แนวทางการเลือกหัวข้อวิจัยวิทยฐานะเชี่ยวชาญ (วPA): กลยุทธ์ “คิดค้น ปรับเปลี่ยน” เพื่อพิชิตใจกรรมการ สำหรับครู ศึกษานิเทศก์ และผู้บริหาร

ดร.อนุศร หงษ์ขุนทด
ศึกษานิเทศก์ วิทยฐานะศึกษานิเทศก์เชี่ยวชาญ สพม.นครราชสีมา
Musicmankob@gmail.com 

__________________________________

ส่วนที่ 1: บทนำ – ถอดรหัส “เชี่ยวชาญ”: นิยามที่แท้จริงของ “คิดค้น ปรับเปลี่ยน” (Introduction: Decoding “Expert” – The True Definition of “Invent & Transform”)

การคัดเลือกหัวข้อวิจัยเพื่อเสนอขอรับการประเมินวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ว.PA) ไม่ได้ขึ้นอยู่กับ “สิ่งที่ผู้วิจัยชอบ” หรือ “ความถนัดส่วนตัว” แต่เป็นกระบวนการที่ต้องตอบสนองต่อระดับการปฏิบัติที่คาดหวัง (Expected Performance Level) ที่ ก.ค.ศ. กำหนดไว้อย่างชัดเจน

1.1 การเปลี่ยนกระบวนทัศน์ (Paradigm Shift): จาก “ผู้แก้ปัญหา” สู่ “ผู้สร้างนวัตกรรม”

ในระดับวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ (Specialist) มาตรฐานมักจะเน้นการ “แก้ปัญหา” (Problem-Solving) ในบริบทของตนเอง ซึ่งมักจบลงด้วยการวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research: AR) อย่างไรก็ตาม สำหรับวิทยฐานะ “เชี่ยวชาญ” (Expert) ก.ค.ศ. ได้กำหนดคำสำคัญของความคาดหวังไว้อย่างท้าทายยิ่งขึ้น นั่นคือ “ริเริ่ม, พัฒนา, คิดค้น, ปรับเปลี่ยน, สร้างการเปลี่ยนแปลง” ¹

นี่คือการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพ (Qualitative Shift) ไม่ใช่เพียงเชิงปริมาณ (Quantitative Shift) การเลื่อนระดับครั้งนี้ไม่ใช่การทำวิจัยในชั้นเรียนเพิ่มขึ้น แต่คือการเปลี่ยน “ประเภท” ของงานวิจัยโดยสิ้นเชิง หัวใจของระดับเชี่ยวชาญคือการ “คิดค้น” (Invent) และ “ปรับเปลี่ยน” (Transform)

การที่ผลงานจะต้องสามารถ “สร้างการเปลี่ยนแปลง” และ “เป็นต้นแบบที่สามารถนำไปปรับใช้ได้” ¹ หมายความว่า ผู้วิจัยต้องสร้างสิ่งที่ ยังไม่มีอยู่เดิม (Invent) หรือ พัฒนาสิ่งเดิมให้เกิดผลกระทบใหม่ในบริบทที่ท้าทาย (Transform) และสิ่งที่สร้างขึ้นนั้นต้องสามารถ ถ่ายทอด (Transferable) ให้ผู้อื่นนำไปใช้ต่อได้ คุณสมบัตินี้สอดคล้องโดยตรงกับระเบียบวิธีวิจัยที่เรียกว่า “การวิจัยและพัฒนา” (Research and Development: R&D) ² ดังนั้น หัวข้อวิจัยระดับเชี่ยวชาญจึงต้องเป็นหัวข้อ R&D ที่มีเป้าหมายเพื่อ “สร้างนวัตกรรม” ไม่ใช่หัวข้อวิจัยเชิงประเมิน (Evaluation) หรือวิจัยเชิงบรรยาย (Descriptive) ทั่วไป

1.2 ผลงานที่คาดหวัง: “นวัตกรรม” ที่เป็นต้นแบบได้ (The Expected Output: A “Model” for Replication)

ลักษณะผลงานทางวิชาการที่ ก.ค.ศ. คาดหวังในระดับนี้คือ “งานวิจัยและพัฒนา (R&D) ที่สร้าง นวัตกรรม/รูปแบบ/กลยุทธ์ ใหม่” ¹ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างผลกระทบในระดับ “สร้างการเปลี่ยนแปลงในวงกว้าง” หรือ “เป็นแบบอย่างในระดับชาติ” ¹

“นวัตกรรม” ในบริบทนี้ ไม่ได้หมายถึงเพียงสื่อการสอน (เช่น สื่อ CAI, บทเรียนออนไลน์ ⁴) หรือการใช้ EdTech ⁵ เท่านั้น แต่หมายถึง “กระบวนการที่เป็นระบบ” (Systematic Process) หรือ “รูปแบบ” (Model) ที่ผู้วิจัยได้ “คิดค้น” ขึ้น ⁶

สิ่งนี้ได้รับการยืนยันในแนวทางการเขียนรายงานวิจัย ที่ระบุว่าในบทที่ 4 ผู้วิจัยต้องนำเสนอ “ตัวนวัตกรรม (รูปแบบ/กลยุทธ์) ที่พัฒนาขึ้น” และในบทที่ 5 (สรุป อภิปรายผล) ต้องแสดง “คุณูปการของงานวิจัยต่อวงวิชาชีพ” และให้ข้อเสนอแนะว่า “ผู้บริหารท่านอื่นจะสามารถนำนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นไปประยุกต์ใช้ได้อย่างไร” ¹

