แนวทางการเขียนแผนการนิเทศการศึกษา และแผนการนิเทศการสอนสู่การปฏิบัติที่เป็นเลิศ
แนวทางการเขียนแผนการนิเทศการศึกษา และแผนการนิเทศการสอนสู่การปฏิบัติที่เป็นเลิศ
ดร.อนุศร หงษ์ขุนทด
ศึกษานิเทศก์ วิทยฐานะศึกษานิเทศก์เชี่ยวชาญ สพม.นครราชสีมา
Musicmankob@gmail.com 4 กันยายน 2568
__________________________________
บทนำ การยกระดับคุณภาพการศึกษาผ่านกระบวนทัศน์ใหม่ของการนิเทศ
การนิเทศการศึกษาในศตวรรษที่ 21 ได้ก้าวข้ามบทบาทดั้งเดิมที่เน้นการตรวจสอบและจับผิด ไปสู่กระบวนทัศน์ใหม่ที่มองการนิเทศเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างยั่งยืน 1 กระบวนทัศน์ใหม่นี้ตั้งอยู่บนฐานคิดของการเป็นหุ้นส่วนเพื่อการเติบโตทางวิชาชีพ (Growth-Oriented Partnership) ที่ซึ่งศึกษานิเทศก์ ครู และผู้บริหาร ทำงานร่วมกันเพื่อปรับปรุงการเรียนการสอนและส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนให้ถึงขีดสุด 1 แนวคิดนี้สอดคล้องอย่างยิ่งกับบริบทของการศึกษาไทยผ่านหลัก “การนิเทศแบบกัลยาณมิตร” ซึ่งเน้นการสร้างความสัมพันธ์บนพื้นฐานของความไว้วางใจ ความเคารพซึ่งกันและกัน และความรับผิดชอบร่วมกันในการพัฒนาผู้เรียน 5
รายงานฉบับนี้จึงถูกจัดทำขึ้นเพื่อเป็นคู่มือเชิงปฏิบัติการที่สมบูรณ์และครอบคลุมสำหรับศึกษานิเทศก์ไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเชิงทฤษฎี พร้อมมอบเครื่องมือและแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนในการพัฒนา “แผนการนิเทศการศึกษา” และ “แผนการนิเทศการสอน” ที่มีคุณภาพสูง สามารถนำไปสู่การปฏิบัติจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในห้องเรียนและสถานศึกษาได้อย่างแท้จริง 7
ส่วนที่ 1 ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับแผนการนิเทศ
นิยามและความหมายของ “การนิเทศ” ในศตวรรษที่ 21
การนิเทศ (Supervision) ในความหมายร่วมสมัย คือ กระบวนการที่เป็นระบบซึ่งมุ่งเน้นการปรับปรุงและพัฒนากระบวนการเรียนการสอนให้มีคุณภาพสูงสุด 5 หัวใจสำคัญของการนิเทศไม่ได้อยู่ที่การประเมินเพื่อตัดสิน แต่เป็นการส่งเสริมการเติบโตและการเรียนรู้ทางวิชาชีพของครู (Promoting Teachers’ Professional Growth and Learning) 1 โดยมีเป้าหมายสูงสุดเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน 1
ดังนั้น การนิเทศการศึกษาจึงเป็นกระบวนการให้บริการ สนับสนุน และให้ความช่วยเหลือแก่ครู เพื่อให้ครูสามารถพัฒนาตนเอง แก้ไขปัญหาการจัดการเรียนรู้ และสร้างสรรค์นวัตกรรมการสอนใหม่ๆ ได้ด้วยตนเอง 5 เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างผู้นิเทศและผู้รับการนิเทศ เพื่อสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ทางวิชาชีพที่เข้มแข็งในสถานศึกษา
