Digital Learning Classroom
บทความวิทยฐานะเชี่ยวชาญวิทยะฐานะ

การประยุกต์ใช้หลักการ Manifestation เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมและผลงานทางวิชาการสู่การมีหรือเลื่อนวิทยฐานะเชี่ยวชาญ

แชร์เรื่องนี้

การประยุกต์ใช้หลักการ Manifestation เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมและผลงานทางวิชาการสู่การมีหรือเลื่อนวิทยฐานะเชี่ยวชาญ

ดร.อนุศร หงษ์ขุนทด
ศึกษานิเทศก์ วิทยฐานะศึกษานิเทศก์เชี่ยวชาญ
สพม.นครราชสีมา

____________________________________________________

บทนำ: พลังแห่งการดลบันดาลสู่ความก้าวหน้าในวิชาชีพ

การขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะเชี่ยวชาญสำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งครู ศึกษานิเทศก์ หรือผู้อำนวยการสถานศึกษา ถือเป็นเส้นทางการเดินทางที่ต้องใช้ทั้งความรู้ความสามารถทางวิชาการและพลังใจที่เข้มแข็ง รายงานฉบับนี้มีเป้าหมายเพื่อผสานสองมิติเข้าด้วยกันอย่างลุ่มลึก: แนวคิด “พลังจิตดลบันดาล” หรือ Manifestation ที่เน้นการสร้างกรอบความคิดเชิงบวก และกระบวนการทางวิชาการที่เข้มงวดของสำนักงาน ก.ค.ศ. โดยรายงานนี้จะทำหน้าที่เป็นคู่มือเชิงกลยุทธ์ที่แสดงให้เห็นว่าการสร้างผลงานวิชาการเชิงรุกนั้นสามารถขับเคลื่อนได้ด้วยพลังงานภายในที่สอดคล้องกับหลักการ Manifestation ที่แท้จริง

หนังสือ Manifest: 7 ขั้นตอนสู่ทุกสิ่งที่ปรารถนา โดย Roxie Nafousi ได้นำเสนอปรัชญาการพัฒนาตนเองที่เป็นการผสมผสานระหว่างวิทยาศาสตร์และภูมิปัญญา เพื่อช่วยให้บุคคลบรรลุเป้าหมายที่ต้องการ 1 โดยมีแก่นแท้คือการสร้างความเชื่อมั่นในคุณค่าของตนเอง (Self-worth) ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการดึงดูดความสำเร็จ 3 การนำหลักการนี้มาใช้ในบริบทของการจัดทำผลงานเพื่อขอวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จึงไม่ใช่เรื่องของการรอคอยปาฏิหาริย์ แต่เป็นการใช้พลังจิตและพลังงานแห่งการลงมือทำอย่างเป็นระบบเพื่อสร้างความก้าวหน้าในวิชาชีพอย่างแท้จริง

ส่วนที่ 1: การวางรากฐานทางความคิดสู่ความเชี่ยวชาญ

กระบวนการขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะเชี่ยวชาญเป็นเส้นทางที่ต้องใช้ระยะเวลาและความมุ่งมั่นสูง ผู้ขอเลื่อนเป็นวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญจะต้องมีคุณสมบัติดำรงตำแหน่งมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี 4 และต้องผ่านการประเมิน 3 ด้านตามระบบ DPA (Digital Performance Appraisal) 5 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านผลงานทางวิชาการซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่กำหนดชะตาความสำเร็จ การประเมินในด้านที่ 3 นี้กำหนดให้ผู้ขอต้องได้คะแนนจากกรรมการแต่ละคนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 75 สำหรับวิทยฐานะเชี่ยวชาญ 5 และไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 สำหรับวิทยฐานะเชี่ยวชาญพิเศษ 5

