การถอดรหัสมาตรฐานวิชาชีพครูปฐมวัย พ.ศ. 2568: การวิเคราะห์เชิงลึก “การประเมินและการประกันคุณภาพ” (มาตรฐานที่ 4)

ดร.อนุศร หงษ์ขุนทด
ศึกษานิเทศก์ วิทยฐานะศึกษานิเทศก์เชี่ยวชาญ สพม.นครราชสีมา
Musicmankob@gmail.com 

__________________________________

บทคัดย่อ

รายงานฉบับนี้วิเคราะห์มาตรฐานความรู้และสมรรถนะครูปฐมวัย ลำดับที่ 4 ‘การประเมินและการประกันคุณภาพ’ ตามข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูปฐมวัย พ.ศ. 2568 ¹ การวิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่ามาตรฐานนี้ไม่ได้เป็นเพียงข้อกำหนดเชิงเอกสาร แต่เป็นกลไกเชิงกลยุทธ์ที่เชื่อมโยงกรอบมาตรฐานการประกันคุณภาพการศึกษาปฐมวัย พ.ศ. 2561 ³ เข้ากับการปฏิบัติงานจริงในชั้นเรียนอย่างเป็นรูปธรรม มาตรฐานใหม่นี้กำหนดนิยามของครูปฐมวัยยุคใหม่ ว่าต้องเป็นผู้มีความรู้ (Knowledge) ด้านหลักการและเทคนิคการประเมินพัฒนาการที่หลากหลาย และต้องมีสมรรถนะ (Competency) ในการประเมินตามสภาพจริง (Authentic Assessment) เพื่อรวบรวมข้อมูลเชิงประจักษ์ ⁴ จากนั้น ครูต้องใช้ข้อมูลสารสนเทศที่ได้ในฐานะส่วนหนึ่งของวงจรพัฒนาคุณภาพ (PDCA) ⁵ เพื่อการวางแผนพัฒนาเด็กเป็นรายบุคคล การสื่อสารกับผู้ปกครอง และการยกระดับคุณภาพของสถานศึกษาอย่างเป็นระบบ อันเป็นการยกระดับครูสู่การเป็น “นักวิจัยเชิงปฏิบัติการในชั้นเรียน” (Classroom Action Researcher) ที่รับผิดชอบต่อผลลัพธ์การพัฒนาเด็กโดยตรง

---

ส่วนที่ 1: การวางตำแหน่งเชิงกลยุทธ์ของมาตรฐานที่ 4 ‘การประเมินและการประกันคุณภาพ’

เพื่อทำความเข้าใจความสำคัญของมาตรฐาน ‘การประเมินและการประกันคุณภาพ’ จำเป็นต้องวิเคราะห์บริบทและตำแหน่งของมาตรฐานนี้ภายในโครงสร้างข้อบังคับคุรุสภาฉบับใหม่

1.1 บริบทใหม่ของวิชาชีพครูปฐมวัย: ทำไมต้องมีข้อบังคับฯ 2568

ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูปฐมวัย พ.ศ. 2568 ถือเป็นหมุดหมายสำคัญในการยกระดับวิชาชีพครูปฐมวัยในประเทศไทย โดยแยกมาตรฐานวิชาชีพครูปฐมวัยออกมาจากมาตรฐานวิชาชีพครูทั่วไปเป็นครั้งแรก การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นเพื่อตอบสนองต่อความท้าทายของโลกสมัยใหม่ และหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ยืนยันถึงความสำคัญสูงสุดของช่วงปฐมวัย (Early Years) ในการวางรากฐานการพัฒนามนุษย์ ⁷

ข้อบังคับฯ 2568 มีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ประกอบวิชาชีพครูในระดับปฐมวัย มีสมรรถนะทางวิชาชีพที่ทันสมัยและสอดคล้องกับบริบทการเปลี่ยนแปลง ² โดยกำหนดให้ครูปฐมวัยต้องมีคุณวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางการศึกษา และกำหนดมาตรฐานวิชาชีพไว้ 3 ด้านหลัก ได้แก่ ²:

1. มาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ
2. มาตรฐานการปฏิบัติงาน
3. มาตรฐานการปฏิบัติตน

การวิเคราะห์ในรายงานนี้จะมุ่งเน้นไปที่องค์ประกอบสำคัญในมาตรฐานที่ 1 คือ “มาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ”

1.2 การถอดรหัส “มาตรฐานที่ 4” ในโครงสร้างข้อบังคับฯ 2568

จากการสืบค้นและวิเคราะห์ตัวบทข้อบังคับฯ พบว่า “มาตรฐานที่ 4” ที่ระบุในโจทย์คำถามของผู้ใช้ ไม่ใช่มาตรฐานหลัก 1 ใน 3 ด้าน แต่เป็น มาตรฐานย่อยลำดับที่ 4 ภายใน “มาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ” (ข้อ 5(ก)) ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่ค้นพบจากเอกสารสรุปสาระสำคัญของคุรุสภา ⁸

มาตรฐานนี้ได้กำหนดทั้ง “สาระความรู้” (โจทย์ 4.1) และเชื่อมโยงไปสู่ “สมรรถนะ” (โจทย์ 4.2) ที่ครูต้องปฏิบัติได้จริงใน “มาตรฐานการปฏิบัติงาน” (ข้อ 6) อย่างชัดเจน

• การวิเคราะห์สาระความรู้ (Knowledge) (โจทย์ 4.1): ตัวบทข้อบังคับฯ ข้อ 5(ก) (4) ระบุความรู้ที่ครูต้องมีคือ: “การประเมินเพื่อวางแผน ส่งเสริม พัฒนาการและการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับวัย และความแตกต่างรายบุคคล รวมถึงการประกันคุณภาพระดับการศึกษาปฐมวัย” ⁸
• การวิเคราะห์สมรรถนะ (Competency) (โจทย์ 4.2): ความรู้นี้ถูกกำหนดให้ครูต้องนำไปปฏิบัติ (Apply) ผ่าน “มาตรฐานการปฏิบัติงาน” (ข้อ 6) ⁸ โดยมีสมรรถนะที่เกี่ยวข้องโดยตรง 2 ข้อ:

1. ข้อ 6(ก)(3) (การปฏิบัติหน้าที่ครู): “ใช้ความรู้ในการวางแผน พัฒนา และประเมินอย่างเหมาะสม… รวมถึงในการประกันคุณภาพการศึกษาระดับปฐมวัย”
2. ข้อ 6(ข)(5) (การจัดประสบการณ์การเรียนรู้): “สังเกต บันทึกและประเมินพัฒนาการของเด็กปฐมวัยแต่ละคนรอบด้านอย่างเป็นระบบ เพื่อเป็นแนวทางในการส่งเสริมและแก้ไขปัญหาพฤติกรรมและพัฒนาการของเด็กปฐมวัย”