การแยกแยะระหว่าง “แผนการนิเทศการศึกษา” และ “แผนการนิเทศการสอน”
เพื่อให้การวางแผนมีประสิทธิภาพ ศึกษานิเทศก์จำเป็นต้องเข้าใจความแตกต่างที่สำคัญระหว่างแผน 2 ประเภทนี้ ซึ่งมีความสัมพันธ์กันในเชิงเหตุผลและลำดับชั้น
แผนการนิเทศการศึกษา (Educational Supervision Plan) คือ เอกสารเชิงกลยุทธ์ในระดับมหภาค (Macro-level) ที่มุ่งเน้นการพัฒนาระบบการศึกษาโดยรวมของสถานศึกษาหรือเขตพื้นที่การศึกษา แผนนี้จะครอบคลุมประเด็นในภาพกว้าง เช่น การพัฒนาและปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษา การส่งเสริมนโยบายการจัดการศึกษา การบริหารจัดการทรัพยากรเพื่อการเรียนรู้ และการดำเนินงานให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและนโยบายของหน่วยงานต้นสังกัด 12 อาจกล่าวได้ว่าแผนการนิเทศการศึกษาเป็นการตอบคำถามว่า “เราจะพัฒนาอะไร” และ “ทำไมจึงต้องพัฒนา” ในระดับระบบ
แผนการนิเทศการสอน (Instructional Supervision Plan) คือ เอกสารเชิงปฏิบัติการในระดับจุลภาค (Micro-level) ที่มุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพที่เกิดขึ้นจริงในห้องเรียนโดยตรง แผนนี้จะเจาะลึกลงไปในรายละเอียดของกระบวนการจัดการเรียนการสอน (Pedagogy) กลยุทธ์การสอนของครู การสร้างปฏิสัมพันธ์ในชั้นเรียน และการประเมินผลเพื่อพัฒนาผู้เรียนรายบุคคล 3 แผนการนิเทศการสอนจึงเป็นการตอบคำถามว่า “เราจะพัฒนาการสอนอย่างไร” ในระดับห้องเรียน
ความเชื่อมโยงของแผนทั้ง 2 ประเภทนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง แผนการนิเทศการศึกษาที่มีประสิทธิภาพจะสร้างเงื่อนไขและปัจจัยสนับสนุนที่จำเป็น (เช่น หลักสูตรที่ชัดเจน เวลาสำหรับการทำ PLC งบประมาณจัดหาสื่อ) เพื่อให้แผนการนิเทศการสอนสามารถดำเนินไปได้อย่างราบรื่นและบรรลุเป้าหมาย ตัวอย่างเช่น ศึกษานิเทศก์อาจเริ่มต้นจากการวิเคราะห์ข้อมูลระดับเขตพื้นที่ เช่น ผลการทดสอบระดับชาติ (O-NET) 16 และพบว่านักเรียนมีจุดอ่อนในด้านทักษะการคิดวิเคราะห์ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายที่ต้องการส่งเสริมทักษะในศตวรรษที่ 21 14 จากการวิเคราะห์นี้ ศึกษานิเทศก์จะจัดทำ
แผนการนิเทศการศึกษา ในระดับมหภาคที่มีเป้าหมายเพื่อ “ส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ของผู้เรียนในเขตพื้นที่” โดยมีกิจกรรม เช่น การอบรมครูเรื่องการตั้งคำถามตามแนวคิดของ Bloom’s Taxonomy หรือการปรับปรุงโครงสร้างหลักสูตรให้เอื้อต่อการคิดขั้นสูง แผนระดับมหภาคนี้จะนำไปสู่การจัดทำ แผนการนิเทศการสอน ในระดับจุลภาคสำหรับครูแต่ละคนหรือแต่ละโรงเรียน โดยมุ่งเน้นกลยุทธ์ในห้องเรียนที่เฉพาะเจาะจง เช่น การนิเทศการสอนแบบ Coaching เพื่อให้ครูสามารถจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry-Based Learning) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะเห็นได้ว่าแผนการนิเทศการศึกษาเปรียบเสมือน “ยุทธศาสตร์” ที่กำหนดทิศทาง ส่วนแผนการนิเทศการสอนคือ “ยุทธวิธี” ที่ใช้ในการปฏิบัติเพื่อให้บรรลุยุทธศาสตร์นั้น
