Monday, December 8, 2025
Latest:
Digital Learning Classroom
Active LearningAIการพัฒนาผู้เรียนการเรียนรู้เชิงรุกกิจกรรมการสอนบทความ

สรุปกรอบความเข้าใจเรื่องปัญญาประดิษฐ์ (AILit Framework) The AILit Framework contributes to the PISA 2029 Media & Artificial Intelligence Literacy Assessment

แชร์เรื่องนี้

สรุปกรอบความเข้าใจเรื่องปัญญาประดิษฐ์ (AILit Framework) The AILit Framework contributes to the PISA 2029 Media & Artificial Intelligence Literacy Assessment

ดร.อนุศร หงษ์ขุนทด
ศึกษานิเทศก์ วิทยฐานะศึกษานิเทศก์เชี่ยวชาญ สพม.นครราชสีมา
Musicmankob@gmail.com 


__________________________________

บทสรุป

บทความฉบับนี้สรุปสาระสำคัญของ “กรอบความเข้าใจเรื่องปัญญาประดิษฐ์สำหรับการศึกษาระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา” (Empowering Learners for the Age of AI: An AI Literacy Framework for Primary and Secondary Education) หรือ AILit Framework ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มร่วมกันระหว่างคณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) และองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดมาตรฐานความเข้าใจเรื่องปัญญาประดิษฐ์ (AI Literacy) สำหรับผู้เรียนในยุคดิจิทัล กรอบการทำงานนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นแนวทางสำหรับครู ผู้นำทางการศึกษา ผู้กำหนดนโยบาย และนักออกแบบการเรียนรู้ ในการเตรียมความพร้อมให้ผู้เรียนสามารถทำความเข้าใจ ประเมินความเสี่ยง และใช้ประโยชน์จากโอกาสที่ AI นำเสนอได้อย่างมีวิจารณญาณและมีจริยธรรม

หัวใจหลักของ AILit Framework ประกอบด้วย 4 โดเมน ที่แสดงถึงรูปแบบการมีปฏิสัมพันธ์กับ AI ของผู้เรียน ได้แก่: การมีส่วนร่วมกับ AI (Engaging with AI)การสร้างสรรค์ด้วย AI (Creating with AI)การจัดการ AI (Managing AI), และ การออกแบบ AI (Designing AI) โดเมนเหล่านี้ตั้งอยู่บนรากฐานที่สำคัญ 3 ประการคือ ความรู้ (Knowledge)ทักษะ (Skills), และ ทัศนคติ (Attitudes) ซึ่งรวมกันเป็น สมรรถนะ (Competences) ทั้งหมด 22 ประการ ที่จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถเติบโตและประสบความสำเร็จในโลกที่ขับเคลื่อนด้วย AI

กรอบการทำงานฉบับร่างนี้จัดทำขึ้นเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั่วโลก และจะมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาแบบประเมินด้านความเข้าใจสื่อและปัญญาประดิษฐ์ของ PISA ในปี 2029 โดยฉบับสมบูรณ์มีกำหนดเผยแพร่ในปี 2026

——————————————————————————–

ภาพรวมและความสำคัญของ AILit Framework

ความจำเป็นของความเข้าใจเรื่องปัญญาประดิษฐ์ (Why AI Literacy?)

ในปัจจุบัน AI ได้เข้ามามีอิทธิพลต่อวิถีชีวิต การเข้าถึงข้อมูล การสื่อสาร และการตัดสินใจ ทำให้ความเข้าใจเรื่อง AI (AI Literacy) กลายเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับทุกคน อย่างไรก็ตาม ยังคงมีช่องว่างและความท้าทายที่สำคัญอยู่:

