Digital Learning Classroom
ObecContentCenterTPACKModelหลักสูตรฐานสมรรถนะ

ตัวอย่างการนำโมเดล TIP Model ไปใช้กับการออกแบบการจัดการเรียนการสอนในห้องเรียน

แชร์เรื่องนี้

ตัวอย่างการนำโมเดล TIP Model ไปใช้กับการออกแบบการจัดการเรียนการสอนในห้องเรียน

การนำโมเดล Technology Integration Planning (TIP) ไปประยุกต์ใช้ในการออกแบบการจัดการเรียนการสอนในห้องเรียนสามารถช่วยให้ครูวางแผนบูรณาการเทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพ ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างการนำโมเดล TIP ไปใช้ในวิชาต่างๆ:

ตัวอย่างที่ 1: การสอนวิชาวิทยาศาสตร์ เรื่อง “ระบบสุริยะ” ระดับประถมศึกษาปีที่ 6

ขั้นตอนที่ 1: กำหนดกรอบแนวทางการใช้เทคโนโลยี เนื้อหา และความรู้

  • เนื้อหาวิชา: ครูมีความรู้เรื่องดาราศาสตร์พื้นฐาน คุณลักษณะของดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ
  • ความรู้ด้านการสอน: การสอนแบบสืบเสาะ (Inquiry-based learning) และการทำงานกลุ่ม
  • ทักษะด้านเทคโนโลยี: ทักษะการใช้แอปพลิเคชันจำลองระบบสุริยะ การใช้สื่อแอนิเมชันจาก OBEC Content Center และการใช้ Google Earth

ขั้นตอนที่ 2: พิจารณาความได้เปรียบเชิงสัมพันธ์

  • ประโยชน์ของเทคโนโลยี:
    • นักเรียนสามารถเห็นแบบจำลอง 3 มิติของระบบสุริยะ ซึ่งไม่สามารถเห็นได้จากรูปภาพในหนังสือ
    • นักเรียนสามารถสังเกตการเคลื่อนที่ของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์ได้แบบเวลาเร่ง
    • นักเรียนสามารถสำรวจพื้นผิวของดาวเคราะห์ได้จากแอปพลิเคชัน Google Earth
    • ช่วยกระตุ้นความสนใจและสร้างความตื่นเต้นให้กับการเรียนรู้

ขั้นตอนที่ 3: กำหนดวัตถุประสงค์และการประเมินผล

  • วัตถุประสงค์:
    • นักเรียนสามารถอธิบายลักษณะและคุณสมบัติของดาวเคราะห์แต่ละดวงในระบบสุริยะได้
    • นักเรียนสามารถเปรียบเทียบขนาดและระยะห่างของดาวเคราะห์จากดวงอาทิตย์ได้
    • นักเรียนสามารถอธิบายปรากฏการณ์กลางวัน-กลางคืนและฤดูกาลได้
  • การประเมินผล:
    • ใช้แบบทดสอบความรู้เรื่องระบบสุริยะ
    • ประเมินจากการนำเสนอผลงานกลุ่ม
    • สังเกตการมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้

ขั้นตอนที่ 4: ออกแบบกลยุทธ์ในการบูรณาการ

  • กิจกรรมการเรียนรู้:
    • ขั้นนำ (15 นาที): ครูใช้คลิปวิดีโอแอนิเมชันจาก OBEC Content Center เรื่อง “การกำเนิดระบบสุริยะ” เพื่อกระตุ้นความสนใจ
    • ขั้นสอน (40 นาที):
      • นักเรียนแบ่งกลุ่ม สำรวจแอปพลิเคชัน Solar System Scope เพื่อศึกษาดาวเคราะห์แต่ละดวง
      • ครูสาธิตการใช้แอปพลิเคชันบนจอโปรเจคเตอร์และให้นักเรียนสำรวจตามที่ละขั้นตอน
    • ขั้นทำกิจกรรม (40 นาที):
      • แต่ละกลุ่มได้รับมอบหมายให้ศึกษาดาวเคราะห์ 1 ดวง โดยใช้แอปพลิเคชัน
      • นักเรียนค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งข้อมูลออนไลน์ที่ครูเตรียมไว้
    • ขั้นสรุป (25 นาที):
      • นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอข้อมูลดาวเคราะห์ที่ศึกษาโดยใช้แอปพลิเคชัน
      • ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้โดยใช้แบบจำลองระบบสุริยะบนแอปพลิเคชัน