ความเชื่อมโยงนี้แสดงให้เห็นการออกแบบนโยบายที่รัดกุม คือ “ความรู้” (Knowing) เรื่องการประเมินและการประกันคุณภาพ (ข้อ 5(ก)(4)) ต้องนำไปสู่ “การปฏิบัติ” (Doing) คือการประเมินอย่างเป็นระบบ (ข้อ 6(ข)(5)) และการใช้ผลประเมินนั้นเพื่อการประกันคุณภาพ (ข้อ 6(ก)(3))

ตารางที่ 1: การถอดรหัสและจับคู่มาตรฐานที่ 4 (การประเมินฯ) ในข้อบังคับคุรุสภา พ.ศ. 2568

องค์ประกอบตามโจทย์	ตำแหน่งในข้อบังคับฯ พ.ศ. 2568	รายละเอียดสาระสำคัญของมาตรฐาน
4.1 สาระความรู้ (Knowledge)	ข้อ 5(ก) มาตรฐานความรู้ครูปฐมวัย (4) การประเมินเพื่อวางแผน…	“การประเมินเพื่อวางแผน ส่งเสริม พัฒนาการและการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับวัย และความแตกต่างรายบุคคล รวมถึงการประกันคุณภาพระดับการศึกษาปฐมวัย”
4.2 สมรรถนะ (Competency)	ข้อ 6(ก) มาตรฐานการปฏิบัติงาน (การปฏิบัติหน้าที่ครู) (3) ใช้ความรู้ในการวางแผน…	“ใช้ความรู้ในการวางแผน พัฒนา และประเมินอย่างเหมาะสม… รวมถึงในการประกันคุณภาพการศึกษาระดับปฐมวัย”
4.2 สมรรถนะ (Competency)	ข้อ 6(ข) มาตรฐานการปฏิบัติงาน (การจัดประสบการณ์) (5) สังเกต บันทึกและประเมิน…	“สังเกต บันทึกและประเมินพัฒนาการของเด็กปฐมวัยแต่ละคนรอบด้านอย่างเป็นระบบ เพื่อเป็นแนวทางในการส่งเสริมและแก้ไขปัญหา…”

1.3 การเชื่อมโยง “ข้อบังคับครู 2568” กับ “มาตรฐานประกันคุณภาพสถานศึกษา 2561”

ความสำคัญที่แท้จริงของมาตรฐานย่อยที่ 4 นี้จะปรากฏชัดเมื่อวิเคราะห์เชื่อมโยงกับ “มาตรฐานการประกันคุณภาพการศึกษา (QA) ระดับปฐมวัย พ.ศ. 2561” ³

มาตรฐาน QA ปี 2561 ได้กำหนดเป้าหมายที่สถานศึกษาต้องบรรลุไว้ใน “มาตรฐานที่ 3 การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ” ³ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในข้อย่อยที่ 3.4 ที่ระบุว่า สถานศึกษาต้อง “ประเมินพัฒนาการเด็กตามสภาพจริงและนำผลการประเมินพัฒนาการเด็กไปปรับปรุงการจัดประสบการณ์และพัฒนาเด็ก” ³

ข้อกำหนด 3.4 นี้คือ โจทย์ ที่ระบบประกันคุณภาพ (QA) ปี 2561 ตั้งไว้ให้สถานศึกษา แต่โจทย์นี้ไม่สามารถบรรลุได้หากไม่มี ผู้ปฏิบัติ ที่มีสมรรถนะเพียงพอ

ดังนั้น ข้อบังคับคุรุสภาฯ 2568 ⁸ จึงเข้ามาทำหน้าที่ “สร้างครู” เพื่อตอบโจทย์นี้โดยตรง โดยกำหนดสมรรถนะของครู (ดังตารางที่ 1) ให้สอดรับกันอย่างสมบูรณ์:

1. QA 2561 (ข้อ 3.4) ต้องการให้ “ประเมินตามสภาพจริง”
2. ครู 2568 (ข้อ 6(ข)(5)) จึงต้องมีสมรรถนะ “สังเกต บันทึกและประเมิน…อย่างเป็นระบบ”
3. QA 2561 (ข้อ 3.4) ต้องการให้ “นำผล…ไปปรับปรุง…และพัฒนาเด็ก”
4. ครู 2568 (ข้อ 6(ก)(3)) จึงต้องมีสมรรถนะ “ใช้ความรู้ในการ…ประกันคุณภาพการศึกษาระดับปฐมวัย”

สรุปได้ว่า มาตรฐานครู ปี 2568 ถูกออกแบบมาเพื่อเป็น “กลไกขับเคลื่อน” ให้สถานศึกษาสามารถบรรลุเป้าหมายของมาตรฐานสถานศึกษา ปี 2561 ได้จริง

---

ส่วนที่ 2: การวิเคราะห์สาระความรู้ (ข้อ 4.1) – องค์ความรู้ว่าด้วย ‘การประเมิน’ (Assessment)

ในส่วนนี้ จะวิเคราะห์องค์ประกอบแรกของมาตรฐานความรู้ (ข้อ 5(ก)(4)) ⁸ คือ “การประเมินเพื่อวางแผน ส่งเสริม พัฒนาการและการเรียนรู้” โดยเจาะลึกว่าครูต้อง “รู้” อะไรบ้าง

2.1 หลักการและปรัชญาการประเมินพัฒนาการปฐมวัย

สิ่งแรกที่ครูต้องรู้คือ “ปรัชญา” ของการประเมิน ⁹ ครูต้องเข้าใจว่าการประเมินเด็กปฐมวัย ไม่ใช่การ “สอบ” หรือ “ตัดเกรด” (Summative Assessment) แต่เป็นกระบวนการรวบรวมข้อมูลอย่างต่อเนื่อง (Formative Assessment) เพื่อทำความเข้าใจเด็กเป็นรายบุคคล ⁴

เป้าหมายของการประเมินคือการติดตามพัฒนาการแบบองค์รวมครบทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ³:

1. ด้านร่างกาย: การเจริญเติบโต, สุขนิสัย, การใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่และมัดเล็ก ¹⁰
2. ด้านอารมณ์-จิตใจ: สุขภาพจิต, ความสุข, สุนทรียภาพ, คุณธรรมจริยธรรม ¹²
3. ด้านสังคม: ทักษะชีวิต, การช่วยเหลือตนเอง, การอยู่ร่วมกับผู้อื่น ³
4. ด้านสติปัญญา: การสื่อสาร, ทักษะการคิด, การแสวงหาความรู้ ¹⁴