ตารางที่ 1 เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างแผนการนิเทศการศึกษาและแผนการนิเทศการสอน
ลักษณะ (Feature) | แผนการนิเทศการศึกษา (Educational Supervision Plan) | แผนการนิเทศการสอน (Instructional Supervision Plan) |
ขอบเขต (Scope) | ระดับระบบ (สถานศึกษา/เขตพื้นที่) | ระดับห้องเรียน/ครูผู้สอน |
จุดเน้น (Focus) | คุณภาพสถานศึกษา, หลักสูตร, นโยบาย, ระบบการบริหารจัดการ | เทคนิคการสอน, กลยุทธ์การจัดการเรียนรู้, ปฏิสัมพันธ์ในชั้นเรียน |
กลุ่มเป้าหมาย (Target Audience) | ผู้บริหารสถานศึกษา, หัวหน้ากลุ่มสาระฯ, คณะครูโดยรวม | ครูรายบุคคล, ทีมครูผู้สอน (เช่น ทีม PLC) |
กรอบเวลา (Timeframe) | รายปี, ระยะยาว | เป็นวงจร, ระยะสั้น (เช่น รายภาคเรียน, รายหน่วยการเรียนรู้) |
ตัวอย่างตัวชี้วัด (Example KPIs) | ร้อยละของสถานศึกษาที่ใช้หลักสูตรฉบับปรับปรุง, คะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ระดับสถานศึกษา | ร้อยละของครูที่ใช้กลยุทธ์การสอนเชิงรุก, พัฒนาการของผู้เรียนในทักษะเฉพาะด้าน |
ส่วนที่ 2 กรอบแนวคิดและรูปแบบการนิเทศเพื่อการพัฒนา
การนิเทศที่มีประสิทธิภาพต้องอาศัยรูปแบบและกรอบแนวคิดที่หลากหลาย เพื่อให้สามารถปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทและความต้องการที่แตกต่างกันของครูแต่ละคน 18 ศึกษานิเทศก์จึงเปรียบเสมือนผู้ที่มี “กล่องเครื่องมือ” ซึ่งบรรจุรูปแบบการนิเทศต่าง ๆ และเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมที่สุดในแต่ละสถานการณ์
รูปแบบการนิเทศคลินิก (The Clinical Supervision Model)
เป็นรูปแบบการนิเทศที่มีโครงสร้างชัดเจนและเป็นระบบ มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะการสอนที่สังเกตได้จริงในห้องเรียน 3 ประกอบด้วยวงจร 5 ขั้นตอนที่เข้มข้น ได้แก่ 1) การประชุมปรึกษาหารือก่อนการนิเทศ (Pre-observation Conference) เพื่อกำหนดเป้าหมายร่วมกัน 2) การสังเกตการสอนในชั้นเรียน (Classroom Observation) เพื่อเก็บข้อมูลตามเป้าหมาย 3) การวิเคราะห์ข้อมูลและวางแผนการให้ข้อมูลป้อนกลับ (Analysis and Strategy) 4) การประชุมให้ข้อมูลป้อนกลับ (Post-observation Conference) และ 5) การวิเคราะห์หลังการประชุม (Post-conference Analysis) เพื่อวางแผนพัฒนารอบต่อไป 18 รูปแบบนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการพัฒนาทักษะการสอนที่เฉพาะเจาะจง
