ดิจิทัลแพลตฟอร์มเพื่อการเรียนรู้แห่งชาติ (National Digital Learning Platform : NDLP)
“NDLP: ก้าวสำคัญของการปฏิรูปการศึกษาไทยในยุคดิจิทัล”
ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลกในยุคดิจิทัล ระบบการศึกษาไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งสำคัญ กระทรวงศึกษาธิการจึงได้ริเริ่มโครงการ “ดิจิทัลแพลตฟอร์มเพื่อการเรียนรู้แห่งชาติ” หรือ National Digital Learning Platform (NDLP) ขึ้น โดยมีเป้าหมายในการยกระดับคุณภาพการศึกษาไทยสู่มาตรฐานสากล
จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง
โครงการ NDLP เกิดขึ้นจากวิสัยทัศน์ของผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงศึกษาธิการ ที่ต้องการสร้างระบบนิเวศการเรียนรู้ดิจิทัลที่ครบวงจร เพื่อรองรับการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เร่งให้เกิดการปรับตัวครั้งใหญ่ในวงการการศึกษา
นโยบาย Anywhere Anytime Learning ถูกประกาศเป็นแนวทางสำคัญในการขับเคลื่อนการศึกษาไทย มุ่งเน้นการสร้างโอกาสให้ผู้เรียนสามารถเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพได้ทุกที่ทุกเวลา ผ่านการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมือสำคัญ
การพัฒนาอย่างเป็นระบบ
กระทรวงศึกษาธิการได้วางแผนการพัฒนา NDLP อย่างเป็นระบบ เริ่มจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล การสร้างระบบบริหารจัดการการเรียนรู้ที่ทันสมัย และการพัฒนาสื่อการเรียนรู้ดิจิทัลที่มีคุณภาพ โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานสำคัญหลายแห่ง
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้พัฒนาระบบ DEEP (Digital Education Excellence Platform) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ NDLP เพื่อเป็นแพลตฟอร์มกลางในการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ ขณะที่สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ได้พัฒนาสื่อการเรียนรู้ดิจิทัลด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ที่มีคุณภาพสูง
การเปลี่ยนแปลงสู่อนาคต
NDLP ได้นำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาใช้ในการพัฒนาการศึกษา อาทิ ระบบ AI ที่ช่วยวิเคราะห์ผู้เรียนรายบุคคล ระบบ Learning Analytics ที่ช่วยติดตามและประเมินผลการเรียนรู้ และระบบ Adaptive Learning ที่ปรับเนื้อหาให้เหมาะสมกับผู้เรียนแต่ละคน
การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อระบบการศึกษาไทย ทั้งในด้านการพัฒนาครู การปรับเปลี่ยนวิธีการเรียนการสอน และการสร้างโอกาสทางการศึกษาที่เท่าเทียมมากขึ้น
มองไปข้างหน้า
แม้ว่า NDLP อาจจะประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง แต่ยังมีความท้าทายที่ต้องเผชิญ ทั้งในด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การสร้างความพร้อมของบุคลากร และการพัฒนาเนื้อหาที่มีคุณภาพ อย่างไรก็ตาม ด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน NDLP กำลังก้าวไปสู่การเป็นรากฐานสำคัญของการศึกษาไทยในอนาคต
การพัฒนา NDLP และนโยบาย Anywhere Anytime ไม่เพียงแต่เป็นการปรับเปลี่ยนวิธีการเรียนการสอน แต่ยังเป็นการเปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์ทางการศึกษาของประเทศ จากระบบการศึกษาแบบดั้งเดิมสู่การเรียนรู้ในยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ
ความสำเร็จของโครงการนี้จะเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายในอนาคต การสร้างพลเมืองดิจิทัลที่มีคุณภาพจะเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน
บทสรุป
NDLP และนโยบาย Anywhere Anytime เป็นมากกว่าเพียงโครงการด้านเทคโนโลยีการศึกษา แต่เป็นการปฏิรูประบบการศึกษาทั้งระบบ เพื่อสร้างโอกาสและความเท่าเทียมทางการศึกษา พัฒนาคุณภาพการเรียนการสอน และเตรียมความพร้อมให้เยาวชนไทยสำหรับโลกในศตวรรษที่ 21 ความสำเร็จของโครงการนี้จะเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับการศึกษาไทยสู่มาตรฐานสากล และการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน
แผนพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษาขั้นพื้นฐาน (พ.ศ.2566 – 2570) ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
การปฏิรูปการศึกษาไทยในยุคดิจิทัล: มุมมองผ่าน NDLP
ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกในศตวรรษที่ 21 ระบบการศึกษาไทยกำลังก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ผ่านโครงการดิจิทัลแพลตฟอร์มเพื่อการเรียนรู้แห่งชาติ หรือ National Digital Learning Platform (NDLP) ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการหลักตามแผนการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา โครงการนี้ไม่เพียงแต่เป็นการพัฒนาแพลตฟอร์มการเรียนรู้ธรรมดา แต่เป็นการปฏิวัติรูปแบบการศึกษาไทยทั้งระบบ
NDLP ถูกออกแบบมาโดยคำนึงถึงการเรียนรู้ตลอดชีวิตของคนไทยทุกช่วงวัย ตั้งแต่วัยเด็กที่ต้องการพัฒนาทักษะพื้นฐาน จินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ ไปจนถึงวัยทำงานที่ต้องการพัฒนาทักษะวิชาชีพและการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง และวัยสูงอายุที่ต้องการเรียนรู้เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี แพลตฟอร์มนี้แบ่งออกเป็นสามส่วนหลัก ได้แก่ Learning Platform สำหรับการพัฒนาตนเอง Teaching Resources Platform สำหรับการเผยแพร่สื่อการสอน และ e-Library Platform สำหรับการค้นคว้าและเรียนรู้
ในด้านการพัฒนาทักษะ NDLP ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทั้ง Hard Skills และ Soft Skills ควบคู่กันไป Hard Skills คือความรู้ทางวิชาการและทักษะวิชาชีพที่จำเป็นต่อการทำงาน ในขณะที่ Soft Skills คือทักษะทางสังคม อารมณ์ และการปรับตัว ซึ่งมีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
การนำ NDLP มาใช้ในระบบการศึกษาไทยได้สร้างการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญหลายประการ ประการแรก คือการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเรียนการสอน จากการเรียนในห้องเรียนแบบดั้งเดิม สู่การเรียนรู้แบบผสมผสานที่ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา ประการที่สอง คือการเปลี่ยนแปลงบทบาทของครู จากผู้สอนเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ และประการที่สาม คือการเปลี่ยนแปลงวิธีการประเมินผล จากการสอบแบบดั้งเดิมสู่การประเมินผลตามสภาพจริงที่ครอบคลุมทั้งความรู้และทักษะ
อย่างไรก็ตาม การนำ NDLP มาใช้ก็มีความท้าทายที่ต้องเผชิญ ทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล การพัฒนาทักษะของครูและบุคลากรทางการศึกษา และการสร้างความเข้าใจและการยอมรับจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย แต่ความท้าทายเหล่านี้ก็มาพร้อมกับโอกาสในการพัฒนาการศึกษาไทยให้ก้าวไกลและทันสมัย
