Digital Learning Classroom
บทความศึกษานิเทศก์

ถอดรหัสความสำเร็จ: เจาะลึกเส้นทางสู่รางวัลนวัตกรรมการศึกษา สพฐ. จากรายการ Supervisor Learn and Share to Change EP.5

แชร์เรื่องนี้

ถอดรหัสความสำเร็จ: เจาะลึกเส้นทางสู่รางวัลนวัตกรรมการศึกษา สพฐ. จากรายการ Supervisor Learn and Share to Change EP.5

รายการ “Supervisor Learn and Share to Change” ได้กลายเป็นเวทีสำคัญสำหรับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และสร้างแรงบันดาลใจให้แก่วงการศึกษานิเทศก์ทั่วประเทศ ใน EP.5 นี้ รายการได้เจาะลึกถึงเบื้องหลังความสำเร็จของสองศึกษานิเทศก์ผู้คว้ารางวัลนวัตกรรมการนิเทศการศึกษาระดับชาติจาก สพฐ. อย่างละเอียดในทุกมิติ ผ่านการพูดคุยกับ ท่านศึกษานิเทศก์วลัยพร อ่อนพฤกษ์ภูมิ (พี่ป้อม) จาก สพป.ร้อยเอ็ด เขต 1 และ ท่านศึกษานิเทศก์ทัชชกร พรเวียง (พี่เป็ด) จาก สพป.เชียงใหม่ เขต 1 ซึ่งได้มาร่วมถอดรหัสเส้นทางแห่งความสำเร็จ ตั้งแต่จุดเริ่มต้นของแนวคิด กระบวนการที่เข้มข้น ไปจนถึงปรัชญาเบื้องหลังการทำงานที่น่าประทับใจ

จุดเริ่มต้นและแรงบันดาลใจ: การเปลี่ยน “ปัญหาหน้างาน” และ “งานประจำ” ให้เป็น “นวัตกรรม”

หัวใจของการสร้างสรรค์นวัตกรรมไม่ได้มาจากจินตนาการที่เลื่อนลอย แต่มาจากความเข้าใจในปัญหาอย่างลึกซึ้ง ซึ่งศึกษานิเทศก์ทั้งสองท่านได้สะท้อนมุมมองนี้ไว้อย่างชัดเจน

  • ศน.วลัยพร (พี่ป้อม): จาก “งานประจำที่ทำอย่างต่อเนื่อง” สู่ “ลายเซ็น (Signature)” ที่ชัดเจน

พี่ป้อมเล่าว่านวัตกรรมของเธอไม่ได้เกิดขึ้นจากการตั้งโจทย์เพื่อประกวด แต่เป็นการตกผลึกจากงานที่ทำซ้ำๆ และต่อเนื่องในฐานะ “คนกลาง” ระหว่างนโยบายและการปฏิบัติจริง เมื่อต้องนำนโยบายไปสู่โรงเรียนและนำผลสะท้อนกลับมา เมื่อทำกระบวนการนี้กับหลายโรงเรียนแล้วเกิดผลลัพธ์ที่ดีอย่างสม่ำเสมอ จนกลายเป็นที่ยอมรับและมีคนพูดถึงว่า “ถ้าจะปรึกษาเรื่องนี้ ต้องปรึกษาท่านนี้” จุดนั้นเองคือสัญญาณที่บอกว่า “นวัตกรรมได้เกิดขึ้นแล้ว” มันคือการเปลี่ยนสิ่งที่ทำเป็นประจำให้กลายเป็นกระบวนการที่เชื่อถือได้และแก้ปัญหาได้จริง

  • ศน.ทัชชกร (พี่เป็ด): “โฟกัสที่ปัญหา” ของกลุ่มเปราะบางเป็นที่ตั้ง

พี่เป็ดเริ่มต้นจากการมองเห็นปัญหาที่ซับซ้อนของ “เด็กด้อยโอกาสในชุมชนเมือง” ซึ่งไม่ได้มีแค่ปัญหาด้านการเรียน แต่ยังเกี่ยวพันกับมิติทางเศรษฐกิจ สังคม และสุขภาพ แรงบันดาลใจของเธอคือความต้องการที่จะสร้างกระบวนการนิเทศที่สามารถ “เติมเต็ม” ให้กับคุณครู เพื่อให้ครูมีเครื่องมือและแนวทางในการดูแลเด็กกลุ่มนี้ได้อย่างรอบด้าน เป้าหมายสูงสุดไม่ใช่แค่ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แต่คือ “การยกระดับคุณภาพชีวิต” ของเด็กๆ เหล่านี้ไปพร้อมกัน โดยยึดหลักการทำงาน 3 มิติคือ ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน, พัฒนาบนข้อมูลเชิงประจักษ์, และเน้นที่ผลลัพธ์ของผู้เรียน