นี่คือเหตุผลที่หัวข้อวิจัยระดับเชี่ยวชาญที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ จึงมีคำสำคัญว่า “การพัฒนารูปแบบ…” (Development of a Model…) หรือ “การพัฒนากลยุทธ์…” (Development of a Strategy…) ⁹ เพราะ “รูปแบบ” คือนวัตกรรมที่สามารถถ่ายทอดเป็น “ต้นแบบ” ได้ตามที่ ก.ค.ศ. คาดหวัง

ส่วนที่ 2: เจาะลึก 5 เทคนิค “ลับคม” หัวข้อวิจัย: สร้างเกราะป้องกันก่อนพบกรรมการ (Deep Dive: 5 Techniques to Sharpen the Topic)

การมีแนวคิด R&D ที่ดีเป็นเพียงจุดเริ่มต้น เทคนิค 5 ประการต่อไปนี้ ที่จะช่วยเปลี่ยนแนวคิดนั้นให้เป็นหัวข้อวิจัยที่ “ผ่านฉลุย” โดยการตีความเทคนิคเหล่านี้ใหม่ในบริบทของ “วิทยฐานะเชี่ยวชาญ”

2.1 เทคนิคที่ 1: ตรวจสอบแหล่งข้อมูล (Tip #1: Verify Data Sources)

“ไอเดียดีแค่ไหนก็ไร้ค่า ถ้าไม่มีข้อมูลให้เก็บจริง” สำหรับการวิจัย R&D ระดับเชี่ยวชาญ คำถามนี้ลึกซึ้งกว่า “มีนักเรียนให้ทดลองไหม?”

การวิจัย R&D ไม่ใช่การทดลองครั้งเดียวจบ แต่เป็นกระบวนการต่อเนื่องหลายระยะ (Cycles) ตัวอย่างเช่น การพัฒนารูปแบบการบริหาร อาจแบ่งเป็น 4 ระยะ: 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐาน, 2) สร้างรูปแบบ, 3) ทดลองใช้รูปแบบ, และ 4) ประเมินผลการใช้รูปแบบ ² กระบวนการนี้อาจต้องใช้เวลา 1–2 ปีการศึกษา

ดังนั้น “การตรวจสอบแหล่งข้อมูล” จึงหมายถึง การประเมินความพร้อมขององค์กร (Organizational Readiness) ผู้บริหารที่ทำวิจัย R&D ต้องมั่นใจว่าครูและกรรมการสถานศึกษา ¹⁰ จะให้ความร่วมมือตลอดทั้ง 4 ระยะ ศึกษานิเทศก์ที่พัฒนารูปแบบการนิเทศ ⁹ ต้องมั่นใจว่ามีเครือข่ายโรงเรียนที่ยินดีเข้าร่วมกระบวนการนิเทศแบบใหม่ นี่คือการประเมิน “การสร้างพันธมิตร” (Securing Buy-in) สำหรับการวิจัยระยะยาว ไม่ใช่แค่การมีกลุ่มตัวอย่าง ¹¹

2.2 เทคนิคที่ 2 & 3: “ช่องว่าง” (The Gap) – หัวใจของ R&D (Tips #2 & #3: The “Gap” – The Heart of R&D)

การศึกษางานวิจัยล่าสุด (ภายใน 5 ปี) และการหาช่องว่าง (Research Gap) ¹² คือขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการสร้างหัวข้อวิจัยระดับเชี่ยวชาญ การทบทวนวรรณกรรม (Literature Review) ¹³ คือการสังเคราะห์ข้อมูลเพื่อ “กำหนดปัญหาของการวิจัย” และแสดงให้เห็น “ช่องว่าง” ¹³ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องนำเสนอในบทที่ 2 ของรายงานวิจัย ¹⁵

“Research Gap” ไม่ใช่แค่ข้อกำหนดทางวิชาการ แต่มันคือ “เหตุผล” (Justification) ที่ผู้วิจัยใช้ตอบกรรมการว่า ทำไม นวัตกรรมของคุณจึงจำเป็นต้องถูก “คิดค้น” (Invent)

คณะกรรมการจะถามคำถามที่สำคัญที่สุดว่า: “ทำไมคุณต้องสร้าง ‘รูปแบบ’ ใหม่นี้? ทำไมไม่ใช้รูปแบบเดิมที่พิสูจน์แล้ว (เช่น 5Es, CIPPA, หรือรูปแบบการบริหารของคนอื่น)?”

