Monday, December 8, 2025
Latest:
Digital Learning Classroom
ความรู้ทั่วไป

ยุทธศาสตร์การพลิกโฉมการศึกษาวิทยาศาสตร์ไทยสู่ PISA 2025 และ PISA 2029

แชร์เรื่องนี้

ยุทธศาสตร์การพลิกโฉมการศึกษาวิทยาศาสตร์ไทยสู่ PISA 2025 และ PISA 2029

ดร.อนุศร หงษ์ขุนทด
ศึกษานิเทศก์ วิทยฐานะศึกษานิเทศก์เชี่ยวชาญ สพม.นครราชสีมา
Musicmankob@gmail.com 


__________________________________

บทนำ: วิกฤตการณ์และโอกาสของการศึกษาวิทยาศาสตร์ไทยในยุค Anthropocene

สถานการณ์การศึกษาวิทยาศาสตร์ของประเทศไทยกำลังเผชิญกับจุดเปลี่ยนที่สำคัญยิ่ง ผลการประเมิน PISA (Programme for International Student Assessment) ในรอบทศวรรษที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ จากเดิมที่เน้นการท่องจำเนื้อหา (Content-based) ไปสู่การเน้นสมรรถนะ (Competency-based) และการรู้เรื่องวิทยาศาสตร์ (Scientific Literacy) ที่สามารถนำไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตจริงได้ การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้เป็นเพียงความต้องการภายในประเทศ แต่เป็นแรงกดดันจากกระแสโลกที่กำลังก้าวเข้าสู่ยุค PISA 2025 ซึ่งเน้นกรอบแนวคิด “Agency in the Anthropocene” และต่อเนื่องไปยัง PISA 2029 ที่จะมุ่งเน้นเรื่อง “Climate Literacy” และความฉลาดทางดิจิทัล (AI Literacy)

บทความฉบับนี้ นำเสนอการออกแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้วิธีการสืบเสาะหาความรู้ด้วยการโต้แย้ง (Argumentation-Based Inquiry: ABI) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างกระบวนการคิดขั้นสูง ผนวกกับการใช้ประเด็นท้าทายทางสังคมและวิทยาศาสตร์ (Socio-Scientific Issues: SSI) ที่เกิดขึ้นจริงในประเทศไทย ได้แก่ วิกฤตฝุ่น PM 2.5 และความขัดแย้งเรื่องโรงไฟฟ้าขยะ (Waste-to-Energy) เป็นบริบทในการเรียนรู้ โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ฟื้นฟูคะแนน PISA และเตรียมความพร้อมนักเรียนไทยสำหรับการสอบด้วยคอมพิวเตอร์ (Computer-Based Assessment: CBA) อย่างเต็มรูปแบบ

ส่วนที่ 1: การถอดรหัสกรอบการประเมิน PISA 2025 และทิศทางสู่ PISA 2029

การจะยกระดับคุณภาพการศึกษาไทยให้ทัดเทียมมาตรฐานสากล จำเป็นต้องมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึง “ปรัชญา” และ “โครงสร้าง” ของการประเมิน PISA ในรอบใหม่ ซึ่งมีความซับซ้อนและท้าทายกว่าในอดีตมาก การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ใช่เพียงการเปลี่ยนข้อสอบ แต่เป็นการเปลี่ยนนิยามของคำว่า “ผู้รู้วิทยาศาสตร์” ในศตวรรษที่ 21

Agency in the Anthropocene: หัวใจใหม่ของ PISA 2025

กรอบการประเมิน PISA 2025 ได้นำเสนอแนวคิด “Agency in the Anthropocene” หรือ “การเป็นผู้กระทำในยุคแอนโทรโปซีน” ซึ่งถือเป็นการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ครั้งสำคัญ ยุคแอนโทรโปซีนหมายถึงยุคที่กิจกรรมของมนุษย์มีอิทธิพลหลักต่อระบบนิเวศของโลก กรอบแนวคิดนี้ไม่ได้ต้องการเพียงให้นักเรียน “รู้” ว่าโลกกำลังเปลี่ยนแปลง แต่ต้องการให้นักเรียน “รู้สึก” ว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศ และมีความสามารถ (Agency) ในการกระทำเพื่อเปลี่ยนแปลงอนาคต 1

สมรรถนะทางวิทยาศาสตร์หลัก 3 ด้าน (Scientific Competencies) ใน PISA 2025:

  1. การอธิบายปรากฏการณ์ในเชิงวิทยาศาสตร์ (Explain phenomena scientifically): นักเรียนต้องสามารถจดจำ สร้าง ประยุกต์ และประเมินคำอธิบายสำหรับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติและเทคโนโลยีได้ สมรรถนะนี้ต้องอาศัยความรู้เชิงเนื้อหา (Content Knowledge) ผสานกับความเข้าใจในกระบวนการได้มาซึ่งความรู้ 2
  2. การสร้างและประเมินการออกแบบการสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์และการตีความข้อมูลและหลักฐานในเชิงวิพากษ์ (Construct and evaluate designs for scientific enquiry and interpret scientific data and evidence critically): นี่คือจุดที่เด็กไทยมักอ่อนแอที่สุด คือความสามารถในการแยกแยะระหว่าง “ข้อมูลดิบ” (Data) และ “หลักฐาน” (Evidence) รวมถึงความสามารถในการออกแบบการทดลอง ควบคุมตัวแปร และเข้าใจความคลาดเคลื่อนของการวัด 2
  3. การสืบค้น ประเมิน และใช้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เพื่อการตัดสินใจและการกระทำ (Research, evaluate and use scientific information for decision making and action): สมรรถนะนี้เน้นการต่อสู้กับข้อมูลเท็จ (Misinformation) การประเมินความน่าเชื่อถือของแหล่งข้อมูล และการสร้างข้อโต้แย้งเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจ 2

สมรรถนะเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental Science Competencies):

สิ่งที่เพิ่มเข้ามาอย่างมีนัยสำคัญคือสมรรถนะย่อยที่เชื่อมโยงกับความเป็นพลเมืองโลก:

  • การอธิบายผลกระทบของปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับระบบโลก
  • การตัดสินใจกระทำโดยอิงจากการประเมินหลักฐานที่หลากหลาย เพื่อฟื้นฟูและรักษาสิ่งแวดล้อม
  • การแสดงความเคารพต่อมุมมองที่หลากหลายและความหวัง (Hope) ในการหาทางออกวิกฤตนิเวศสังคม 2

วิสัยทัศน์สู่ PISA 2029: Climate Literacy และ AI

การเตรียมความพร้อมไม่สามารถหยุดอยู่แค่ปี 2025 ทิศทางของ OECD ชี้ชัดไปที่การประเมิน PISA 2029 ซึ่งจะเน้นหนักในสองด้านใหม่:

  1. Climate Literacy (ความฉลาดรู้เรื่องภูมิอากาศ): ไม่ใช่แค่รู้ว่าโลกร้อน แต่ต้องเข้าใจระบบที่ซับซ้อน (Complex Systems) ของภูมิอากาศ ความเชื่อมโยงระหว่างเคมี (ก๊าซเรือนกระจก) ฟิสิกส์ (การถ่ายเทพลังงาน) และสังคมศาสตร์ (ผลกระทบทางเศรษฐกิจ) 4
  2. Media & Artificial Intelligence Literacy: การรู้เท่าทันสื่อและปัญญาประดิษฐ์ นักเรียนต้องเข้าใจว่า AI ทำงานอย่างไร ข้อมูลที่ได้จาก AI หรือ Social Media มีความน่าเชื่อถือเพียงใด และจะใช้เครื่องมือดิจิทัลเหล่านี้ในการแก้ปัญหาโลกได้อย่างไร 5

นัยยะต่อหลักสูตรไทย:

หลักสูตรวิทยาศาสตร์ไทยต้องก้าวข้ามการสอนแบบแยกส่วน (Siloed Subjects) ไปสู่การสอนแบบบูรณาการที่มองเห็น “ระบบ” (Systems Thinking) และต้องผนวก Digital Literacy เข้าไปในเนื้อหาวิทยาศาสตร์อย่างแนบเนียน ไม่ใช่แยกเรียนเป็นวิชาคอมพิวเตอร์ต่างหาก

ส่วนที่ 2: ทฤษฎีฐานราก Active Argumentation-Based Inquiry (ABI) และโมเดล Toulmin

เพื่อให้บรรลุสมรรถนะขั้นสูงตามกรอบ PISA การเรียนการสอนแบบบรรยาย (Lecture-based) ไม่สามารถตอบโจทย์ได้อีกต่อไป จำเป็นต้องเปลี่ยนห้องเรียนให้เป็นพื้นที่แห่งการสืบเสาะและโต้แย้งทางวิชาการ (Active Argumentation-Based Inquiry – ABI)

ทำไมต้อง “การโต้แย้ง” (Argumentation)?

วิทยาศาสตร์ไม่ได้เป็นเพียงชุดของข้อเท็จจริง แต่เป็นกระบวนการทางสังคมในการสร้างและตรวจสอบความรู้ผ่านการโต้แย้งด้วยหลักฐาน งานวิจัยระบุชัดเจนว่า การให้นักเรียนได้ฝึก “สร้างข้อโต้แย้ง” (Constructing Arguments) และ “วิพากษ์ข้อโต้แย้ง” (Critiquing Arguments) ช่วยพัฒนาความเข้าใจมโนทัศน์วิทยาศาสตร์อย่างลึกซึ้ง และเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับการทำข้อสอบ PISA ในระดับสูง (Level 5-6) ซึ่งต้องอาศัยการระบุข้อจำกัดของหลักฐานและการให้เหตุผลที่ซับซ้อน 6

ในบริบทวัฒนธรรมไทย ที่มักเน้นความประนีประนอมและหลีกเลี่ยงการขัดแย้ง (Confrontation avoidance) การนำ ABI มาใช้จึงต้องมีการออกแบบอย่างระมัดระวัง เพื่อสร้าง “พื้นที่ปลอดภัย” (Safe Space) ที่การโต้แย้งทางวิชาการถูกมองว่าเป็นกระบวนการสร้างปัญญา ไม่ใช่การทะเลาะเบาะแว้ง

โครงสร้างการโต้แย้งของ Toulmin (Toulmin Argumentation Pattern – TAP)

เพื่อให้การโต้แย้งมีคุณภาพและเป็นระบบ เราจะใช้โมเดลของ Stephen Toulmin (TAP) เป็น “นั่งร้านทางปัญญา” (Scaffolding) ให้นักเรียนยึดเกาะ โมเดลนี้ประกอบด้วย 6 องค์ประกอบสำคัญ ซึ่งสอดคล้องกับเกณฑ์การให้คะแนนของ PISA อย่างยิ่ง 8:

องค์ประกอบของ Toulminคำอธิบายในบริบทวิทยาศาสตร์ตัวอย่าง (บริบทโรงไฟฟ้าขยะ WtE)ความสำคัญต่อ PISA
Claim (ข้อกล่าวอ้าง)ข้อสรุปหรือคำตอบของปัญหาที่ต้องการพิสูจน์“เราควรสร้างโรงไฟฟ้าขยะในตำบล ก. เพื่อแก้ปัญหากองขยะล้นเมือง”เป็นจุดเริ่มต้นของคำตอบในข้อสอบเขียนตอบ
Data / Grounds (ข้อมูล/หลักฐาน)ข้อมูลเชิงประจักษ์ กราฟ ตัวเลข หรือผลการสังเกตที่นำมาสนับสนุน“ข้อมูลจากเทศบาลระบุว่ามีขยะสะสม 50,000 ตัน และพื้นที่ฝังกลบจะเต็มใน 2 ปี”PISA เน้นการดึงข้อมูลจากกราฟ/ตารางมาใช้ (Competency 3)
Warrant (ข้อสนับสนุน)หลักการทางวิทยาศาสตร์ที่เชื่อมโยง Data ไปสู่ Claim (เหตุผลว่าทำไมข้อมูลนี้จึงสนับสนุนข้ออ้าง)“การเปลี่ยนขยะเป็นพลังงานด้วยการเผาไหม้ (Combustion) สามารถลดปริมาตรขยะได้ถึง 90% ตามกฎการอนุรักษ์มวลและพลังงาน”จุดที่นักเรียนไทยอ่อนที่สุด มักตอบแต่ข้อมูลแต่ขาดหลักการวิทย์รองรับ 11
Backing (สิ่งสนับสนุนหลักการ)ทฤษฎี กฎ หรือบทบัญญัติที่ยืนยันความถูกต้องของ Warrant“ตามหลักอุณหพลศาสตร์ กระบวนการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ที่อุณหภูมิสูงกว่า 850°C จะช่วยทำลายสารพิษไดออกซินได้”จำเป็นสำหรับข้อสอบระดับ 5-6 ที่ต้องการความลึกของความรู้
Rebuttal (ข้อโต้แย้งกลับ)การระบุเงื่อนไขที่ข้อกล่าวอ้างอาจไม่เป็นจริง หรือการโต้ตอบมุมมองตรงข้าม“แม้จะลดปริมาณขยะได้ แต่โรงไฟฟ้าอาจปล่อย PM 2.5 และโลหะหนัก หากระบบกรองอากาศไม่มีประสิทธิภาพตามมาตรฐาน”แสดงถึง Critical Thinking และการมองรอบด้าน (Competency 2)
Qualifier (คำระบุระดับความมั่นใจ)คำที่แสดงขอบเขตความน่าจะเป็นของข้อสรุป“ดังนั้น โรงไฟฟ้าขยะ น่าจะเป็น ทางเลือกที่ดีที่สุด หาก มีการควบคุมการปล่อยมลพิษอย่างเข้มงวด”PISA ให้คะแนนสูงสำหรับคำตอบที่ไม่ฟันธงสุดโต่ง แต่มีความระมัดระวังทางวิชาการ

จาก Passive สู่ Active Inquiry

การเปลี่ยนผ่านสู่ ABI ต้องปรับบทบาทครูจาก “ผู้บอกคำตอบ” เป็น “ผู้อำนวยการอภิปราย” โดยใช้กลยุทธ์ดังนี้:

  1. Explicit Instruction: สอนโครงสร้าง TAP อย่างชัดเจน ให้นักเรียนรู้จักคำว่า Claim, Evidence, Reasoning.12
  2. Scaffolding Writing: ใช้แบบฟอร์มการเขียน (Writing Frames) ที่มีช่องว่างให้นักเรียนเติมองค์ประกอบ TAP ในช่วงแรก แล้วค่อยๆ ลดการช่วยเหลือลง.13
  3. Collaborative Discourse: จัดกิจกรรมกลุ่มที่บังคับให้เกิดการแลกเปลี่ยนและตรวจสอบความคิดเห็นซึ่งกันและกัน เช่น การโต้วาที (Debate) หรือการตรวจสอบโดยเพื่อน (Peer Review).6

ส่วนที่ 3: บริบทประเด็นท้าทายทางสังคมและวิทยาศาสตร์ (SSI) ในประเทศไทย

การเลือกบริบทที่ “โดนใจ” และ “ใกล้ตัว” เป็นกุญแจสำคัญในการดึงดูดความสนใจของนักเรียน (Engagement) ตามแนวทาง PISA สองประเด็นที่เหมาะสมที่สุดสำหรับประเทศไทยในขณะนี้คือ วิกฤตฝุ่น PM 2.5 และความขัดแย้งเรื่องโรงไฟฟ้าขยะ

กรณีศึกษาที่ 1: วิกฤตหมอกควันและฝุ่น PM 2.5 ในภาคเหนือ

ประเด็นนี้มีความซับซ้อนสูง เหมาะสำหรับการฝึกสมรรถนะ “การอธิบายปรากฏการณ์” และ “การตีความข้อมูล”