เจาะลึกกระบวนการออกแบบและพัฒนา: เบื้องหลังความสำเร็จของนวัตกรรม

นวัตกรรมของ ศน.ทัชชกร (พี่เป็ด): การพัฒนารูปแบบการนิเทศเพื่อเด็กด้อยโอกาสในชุมชนเมือง

พี่เป็ดได้นำเสนอโมเดลการทำงานที่ผ่านการวิจัยและพัฒนา (R&D) อย่างเป็นระบบ 5 ขั้นตอน

  1. การวิเคราะห์บริบท (Context Analysis): ไม่ใช่แค่การอ้างนโยบายกว้างๆ แต่เป็นการลงลึกถึง ข้อมูลเชิงประจักษ์ เช่น การใช้ข้อมูล DMC เพื่อหาจำนวนเด็กด้อยโอกาสในพื้นที่, การวิเคราะห์ประเภทของปัญหาที่เด็กเผชิญ, และการสำรวจสมรรถนะครูเพื่อหาช่องว่างที่ต้องการการพัฒนาอย่างแท้จริง
  2. หลักการและแนวคิด (Conceptual Framework): นำทฤษฎีที่เป็นที่ยอมรับมาเป็นฐานในการออกแบบ ได้แก่ ทฤษฎีเชิงระบบ (Input-Process-Output) และที่สำคัญคือ แนวคิดการมีส่วนร่วมของสหประชาชาติ ที่เน้นระดับสูงสุดคือการให้อำนาจ (Empowerment) แก่ครู เพื่อให้พวกเขามีส่วนร่วมในการตัดสินใจเลือกแนวทางที่เหมาะสมกับตนเอง
  3. กระบวนการพัฒนานวัตกรรมและการนำไปใช้: พัฒนารูปแบบการนิเทศ 4 ขั้นตอน (ศึกษาปัญหา > ออกแบบ > นำไปใช้ > ประเมินผล) โดยทุกขั้นตอนเน้นการมีส่วนร่วมของครูและผู้บริหาร
  4. ผลที่เกิดจากการใช้นวัตกรรม: นำเสนอผลลัพธ์ที่วัดผลได้ทั้งในฝั่งของ “สมรรถนะครู”ที่เพิ่มขึ้น และ “คุณภาพชีวิตของนักเรียน” ที่ดีขึ้น โดยแสดงข้อมูลเปรียบเทียบก่อน-หลังอย่างชัดเจน
  5. การเผยแพร่และต่อยอด (Dissemination): นำผลงานไปเผยแพร่เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในเวทีวิชาการที่หลากหลาย ตั้งแต่การแบ่งปันคู่มือให้กับศึกษานิเทศก์ในเขตพื้นที่ใกล้เคียง ไปจนถึงการได้รับเชิญไปนำเสนอผลงานในเวทีระดับนานาชาติที่ มหาวิทยาลัยโซล ประเทศเกาหลีใต้

นวัตกรรมของ ศน.วลัยพร (พี่ป้อม): การพัฒนารูปแบบการนิเทศเพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านออกเขียนได้

พี่ป้อมได้พัฒนานวัตกรรมที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังในชื่อ “FIRST Model” ซึ่งเป็นกระบวนการนิเทศตามแนวคิดโรงเรียนเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ (PLC)

  1. F (Focus) – วิเคราะห์และตั้งเป้าหมายร่วมกัน: ขั้นตอนนี้สำคัญที่สุด เพราะเป็นการ “ปรับเปลี่ยน Mindset” ของครูและผู้บริหาร พี่ป้อมเน้นการพูดคุยเพื่อสร้างความเข้าใจและให้เกิดการ “อิน” ไปกับเป้าหมายร่วมกันเสียก่อน
  2. I (Inform) – การให้ความรู้ที่ตรงจุด: ตอบสนองความต้องการของครูโดยตรง โดยเฉพาะเรื่องการจัดการเรียนรู้เชิงรุก และที่โดดเด่นคือการเสนอทางเลือกของสื่อการสอนที่หลากหลาย ทั้ง “สื่อดิจิทัล” สำหรับครูที่ถนัดเทคโนโลยี และ “สื่อทำมือ” สำหรับครูที่เชื่อว่าการสัมผัสจับต้องได้จะช่วยกระตุ้นการเรียนรู้ของเด็กได้ดีกว่า
  3. R (Research Supervision) – การนิเทศโดยใช้วิจัยเป็นฐาน: ใช้กระบวนการ Lesson Study (วิเคราะห์-วางแผน-ปฏิบัติ-สังเกต-สะท้อนผล-ปรับปรุง) อย่างเข้มข้น โดยมีทีม (Buddy Teacher) เข้าร่วมสังเกตการณ์และสะท้อนผลอย่างละเอียด เช่น การสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนรายบุคคลแล้วนำมาสะท้อนให้ครูผู้สอนเห็นในจุดที่อาจมองไม่เห็นขณะสอน
  4. S (Stimulating) – การกระตุ้นและเสริมแรง: สร้างบรรยากาศเชิงบวกและกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องผ่านกิจกรรมและแคมเปญต่างๆ
  5. T (Technology) – การใช้เทคโนโลยีช่วยในการติดตาม: ใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการสื่อสารและติดตามผล ทำให้การนิเทศไม่ขาดตอน แม้จะมีข้อจำกัดด้านเวลาและระยะทาง