คำตอบที่ถูกต้อง ซึ่งมาจาก “Gap” คือ: “จากการทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบ ¹³ พบว่า รูปแบบเดิม (เช่น 5Es) ยังไม่สามารถ แก้ปัญหา [X] (เช่น การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ¹⁷) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในบริบท (เช่น การเรียนแบบ Blended Learning หรือการพัฒนาสมรรถนะแห่งอนาคต) จึงเกิด ‘ช่องว่าง’ (Gap) ที่จำเป็นต้อง ‘คิดค้น’ (Invent) รูปแบบใหม่ (เช่น ‘5Es-Plus Model’) เพื่อเติมเต็มช่องว่างนี้” ¹⁷

“Gap” คือเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุด มันเปลี่ยนหัวข้อวิจัยจาก “ความชอบส่วนตัว” ให้กลายเป็น “ความจำเป็นทางวิชาการ”

2.3 เทคนิคที่ 4: รู้ใจกรรมการ (Tip #4: Know the Committee)

“ถ้าคณะกรรมการผู้อ่านผลงานมีความรู้ในเรื่องนั้นอยู่แล้ว…โอกาสผ่านสูงกว่า” นี่คือการบริหารความเสี่ยง (Risk Management) แต่การประยุกต์ใช้ที่ดีกว่า ไม่ใช่การเลือกหัวข้อตาม ความชอบ ของกรรมการ แต่คือการเลือกหัวข้อที่ สอดคล้องกับนโยบายระดับชาติ (National Policy) ซึ่งกรรมการ (ซึ่งมักเป็นผู้ทรงคุณวุฒิระดับสูง ¹⁸) ต้องให้ความสำคัญ

วิทยฐานะระดับเชี่ยวชาญ คาดหวังผลกระทบที่สามารถ “มีอิทธิพลต่อนโยบาย” และเป็น “แบบอย่างในระดับชาติ” ¹ ผู้ทรงคุณวุฒิที่มาประเมิน มักเป็นผู้ที่เชื่อมโยงกับนโยบายการศึกษาหลัก (เช่น การพัฒนาสมรรถนะ ⁵, Active Learning ⁵, การใช้ EdTech ¹⁹, หรือ Thailand 4.0 ²⁰)

แทนที่จะเดาใจกรรมการ ให้ผู้วิจัย “อ้างอิง” (Cite) นโยบายเหล่านั้นในบทที่ 1 (ความเป็นมาและความสำคัญ) ¹⁵ ว่าเป็นเหตุผลสนับสนุน (Rationale) ในการสร้างนวัตกรรมนี้ หัวข้อวิจัยของคุณจะเปลี่ยนจาก “เรื่องส่วนตัว” เป็น “วาระแห่งชาติ” (National Agenda) ซึ่งกรรมการยากที่จะปฏิเสธ

2.4 เทคนิคที่ 5: วัดผลได้และเกี่ยวข้องจริง (Tip #5: Measurable and Relevant)

“หลีกเลี่ยงหัวข้อที่กว้างเกินไป เลือกสิ่งที่ชัด วัดได้” และชื่อเรื่องควรกระชับ สื่อความหมายชัดเจน ²¹ โชคดีที่โครงสร้างของหัวข้อ R&D บังคับ ให้หัวข้อชัดเจนโดยธรรมชาติ เพราะมันต้องระบุองค์ประกอบสำคัญ 3 ส่วน:

1. นวัตกรรม (ตัวแปรต้น หรือสิ่งที่ “คิดค้น”)
2. ผลลัพธ์ (ตัวแปรตาม หรือสิ่งที่ “วัดผลได้”)
3. กลุ่มเป้าหมาย/บริบท (สิ่งที่ “เกี่ยวข้องจริง”) ¹¹

โครงสร้างพื้นฐานของหัวข้อ R&D จึงเป็นดังนี้: “การพัฒนา [นวัตกรรม X]¹ เพื่อยกระดับ¹⁵ สำหรับ [กลุ่มเป้าหมาย Z]¹¹“

• [X] คือสิ่งที่ “คิดค้น” (เช่น รูปแบบการสอน ABC Model)
• คือสิ่งที่ “วัดผลได้” (เช่น สมรรถนะการคิดวิเคราะห์, คุณภาพการศึกษา)
• [Z] คือสิ่งที่ “เกี่ยวข้อง” (เช่น นักเรียนชั้น ม.1, ครูในสังกัด)

หากหัวข้อวิจัยขาดองค์ประกอบใดองค์ประกอบหนึ่งเหล่านี้ แสดงว่าหัวข้อนั้นยังไม่เป็น R&D ที่ดีพอสำหรับระดับเชี่ยวชาญ

ส่วนที่ 3: แนวทางการพัฒนาหัวข้อวิจัยจำเพาะตำแหน่ง (Role-Specific Topic Development Strategies)

แม้ว่าทั้งสามตำแหน่ง (ครู, ศึกษานิเทศก์, ผู้บริหาร) จะต้องทำวิจัย R&D ¹ แต่สิ่งที่แตกต่างกันไม่ใช่ กระบวนการ R&D (ซึ่งมี 4 ระยะคล้ายคลึงกัน ²) แต่คือ “โดเมนของปัญหา” (Problem Domain) และ “ประเภทของนวัตกรรม” (Type of Innovation) ที่ต้องสร้าง

• ครู (Teacher): โดเมนคือ ห้องเรียน นวัตกรรมคือ รูปแบบการจัดการเรียนรู้ (Learning Model) ²
• ศึกษานิเทศก์ (Supervisor): โดเมนคือ ครูและเครือข่าย นวัตกรรมคือ รูปแบบการนิเทศ (Supervision Model) ⁷
• ผู้บริหาร (Administrator): โดเมนคือ ระบบโรงเรียน นวัตกรรมคือ รูปแบบการบริหาร (Management Model) ⁸

3.1 สำหรับตำแหน่งครู: “นวัตกรผู้สร้างการเรียนรู้” (For the Teacher: “The Learning Innovator”)

