แผนแม่บทเชิงยุทธศาสตร์กับการพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมสำหรับผู้อำนวยการเชี่ยวชาญ (ว 10/2564)
แผนแม่บทเชิงยุทธศาสตร์กับการพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมสำหรับผู้อำนวยการเชี่ยวชาญ (ว 10/2564)
ดร.อนุศร หงษ์ขุนทด
ศึกษานิเทศก์ วิทยฐานะศึกษานิเทศก์เชี่ยวชาญ สพม.นครราชสีมา
Musicmankob@gmail.com
__________________________________
ส่วนที่ 1: การถอดรหัสโจทย์หลัก: “คิดค้น ปรับเปลี่ยน” (Invent & Transform)
การเสนอขอเลื่อนวิทยฐานะผู้อำนวยการเชี่ยวชาญ ภายใต้หลักเกณฑ์ ว 10/2564 1 ไม่ใช่เพียงการรวบรวมผลงานที่ปฏิบัติมาในอดีต แต่เป็นกระบวนการพิสูจน์เชิงประจักษ์ถึงความสามารถในการเป็น “ผู้นำการเปลี่ยนแปลง” ในระดับที่สูงกว่ามาตรฐาน การทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงความคาดหวังของคณะกรรมการประเมิน (ก.ค.ศ.) คือกุญแจดอกแรกและดอกที่สำคัญที่สุด
1.1 มุมมองของกรรมการ: นิยามมาตรฐาน “Invent & Transform”
หลักเกณฑ์ ว 10/2564 ได้กำหนด “ระดับการปฏิบัติที่คาดหวัง” (Expected Level of Practice) ไว้อย่างชัดเจนสำหรับแต่ละวิทยฐานะ.2 สำหรับตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา วิทยฐานะ “เชี่ยวชาญ” (Expert) ถูกผูกโยงกับคำว่า “คิดค้น ปรับเปลี่ยน” (Invent & Transform).2
นี่คือการวิเคราะห์ความหมายที่แท้จริงของคำสองคำนี้จากมุมมองของกรรมการประเมิน:
1. “คิดค้น” (Invent): ภาระการสร้างองค์ความรู้ใหม่
คำว่า “คิดค้น” มีความหมายสูงกว่า “การพัฒนา” (Improve) หรือ “การประยุกต์ใช้” (Apply) ที่คาดหวังในระดับชำนาญการพิเศษ.3 การ “คิดค้น” ในบริบทนี้ หมายถึง การที่ผู้อำนวยการต้องสามารถสร้างสรรค์ “นวัตกรรม” (Innovation) ทางการบริหารขึ้นมาใหม่.5
นวัตกรรมนี้ไม่สามารถเป็นการนำรูปแบบ (Model) หรือทฤษฎี (Theory) ที่มีอยู่เดิมมาใช้ตรงๆ แต่ต้องเป็นการ “สังเคราะห์” (Synthesis) แนวคิด ทฤษฎี หรือกระบวนการต่างๆ จนเกิดเป็นผลผลิตใหม่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ (Novelty).5 ผลผลิตนี้มักปรากฏในรูปของ:
- รูปแบบการบริหาร (Administration Model): เช่น รูปแบบการบริหารโรงเรียน, รูปแบบการนิเทศภายใน.6
- กลยุทธ์การบริหาร (Management Strategy): เช่น กลยุทธ์การพัฒนาผลสัมฤทธิ์, กลยุทธ์การบริหารเครือข่าย.8
- ระบบงาน (System): เช่น ระบบการประกันคุณภาพภายในรูปแบบใหม่, ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่บูรณาการเทคโนโลยี.
การ “คิดค้น” ต้องถูกพิสูจน์โดยการทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบ (Systematic Literature Review) เพื่อชี้ให้เห็น “ช่องว่าง” (Research Gap) ที่นวัตกรรมนี้เข้าไปเติมเต็ม.10
2. “ปรับเปลี่ยน” (Transform): ภาระการพิสูจน์ผลกระทบ
คำว่า “ปรับเปลี่ยน” คือหลักฐานเชิงประจักษ์ของการ “Invent”. หาก “คิดค้น” คือการสร้างเครื่องมือใหม่ “ปรับเปลี่ยน” คือการพิสูจน์ว่าเครื่องมือนั้นใช้งานได้จริงและก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ.2
การเปลี่ยนแปลงนี้ต้องเกิดขึ้นในหลายระดับ:
- ระดับสถานศึกษา: นวัตกรรมนั้นต้องสามารถยกระดับคุณภาพของสถานศึกษาได้อย่างเป็นระบบ เช่น ผลสัมฤทธิ์ผู้เรียนสูงขึ้น, สมรรถนะครูดีขึ้น, วัฒนธรรมองค์กรเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น.2
- ระดับวงวิชาชีพ: นี่คือหัวใจสำคัญของวิทยฐานะเชี่ยวชาญตามเกณฑ์ ว 10/2564.1 นวัตกรรมที่ “คิดค้น” ขึ้น ต้องไม่จำกัดการใช้งานอยู่เพียงโรงเรียนของตนเอง แต่ต้องมีศักยภาพในการ “ขยายผล” (Replicable) และ “สร้างการเปลี่ยนแปลงในวงวิชาการและวงวิชาชีพ”.1 กล่าวคือ ผู้อำนวยการท่านอื่นต้องสามารถนำนวัตกรรมนี้ไปปรับใช้และเห็นผลลัพธ์ในทิศทางเดียวกันได้.
โดยสรุป มาตรฐาน “Invent & Transform” คือการที่ผู้อำนวยการต้องเปลี่ยนบทบาทจาก “ผู้ใช้ความรู้” (Knowledge Consumer) ไปสู่ “ผู้สร้างความรู้” (Knowledge Creator) ทางการบริหารการศึกษา.
1.2 สองเสาหลักของการประเมิน: PA และ ผลงานทางวิชาการ
การประเมินตามเกณฑ์ ว 10/2564 ประกอบด้วย 2 ส่วนหลักที่ต้องผ่านเกณฑ์ทั้งคู่ 2:
ข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement – PA)
นี่คือการประเมินกระบวนการทำงานรายปี (ประเมินปีงบประมาณละ 1 ครั้ง) ที่ผู้อำนวยการทำข้อตกลงไว้กับผู้บังคับบัญชา (ผอ.เขต).2 ผลการประเมิน PA นี้จะถูกใช้เป็นคุณสมบัติในการยื่นขอวิทยฐานะ (ต้องผ่านเกณฑ์ตามที่กำหนดติดต่อกัน 3-4 รอบ PA).11
ผลงานทางวิชาการ (Academic Work) (ด้านที่ 3)
นี่คือการประเมิน “ผลงาน” ที่ใช้ในการขอเลื่อนวิทยฐานะ ซึ่งสำหรับระดับเชี่ยวชาญ (ชช.) กำหนดไว้คือ “ผลงานวิจัยหรือนวัตกรรม” จำนวน 1 รายการ ที่ต้องจัดทำเป็นไฟล์ PDF และไฟล์วีดิทัศน์นำเสนอ.3
ยุทธศาสตร์การเชื่อมโยง PA สู่ผลงานทางวิชาการ:
ผู้อำนวยการไม่ควรมองว่า PA และ ผลงานทางวิชาการ เป็นงานสองชิ้นที่แยกจากกัน. แต่จะใช้ “ประเด็นท้าทาย” (Challenging Issue) ใน PA (ส่วนที่ 2 ของ PA) 3 เป็น “สนามทดลอง” (Testing Ground) หรือ “การวิจัยนำร่อง” (Pilot Study) สำหรับการพัฒนานวัตกรรมชิ้นใหญ่ที่จะส่งเป็นผลงานทางวิชาการ.