นอกจากนี้ ครูต้องมีความรู้ด้าน “จรรยาบรรณ” ในการประเมิน ¹⁵ เช่น การประเมินต้องทำเพื่อประโยชน์สูงสุดของเด็ก, การรักษาความลับของข้อมูลเด็ก, การไม่ตีตรา (Labeling) เด็กจากผลการประเมิน, และต้องประเมินในบริบทที่เด็กคุ้นเคยเพื่อให้เด็กแสดงศักยภาพที่แท้จริงออกมา ⁴

2.2 องค์ความรู้หัวใจ: การประเมินตามสภาพจริง (Authentic Assessment)

เหตุผลที่มาตรฐาน QA ปี 2561 ³ บังคับใช้ “การประเมินตามสภาพจริง” (Authentic Assessment) เพราะเป็นวิธีการเดียวที่สอดคล้องกับธรรมชาติการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย (Learning through Play)

ครูจึงต้องมีความรู้ในหลักการของ Authentic Assessment ¹⁴ ว่านี่คือการประเมินที่เกิดขึ้นในบริบทชีวิตจริงของเด็ก ไม่ใช่การจัดฉากทดสอบ ⁴ โดยเน้นการประเมินจาก 2 ส่วนหลัก:

1. การประเมินภาคปฏิบัติ (Performance Assessment): การสังเกตเด็กขณะทำกิจกรรม, เล่น, หรือแก้ปัญหา ¹⁴
2. การประเมินจากผลงาน (Work Sampling / Portfolios): การวิเคราะห์ร่องรอยการเรียนรู้จากชิ้นงานที่เด็กทำ ⁴

ครูต้องรู้ว่าการประเมินนี้ต้องทำ “อย่างเป็นระบบ” (Systematic) ⁴ กล่าวคือ ต้องมีการวางแผนล่วงหน้าว่าจะประเมินอะไร (ตัวบ่งชี้) ประเมินเมื่อไหร่ (สถานการณ์) และจะบันทึกอย่างไร ¹⁷ และต้องประเมินอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ เพื่อให้เห็น “ความก้าวหน้า” (Progress) ของเด็กเป็นรายบุคคล ⁴

2.3 องค์ความรู้เชิงเทคนิค: วิธีการและเครื่องมือประเมิน

เมื่อเข้าใจหลักการแล้ว ครูต้องมีความรู้เชิงเทคนิคในการเลือกใช้เครื่องมือที่หลากหลาย ⁴ เพื่อเก็บข้อมูลให้รอบด้าน

1. การสังเกตและการบันทึกพฤติกรรม (Observation & Anecdotal Records):

ความรู้: นี่คือเครื่องมือหลักและสำคัญที่สุดในการเก็บข้อมูลตามสภาพจริง ¹⁹

เทคนิค: ครูต้องรู้เทคนิคการเขียน “บันทึกพฤติกรรม” (Anecdotal Records) ที่ดี ซึ่งต้องแยกส่วนกันอย่างชัดเจน ²⁰:

• ส่วนข้อเท็จจริง (Objective): บันทึกสิ่งที่เห็นและได้ยิน (ใคร, ทำอะไร, ที่ไหน, เมื่อไหร่, พูดว่าอะไร) โดยไม่ใส่ความคิดเห็น ²¹
• ส่วนการตีความ (Subjective/Interpretation): การวิเคราะห์ว่าพฤติกรรมนั้นสะท้อนพัฒนาการด้านใด ซึ่งต้องทำแยกต่างหาก ²²

2. แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolios):

ความรู้: นี่คือเครื่องมือที่แสดง “กระบวนการ” และ “ความก้าวหน้า” ของเด็กได้ดีที่สุด ไม่ใช่แค่ “ผลผลิต” สุดท้าย ⁴

เทคนิค: ครูต้องรู้ว่า Portfolio ไม่ใช่การ “เก็บทุกอย่าง” แต่เป็น “การคัดเลือก” (Selection) ผลงานที่เป็นตัวแทนของพัฒนาการ ²⁴ และที่สำคัญที่สุดคือ ต้องมี “บันทึกสะท้อนคิด” (Reflection) ของครูหรือตัวเด็กกำกับว่า ผลงานชิ้นนั้นแสดงถึงการเรียนรู้อะไร ⁴

3. การสนทนาและการสัมภาษณ์ (Conversation & Interview):

ความรู้: เป็นเครื่องมือสำคัญในการประเมินพัฒนาการด้านสติปัญญาและการใช้ภาษา ซึ่งไม่สามารถเห็นได้จากการสังเกตเพียงอย่างเดียว ⁹

ตารางที่ 2: เปรียบเทียบเทคนิคการประเมินตามสภาพจริง (Authentic Assessment Techniques)

เทคนิค	วัตถุประสงค์หลัก	สมรรถนะครูที่ต้องใช้	ประโยชน์ในการพัฒนาเด็ก
การสังเกต (Observation)	ประเมินพฤติกรรมและกระบวนการในสถานการณ์จริง 4	ทักษะการเฝ้าดูอย่างมีจุดมุ่งหมาย, การไม่ขัดจังหวะ, การอยู่ร่วมอย่างเป็นธรรมชาติ	ได้ข้อมูลที่เป็นธรรมชาติที่สุด สะท้อนศักยภาพจริง 19
การบันทึกพฤติกรรม (Anecdotal Records)	บันทึกเหตุการณ์สำคัญที่สะท้อนพัฒนาการหรือปัญหาเฉพาะ 20	ทักษะการเขียนเชิงพรรณนา (Descriptive) และการแยกข้อเท็จจริงออกจากการตีความ 21	ใช้ติดตามความก้าวหน้าหรือปัญหาเฉพาะบุคคลได้ลึกซึ้ง 20
แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolios)	แสดง “กระบวนการ” และ “ความก้าวหน้า” (Progress) ในการเรียนรู้ 23	ทักษะการคัดเลือกผลงาน, การวิเคราะห์, และการเชื่อมโยงผลงานกับมาตรฐานหรือพัฒนาการ 4	เด็กได้มีส่วนร่วมประเมินตนเอง 4 และเห็นการเติบโตของตนเอง
การสนทนา/สัมภาษณ์ (Interview)	ประเมินความเข้าใจ, กระบวนการคิด, การใช้ภาษา, และเจตคติ 19	ทักษะการตั้งคำถามปลายเปิด, การฟังอย่างตั้งใจ, การสร้างบรรยากาศที่ปลอดภัย [12]	ครูเข้าใจกระบวนการคิดและเหตุผลของเด็ก (Cognitive Process)