ด้วยเกณฑ์การประเมินที่เข้มงวดและมีความกดดันสูงเช่นนี้ การมีรากฐานทางจิตใจที่แข็งแกร่งจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง แนวคิดของ Manifestation จึงเป็นเครื่องมือเชิงจิตวิทยาที่สำคัญอย่างยิ่งในการนำทางไปสู่ความสำเร็จ หลักการที่ว่า “เราดึงดูดสิ่งที่เรารู้สึก” นั้นชี้ให้เห็นว่าอารมณ์ที่มีพลังงานต่ำ เช่น ความกลัว ความสงสัย หรือความคับข้องใจ สามารถปิดกั้นเราจากเป้าหมายได้ 3 การฝึกฝนพลังจิตดลบันดาลจึงไม่ใช่การแทนที่ความพยายามทางวิชาการ แต่เป็นการสร้างกรอบความคิดที่ยืดหยุ่นและเปี่ยมไปด้วยพลังงานเชิงบวก เพื่อรับมือกับความท้าทายและความล้มเหลวที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างกระบวนการที่กินระยะเวลานานหลายปี ซึ่งจะช่วยให้ผู้ปฏิบัติสามารถฟื้นตัวและก้าวต่อไปข้างหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 3

ส่วนที่ 2: เส้นทางสู่การมีและเลื่อนวิทยฐานะเชี่ยวชาญ

แก่นสำคัญของการทำผลงานทางวิชาการเพื่อขอวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ไม่ใช่เพียงแค่การนำผลงานไปใช้งาน แต่เป็นการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ (Innovation) หรือการปรับปรุง (Modification) ที่แสดงถึงความเชี่ยวชาญอย่างแท้จริง ซึ่งสะท้อนผ่านแนวคิด “คิดค้นและปรับเปลี่ยน” 8 กระบวนการนี้กำหนดให้ผู้ขอต้องใช้ระเบียบวิธีวิจัยและพัฒนา (Research and Development: R&D) มาเป็นเครื่องมือในการพัฒนานวัตกรรม 9 ซึ่งเป็นกระบวนการที่เป็นรูปธรรมและสอดคล้องกับหลักการ Manifestation อย่างน่าอัศจรรย์

กระบวนการ R&D ตามหลักการที่กำหนดประกอบด้วยหลายขั้นตอนที่ชัดเจน ตั้งแต่การรับรู้และระบุสภาพปัญหาที่พบในชั้นเรียนหรือสถานศึกษา 10 การกำหนดวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน 10 การประดิษฐ์หรือสร้างสรรค์นวัตกรรม 11 การสร้างต้นแบบและทดลองใช้กับกลุ่มเป้าหมายจริง 12 การแก้ไขจุดบกพร่อง 11 และการเผยแพร่ให้เป็นที่รู้จัก 11 ขั้นตอนเหล่านี้เป็นเสมือนแผนที่นำทางที่แปลง “ความฝัน” ให้กลายเป็นกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถลงมือทำได้อย่างเป็นขั้นตอน ซึ่งตอกย้ำว่า Manifestation ไม่ใช่การอยู่เฉยๆ แต่เป็นการลงมือปฏิบัติอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ 3

ตารางที่ 1: ตารางเปรียบเทียบเกณฑ์และคุณสมบัติสำหรับแต่ละตำแหน่ง

ตำแหน่ง (Position)หลักเกณฑ์ (Criteria)คุณสมบัติเบื้องต้น (Basic Qualifications)หัวใจหลักของผลงานวิชาการ (Core of Academic Work)
ครู (Teacher)ว15/2566, ว9/2564ดำรงตำแหน่งครูชำนาญการพิเศษไม่น้อยกว่า 5 ปี 4มุ่งเน้นการคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อแก้ปัญหาของผู้เรียน 9
ศึกษานิเทศก์ (Educational Supervisor)ว11/2564ดำรงตำแหน่งศึกษานิเทศก์ไม่น้อยกว่า 4 ปี หรือ 3 ปีตามเงื่อนไขที่กำหนด 13มุ่งเน้นการสร้างนวัตกรรมการนิเทศการศึกษาที่ส่งผลต่อการพัฒนาครู ผู้เรียน และสถานศึกษา 6
ผู้อำนวยการสถานศึกษา (School Director)ว10/2564, ว17/2552ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษไม่น้อยกว่า 4 ปี 7มุ่งเน้นนวัตกรรมการบริหารสถานศึกษาที่แสดงให้เห็นถึงการสร้างการเปลี่ยนแปลงในองค์กร 7