- ปี PA ที่ 1: อาจใช้ประเด็นท้าทายในการ “ศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการจำเป็น” (Needs Assessment) เพื่อค้นหาโจทย์วิจัย.
- ปี PA ที่ 2: อาจใช้ประเด็นท้าทายในการ “สร้างและทดลองใช้ (ร่าง) นวัตกรรม” กับกลุ่มเล็กๆ.
- ปี PA ที่ 3: อาจใช้ประเด็นท้าทายในการ “ประเมินผลและขยายผล” นวัตกรรมทั่วทั้งโรงเรียน.
ด้วยวิธีนี้ เมื่อครบ 3 ปี ผู้อำนวยการจะมีทั้งผลการประเมิน PA ที่ผ่านเกณฑ์ และมี “ข้อมูลเชิงประจักษ์” (Empirical Data) ที่เข้มแข็ง ซึ่งถูกรวบรวมอย่างเป็นระบบตลอด 3 ปี เพื่อใช้เขียน “ผลงานวิจัยหรือนวัตกรรม” (PDF ด้านที่ 3) ฉบับสมบูรณ์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ.
ส่วนที่ 2: กรอบการค้นหาหัวข้อวิจัยที่ “โดนใจกรรมการ”
การเลือกหัวข้อวิจัยไม่ใช่การ “เลือกสิ่งที่ชอบ” แต่เป็น “กระบวนการค้นหาปัญหาที่ต้องแก้ไขอย่างเป็นระบบ” หัวข้อที่ “โดนใจกรรมการ” คือหัวข้อที่ตั้งอยู่บนฐานข้อมูลที่หนักแน่น, สอดคล้องกับภาระงาน, เติมเต็มช่องว่างทางวิชาการ และตอบสนองนโยบายชาติ. กระบวนการ 4 ขั้นตอนนี้จะนำไปสู่หัวข้อดังกล่าว.
2.1 เทคนิคที่ 1: การยึดโยงกับภาระงาน (มาตรฐานตำแหน่ง 5 ด้าน)
โจทย์วิจัยของผู้อำนวยการ ต้อง เป็นปัญหาด้าน “การบริหาร” (Administration) ไม่ใช่ปัญหา “การสอน” (Teaching) ในห้องเรียน (ซึ่งเป็นโจทย์ของครู). จุดเริ่มต้นที่ปลอดภัยและถูกต้องที่สุด คือการหยิบยกปัญหามาจากภาระงานตามมาตรฐานตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา.12
มาตรฐานตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา (ตาม ว3/2564) แบ่งภาระงานหลักเป็น 5 ด้าน 12:
- ด้านการบริหารงานวิชาการ (Academic Management)
- ด้านการบริหารงานบุคคล (Personnel Management)
- ด้านการบริหารงบประมาณ (Budget Management)
- ด้านการบริหารทั่วไป (General Administration)
- ด้านการบริหารงานชุมชนและเครือข่าย (Community and Network Management)
ใน 5 ด้านนี้ “ด้านการบริหารงานวิชาการ” ถือเป็น “ดินแดนทองคำ” สำหรับการทำวิจัยระดับเชี่ยวชาญ เพราะเป็นด้านที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อคุณภาพผู้เรียน (Student Outcomes) ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดของการศึกษา.12
เอกสารมาตรฐานตำแหน่ง 12 ได้ระบุภาระงานย่อยในด้านวิชาการไว้ถึง 17 ข้อ ซึ่งแต่ละข้อสามารถเป็น “คำหลัก” (Keyword) ในการตั้งหัวข้อวิจัยได้ทันที เช่น:
- (1.7) การวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาในสถานศึกษา
- (1.9) การนิเทศการศึกษา
- (1.11) การพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในและมาตรฐานการศึกษา
- (1.13) การประสานความร่วมมือในการพัฒนาวิชาการกับสถานศึกษาและองค์กรอื่น
- (1.17) การพัฒนาและใช้สื่อเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา
การเริ่มต้นหัวข้อโดยมี “คำหลัก” เหล่านี้เป็นตัวตั้ง (เช่น “การพัฒนารูปแบบการนิเทศ…”) จะช่วยให้กรรมการเห็นทันทีว่าผลงานนี้ “ตรงตามกรอบ” (Alignment) ซึ่งเป็นจุดบกพร่องสำคัญที่ทำให้หลายผลงานถูกปฏิเสธ.16
2.2 เทคนิคที่ 2: การระบุ “ปัญหา” (ช่องว่างในบริบท) ผ่านการวิเคราะห์ความต้องการจำเป็น
หลังจากเลือก “ขอบเขต” (Domain) จากเทคนิคที่ 1 (เช่น ตัดสินใจจะทำเรื่อง “การนิเทศภายใน”) ขั้นต่อไปคือการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ว่า “การนิเทศภายใน” เป็นปัญหาที่เร่งด่วนที่สุดของโรงเรียนจริงหรือไม่ นี่คือการเปลี่ยนจาก “ความรู้สึกของ ผอ.” ไปสู่ “ข้อเท็จจริงที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล”.
เครื่องมือทางระเบียบวิธีวิจัยที่ทรงพลังที่สุดสำหรับขั้นตอนนี้คือ การวิเคราะห์ความต้องการจำเป็น (Needs Assessment).18
เทคนิคที่ได้รับการยอมรับและอ้างอิงถึงบ่อยครั้งในงานวิจัยทางการศึกษา (เช่น โดย สุวิมล ว่องวาณิช) คือ ดัชนีลำดับความสำคัญของความต้องการจำเป็นแบบปรับปรุง (Modified Priority Needs Index – PNImodified).18
หลักการของ PNImodified “ช่องว่าง” (Gap) ที่ใหญ่ที่สุดระหว่าง “สภาพที่พึงประสงค์” (Desirable – สิ่งที่ควรจะเป็น) กับ “สภาพปัจจุบัน” (Actual – สิ่งที่เป็นอยู่จริง).18
กระบวนการปฏิบัติง่ายๆ สำหรับผู้อำนวยการ:
1. สร้างเครื่องมือ: ออกแบบแบบสอบถาม (Questionnaire) ในประเด็นที่สนใจ (เช่น “การบริหารงานวิชาการ”) โดยมีรายการประเมิน (Items) 10-15 ข้อ.22
2. ตั้งคำถาม 2 ส่วน: ในแต่ละข้อ ให้ครูหรือผู้เกี่ยวข้องประเมิน 2 ครั้ง:
- คอลัมน์ 1 (I): ระดับความสำคัญ (Importance) หรือ สภาพที่พึงประสงค์ (Desirable) (เช่น 5 = สำคัญที่สุด, 1 = ไม่สำคัญเลย)
- คอลัมน์ 2 (D): ระดับการปฏิบัติจริง (Actuality) หรือ สภาพปัจจุบัน (Current) (เช่น 5 = ปฏิบัติได้ดีเยี่ยม, 1 = ไม่ได้ปฏิบัติเลย)
3. คำนวณ PNImodified นำค่าเฉลี่ย (Mean) ของ ‘I’ และ ‘D’ ในแต่ละข้อมาคำนวณ.22 สูตรที่นิยมใช้มีหลายรูปแบบ แต่รูปแบบที่เข้าใจง่ายและแสดงสัดส่วนของปัญหาได้ดีคือ:

[อ้างอิงจาก 24, ซึ่งระบุสูตร PNImodified = (I-D)/D โดย I คือ “desired competency” และ D คือ “actual competency”.]