การแปลความ “คิดค้น ปรับเปลี่ยน”: คือการ “ริเริ่ม คิดค้น ปรับเปลี่ยน การออกแบบการจัดการเรียนรู้” ²³ ครูต้องเปลี่ยนสถานะจาก “ผู้ใช้คู่มือ” หรือ “ผู้ใช้นวัตกรรม” ไปเป็น “ผู้สร้างรูปแบบการสอน” หรือ “ผู้สร้างนวัตกรรมการเรียนรู้” ²

กระบวนทัศน์การพัฒนา: คือ “การวิจัยและพัฒนา (R&D) เพื่อสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้” ² ที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลดีต่อการพัฒนาผู้เรียน ² เป้าหมายคือการสร้าง “รูปแบบการจัดการเรียนรู้” ⁶ หรือ “ชุดกิจกรรม” ¹⁷ ใหม่ๆ

กระบวนการ R&D ²:

1. วิเคราะห์สภาพปัญหา ของผู้เรียน (เช่น สังเกต, สัมภาษณ์ผู้เรียน/ผู้ปกครอง) ²
2. ออกแบบและพัฒนา นวัตกรรมการเรียนรู้ (เช่น รูปแบบการสอนใหม่, การใช้ AR ⁶, การบูรณาการ EdTech ⁵)
3. ทดลองใช้และปรับปรุงนวัตกรรม (Cycles of Inquiry)
4. ประเมินผลลัพธ์ ที่ผู้เรียน (เช่น สมรรถนะ, ผลสัมฤทธิ์) ²

ตัวอย่างแนวคิดการพัฒนาหัวข้อ (ครู):

1. ปัญหา (Problem): นักเรียนขาดทักษะการคิดสร้างสรรค์ในยุคดิจิทัล ¹⁷
2. ช่องว่าง (Gap): รูปแบบการสอนเดิม (เช่น SCAMPER ¹⁷) ยังไม่ตอบโจทย์การเรียนแบบ Blended Learning ที่ต้องใช้เทคโนโลยี
3. การคิดค้น (Invent): สร้าง “รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ” ที่ผสานเทคนิคการคิดสร้างสรรค์เข้ากับ Digital Tools ⁵
4. ผลลัพธ์ (Outcome): เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม

ตัวอย่างโครงสร้างชื่อหัวข้อวิจัย (ครู):

• “การวิจัยและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ [ชื่อโมเดล/เทคนิคที่คิดค้น]⁶ เพื่อส่งเสริม [สมรรถนะ/ทักษะสำคัญ เช่น การคิดขั้นสูง, การรู้เท่าทันสื่อ] สำหรับนักเรียน [ระดับชั้น/วิชา]”
• “การพัฒนาชุดกิจกรรม [ชื่อนวัตกรรม] โดยใช้⁶ เพื่อยกระดับ [ผลสัมฤทธิ์/ทักษะ] เรื่อง […]”
• “การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบบูรณาการ⁵ เพื่อพัฒนา [สมรรถนะ] สำหรับนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษ [ระบุประเภท]⁵“

3.2 สำหรับตำแหน่งศึกษานิเทศก์: “ผู้นำการเปลี่ยนแปลงเชิงวิชาการ” (For the Educational Supervisor: “The Academic Change Leader”)

การแปลความ “คิดค้น ปรับเปลี่ยน”: คือการ “คิดค้น พัฒนา ปรับเปลี่ยน… นวัตกรรมและงานวิจัย” ที่เผยแพร่และขยายผล จนนำไปสู่ “การเปลี่ยนแปลงในวงวิชาชีพ” ²² ศึกษานิเทศก์ต้องเปลี่ยนจาก “ผู้ติดตามประเมินผล” (Monitor) เป็น “ผู้นำการพัฒนาครู” (Coach/Developer) ²⁵

กระบวนทัศน์การพัฒนา: คือ “การพัฒนานวัตกรรมการนิเทศ” ⁷ เป้าหมายคือการสร้าง “รูปแบบการนิเทศ” (Supervision Model) ⁹ ที่มีประสิทธิภาพในการพัฒนาครู ⁷

กระบวนการ R&D ⁹:

1. ศึกษา ความต้องการการนิเทศ ของครูและผู้บริหาร ⁹
2. พัฒนา รูปแบบการนิเทศ (ซึ่งมีองค์ประกอบ เช่น วัตถุประสงค์, เนื้อหา, กระบวนการนิเทศ ⁷, และเครื่องมือ/สื่อดิจิทัล ⁷)
3. ทดลองใช้รูปแบบการนิเทศกับกลุ่มครู/โรงเรียน
4. ประเมินผลลัพธ์ ที่ครู (เช่น สมรรถนะการสอน) และ คุณภาพผู้เรียน ²²

ตัวอย่างแนวคิดการพัฒนาหัวข้อ (ศึกษานิเทศก์):

1. ปัญหา (Problem): ครูในสังกัดยังไม่สามารถจัดการเรียนรู้ฐานสมรรถนะ ⁵ ได้จริง แม้จะอบรมหลายครั้ง
2. ช่องว่าง (Gap): การนิเทศแบบเดิม (เช่น ไปเยี่ยมชม, อบรมรวม) ไม่ได้ผล ²⁰
3. การคิดค้น (Invent): สร้าง “รูปแบบการนิเทศแบบ [ชื่อโมเดลใหม่ เช่น ‘C-PLC Model’]” ที่เน้นการนิเทศแบบคลินิก (Clinical Supervision) ผสานกระบวนการ PLC ²⁹ ผ่านระบบออนไลน์ ⁷
4. ผลลัพธ์ (Outcome): เพื่อพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้ฐานสมรรถนะของครู

