมรรถนะดิจิทัลของครูในสังกัด…”
ปัญหา: คุณภาพการนิเทศภายในไม่เข้มแข็ง ติดตามผลไม่ได้ 7
นโยบาย: สพฐ. เน้นการพัฒนาครู 9 และการสร้างชุมชนการเรียนรู้ (PLC) 1
การวิจัยและพัฒนา (R&D)“นวัตกรรมการนิเทศแบบดิจิทัล” (Digital Supervision Innovation) ที่เชื่อมโยงกับระบบ PLC1. ศึกษานิเทศก์และผู้บริหารเปลี่ยนระบบการนิเทศ
2. เกิดชุมชนการเรียนรู้ (PLC) ที่มีคุณภาพ 1
“การพัฒนานวัตกรรมการนิเทศภายในแบบไฮบริด (Hybrid Supervision Innovation) เพื่อเสริมสร้างชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ของสถานศึกษา…”
ปัญหา: ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา 6 โรงเรียนขนาดเล็กบริหารจัดการยาก 4
นโยบาย: สพฐ. 9 เน้นการลดความเหลื่อมล้ำ
การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (PAR) 5“กระบวนการบริหารเครือข่าย” (Network Administration Process) ระหว่างโรงเรียน (ใหญ่-เล็ก) และชุมชนโรงเรียนขนาดเล็กได้รับการสนับสนุนทรัพยากรอย่างเท่าเทียม (Equity) และมีคุณภาพการจัดการศึกษาสูงขึ้น“การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนากระบวนการบริหารเครือข่ายความร่วมมือเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาของโรงเรียนขนาดเล็ก…”
ปัญหา: ผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส (ITA) ของ สพท. อยู่ในระดับต่ำ
นโยบาย: สพฐ. 10 เน้นการยกระดับ ITA และการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ
การวิจัยและพัฒนา (R&D)“กลไกการบริหารจัดการ” (Management Mechanism) เพื่อสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่โปร่งใส1. ระบบการทำงานของ สพท. โปร่งใส ตรวจสอบได้ 10
2. บุคลากรใน สพท. และสถานศึกษามีความพึงพอใจ 1
“การพัฒนากลไกการบริหารจัดการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาตามหลักธรรมาภิบาล เพื่อยกระดับคุณธรรมและความโปร่งใส (ITA)”

บทที่ 5: บทสรุปและข้อเสนอแนะเชิงกลยุทธ์: ทำอย่างไรให้ “โดนใจกรรมการ”

การเลือกหัวข้อเป็นเพียงจุดเริ่มต้น ความสำเร็จในการประเมินระดับเชี่ยวชาญอยู่ที่การบูรณาการและการนำเสนอที่ตรงตามความคาดหวังของคณะกรรมการ

5.1 กลยุทธ์ “Golden Thread” (เส้นด้ายสีทอง)

ยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุดคือการบูรณาการเอกสารทุกฉบับให้เป็นเรื่องเดียวกัน:

  1. เริ่มต้น ที่ “ประเด็นท้าทาย” (PA ส่วนที่ 2) 1 โดยเขียนให้เป็นบทสรุปผู้บริหารของงานวิจัย ด้านที่ 3
  2. ขยายความ เป็น “ผลงานทางวิชาการ” (ด้านที่ 3) 1 ซึ่งเป็นพิมพ์เขียวฉบับเต็มที่ใช้ระเบียบวิธีวิจัย (R&D หรือ AR)
  3. ปฏิบัติการ นำผลงานวิจัยนั้นไปใช้จริงในเขตพื้นที่ฯ
  4. บันทึกผล การปฏิบัตินั้นใน “รายงานผลการดำเนินงานตามแผนพัฒนาฯ” 1 ซึ่งจะใช้ประเมิน ด้านที่ 1 และ 2 1

เมื่อกรรมการเห็นว่า PA, รายงานฯ, และงานวิจัย เป็นเรื่องเดียวกัน พวกเขาจะเห็นถึง “การคิดค้น” (Invent) ที่นำไปสู่ “การปรับเปลี่ยน” (Transform) อย่างเป็นรูปธรรมและน่าเชื่อถือ

5.2 การแสดงหลักฐานเชิงประจักษ์ (Empirical Evidence) แห่งการ “Transform”

“Invent” คือสิ่งที่ท่านอ้าง แต่ “Transform” คือสิ่งที่ท่านต้องพิสูจน์ ในรายงานวิจัย (ด้านที่ 3) ต้องมีบทที่ว่าด้วย “ผลการทดลอง/ผลการปฏิบัติ” ที่แสดงข้อมูลเชิงสถิติ (Quantitative) และเชิงคุณภาพ (Qualitative) ที่ตอบโจทย์การประเมิน ด้านที่ 2 1 อย่างชัดเจน ต้องมีข้อมูลเปรียบเทียบ ก่อนและหลังการใช้นวัตกรรม ที่แสดงถึงผลสัมฤทธิ์ผู้เรียน, ผลการประเมินสมรรถนะครู, หรือผลการประเมินคุณภาพสถานศึกษา

