รายงานการวิจัยผลการทดลองใช้กรอบสมรรถนะผู้เรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 4-6 สำหรับหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ผมได้นั่งศึกษา รายงานการวิจัยผลการทดลองใช้กรอบสมรรถนะผู้เรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 4-6 สำหรับหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน และเห็นว่าเป้นประโยชน์กับวงการศึกษา จึงได้สรุปและคัดลอกบางส่วนบางตอนที่สำคัญ มานำเสนอเป้นแนวทางในการจัดการเรียนรู้ของทุกท่านในอนาคตซึ่งน่าสนใจมาก ๆ หากท่านสนใจสามารถไปหาอ่านเพิ่มเติมได้นะครับ ขอบคุณเอกสารปละภาพจาก สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ

ที่มา: (สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา, 2564: 3)

ที่มา: (สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา, 2564: 6)

ที่มา: (สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา, 2564: 98)
ข้อเสนอในการขับเคลื่อนการนากรอบสมรรถนะหลักของผู้เรียนสาหรับหลักสูตรการศึกษา ขั้นพื้นฐานสู่การปฏิบัติ
ข้อสรุปของข้อเสนอเชิงนโยบายในการขับเคลื่อนการนำกรอบสมรรถนะหลักของผู้เรียน สำหรับหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานสู่การปฏิบัติมี 5 ประการตามเงื่อนไขสำคัญของคำว่า HOUSE (สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา, 2564: ซ-ฎ) ดังนี้