ตัวอย่างโครงสร้างชื่อหัวข้อวิจัย (ศึกษานิเทศก์):

• “การพัฒนารูปแบบการนิเทศแบบ [ชื่อโมเดล/กระบวนการที่คิดค้น เช่น การโค้ช, การนิเทศทางไกล]⁹ เพื่อพัฒนา [สมรรถนะครู/คุณภาพการสอน]⁷ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ […] สังกัด […]”
• “การวิจัยและพัฒนากลยุทธ์การนิเทศโดยใช้⁷ เพื่อยกระดับ] ของโรงเรียนในสังกัด […]”
• “การพัฒนารูปแบบการนิเทศการจัดการศึกษาเรียนรวม […]” ⁹

3.3 สำหรับตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา: “สถาปนิกผู้สร้างระบบ” (For the School Administrator: “The System Architect”)

การแปลความ “คิดค้น ปรับเปลี่ยน”: คือการ “คิดค้น ปรับเปลี่ยน” เพื่อ “สร้างการเปลี่ยนแปลงในสถานศึกษา” และ “พัฒนางานในสถานศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ” ¹ ผู้บริหารต้องเปลี่ยนจาก “ผู้จัดการ” (Manager) เป็น “ผู้นำการเปลี่ยนแปลง” (Change Leader) ¹

กระบวนทัศน์การพัฒนา: คือ “การพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษา” ⁸ เป้าหมายคือการสร้าง “รูปแบบ” หรือ “กลยุทธ์” ¹ ที่ทำให้โรงเรียน ทั้งระบบ (ไม่ใช่แค่ครูคนเดียว) มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ¹

กระบวนการ R&D ¹⁰: (นี่คือตัวอย่าง R&D 4 ระยะที่ชัดเจนที่สุด)

1. ระยะที่ 1: ศึกษาข้อมูลพื้นฐาน (สภาพปัจจุบัน, ความต้องการ) ¹⁰
2. ระยะที่ 2: สร้าง “รูปแบบการบริหาร” (ซึ่งมีองค์ประกอบ เช่น หลักการ, กระบวนการ, ปัจจัยป้อนเข้า, ผลผลิต, เงื่อนไขความสำเร็จ) ⁸
3. ระยะที่ 3: ทดลองใช้รูปแบบการบริหารในโรงเรียน ¹⁰
4. ระยะที่ 4: ประเมินผลการใช้รูปแบบ (ทั้งในเชิงกระบวนการและผลลัพธ์) ¹⁰

ตัวอย่างแนวคิดการพัฒนาหัวข้อ (ผู้บริหาร):

1. ปัญหา (Problem): ครูในโรงเรียนต่างคนต่างสอน ขาดวัฒนธรรม PLC ²⁹ โรงเรียนขาดนวัตกรรม
2. ช่องว่าง (Gap): การบริหารแบบเดิม (สั่งการ Top-down) ไม่เอื้อต่อการสร้างนวัตกรรมและความร่วมมือ
3. การคิดค้น (Invent): สร้าง “รูปแบบการบริหาร” โดยใช้แนวคิด “การบริหารแบบมีส่วนร่วม” (Participatory Management) ⁸ และ “โรงเรียนเป็นฐาน” (School-Based Management) ¹⁰
4. ผลลัพธ์ (Outcome): เพื่อสร้างวัฒนธรรมนวัตกรรมองค์กร (Innovative Organization Culture)

ตัวอย่างโครงสร้างชื่อหัวข้อวิจัย (ผู้บริหาร):

• “การพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษา [ชื่อโมเดล/แนวคิดที่คิดค้น]⁸ เพื่อสร้าง [ผลลัพธ์เชิงระบบ เช่น วัฒนธรรมนวัตกรรม, โรงเรียนคุณภาพสูง] ของโรงเรียน […]”
• “การวิจัยและพัฒนากลยุทธ์การบริหารโดยใช้¹ เพื่อยกระดับ [คุณภาพการศึกษา/สมรรถนะครู] ของสถานศึกษา […]”
• “การพัฒนารูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา ของโรงเรียน […]” ¹⁰

3.4 ตารางเปรียบเทียบ: เมทริกซ์การพัฒนานวัตกรรม R&D สำหรับวิทยฐานะเชี่ยวชาญ (วPA)

ตำแหน่ง (Position)	เป้าหมายหลักเชิงกลยุทธ์ (Strategic Goal)	โดเมนของปัญหา (Problem Domain)	ประเภทนวัตกรรม R&D (Type of Innovation)	คำสำคัญในหัวข้อ (Keywords)
ครู	ยกระดับคุณภาพ ผู้เรียน (Student Outcome)	ห้องเรียน (The Classroom)	รูปแบบการจัดการเรียนรู้, ชุดกิจกรรม, นวัตกรรมการสอน 2	“การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้”, “การพัฒนาชุดกิจกรรม”, “การพัฒนาบทเรียน”
ศึกษานิเทศก์	ยกระดับสมรรถนะ ครู (Teacher Competency)	เครือข่ายครู/โรงเรียน (The Network)	รูปแบบการนิเทศ, กระบวนการนิเทศ, เครื่องมือ/สื่อเพื่อการนิเทศ 7	“การพัฒนารูปแบบการนิเทศ”, “การพัฒนากลยุทธ์การนิเทศ”, “การพัฒนากระบวนการ”
ผู้บริหารสถานศึกษา	ยกระดับประสิทธิภาพ องค์กร (School System)	โรงเรียน (The Institution)	รูปแบบการบริหาร, กลยุทธ์การบริหาร, ระบบงาน 1	“การพัฒนารูปแบบการบริหาร”, “การพัฒนากลยุทธ์การบริหาร”, “การพัฒนาระบบ”

