Digital Learning Classroom
Active Learningการพัฒนาผู้เรียนการเรียนรู้เชิงรุกบทความ

แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุกที่ส่งเสริมพหุปัญญาอย่างมีประสิทธิภาพ

แชร์เรื่องนี้

พหุปัญญา (Multiple Intelligence)

พหุปัญญา (Multiple Intelligence) เป็นทฤษฎีที่เสนอโดย Howard Gardner นักจิตวิทยาชาวอเมริกัน ในปี 1983 ทฤษฎีนี้เสนอว่าความฉลาดของมนุษย์ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ความสามารถทางด้านภาษาและตรรกะ-คณิตศาสตร์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงความสามารถในด้านอื่นๆ ด้วย

คำนิยามของพหุปัญญา

พหุปัญญา คือ แนวคิดที่มองว่าสติปัญญาของมนุษย์มีหลากหลายรูปแบบ โดยแต่ละคนมีความสามารถที่แตกต่างกันในแต่ละด้าน ทฤษฎีนี้เสนอว่าแต่ละคนมีความฉลาดหลายประเภท ซึ่งสามารถพัฒนาและแสดงออกได้ในระดับที่แตกต่างกัน

ตามทฤษฎีของ Gardner พหุปัญญาประกอบด้วย 8 ด้านหลัก (และภายหลังได้เพิ่มเติมอีก 1 ด้าน) ได้แก่

1. ด้านภาษา (Linguistic Intelligence)
2. ด้านตรรกะ-คณิตศาสตร์ (Logical-Mathematical Intelligence)
3. ด้านมิติสัมพันธ์ (Spatial Intelligence)
4. ด้านดนตรี (Musical Intelligence)
5. ด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว (Bodily-Kinesthetic Intelligence)
6. ด้านมนุษยสัมพันธ์ (Interpersonal Intelligence)
7. ด้านการเข้าใจตนเอง (Intrapersonal Intelligence)
8. ด้านธรรมชาติวิทยา (Naturalistic Intelligence)
9. ด้านการดำรงอยู่ของชีวิต (Existential Intelligence) – เพิ่มเติมภายหลัง

ความสำคัญในการศึกษาของทฤษฎีพหุปัญญา

1. ตระหนักถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล
2. ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนอย่างรอบด้าน
3. ช่วยให้ครูออกแบบการเรียนการสอนที่หลากหลาย ตอบสนองความสามารถที่แตกต่างของผู้เรียน
4. สนับสนุนแนวคิดว่าทุกคนมีความสามารถพิเศษในด้านใดด้านหนึ่ง

โดยสรุป พหุปัญญาเป็นแนวคิดที่มองว่าความฉลาดของมนุษย์มีหลายมิติ ไม่จำกัดอยู่เพียงด้านใดด้านหนึ่ง และแต่ละคนมีศักยภาพที่จะพัฒนาปัญญาด้านต่างๆ ได้