2.4 ความรู้ในการบูรณาการเครื่องมือคัดกรอง (DSPM/TDSI)

มาตรฐานความรู้ ข้อ 5(ก)(4) ⁸ ไม่ได้หยุดแค่การประเมินในชั้นเรียน แต่ระบุชัดเจนว่าครูต้องมีความรู้ในการประเมิน “ความแตกต่างรายบุคคล” ซึ่งรวมถึงการเฝ้าระวังพัฒนาการที่อาจล่าช้า

ในทางปฏิบัติ เครื่องมือคัดกรองพัฒนาการมาตรฐานของไทย เช่น DSPM (คู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย) และ TDSI (Thai Developmental Skill Inventory) ²⁵ มักถูกใช้โดยบุคลากรสาธารณสุข ²⁵ แต่ข้อมูลชี้ชัดว่า DSPM ถูกออกแบบมาให้ใช้ใน “ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก” และ “โรงเรียนอนุบาล” ด้วย ²⁵

ดังนั้น “สาระความรู้” ที่ครูปฐมวัยยุคใหม่ต้องมี จึงไม่ใช่แค่การทำ Authentic Assessment แต่ยังรวมถึง:

1. ความรู้ในการทำงานร่วม (Collaboration): ครูต้องเข้าใจบทบาทของตนเองในการเป็นส่วนหนึ่งของทีมเฝ้าระวังพัฒนาการ ร่วมกับผู้ปกครองและบุคลากรสาธารณสุข ²⁶
2. ความรู้ในการอ่านผล (Interpretation): ครูควรต้อง “อ่านผล” การคัดกรอง DSPM/TDSI เป็น ²⁸ เพื่อให้ทราบว่าเด็กในความดูแลมีพัฒนาการสมวัย หรือมีด้านใดที่ต้อง “ส่งเสริม” เป็นพิเศษ ²⁹
3. ความรู้ในการวางแผนส่งเสริม (Intervention): เมื่อทราบผล ครูต้องรู้เทคนิคการจัดกิจกรรมในห้องเรียน ³⁰ หรือให้คำแนะนำผู้ปกครอง ³¹ เพื่อ “ส่งเสริม” พัฒนาการในด้านที่เด็กอาจมีความเสี่ยง (เช่น การใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก, การใช้ภาษา) ²⁹

นี่คือความหมายที่ลึกซึ้งของ “การประเมินเพื่อ…ความแตกต่างรายบุคคล” ⁸ คือการเชื่อมโยงการประเมินในห้องเรียน (AA) เข้ากับการคัดกรองมาตรฐาน (DSPM) เพื่อให้เด็กทุกคนได้รับการพัฒนาที่ตรงจุด ³³

---

ส่วนที่ 3: การวิเคราะห์สมรรถนะ (ข้อ 4.2) – กลไกเชิงระบบว่าด้วย ‘การประกันคุณภาพ’ (QA)

ในส่วนนี้ จะวิเคราะห์องค์ประกอบที่สองของมาตรฐานความรู้ (ข้อ 5(ก)(4)) ⁸ คือ “การประกันคุณภาพระดับการศึกษาปฐมวัย” และสมรรถนะที่เกี่ยวข้อง (ข้อ 6(ก)(3) และ 6(ข)(5)) ⁸ เพื่อตอบว่าครูต้อง “ทำ” อย่างไร

3.1 นิยาม “การประกันคุณภาพ” ในระดับชั้นเรียน

สมรรถนะด้าน “การประกันคุณภาพ” ⁸ มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นเพียงภาระงาน “เอกสาร” ที่ครูต้องจัดทำส่งผู้บริหารหรือหน่วยงานประเมินภายนอก ³⁴

อย่างไรก็ตาม ในบริบทของมาตรฐานวิชาชีพครูฉบับใหม่นี้ “การประกันคุณภาพ” (Quality Assurance – QA) หมายถึง “กระบวนการ” (Process) พัฒนาอย่างต่อเนื่องที่เกิดขึ้นในระดับชั้นเรียน ³⁵ โดยครูต้องมีสมรรถนะในการรับผิดชอบต่อผลลัพธ์การพัฒนาเด็ก ⁹ และต้องสามารถพิสูจน์ (Demonstrate) ได้ว่าเด็กในความดูแลมีพัฒนาการที่ดีขึ้นจริงตามมาตรฐานที่กำหนด ³

3.2 การประกันคุณภาพ = วงจร PDCA ในการปฏิบัติงานของครู

เมื่อวิเคราะห์สมรรถนะที่ข้อบังคับฯ 2568 กำหนด ⁸ เทียบกับหลักการบริหารคุณภาพ จะพบว่าสมรรถนะด้านการประกันคุณภาพ (QA) ที่คุรุสภากำหนด แท้จริงแล้วคือการกำหนดให้ครูต้องมี “สมรรถนะในการใช้วงจร PDCA” (Plan-Do-Check-Act) ในการทำงาน

วงจร PDCA หรือวงจรคุณภาพของเดมมิ่ง ³⁸ คือหัวใจของการบริหารคุณภาพในทุกองค์กร และมีงานวิจัยที่พิสูจน์แล้วว่า การนำ PDCA มาใช้ในการบริหารสถานศึกษาปฐมวัย ส่งผลให้ “คุณภาพการจัดประสบการณ์ของครูระดับปฐมวัยมีคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด” และ “ผลการประเมินพัฒนาการเด็ก…ผ่านเกณฑ์ตามที่กำหนด คิดเป็นร้อยละ 100” ⁵

เราสามารถจับคู่ (Mapping) สมรรถนะครูตามมาตรฐาน 2568 ⁸ เข้ากับวงจร PDCA ⁵ ได้ดังนี้:

P (Plan – วางแผน):

• สมรรถนะครู: “ใช้ความรู้ในการวางแผน…” [⁸, ข้อ 6(ก)(3)]

• การปฏิบัติ: ครูใช้ข้อมูลจากการประเมิน (C) ในรอบที่แล้ว มาวางแผนการจัดประสบการณ์ในรอบถัดไป

D (Do – ปฏิบัติ):

• สมรรถนะครู: “การจัดประสบการณ์การเรียนรู้” [⁸, ข้อ 6(ข)] และ “สังเกต บันทึก…” [⁸, ข้อ 6(ข)(5)]

• การปฏิบัติ: ครูลงมือจัดกิจกรรมตามแผน (P) และขณะเดียวกันก็เริ่มเก็บข้อมูล (สังเกต, บันทึก) ไปด้วย

C (Check – ตรวจสอบ):