รูปแบบการนิเทศเพื่อการพัฒนาของกลิคแมน (Glickman’s Developmental Supervision Model)
เป็นกรอบแนวคิดที่ทรงพลังซึ่งเชื่อว่าครูแต่ละคนมีระดับพัฒนาการทางความคิดเชิงนามธรรม (Abstract Thinking) ความเชี่ยวชาญ และความมุ่งมั่นที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงต้องการรูปแบบการนิเทศที่แตกต่างกันไปด้วย 22 ศึกษานิเทศก์ต้องวินิจฉัยระดับพัฒนาการของครูก่อน แล้วจึงเลือกใช้แนวทางที่เหมาะสมจาก 3 แนวทาง 24 ดังนี้
- แนวทางชี้นำ (Directive Approach): เหมาะสำหรับครูที่มีระดับความคิดเชิงนามธรรมและความมุ่งมั่นต่ำ เช่น ครูบรรจุใหม่ หรือครูที่กำลังประสบปัญหาในการสอน ศึกษานิเทศก์จะมีบทบาทเป็นผู้ชี้แนะโดยตรง สาธิตกลยุทธ์ และกำหนดแนวทางการปฏิบัติที่ชัดเจน 23
- แนวทางร่วมมือ (Collaborative Approach): เหมาะสำหรับครูที่มีระดับพัฒนาการปานกลาง ศึกษานิเทศก์และครูจะทำงานร่วมกันในฐานะหุ้นส่วน ช่วยกันวิเคราะห์ปัญหา ระดมสมอง และตัดสินใจร่วมกันในการวางแผนพัฒนา 2 แนวทางนี้สอดคล้องกับหลักการของชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC)
- แนวทางไม่ชี้นำ (Nondirective Approach): เหมาะสำหรับครูที่มีระดับความคิดเชิงนามธรรมและความมุ่งมั่นสูง (Master Teachers) ศึกษานิเทศก์จะทำหน้าที่เป็นผู้รับฟัง ผู้กระตุ้นให้เกิดการสะท้อนคิด และช่วยให้ครูค้นพบแนวทางการแก้ปัญหาและพัฒนาตนเองได้ 23
รูปแบบการนิเทศที่แตกต่าง (Differentiated Supervision Model)
เป็นรูปแบบที่ต่อยอดมาจากแนวคิดของกลิคแมน โดยจัดระบบการนิเทศให้มีความยืดหยุ่นและสอดคล้องกับระดับประสบการณ์ ประสิทธิภาพ และความเป็นมืออาชีพของครูแต่ละคน 3 ในรูปแบบนี้ สถานศึกษาอาจจัด “เส้นทางการพัฒนา” (Growth Tracks) ให้ครูเลือกได้ เช่น เส้นทางสำหรับครูใหม่ที่ต้องการการสนับสนุนอย่างเข้มข้น (Intensive Support), เส้นทางสำหรับครูที่มีประสบการณ์ที่ต้องการทำงานร่วมกับเพื่อนครู (Peer Coaching), หรือเส้นทางสำหรับครูเชี่ยวชาญที่ต้องการทำวิจัยในชั้นเรียนด้วยตนเอง (Self-directed Action Research)
กรอบแนวคิดและเทคนิคเพิ่มเติม
- การนิเทศที่เน้นการเรียนรู้ (Learning-Focused Supervision): เสนอ “บทบาท 4 ด้าน” (Four Stances) ที่ศึกษานิเทศก์สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ในการสนทนากับครู ได้แก่ การเทียบเคียงมาตรฐาน (Calibrating), การให้คำปรึกษา (Consulting), การร่วมมือ (Collaborating), และการสอนงาน (Coaching) 2