ส่วนที่ 3: 10 แนวทาง Manifest เพื่อสร้างผลงานวิชาการเชิงรุก

รายงานนี้ได้ผนวกแนวคิดการ Manifestation ทั้ง 10 ข้อที่ผู้ใช้ได้ระบุไว้เข้ากับขั้นตอนเชิงปฏิบัติในการขอวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ดังนี้

1. กล้าที่จะฝัน อย่ากลัวการตั้งเป้าหมายใหญ่

การเริ่มต้นเส้นทางวิชาชีพสู่ความเชี่ยวชาญคือการอนุญาตให้ตนเองมีวิสัยทัศน์ที่ยิ่งใหญ่ 3 การกระทำที่สอดคล้องกับหลักการนี้คือการเริ่มต้นจากการระดมสมองเพื่อระบุปัญหาหรือความท้าทายในสายงานที่สำคัญและควรค่าแก่การแก้ไข ไม่ใช่เพียงแค่ปัญหาที่ง่ายที่สุด แต่คือปัญหาที่ส่งผลกระทบในวงกว้างและสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการสร้างการเปลี่ยนแปลง

2.  ออกแบบฝันให้เจาะจงและชัดเจนมากที่สุด

เมื่อความฝันได้ถูกกำหนดขึ้นอย่างกล้าหาญแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการแปลงความฝันนั้นให้เป็นเป้าหมายที่วัดผลได้ 14 ในทางวิชาการ การกระทำนี้คือการกำหนดขอบเขตของปัญหาที่ชัดเจน และการกำหนดวัตถุประสงค์ของงานวิจัยอย่างเป็นรูปธรรม เช่น “เพื่อพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน…” หรือ “เพื่อศึกษาผลการใช้นวัตกรรมที่มีต่อทักษะ…” 9 การมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยกำหนดทิศทางการทำงานให้แม่นยำยิ่งขึ้น

3. นึกถึงตัวตนที่เราอยากจะเป็น ไม่ใช่ “ควรจะเป็น”

วิทยฐานะเชี่ยวชาญไม่ใช่เพียงแค่ตำแหน่ง แต่คือการได้รับการยอมรับในฐานะผู้เชี่ยวชาญ 8 การประยุกต์ใช้หลักการนี้คือการเริ่มพัฒนาตนเองราวกับว่าเราเป็นผู้เชี่ยวชาญแล้วตั้งแต่ตอนนี้ ซึ่งรวมถึงการทบทวนวรรณกรรมอย่างมีวิจารณญาณเพื่อแสดงความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้อง 10 และการพัฒนาสมรรถนะที่จำเป็นในตำแหน่ง เช่น การวิจัยสำหรับผู้อำนวยการ 15 หรือการบริหารจัดการ 16

4. สร้าง Vision Board ประกาศให้จักรวาลรับรู้

ในบริบทของงานวิชาการ การสร้าง Vision Board คือการจัดทำแผนงาน (Plan) และไทม์ไลน์ (Timeline) ของโครงการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมอย่างละเอียด 3 โดยใช้กระบวนการ R&D 6 ขั้นตอนเป็นแกนนำทาง ตั้งแต่การระบุปัญหา การสร้างนวัตกรรม การทดลองใช้ การแก้ไขจุดบกพร่อง และการเผยแพร่ 11 แผนงานที่ชัดเจนนี้จะทำหน้าที่เป็นแผนที่นำทางที่ช่วยให้ผู้ปฏิบัติมองเห็นภาพรวมของกระบวนการทั้งหมดและสามารถติดตามความคืบหน้าได้อย่างเป็นระบบ