  • ปรากฏการณ์ (Phenomena): ในช่วงฤดูแล้ง (กุมภาพันธ์ – เมษายน) ของทุกปี ภาคเหนือของไทยโดยเฉพาะเชียงใหม่และเชียงราย จะเผชิญกับค่าฝุ่น PM 2.5 ที่สูงเกินมาตรฐาน (บางครั้งสูงกว่า 100-200 µg/m³ ในขณะที่ค่ามาตรฐาน WHO คือ 15 µg/m³).14
  • วิทยาศาสตร์เบื้องหลัง (Scientific Concepts):
  • Inversion Layer (อุณหภูมิผกผัน): สภาพภูมิประเทศที่เป็นแอ่งกระทะ (Basin) ทำให้เกิดชั้นอากาศเย็นกดทับอากาศร้อน กักขังมลพิษไว้ไม่ให้ลอยตัวสูงขึ้น.16
  • การเผาไหม้ชีวมวล (Biomass Burning): แหล่งกำเนิดหลักมาจากการเผาในที่โล่ง ทั้งไฟป่าและการเผาเศษวัสดุทางการเกษตร (ข้าวโพด, ข้าว).14
  • การเคลื่อนที่ของมวลอากาศ (Transboundary Haze): ข้อมูลจากแบบจำลอง Trajectory แสดงให้เห็นว่าฝุ่นส่วนหนึ่งพัดพามาจากประเทศเพื่อนบ้าน (พม่า, ลาว) แต่สัดส่วนใหญ่ยังมาจากการเผาในประเทศและในพื้นที่ใกล้เคียง.14
  • ผลกระทบทางสุขภาพ: สถิติผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ (COPD), หอบหืด, และมะเร็งปอดในภาคเหนือมีอัตราสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงฤดูหมอกควัน.19
  • โอกาสในการโต้แย้ง (Argumentation): “เราควรห้ามการเผาเด็ดขาดหรือไม่?” นักเรียนต้องชั่งน้ำหนักระหว่างผลกระทบทางสุขภาพ (Data: สถิติผู้ป่วย) กับความจำเป็นทางเศรษฐกิจของเกษตรกรที่ไม่มีทุนในการกำจัดเศษวัสดุด้วยวิธีอื่น (Rebuttal).

กรณีศึกษาที่ 2: ความขัดแย้งโรงไฟฟ้าขยะ (Waste-to-Energy: WtE)

ประเด็นนี้สะท้อนความขัดแย้งระหว่างการจัดการทรัพยากร เทคโนโลยี และการยอมรับของชุมชน เหมาะสำหรับสมรรถนะ “การตัดสินใจและการกระทำ”

สถานการณ์ความขัดแย้ง: ประเทศไทยมีขยะมูลฝอยชุมชนเกิดขึ้นมหาศาล (เช่น ภูเก็ตมีขยะเพิ่มขึ้นจาก 9,824 ตันในปี 2013 เป็น 46,807 ตันในปี 2023).20 รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมโรงไฟฟ้าขยะ (WtE) เพื่อลดพื้นที่ฝังกลบและผลิตพลังงาน แต่เกิดการต่อต้านอย่างหนักจากชุมชนในพื้นที่ เช่น ที่เชียงรากใหญ่ (ปทุมธานี), ท่าถ่าน (ฉะเชิงเทรา), และกระบี่.21

วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี:

  • Waste-to-Energy Process: การนำความร้อนจากการเผาขยะไปต้มน้ำปั่นกังหันไอน้ำ (Rankine Cycle).
  • Emission Control: เทคโนโลยีการกรองอากาศ (Electrostatic Precipitators) และการควบคุมไดออกซิน.
  • Greenhouse Gases: เปรียบเทียบระหว่างก๊าซมีเทน (CH4) ที่เกิดจากหลุมฝังกลบ (Landfill) ซึ่งมีศักยภาพทำให้โลกร้อนสูงกว่า CO2 ถึง 25-28 เท่า กับ CO2 ที่เกิดจากการเผาขยะ.20

โอกาสในการโต้แย้ง (Argumentation): “โรงไฟฟ้าขยะเป็นทางออกที่ยั่งยืนจริงหรือ?” นักเรียนสามารถแย้งว่า WtE ดีกว่าฝังกลบในแง่ลดก๊าซเรือนกระจก (Claim + Data) แต่ฝ่ายตรงข้ามอาจแย้งเรื่องความเสี่ยงของสารพิษตกค้างและการแย่งชิงอาชีพของซาเล้ง (Rebuttal + Social Impact).23

ส่วนที่ 4: การเตรียมความพร้อมสู่ Computer-Based Assessment (CBA) และ Digital Competency

จุดอ่อนสำคัญของเด็กไทยในการสอบ PISA รอบที่ผ่านมาไม่ใช่แค่ความรู้ แต่คือ “ความไม่คุ้นเคยกับเครื่องมือสอบ” PISA 2025 และ 2029 จะใช้ข้อสอบแบบ Interactive Simulations เต็มรูปแบบ ดังนั้น การจัดการเรียนรู้ต้องผนวกเครื่องมือดิจิทัลเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของ “วิถีการเรียนรู้”

ทักษะดิจิทัลที่จำเป็นสำหรับการสอบ (Digital Skills for PISA)

  1. Simulation Literacy: ความสามารถในการจัดการตัวแปร (Variables) ในสถานการณ์จำลอง เช่น การเลื่อน Slider เพื่อเปลี่ยนอุณหภูมิ แล้วสังเกตผลกระทบต่อกราฟ.25
  2. Data Filtering & Navigation: ความสามารถในการเลือกชั้นข้อมูล (Layers) ที่เกี่ยวข้องและปิดข้อมูลที่ไม่จำเป็น เพื่อหาคำตอบจากแผนที่หรือฐานข้อมูลขนาดใหญ่.26
  3. Process Data Awareness: นักเรียนต้องตระหนักว่าระบบจะบันทึก “พฤติกรรม” การคลิก (Log Files) การลองผิดลองถูกแบบมั่วๆ จะถูกหักคะแนนในด้านกระบวนการ ดังนั้นต้องคิดก่อนคลิก.27

เครื่องมือดิจิทัลแนะนำสำหรับการเรียนรู้ (Tools Integration)

NASA Worldview 26:

  • การใช้งาน: ใช้สอนเรื่อง PM 2.5 นักเรียนสามารถดูข้อมูลย้อนหลัง (Time Slider) เพื่อเปรียบเทียบจุดความร้อน (Thermal Anomalies Layer) กับค่าฝุ่น (Aerosol Optical Depth Layer).
  • PISA Skill: การตีความข้อมูลภูมิสารสนเทศ (Geospatial Data) และการหาความสัมพันธ์เชิงสาเหตุ (Causal relationships) ระหว่างตำแหน่งไฟและทิศทางลม.