พหุปัญญาทักษะทางการรู้คิดตัวอย่างกิจกรรมการเรียนรู้
ด้านภาษา (Linguistic)• การพูดสุนทรพจน์
• การอ่าน
• การเขียน
• การสื่อสารกับบุคคลอื่น
• ฟังเรื่องเล่า ฟังข่าว
• พูดเล่าเรื่อง พูดนำเสนอ
• อ่านบทละคร อ่านเรื่องสั้น
• เขียนข่าวสั้น เรื่องสั้น
• แต่งนิทาน เขียนบทร้อยกรอง
• ฟังนิทาน ฟังเรื่องเล่า
• เล่าเรื่อง เล่านิทาน
• กิจกรรมอื่นๆ
ที่มา: ดัดแปลงจาก วิชัย วงษ์ใหญ่ และมารุต พัฒผล : พหุปัญญาในชั้นเรียน
พหุปัญญาทักษะทางการรู้คิดตัวอย่างกิจกรรมการเรียนรู้
ด้านตรรกะ-คณิตศาสตร์ (Logical-Mathematical)• การให้เหตุผลเชิงคณิตศาสตร์
• การคิดให้เหตุผลเชิงตรรกะ
• เล่มเกมคณิตศาสตร์
• ให้เหตุผลสนับสนุนความคิด
• แสวงหาแบบรูป (Patterns)
• ออกแบบการทดลอง
• คิดคำนวณ
• ใช้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์
• เขียน Code คำสั่ง
• ออกแบบโปรแกรม
• ออกแบบขั้นตอนการทำงาน
• กิจกรรมอื่นๆ
ที่มา: ดัดแปลงจาก วิชัย วงษ์ใหญ่ และมารุต พัฒผล : พหุปัญญาในชั้นเรียน
พหุปัญญาทักษะทางการรู้คิดตัวอย่างกิจกรรมการเรียนรู้
ด้านมิติสัมพันธ์ (Spatial)• การรับรู้เชิงมิติสัมพันธ์
• การทำงานกับสิ่งที่จับต้องได้
• การทำงานด้านทัศนศิลป์
• การนำทางเชิงพื้นที่ (Spatial Navigation)
• สร้าง model หรือแบบจำลอง
• ออกแบบเส้นทาง
• ลำดับขั้นการเดินทาง
• เขียนนำเสนอความรู้ความคิดโดยใช้concept mapping,mind mapping, Venn diagrams, Timelines
• กิจกรรมอื่นๆ
ที่มา: ดัดแปลงจาก วิชัย วงษ์ใหญ่ และมารุต พัฒผล : พหุปัญญาในชั้นเรียน
พหุปัญญาทักษะทางการรู้คิดตัวอย่างกิจกรรมการเรียนรู้
ด้านดนตรี(Musical)• การรับรู้ทางดนตรี
• การตอบสนองทางดนตรี
• การสร้างผลงานทางดนตรี
• ฟังเพลง
• แต่งเพลง
• ร้องเพลง
• นำเสนอผลงานด้วยเพลง
• ออกแบบทำนอง
• เล่นดนตรี
• กิจกรรมอื่นๆ
ที่มา: ดัดแปลงจาก วิชัย วงษ์ใหญ่ และมารุต พัฒผล : พหุปัญญาในชั้นเรียน
พหุปัญญาทักษะทางการรู้คิดตัวอย่างกิจกรรมการเรียนรู้
ด้านร่างกาย(Kinesthetic)• การควบคุมร่างกาย
• การเคลื่อนไหวร่างกาย
• แสดงบทบาทสมมติ
• ออกแบบท่าทาง
• ออกแบบท่าเต้น
• แสดงท่าทาง
• เต้นประกอบดนตรี
• กิจกรรมอื่นๆ
ที่มา: ดัดแปลงจาก วิชัย วงษ์ใหญ่ และมารุต พัฒผล : พหุปัญญาในชั้นเรียน
พหุปัญญาทักษะทางการรู้คิดตัวอย่างกิจกรรมการเรียนรู้
ด้านความเข้าใจระหว่างบุคคล(Interpersonal)• การรับรู้เชิงสังคม
• การเข้าใจบุคคลอื่น
• การแสดงออกถึงภาวะผู้นำ
• ร่วมกันทำโครงงานกับเพื่อน
• จับคู่ทำกิจกรรมกับเพื่อน
• สัมภาษณ์บุคคลอื่น
• แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพื่อน
• ปรึกษาหารือกับเพื่อน
• กิจกรรมอื่นๆ
ที่มา: ดัดแปลงจาก วิชัย วงษ์ใหญ่ และมารุต พัฒผล : พหุปัญญาในชั้นเรียน
พหุปัญญาทักษะทางการรู้คิดตัวอย่างกิจกรรมการเรียนรู้
ความเข้าใจตนเอง(Intrapersonal) •การตระหนักรู้ในตนเอง
• การกำกับตนเอง•การจัดการตนเอง
• การควบคุมตนเอง
• เขียนสะท้อนคิดตนเอง
• ถอดบทเรียนตนเอง
• กำหนดเป้าหมายของตนเอง
• วางแผนการเรียนรู้ของตนเอง
• ประเมินตนเอง
• เขียน Journal writing
• กิจกรรมอื่นๆ
ที่มา: ดัดแปลงจาก วิชัย วงษ์ใหญ่ และมารุต พัฒผล : พหุปัญญาในชั้นเรียน
พหุปัญญาทักษะทางการรู้คิดตัวอย่างกิจกรรมการเรียนรู้
ด้านธรรมขาติ(Naturalist)• การทำความเข้าใจสรรพสิ่งรอบตัว
• การชื่นชมธรรมชาติ•ความไวต่อธรรมชาติ
• ดูแลสิ่งแวดล้อมของห้องเรียน
• สำรวจต้นไม้ในโรงเรียน
• สังเกตพฤติกรรมสัตว์ต่างๆ
• ฟังเสียงธรรมชาติรอบตัว
• กิจกรรมอื่นๆ
ที่มา: ดัดแปลงจาก วิชัย วงษ์ใหญ่ และมารุต พัฒผล : พหุปัญญาในชั้นเรียน
พหุปัญญาทักษะทางการรู้คิดตัวอย่างกิจกรรมการเรียนรู้
ด้านจิตนิยมหรือการดำรงอยู่ของชีวิต(Existential)• การตั้งคำถามเกี่ยวกับการดำรงอยู่ของมนุษย์• ตั้งคำถามเกี่ยวกับคุณค่าของ
• การมีชีวิตอยู่
• สะท้อนคิดคุณค่าของตนเอง
• กระตุ้นบุคคลอื่นให้เชื่อมั่นใน
• ศักยภาพของตนเอง
• กิจกรรมอื่นๆ
ที่มา: ดัดแปลงจาก วิชัย วงษ์ใหญ่ และมารุต พัฒผล : พหุปัญญาในชั้นเรียน

การจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุกที่ส่งเสริมพหุปัญญาอย่างมีประสิทธิภาพ

บทนำ

ในยุคที่การศึกษากำลังเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ การจัดการเรียนการสอนที่ตอบสนองต่อความหลากหลายของผู้เรียนเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง การบูรณาการแนวคิดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) เข้ากับทฤษฎีพหุปัญญา (Multiple Intelligences) ของ Howard Gardner นำเสนอแนวทางที่มีประสิทธิภาพในการพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนอย่างรอบด้าน บทความนี้จะนำเสนอแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุกที่ส่งเสริมพหุปัญญาให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

ความสำคัญของการเรียนรู้เชิงรุกและพหุปัญญา

การเรียนรู้เชิงรุกเป็นแนวคิดที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้อย่างกระตือรือร้น ไม่ใช่เพียงแค่รับฟังข้อมูลอย่างเดียว ในขณะที่ทฤษฎีพหุปัญญาเสนอว่า มนุษย์มีความฉลาดหลากหลายรูปแบบ ไม่ใช่เพียงแค่ด้านภาษาและตรรกะ-คณิตศาสตร์เท่านั้น การผสมผสานแนวคิดทั้งสองนี้จะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่เอื้อต่อการพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนทุกคน

แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุกที่ส่งเสริมพหุปัญญา

1. การเข้าใจผู้เรียนเป็นรายบุคคล หมายถึง การประเมินความสามารถและความสนใจของผู้เรียนแต่ละคนเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ ครูควรใช้เครื่องมือประเมินพหุปัญญาและสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนเพื่อออกแบบกิจกรรมที่เหมาะสม

2.  การออกแบบกิจกรรมที่หลากหลาย หมายถึง กิจกรรมการเรียนรู้ควรครอบคลุมพหุปัญญาหลายด้าน เช่น การใช้ดนตรีประกอบการสอน การทำโครงงาน การแสดงบทบาทสมมติ และการทำงานกลุ่ม เพื่อให้ผู้เรียนทุกคนมีโอกาสใช้จุดแข็งของตนในการเรียนรู้

3. การสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้ หมายถึง สภาพแวดล้อมทางกายภาพและอารมณ์มีผลต่อการเรียนรู้ การจัดพื้นที่ที่ยืดหยุ่น และการสร้างบรรยากาศที่ปลอดภัยทางอารมณ์จะช่วยส่งเสริมการมีส่วนร่วมและการกล้าแสดงออกของผู้เรียน

4. การใช้เทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพ หมายถึง เทคโนโลยีสามารถเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการส่งเสริมการเรียนรู้เชิงรุกและพหุปัญญา เช่น การใช้แอปพลิเคชันเพื่อฝึกทักษะต่างๆ หรือการสร้างสื่อมัลติมีเดียเพื่อนำเสนอผลงาน