หมายเหตุ: บางสูตรอาจใช้ PNI = (I – D) X I 25 หรือ PNI = (I – D) ธรรมดา. การเลือกใช้สูตรใดขึ้นอยู่กับการทบทวนวรรณกรรม แต่สูตร (I-D)/D จะให้ค่าลำดับความสำคัญที่สะท้อน “สัดส่วนของปัญหา” เทียบกับที่เป็นอยู่ได้ชัดเจน.
4. จัดลำดับ: ข้อใดที่มีค่า PNImodified สูงที่สุด 18 ข้อนั้นคือ “ปัญหาที่เร่งด่วนที่สุด” (Highest Priority Need) ของสถานศึกษา.
ตัวอย่างการประยุกต์ใช้: ผอ. ต้องการหาโจทย์ใน “ด้านการบริหารงานวิชาการ” และได้ผลการสำรวจ PNImodified ดังตาราง
ตารางที่ 2.1: ตัวอย่างการคำนวณ PNImodified เพื่อจัดลำดับความสำคัญของปัญหา
| รายการประเมิน (ด้านการบริหารงานวิชาการ) | (I) สภาพที่พึงประสงค์ (ค่าเฉลี่ย) | (D) สภาพปัจจุบัน (ค่าเฉลี่ย) | (I-D) ช่องว่าง | PNImodified =(I−D)/D | ลำดับความสำคัญ |
| 1. การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา | 4.80 | 4.20 | 0.60 | 0.143 | 3 |
| 2. การพัฒนากระบวนการ Active Learning | 4.90 | 3.90 | 1.00 | 0.256 | 2 |
| 3. การนิเทศภายในแบบดิจิทัล | 4.85 | 3.10 | 1.75 | 0.565 | 1 |
| 4. การวัดและประเมินผล (Assessment) | 4.70 | 4.30 | 0.40 | 0.093 | 4 |
บทสรุปจากตาราง: ข้อมูลเชิงประจักษ์ชี้ชัดว่า แม้ Active Learning จะเป็นปัญหา (ลำดับ 2) แต่ปัญหาที่ “เร่งด่วนและช่องว่างกว้างที่สุด” (ลำดับ 1) คือ “การนิเทศภายในแบบดิจิทัล”.
ณ จุดนี้ ผู้อำนวยการได้ “หัวข้อ” ที่ไม่ใช่แค่ “คิดเอง” แต่เป็นหัวข้อที่ “ข้อมูลบอกมา” (Data-Driven). การนำเสนอข้อมูลนี้ในบทที่ 1 ของรายงานวิจัย จะสร้างความน่าเชื่อถือ (Reliability) ให้กับงานวิจัยทันที และตอบโจทย์ว่าทำไมจึงเลือกทำเรื่องนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่กรรมการมองหา.17
2.3 เทคนิคที่ 3: การระบุ “คุณูปการ” (ช่องว่างทางวิชาการ) ผ่านการทบทวนวรรณกรรม
การมีปัญหาในโรงเรียน (เทคนิค 2) ทำให้งานวิจัย “ทำได้จริง”. แต่การจะทำให้ถึงระดับ “เชี่ยวชาญ” (Invent) งานวิจัยนั้นต้อง “ใหม่” ในเชิงวิชาการด้วย นี่คือขั้นตอนของการค้นหา “ช่องว่างทางวิชาการ” (Research Gap).10
กระบวนการนี้คือการตอบคำถามว่า: “ในเรื่อง ‘การนิเทศภายในแบบดิจิทัล’ ที่เรากำลังจะทำ มีใครทำอะไรไปแล้วบ้าง และอะไรที่ ยังไม่มีใครทำ?”.10
กระบวนการทบทวนวรรณกรรมอย่างสร้างสรรค์ (Creative Literature Review): 28
- สืบค้น (Search): ค้นหารูปแบบ (Models) และทฤษฎี (Theories) ที่เกี่ยวข้องกับ “การนิเทศภายใน” และ “การนิเทศดิจิทัล” ทั้งในและต่างประเทศ.
- สังเคราะห์ (Synthesize): ไม่ใช่การนำมาวางเรียงกัน แต่คือการจัดกลุ่ม, วิพากษ์ (Critique) และสรุป.27 (เช่น “รูปแบบของ ก. (2560) เน้น PDCA”, “รูปแบบของ ข. (2562) เน้นการโค้ช”, “รูปแบบของ Johnson (2021) เน้นแพลตฟอร์มออนไลน์” 30).
- ระบุช่องว่าง (Identify Gap): หลังจากสังเคราะห์แล้ว จะพบ “ช่องว่าง” เช่น:
- Gap ตัวอย่าง 1 (Conceptual Gap): “ยังไม่มีรูปแบบใดเลยที่บูรณาการแนวคิด ‘การโค้ช’ (Coaching) เข้ากับ ‘แพลตฟอร์มดิจิทัล’ (Digital Platform) และ ‘การเรียนรู้แบบ Active Learning’ (ซึ่งเป็นนโยบาย สพฐ.) พร้อมกัน”.32
- Gap ตัวอย่าง 2 (Contextual Gap): “รูปแบบส่วนใหญ่ถูกพัฒนาสำหรับโรงเรียนขนาดใหญ่ในเมือง ยังไม่มีการวิจัยในบริบทโรงเรียนขนาดเล็ก/โรงเรียนชายขอบ”.20
การ “คิดค้น” (Invent) คือการสร้างนวัตกรรมเพื่อ “อุดช่องว่าง” นั้น. หัวข้อวิจัยจะคมชัดขึ้นทันที: “การพัฒนารูปแบบการนิเทศภายในแบบดิจิทัล (จากเทคนิค 2) ที่บูรณาการการโค้ชเพื่อส่งเสริม Active Learning (จากเทคนิค 3)”.
หัวข้อนี้คือการรับประกันว่างานวิจัยของคุณจะมี “คุณูปการ” (Contribution) ต่อวงวิชาชีพตามที่ ก.ค.ศ. คาดหวัง.1
2.4 เทคนิคที่ 4: การจัดตำแหน่งเชิงกลยุทธ์ (การสอดรับกับนโยบาย)
นี่คือเทคนิค “ปิดทอง” ที่จะทำให้หัวข้อ “โดนใจกรรมการ” อย่างที่สุด. งานวิจัยที่ดีต้องไม่ลอยอยู่อย่างโดดเดี่ยว แต่ต้องแสดงให้เห็นว่ากำลัง “ขับเคลื่อน” (Driving) นโยบายระดับชาติ.
ผู้อำนวยการควรตรวจสอบว่าหัวข้อที่กำลังจะทำ สอดคล้องกับ “คำสำคัญ” (Keywords) ที่กระทรวงฯ หรือ สพฐ. กำลังผลักดันหรือไม่.