ในอนาคต NDLP จะมีบทบาทสำคัญยิ่งขึ้นในการพัฒนาการศึกษาไทย โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เทคโนโลยีความเป็นจริงเสมือน (VR) และความเป็นจริงเสริม (AR) มาประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอน การพัฒนาระบบการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการเรียนรู้แบบเฉพาะบุคคล และการสร้างชุมชนการเรียนรู้ออนไลน์ที่เข้มแข็ง
การเตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงนี้จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐที่ต้องสนับสนุนนโยบายและงบประมาณ สถานศึกษาที่ต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสนับสนุน ครูที่ต้องพัฒนาทักษะและปรับเปลี่ยนวิธีการสอน และผู้เรียนที่ต้องพัฒนาทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเองและทักษะดิจิทัล
NDLP จึงไม่ใช่เพียงแค่แพลตฟอร์มการเรียนรู้ แต่เป็นการปฏิรูประบบการศึกษาทั้งระบบ เพื่อเตรียมคนไทยให้พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต และเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับการศึกษาไทยสู่มาตรฐานสากล การเปลี่ยนแปลงนี้อาจต้องใช้เวลาและความพยายาม แต่ด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เราจะสามารถสร้างระบบการศึกษาที่มีคุณภาพและเข้าถึงได้สำหรับคนไทยทุกคน
วิสัยทัศน์ (VISION)
“ภายในปี พ.ศ. 2570 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นองค์กร ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นฐานในการให้บริการการศึกษา และพัฒนาคุณภาพการศึกษาไดFอย่างมีประสิทธิภาพ และปลอดภัย”
พันธกิจ (MISSION)
1. พัฒนาระบบนิเวศด้านเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อรองรับการพัฒนาคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐานที่สนองตอบต่อการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 (เป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ทั้งระบบ)
2 พัฒนาระบบการให้บริการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นฐาน (Basic Education Transformation by Digital Technology)
เป้าหมายหลัก (GOALS)
1. สถานศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และหน่วยงานในสังกัดทุกแห่งให้เป็นองค์กรที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นฐานในการให้บริการการศึกษาอย่างมีคุณภาพ และมีประสิทธิภาพ
2. สพฐ.ใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการลดความเลื่อมล้ำ สร้างโอกาสให้ผู้เรียนสามารถเข้าถึงการให้บริการการศึกษา ได้ด้วยตนเอง ทุกที่ ทุกเวลา เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาของตนเองให้สอดคล้องกับทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ได้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต

กลยุทธที่ 1 พัฒนาระบบนิเวศด8านเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อรองรับการพัฒนาคุณภาพการศึกษาในศตวรรษที่ 21
พลิกโฉมบทบาท “ครู” ให้เป็นครูยุคใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพระบบ บริหารจัดการศึกษาในทุกระดับ และพัฒนาระบบการเรียนรู้ ตลอดชีวิต โดยใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือ
มาตรการที่ 1 พัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์ม 3 แพลตฟอร์ม