PhET Interactive Simulations 29:

  • Simulation: “The Greenhouse Effect” หรือ “Glaciers”.
  • การใช้งาน: ให้นักเรียนทดลองเพิ่มปริมาณก๊าซเรือนกระจกและสังเกตการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิโลกและโฟตอนอินฟราเรด.
  • PISA Skill: การออกแบบการทดลอง (Control Variables), การเก็บข้อมูลจากโมเดลจำลอง.

เกมจำลองการจัดการขยะ (Waste Management Games) 31:

  • Games: “Ecoville”, “Recycle City”.
  • การใช้งาน: จำลองการบริหารจัดการเมือง ตัดสินใจสร้างโรงไฟฟ้าหรือหลุมฝังกลบ และดูผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและงบประมาณ.
  • PISA Skill: Systems Thinking และการตัดสินใจภายใต้ข้อจำกัด (Complex Decision Making).

ส่วนที่ 5: สถาปัตยกรรมการเรียนรู้: หน่วยการเรียนรู้ “ลมหายใจและไฟ: ทางเลือกสู่อนาคต” (Breath & Fire)

ส่วนนี้ขอนำเสนอตัวอย่างหน่วยการเรียนรู้ที่บูรณาการแนวคิดทั้งหมดเข้าด้วยกัน โดยใช้เวลาประมาณ 4-6 สัปดาห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นหรือปลาย

ชื่อหน่วย: ลมหายใจและไฟ (Breath & Fire: Deciding Thailand’s Energy and Environmental Future)

โมเดลการสอน: 5E Inquiry + Argumentation-Driven Inquiry (ADI)

ระยะที่ 1: Engagement & Digital Exploration (การสร้างความสนใจด้วยข้อมูลดิจิทัล)

กิจกรรม: “นักสืบอวกาศ (The Detective from Space)”

เครื่องมือ: NASA Worldview

สถานการณ์: ให้นักเรียนสวมบทบาทเป็นนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลที่ต้องหาสาเหตุของค่าฝุ่นที่พุ่งสูงขึ้นในเชียงใหม่เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

ภารกิจ:

  1. เปิด NASA Worldview ตั้งค่าวันที่ย้อนหลังไปช่วงวิกฤต.
  2. เลือก Layer: “Corrected Reflectance” (ภาพจริง), “MODIS Thermal Anomalies” (จุดความร้อน), และ “Aerosol Optical Depth (AOD)” (ค่าฝุ่น).
  3. คำถามท้าทาย: “จงหาหลักฐาน (Data) จากภาพถ่ายดาวเทียมที่ยืนยันว่าฝุ่นไม่ได้มาจากรถยนต์ในตัวเมือง แต่มาจากแหล่งอื่น”
  4. ผลลัพธ์: นักเรียนจะเห็นจุดสีแดง (ไฟป่า/การเผา) กระจายตัวบนภูเขาและในประเทศเพื่อนบ้าน และเห็นแถบสีของฝุ่น (Aerosol) ลอยตามทิศทางลม.

ระยะที่ 2: Exploration & Simulation (การสำรวจด้วยแบบจำลอง)

กิจกรรม: “ห้องทดลองเสมือน: กับดักความร้อน”

เครื่องมือ: PhET Simulation: Greenhouse Effect

สถานการณ์: เชื่อมโยงสู่ประเด็นโรงไฟฟ้าขยะและการเผาไหม้

ภารกิจ:

  1. นักเรียนออกแบบการทดลองเพื่อดูว่า “การเพิ่มความเข้มข้นของก๊าซ CO2 (จากการเผาไหม้) ส่งผลต่ออุณหภูมิโลกอย่างไร”
  2. บันทึกข้อมูลเป็นตาราง (Data Table) จากการรัน Simulation อย่างน้อย 3 รอบ (Trials) เพื่อหาค่าเฉลี่ย.
  3. Scaffolding: ครูแนะนำให้นักเรียนเปลี่ยนตัวแปรทีละตัว (Control Variable Strategy) เพื่อฝึกทักษะ PISA Competency 2.

ระยะที่ 3: Explanation & Argument Construction (การสร้างคำอธิบายด้วย Toulmin)

กิจกรรม: “กระดานโต้แย้ง (The Toulmin Board)”

สื่อการเรียนรู้: ใบงาน Toulmin Scaffold (Writing Frame) 33

โจทย์ SSI: “ประเทศไทยควรขยายโรงไฟฟ้าขยะ (WtE) เพื่อแก้ปัญหามลพิษจากขยะและฝุ่นควันจากการเผาขยะกลางแจ้ง หรือไม่?”

กระบวนการ:

  1. Group Work: แบ่งกลุ่มเป็นฝ่ายสนับสนุนและคัดค้าน.
  2. Drafting:
  • Claim: เขียนจุดยืน (ควร/ไม่ควร).
  • Data: นำข้อมูลจากบทความข่าว (ปริมาณขยะในภูเก็ต/ชลบุรี) และข้อมูลจาก PhET (ผลของ CO2) มาใส่.
  • Warrant (สำคัญที่สุด): เขียนอธิบายว่า ทำไม ข้อมูลนี้จึงสนับสนุนจุดยืน (เช่น “เพราะการเผาขยะในระบบปิดสามารถควบคุมก๊าซพิษได้ดีกว่าการปล่อยให้เกิดมีเทนในหลุมฝังกลบตามหลักการ…”).
  1. Backing: ค้นคว้าเพิ่มเติมเพื่อหาทฤษฎีหรือกฎหมายรองรับ Warrant.