5. การเชื่อมโยงกับชีวิตจริง หมายถึง การนำประเด็นหรือปัญหาจากชีวิตจริงมาใช้ในการเรียนการสอนจะช่วยให้ผู้เรียนเห็นความสำคัญและการประยุกต์ใช้ความรู้ ซึ่งจะกระตุ้นความสนใจและการมีส่วนร่วมมากขึ้น

6. การให้ทางเลือกแก่ผู้เรียน หมายถึง การเปิดโอกาสให้ผู้เรียนเลือกวิธีการเรียนรู้และการนำเสนอผลงานที่สอดคล้องกับความถนัดของตนจะช่วยส่งเสริมความเป็นเจ้าของการเรียนรู้และแรงจูงใจ

7. การประเมินผลที่หลากหลาย หมายถึง การใช้วิธีการประเมินผลที่หลากหลาย เช่น การประเมินตามสภาพจริง การประเมินโดยเพื่อน และการสะท้อนคิด จะช่วยให้เห็นพัฒนาการของผู้เรียนในหลายมิติ

8. การพัฒนาทักษะการคิดขั้นสูง หมายถึง กิจกรรมการเรียนรู้ควรส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ การคิดสร้างสรรค์ และการแก้ปัญหา ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในศตวรรษที่ 21

9. การสร้างโอกาสในการสะท้อนคิด หมายถึง การให้เวลาผู้เรียนได้คิดทบทวนสิ่งที่เรียนรู้ ทั้งผ่านการเขียนบันทึกหรือการอภิปรายกลุ่ม จะช่วยเสริมสร้างความเข้าใจที่ลึกซึ้งและการนำความรู้ไปใช้

10. การพัฒนาวิชาชีพครูอย่างต่อเนื่อง หมายถึง ครูควรศึกษาค้นคว้าและพัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอ เพื่อนำแนวคิดและวิธีการใหม่ๆ มาปรับใช้ในการจัดการเรียนการสอน

การออกแบบการเรียนรู้เชิงรุกแบบบูรณาการที่ส่งเสริมพหุปัญญา

การออกแบบการเรียนรู้เชิงรุกแบบบูรณาการที่ส่งเสริมพหุปัญญา เป็นวิธีการสอนที่มีประสิทธิภาพในการพัฒนาทักษะหลากหลายด้านของผู้เรียน โดยมีองค์ประกอบสำคัญดังนี้

  1. การเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)
    • ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้อย่างกระตือรือร้น
    • ส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และการสร้างสรรค์
  2. การบูรณาการ (Integration)
    • เชื่อมโยงเนื้อหาจากหลายวิชาเข้าด้วยกัน
    • สร้างความเข้าใจที่ลึกซึ้งและเห็นความสัมพันธ์ระหว่างสาขาวิชา
  3. ทฤษฎีพหุปัญญา (Multiple Intelligences)
    • คำนึงถึงความสามารถที่หลากหลายของผู้เรียน เช่น ด้านภาษา ตรรกะ-คณิตศาสตร์ มิติสัมพันธ์ ดนตรี ร่างกายและการเคลื่อนไหว มนุษยสัมพันธ์ การเข้าใจตนเอง และธรรมชาติวิทยา

วิธีการออกแบบ

  1. กำหนดวัตถุประสงค์การเรียนรู้ที่ครอบคลุมทักษะหลายด้าน
  2. สร้างกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น
    • การอภิปรายกลุ่ม (ส่งเสริมปัญญาด้านภาษาและมนุษยสัมพันธ์)
    • การทดลองทางวิทยาศาสตร์ (ส่งเสริมปัญญาด้านตรรกะและธรรมชาติวิทยา)
    • การสร้างแบบจำลอง (ส่งเสริมปัญญาด้านมิติสัมพันธ์)
    • การแสดงบทบาทสมมติ (ส่งเสริมปัญญาด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว)
  3. ใช้สื่อการสอนที่หลากหลาย เช่น วิดีโอ เกม แอปพลิเคชัน เพื่อตอบสนองรูปแบบการเรียนรู้ที่แตกต่าง
  4. จัดสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่เอื้อต่อการทำงานร่วมกันและการค้นคว้าด้วยตนเอง
  5. ประเมินผลแบบองค์รวม โดยพิจารณาทั้งความรู้ ทักษะ และเจตคติ

การออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)

การออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุกควรคำนึงถึงความหลากหลาย ความยืดหยุ่น และการตอบสนองต่อความต้องการของผู้เรียน โดยมุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้คิด วิเคราะห์ และลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง ซึ่งจะช่วยพัฒนาทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรมุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมอย่างกระตือรือร้นในกระบวนการเรียนรู้ โดยมีแนวทางการจัดกิจกรรมดังนี้

  1. การเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-Based Learning)
    • นำเสนอปัญหาที่เกี่ยวข้องกับชีวิตจริง
    • ให้ผู้เรียนร่วมกันวิเคราะห์ปัญหาและหาแนวทางแก้ไข
    • ส่งเสริมการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหา
  2. การเรียนรู้แบบโครงงาน (Project-Based Learning)
    • มอบหมายโครงงานที่สอดคล้องกับเนื้อหาการเรียน
    • ให้ผู้เรียนวางแผน ดำเนินการ และนำเสนอผลงาน
    • พัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีมและการจัดการโครงการ
  3. การอภิปรายกลุ่ม (Group Discussion)
    • แบ่งกลุ่มผู้เรียนเพื่ออภิปรายประเด็นที่กำหนด
    • กระตุ้นให้แสดงความคิดเห็นและแลกเปลี่ยนมุมมอง
    • ฝึกทักษะการสื่อสารและการคิดวิเคราะห์
  4. การเรียนรู้แบบร่วมมือ (Collaborative Learning)
    • จัดกิจกรรมที่ต้องอาศัยความร่วมมือในการทำงาน
    • มอบหมายบทบาทหน้าที่ให้สมาชิกในกลุ่ม
    • ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์
  5. การสาธิตและการฝึกปฏิบัติ (Demonstration and Practice)
    •  แสดงวิธีการหรือขั้นตอนการปฏิบัติงาน
    • ให้ผู้เรียนได้ลงมือทำจริง
    • พัฒนาทักษะปฏิบัติและความเข้าใจในเนื้อหา
  6. การใช้เกมและการจำลองสถานการณ์ (Games and Simulations)
    • ออกแบบเกมการศึกษาที่สอดคล้องกับเนื้อหา
    • จำลองสถานการณ์เพื่อให้ผู้เรียนฝึกการตัดสินใจ
    • สร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่สนุกและน่าสนใจ
  7. การเรียนรู้แบบกลับด้าน (Flipped Classroom)
    • ให้ผู้เรียนศึกษาเนื้อหาด้วยตนเองก่อนเข้าชั้นเรียน
    • ใช้เวลาในชั้นเรียนสำหรับการอภิปราย ทำกิจกรรม หรือแก้ปัญหา
    • ส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยตนเองและการใช้เวลาในชั้นเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ
  8. การใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้ (Technology-Enhanced Learning)
    • ใช้แอปพลิเคชันหรือเครื่องมือดิจิทัลในการทำกิจกรรม
    • ส่งเสริมการสืบค้นข้อมูลและการนำเสนอผลงานด้วยเทคโนโลยี
    • พัฒนาทักษะด้านดิจิทัลและการเรียนรู้ตลอดชีวิต

 

ตัวอย่างแผนการจัดการเรียนรู้ที่ครอบคลุมพหุปัญญาสำหรับห้องเรียน 1 ชั่วโมง โดยใช้หัวข้อ “ระบบนิเวศในท้องถิ่น” เป็นตัวอย่าง

แผนการจัดการเรียนรู้นี้ครอบคลุมพหุปัญญาทั้ง 9 ด้าน โดยเน้นการมีส่วนร่วมของผู้เรียนและการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ตรง ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจเนื้อหาได้ลึกซึ้งและนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้

หัวข้อ: ระบบนิเวศในท้องถิ่น
ระดับชั้น: มัธยมศึกษาปีที่ 2
เวลา: 1 ชั่วโมง

วัตถุประสงค์

1. เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจองค์ประกอบของระบบนิเวศในท้องถิ่น (K)
2. เพื่อให้ผู้เรียนวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ (P)
3. เพื่อให้ผู้เรียนตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ระบบนิเวศ (A)

กิจกรรมการเรียนรู้ 

ขั้นนำ (5 นาที)