แหล่งข้อมูลเชิงนโยบาย:
นโยบายและจุดเน้น สพฐ. ปี 2567-2568 และนโยบาย Quick Win:.32 การวิเคราะห์ 32 พบคำสำคัญมากมาย เช่น:
- การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)
- การพัฒนาความสามารถด้านการอ่าน (แนวทาง PISA)
- การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Technology)
- การเสริมสร้างทักษะอาชีพ (เช่น นักธุรกิจน้อย) 32
แนวโน้มการศึกษา (Educational Trends):
- การบริหารในยุค Digital Transformation 35
- การพัฒนาทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 36
- การบริหารการเปลี่ยนแปลง (Change Management) 38
- การมีส่วนร่วมของเครือข่าย 20
การสังเคราะห์หัวข้อวิจัย “Golden Topic”:
หัวข้อที่สมบูรณ์แบบที่สุด จะตั้งอยู่ ณ “จุดตัด” (Intersection) ของเทคนิคทั้ง 4:
- Anchor (ภาระงาน): “การบริหารงานวิชาการ” -> “การนิเทศการศึกษา” 12
- Problem (PNI): PNI ชี้ว่า “การนิเทศดิจิทัล” คือปัญหาเร่งด่วนที่สุด (PNI = 0.565) 18
- Gap (วิชาการ): “ยังไม่มีรูปแบบการนิเทศใดที่บูรณาการการโค้ชดิจิทัลเพื่อส่งเสริม Active Learning” 10
- Alignment (นโยบาย): สอดคล้องกับนโยบาย สพฐ. เรื่อง “Active Learning” และ “Digital Transformation” 32
ผลลัพธ์คือ “หัวข้อทองคำ” (The Golden Topic):
“การพัฒนารูปแบบการนิเทศภายในแบบไฮบริด (Hybrid Internal Supervision Model) เพื่อส่งเสริมสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูในยุคดิจิทัล สำหรับโรงเรียนสังกัด…”
หัวข้อนี้ตอบโจทย์กรรมการในทุกมิติ: ตรงกรอบภาระงาน (Anchor), มีปัญหาจริงรองรับ (Problem), ใหม่ในเชิงวิชาการ (Gap), และขับเคลื่อนนโยบายชาติ (Alignment).
ส่วนที่ 3: การออกแบบผลงาน: จาก R&D สู่นวัตกรรมที่นำไปใช้ได้จริง
เมื่อได้หัวข้อแล้ว คำถามต่อไปคือ “จะสร้างนวัตกรรมนั้นอย่างไร?”. การตอบโจทย์ “Invent & Transform” 2 ต้องการระเบียบวิธีวิจัย (Methodology) ที่มุ่งเน้นการ “สร้าง” และ “ประเมิน” ผลผลิต.
3.1 ระเบียบวิธีวิจัยที่เหมาะสม: การวิจัยและพัฒนา (R&D)
ระเบียบวิธีวิจัยที่ตอบโจทย์ “Invent & Transform” ได้ดีที่สุดคือ การวิจัยและพัฒนา (Research and Development – R&D).5
เหตุผล:
- R&D ไม่ได้มุ่งแค่ “ค้นหาความจริง” (แบบ Basic Research) หรือ “แก้ปัญหาเฉพาะหน้า” (แบบ Action Research – AR).5
- R&D มีจุดมุ่งหมายเพื่อ “พัฒนาผลผลิต” หรือ “นวัตกรรม” (Product/Innovation) ที่มีคุณภาพ, ผ่านการทดสอบ, และสามารถนำไปใช้ได้จริง.5
- “ผลผลิต” หรือ “นวัตกรรม” ทางการบริหารการศึกษาที่ได้จาก R&D (เช่น รูปแบบ, กลยุทธ์) 5 ก็คือสิ่งที่ ก.ค.ศ. เรียกร้องในคำว่า “Invent” (คิดค้น) นั่นเอง.
วงจร R&D (R&D Cycle) สำหรับผู้อำนวยการ:
งานวิจัย R&D ของผู้อำนวยการ มักจะแบ่งเป็น 3-4 ระยะ (Phases) ดังนี้ 41:
ระยะที่ 1: การวิจัยและวิเคราะห์ (Research & Analysis)
นี่คือการดำเนินงานตาม ส่วนที่ 2 ของรายงานฉบับนี้:
- 1.1 ทบทวนวรรณกรรมเพื่อหา “ช่องว่างทางวิชาการ” (Gap).10
- 1.2 วิเคราะห์ความต้องการจำเป็น (PNI) เพื่อหา “ปัญหาในบริบท” (Problem).18
- 1.3 ศึกษานโยบายและแนวโน้มที่เกี่ยวข้อง.32
ระยะที่ 2: การออกแบบและพัฒนา (Design & Development)
- “คิดค้น” (Invent) ร่างนวัตกรรม (เช่น “ร่างรูปแบบการนิเทศแบบไฮบริด”).
- นำ “ร่างนวัตกรรม” ไปให้ผู้เชี่ยวชาญ (Experts) ประเมินความเหมาะสม (Appropriateness) และความเป็นไปได้ (Feasibility) (มักใช้เทคนิค Delphi หรือ Focus Group).6
- ปรับปรุงร่างนวัตกรรมตามข้อเสนอแนะ จนได้ “ต้นแบบนวัตกรรม” (Prototype).
ระยะที่ 3: การนำไปใช้และทดสอบ (Implementation & Testing)
- นำ “ต้นแบบนวัตกรรม” ไปทดลองใช้ (Try-out) กับกลุ่มเป้าหมาย (เช่น โรงเรียนนำร่อง หรือกลุ่มครูในสังกัด).7
- (ยุทธศาสตร์: อาจใช้การทดลองนี้เป็น “ประเด็นท้าทาย” ใน PA).
ระยะที่ 4: การประเมินผลและปรับปรุง (Evaluation & Refinement)
- เก็บรวบรวมข้อมูลเชิงปริมาณ (เช่น แบบทดสอบ, แบบประเมิน) และเชิงคุณภาพ (เช่น การสัมภาษณ์, การสังเกต) เพื่อประเมิน “ประสิทธิผล” ของนวัตกรรม.41
- ขั้นตอนนี้คือการพิสูจน์คำว่า “Transform” (ปรับเปลี่ยน). ผู้วิจัยต้องแสดงข้อมูลว่า “ก่อนใช้” (Pre-test) และ “หลังใช้” (Post-test) นวัตกรรม ผลลัพธ์ (เช่น สมรรถนะครู, ผลสัมฤทธิ์นักเรียน) ดีขึ้นอย่างไร.41
- ปรับปรุงนวัตกรรมเป็น “ฉบับสมบูรณ์” (Final Model) พร้อมทั้งจัดทำ “คู่มือการใช้” (Manual) เพื่อการขยายผล.
การใช้กรอบ R&D จะทำให้รายงานวิจัยมีโครงสร้างที่ชัดเจน, เป็นระบบ, และตอบโขทย์ “Invent & Transform” ครบทุกมิติ.
3.2 รูปแบบนวัตกรรมที่ 1: “การพัฒนารูปแบบการบริหาร” (Model Development)
นี่คือรูปแบบ (Format) ของผลงานทางวิชาการที่ผู้อำนวยการนิยมทำและประสบความสำเร็จมากที่สุด เพราะแสดงถึง “การคิดค้น” (Invent) ที่เป็นระบบและจับต้องได้.6
กรณีศึกษาที่ประสบความสำเร็จ:
กรณีที่ 1 7: ผลงานของ นางสาวจรรยาพร ศิลาโชติ เรื่อง “การพัฒนารูปแบบการนิเทศภายในเพื่อส่งเสริมสมรรถนะของครูด้านการทำวิจัยในชั้นเรียน”.