ครูผู้สอน: เดินสำรวจและตั้งคำถามกระตุ้น Warrant เช่น “ข้อมูลบอกว่าขยะลดลง แต่ทำไมการลดลงนี้ถึงดีต่อสิ่งแวดล้อม? อธิบายด้วยหลักวิทยาศาสตร์หน่อย”

ระยะที่ 4: Elaboration & Decision Making (การขยายความรู้และตัดสินใจ)

กิจกรรม: “ประชาพิจารณ์จำลอง (The Public Hearing)”

บทบาทสมมติ: วิศวกร, ชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบ, เจ้าหน้าที่รัฐ, นักสิ่งแวดล้อม.

กระบวนการ:

  1. จัดการโต้วาที (Debate) ตามโครงสร้าง Toulmin.35
  2. แต่ละฝ่ายต้องนำเสนอ Claim และ Data ของตน และต้องมี Rebuttal (ข้อโต้แย้งกลับ) ต่อฝ่ายตรงข้าม.
  3. เป้าหมาย: ไม่ใช่การเอาชนะ แต่คือการหา “ทางออกร่วมกัน” (Consensus) เช่น “อนุญาตให้สร้างโรงไฟฟ้า แต่ ต้องมีระบบตรวจสอบมลพิษแบบ Real-time ที่ชาวบ้านเข้าถึงได้” (สะท้อน Agency และ Hope).

ระยะที่ 5: Evaluation (การประเมินผลด้วยแบบจำลอง PISA)

เครื่องมือ: แบบทดสอบออนไลน์ (Google Forms/Moodle) ที่เลียนแบบ PISA CBA.

รูปแบบข้อสอบ:

  1. Stimulus: กราฟแสดงค่า PM 2.5 รายชั่วโมงในเชียงใหม่ เปรียบเทียบกับจำนวนจุดความร้อน.15
  2. Item 1 (Multiple Choice): ตีความกราฟ (Level 2).
  3. Item 2 (Interactive): ให้ Link ไปยังบทความสั้นๆ 3 บทความ (เชื่อถือได้ 1, ข่าวปลอม 1, บทความวิชาการ 1) แล้วให้เลือกแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือที่สุดมาตอบ (Competency 3).
  4. Item 3 (Constructed Response): เขียนโต้แย้งโดยใช้โครงสร้าง Toulmin ว่า “เราควรเชื่อข้อมูลจากแหล่งใด เพราะเหตุใด” (Level 5-6).

ส่วนที่ 6: เกณฑ์การประเมิน (Assessment Rubric) ที่สอดคล้องกับ PISA

เพื่อให้คะแนนสะท้อนระดับสมรรถนะ PISA อย่างแท้จริง เราต้องใช้ Rubric ที่ประเมินคุณภาพของ “การให้เหตุผล” (Reasoning Quality) ไม่ใช่แค่คำตอบถูก/ผิด.36

ตารางเกณฑ์การประเมินทักษะการโต้แย้งทางวิทยาศาสตร์ (Scientific Argumentation Rubric)

ระดับ PISAคำอธิบายระดับความสามารถ (Proficiency Description)เกณฑ์การประเมินตามโมเดล Toulmin
ระดับ 6 (สูง)สามารถประเมินข้อโต้แย้งที่ซับซ้อน ใช้ความรู้เชิงนามธรรมและทฤษฎีมาอธิบาย ระบุข้อจำกัดของหลักฐานได้Strong Rebuttal & Qualifier: ข้อโต้แย้งมีการระบุเงื่อนไข (Qualifier) ชัดเจน มีการคาดการณ์ข้อโต้แย้งกลับ (Rebuttal) และหักล้างด้วยหลักฐานที่แข็งแรง Warrant มีการใช้ทฤษฎีวิทยาศาสตร์ขั้นสูง (Backing) รองรับ
ระดับ 5อธิบายปรากฏการณ์ที่ไม่คุ้นเคยได้ ใช้ความรู้ทางระบาดวิทยาหรือระบบโลกที่ซับซ้อนExplicit Warrant & Backing: เชื่อมโยง Data กับ Claim ด้วยหลักการวิทยาศาสตร์ที่ถูกต้องชัดเจน (Warrant) มีการอ้างอิงแหล่งข้อมูลที่หลากหลายและน่าเชื่อถือ
ระดับ 4สร้างคำอธิบายเหตุการณ์ที่ซับซ้อนปานกลาง ออกแบบการทดลองควบคุมตัวแปรได้Claim + Data + Reasoning: มี Claim ที่ชัดเจน สนับสนุนด้วย Data ที่เกี่ยวข้อง มีความพยายามอธิบายเหตุผล (Reasoning/Warrant) แต่อาจยังขาดทฤษฎีรองรับที่ลึกซึ้ง (Backing)
ระดับ 3อธิบายปรากฏการณ์ที่คุ้นเคย แยกแยะประเด็นวิทยาศาสตร์ได้Claim + Data: ระบุ Claim ได้ถูกต้อง และยก Data มาสนับสนุนได้ตรงประเด็น แต่ขาดการอธิบายความเชื่อมโยง (Missing Warrant) หรือเป็นการคัดลอกข้อความมาตอบ
ระดับ 2 (พื้นฐาน)ระบุคำอธิบายที่เหมาะสม ตีความกราฟง่ายๆ ได้Claim Only / Weak Data: มี Claim แต่ Data ที่นำมาสนับสนุนไม่เพียงพอ หรือเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว (Opinion) มากกว่าข้อเท็จจริง
ระดับ 1จดจำข้อเท็จจริงพื้นฐาน ทำตามคำสั่งง่ายๆ ได้Fragmented: ข้อมูลกระจัดกระจาย ไม่สามารถสร้างข้อความที่เป็นเหตุเป็นผลกันได้

