Digital Learning Classroom
ความรู้ทั่วไปหลักสูตรฐานสมรรถนะ

การศึกษาฐานสมรรถนะ (Competency Based Education: CBE)

แชร์เรื่องนี้

การศึกษาฐานสมรรถนะ (Competency Based Education: CBE) โดย ดร.วัฒนาพร ระงับทุกข์

เป็นกระบวนการสร้างสมรรถนะ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถพร้อมรับและเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆได้อย่างเหมาะสม ตอบโจทย์ความต้องการของประเทศ และพัฒนาตนเองได้อย่างเต็มศักยภาพ ตามความสนใจ และความถนัดของตน

องค์ประกอบสำคัญการศึกษาฐานสมรรถนะ (Competency Based Education : CBE)

  • หลักสูตรฐานสมรรถนะ (Competency Based Curriculum : CBC)
  • การจัดการเรียนรู้ฐานสมรรถนะ (Competency Based Instruction : CBI)
  • การวัดและประเมินผลฐานสมรรถนะ (Competency Based Assessment : CBA)

หลักสูตรฐานสมรรถนะ (Competency Based Curriculum : CBC)

  • Action Oriented มีสมรรถนะเป็นเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียน เป็นหลักสูตรฐานปฏิบัติ เสริมสร้างสมรรถนะให้ผู้เรียนตามช่วงวัย โดยมีการวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
  • Learner Centric ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ตามความสนใจ ความถนัด และก้าวหน้าไปตามความสามารถ รวมทั้งพัฒนาตนเองสู่ความเชี่ยวชาญได้
  • Related to Real Life มีความเชื่อมโยงกับชีวิตจริงของผู้เรียน มีความหมายต่อผู้เรียน เพราะสามารถนาไปใช้ในชีวิตจริงได้
  • Contextualized ให้ความสาคัญกับบริบทแวดล้อมที่แตกต่างกันของผู้เรียน ซึ่งส่งผลต่อพฤติกรรมและการเรียนรู้ของผู้เรียน
  • Multidisciplinary ส่งเสริมการบูรณาการความรู้ข้ามศาสตร์ ช่วยให้ผู้เรียนสามารถใช้ความรู้ให้เป็นประโยชน์ได้มากขึ้น
  • Adaptive ยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของผู้เรียน ครู สังคม และโลก

การจัดการเรียนรู้ฐานสมรรถนะ

  • Competency Based กำหนดสมรรถนะและผลลัพธ์การเรียนรู้เป็นเป้าหมาย มุ่งเน้นการพัฒนาความสามารถการประยุกต์ใช้ความรู้ ทักษะ เจตคติ ค่านิยมในการปฏิบัติงาน แก้ปัญหา และใช้ชีวิต
  • Active Learning  จัดการเรียนรู้เชิงรุก ตอบสนองความแตกต่างของผู้เรียน เน้นการปฏิบัติ เอื้อให้เกิดการเรียนรู้และการฝึกฝนแก้ปัญหา นำไปสู่สมรรถนะ
  • Self directed Learning เสริมสร้างคุณลักษณะ สร้างแรงจูงใจ และแรงบันดาลใจ กระตุ้นความสนใจใฝ่รู้ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถกำกับการเรียนรู้ของตนเองได้ ตามความถนัดและความสามารถของตน
  • Assessment as Learning ให้ผู้เรียนได้ประเมินการเรียนรู้ของตนเองระหว่างเรียน เพื่อปรับปรุงวิธีเรียนรู้และผลการเรียนรู้ของตน
  • Integration เชื่อมโยงกับชีวิตจริง ใช้ประโยชน์ในสถานการณ์ต่าง ๆ ในชีวิต ส่งเสริมการใช้ความรู้ข้ามศาสร์ อย่างบูรณาการ
  • Feedback ให้ข้อมูลป้อนกลับแก่ผู้เรียน เพื่อการปรับปรุงพัฒนาและให้ความช่วยเหลือตามความต้องการของผู้เรียน

การวัดประเมินผลฐานสมรรถนะ

  • Formative Assessment  การประเมินเพื่อพัฒนา เป็นกิจกรรมในกระบวนการเรียนการสอน สามารถประเมินตนเองระหว่างเรียน เพื่อปรับปรุงวิธีการเรียนรู้ และพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนให้ดีขึ้น(Assessment for Learning)
  • Assessment of Learning การประเมินผลการเรียนรู้ ใช้วิธีวัดจากพฤติกรรม การกระทำ การปฏิบัติของผู้เรียนในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่แสดงถึงความสามารถในการประยุกต์ใช้ K S A ตามเกณฑ์ โดยประเมินแบบไม่อิงกลุ่ม
  • ใช้สถานการณ์เป็นฐาน ใช้สถานการณ์เป็นฐาน เพื่อให้บริบทการประเมินเป็นไปตามสภาพจริง หรือใกล้เคียงสภาพจริงมากที่สุด
  • ประเมินเมื่อพร้อม ผู้เรียนจะได้รับการประเมินเมื่อพร้อม หากไม่ผ่านการประเมินตามเกณฑ์ ต้องได้รับการสอนซ่อมเสริม หรือได้รับความช่วยเหลือที่เหมาะสมกับบริบทของผู้เรียน เพื่อให้ผ่านตามเกณฑ์ และสามารถก้าวสู่การเรียนรู้ในระดับที่สูงขึ้น
  • Authentic Assessment ประเมินเพื่อพัฒนาใช้วิธีการประเมินตามสภาพจริงจากสิ่งที่ผู้เรียนปฏิบัติได้จริง เช่น แฟ้มสะสมผลงาน ชิ้นงาน การปฏิบัติ รวมถึงการประเมินตนเอง และการประเมินโดยเพื่อน
  • Summative Assessment ประเมินตัดสินผล มุ่งวัดสมรรถนะองค์รวมที่แสดงถึงความสามารถในการประยุกต์ใช้ K nowledge S kill A ttitude and V alues
    ในการปฏิบัติงานในสถานการณ์ต่าง ๆ
  • การรายงานผล  การให้ข้อมูลพัฒนาการของผู้เรียนในด้านต่าง ๆ ที่ช่วยให้ผู้ปกครองและผู้เกี่ยวข้องได้ข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนรู้ และพัฒนาการของผู้เรียนตามความเป็นจริงอย่างรอบด้าน ตามความเหมาะสมกับหลักสูตรสถานศึกษา