ขั้นตอนที่ 5: จัดเตรียมสภาพแวดล้อมสำหรับการเรียนการสอน

  • การเตรียมอุปกรณ์และสื่อ:
    • ติดตั้งแอปพลิเคชัน Solar System Scope และ Google Earth บนแท็บเล็ตหรือคอมพิวเตอร์
    • เตรียมห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์หรือจัดเตรียมแท็บเล็ตให้เพียงพอสำหรับการทำงานกลุ่ม
    • ทดสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและเตรียมแผนสำรองกรณีเกิดปัญหาทางเทคนิค
    • จัดทำใบกิจกรรมแนะนำขั้นตอนการใช้แอปพลิเคชัน

ขั้นตอนที่ 6: ประเมินผลและปรับปรุงกลยุทธ์ในการบูรณาการ

  • การประเมินผล:
    • ประเมินความรู้ความเข้าใจของนักเรียนผ่านแบบทดสอบและการนำเสนอ
    • สังเกตและบันทึกปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการใช้เทคโนโลยี
    • สอบถามความคิดเห็นของนักเรียนเกี่ยวกับการใช้แอปพลิเคชันในการเรียนรู้
  • การปรับปรุง:
    • ปรับเวลาในการทำกิจกรรมให้เหมาะสมกับความสามารถของนักเรียนในการใช้แอปพลิเคชัน
    • เพิ่มคำแนะนำที่ชัดเจนสำหรับการใช้แอปพลิเคชันที่ซับซ้อน
    • เพิ่มกิจกรรมการสร้างแบบจำลองระบบสุริยะด้วยวัสดุจริงเพื่อเสริมความเข้าใจ

ตัวอย่างที่ 2: การสอนวิชาภาษาไทย เรื่อง “การเขียนเรียงความ” ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 2

ขั้นตอนที่ 1: กำหนดกรอบแนวทางการใช้เทคโนโลยี เนื้อหา และความรู้

  • เนื้อหาวิชา: หลักการเขียนเรียงความ การวางโครงเรื่อง การใช้ภาษา
  • ความรู้ด้านการสอน: การเรียนรู้แบบร่วมมือ (Collaborative Learning) และการสอนแบบโครงงาน
  • ทักษะด้านเทคโนโลยี: การใช้เว็บไซต์ Canva, Google Docs, Padlet และสื่อการสอนออนไลน์จาก OBEC Content Center

ขั้นตอนที่ 2: พิจารณาความได้เปรียบเชิงสัมพันธ์

  • ประโยชน์ของเทคโนโลยี:
    • นักเรียนสามารถเขียนและแก้ไขงานได้สะดวก ไม่จำเป็นต้องเขียนใหม่ทั้งฉบับ
    • ครูสามารถติดตามกระบวนการเขียนและให้คำแนะนำได้แบบเรียลไทม์ผ่าน Comment ใน Google Docs
    • นักเรียนสามารถแชร์และวิจารณ์งานเขียนของเพื่อนได้อย่างสร้างสรรค์ผ่าน Padlet
    • การนำเสนอเรียงความด้วย Canva ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับงานเขียน

ขั้นตอนที่ 3: กำหนดวัตถุประสงค์และการประเมินผล

  • วัตถุประสงค์:
    • นักเรียนสามารถเขียนเรียงความที่มีองค์ประกอบครบถ้วนและมีความสมบูรณ์ด้านเนื้อหา
    • นักเรียนสามารถวิจารณ์และให้ข้อเสนอแนะงานเขียนของเพื่อนได้อย่างสร้างสรรค์
    • นักเรียนสามารถใช้เทคโนโลยีในการพัฒนางานเขียนและนำเสนอได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การประเมินผล:
    • ประเมินผลงานเรียงความตามเกณฑ์รูบริคที่กำหนด
    • ประเมินการมีส่วนร่วมในการวิจารณ์ผลงานเพื่อน
    • ประเมินทักษะการใช้เทคโนโลยีในการสร้างสรรค์และนำเสนอผลงาน