    • ครูเปิดเพลงเสียงธรรมชาติ และให้นักเรียนหลับตาฟัง (ปัญญาด้านดนตรี)
    • ถามความรู้สึกและสิ่งที่นึกถึงเมื่อได้ยินเสียงเหล่านี้ (ปัญญาด้านการเข้าใจตนเอง)

 ขั้นสอน (40 นาที)

    •  บรรยายสั้นๆ เกี่ยวกับองค์ประกอบของระบบนิเวศ (5 นาที) (ปัญญาด้านภาษา)
    •  แบ่งกลุ่มนักเรียน กลุ่มละ 4-5 คน ทำกิจกรรม “สร้างระบบนิเวศจำลอง” (20 นาที)
    • ใช้วัสดุที่เตรียมไว้ (กระดาษ สี ดินน้ำมัน ฯลฯ) สร้างแบบจำลองระบบนิเวศท้องถิ่น

(ปัญญาด้านมิติสัมพันธ์, ร่างกายและการเคลื่อนไหว, ธรรมชาติวิทยา, มนุษยสัมพันธ์)

นำเสนอผลงานกลุ่ม (15 นาที)

    • แต่ละกลุ่มอธิบายแบบจำลองของตน
    • เพื่อนกลุ่มอื่นตั้งคำถามและให้ข้อเสนอแนะ
      (ปัญญาด้านภาษา, ตรรกะ-คณิตศาสตร์, มนุษยสัมพันธ์)

ขั้นสรุป (15 นาที)

    • อภิปรายร่วมกันถึงความสำคัญของระบบนิเวศและการอนุรักษ์ (10 นาที)
      (ปัญญาด้านภาษา, ตรรกะ-คณิตศาสตร์, การดำรงอยู่ของชีวิต)
    • เขียนบันทึกสั้นๆ เกี่ยวกับสิ่งที่ได้เรียนรู้และแนวทางการอนุรักษ์ระบบนิเวศที่ตนเองจะทำ (5 นาที)
      (ปัญญาด้านภาษา, การเข้าใจตนเอง)

สื่อการสอน

  1.  เพลงเสียงธรรมชาติ
  2. วัสดุสำหรับสร้างแบบจำลอง (กระดาษ สี ดินน้ำมัน กรรไกร กาว ฯลฯ)
  3. กระดาษโปสเตอร์สำหรับนำเสนอ

การประเมินผล

  1. สังเกตการมีส่วนร่วมในกิจกรรมกลุ่ม
  2. ประเมินผลงานแบบจำลองระบบนิเวศ
  3. ประเมินการนำเสนอและการตอบคำถาม
  4.  ตรวจบันทึกการเรียนรู้

online : https://www.samsungscd.org/quiz

paper : https://samsungslc.org/wp-content/uploads/2020/05/MI_test_form_2019.pdf

บทสรุป

การจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุกที่ส่งเสริมพหุปัญญาเป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพในการพัฒนาผู้เรียนอย่างรอบด้าน การบูรณาการแนวคิดนี้เข้ากับการจัดการเรียนการสอนจะช่วยสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่มีความหมายและตอบสนองต่อความแตกต่างของผู้เรียน อย่างไรก็ตาม การนำแนวทางนี้ไปใช้ให้ประสบความสำเร็จต้องอาศัยความเข้าใจ การวางแผนที่ดี และความมุ่งมั่นของครูในการพัฒนาวิธีการสอนอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาที่เท่าเทียมและมีคุณภาพสำหรับผู้เรียนทุกคน

อ้างอิง

1. Gardner, H. (1983). Frames of mind: The theory of multiple intelligences. Basic Books.
2. Bonwell, C. C., & Eison, J. A. (1991). Active Learning: Creating Excitement in the Classroom. ASHE-ERIC Higher Education Report No. 1. Washington, D.C.: The George Washington University.
3. Armstrong, T. (2009). Multiple intelligences in the classroom (3rd ed.). ASCD.
4. Prince, M. (2004). Does active learning work? A review of the research. Journal of Engineering Education, 93(3), 223-231.
5. Darling-Hammond, L., Flook, L., Cook-Harvey, C., Barron, B., & Osher, D. (2020). Implications for educational practice of the science of learning and development. Applied Developmental Science, 24(2), 97-140.

Comments

comments

Powered by Facebook Comments

ติดต่อ ดร.อนุศร หงษ์ขุนทด
error: Content is protected !!