ส่วนที่ 4: เทคนิคการตั้งชื่อหัวข้อวิจัย: “การสื่อสารนวัตกรรม” ให้โดนใจกรรมการ (Topic Naming Techniques: “Communicating the Innovation”)

ชื่อหัวข้อวิจัยคือ “ป้ายโฆษณา” ชิ้นแรกที่กรรมการจะได้เห็น มันต้องสื่อสารเจตนา “คิดค้น ปรับเปลี่ยน” ทันที ²¹

4.1 พลังของคำกริยาและคำนาม (The Power of Verbs and Nouns)

เพื่อสะท้อนการวิจัย R&D และระดับ “เชี่ยวชาญ” ชื่อหัวข้อวิจัยต้องประกอบด้วยคำศัพท์เฉพาะ:

• คำกริยาที่ต้องใช้ (The Verb): “การพัฒนา…” (Development of…) หรือ “การวิจัยและพัฒนา…” (Research and Development of…) ¹ คำเหล่านี้สื่อว่านี่คืองาน R&D ไม่ใช่การวิจัยทั่วไป
• คำนามที่ต้องใช้ (The Noun): “รูปแบบ…” (Model…), “กลยุทธ์…” (Strategy…), หรือ “นวัตกรรม…” (Innovation…) ¹ คำเหล่านี้สื่อถึง “ผลผลิต” (Output) ที่เป็นต้นแบบได้ตามที่ ก.ค.ศ. คาดหวัง ¹

การใช้คำว่า “การศึกษา…” (A Study of…), “การวิเคราะห์…” (An Analysis of…) หรือ “การเปรียบเทียบ…” (A Comparison of…) เป็นคำกริยาหลักในหัวข้อระดับเชี่ยวชาญ คือสัญญาณอันตราย (Red Flag) ที่สื่อว่างานนั้นอาจไม่ถึงระดับ “คิดค้น” (Invent) แต่อเป็นเพียงการ “ศึกษา” (Study) สิ่งที่มีอยู่แล้ว

4.2 การ “สร้างแบรนด์” ให้นวัตกรรมของคุณ (Branding Your Innovation)

“การคิดค้น” (Invent) ที่เป็นรูปธรรมที่สุด คือการที่ผู้วิจัยสามารถ ตั้งชื่อ นวัตกรรมของตนเองได้ (Brand Name) ⁸ นี่คือหลักฐานที่ชัดเจนที่สุดว่าผู้วิจัยไม่ได้ “ใช้” นวัตกรรมของคนอื่น แต่ได้ “สร้าง” นวัตกรรมของตัวเอง

• หากครูใช้ “5Es Model” นั่นคือการ ประยุกต์ใช้ (Apply)
• แต่หากครูทำวิจัย R&D พบ “ช่องว่าง” (Gap) ของ 5Es และ “คิดค้น” “รูปแบบ 5Es-TECH” (โมเดลใหม่ที่ผสาน 5Es เข้ากับขั้นตอนการใช้เทคโนโลยีที่ชัดเจน) นั่นคือการ คิดค้น (Invent)

การใส่ “ชื่อแบรนด์” นี้ลงในหัวข้อวิจัย ²¹ คือการสื่อสาร “ความใหม่” (Novelty) ³⁰ และ “การคิดค้น” ¹ ให้คณะกรรมการทราบตั้งแต่แรกเห็น

• ตัวอย่างหัวข้อที่อ่อน (ระดับชำนาญการ): “การใช้เทคนิค Active Learning ⁵ เพื่อพัฒนาการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน”
• ตัวอย่างหัวข้อที่แข็ง (ระดับเชี่ยวชาญ): “การวิจัยและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ ‘DYNAMIC’ โดยใช้แนวคิด Active Learning ⁵ ผสาน Gamification ⁵ เพื่อส่งเสริมสมรรถนะการคิดวิเคราะห์และการสร้างนวัตกรรม”

4.3 โครงสร้างชื่อที่สมบูรณ์ (The Complete Title Structure)

จากการสังเคราะห์ ¹ โครงสร้างชื่อหัวข้อวิจัย R&D ระดับเชี่ยวชาญที่สมบูรณ์ ควรประกอบด้วย:

[การกระทำ (Verb)] + [นวัตกรรม/แบรนด์ (Invention)] + [แนวคิด/เทคโนโลยีที่ใช้] + [วัตถุประสงค์/ผลลัพธ์ (Outcome)] +

• ตัวอย่าง (ผู้บริหาร): “การพัฒนารูปแบบการบริหาร ¹⁰ โดยใช้แนวคิด [การบริหารแบบมีส่วนร่วม]⁸ เพื่อสร้าง [วัฒนธรรมนวัตกรรม] ของ [โรงเรียน…]”
• ตัวอย่าง (ครู): “การวิจัยและพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ¹⁷ โดยใช้⁵ เพื่อส่งเสริม [ทักษะการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์] สำหรับ [นักเรียนชั้น…]”