ที่มา: (สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา, 2564: 232)
ข้อเสนอในการขับเคลื่อนการนากรอบสมรรถนะหลักของผู้เรียนสาหรับหลักสูตรการศึกษา ขั้นพื้นฐานสู่การปฏิบัติ
H – Human Resource: ทรัพยากรครู บุคลากรทางการศึกษาเป็นพื้นฐานที่สาคัญในการพัฒนาสมรรถนะผู้เรียน
ดังนั้น การบริหารจัดการและพัฒนาบุคลากรทางการศึกษาเพื่อให้พร้อมต่อการจัดการศึกษาฐานสมรรถนะจึงเป็นสิ่งสำคัญ และการพัฒนาครูควรดำเนินการต่อเนื่องทั้งระบบโดยอาศัยความร่วมมือ จากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการผลิตและพัฒนาครู ตั้งแต่
-
- นักศึกษาครู (Preservice Teacher)
- ครูใหม่ (Novice Teacher) และ
- ครูประจำการ (Preservice Teacher)
ผ่านแนวคิดชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ หรือ Professional Learning Community: PLC
โดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (school – based)
เพื่อให้เกิดการสนับสนุนและสร้างแรงผลักดันจากเพื่อนครูร่วมวิชาชีพ ทำให้ครูเกิดการพัฒนาทางวิชาชีพอย่างต่อเนื่องในฐานะสมาชิกชุมชนการเรียนรู้ ทางวิชาชีพร่วมกับนักการศึกษา อาจารย์จากสถาบันฝึกหัดครูในพื้นที่ ศึกษานิเทศก์ ผู้บริหาร
O – Objective: เป้าหมายในการพัฒนาสมรรถนะของผู้เรียนที่ชัดเจน
จะช่วยให้หน่วยงานในกากับทั้งระดับประเทศ ระดับพื้นที่ บุคลากรที่เกี่ยวข้อง ครู ผู้บริหารสถานศึกษา เห็นภาพเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียนสอดคล้องตรงกัน ทาให้การนาหลักสูตรไปใช้ การออกแบบการเรียนการสอนฐานสมรรถนะ รวมทั้ง การประเมินสมรรถนะของผู้เรียนเกิดขึ้นอย่างแท้จริง สอดคล้องตามพัฒนาการและความต้องการของผู้เรียน รวมทั้งบริบทของชุมชนสังคม
U – Understanding: มุ่งสร้างความเข้าใจให้ตรงกันทั้งด้านหลักสูตรฐานสมรรถนะ การจัดการเรียนการสอนฐานสมรรถนะ การวัดและประเมินสมรรถนะ รวมทั้งจัดเตรียมสื่อและแหล่งการเรียนรู้ที่ครูสามารถใช้ในการพัฒนาสมรรถนะให้กับผู้เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยสื่อสารสร้างความเข้าใจด้วยรูปแบบ ที่ทันสมัย เข้าถึงง่าย หลากหลายช่องทาง และใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง ให้เหมาะสมกับลักษณะการเข้าถึงข้อมูล ความคุ้นชิน และแนวทางการเรียนรู้ทำความเข้าใจที่สอดคล้องตามช่วงวัยของครู ผู้บริหาร บุคลากร ทางการศึกษา ผู้ปกครอง ชุมชน รวมทั้งผู้เรียน เมื่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายทราบถึงความคาดหวัง หรือเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียนตรงกัน จะทำให้เกิดนิเวศการศึกษาฐานสมรรถนะที่แท้จริง
S – Simplify: การจัดการศึกษาฐานสมรรถนะเป็นการพัฒนาสมรรถนะให้กับผู้เรียนโดยยึดโยงกับ วิถีชีวิตของผู้เรียน
การนำหลักสูตรไปใช้จึงควรเป็นสิ่งเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน ลดภาระงานครู และบุคลากร ทุกฝ่ายในแง่ของผลผลิตเอกสาร
ทั้งนี้ควรใช้การประเมินเพื่อการเรียนรู้ (Assessment for Learning) เพื่อให้ครูเกิดการเรียนรู้ร่วมกับผู้เรียน รวมทั้งสามารถประเมินความเหมาะสม จุดดี จุดที่ควรปรับปรุง เกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาสมรรถนะผู้เรียนที่ตนได้ดาเนินการ และสามารถใช้เป็นข้อมูลสะท้อนผลการใช้หลักสูตร ในระดับชั้นเรียนเพื่อให้ผู้บริหารหรือหน่วยงาน และบุคลากรที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อการพัฒนาหลักสูตร ฐานสมรรถนะระดับท้องถิ่น หรือระดับพื้นที่สามารถใช้ในการปรับปรุงพัฒนาหลักสูตรฐานสมรรถนะระดับพื้นที่ หรือระดับสถานศึกษาต่อไป
E – Empower: ควรหนุนเสริมเติมพลัง ให้อิสระแก่สถานศึกษา ครู ผู้บริหาร ในการออกแบบหลักสูตร การจัดการเรียนการสอน รวมทั้งการประเมินสมรรถนะของผู้เรียนที่สอดคล้องกับบริบทชุมชน ท้องถิ่น และชีวิตจริงของผู้เรียน
โดยปลดล็อค “โครงสร้างการบริหารงานวิชาการและการจัดการเรียน การสอน”
ซึ่งเป็นเสมือนกรอบเกณฑ์ที่ทำให้สถานศึกษาขาดอิสระในการดำเนินงานเพื่อพัฒนาสมรรถนะผู้เรียน
การกระจายอานาจให้กับสถานศึกษาอย่างแท้จริงได้ จำเป็นต้องสร้างความมั่นใจให้แก่ครู ผู้เกี่ยวข้อง ผ่านองค์ความรู้ในลักษณะตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จ และเงื่อนไขต่าง ๆ และตัวอย่างที่ไม่ประสบความสำเร็จ อาจมีข้อบกพร่อง ข้อจำกัด และแนวทางแก้ไข หรือข้อเสนอแนะในการปรับปรุงแก้ไข
ตัวอย่างองค์ความรู้เหล่านี้ (Curriculum Exemplars) อยู่บนพื้นฐานของความไว้วางใจซึ่งกันและกันของครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยมีความเชื่อในศักยภาพและการมุ่งมั่นพัฒนาตนเองของทุกฝ่าย
Comments
Powered by Facebook Comments