- ผลผลิต (Invent): ได้ “รูปแบบการนิเทศภายใน” ที่มีชื่อแบรนด์ว่า “SIPDRE Model”.
- องค์ประกอบของรูปแบบ: แสดงให้เห็น “บล็อก” ของโมเดลที่ชัดเจน 7 ซึ่งผู้อำนวยการสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้:
- หลักการ, วัตถุประสงค์
- กระบวนการ (Process): นี่คือหัวใจของ “Invent”. SIPDRE Model มี 6 ขั้นตอน (ขั้นสำรวจปัญหา, ขั้นให้ความรู้, ขั้นวางแผน, ขั้นดำเนินงาน, ขั้นประเมินผล, ขั้นสะท้อนผล).7
- เงื่อนไขความสำเร็จ (Conditions for Success): (เช่น ผู้บริหารต้องสนับสนุนงบประมาณ, ครูต้องเต็มใจ).7
กรณีที่ 2 44: “รูปแบบการบริหารจัดการเพื่อส่งเสริมคุณภาพโรงเรียนวิทยาศาสตร์”.
- ผลผลิต (Invent): ได้รูปแบบการบริหารที่มี 4 องค์ประกอบ (ตามวงจร PDCA: Plan, Do, Check, Act) และ 7 ขั้นตอนปฏิบัติ (เช่น การใช้ภาวะผู้นำ, การกำหนดวิสัยทัศน์ร่วม, การวางแผนกลยุทธ์ ฯลฯ).44
กรณีที่ 3 6: “การพัฒนารูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (SBM Model)”.
- องค์ประกอบของรูปแบบ: แสดงโครงสร้างที่ชัดเจน ได้แก่ ปัจจัยป้อนเข้า (Input), กระบวนการ (Process), ผลผลิต/ผลลัพธ์ (Output/Outcome), ข้อมูลป้อนกลับ (Feedback) และสภาพแวดล้อม (External).6
ข้อแนะนำเชิงกลยุทธ์: ผู้อำนวยการควรออกแบบ “กระบวนการ” (Process) ที่เป็นหัวใจของโมเดลให้ชัดเจน และ “สร้างแบรนด์” (Brand) ด้วยชื่อย่อ (Acronym) ที่จดจำง่าย (เช่น SIPDRE 7, CHILD Model 19, หรือการใช้ชื่อโรงเรียน เช่น BRW61 Model 45) เพื่อสร้างความโดดเด่นและน่าสนใจ.46
3.3 รูปแบบนวัตกรรมที่ 2: “การพัฒนากลยุทธ์” (Strategic Development)
รูปแบบนี้มีความใกล้เคียงกับ “การพัฒนารูปแบบ” แต่มักเน้นไปที่ “กระบวนการวางแผนและการนำแผนไปปฏิบัติ” (Strategic Management) เพื่อบรรลุเป้าหมายที่ชัดเจน (เช่น การยกระดับผลสัมฤทธิ์).8
กรณีศึกษาที่ ก.ค.ศ. อนุมัติ (The OTEPC-Approved Case):
นี่คือกรณีศึกษาที่สำคัญที่สุดกรณีหนึ่งสำหรับผู้อำนวยการที่กำลังเตรียมผลงาน: นายอภิปราย โสภายิ่ง (โรงเรียนบ้านดอนไชย สพป.เชียงราย เขต 4) ซึ่งได้รับการอนุมัติเลื่อนเป็น “ผู้อำนวยการเชี่ยวชาญ”.9
การวิเคราะห์ผลงานที่ ก.ค.ศ. อนุมัติ 9 พบว่าท่านส่งผลงาน 2 ชิ้นหลัก:
- ผลงานชิ้นที่ 1 (The “Invent”): “รูปแบบการบริหารเชิงกลยุทธ์ เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน…”
- ผลงานชิ้นที่ 2 (The “Transform”): “รายงานการประเมินโครงการพัฒนาสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้…”
บทเรียนจากกรณีศึกษานี้:
นี่คือ “พิมพ์เขียว” (Blueprint) ที่สมบูรณ์แบบในการตอบโจทย์ “Invent & Transform”.
- ผลงานชิ้นที่ 1 (รูปแบบการบริหารเชิงกลยุทธ์) คือ “การคิดค้น (Invent)” นวัตกรรมหลัก ซึ่งน่าจะมาจากการทำวิจัย R&D.
- ผลงานชิ้นที่ 2 (รายงานการประเมินโครงการ) คือ “การปรับเปลี่ยน (Transform)” ที่เป็นรูปธรรม. เป็นการพิสูจน์ว่าเมื่อนำ “รูปแบบ” จากชิ้นที่ 1 มาปฏิบัติจริงใน “โครงการ” (เช่น โครงการพัฒนาสิ่งแวดล้อม) แล้ว ผลลัพธ์ (เช่น ผลสัมฤทธิ์) เปลี่ยนแปลงไปจริงหรือไม่.
นี่คือยุทธศาสตร์ที่ “กันพลาด” ได้ดีที่สุด: ผลงานหลักคือการ R&D เพื่อสร้าง “โมเดล” (Invent) และมีผลงานรอง (หรือบทที่ 5 ในงานวิจัยหลัก) เป็น “รายงานการประเมินผล” (Evaluation Report) ที่พิสูจน์ “ผลกระทบ” (Transform) ของโมเดลนั้นอย่างชัดเจน.
ส่วนที่ 4: การวิเคราะห์ผลงานที่ผ่านมา: บทเรียนจากความสำเร็จและความล้มเหลวของ ก.ค.ศ.
การเรียนรู้จากผลงานที่ผ่านการอนุมัติแล้ว และการหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่ทำให้ผลงานถูกปฏิเสธ เป็นองค์ประกอบสุดท้ายในการสร้างหลักประกันความสำเร็จ.