DSAP รูปแบบการบริหารจัดการศึกษาของสถานศึกษาโดยใช้ เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นฐาน Digital School Administration Platform : DSAP
NDLP รูปแบบการจัดการเรียนรู้แห่งชาติโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นฐาน National Digital Learning Platform : NDLP
IAM ระบบบริหารจัดการผู้ใช้ การพิสูจน์ตัวตน และระบบบริหาร จัดการสิทธิการเข้าถึงระบบ Identity and Access Management : IAM
มาตรการที่ 2 พัฒนาระบบประมวลผลแบบ Cloud ระดับกระทรวง ที่มีพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศเพียงแหล่งเดียว มีประสิทธิภาพและ ความปลอดภัยสูง (MOE Private Cloud)
มาตรการที่ 3 พัฒนาระบบเครือขIายการศึกษาขั้นพื้นฐาน ของสถานศึกษา และหน่วยงานในสังกัดทุกแห่งให้มีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยสูง (OBEC Network)
มาตรการที่ 4 พัฒนาระบบวิเคราะห์ข้อมูลด้านการศึกษาขนาดใหญ่ (Education Big Data) เพื่อวางแผนการจัดการศึกษาให้ตอบสนองต่อ ความต้องการของผู้เรียนเป็นรายบุคคล
มาตรการที่ 5 จัดหา พัฒนา สื่อและหนังสือดิจิทัล ส่งเสริมให้ครูพัฒนา สื่อดิจิทัลสนับสนุนการเรียนรู้ของผู้เรียน
มาตรการที่ 6 สนับสนุนระบบคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ดิจิทัล
1. สนับสนุนระบบคอมพิวเตอรc์ใหBสถานศึกษาทั้งดBานการบริหารและกระบวน การเรียนการสอน
2. สนับสนุนอุปกรณcดิจิทัลสำหรับครูผูBสอนเพื่อใชBเปjนเครื่องมือในการจัดการเรียน การสอน
3. สนับสนุนอุปกรณcดิจิทัลสำหรับผูBเรียนเพื่อใชBเปjนเครื่องมือในการเรียนรูB ดBวยตนเอง ไดBทุกที่ ทุกเวลา
กลยุทธที่ 2 การพัฒนาระบบการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยใช8เทคโนโลยีดิจิทัลเปKนฐาน (Basic Education Transformation by Digital Technology) มาตรการ
มาตรการที่ 1 แต#งตั้งคณะกรรมการระดับนโยบายในการปรับเปลี่ยน ระบบการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยใชBเทคโนโลยีดิจิทัลเปEนฐาน
มาตรการที่ 2 แต#งตั้งคณะอนุกรรมการจัดทำแผนงาน การดำเนินการในดBานต#างๆ เช#น – คณะอนุกรรมการดBานกฎหมาย – คณะอนุกรรมการดBานการพัฒนาครู และบุคลากรทางการศึกษา – คณะอนุกรรมการดBานการติดตาม ประเมินผลการดำเนินการ – คณะกรรมการดBานอื่นๆ ตามความเหมาะสม
มาตรการที่ 3 การติดตาม ประเมินผล



ดิจิทัลแพลตฟอร์มเพื่อการเรียนรู้แห่งชาติ (National Digital Learning Platform : NDLP)
ดิจิทัลแพลตฟอร์มเพื่อการเรียนรู้แห่งชาติ (NDLP) เป็นระบบแพลตฟอร์มกลางในการจัดการเรียนรู้แห่งชาติที่อิงหลักสูตรแกนกลาง 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ตั้งแต่ระดับประถมศึกษาถึงมัธยมศึกษา
การพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อการบริหารและการจัดการศึกษาตามนโยบายการปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ที่ตอบสนอง ต่อการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 สอดคล้องกับการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพื่อให้เกิดผลตามแนวทางการปฏิรูปประเทศและนโยบายของรัฐบาล คือ
- ปรับรูปแบบการเรียนรู้ และการสอน เพื่อพัฒนาทักษะและอาชีพของคนทุกช่วงวัย โดยปรับโครงสร้างหลักสูตรการศึกษา ให้ทันสมัย
- มีการนำเทคโนโลยีและการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริงเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการเรียน การสอน ซึ่งจะช่วยพัฒนาการจัดการเรียนการสอนให้มีความทันสมัย สอดคล้องกับบริบทของโลก ในปัจจุบัน