ขั้นตอนที่ 4: ออกแบบกลยุทธ์ในการบูรณาการ

  • กิจกรรมการเรียนรู้:
    • ขั้นนำ (15 นาที):
      • ครูเปิดวิดีโอตัวอย่างเรียงความที่ได้รับรางวัลจาก OBEC Content Center
      • อภิปรายลักษณะเด่นของเรียงความที่ดี
    • ขั้นสอน (30 นาที):
      • ใช้ Mind Mapping App ให้นักเรียนร่วมกันระดมความคิดเกี่ยวกับองค์ประกอบของเรียงความ
      • สาธิตการวางโครงเรื่องโดยใช้ Google Docs
    • ขั้นทำกิจกรรม (3 คาบ):
      • คาบที่ 1: นักเรียนวางโครงเรื่องเรียงความในหัวข้อ “โลกในอนาคต” ใน Google Docs
      • คาบที่ 2: นักเรียนพัฒนาเรียงความฉบับร่างและแชร์กับเพื่อนและครูเพื่อขอคำแนะนำ
      • คาบที่ 3: นักเรียนปรับปรุงเรียงความและออกแบบการนำเสนอด้วย Canva
    • ขั้นสรุป (50 นาที):
      • นักเรียนนำเสนอเรียงความผ่าน Padlet
      • นักเรียนให้คำแนะนำและความคิดเห็นต่อผลงานของเพื่อนด้วยการพิมพ์ข้อความใน Padlet
      • ครูและนักเรียนร่วมกันคัดเลือกผลงานที่โดดเด่นและวิเคราะห์จุดเด่น

ขั้นตอนที่ 5: จัดเตรียมสภาพแวดล้อมสำหรับการเรียนการสอน

  • การเตรียมอุปกรณ์และสื่อ:
    • จัดเตรียมคอมพิวเตอร์หรือแท็บเล็ตที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
    • สร้างบัญชีผู้ใช้งาน Google Classroom สำหรับการแชร์ลิงก์และเอกสาร
    • จัดทำคู่มือการใช้งาน Google Docs และ Canva สำหรับนักเรียน
    • เตรียม Padlet สำหรับนำเสนอผลงานของนักเรียนทั้งชั้น

ขั้นตอนที่ 6: ประเมินผลและปรับปรุงกลยุทธ์ในการบูรณาการ

  • การประเมินผล:
    • วิเคราะห์คุณภาพของเรียงความและการนำเสนอ
    • ประเมินประสิทธิภาพของการใช้เทคโนโลยีในการพัฒนางานเขียน
    • สอบถามความคิดเห็นของนักเรียนเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้
  • การปรับปรุง:
    • เพิ่มเวลาสำหรับการแนะนำการใช้งาน Canva สำหรับนักเรียนที่ไม่คุ้นเคย
    • พัฒนาระบบการให้ข้อเสนอแนะระหว่างเพื่อนให้มีโครงสร้างที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
    • จัดทำแบบฟอร์มโครงเรื่องเรียงความใน Google Docs เพื่อช่วยนักเรียนที่ยังไม่ชำนาญ

ตัวอย่างที่ 3: การสอนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง “ทฤษฎีพีทาโกรัส” ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3

ขั้นตอนที่ 1: กำหนดกรอบแนวทางการใช้เทคโนโลยี เนื้อหา และความรู้

  • เนื้อหาวิชา: ทฤษฎีพีทาโกรัส การคำนวณด้านของสามเหลี่ยมมุมฉาก การประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
  • ความรู้ด้านการสอน: การสอนแบบสาธิต การเรียนรู้ผ่านการลงมือปฏิบัติ (Learning by Doing)
  • ทักษะด้านเทคโนโลยี: การใช้โปรแกรม GeoGebra, Khan Academy, Desmos และสื่อมัลติมีเดียจาก OBEC Content Center

ขั้นตอนที่ 2: พิจารณาความได้เปรียบเชิงสัมพันธ์

  • ประโยชน์ของเทคโนโลยี:
    • นักเรียนสามารถมองเห็นความสัมพันธ์ระหว่างพื้นที่สี่เหลี่ยมบนด้านทั้งสามของสามเหลี่ยมมุมฉากได้ชัดเจนผ่านแอปพลิเคชัน GeoGebra
    • นักเรียนสามารถเปลี่ยนขนาดของสามเหลี่ยมและสังเกตการเปลี่ยนแปลงแบบเรียลไทม์
    • นักเรียนสามารถทำแบบฝึกหัดและได้รับผลตอบกลับทันทีผ่าน Khan Academy
    • นักเรียนสามารถสร้างกราฟและภาพเคลื่อนไหวเพื่อสำรวจทฤษฎีพีทาโกรัสด้วยโปรแกรม Desmos