ความสำเร็จของนวัตกรรมนี้ได้รับการยอมรับในเวทีระดับสูง โดยได้รับ รางวัล Silver Award จากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ซึ่งพี่ป้อมย้ำเสมอว่าความสำเร็จนี้เป็นของทีมงานทุกคนในเขตพื้นที่ฯ


เคล็ดลับและปัจจัยสู่ความสำเร็จ: ปรัชญาเบื้องหลังการทำงาน

  • ศน.พี่เป็ด สรุปปัจจัย 5 ข้อที่นำไปสู่ความสำเร็จ คือ 1) เป้าหมายที่ชัดเจน, 2) เครือข่ายที่เข้มแข็ง, 3) การใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด, 4) กระบวนการที่เป็นระบบวัดผลได้,และ 5) ความมุ่งมั่นไม่ย่อท้อ โดยเธอกล่าวว่า “ท้อได้แต่อย่าถอย” และต้องกล้าเปิดรับฟีดแบ็กเพื่อการพัฒนาเสมอ
  • ศน.พี่ป้อม ให้มุมมองเชิงปรัชญาว่า 1) ต้องมีองค์ความรู้จริง จนเป็นที่พึ่งของครูได้ 2) ต้องมีความอดทน เพราะการเปลี่ยนแปลงต้องใช้เวลา 3) ต้องทำเรื่องธรรมดาให้กลายเป็นกระบวนการที่แสนพิเศษ และที่สำคัญ 4) ต้องศึกษาเกณฑ์การประกวดให้เข้าใจ เพื่อให้การนำเสนอผลงานตรงตามที่คณะกรรมการมองหา

ส่งต่อพลังใจ: จากใจพี่สู่น้องศึกษานิเทศก์ “ปิดทองหลังพระ…จนทองล้นออกมาข้างหน้า”

ในช่วงสุดท้าย ทั้งสองท่านได้มอบกำลังใจอันทรงพลังให้กับเพื่อนร่วมวิชาชีพ

  • ศน.พี่ป้อม ได้ใช้คำเปรียบเปรยที่งดงามว่า งานของศึกษานิเทศก์เปรียบเหมือน “การปิดทองหลังพระ” ที่อาจไม่มีใครเห็น แต่หากเราอดทนและทำอย่างเต็มที่ด้วยความตั้งใจจริง “วันหนึ่งทองเหล่านั้นจะล้นออกมาข้างหน้าให้ทุกคนได้เห็นเอง”
  • ศน.พี่เป็ด ได้กล่าวปิดท้ายด้วยการเชิญชวนให้ทุกคน “กล้าที่จะเปลี่ยน” เปลี่ยนบทบาทจากผู้กำกับติดตาม มาเป็น “ผู้ร่วมพัฒนา” ที่ทำงานเคียงข้างครู และเปลี่ยนจากการทำงานคนเดียวมาเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือ เพราะเป้าหมายสุดท้ายไม่ใช่แค่การเปลี่ยนระบบ แต่คือ “การเปลี่ยนคุณภาพผู้เรียนไปด้วยกัน”

บทสรุปจากรายการครั้งนี้จึงเป็นมากกว่าคู่มือการสร้างนวัตกรรม แต่เป็นบทเรียนที่สร้างแรงบันดาลใจให้ศึกษานิเทศก์ทุกคนเห็นคุณค่าในงานของตนเอง และมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์สิ่งดีๆ เพื่อพัฒนาการศึกษาของชาติต่อไป

แหล่งอ้างอิง: EP.5 เส้นทางสู่รางวัลนวัตกรรมการศึกษา ระดับ สพฐ. โดย ท่านศึกษานิเทศก์วลัยพร อ่อนพฤกษ์ภูมิ (พี่ป้อม) จาก สพป.ร้อยเอ็ด เขต 1 และ ท่านศึกษานิเทศก์ทัชชกร พรเวียง (พี่เป็ด) จาก สพป.เชียงใหม่ เขต 1 จัดโดยหน่วยศึกษานิเทศ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ไลฟ์สดเมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2025

Comments

comments

Powered by Facebook Comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

ติดต่อ ดร.อนุศร หงษ์ขุนทด
error: Content is protected !!