ส่วนที่ 7: ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายและการนำไปปฏิบัติ

เพื่อให้ยุทธศาสตร์นี้เกิดขึ้นจริงในโรงเรียนไทย จำเป็นต้องมีการดำเนินการในระดับนโยบายและการปฏิบัติ:

  1. Teacher Empowerment on Argumentation: ครูวิทยาศาสตร์ไทยส่วนใหญ่ถนัดสอนเนื้อหา แต่ขาดทักษะการสอน “การโต้แย้ง” จำเป็นต้องมีการอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่องการเขียน Warrant และ Backing โดยเฉพาะ เพื่อให้ครูสามารถ Coach นักเรียนได้.37
  2. Localization of Curriculum: โรงเรียนควรได้รับอิสระในการเลือกประเด็น SSI ที่เหมาะสมกับท้องถิ่น โรงเรียนในภาคใต้ควรเน้นเรื่องโรงไฟฟ้าขยะหรือการกัดเซาะชายฝั่ง โรงเรียนภาคเหนือเน้นเรื่อง PM 2.5 เพื่อให้นักเรียนรู้สึกถึงความเป็นเจ้าของปัญหา (Agency).38
  3. Infrastructure for CBA: รัฐต้องจัดหาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ได้มาตรฐาน (หน้าจอ > 9.5 นิ้ว, มีคีย์บอร์ดจริง) เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกพิมพ์คำตอบยาวๆ เพราะทักษะการพิมพ์และการใช้เมาส์มีผลต่อคะแนน PISA อย่างมีนัยสำคัญ.40
  4. From Despair to Hope: การสอนเรื่องสิ่งแวดล้อมต้องระวังไม่ให้สร้างความตระหนกจนหดหู่ (Eco-anxiety) ต้องจบหน่วยการเรียนรู้ด้วย “การกระทำที่สร้างสรรค์” (Regenerative Action) เช่น โครงการลดขยะในโรงเรียน หรือการทำเครื่องฟอกอากาศ DIY เพื่อสร้างความรู้สึกว่า “เราทำได้” (Self-efficacy).3

บทสรุป

การยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ของไทยเพื่อมุ่งสู่ PISA 2025 และ 2029 ไม่ใช่ภารกิจที่เป็นไปไม่ได้ แต่ต้องอาศัยการเปลี่ยนทิศทางที่ถูกต้อง จากการเรียนแบบตั้งรับ (Passive) สู่การสืบเสาะเชิงโต้แย้ง (Active Argumentation-Based Inquiry) โดยใช้ประเด็นปัญหาที่แท้จริงของประเทศอย่าง PM 2.5 และโรงไฟฟ้าขยะ เป็นเวทีในการฝึกฝนทักษะการคิดขั้นสูง การนำโมเดล Toulmin มาใช้เป็นเครื่องมือทางปัญญา และการผนวกเทคโนโลยีดิจิทัลอย่าง NASA Worldview เข้ามาในกระบวนการเรียนรู้ จะช่วยสร้างนักเรียนไทยที่ไม่เพียงแต่ทำข้อสอบได้ แต่ยังเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ มีวิจารณญาณ และมีความหวังในการร่วมสร้างอนาคตที่ยั่งยืนในยุค Anthropocene