• สมรรถนะครู: “…และประเมินอย่างเหมาะสม” [⁸, ข้อ 6(ก)(3)] และ “ประเมินพัฒนาการ…อย่างเป็นระบบ” [⁸, ข้อ 6(ข)(5)]

• การปฏิบัติ: นี่คือขั้นตอน “การประเมิน” (Assessment) ที่วิเคราะห์ในส่วนที่ 2 ครูรวบรวมข้อมูล (จาก D) มาวิเคราะห์และสรุปผลเทียบกับเป้าหมาย (P)

A (Act – ปรับปรุง):

• สมรรถนะครู: “…รวมถึงในการประกันคุณภาพการศึกษาระดับปฐมวัย” [⁸, ข้อ 6(ก)(3)]

• การปฏิบัติ: นี่คือหัวใจของ “การประกันคุณภาพ” ครูนำผลสรุป (C) มาสะท้อนคิด (Reflection) และดำเนินการปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่อง หรือพัฒนาต่อยอดจุดแข็ง ผลจากการ “Act” นี้จะกลายเป็นฐานข้อมูลสำหรับ “Plan” ในวงจรถัดไป ³

การวิเคราะห์นี้แสดงให้เห็นว่า “การประเมิน” (Assessment) และ “การประกันคุณภาพ” (QA) ไม่ใช่สองเรื่องที่แยกจากกัน “การประเมิน” คือขั้นตอน ‘Check’ ในขณะที่ “การประกันคุณภาพ” คือกระบวนการ ‘Act’ ที่นำไปสู่ ‘Plan’ ใหม่นั่นเอง

ดังนั้น มาตรฐานที่ 4 นี้ จึงเป็นการบังคับให้ครูปฐมวัยทุกคนต้องมีสมรรถนะของ “นักวิจัยเชิงปฏิบัติการในชั้นเรียน” (Classroom Action Researcher) โดยใช้ PDCA เป็นกรอบในการทำงานพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ²⁶

3.3 กรณีศึกษา: การประยุกต์ใช้ PDCA ในชั้นเรียนอนุบาล

เราสามารถเห็นภาพการทำงานนี้ชัดเจนขึ้นผ่านการวิเคราะห์รายงานการพัฒนาคุณภาพ (PDCA) ของครูอนุบาล 2 ⁶

• Plan: ครูวางแผน ⁶ ว่าจะศึกษาหลักสูตร, จัดกิจกรรมเน้นประสบการณ์ตรง (เช่น พาไปเรียนรู้ที่แปลงผัก), และวางแผน “ประเมินพัฒนาการเด็กตามสภาพจริง” (ข้อ 1.4)
• Do: ครูลงมือปฏิบัติ ⁶ ตามแผน เช่น ใช้สื่อ Smart TV, จัดกิจกรรมอาสาสมัคร, พานักเรียนไปเรียนรู้ภายนอก และเล่นน้ำ-ทราย (มีภาพถ่ายประกอบ)
• Check: ครูดำเนินการ “ตรวจสอบ” ⁶ โดยใช้เครื่องมือคือ “แบบประเมินพัฒนาการนักเรียน” (ข้อ 2.4) และสรุปผลว่าการจัดประสบการณ์บรรลุเป้าหมายในระดับ 5 (ดีเยี่ยม)
• Act: ครูนำผลการประเมิน (C) ไปสู่การ “ปรับปรุง” ⁶ โดยระบุในแผน (ข้อ 1.4) ว่าจะ “นำผลการประเมินพัฒนาการเด็กไปปรับปรุงการจัดประสบการณ์และพัฒนาเด็ก” ซึ่งเป็นการปิดวงจร QA และเตรียมพร้อมสำหรับวงจร Plan ถัดไป

ตารางที่ 3: การประยุกต์ใช้วงจร PDCA ในการประเมินและพัฒนาคุณภาพชั้นเรียนปฐมวัย ⁶

วงจร PDCA	การปฏิบัติงานของครู	การเชื่อมโยงกับมาตรฐาน 2568
P = Plan (วางแผน)	ครูศึกษาหลักสูตร วางแผนจัดประสบการณ์ (เช่น ใช้ Smart TV, กิจกรรมนอกห้อง) และวางแผนการประเมิน 6	ข้อ 6(ก)(3): “ใช้ความรู้ในการวางแผน…”
D = Do (ปฏิบัติ)	ครูจัดกิจกรรมตามแผน (สอน, พาไปแปลงผัก, เล่นทราย) และ “สังเกต” พฤติกรรมระหว่างทำกิจกรรม 6	ข้อ 6(ข): “การจัดประสบการณ์การเรียนรู้”
C = Check (ตรวจสอบ)	ครูใช้ “แบบประเมินพัฒนาการนักเรียน” 6 เพื่อรวบรวมข้อมูลและสรุปผล (ได้ระดับ 5)	ข้อ 6(ข)(5): “สังเกต บันทึกและประเมิน…อย่างเป็นระบบ”
A = Act (ปรับปรุง)	ครู “นำผลการประเมินพัฒนาการเด็กไปปรับปรุงการจัดประสบการณ์และพัฒนาเด็ก” 6 ซึ่งเป็นหัวใจของ QA	ข้อ 6(ก)(3): “…รวมถึงในการประกันคุณภาพการศึกษาระดับปฐมวัย”

---

ส่วนที่ 4: การสังเคราะห์และการนำไปใช้ – สมรรถนะในการใช้ข้อมูลสารสนเทศ (Data Literacy)

เมื่อครูมี “ความรู้” (ส่วนที่ 2) และ “สมรรถนะเชิงกระบวนการ PDCA” (ส่วนที่ 3) แล้ว ผลลัพธ์สุดท้ายที่มาตรฐานนี้ต้องการคือ การที่ครูมี “สมรรถนะในการใช้ข้อมูลสารสนเทศ” (Data Literacy) เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาในทุกระดับ

4.1 สมรรถนะในการปิดวงจรข้อมูล (Closing the Loop)

การประเมินที่ “เป็นระบบ” ⁸ จะสร้างข้อมูล (Data) จำนวนมหาศาล (เช่น บันทึกพฤติกรรม, แฟ้มผลงาน, ผล DSPM) สมรรถนะของครูคือการไม่ปล่อยให้ข้อมูลนั้น “ตาย” อยู่ในเอกสาร แต่ต้องนำข้อมูลมา “ปิดวงจร” (Closing the Loop) หรือนำไปใช้ประโยชน์

สมรรถนะ “การประเมินอย่างเป็นระบบ” (ข้อ 6(ข)(5)) ⁸ ของครูเพียง 1 คน สามารถสร้างผลกระทบ (Ripple Effect) ได้ 3 ระดับ:

ระดับที่ 1: การพัฒนาระดับชั้นเรียน (ครู)

ครูนำข้อมูลจากการประเมิน (C) มาใช้ในการ “Act” และ “Plan” (วงจร PDCA) 6 เพื่อ “ปรับปรุงการจัดประสบการณ์” 40 ข้อมูลนี้ช่วยให้ครูรู้ว่าแผนการสอนใดได้ผล แผนใดต้องปรับปรุง 41 และที่สำคัญที่สุดคือ ช่วยให้ครูสามารถออกแบบกิจกรรมที่ตอบสนองพัฒนาการและความแตกต่างของเด็กแต่ละคน (Differentiation) ได้อย่างแท้จริง 40

ระดับที่ 2: การพัฒนาระดับบ้าน (ผู้ปกครอง)

ครูนำข้อมูล (เช่น แฟ้มผลงาน, บันทึกพฤติกรรม) มาใช้เป็นเครื่องมือ “สื่อสาร” กับผู้ปกครอง 42 การสื่อสารนี้จะเปลี่ยนจากการบอกเล่า “ความรู้สึก” (เช่น น้องเก่งค่ะ) ไปเป็นการสื่อสารบน “ข้อมูลเชิงประจักษ์” (เช่น “จากบันทึกพฤติกรรม 3 ครั้งหลังสุด น้องสามารถรอคอย…ได้สำเร็จ”) การใช้ข้อมูลนี้ช่วยสร้างความร่วมมือ (Partnership) ที่เข้มแข็งระหว่างบ้านและสถานพัฒนาเด็ก 31 ในการส่งเสริมพัฒนาการเด็กอย่างเป็นเอกภาพ 27

ระดับที่ 3: การพัฒนาระดับนโยบาย (ระบบ)

ข้อมูลการประเมินพัฒนาการเด็กที่ครูรวบรวมอย่างเป็นระบบ 40 เมื่อถูกจัดเก็บและรายงานอย่างมีคุณภาพ (เช่น 43 แฟ้ม) 44 จะถูกส่งต่อไปยังผู้บริหาร, เขตพื้นที่, สพฐ., และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ข้อมูลสารสนเทศในระดับภาพรวมนี้ (Aggregated Data) จะกลายเป็นหลักฐานสำคัญสำหรับ “การวางแผนพัฒนาการจัดการศึกษาปฐมวัย” ในระดับนโยบายต่อไป 40

4.2 สรุป: ครูปฐมวัยในยุค 2568 ในฐานะ “ผู้สร้างข้อมูล” และ “ผู้นำการเปลี่ยนแปลง”

มาตรฐานที่ 4 ‘การประเมินและการประกันคุณภาพ’ ⁸ ไม่ใช่ภาระงานเอกสาร แต่คือการ “ยกระดับ” (Empower) บทบาทของครูปฐมวัย จากเดิมที่เป็นเพียง “ผู้สอน” หรือ “ผู้จัดประสบการณ์” (Instructor / Facilitator) ไปสู่การเป็น “ผู้วิเคราะห์และพัฒนาคุณภาพ” (Quality Analyst & Developer)

การที่ครูมีสมรรถนะนี้ จะทำให้การพัฒนาเด็กปฐมวัยในสถานศึกษา ถูกขับเคลื่อนด้วย “ข้อมูลเชิงประจักษ์” (Evidence-based Practice) ไม่ใช่ “ความคุ้นชิน” หรือ “ความรู้สึก” (Feeling-based) อีกต่อไป ซึ่งสอดคล้องกับมาตรฐานสากลในการพัฒนาเด็กและการประกันคุณภาพการศึกษา ³⁴

---

ส่วนที่ 5: บทสรุปและข้อเสนอแนะเชิงกลยุทธ์

5.1 สรุปนัยสำคัญของมาตรฐานที่ 4

การวิเคราะห์ข้อบังคับคุรุสภา พ.ศ. 2568 มาตรฐานย่อยที่ 5(ก)(4) “การประเมินและการประกันคุณภาพ” ⁸ สรุปได้ว่า นี่คือมาตรฐาน “หัวใจ” ที่เชื่อมโยงความรู้และสมรรถนะของครูเข้าด้วยกัน มาตรฐานนี้กำหนดให้ครูปฐมวัยยุคใหม่ต้องเป็น “ผู้ประเมิน” และ “ผู้ประกันคุณภาพ” ในคนเดียวกัน โดยมีเครื่องมือคือ “การประเมินตามสภาพจริง” (Authentic Assessment) และมีกระบวนการทำงานคือ “วงจรพัฒนาคุณภาพ (PDCA)”

5.2 ข้อเสนอแนะสำหรับครูปฐมวัย

1. พัฒนาทักษะ “Hard Skill” ด้านการประเมิน: ครูต้องฝึกฝนทักษะการสังเกตและการเขียน “บันทึกพฤติกรรม” (Anecdotal Records) ²⁰ โดยเน้นการแยก “ข้อเท็จจริง” ออกจาก “การตีความ” ²¹
2. เปลี่ยนภาระงานเป็นเครื่องมือ: เรียนรู้การจัดทำ “แฟ้มสะสมผลงาน” (Portfolios) ²³ ที่เน้นแสดง “ความก้าวหน้า” (Progress) ไม่ใช่ “ปริมาณ” และพิจารณาใช้เครื่องมือดิจิทัล (Digital Portfolios) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเก็บรวบรวมและสื่อสารกับผู้ปกครอง ⁴⁶
3. นำ PDCA มาใช้ในระดับบุคคล: นำวงจร PDCA ³⁸ มาใช้ในการวางแผนและสะท้อนคิดการสอนของตนเองในทุกสัปดาห์หรือทุกหน่วยการเรียนรู้

5.3 ข้อเสนอแนะสำหรับผู้บริหารสถานศึกษา

1. สร้างวัฒนธรรม PLC ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล: สร้าง “ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ” (PLC) ⁴⁷ ที่ไม่ใช่แค่การมาประชุม แต่เป็นการที่ครูนำข้อมูล (C) ที่ได้จากการประเมินเด็ก มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ วิเคราะห์ และร่วมกันวางแผน (A และ P) เพื่อพัฒนาการสอนในวงจรถัดไป
2. ลดภาระงาน เพิ่มเวลาสังเกต: ผู้บริหารต้องสนับสนุนการประกันคุณภาพโดยการ “ลดภาระงานเอกสาร” (Paperwork) ที่ซ้ำซ้อนหรือไม่จำเป็น เพื่อคืนเวลาให้ครูได้ทำหน้าที่สำคัญที่สุดตามมาตรฐาน คือ “สังเกต” เด็ก และ “วิเคราะห์” ข้อมูลจริง
3. สนับสนุนเครื่องมือ: จัดหาสื่อและอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการประเมินและการส่งเสริมพัฒนาการ เช่น อุปกรณ์ตามรายการ DSPM/DAIM ³⁰ หรือเทคโนโลยีสำหรับการทำ Digital Portfolios