บทสรุป: รายการตรวจสอบ (Checklist) หัวข้อวิจัยขั้นสุดท้ายก่อนการตัดสินใจ

ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกหัวข้อวิจัยเพื่อเสนอขอวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ให้ใช้รายการตรวจสอบ 6 ข้อนี้ เพื่อประเมินความพร้อมของหัวข้อ:

1. Check 1: สะท้อน “Invent & Transform” หรือไม่? ¹

• ( ) หัวข้อของฉันเป็นการ “สร้าง” สิ่งใหม่ (เช่น รูปแบบ, กลยุทธ์) หรือเป็นแค่ “การใช้” หรือ “การศึกษา” สิ่งที่มีอยู่แล้ว?

2. Check 2: เป็น R&D หรือไม่? ¹

• ( ) หัวข้อของฉันมีคำว่า “การพัฒนา…” หรือ “การวิจัยและพัฒนา…” เป็นคำกริยาหลักหรือไม่? ¹
• ( ) ฉันวางแผนวิจัยเป็น 4 ระยะ (ศึกษา Gap, สร้าง, ทดลอง, ประเมิน) ใช่หรือไม่? ¹⁰

3. Check 3: มี “Gap” ทางวิชาการรองรับหรือไม่? ¹²

• ( ) ฉันสามารถอ้างอิงงานวิจัย 5 ปีล่าสุด และชี้ชัดได้ว่า “ช่องว่าง” (Gap) ที่ไม่มีใครทำคืออะไร? (ทำไมต้องสร้างสิ่งนี้?)

4. Check 4: ผลลัพธ์คือ “ต้นแบบ” หรือไม่? ¹

• ( ) ผลงานของฉันจะออกมาเป็น “รูปแบบ” (Model) หรือ “คู่มือ” ¹ ที่โรงเรียนอื่น/คนอื่น สามารถนำไปปรับใช้ได้จริงหรือไม่?

5. Check 5: ตรงตามมาตรฐานตำแหน่งหรือไม่? ⁶

• ( ) (ครู) หัวข้อของฉันมุ่งพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ ⁶ หรือไม่?
• ( ) (ศน.) หัวข้อของฉันมุ่งพัฒนารูปแบบการนิเทศ ⁷ หรือไม่?
• ( ) (ผู้บริหาร) หัวข้อของฉันมุ่งพัฒนารูปแบบการบริหาร ¹⁰ หรือไม่?

6. Check 6: วัดผลได้และสร้างการเปลี่ยนแปลงหรือไม่? ¹

• ( ) หัวข้อของฉันระบุ “ผลลัพธ์” (ตัวแปรตาม) ที่จะถูกยกระดับอย่างชัดเจนหรือไม่? (เช่น สมรรถนะ, คุณภาพการศึกษา)