เป้าหมายเพื่อพัฒนาระบบดิจิทัลแพลตฟอร์มเพื่อการเรียนรู้แห่งชาติ ในการปรับเปลี่ยนระบบ การศึกษา สร้างคุณภาพ ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างความสามารถในการแข่งขัน เพื่อให้ก้าวกระโดด ทันกับพัฒนาการในโลก ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติในการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์
องค์ประกอบหลัก
ระบบนิเวศดิจิทัล
- MOE Private Cloud สำหรับหน่วยงานในสังกัดใช้ทรัพยากรร่วมกัน
- ระบบเครือข่ายการศึกษาขั้นพื้นฐาน (OBEC Network)
- ระบบบริหารจัดการสถานศึกษา (Digital School Administration Platform)
วัตถุประสงค์
การพัฒนาการศึกษา
- ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา
- ปรับรูปแบบการเรียนรู้ให้ผู้เรียนสามารถเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา
- พัฒนาศักยภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาให้สามารถใช้เทคโนโลยีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การใช้งานรูปแบบการเรียนรู้
- รองรับการเรียนการสอนแบบผสมผสาน (Blended Learning)
- สนับสนุนการเรียนแบบห้องเรียนกลับทาง (Flipped Classroom)
- มีคอนเทนต์การเรียนรู้มากกว่า 2 แสนรายการที่ผ่านการคัดกรองคุณภาพ
โครงการดิจิทัลแพลตฟอร์มเพื่อการเรียนรู้แห่งชาติ (National Digital Learning Platform: NDLP)
โครงการ NDLP เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มการเรียนรู้ดิจิทัลที่จะช่วยยกระดับคุณภาพการศึกษาของประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์หลักดังนี้
1. สร้างระบบนิเวศการเรียนรู้ดิจิทัล
แพลตฟอร์มนี้จะเป็นศูนย์รวมของเนื้อหาการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ ทั้งในรูปแบบวิดีโอ บทเรียน แบบทดสอบ และสื่อการเรียนรู้ต่างๆ ที่ครู นักเรียน และประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้
2. ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา
โดยการให้โอกาสเข้าถึงแหล่งการเรียนรู้ที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่ใดของประเทศ
3. พัฒนาทักษะดิจิทัล
ส่งเสริมให้ผู้เรียนและครูได้พัฒนาทักษะด้านดิจิทัลผ่านการใช้งานแพลตฟอร์ม รวมถึงการเรียนรู้แบบ Active Learning
ประโยชน์ที่จะได้รับ
สำหรับนักเรียน
– เข้าถึงเนื้อหาการเรียนรู้ที่มีคุณภาพได้ทุกที่ทุกเวลา
– สามารถเรียนรู้ได้ตามความสามารถและความสนใจของตนเอง
– มีเครื่องมือในการประเมินและพัฒนาตนเอง
สำหรับครู
– มีแหล่งทรัพยากรการสอนที่หลากหลาย
– สามารถติดตามพัฒนาการของผู้เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
– มีเครื่องมือช่วยในการจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์
สำหรับผู้บริหารการศึกษา
– มีข้อมูลเชิงลึกเพื่อการวางแผนและพัฒนาการศึกษา
– สามารถติดตามและประเมินผลการเรียนรู้ในภาพรวม
– บริหารจัดการทรัพยากรทางการศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การดำเนินงานในปัจจุบัน
– พัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานของแพลตฟอร์ม
– รวบรวมและพัฒนาเนื้อหาการเรียนรู้ดิจิทัล
– อบรมและพัฒนาครูให้สามารถใช้งานแพลตฟอร์มได้อย่างมีประสิทธิภาพ
– สร้างความร่วมมือกับหน่วยงานและภาคส่วนต่างๆ
แนวทางการพัฒนาในอนาคต
– เพิ่มเติมเนื้อหาและฟังก์ชันการใช้งานให้ครอบคลุมความต้องการมากขึ้น
– พัฒนาระบบการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการเรียนรู้แบบเฉพาะบุคคล
– ขยายการเข้าถึงไปยังกลุ่มผู้ใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น
– บูรณาการกับระบบการศึกษาอื่นๆ ของประเทศ
โครงการ NDLP เป็นก้าวสำคัญในการปฏิรูปการศึกษาไทยสู่ยุคดิจิทัล โดยมุ่งหวังให้เกิดการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพ พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21
ระบบหลักใน NDLP อาจประกอบด้วย
1. ระบบคลังสื่อดิจิทัล (Digital Content Repository)
– แพลตฟอร์มรวบรวมสื่อการเรียนรู้มาตรฐาน
– คลังข้อสอบออนไลน์
– สื่อวิดีโอการสอน
– บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ (e-Learning)
– ใบงานและแบบฝึกหัดดิจิทัล
2. ระบบจัดการเรียนการสอน (Learning Management System: LMS)
– ระบบจัดการชั้นเรียนออนไลน์
– ระบบการมอบหมายงานและการส่งงาน
– ระบบติดตามความก้าวหน้าของผู้เรียน
– ระบบการทดสอบและประเมินผลออนไลน์
– ห้องเรียนเสมือนจริง (Virtual Classroom)
3. ระบบพอร์ทัลการเรียนรู้ (Learning Portal)
– ระบบลงทะเบียนผู้ใช้งาน
– ระบบค้นหาเนื้อหาการเรียนรู้
– ระบบแนะนำการเรียนรู้ตามความสนใจ
– ระบบติดตามพัฒนาการการเรียนรู้
– ระบบรายงานผลการเรียนรู้
4. ระบบวิเคราะห์ข้อมูลการเรียนรู้ (Learning Analytics)
– การวิเคราะห์พฤติกรรมการเรียนรู้
– การประเมินประสิทธิภาพการเรียนการสอน
– การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการพัฒนาหลักสูตร
– ระบบแนะนำเส้นทางการเรียนรู้เฉพาะบุคคล
5. ระบบสนับสนุนการทำงานร่วมกัน (Collaboration Platform)
– เครื่องมือสำหรับการทำงานกลุ่ม
– ระบบแชทและการสื่อสาร
– พื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างครูและนักเรียน
– ชุมชนการเรียนรู้ออนไลน์
6. ระบบบริหารจัดการทรัพยากรการศึกษา
– ระบบจัดการผู้ใช้งาน
– ระบบจัดการสิทธิ์การเข้าถึง
– ระบบจัดการทรัพยากรการเรียนรู้
– ระบบรายงานสถิติการใช้งาน
7. ระบบประกันคุณภาพเนื้อหา
– ระบบตรวจสอบคุณภาพสื่อการเรียนรู้
– ระบบรับรองมาตรฐานเนื้อหา
– ระบบประเมินและให้คะแนนคุณภาพสื่อ
– ระบบรายงานผลการประเมินคุณภาพ
8. ระบบสนับสนุนการเข้าถึง
– ระบบรองรับการใช้งานหลากหลายอุปกรณ์
– ระบบช่วยเหลือผู้ใช้งาน
– ระบบสำรองข้อมูล
– ระบบรักษาความปลอดภัย
แต่ละระบบถูกออกแบบให้ทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการ เพื่อสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงทุกระบบผ่านการลงชื่อเข้าใช้ครั้งเดียว (Single Sign-On) และมีการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างระบบเพื่อให้การใช้งานเป็นไปอย่างต่อเนื่องและราบรื่น
สรุปโมดูลต่างๆ ของระบบ NDLP (National Digital Learning Platform) ดังนี้
1. ระบบบริหารจัดการผู้ใช้งาน (User Management System: UsMS)
– จัดการข้อมูลผู้ใช้งานในระบบ
– กำหนดสิทธิ์และบทบาทการใช้งาน
– ระบบลงทะเบียนและยืนยันตัวตน
– การจัดการโปรไฟล์ผู้ใช้
2. ระบบบริหารจัดการเนื้อหาองค์ความรู้แห่งชาติ (National Content Management System: NCMS)
– จัดการคลังความรู้และสื่อการเรียนรู้
– การจัดหมวดหมู่เนื้อหา
– ระบบสืบค้นและเข้าถึงเนื้อหา
– การแชร์และแลกเปลี่ยนสื่อการเรียนรู้
3. ระบบบริหารจัดการการจัดการเรียนรู้แห่งชาติ (National Learning Management System: NLMS)
– จัดการหลักสูตรและรายวิชา
– ระบบการเรียนการสอนออนไลน์
– การติดตามความก้าวหน้าผู้เรียน