5. เชื่อจากใจจริงว่าเราคู่ควรกับเป้าหมายนั้น

แก่นแท้ของ Manifestation คือการสร้างความเชื่อมั่นในคุณค่าของตนเอง 3 ซึ่งในทางวิชาการ ความน่าเชื่อถือของผลงาน (Credibility) คือการพิสูจน์คุณค่าที่สำคัญที่สุด กระบวนการที่สอดคล้องกับหลักการนี้มากที่สุดคือ “การรับรองจากผู้เชี่ยวชาญ” (Expert Validation) 9 การนำผลงานไปให้ผู้เชี่ยวชาญภายนอกตรวจสอบและรับรองเป็นกระบวนการที่ยืนยันว่าความเชื่อมั่นภายในของเรานั้นถูกต้องและมีหลักฐานทางวิชาการรองรับ ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจที่แข็งแกร่งและลดความกังวลในระหว่างกระบวนการ

6. ขจัดความกลัวและความเชื่อที่บั่นทอนออกไป

Manifestation สอนให้เรากำจัดความเชื่อที่จำกัดศักยภาพของตนเอง เช่น “ฉันทำไม่ได้” 14 ในเส้นทางวิชาการ อุปสรรคที่พบบ่อยได้แก่ ความท้าทายในการเขียนรายงานวิจัยที่น่าสนใจ 10 การรวบรวมข้อมูลที่ซับซ้อน หรือการจัดการเวลาในการทำงาน การจัดการกับความท้าทายเหล่านี้ด้วยทัศนคติที่ว่าอุปสรรคเป็นเพียงส่วนหนึ่งของกระบวนการ จะช่วยให้ผู้ปฏิบัติสามารถก้าวข้ามความกลัวและดำเนินงานต่อไปได้อย่างไม่หยุดยั้ง

7. อย่าหล่อเลี้ยงสมองด้วยความคิดเชิงลบ

การรักษาพลังงานเชิงบวก (High Vibrational Frequency) เป็นสิ่งสำคัญในการดึงดูดความสำเร็จ 3 ผู้ปฏิบัติสามารถฝึกการมีทัศนคติเชิงบวกและแสดงความรู้สึกขอบคุณในชีวิตประจำวัน รวมถึงในกระบวนการทำงานวิชาการ เช่น การขอบคุณเพื่อนร่วมงานที่ให้ความช่วยเหลือ ขอบคุณนักเรียนที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง หรือขอบคุณโอกาสในการพัฒนาตนเอง สิ่งนี้จะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมทางความคิดที่เอื้อต่อการสร้างสรรค์และนวัตกรรม

8. พูดถึงสิ่งที่ต้องการ ไม่ใช่สิ่งที่ไม่ต้องการ

การสื่อสารที่ถูกต้องเป็นการสร้างความเป็นจริง 14 ในกระบวนการขอวิทยฐานะ การเผยแพร่ผลงานวิชาการ (Dissemination) เป็นขั้นตอนที่สำคัญและบังคับใช้ในหลายเกณฑ์ 7 ซึ่งเป็นการประกาศ “สิ่งที่ต้องการ” หรือ “สิ่งที่ได้สร้างสรรค์ขึ้น” ออกสู่สาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอในที่ประชุมวิชาการ การตีพิมพ์ในวารสาร หรือการเผยแพร่ผ่านช่องทางออนไลน์ 7 การกระทำนี้ไม่เพียงแต่ตอบสนองเกณฑ์การประเมิน แต่ยังช่วยเปลี่ยน “ความอิจฉา” (Envy) ให้กลายเป็น “แรงบันดาลใจ” (Inspiration) ให้กับผู้อื่นในวงวิชาชีพได้อีกด้วย 3

9.  ใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับเป้าหมายที่ต้องการ

Manifestation เน้นย้ำความสำคัญของการลงมือทำ (Taking Action) และการจัดระเบียบชีวิตให้สอดคล้องกับเป้าหมาย 3 การทำผลงานทางวิชาการที่ดีที่สุดคือการบูรณาการเข้ากับการปฏิบัติหน้าที่ประจำวัน (Performance Agreement: PA) 4 ตัวอย่างเช่น การพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้จะถูกนำไปใช้ในห้องเรียนจริง 10 หรือการวิจัยการบริหารของผู้อำนวยการก็คือการทำงานจริงเพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา 7 การทำให้ความฝันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันคือกุญแจสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน

10. ไม่ยอมแพ้เมื่อเจอกับความล้มเหลว

Roxie Nafousi ระบุว่า “การทดสอบจากจักรวาล” 14 หรืออุปสรรคที่คาดไม่ถึงนั้นเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต 3 หากผลงานไม่ผ่านการประเมินหรือได้รับคำแนะนำให้ปรับปรุง ผู้ปฏิบัติควรเปลี่ยนมุมมองว่านี่ไม่ใช่ความล้มเหลว แต่คือโอกาสในการพัฒนาตนเอง 3 การใช้คำแนะนำจากกรรมการประเมินเพื่อปรับปรุงและยื่นขออีกครั้ง แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความยืดหยุ่นทางจิตใจ (Resilience) ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญของผู้เชี่ยวชาญอย่างแท้จริง

ตารางที่ 2: การเชื่อมโยงแนวทาง Manifestation กับขั้นตอนเชิงปฏิบัติในกระบวนการขอวิทยฐานะ

แนวทาง Manifest (Manifest Principle)การเชื่อมโยงเชิงปฏิบัติ (Practical Application)ประโยชน์ที่ได้รับ (Benefit Gained)อ้างอิงหลักเกณฑ์ (Regulation Reference)
กล้าที่จะฝันการระบุปัญหาที่ใหญ่และท้าทายในสายงานเพื่อทำวิจัยสร้างวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน, จุดประกายแรงบันดาลใจ10
ออกแบบฝันให้เจาะจงการกำหนดวัตถุประสงค์และขอบเขตงานวิจัยอย่างเป็นรูปธรรมสร้างแผนงานที่วัดผลได้, ชี้เป้าหมายที่แม่นยำ10
นึกถึงตัวตนที่เราอยากเป็นการทบทวนวรรณกรรมและการพัฒนาสมรรถนะที่จำเป็นสร้างความเชี่ยวชาญในองค์ความรู้, สร้างตัวตนผู้เชี่ยวชาญ3
สร้าง Vision Boardการจัดทำไทม์ไลน์กระบวนการ R&D ตั้งแต่ต้นจนจบมีแผนที่นำทางที่ชัดเจน, จัดการเวลาและทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ3
เชื่อจากใจจริงการนำผลงานไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ (Expert Validation)ยืนยันความน่าเชื่อถือในเชิงคุณภาพ, สร้างความมั่นใจภายในที่แข็งแกร่ง3
ขจัดความกลัวการบริหารจัดการความท้าทายในการเขียนรายงานและการรวบรวมข้อมูลสร้างความยืดหยุ่นทางจิตใจ, มองอุปสรรคเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ3
อย่าหล่อเลี้ยงสมองด้วยความคิดเชิงลบการฝึกการมีทัศนคติเชิงบวกและขอบคุณผู้อื่นที่ช่วยเหลือสร้างพลังงานเชิงบวก, ลดความเครียดและความกดดัน3
พูดถึงสิ่งที่ต้องการการเผยแพร่ผลงานวิชาการผ่านช่องทางต่างๆประกาศผลงานให้เป็นที่รับรู้, สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นในวงวิชาชีพ7
ใช้ชีวิตให้สอดคล้องการบูรณาการงานวิชาการเข้ากับการปฏิบัติหน้าที่ประจำวัน (PA)ทำให้ความฝันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต, เห็นผลลัพธ์ที่จับต้องได้ในงานจริง3
ไม่ยอมแพ้การมองความล้มเหลวเป็นโอกาสในการปรับปรุงและยื่นขอใหม่สร้างความยืดหยุ่นและความมุ่งมั่น, พัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง3

ส่วนที่ 4: ตัวอย่างและกรณีศึกษาตามตำแหน่ง

รายงานนี้ได้รวบรวมตัวอย่างของนวัตกรรมและผลงานวิชาการที่แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของขอบเขตงานในแต่ละตำแหน่ง ซึ่งสามารถนำมาใช้เป็นแรงบันดาลใจในการตั้งเป้าหมายได้