5.4 ข้อเสนอแนะสำหรับสถาบันผลิตครู

1. ปรับหลักสูตรให้สอดคล้อง: หลักสูตรผลิตครูปฐมวัยต้องปรับปรุงให้สอดคล้องกับมาตรฐานใหม่ ⁴⁸ โดยเน้นการฝึกปฏิบัติจริง (Hands-on) ในวิชาการประเมินพัฒนาการ
2. เน้นสมรรถนะ ไม่ใช่ทฤษฎี: ต้องเปลี่ยนจากการ “สอนทฤษฎี” พัฒนาการและทฤษฎีการประเมิน ไปสู่การ “ฝึกสมรรถนะ” ให้นักศึกษาครูสามารถ “ทำ” Authentic Assessment ได้จริง สามารถเขียน Anecdotal Records ที่มีคุณภาพ และสามารถออกแบบ “การวิจัยในชั้นเรียน” (Classroom Action Research) โดยใช้กรอบ PDCA ได้อย่างคล่องแคล่ว ⁶

Works cited

1. ราชกิจจานุเบกษา (22 สิงหาคม 2568) เผยแพร่ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพ ครูปฐมวัย พ.ศ. 2568 – OBEC TV, accessed November 5, 2025, https://obectv.tv/news_detail/52
2. คุรุสภาชวนศึกษากฏหมายมาตรฐานวิชาชีพครูปฐมวัย 2568 ด่วน! “อมลวรรณ” เผยข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยมาตรฐานว… – วิทยุศึกษา, accessed November 5, 2025, http://www.moeradiothai.net/news/14/7519
3. ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ – ราชกิจจานุเบกษา, accessed November 5, 2025, https://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2561/E/235/T_0004.PDF
4. การประเมินตามสภาพจริง ครั้งที่ 3 – การประเมินพัฒนาการสำหรับเด็กปฐมวัย, accessed November 5, 2025, http://sagawanketwong.blogspot.com/p/blog-page_45.html
5. การพัฒนาการบริหารโรงเรียนด้วยวงจรคุณภาพเดม – วิทยาลัย สงฆ์ ลำพูน, accessed November 5, 2025, https://lpn.mcu.ac.th/mculpn/wp-content/uploads/2021/03/A-121-%E0%B8%84%E0%B9%80%E0%B8%93%E0%B8%A8-%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%93.pdf
6. รายงานการพัฒนาคุณภาพ (PDCA) – โรงเรียนราชประชานุเคราะห์15(เวียง …, accessed November 5, 2025, https://rpg15.ac.th/super/modules/adviser/file_upload/57030075/3691/3691_36911630889058.pdf
7. การ พัฒนา เด็ก ปฐมวัย พ.ศ. ๒๕๖๒ – พระราชบัญญัติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราล, accessed November 5, 2025, https://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2562/A/056/T_0005.PDF
8. ข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูปฐมวัย พ.ศ. ๒๕๖๘ – SobKroo.com, accessed November 5, 2025, https://www.sobkroo.com/articledetail.asp?id=14972
9. แนวทางการประเมินพัฒนาการเด็กปฐมวัย ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย ปี …, accessed November 5, 2025, https://www.rathakun.com/check-performance-for-childrens/
10. การประเมินการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็ก, accessed November 5, 2025, https://www.babybbb.com/article_detail.php?nid=273
11. ประเมินภาวะการเจริญเติบโตเด็ก 0-18 ปี มาตรฐานกรมอนามัย (Growth Monitoring DOH Standard), accessed November 5, 2025, https://www.chonlatit.com/student/screenGrowthDOH2.php
12. เอกสารโสตทัศน์ชุดวิชา การประเมินและสร้างเสริมพฤติกรรมเด็ก … – STOU, accessed November 5, 2025, https://www.stou.ac.th/offices/oes/upload/a-w%2021005%201-2%20pdf/a-w%20%2021005%20-%202%20(2-60).pdf
13. 60 นวทางการประเมินคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา – ระดับปฐมวัย, accessed November 5, 2025, https://www.thepsala.ac.th/uploads/files/SAR/%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%992561-%E0%B8%89%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%81%E0%B8%81.pdf
14. คู่มือดำเนินงาน – ประเมินพัฒนาการนักเรียน ที่จบหลักสูตรการ … – สำนัก วิชาการ, accessed November 5, 2025, https://academic.obec.go.th/web/images/media/1675829310_d_1.pdf
15. CULTIVATION OF MORALITY, ETHICS AND CIVILITY OF EARLY CHILDHOOD CHILDREN ACCORDING TO DESIRABLE THAI ATTRIBUTES – thaijo.org, accessed November 5, 2025, https://so04.tci-thaijo.org/index.php/JSBA/article/download/263800/179547/1091160
16. การประเมินตามสภาพจริง Authentic Assessment – Active Learning in Online Teaching, accessed November 5, 2025, https://active-learning.thailandpod.org/assessments/authentic-assessment
17. หลักการประเมินพัฒ นาการ – wbscport, accessed November 5, 2025, https://wbscport.dusit.ac.th/artefact/file/download.php?file=28448&view=6053&title=%E0%B8%A8%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3.pdf
18. การประเมินพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย – ห้องเรียนครูแมว, accessed November 5, 2025, http://www.nareumon.com/index.php?option=com_content&task=view&id=15&Itemid=46
19. การวัดและประเมินผลพัฒนาการเด็กปฐมวัย – ครูเชียงราย, accessed November 5, 2025, https://www.kruchiangrai.net/2019/10/28/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%9B%E0%B8%90%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%A2/
20. Collecting and Using Anecdotal Records – YouTube, accessed November 5, 2025, https://www.youtube.com/watch?v=ed9EqWXO4Jg
21. Ways to Make Anecdotal Records Effective and Useful – NAEYC, accessed November 5, 2025, https://www.naeyc.org/sites/default/files/globally-shared/downloads/PDFs/resources/pd/tips_for_anecdotal_records_2.pdf
22. Documenting Children Types/Samples Method 1: Anecdotal Records – Gateways to Opportunity, accessed November 5, 2025, https://www.ilgateways.com/docman-docs/faculty-resources/ece-resources/2726-oa-1-documenting-childrens-learning-examples
23. แฟ้มพัฒนางานของผู้เรียน (potrfolio) | PDF – Scribd, accessed November 5, 2025, https://www.scribd.com/doc/55802429/%E0%B9%81%E0%B8%9F-%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9C%E0%B8%B9-%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99-potrfolio
24. การทำแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio), accessed November 5, 2025, https://www.sf.ac.th/wp-content/uploads/2022/08/portfolio-2563.pdf