4.1 การสังเคราะห์ผลงานที่ประสบความสำเร็จ (รูปแบบ “ผ่าน”)
จากการสังเคราะห์กรณีศึกษาที่ประสบความสำเร็จ (เช่น นายอภิปราย โสภายิ่ง 9 และ นางสาวจรรยาพร ศิลาโชติ 7) เราสามารถถอดรหัส “สูตรสำเร็จ” (Golden Formula) ของการตั้งชื่อหัวข้อที่ ก.ค.ศ. อนุมัติ ได้ดังนี้:
“การพัฒนา + [รูปแบบ/กลยุทธ์/นวัตกรรม] + (ชื่อแบรนด์) + เพื่อ + + (สำหรับ/โดยใช้) + [กลุ่มเป้าหมาย/ระเบียบวิธี]”
การประยุกต์ใช้สูตร:
- ตัวอย่างที่ 1 7: “การพัฒนา + [รูปแบบการนิเทศภายใน] + (SIPDRE Model) + เพื่อ + [ส่งเสริมสมรรถนะครูด้านการทำวิจัย] +… “
- ตัวอย่างที่ 2 9: “การพัฒนา + [รูปแบบการบริหารเชิงกลยุทธ์] + เพื่อ + [พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน] +…”
- ตัวอย่างที่ 3 44: “การพัฒนา + [รูปแบบการบริหารจัดการ] + เพื่อ + [ส่งเสริมคุณภาพโรงเรียนวิทยาศาสตร์] +…”
สูตรนี้ประสบความสำเร็จเพราะตัว “ชื่อเรื่อง” (Title) ได้สื่อสารกับกรรมการอย่างชัดเจนว่ามีครบทั้งสององค์ประกอบ:
- การ “Invent”: (การพัฒนารูปแบบ/กลยุทธ์)
- การ “Transform”: (เพื่อพัฒนา…/เพื่อส่งเสริม…)
4.2 การวิเคราะห์ความล้มเหลวที่สำคัญ: ข้อบกพร่องที่กรรมการประเมินระบุ
การศึกษา “ข้อบกพร่อง” ที่ทำให้ผลงานถูกปฏิเสธ มีความสำคัญยิ่งกว่าการศึกษาผลงานที่ผ่าน.16 การวิจัยของ ก.ค.ศ. เอง 17 ที่ศึกษาผลงานผู้อำนวยการเชี่ยวชาญที่ไม่ผ่านการประเมิน ได้สรุปข้อบกพร่องที่พบบ่อยที่สุดไว้ดังนี้:
1. ข้อบกพร่องใน “รายงานผลการปฏิบัติงาน” (ส่วนของ PA หรือการรายงานผลในอดีต):
- ไม่สอดคล้องกับตำแหน่ง (รายงานไม่ตรงกรอบ): นี่คือหายนะที่พบบ่อยที่สุด.16 ผู้อำนวยการรายงานผลงานเหมือน “ครู” (เน้นการสอน) ไม่ใช่ “ผู้บริหาร” (เน้นการบริหารจัดการ 5 ด้าน). รายงานไม่แยกประเด็นตามมาตรฐานตำแหน่ง.16
- ทางแก้: ใช้ เทคนิค 2.1 ยึดโยงกับ 5 ภาระงานหลัก.12
- ขาดข้อมูลเชิงประจักษ์ (ขาดความน่าเชื่อถือ): รายงานส่วนใหญ่เป็น “ความเรียง” (Narrative) บอกว่าทำอะไร (What) แต่ไม่แสดงข้อมูลว่าผลลัพธ์ (Outcome) คืออะไร.17 ขาดรูปธรรมที่เกิดกับนักเรียน, ครู, และโรงเรียน.17
- ทางแก้: ใช้ เทคนิค 2.2 (PNI) เพื่อแสดงปัญหา และ เทคนิค 3.1 (R&D Phase 4) เพื่อแสดงผลลัพธ์ (เช่น สถิติก่อน-หลัง, ค่า t-test, SD).
2. ข้อบกพร่องใน “ผลงานทางวิชาการ” (ผลงานวิจัย/นวัตกรรม):
- คุณภาพไม่ถึงเกณฑ์ (ไม่ “Invent”): ผลงานส่วนใหญ่ที่ตก คือการนำผลงานวิจัยของคนอื่นมา “ทำซ้ำ” ในโรงเรียนของตนเอง. เป็นการ “ประยุกต์ใช้” (Apply) ไม่ใช่ “คิดค้น” (Invent).17 ขาดการทบทวนวรรณกรรมเพื่อหาช่องว่าง (Gap).26
- ทางแก้: ใช้ เทคนิค 2.3 การทบทวนวรรณกรรมเพื่อหา Gap และสร้างนวัตกรรมที่ “ใหม่” จริง.
- รายงานไม่ชัดเจน (เขียนไม่เป็นวิจัย): นำเสนอข้อมูลไม่เป็นระบบ, ไม่แยกประเด็น, ไม่ตรงตามกรอบระเบียบวิธีวิจัย.16 กรรมการ (ซึ่งเป็นนักวิชาการ) ไม่สามารถอ่านทำความเข้าใจได้ หรืออ่านแล้วพบว่าผู้ทำขาดความเข้าใจในกระบวนการวิจัย.
- ทางแก้: ใช้ เทคนิค 3.1 วางโครงสร้างรายงานตามขั้นตอน R&D (ระยะที่ 1, 2, 3, 4) อย่างเคร่งครัด.
มุมมองของกรรมการ (Evaluator’s Mindset):
กรรมการประเมินผลงานวิทยฐานะเชี่ยวชาญ คือ “นักวิชาการ” (Academics). พวกเขาถูกฝึกมาให้มองหา “ความเข้มงวดทางระเบียบวิธี” (Methodological Rigor) และ “คุณูปการเชิงวิชาการ” (Academic Contribution).
- รายงานที่ “ยุ่งเหยิง” (Messy) 16 สื่อถึงความคิดที่ไม่เป็นระบบ.
- รายงานที่ “ไร้ข้อมูล” (Data-free) 17 คือรายงานที่ไม่มีหลักฐาน.
- รายงานที่ “ไม่ใหม่” (Not novel) 5 คือรายงานที่ไม่ผ่านเกณฑ์ “Invent”.
ผู้อำนวยการต้องสวมหมวกสองใบ: “ปฏิบัติ” (Act) ในฐานะผู้บริหารที่แก้ปัญหาจริง (เทคนิค 2.1, 2.2) แต่ “เขียน” (Write) ในฐานะนักวิชาการที่สร้างองค์ความรู้ใหม่ (เทคนิค 2.3, 3.1).
ส่วนที่ 5: ข้อเสนอแนะเชิงกลยุทธ์และรายการตรวจสอบหัวข้อฉบับสมบูรณ์
5.1 รายการตรวจสอบหัวข้อ “ผ่าน/ตก” (The “Invent & Transform” Checklist)
ก่อนที่จะทุ่มเทเวลา 3-4 ปีให้กับหัวข้อใดหัวข้อหนึ่ง ผู้อำนวยการควรนำหัวข้อนั้นมาทดสอบกับรายการตรวจสอบ 5 ข้อนี้:
- [ ] The Anchor (การยึดโยง): หัวข้อนี้แก้ปัญหาที่อยู่ใน 5 ภาระงานหลักของผู้บริหาร (เช่น บริหารวิชาการ, บุคคล) ใช่หรือไม่? 12
- [ ] The Problem (ปัญหา): ท่านมีข้อมูลเชิงประจักษ์ (เช่น ผล $PNI_{modified}$) ที่พิสูจน์ว่านี่คือปัญหาที่เร่งด่วนที่สุดในโรงเรียน ใช่หรือไม่? 18
- [ ] The “Invent” (ความใหม่): ท่านทบทวนวรรณกรรมแล้ว และสามารถพูดได้ใน 1 ประโยคว่า นวัตกรรมของท่าน “ใหม่” หรือ “อุดช่องว่าง” ตรงไหน เมื่อเทียบกับโมเดลอื่นๆ ที่มีอยู่ ใช่หรือไม่? 10
- [ ] The “Transform” (ผลกระทบ): เป้าหมายหลักของงานวิจัยนี้ คือการ “เปลี่ยนแปลง” ตัวชี้วัดหลักของโรงเรียน (เช่น ผลสัมฤทธิ์, สมรรถนะครู, คะแนน PISA) อย่างวัดผลได้ ใช่หรือไม่? 1
- [ ] The “Impress” (การสอดรับ): หัวข้อนี้มี “คำสำคัญ” (Keywords) ที่สอดคล้องกับนโยบายเร่งด่วนของ สพฐ. (เช่น Active Learning, Digital, ทักษะอาชีพ) ใช่หรือไม่? 32
การประเมินผล: หากท่านสามารถตอบ “ใช่” (Yes) ได้ครบทั้ง 5 ข้อ ท่านมี “หัวข้อทองคำ” (Golden Topic) ที่มีศักยภาพ “ผ่านฉลุย” ในรอบแรกสูงมาก.