Works cited

  1. Agency in the Anthropocene Through Science Education – ESERA 2025, accessed December 7, 2025, https://esera2025.org/agency-in-the-anthropocene-through-science-education/
  2. PISA 2025 Science Framework – OECD, accessed December 7, 2025, https://pisa-framework.oecd.org/science-2025/
  3. Agency in the Anthropocene – Science Learning Hub, accessed December 7, 2025, https://www.sciencelearn.org.nz/resources/3374-agency-in-the-anthropocene
  4. PISA 2029 Climate Literacy – OECD, accessed December 7, 2025, https://www.oecd.org/en/about/projects/PISA-2029-Climate-Literacy.html
  5. PISA 2029 Media and Artificial Intelligence Literacy | OECD, accessed December 7, 2025, https://www.oecd.org/en/about/projects/pisa-2029-media-and-artificial-intelligence-literacy.html
  6. Strategies for Supporting Students to Engage in Scientific Argumentation, accessed December 7, 2025, https://classroomscience.org/articles/fyi/strategies-supporting-students-engage-scientific-argumentation
  7. Do PISA Questions Really Assess Students’ Acquisition of Scientific Competencies? A Proposal About Emphasis on Justifications. | EERA, accessed December 7, 2025, https://eera-ecer.de/ecer-programmes/conference/6/contribution/16640
  8. Toulmin Argument – Purdue OWL, accessed December 7, 2025, https://owl.purdue.edu/owl/general_writing/academic_writing/historical_perspectives_on_argumentation/toulmin_argument.html
  9. Toulmin Argument – Excelsior OWL, accessed December 7, 2025, https://owl.excelsior.edu/argument-and-critical-thinking/organizing-your-argument/organizing-your-argument-toulmin/
  10. Teaching How to Develop an Argument Using the Toulmin Model – IJMCER, accessed December 7, 2025, https://www.ijmcer.com/wp-content/uploads/2020/07/A0230107.pdf
  11. A Toulmin Model Analysis of Student Argumentation on Artificial Intelligence – MDPI, accessed December 7, 2025, https://www.mdpi.com/2227-7102/15/9/1226
  12. Enhancing Scientific Argumentation Skills in the Classroom: Strategies for Fostering Critical Thinking in Science Education – Dialnet, accessed December 7, 2025, https://dialnet.unirioja.es/descarga/articulo/10426182.pdf
  13. Claim Evidence and Reasoning Scaffolding – TPT, accessed December 7, 2025, https://www.teacherspayteachers.com/browse?search=claim%20evidence%20and%20reasoning%20scaffolding
  14. Strategy Design of PM2.5 Controlling for Northern Thailand …, accessed December 7, 2025, https://aaqr.org/articles/aaqr-22-11-aac22-0432
  15. Chiang Mai Particulate Matter (PM2.5) Level: Real-Time Air Pollution Alerts – AQI.in, accessed December 7, 2025, https://www.aqi.in/dashboard/thailand/chiang-mai/chiang-mai/pm
  16. Distribution and Meteorological Control of PM2.5 and Its Effect on Visibility in Northern Thailand – MDPI, accessed December 7, 2025, https://www.mdpi.com/2073-4433/14/3/538
  17. (PDF) Thailand Policies for PM 2.5 and the Hidden Problems – ResearchGate, accessed December 7, 2025, https://www.researchgate.net/publication/388844363_Thailand_Policies_for_PM_25_and_the_Hidden_Problems
  18. Strategy Design of PM2.5 Controlling for Northern Thailand – Aerosol and Air Quality Research, accessed December 7, 2025, https://aaqr.org/articles/aaqr-22-11-aac22-0432.pdf
  19. Decadal Trends in Ambient Air Pollutants and Their Association with COPD and Lung Cancer in Upper Northern Thailand: 2013–2022 – PubMed Central, accessed December 7, 2025, https://pmc.ncbi.nlm.nih.gov/articles/PMC11125922/
  20. Estimation of Characteristics, Methane Generated and Sustainability of Municipal Landfill Waste in Urban City, Thailand – MDPI, accessed December 7, 2025, https://www.mdpi.com/2313-4321/10/1/15
  21. Conflict Management: A Case Study of Waste-to-Energy Power Plant Development in Pathumthani Province, accessed December 7, 2025, https://doi.nrct.go.th/admin/doc/doc_662842.pdf
  22. Conflict Management: A Case Study of Waste-to-Energy Power Plant Developmentin Pathumthani Province – thaijo.org, accessed December 7, 2025, https://so04.tci-thaijo.org/index.php/NCRJ/article/view/269239
  23. As waste-to-energy incinerators spread in Southeast Asia, so do …, accessed December 7, 2025, https://news.mongabay.com/2022/12/as-waste-to-energy-incinerators-spread-in-southeast-asia-so-do-concerns/
  24. Krabi coal-fired power station project, Thailand – Ej Atlas, accessed December 7, 2025, https://ejatlas.org/print/krabi-coal-fired-power-station-project
  25. Strategies to Prepare Students for Computer-Based Assessments – Gizmos, accessed December 7, 2025, https://gizmos.explorelearning.com/resources/insights/using-simulations-to-prepare-for-computer-based-assessments
  26. NASA Worldview Tutorial – NASA HEALTH AND AIR QUALITY …, accessed December 7, 2025, https://haqast.org/nasa-worldview-tutorial/
  27. PISA Research Documentation: How to prepare and analyse the PISA database | OECD, accessed December 7, 2025, https://www.oecd.org/en/about/programmes/pisa/how-to-prepare-and-analyse-the-pisa-database.html
  28. Worldview | NASA Earthdata, accessed December 7, 2025, https://www.earthdata.nasa.gov/data/tools/worldview
  29. ‪Greenhouse Effect‬ – PhET, accessed December 7, 2025, https://phet.colorado.edu/sims/html/greenhouse-effect/1.1.1/xhtml/greenhouse-effect_all.xhtml
  30. Digital Science Resources – Google Sites, accessed December 7, 2025, https://sites.google.com/eastpennsd.org/epsdtech/elementary/stem/digital-science-resources
  31. Simulation Game – Metro Waste Authority, accessed December 7, 2025, https://www.mwatoday.com/environmental-responsibility/education/simulation-game/
  32. NEW! Waste Sorting Game – RIRRC.org., accessed December 7, 2025, https://rirrc.org/education-program-support/new-waste-sorting-game
  33. Scientific Argumentation | TPT, accessed December 7, 2025, https://www.teacherspayteachers.com/browse?search=scientific%20argumentation
  34. Toulmin-Argument-Handout-2023.pdf, accessed December 7, 2025, https://www.apsu.edu/writingcenter/writing-resources/Toulmin-Argument-Handout-2023.pdf
  35. Student handout 8.2: Rules for debating – Living Democracy, accessed December 7, 2025, https://www.living-democracy.com/textbooks/volume-4/students-manual-6/student-handout-35/
  36. Description of the PISA science literacy proficiency levels: 2022, accessed December 7, 2025, https://nces.ed.gov/surveys/pisa/pisa2022/docs/DescriptionsOf2022ProficiencyLevels-TableI34.pdf
  37. Explicit Instruction of Scientific Argumentation in Practical Work: A Feasibility Study, accessed December 7, 2025, https://www.scirp.org/journal/paperinformation?paperid=93287
  38. The day when Krabi is Coal-Free, Thailand, accessed December 7, 2025, https://www.jetknowledge.org/wp-content/uploads/2024/04/thailand-case-study-giz.pdf
  39. The Coal Situation in Thailand and Strategic Environmental Assessment | Heinrich Böll Foundation | Southeast Asia, accessed December 7, 2025, https://th.boell.org/en/2018/05/11/coal-situation-thailand-and-strategic-environmental-assessment
  40. Council of Ministers of Education, Canada > Before the Assessment > Step 1: Complete School Information Form > D. Complete Device and Internet Verification, accessed December 7, 2025, https://cmec.ca/pisa/45/Complete_Device_and_Internet_Verification.html

Comments

comments

Powered by Facebook Comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

ติดต่อ ดร.อนุศร หงษ์ขุนทด
error: Content is protected !!