แนวทางการจัดการเรียนรู้และการประเมินการเรียนรู้ฐานสมรรถนะ

  • การจัดการเรียนรู้ยึดผลลัพธ์การเรียนรู้เชิงสมรรถนะเป็นเป้าหมายการเรียนรู้ (Objective)
  • การออกแบบการเรียนรู้ (Learning)
  • การประเมินผลการเรียนรู้ (Evaluation)

แนวทางการจัดการเรียนรู้และการประเมินการเรียนรู้

การจัดการเรียนรู้

ผู้เรียนทุกคนสามารถประสบความสาเร็จได้ตามความถนัดความชอบ และศักยภาพในรูปแบบของตนเอง การจัดการเรียนรู้จึงต้องสนับสนุนให้ผู้เรียนเป็นเจ้าของการเรียนรู้ที่เอื้อให้ ผู้เรียนค้นหาตัวเอง เพื่อ…

    • เลือกเส้นทางการเรียนรู้(Learning Pathways)
    • ตอบสนองความแตกต่างของผู้เรียน (Different Instruction)
    • มีความยืดหยุ่นเพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ของผู้เรียนเป็นรายบุคคล (Individual Support)
    • คำนึงถึงจังหวะในการเรียนรู้ของผู้เรียน (Self-Pacing)
    • สอดคล้องกับบริบทของผู้เรียน ชุมชนแวดล้อม และจุดเน้นของสถานศึกษา

การวัดและประเมินการเรียนรู้

เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเรียนรู้ การออกแบบการเรียนรู้ ต้องผสานกันไปกับการประเมิน โดยมีการวิเคราะห์ผู้เรียนรายบุคคลว่ามีความสามารถ ความสนใจสิ่งใด เพื่อนำไปสู่
การออกแบบการเรียนรู้ที่สอดคล้องและเหมาะสมกับการพัฒนาสมรรถนะของผู้เรียนแต่ละบุคคล

ผู้เรียนจะได้รับข้อมูลป้อนกลับจากการประเมินตนเอง และผู้อื่นประเมิน ทั้งในขณะที่ปฏิบัติกิจกรรม และหลังจากการปฏิบัติกิจกรรม นำไปสู่การปรับปรุง และพัฒนาการเรียนรู้ของตน

รวมทั้งได้รับการสนับสนุนช่วยเหลือที่สอดคล้องกับความต้องการบนเส้นทาง การเรียนรู้ของตนเองในระยะเวลาที่แตกต่างกัน ตามความจาเป็นของแต่ละคน เพื่อเอื้อให้ผู้เรียนได้พัฒนาสมรรถนะเต็มตามศักยภาพสู่ระดับความสามารถที่สูงขึ้น

 

แนวทางการจัดการเรียนรู้และการประเมินการเรียนรู้

การตัดสินผลการเรียน

ส่วนที่ 1 ตัดสินผลการเรียนตามผลลัพธ์การเรียนรู้โดยกำหนดเป็นระดับผลการเรียนซึ่งสะท้อนถึงความก้าวหน้าในการเรียนรู้ของผู้เรียน เช่น กำหนดเป็นระบบสัญลักษณ์ ระบบตัวอักษร หรือคำสำคัญอื่นที่สถานศึกษากำหนด ซึ่งพิจารณาจากข้อมูล หรือหลักฐานที่เป็นผลจากการเรียนรู้

ส่วนที่ 2 ตัดสินผลการพัฒนาสมรรถนะหลักของผู้เรียน ตามระดับความสามารถที่ส่วนกลาง กำหนด (ระดับต้น กำลังพัฒนา สามารถ และเหนือความคาดหวัง) ซึ่งพิจารณาจากข้อมูล หรือหลักฐานที่เป็นผลจากการเรียนรู้ กรณีที่สถานศึกษากำหนดสมรรถนะเพิ่มเติมให้สถานศึกษากำหนดเกณฑ์ระดับความสามารถให้สอดคล้องกับแนวทางที่ส่วนกลางกำ หนดด้วย

ที่มา : เอกสารประกอบการบรรยาย การขับเคลื่อนการนิเทศ เพื่อพัฒนา หลักสูตรและการเรียนรู้ฐานสมรรถนะ 27 ธ.ค. 2564

Comments

comments

Powered by Facebook Comments

ติดต่อ ดร.อนุศร หงษ์ขุนทด
error: Content is protected !!