5.2 การวางกรอบการเล่าเรื่อง (Framing the Narrative) สำหรับกรรมการ
สุดท้ายนี้ การนำเสนอ (โดยเฉพาะในบทคัดย่อ, บทนำ, และสรุปผล) 46 ต้องใช้ภาษาที่สื่อสารกับกรรมการโดยตรงว่าท่านได้ทำครบทุกข้อที่ ก.ค.ศ. ร้องขอ.
แม่แบบ (Template) การเขียนบทคัดย่อที่ “โดนใจกรรมการ”:
“การวิจัยนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research & Development) [เทคนิค 3.1] มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการจำเป็น [เทคนิค 2.2]… 2) พัฒนาและหาประสิทธิผลของ ‘รูปแบบการบริหาร [ชื่อแบรนด์นวัตกรรม]’ [เทคนิค 3.2]… 3) ประเมินผลการใช้รูปแบบฯ… ผลการวิจัยพบว่า:
- ผลการวิเคราะห์ความต้องการจำเป็น (PNI) พบว่า [ปัญหา X] มีความต้องการจำเป็นเร่งด่วนที่สุด (PNI =…) [เทคนิค 2.2].
- ผลการพัฒนา ได้ ‘รูปแบบ [ชื่อแบรนด์]’ ซึ่งประกอบด้วย ที่ได้จากการสังเคราะห์วรรณกรรมและอุดช่องว่าง [เทคนิค 2.3] และผ่านการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ.
- ผลการทดลองใช้รูปแบบฯ พบว่า 1) สมรรถนะครู/ผลสัมฤทธิ์นักเรียน หลัง การใช้สูงกว่า ก่อน การใช้ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.01 และ 2) ความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด.
นวัตกรรมนี้ก่อให้เกิด การปรับเปลี่ยน (Transform) กระบวนการ [ระบุสิ่งที่เปลี่ยน] ในสถานศึกษา และเป็นประโยชน์ต่อ วงวิชาชีพ 1 ในการนำไปประยุกต์ใช้เพื่อ…”
บทคัดย่อลักษณะนี้ ได้วาง “คำตอบ” ที่กรรมการมองหาไว้ทั้งหมด: R&D, Needs Assessment, การ “Invent” (ได้รูปแบบใหม่), และการ “Transform” (ผลลัพธ์สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ) ซึ่งสอดคล้องกับมาตรฐาน “คิดค้น ปรับเปลี่ยน” (Invent & Transform) ตามหลักเกณฑ์ ว 10/2564 ทุกประการ.
Works cited
- แนวทางการยื่นขอมี หรือเลื่อนวิทยฐานะ ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา …, accessed November 10, 2025, https://krukob.com/web/v10-2564/
- บรรยาย หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่ง.pdf – Slideshare, accessed November 10, 2025, https://www.slideshare.net/slideshow/pdf-254436564/254436564
- หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตาแหน่งและวิทยฐานะ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา, accessed November 10, 2025, https://www.cr3.go.th/wp-content/uploads/2022/03/3.-%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%93%E0%B8%91%E0%B9%8C%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2-%E0%B8%A79-%E0%B8%A712.pdf
- การเตรียมตัวเพื่อการประเมินวิทยฐานะผู้บริหารสถานศึกษา (ว 10/2564) », accessed November 10, 2025, https://krukob.com/web/news-143/
- Research & Development R&D – มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี, accessed November 10, 2025, https://graduate.sru.ac.th/wp-content/uploads/2018/11/RD-1-1.pdf
- การพัฒนารูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐ – ฐานข้อมูลงานวิจัย …, accessed November 10, 2025, https://e-research.siam.edu/wp-content/uploads/2020/04/Phd.ED-2013-Thesis-The-Development-of-School-Based-Management-Model-For-Private-School-compressed.pdf
- เผยแพร่ผลงานทางวิชาการ สายผู้บริหารสถานศึกษา วิทยฐานะเชี่ยวชาญ (ค …, accessed November 10, 2025, https://www.gotoknow.org/posts/659824
- การพัฒนากลยุทธ์การบริหารจัดการศึกษาของสถาน – thaijo.org, accessed November 10, 2025, https://so04.tci-thaijo.org/index.php/JSBA/article/download/211681/146645/
- ก.ค.ศ.อนุมัติครู-ผอ.วิทยฐานะเชี่ยวชาญ, accessed November 10, 2025, https://edunewssiam.com/th/articles/260832-%E0%B8%81.%E0%B8%84.%E0%B8%A8.%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9-%E0%B8%9C%E0%B8%AD.%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%8D
- “การทบทวนวรรณกรรม” รากฐานแห่งคุณภาพของงานวิจัย – คณะสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยรามคำแหง, accessed November 10, 2025, https://mac.ru.ac.th/wp-content/uploads/2018/05/E0B980E0B8A3E0B8B7E0B988E0B8ADE0B887E0B897E0B8B5E0B988120E0B881E0B8B2E0B8A3E0B897E0B89AE0B897E0B8A7E0B899E0B8A7E0B8A3E0B8A3E0B893E0B881E0B8A3E0B8A3-2.pdf
- คู่มือ ว.10-2564 – ดาวน์โหลดหนังสือ | 1-50 หน้า | AnyFlip, accessed November 10, 2025, https://anyflip.com/rbiay/dglb/basic
- ภาระหน้าที่การบริหารงานในโรงเรียน 4 ฝ่าย, accessed November 10, 2025, http://www.thaischool.in.th/_files_school/84101969/data/84101969_1_20190814-221419.pdf
- ว3/2564 มาตรฐานตำแหน่งและมาตรฐานวิทยฐานะของข้าร, accessed November 10, 2025, https://fth1.com/uppic/64100418/news/64100418_1_20220905-204351.pdf
- ว21/2564 ภาระงาน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู ผู้บริหาร และศึกษานิเทศก์ ตาม ว9(วpa) – YouTube, accessed November 10, 2025, https://www.youtube.com/watch?v=2_AMT4wAbFA
- การศึกษาการบริหารงานบุคคลของผู้บริหารสถานศึกษา เครือข่ายการจัดการศึกษา ศรีณรงค์2 Personnel Administration Performed by School Administrators Srinarong Educational Network 2 – ThaiJO, accessed November 10, 2025, https://so02.tci-thaijo.org/index.php/edunsrujo/article/download/250519/169556/
- Untitled – ผลงานวิชาการ – ก.ค.ศ., accessed November 10, 2025, https://research.otepc.go.th/files/OTEPC00023_0kceg2ey.pdf
- การศึกษาข้อบกพร่องของผลงานทางวิชาการ – ที่เสนอเพื่อ … – ผลงานวิชาการ, accessed November 10, 2025, https://research.otepc.go.th/files/OTEPC00046_rq37xs6z.pdf
- Needs Assessment for School Management Towards … – ThaiJO, accessed November 10, 2025, https://so03.tci-thaijo.org/index.php/IARJ/article/download/283239/188787/1267061
- การวิจัยประเมินความต้องการจำเป็นในการพัฒนานวัตกรรมเพื่อส่งเสริม – คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, accessed November 10, 2025, https://www.edu.chula.ac.th/sites/default/files/users/user48/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%B0%E0%B8%95%E0%B8%B5%E0%B8%A1%E0%B8%A8%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2.pdf
- ED-004 การประเมินความต้องการจำเป็นของการบริหารแ – Informations …, accessed November 10, 2025, https://idcneu.com/neunic2024/file_article/ed/neunic2024-ed-04.pdf
- การประเมินความต้องการจ าเป็นในการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ ต าบลนาเสียว อ าเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ – นิพนธ์ต้นฉบับ Original article, accessed November 10, 2025, https://thaidj.org/index.php/jsnh/article/view/7167/7291