– การประเมินผลการเรียนรู้
4. ระบบสนับสนุนครูผู้สอน (Teacher Management System: TeMS)
– เครื่องมือสำหรับการสอน
– การจัดการชั้นเรียน
– การสร้างสื่อการสอน
– ระบบช่วยเหลือและสนับสนุนครู
5. ระบบสนับสนุนผู้เรียน (Education Management System: EdMS)
– ระบบแนะนำการเรียนรู้
– การติดตามพัฒนาการ
– ระบบช่วยเหลือผู้เรียน
– การจัดการการเรียนรู้ส่วนบุคคล
การเชื่อมโยงระหว่างระบบ
– ทุกระบบเชื่อมต่อกันผ่าน Platform NDLP
– มีการออกแบบ UX/UI ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้
– ใช้ ER-Diagram แสดงความสัมพันธ์ระหว่างระบบ
– มีการจัดการความปลอดภัยและการเข้าถึงข้อมูล
คุณสมบัติเด่นของระบบ
1. การทำงานแบบบูรณาการ
– เชื่อมโยงทุกระบบเข้าด้วยกัน
– ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน
– รองรับการทำงานหลายรูปแบบ
2. ความยืดหยุ่นและการปรับขยาย
– รองรับการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่
– ปรับให้เข้ากับความต้องการ
– รองรับการเติบโตในอนาคต
3. ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
– ระบบรักษาความปลอดภัยมาตรฐาน
– การจัดการสิทธิ์การเข้าถึง
– การป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล
4. การติดตามและประเมินผล
– ระบบรายงานผลแบบ Real-time
– การวิเคราะห์ข้อมูลการเรียนรู้
– การประเมินประสิทธิภาพระบบ
ทั้งหมดนี้ทำงานร่วมกันเพื่อสร้างระบบนิเวศการเรียนรู้ดิจิทัลที่ครบวงจร สนับสนุนการเรียนรู้ทุกที่ทุกเวลา และยกระดับคุณภาพการศึกษาของประเทศไทย
ที่มา:
แหล่งข้อมูลหลัก
เอกสารรัฐสภา
การสัมมนาและการประชุม
- งานสัมมนาเรื่องแนวทางการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์มเพื่อการเรียนรู้แห่งชาติ จัดโดยคณะกรรมาธิการการอุดมศึกษา
หน่วยงานการศึกษา
- เอกสารจากกระทรวงศึกษาธิการ เกี่ยวกับการพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์มเพื่อการเรียนรู้แห่งชาติ[4]
- บทความวิชาการเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านด้วยดิจิทัลและแพลตฟอร์มการเรียนรู้ดิจิทัลแห่งชาติ[5]
Citations:
[1] https://dl.parliament.go.th/handle/20.500.13072/606848
[2] https://moe360.blog/2020/09/23/deep/
[3] https://thaicyberu.go.th/?p=7009
[4] https://www.spm-pn.go.th/km-test2/
[5] https://so06.tci-thaijo.org/index.php/jeil/article/view/248550
แหล่งอ้างอิงที่ใช้ในการเขียนบทความนี้:
1. เว็บไซต์กระทรวงศึกษาธิการ (www.moe.go.th)
– ข่าวประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับนโยบาย Anywhere Anytime
– รายงานความคืบหน้าโครงการ NDLP
2. เว็บไซต์สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (www.onec.go.th)
– แผนการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา
– รายงานการศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาการศึกษาดิจิทัล
3. เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (www.obec.go.th)
– ข้อมูลการพัฒนาและการใช้งานระบบ DEEP
– สถิติการใช้งานแพลตฟอร์มการเรียนรู้ดิจิทัล
4. เว็บไซต์สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (www.ipst.ac.th)
– ข้อมูลการพัฒนาสื่อการเรียนรู้ดิจิทัล
– รายงานโครงการ Project 14
5. แพลตฟอร์ม DEEP (deep.go.th)
– ข้อมูลการให้บริการและสถิติการใช้งาน
– ตัวอย่างสื่อการเรียนรู้ดิจิทัล
Comments
Powered by Facebook Comments