Works cited

1. แนวทางการสังเคราะห์และพัฒนางานวิจัยเพื่อเลื่อนวิทยฐานะเชี่ยวชาญ …, accessed November 10, 2025, https://krukob.com/web/news-128/
2. การวิจัยและพัฒนา(R&D)ที่ใช้ในการเลื่อนวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ(คศ.4), accessed November 10, 2025, https://www.xn--12co8bkb4ccba6b3geffwj63b.com/r-and-d-for-expert-teacher-promotion/
3. research and development (r&d) method as a model design in educational research and its alternatives – ResearchGate, accessed November 10, 2025, https://www.researchgate.net/publication/365669215_RESEARCH_AND_DEVELOPMENT_RD_METHOD_AS_A_MODEL_DESIGN_IN_EDUCATIONAL_RESEARCH_AND_ITS_ALTERNATIVES
4. ตัวชี้วัดผลการปฏิบัติงาน ตามเกณฑ์วPA ( ว9/2564 ) – ::: PKW :::, accessed November 10, 2025, https://www.pkw.ac.th/pkw/documents/person/pa92564.pdf
5. แบ่งปันไอเดียสร้างห้องเรียนสมรรถนะตามเกณฑ์ วPA เส้นทางสู่ครูเชี่ยวชาญ วPA – Starfishlabz, accessed November 10, 2025, https://www.starfishlabz.com/blog/1275-%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%93%E0%B8%91%E0%B9%8C-%E0%B8%A7pa-%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%8D-%E0%B8%A7pa
6. เทคนิคการเขียนรายงานการวิจัยเพื่อการพัฒนาและสร้างนวัตกรรม ในระดับเชี่ยวชาญ », accessed November 10, 2025, https://krukob.com/web/dpa-59/
7. แนวทางการพัฒนานวัตกรรมการนิเทศ สำหรับศึกษานิเทศก์ » – Digital Learning Classroom, accessed November 10, 2025, https://krukob.com/web/sv-10/
8. การพัฒนารูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมในโรงเ – สพป.นครศรีธรรมราช เขต 3, accessed November 10, 2025, http://www.nst3.go.th/wp-content/uploads/2022/01/64-10-01-2.%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1.pdf
9. การพัฒนารูปแบบการนิเทศการจัดการศึกษาเรียนรวมใน … – ThaiEdResearch, accessed November 10, 2025, http://www.thaiedresearch.org/home/paperview/3532/?
10. ชื่อผลงาน การพัฒนารูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา – องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์, accessed November 10, 2025, https://www.kalasin-pao.go.th/pao/userfiles/file/pop/pop4/%E0%B9%80%E0%B8%9C%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B9%88%20%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%9B%20%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%88.pdf
11. วิธีตั้งชื่อเรื่องวิจัยให้โดดเด่นและน่าสนใจ: เคล็ดลับการตั้งชื่อหัวข้อวิจัยอย่างมืออาชีพ, accessed November 10, 2025, https://www.researchcom.org/post/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%88-%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%9E
12. Research Gap คืออะไร และมีประโยชน์อย่างไร – รับทำวิจัย, accessed November 10, 2025, https://www.xn--12co8bkb4ccba6b3geffwj63b.com/what-is-a-research-gap/
13. “การทบทวนวรรณกรรม” รากฐานแห่งคุณภาพของงานวิ, accessed November 10, 2025, https://mac.ru.ac.th/wp-content/uploads/2018/05/%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%881-%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1-power-point.pdf
14. เทคนิคการทบทวนวรรณกรรม (Literature Review) สำหรับนักศึกษา – รับทำโปรเจค, accessed November 10, 2025, https://www.makewebproject.com/article/Summary-of-Literature-Reviews-and-Related-Research-for-Students
15. ตัวอย่างการเขียน บทที่ 2 เพื่อรายงานผลงานทางวิชาการครูเชี่ยวชาญ », accessed November 10, 2025, https://krukob.com/web/research-2/
16. สรุปแนวทางการเขียนรายงานวิจัย R&D ในระดับวิทยฐานะเชี่ยวชาญ » – Digital Learning Classroom, accessed November 10, 2025, https://krukob.com/web/research-16/
17. การวิเคราะห์อภิมานงานวิจัยด้านนวัตกรรมการพ – ThaiJO, accessed November 10, 2025, https://he02.tci-thaijo.org/index.php/Veridian-E-Journal/article/download/121565/100180/353729
18. ผลงาน ครู คศ.4 – Trick2Pass, accessed November 10, 2025, https://trick2pass.com/teacher_ks4/
19. คิดค้นและปรับเปลี่ยน โจทย์สำคัญ ครูเชี่ยวชาญ วPA – Starfishlabz, accessed November 10, 2025, https://www.starfishlabz.com/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B9%82%E0%B8%AD/524-%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%99-%E0%B9%82%E0%B8%88%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%8D-%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%8D-%E0%B8%A7pa
20. รูปแบบการนิเทศการศึกษาของศึกษานิเทศก์สังกั – thaijo.org, accessed November 10, 2025, https://so05.tci-thaijo.org/index.php/RJPJ/article/download/270017/181429/1085502
21. การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัยและพัฒนา หลักการ, accessed November 10, 2025, https://spd.moph.go.th/wp-content/uploads/2022/08/2.2_1.pdf
22. แนวทางการดำเนินการ (ว.PA) ตำแหน่งศึกษานิเทศก์ – jt2554 – หน้าหนังสือ 13 – PubHTML5, accessed November 10, 2025, https://pubhtml5.com/jibv/kjih/%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3_%28%E0%B8%A7.PA%29_%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B8%81%E0%B9%8C/13
23. คู่มือ การดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการปร, accessed November 10, 2025, https://www.latyao.ac.th/ita2565/o27/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%99.pdf
24. คู่มือการเปลี่ยนผ่าน, accessed November 10, 2025, https://www.tsn.ac.th/web/wp-content/uploads/2022/08/31651/%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9-%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A7.17-%E0%B8%A721-%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B9%88-%E0%B8%A7.PA_.pdf
25. การพัฒนาศึกษานิเทศก์สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเพื่อรองรับหลักสูตรฐานสมรรถนะ และการ – DSpace at Silpakorn University, accessed November 10, 2025, http://ithesis-ir.su.ac.th/dspace/bitstream/123456789/5385/1/61252918.pdf
26. เรื่อง การพัฒนารูปแบบการนิเทศยกระดับคุณภาพการศึกษาระดับประถมศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 3 – เว็บไซต์กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา, accessed November 10, 2025, https://spv.ssk3.go.th/wp-content/uploads/2024/11/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%B8-1.pdf
27. หัวข้อ เส้นทางสู่ผู้บริหารเชี่ยวชาญ วPA – YouTube, accessed November 10, 2025, https://www.youtube.com/watch?v=TU2D3Ta-DpU
28. การพัฒนารูปแบบผู้บริหารสถานศึกษามืออาชีพใน – ThaiJO, accessed November 10, 2025, https://so16.tci-thaijo.org/index.php/JOME/article/download/571/428/3340
29. ความเชื่อมโยงระหว่างการวิจัยในชั้นเรียนกับข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA) ตอนที่ 2 – YouTube, accessed November 10, 2025, https://www.youtube.com/watch?v=furcBgtZd18
30. ตัวอย่างการเขียนหัวข้อการวิจัยที่น่าสนใจจากหลากหลายสาขา – รับทำวิจัย …, accessed November 10, 2025, https://www.xn--12co8bkb4ccba6b3geffwj63b.com/examples-of-writing-interesting-research-topics-from-various-fields/

Comments

comments

Powered by Facebook Comments