ขั้นตอนที่ 3: กำหนดวัตถุประสงค์และการประเมินผล

  • วัตถุประสงค์:
    • นักเรียนสามารถอธิบายทฤษฎีพีทาโกรัสได้ด้วยความเข้าใจ
    • นักเรียนสามารถใช้ทฤษฎีพีทาโกรัสในการคำนวณหาความยาวด้านของสามเหลี่ยมมุมฉากได้
    • นักเรียนสามารถประยุกต์ใช้ทฤษฎีพีทาโกรัสในการแก้ปัญหาในสถานการณ์จริงได้
  • การประเมินผล:
    • ประเมินความเข้าใจจากการอธิบายและการนำเสนอผ่าน GeoGebra
    • ทดสอบทักษะการคำนวณผ่านแบบทดสอบออนไลน์
    • ประเมินการประยุกต์ใช้ผ่านโครงงานกลุ่ม

ขั้นตอนที่ 4: ออกแบบกลยุทธ์ในการบูรณาการ

  • กิจกรรมการเรียนรู้:
    • ขั้นนำ (15 นาที):
      • ครูเปิดคลิปวิดีโอสั้นๆ จาก OBEC Content Center ที่แสดงการประยุกต์ใช้ทฤษฎีพีทาโกรัสในชีวิตจริง
      • ตั้งคำถามกระตุ้นความสนใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของด้านในสามเหลี่ยมมุมฉาก
    • ขั้นสอน (40 นาที):
      • ครูสาธิตการพิสูจน์ทฤษฎีพีทาโกรัสด้วย GeoGebra บนโปรเจคเตอร์
      • ให้นักเรียนทดลองสร้างรูปสามเหลี่ยมมุมฉากขนาดต่างๆ ใน GeoGebra และตรวจสอบทฤษฎี
    • ขั้นทำกิจกรรม (60 นาที):
      • นักเรียนทำแบบฝึกหัดพื้นฐานเกี่ยวกับการคำนวณด้านของสามเหลี่ยมมุมฉากใน Khan Academy
      • นักเรียนแบ่งกลุ่มออกแบบโครงงานประยุกต์ใช้ทฤษฎีพีทาโกรัสในสถานการณ์จริง
    • ขั้นสรุป (25 นาที):
      • นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอแนวคิดโครงงานโดยใช้ Desmos หรือ GeoGebra ประกอบ
      • ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้และประโยชน์ของทฤษฎีพีทาโกรัส

ขั้นตอนที่ 5: จัดเตรียมสภาพแวดล้อมสำหรับการเรียนการสอน

  • การเตรียมอุปกรณ์และสื่อ:
    • ติดตั้งโปรแกรม GeoGebra และ Desmos บนคอมพิวเตอร์ของห้องเรียน
    • สร้างบัญชีผู้ใช้งาน Khan Academy สำหรับนักเรียน
    • เตรียมใบงานที่มี QR Code เชื่อมโยงไปยังสื่อการเรียนรู้ออนไลน์
    • จัดเตรียมอุปกรณ์จริงสำหรับการวัดและคำนวณในโครงงาน เช่น ตลับเมตร เครื่องวัดมุม

ขั้นตอนที่ 6: ประเมินผลและปรับปรุงกลยุทธ์ในการบูรณาการ

  • การประเมินผล:
    • วิเคราะห์ผลคะแนนจากแบบทดสอบใน Khan Academy
    • ประเมินคุณภาพของโครงงานและการนำเสนอ
    • สังเกตความเข้าใจและการมีส่วนร่วมของนักเรียน
  • การปรับปรุง:
    • ปรับเพิ่มเวลาในการใช้โปรแกรม GeoGebra สำหรับนักเรียนที่ไม่คุ้นเคย
    • เพิ่มแบบฝึกหัดที่หลากหลายระดับความยากง่ายใน Khan Academy
    • พัฒนาใบงานที่มีขั้นตอนชัดเจนสำหรับการสร้างสามเหลี่ยมใน GeoGebra

สรุป

การนำโมเดล TIP มาใช้ในการออกแบบการจัดการเรียนการสอนช่วยให้ครูสามารถวางแผนการบูรณาการเทคโนโลยีอย่างเป็นระบบ ช่วยสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่น่าสนใจและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยมุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ในเนื้อหาวิชาแต่ละเรื่อง ตามความเหมาะสมกับวัยและระดับชั้นของผู้เรียน อีกทั้งเปิดโอกาสให้มีการประเมินและปรับปรุงการใช้เทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การเรียนการสอนมีพัฒนาการที่ดีขึ้น

Comments

comments

Powered by Facebook Comments

ติดต่อ ดร.อนุศร หงษ์ขุนทด
error: Content is protected !!