  • เยาวชนกำลังทดลองใช้ AI และต้องการคำแนะนำ: คนรุ่นใหม่ (Gen Z) ส่วนใหญ่เรียนรู้เรื่อง AI จากโซเชียลมีเดีย (55%) และเพื่อนร่วมงานหรือนายจ้าง (35%) ในขณะที่เรียนรู้จากนักการศึกษาเพียง 12% ข้อมูลชี้ว่าคนหนุ่มสาวกำลังใช้ AI ในชีวิตประจำวันอย่างแพร่หลาย แต่ยังขาดความเข้าใจในการใช้งานอย่างปลอดภัยและมีความรับผิดชอบ
  • ช่องว่างด้านทักษะ AI: ผลสำรวจพบว่า 49% ของผู้มีอายุ 17-27 ปี ประสบปัญหาในการประเมินและระบุข้อบกพร่องของ AI เช่น การแยกแยะข้อเท็จจริงที่ AI สร้างขึ้นเอง
  • ความกังวลในระบบการศึกษา: จากการศึกษาเยาวชนอายุ 12-17 ปีในยุโรป พบว่า:
    • 74% เชื่อว่า AI จะมีบทบาทสำคัญในชีวิตการทำงานของพวกเขา
    • เพียง 46% คิดว่าโรงเรียนเตรียมความพร้อมให้พวกเขาสำหรับยุค AI ได้อย่างเพียงพอ
    • 49% กังวลว่า AI อาจขยายช่องว่างความสำเร็จทางการเรียนในหมู่เพื่อน
    • 44% มองว่าครูของพวกเขามีความพร้อมในการทำงานกับแอปพลิเคชัน AI

การผลักดันให้ความเข้าใจเรื่อง AI เป็นวาระสำคัญทางการศึกษาจะช่วยให้ผู้เรียนสามารถประเมิน ตั้งคำถาม และประยุกต์ใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบ ทั้งในชีวิตการเรียนและในบริบทอื่นๆ นอกห้องเรียน

“การให้ความสำคัญกับความเข้าใจเรื่อง AI เท่ากับเรากำลังเสริมสร้างพลังให้แก่นักเรียนรุ่นนี้ด้วยทักษะการคิดเชิงวิพากษ์และการตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูล ซึ่งจะช่วยดึงศักยภาพของ AI ออกมาและช่วยให้พวกเขาเติบโตในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว”

– Romina Cachia, หัวหน้าทีมและนักวิจัยทางวิทยาศาสตร์, Joint Research Centre – European Commission

ผู้จัดทำและกลุ่มเป้าหมาย

AILit Framework เป็นโครงการริเริ่มร่วมกันของ คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) และ OECD โดยได้รับการสนับสนุนจาก Code.org และผู้เชี่ยวชาญชั้นนำระดับนานาชาติ

กลุ่มเป้าหมายหลัก ของกรอบการทำงานนี้คือ:

  • ครู (Teachers): เพื่อนำไปปรับใช้ในการเรียนการสอนในห้องเรียน
  • ผู้นำทางการศึกษา (Education Leaders): เพื่อพัฒนานโยบายและโครงการริเริ่มในระดับโรงเรียน
  • ผู้กำหนดนโยบายการศึกษา (Education Policymakers): เพื่อใช้เป็นแนวทางในการกำหนดนโยบายระดับชาติและนานาชาติ
  • นักออกแบบการเรียนรู้ (Learning Designers): เพื่อใช้ในการสร้างสื่อการเรียนรู้และหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับ AI

นิยามหลัก

  • ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence – AI): “ระบบที่ทำงานด้วยเครื่องจักร ซึ่งสามารถอนุมานจากข้อมูลที่ได้รับ เพื่อสร้างผลลัพธ์ เช่น การคาดการณ์ เนื้อหา คำแนะนำ หรือการตัดสินใจ ที่สามารถมีอิทธิพลต่อสภาพแวดล้อมทางกายภาพหรือเสมือนจริง” (คำนิยามตาม OECD, 2024 และสอดคล้องกับ EU AI Act)
  • ความเข้าใจเรื่องปัญญาประดิษฐ์ (AI Literacy): “ความรู้ทางเทคนิค ทักษะที่ยั่งยืน และทัศนคติที่พร้อมสำหรับอนาคต ซึ่งจำเป็นต่อการเติบโตในโลกที่ได้รับอิทธิพลจาก AI” โดยจะช่วยให้ผู้เรียนสามารถมีส่วนร่วม สร้างสรรค์ จัดการ และออกแบบ AI พร้อมทั้งประเมินประโยชน์ ความเสี่ยง และนัยทางจริยธรรมได้อย่างมีวิจารณญาณ