  • ตัวอย่างสำหรับครู ผลงานของครูเชี่ยวชาญมุ่งเน้นไปที่การสร้างสรรค์นวัตกรรมการจัดการเรียนรู้เพื่อแก้ไขปัญหาของผู้เรียนโดยตรง 9 ตัวอย่างหัวข้อที่พบได้แก่ “การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน ร่วมกับทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ และเขียนภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3” 17 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญในการสร้าง “โมเดล” ของตนเองที่ไม่ซ้ำใคร 9
  • ตัวอย่างสำหรับศึกษานิเทศก์ ผลงานของศึกษานิเทศก์มุ่งเน้นไปที่การพัฒนากระบวนการนิเทศการศึกษาเพื่อยกระดับคุณภาพของครูและสถานศึกษา 6 ตัวอย่างที่น่าสนใจคือ “นวัตกรรมการนิเทศการศึกษาโดยใช้เทคนิคการเป็นพี่เลี้ยงให้คำปรึกษา ผ่านชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพดิจิทัลเพื่อพัฒนาทักษะการจัดการเรียนรู้ของครู” 18 ซึ่งผลงานดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงการสร้างระบบนิเทศที่ส่งผลต่อการพัฒนาครู ผู้เรียน และคุณภาพของหน่วยงานการศึกษา 6
  • ตัวอย่างสำหรับผู้อำนวยการสถานศึกษา ผลงานของผู้อำนวยการสถานศึกษามุ่งเน้นที่นวัตกรรมการบริหารที่แสดงถึงการสร้างการเปลี่ยนแปลงในสถานศึกษา 7 และการใช้ความรู้ด้านการวิจัยมาพัฒนาและบริหารโรงเรียนให้มีคุณภาพ 15 ตัวอย่างหัวข้อที่พบได้แก่ “การวิจัยสมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษาวิทยฐานะเชี่ยวชาญ” 16 หรือผลงานที่เกี่ยวกับการนำเสนอ “แบบจำลองการพัฒนาภาวะผู้นำของผู้บริหารโรงเรียน” 16

ตารางที่ 3: ตัวอย่างหัวข้อ/ชื่อผลงานนวัตกรรมสำหรับแต่ละตำแหน่ง

ตำแหน่ง (Position)ขอบเขตของนวัตกรรม (Scope of Innovation)ตัวอย่างหัวข้อผลงาน (Example of a Project Title)
ครูการจัดการเรียนรู้และพัฒนาผู้เรียนการพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานร่วมกับเทคโนโลยี AR. 10
ศึกษานิเทศก์การนิเทศการศึกษาเพื่อพัฒนาครูนวัตกรรมการนิเทศการศึกษาโดยใช้เทคนิคการเป็นพี่เลี้ยงให้คำปรึกษาผ่านชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพดิจิทัล 18
ผู้อำนวยการสถานศึกษาการบริหารสถานศึกษาเชิงกลยุทธ์การวิจัยเรื่องสมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษาวิทยฐานะเชี่ยวชาญ 16

บทสรุป: สร้างสรรค์อนาคตด้วยความเชื่อและการลงมือทำ

โดยสรุปแล้ว หลักการ Manifestation ไม่ใช่ความเชื่อที่เลื่อนลอยหรือปาฏิหาริย์ที่ไร้แก่นสาร แต่เป็นกรอบความคิดที่เน้นการสร้างคุณค่าในตนเอง การรักษาพลังงานเชิงบวก และการลงมือปฏิบัติอย่างเป็นระบบเพื่อแปลงความฝันให้เป็นจริง รายงานฉบับนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงที่ลุ่มลึกระหว่างปรัชญาการดลบันดาลกับกระบวนการทางวิชาการที่เข้มงวดในการขอวิทยฐานะเชี่ยวชาญ

การมองเส้นทางนี้เป็นโอกาสในการพัฒนาตนเองอย่างรอบด้าน ทั้งด้านทักษะทางวิชาการและด้านจิตใจ จะช่วยให้ผู้ปฏิบัติสามารถเผชิญหน้ากับความท้าทายได้อย่างมั่นคง และสามารถก้าวสู่การเป็น “ผู้เชี่ยวชาญ” ที่ไม่เพียงแต่มีความรู้ความสามารถโดดเด่นเท่านั้น แต่ยังเปี่ยมไปด้วยความยืดหยุ่นทางอารมณ์และความมุ่งมั่นที่แท้จริง ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่จำเป็นอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนคุณภาพการศึกษาให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน

ผลงานที่อ้างอิง

  1. Manifest: 7 ขั้นตอนสู่ทุกสิ่งที่ปรารถนาE-Books | ร้านหนังสือนายอินทร์, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 21, 2025 https://www.naiin.com/product/detail/588321
  2. Manifest: 7 Steps to Living Your Best Life | Roxie Nafousi – Brave + Kind Bookshop, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 21, 2025 https://www.braveandkindbooks.com/products/manifest-7-steps-to-living-your-best-life-roxie-nafousi
  3. How manifesting can help you live your best life in 2025, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 21, 2025 https://www.harpersbazaar.com/uk/wellness/a38757419/manifesting/
  4. www.pyo1.go.th, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 21, 2025 https://www.pyo1.go.th/personnel/wp-content/uploads/2021/03/หลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา-ตำแหน่งครู-มีวิทยฐานะว-21.pdf
  5. หมวด 4 หลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา …, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 21, 2025 https://krukob.com/web/v9/
  6. แนวทางการขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ ตำแหน่งศึกษานิเทศก์ …, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 21, 2025 https://krukob.com/web/v11-2564/
  7. แนวทางการยื่นขอมี หรือเลื่อนวิทยฐานะ ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา …, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 21, 2025 https://krukob.com/web/v10-2564/
  8. วิจัยและนวัตกรรมด้านการจัดการเรียนรู้ สู่ครูเชี่ยวชาญตามเกณฑ์ วPA – YouTube, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 21, 2025 https://www.youtube.com/watch?v=4R2Yjbsayas
  9. ผลงาน ครู คศ.4 – Trick2Pass, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 21, 2025 https://trick2pass.com/teacher_ks4/
  10. เทคนิคการเขียนรายงานการวิจัยเพื่อการพัฒนาและสร้างนวัตกรรม ในระดับเชี่ยวชาญ », เข้าถึงเมื่อ กันยายน 21, 2025 https://krukob.com/web/dpa-59/
  11. การพัฒนานวัตกรรมกระบวนการ การนํานโยบายสู่การปฏิบัติ, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 21, 2025 http://backoffice.onec.go.th/uploads/Book/2100-file.pdf
  12. แนวทางการพัฒนานวัตกรรมของโรงเรียน – Starfishlabz, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 21, 2025  https://www.starfishlabz.com/blog/612-แนวทางการพัฒนานวัตกรรมของโรงเรียน
  13. แนวทางการดำเนินการ, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 21, 2025 https://www.phangngaedarea.go.th/site/wp-content/uploads/ita/66/O25/4/%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87PA.pdf
  14. How To Manifest: 7 Simple Steps – YouTube, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 21, 2025 https://www.youtube.com/shorts/4auQp2wfw9U
  15. ความก้าวหน้าในเส้นทางการพัฒนาวิทยฐานะวิชาชีพของครูและผู้บริหารสถานศึกษากับ – มหาวิทยาลัยนเรศวร, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 21, 2025 https://nuir.lib.nu.ac.th/dspace/bitstream/123456789/6220/3/PiyapatJirapunyachoti.pdf
  16. การพัฒนาสมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษาวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ของกระทรวงศึกษาธิการ The Development of a Competencies – ThaiJo, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 21, 2025 https://so06.tci-thaijo.org/index.php/jsrc/article/download/256173/177384/1025990
  17. เผยแพร่ผลงานครู วิทยฐานะเชี่ยวชาญ, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 21, 2025 http://bannongtatam.ac.th/news-detail_5710_77182
  18. นวัตกรรมการนิเทศการศึกษา, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 21, 2025 https://www.nbipeo.go.th/files/663990dd89308_นวัตกรรม_การนิเทศการศึกษา_%28ศึกษานิเทศก์%29_แบบอย่างที่ดี_ปี_2566.pdf

Comments

comments

Powered by Facebook Comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

ติดต่อ ดร.อนุศร หงษ์ขุนทด
error: Content is protected !!