5.3 ข้อควรระวัง: 3 หลุมพรางที่ทำให้หัวข้อวิจัย “ไม่ผ่าน” วิทยฐานะเชี่ยวชาญ

  1. “หลุมพรางนักวิชาการ” (The Academic Trap): ทำหัวข้อที่ลึกซึ้ง แต่ ไม่เกิดการปรับเปลี่ยน (No Transform) เช่น “การวิเคราะห์ปัจจัย…” หรือ “การเปรียบเทียบ…” งานเหล่านี้ไม่แสดงภาวะผู้นำในการบริหาร
  2. “หลุมพรางนักปฏิบัติ” (The Practitioner Trap): ทำงานหนักมาก แต่ ไม่มีการคิดค้น (No Invent) เช่น “รายงานผลการดำเนินโครงการอบรมครู 100%” นี่คือระดับ “Improve” (ชำนาญการพิเศษ) ไม่ใช่ “Invent” (เชี่ยวชาญ)
  3. “หลุมพรางข้ามบทบาท” (The Role Mismatch Trap): ทำวิจัยในสิ่งที่ ไม่ใช่บทบาท ของ รอง ผอ.สพท. เช่น “การพัฒนาแผนการสอน (Lesson Plan) เรื่อง…” (นี่คือบทบาทครู) หรือ “การพัฒนาระบบบริหารในโรงเรียน A…” (นี่คือบทบาท ผอ.โรงเรียน)

บทสรุปสุดท้าย

การขอวิทยฐานะเชี่ยวชาญตามเกณฑ์ ว 12/2564 คือการพิสูจน์ว่าท่านเป็น “สถาปนิกทางการศึกษา” (Educational Architect) ที่สามารถออกแบบ “ระบบใหม่” (Invent) และสร้าง “ผลกระทบใหม่” (Transform) ให้กับเขตพื้นที่การศึกษาได้ ผลงานทางวิชาการของท่านคือพิมพ์เขียวและหลักฐานที่พิสูจน์ข้อเท็จจริงนั้น การเลือกหัวข้อที่ถูกต้องตามกระบวนการนี้ คือก้าวแรกที่สำคัญที่สุดสู่ความสำเร็จ

Works cited

  1. ว 12ตำแหน่งผู้บริหารการศึกษา สพฐ.pdf
  2. การวิจัยและพัฒนา Research & Development (R&D) และ การวิจัยเช P, accessed November 10, 2025, https://bri.mcu.ac.th/wp-content/uploads/2022/05/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%B2-Research-_-Development-R_D-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0-%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%8A-compressed.pdf
  3. www.skprivate.go.th, accessed November 10, 2025, https://www.skprivate.go.th/uploads/docs/1dc09d933aa1a23ed50d8e457b6c151f.docx
  4. ภาวะผู้นาการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารกับประสิทธิผลของสถานศึกษา – ThaiJo, accessed November 10, 2025, https://so06.tci-thaijo.org/index.php/jsrc/article/download/252340/177451/1027142
  5. การวิจัยเชิงปฏิบัติการพัฒนาการวิจัยเพื่อพั T – Journal – วิทยาลัยนครราชสีมา, accessed November 10, 2025, http://journal.nmc.ac.th/th/admin/Journal/2560Vol11No3_805.pdf
  6. ประกาศรับข้อเสนอชุดโครงการวิจัย กรอบ การพัฒนาพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา.pdf – NRIIS, accessed November 10, 2025, https://nriis.go.th/FileUpload/AttatchFile/News/256512141836170848315.pdf
  7. สพฐ. ติวเข้ม 245 เขตพื้นที่พร้อมรับมือข่าวชี้แจงอย่างมืออาชีพ – OBEC, accessed November 10, 2025, https://www.obec.go.th/1090128
  8. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ กทม. ๑๐๓๐๐ – สพป.อุดรธานี เขต 1, accessed November 10, 2025, https://udn1.go.th/wp-content/uploads/2024/07/%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B8%AA%E0%B8%9E%E0%B8%90_-2567%E2%80%932568-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A2-Quick-Win-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%93-2567.pdf
  9. นโยบาย จุดเน้น สพฐ. ปี 2567-2568 และ Quick win 2567 – สำนักงานเขต …, accessed November 10, 2025, https://www.sesaoksn.go.th/%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A2-%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%99-%E0%B8%AA%E0%B8%9E%E0%B8%90-%E0%B8%9B%E0%B8%B5-2567-2568-%E0%B9%81%E0%B8%A5/
  10. นโยบายและจุดเน้นของ สพฐ. ประจำปีงบประมาณ 2568-2569, accessed November 10, 2025, http://www.secondarytak.go.th/wp-content/uploads/2024/11/67-11-25-%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B8%AA%E0%B8%9E%E0%B8%90.-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%93-2568-2569.pdf
  11. การวิจัยและพัฒนาเพื่อการสร้างนวัตกรรมการศึกษาของครู … – thaijo.org, accessed November 10, 2025, https://so05.tci-thaijo.org/index.php/JTPLC/article/download/262294/177246/1004108
  12. การวิจัยเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนานิสัยรักการอ าน สําหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาป ที่5 โรงเรียนบ านไร ร ว – thaijo.org, accessed November 10, 2025, https://so04.tci-thaijo.org/index.php/ksk/article/download/125639/95146/
  13. รายชื่อผลงานที่ผ่านระดับ “เชี่ยวชาญ” ที่อนุมัติล่าสุด | ครูบ้านนอกดอทคอม, accessed November 10, 2025, https://www.kroobannok.com/44153
  14. ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 24 ราย (21 พฤษภาคม 2568) | ครูบ้านนอกดอทคอม, accessed November 10, 2025, https://www.kroobannok.com/92720

Comments

comments

Powered by Facebook Comments

Exit mobile version