——————————————————————————–

โครงสร้างของกรอบการทำงาน

AILit Framework แบ่งออกเป็น 4 โดเมนปฏิสัมพันธ์ ซึ่งตั้งอยู่บนรากฐานของความรู้ ทักษะ และทัศนคติ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างสมรรถนะที่จำเป็นสำหรับผู้เรียน

โดเมนปฏิสัมพันธ์ 4 ด้าน (The Four Domains of AI Literacy)

โดเมนทั้งสี่แสดงถึงวิธีที่ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์กับ AI ในรูปแบบต่างๆ ดังนี้:

  1. การมีส่วนร่วมกับ AI (Engaging with AI): การใช้ AI เป็นเครื่องมือในการเข้าถึงข้อมูลหรือรับคำแนะนำ ซึ่งจำเป็นต้องตระหนักถึงการมีอยู่ของ AI และประเมินความถูกต้องของผลลัพธ์
  2. การสร้างสรรค์ด้วย AI (Creating with AI): การทำงานร่วมกับ AI ในกระบวนการสร้างสรรค์หรือแก้ปัญหา โดยต้องมีการชี้นำ ปรับปรุงผลลัพธ์ และพิจารณาประเด็นด้านจริยธรรม เช่น ความเป็นเจ้าของผลงาน
  3. การจัดการ AI (Managing AI): การเลือกใช้ AI เพื่อสนับสนุนการทำงานของมนุษย์อย่างตั้งใจ เช่น การมอบหมายงานที่มีโครงสร้างชัดเจนให้ AI ทำ เพื่อให้มนุษย์สามารถมุ่งเน้นไปที่งานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์หรือการตัดสินใจที่ซับซ้อน
  4. การออกแบบ AI (Designing AI): การสร้างความเข้าใจว่า AI ทำงานอย่างไรและเชื่อมโยงกับผลกระทบทางสังคมและจริยธรรม ผ่านการสำรวจและทดลองเชิงปฏิบัติ เพื่อสร้างความสามารถในการ gestalten เทคโนโลยีเพื่อประโยชน์ของมนุษย์

รากฐาน: ความรู้ ทักษะ และทัศนคติ

ส่วนประกอบทั้งสามนี้เป็นรากฐานที่ยั่งยืนของความเข้าใจเรื่อง AI ซึ่งจะยังคงมีความสำคัญแม้ว่าเทคโนโลยีจะเปลี่ยนแปลงไป

องค์ประกอบคำอธิบาย
ความรู้ (Knowledge)แนวคิดและความเข้าใจเชิงเทคนิคและสังคม เกี่ยวกับ AI ประกอบด้วย 5 ด้านหลัก: ธรรมชาติของ AI, การที่ AI สะท้อนทางเลือกของมนุษย์, บทบาทของ AI ต่องานและมนุษย์, ความสามารถและข้อจำกัดของ AI, และบทบาทของ AI ในสังคม
ทักษะ (Skills)ความสามารถพื้นฐานของมนุษย์ที่ประยุกต์ใช้ในบริบทของ AI ประกอบด้วย 7 ทักษะ: การคิดเชิงวิพากษ์, ความคิดสร้างสรรค์, การคิดเชิงคำนวณ, การตระหนักรู้ในตนเองและสังคม, การทำงานร่วมกัน, การสื่อสาร, และการแก้ปัญหา
ทัศนคติ (Attitudes)กรอบความคิดและคุณลักษณะที่เตรียมความพร้อมให้ผู้เรียน ประกอบด้วย 5 ประการ: ความรับผิดชอบ, ความใฝ่รู้, การเป็นนักนวัตกรรม, การปรับตัว, และความเข้าอกเข้าใจ