25. แผนภูมิการเฝ้าระวัง และส่งเสริมพัฒนาการเด็ก, accessed November 5, 2025, https://www.nktcph.go.th/attachments/article/177/%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%9D%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%20%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%81.pdf
26. การพัฒนากระบวนการตรวจคัดกรองพัฒนาการเด็กปฐ – ThaiJO, accessed November 5, 2025, https://he02.tci-thaijo.org/index.php/MDHJ/article/download/265560/181821/1087894
27. คู่มือแนวทางการดูแล เด็กปฐมวัยจากแม่วัยรุ่น (ฉบับปรับปรุง), accessed November 5, 2025, https://dmh.go.th/Download/Guide/file/%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%90%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99%20(%E0%B8%89%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%87).pdf
28. การใช้คู่มือคัดกรองและส่งเสริมพัฒนาการเด็ก – Thaichilddevelopment, accessed November 5, 2025, https://www.thaichilddevelopment.com/images/doc/14-03-57/5.pdf
29. DSPM คู่มือเฝ้าระวัง และส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย – Enfa Smart Club, accessed November 5, 2025, https://www.enfababy.com/blogs/brain/what-is-dspm
30. คุณลักษณะอุปกรณ์คัดกรองพัฒนาการเด็ก DSPM และ DAIM, accessed November 5, 2025, https://thaichilddevelopment.com/dbox/spec%20DSPM+DAIM.pdf
31. 176 บทบาทของผู้ปกครองในการประเมินพัฒนาการเด็ก – ThaiJO, accessed November 5, 2025, https://he02.tci-thaijo.org/index.php/MKHJ/article/download/258107/176675
32. คู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย(DSPM) – Thaichilddevelopment, accessed November 5, 2025, https://www.thaichilddevelopment.com/images/doc/%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%9D%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%90%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%A2(DSPM).pdf
33. คู่มือการคัดกรองและปรับพฤติกรรมเด็กที่มีอาการสมาธิสั้น ส าหรับผู้ปกครอง – Thaichilddevelopment, accessed November 5, 2025, https://www.thaichilddevelopment.com/images/doc/ADHD/%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%20ADHD/%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%9E%E0%B8%A4%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1-%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%9B%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87.pdf
34. (PDF) Thai Early Childhood Education Quality Assurance Assessor Competency Development Analysis – ResearchGate, accessed November 5, 2025, https://www.researchgate.net/publication/360609073_Thai_Early_Childhood_Education_Quality_Assurance_Assessor_Competency_Development_Analysis
35. แนวทางการประกันคุณภาพการศึกษาภายในของศูนย์ – ThaiJO, accessed November 5, 2025, https://so03.tci-thaijo.org/index.php/JMND/article/download/269160/178458
36. แนวทางพัฒนาการประกันคุณภาพการศึกษาสําหรับระดับชั7นปฐมวัย – มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี, accessed November 5, 2025, https://digital_collect.lib.buu.ac.th/dcms/files/57920486.pdf
37. มาตรฐานการศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน, accessed November 5, 2025, http://www.thaischool.in.th/_files_school/66010007/data/66010007_1_20230630-160257.pdf
38. PDCA คืออะไร ? ประโยชน์ และตัวอย่างการใช้เพื่อพัฒนาองค์กร – HREX.asia, accessed November 5, 2025, https://th.hrnote.asia/orgdevelopment/what-is-pdca-210610/
39. เทคนิคการประเมินเพื่อพัฒนาการเรียนรู้, accessed November 5, 2025, http://www.curriculumandlearning.com/upload/%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%9B%20concept%20QF_1426389005.pdf
40. รายงานผลการประเมินพัฒนาการนักเรียน ทีจบหลัก – สำนัก วิชาการ – OBEC, accessed November 5, 2025, https://academic.obec.go.th/web/images/document/1650945641_d_1.pdf
41. ชุดกิจกรรมการจัดประสบการณ์ – สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา, accessed November 5, 2025, http://academic.obec.go.th/web/images/media/1675829264_d_1.pdf
42. การสื่อสารเพื่อสร้างความเข้าใจระหว่างผู้ปกครองกับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย …, accessed November 5, 2025, https://www.366q-kids.com/knowledge/articles-knowledge-1550/
43. ผลของโปรแกรมส่งเสริมพัฒนาการเด็กสำหรับผู้ปกครองต่อความรู้และทักษะการประเมินพัฒนาการเด็กปฐมวัยของผู้ปกครอง | วารสารมหาวิทยาลัยคริสเตียน – ThaiJO, accessed November 5, 2025, https://he01.tci-thaijo.org/index.php/CUTJ/article/view/265655
44. การติดตามการคัดกรองพัฒนาการเด็กโดยคู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย เขตสุขภาพที่5, accessed November 5, 2025, https://www.hpc5.go.th/rcenter/_fulltext/20190521213956_4243/20190523164029_2672.pdf
45. What factors are associated with early childhood development in Thailand? A cross-sectional analysis using the 2022 Multiple Indicator Cluster Survey – PMC – PubMed Central, accessed November 5, 2025, https://pmc.ncbi.nlm.nih.gov/articles/PMC11552567/
46. The development of digital tools to assess and enhance the ethic children development in early childhood development centers, accessed November 5, 2025, https://www.asianonlinejournals.com/index.php/EDU/article/download/4950/2649/7445
47. การพัฒนาการจัดการศึกษาสู่คุณภาพปฐมวัย ด้วยรูปแบบ PDCA S7 Model – สำนักตรวจราชการ และติดตามประเมินผล – กระทรวงศึกษาธิการ, accessed November 5, 2025, https://sp.moe.go.th/web_sp_68/report_files/moe4725681_4_clip_680cfb8b635937.19594223.pdf
48. (ร่าง) หมวดวิชาชีพครู พ.ศ. 2568 สำหรับหลักสูตรครุศ – มหาวิทยาลัย ราชภัฏ ว ไลย อลงกรณ์, accessed November 5, 2025, https://council.vru.ac.th/kcfinder/upload65/files/spa%2010.2567/vara%2058/00%20%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%9E%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9.pdf

Comments

comments

Powered by Facebook Comments