- เครื่องมือวิเคราะห์ PNI – สถิติวิจัย, accessed November 10, 2025, https://statsmartly.com/Pop/PNI.php
- (PDF) Concepts of Setting and Utilizing Student Profile – ResearchGate, accessed November 10, 2025, https://www.researchgate.net/publication/275543616_Concepts_of_Setting_and_Utilizing_Student_Profile
- development of a training course focusing on teachers’ analytical thinking skills in – ThaiScience, accessed November 10, 2025, https://www.thaiscience.info/Journals/Article/SUIJ/10989784.pdf
- Needs for Thai Teachers to Become a Reflective Teacher: Mixed Methods Needs Assessment Research – ResearchGate, accessed November 10, 2025, https://www.researchgate.net/publication/273537807_Needs_for_Thai_Teachers_to_Become_a_Reflective_Teacher_Mixed_Methods_Needs_Assessment_Research
- Closing the gap between research and policy-making to better enable effective educational practice: a proposed framework – PMC – NIH, accessed November 10, 2025, https://pmc.ncbi.nlm.nih.gov/articles/PMC9310676/
- แนวทางการทบทวนวรรณกรรมส าหรับ งานวิทยานิพนธ์ระดับบัณฑิตศึกษา, accessed November 10, 2025, https://blog.bru.ac.th/wp-content/uploads/bp-attachments/7531/%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B01.pdf
- กลยุทธ์การทบทวนวรรณกรรมอย่างสร้างสรรค์ ส าหรับนักวิจัย … – thaijo.org, accessed November 10, 2025, https://so04.tci-thaijo.org/index.php/NDJ/article/download/170514/122559
- การทบทวนวรรณกรรม การสังเคราะห์วรรณกรรม กรอบแนวคิด ตัวแปร ระดับมาตรวัด และ สมมติฐานการวิจัย – สถาบันวิจัยพุทธศาสตร์, accessed November 10, 2025, https://bri.mcu.ac.th/wp-content/uploads/2022/05/%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%94-3-%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%AA%E0%B8%A0%E0%B8%B8%E0%B9%8C.pdf
- Bridging the research-practice gap in education: Initiatives from three OECD countries, accessed November 10, 2025, https://one.oecd.org/document/EDU/WKP(2024)14/en/pdf
- Conceptualizations of Teacher-leadership in Colombia: Evidence from Policies | Research in Educational Administration & Leadership – DergiPark, accessed November 10, 2025, https://dergipark.org.tr/tr/download/article-file/1670781
- Untitled – สพป.อุดรธานี เขต 1, accessed November 10, 2025, https://udn1.go.th/wp-content/uploads/2024/07/%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B8%AA%E0%B8%9E%E0%B8%90_-2567%E2%80%932568-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A2-Quick-Win-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%93-2567.pdf
- นโยบาย จุดเน้น สพฐ. ปี 2567-2568 และ Quick win 2567 – สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาฬสินธุ์, accessed November 10, 2025, https://www.sesaoksn.go.th/%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A2-%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%99-%E0%B8%AA%E0%B8%9E%E0%B8%90-%E0%B8%9B%E0%B8%B5-2567-2568-%E0%B9%81%E0%B8%A5/
- 13 นโยบายและจุดเน้น สพฐ. 2568 – 2569 – สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาจันทบุรี ตราด, accessed November 10, 2025, https://www.sesact.go.th/index.php/39484
- เทคโนโลยีดิจิทัลส าหรับการบริหารสถานศึกษาใน – SWU eJournals System, accessed November 10, 2025, https://ejournals.swu.ac.th/index.php/EAJ/article/download/15478/12424/53060
- 1 ภาวะผู้นำของผู้บริหารสถานศึกษากับการพัฒนาก – ThaiJO, accessed November 10, 2025, https://so02.tci-thaijo.org/index.php/JOURNALNIETS/article/download/275875/185080
- แนวปฏิบัติของการสร้างและส่งเสริมการรู้ดิจิทัลสำหรับครู – ONEC Backoffice for Administrator, accessed November 10, 2025, http://backoffice.onec.go.th/uploads/Book/1653-file.pdf
- การบริหารจัดการศึกษายุคใหม่ : แนวทางและความท้าทาย – ThaiJo, accessed November 10, 2025, https://so06.tci-thaijo.org/index.php/mcjou/article/view/286023
- 6 แนวทางการบริหารโรงเรียนให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของโลก – Starfishlabz, accessed November 10, 2025, https://www.starfishlabz.com/blog/1544-6-%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81
- ประเทศไทยในอนาคต Future Thailand: มิติที่3 การศึกษาไทย – TDRI, accessed November 10, 2025, https://tdri.or.th/wp-content/uploads/2023/11/2021_08_%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%95-Future-Thailand-%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-3.pdf
- เคล็ดลับในการเขียนงานวิจัย R&D สู่ครูผู้เชี่ยวชาญ, accessed November 10, 2025, https://www.xn--12co8bkb4ccba6b3geffwj63b.com/tips-for-writing-rd-research-papers-for-expert-teachers/
- รูปแบบการบริหารจัดการ 4S+P Model เพื่อพัฒนาคุณภาพข, accessed November 10, 2025, https://kansandbox.org/wp-content/uploads/2022/06/2566-%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3-%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%81.pdf
- การพัฒนารูปแบบการบริหารโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา ส าหรับศตวรรษที่21 The Development of Secondary School Administration Model for 21st Century – มหาวิทยาลัยบูรพา, accessed November 10, 2025, https://journal.lib.buu.ac.th/index.php/education2/article/view/6573/3747
- การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการเพื่อส่งเสริมคุณภาพโรงเรียนวิทยาศาสตร์ …, accessed November 10, 2025, https://he02.tci-thaijo.org/index.php/Veridian-E-Journal/article/view/191916
- กลยุทธ์ กลยุทธ์ที่1 พัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้มี, accessed November 10, 2025, https://brw61.thai.ac/client-upload/brw61/uploads/files/%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B9%8C.pdf
- สรุปงานบรรยาย NocNoc for Business x DBD: ปลดล็อกโอกาสธุรกิจด้วย AI และกลยุทธ์ใหม่, accessed November 10, 2025, https://www.lemon8-app.com/@teeraphol_ambhai/7551713564126446098?region=th
- แผนกลยุทธ์พัฒนาคุณภาพการศึกษา ระยะ 5 ปี(2566 – 2570), accessed November 10, 2025, https://www.thungsukla.ac.th/wp-content/uploads/2023/06/%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B9%8C-2562-2566.pdf
Comments
Powered by Facebook Comments