จริยธรรมในกรอบการทำงาน

ประเด็นด้านจริยธรรมไม่ได้ถูกแยกออกมาเป็นหัวข้อเฉพาะ แต่ถูก บูรณาการอยู่ทั่วทั้งกรอบการทำงาน ทั้งในส่วนของความรู้ ทักษะ ทัศนคติ และสมรรถนะต่างๆ เช่น การประเมินผลลัพธ์ของ AI เพื่อหาอคติ การทำความเข้าใจผลกระทบต่อความเป็นธรรมและความเท่าเทียม และการพิจารณาถึงความเป็นส่วนตัวและความโปร่งใส

——————————————————————————–

ประเด็นหลักและหลักการพัฒนา

กรอบการทำงานนี้สร้างขึ้นจากกระบวนการวิจัยที่ครอบคลุม ซึ่งเผยให้เห็นประเด็นสำคัญและนำไปสู่หลักการพัฒนาที่ชัดเจน

ประเด็นหลัก 3 ประการจากงานวิจัย

  1. การทำงานของ AI และ Machine Learning: เน้นการสร้างความเข้าใจพื้นฐานทางเทคนิคของ AI ว่าไม่ใช่เวทมนตร์ แต่เป็นการประมวลผลข้อมูลผ่านการอนุมานทางสถิติ เพื่อขจัดความเข้าใจผิดและช่วยให้ผู้เรียนประเมินความสามารถและข้อจำกัดของ AI ได้
  2. ทักษะของมนุษย์เพื่อการทำงานร่วมกับ AI: ให้ความสำคัญกับทักษะที่มนุษย์มีอยู่แล้ว เช่น การคิดเชิงวิพากษ์ อภิปัญญา (Metacognition) การสื่อสาร และการคิดเชิงคำนวณ ซึ่งยังคงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการมีปฏิสัมพันธ์กับ AI
  3. ผลกระทบของ AI ต่อบุคคล สังคม และสิ่งแวดล้อม: ย้ำว่าประเด็นทางจริยธรรมเป็นแกนกลางของการเรียนรู้เรื่อง AI ผู้เรียนต้องเข้าใจว่า AI สามารถสะท้อนและขยายอคติที่มีอยู่ในสังคม รวมถึงต้องพิจารณาถึงต้นทุนด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้พลังงานและทรัพยากรธรรมชาติ

หลักการพัฒนา

AILit Framework ได้รับการพัฒนาภายใต้หลักการ 6 ประการ เพื่อให้มั่นใจว่ากรอบการทำงานนี้สามารถนำไปใช้ได้จริงและมีความยั่งยืน:

  • เป็นพื้นฐาน (Foundational): กำหนดสมรรถนะหลักที่จำเป็น
  • ยั่งยืน (Durable): ระบุความรู้และทักษะที่ยังคงมีความสำคัญแม้เทคโนโลยีจะเปลี่ยนไป
  • บูรณาการข้ามสาขาวิชา (Interdisciplinary): สามารถนำไปปรับใช้ได้ในหลากหลายวิชา
  • ใช้งานได้จริง (Practical): ทำให้การสอนเรื่อง AI เป็นไปได้ในบริบทห้องเรียนที่แตกต่างกัน
  • เป็นสากล (Global): รวบรวมข้อมูลเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก
  • มีตัวอย่างประกอบ (Illustrative): มีสถานการณ์จำลองและตัวอย่างที่ทำให้เห็นภาพชัดเจน

——————————————————————————–

สมรรถนะหลัก 22 ประการ

ภายใต้ 4 โดเมนหลัก กรอบการทำงานได้กำหนดสมรรถนะไว้ทั้งหมด 22 ประการ แต่ละสมรรถนะเป็นการผสมผสานระหว่างความรู้ ทักษะ และทัศนคติ พร้อมด้วยสถานการณ์จำลองสำหรับระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา เพื่อเป็นแนวทางให้ครูนำไปปฏิบัติ

ตัวอย่างสมรรถนะในแต่ละโดเมน:

  • การมีส่วนร่วมกับ AI:
    • สมรรถนะที่ 1: ตระหนักถึงบทบาทและอิทธิพลของ AI ในบริบทต่างๆ
    • สมรรถนะที่ 2: ประเมินว่าควรยอมรับ ปรับปรุง หรือปฏิเสธผลลัพธ์จาก AI
    • สมรรถนะที่ 4: อธิบายว่า AI สามารถถูกใช้เพื่อขยายอคติในสังคมได้อย่างไร
  • การสร้างสรรค์ด้วย AI:
    • สมรรถนะที่ 1: ใช้ AI เพื่อสำรวจมุมมองใหม่ๆ และต่อยอดจากแนวคิดดั้งเดิม
    • สมรรถนะที่ 3: ทำงานร่วมกับ Generative AI เพื่อรับข้อเสนอแนะ ปรับปรุงผลลัพธ์ และสะท้อนกระบวนการคิด
  • การจัดการ AI:
    • สมรรถนะที่ 1: ตัดสินใจว่าจะใช้ระบบ AI หรือไม่ โดยพิจารณาจากลักษณะของงาน
    • สมรรถนะที่ 3: กำกับดูแลระบบ Generative AI โดยให้คำแนะนำที่เฉพาะเจาะจง บริบทที่เหมาะสม และเกณฑ์การประเมิน
  • การออกแบบ AI:
    • สมรรถนะที่ 1: อธิบายว่าระบบ AI สามารถออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการแก้ปัญหาในชุมชนได้อย่างไร
    • สมรรถนะที่ 3: รวบรวมและคัดเลือกข้อมูลที่สามารถใช้ฝึกโมเดล AI โดยคำนึงถึงความเกี่ยวข้อง การเป็นตัวแทน และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น

——————————————————————————–

บทบาทของนักการศึกษาและขั้นตอนต่อไป

บทบาทของครูและนักการศึกษา

ครูและนักการศึกษามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาความเข้าใจเรื่อง AI ของผู้เรียน โดยทำหน้าที่เชื่อมโยงแนวคิดที่เป็นนามธรรมเข้ากับการปฏิบัติในห้องเรียน ชี้นำการสืบเสาะหาความรู้เกี่ยวกับ AI และสร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับการอภิปรายเรื่องความเป็นธรรมและอคติ อย่างไรก็ตาม ครูจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนอย่างตรงจุด ทั้งในด้านการพัฒนาสมรรถนะด้าน AI ของตนเอง และการเข้าถึงการฝึกอบรมที่มีคุณภาพเพื่อพัฒนารูปแบบการสอนที่เท่าทันเทคโนโลยี

การดำเนินงานในอนาคต

เอกสารฉบับนี้เป็นฉบับร่างเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั่วโลกผ่านการสำรวจออนไลน์ การจัดกลุ่มสนทนา และการประชุมต่างๆ โดย ฉบับสมบูรณ์ของ AILit Framework จะเผยแพร่ในปี 2026 พร้อมกับชุดตัวอย่างสื่อการเรียนรู้ด้าน AI Literacy ที่พร้อมใช้งานในห้องเรียน

ที่มา: https://ailiteracyframework.org
เล่ม https://ailiteracyframework.org/wp-content/uploads/2025/05/AILitFramework_ReviewDraft.pdf

Comments

comments

Powered by Facebook Comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

ติดต่อ ดร.อนุศร หงษ์ขุนทด
error: Content is protected !!