- โมเดลการสอนตรงของฮันเตอร์ (Hunter’s Direct Instruction Model): แม้จะไม่ใช่รูปแบบการนิเทศโดยตรง แต่เป็นกรอบการจัดการเรียนการสอนที่มีโครงสร้างชัดเจน (เช่น การสร้างแรงจูงใจ, การนำเสนอเนื้อหา, การตรวจสอบความเข้าใจ, การฝึกปฏิบัติ) ซึ่งศึกษานิเทศก์สามารถนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการสังเกตและให้ข้อมูลป้อนกลับแก่ครู โดยเฉพาะครูใหม่ที่ต้องการโครงสร้างการสอนที่ชัดเจน 27
รูปแบบเหล่านี้ไม่ได้แยกขาดจากกัน แต่เป็นเสมือนเครื่องมือบน “แนวต่อเนื่องของการควบคุมและการสนับสนุน” (Continuum of Control and Support) ภารกิจแรกของศึกษานิเทศก์คือการวินิจฉัย (Diagnostic) 24 เพื่อประเมินความต้องการและระดับพัฒนาการของครู 23 ตัวอย่างเช่น ครูบรรจุใหม่ที่ประสบปัญหาการควบคุมชั้นเรียน 29 ย่อมต้องการการสนับสนุนสูงและทิศทางที่ชัดเจน ศึกษานิเทศก์จึงควรเลือกใช้
- แนวทางชี้นำ ของกลิคแมน 26 ผ่านวงจรของ
- การนิเทศคลินิก 18 โดยอาจใช้กรอบของ
- โมเดลฮันเตอร์ 27 เป็นเนื้อหาในการนิเทศ เมื่อครูคนดังกล่าวมีความมั่นใจและทักษะเพิ่มขึ้น ศึกษานิเทศก์จะต้องปรับเปลี่ยนบทบาทของตนเอง
- แนวทางร่วมมือ 26 และส่งเสริมให้ครูเข้าร่วม PLC เป้าหมายระยะยาวคือการส่งเสริมให้ครูเติบโตจนสามารถกำกับตนเองได้ ซึ่งจะได้รับการสนับสนุนด้วย
- แนวทางไม่ชี้นำ 26 ในที่สุด ดังนั้น ศึกษานิเทศก์ที่มีประสิทธิภาพจึงไม่ใช่แค่ “ใช้” รูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง แต่ต้องสามารถ “ปรับเปลี่ยน” บทบาทและแนวทางไปตามพัฒนาการของครูได้อย่างชาญฉลาด
ส่วนที่ 3 หลักการและขั้นตอนการเขียนแผนการนิเทศ
การสร้างแผนการนิเทศที่มีคุณภาพต้องอาศัยกระบวนการที่เป็นระบบและมีเหตุผลรองรับ 6 ขั้นตอนต่อไปนี้จะนำเสนอแนวทางการเขียนแผนอย่างละเอียด ตั้งแต่การวิเคราะห์ข้อมูลไปจนถึงการประเมินผล
ขั้นที่ 1 การวิเคราะห์สภาพปัจจุบัน ปัญหา และความต้องการ
นี่คือขั้นตอนที่สำคัญที่สุด เพราะแผนการนิเทศที่ปราศจากการวิเคราะห์ความต้องการที่แท้จริงก็เปรียบเสมือนเรือที่ไร้หางเสือ 30 ศึกษานิเทศก์ต้องรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจากหลากหลายมิติ ทั้งข้อมูลเชิงปริมาณ เช่น ผลการทดสอบระดับชาติ (O-NET), NT, RT 16 และข้อมูลเชิงคุณภาพ เช่น ผลการสำรวจความคิดเห็นครูและผู้บริหาร, การสัมภาษณ์, การสังเกตการณ์ในชั้นเรียน, และผลการประเมินตนเองของครู 31 จากนั้นจึงนำปัญหาและความต้องการที่ค้นพบมาจัดลำดับความสำคัญและเชื่อมโยงกับนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ระดับชาติ เขตพื้นที่ และสถานศึกษา 13
ขั้นที่ 2 การเขียนหลักการและเหตุผล
ส่วนนี้คือการเรียบเรียงเรื่องราวที่น่าเชื่อถือโดยใช้ข้อมูลจากการวิเคราะห์ในขั้นที่ 1 โครงสร้างการเขียนควรนำเสนออย่างชัดเจนว่า “จากสภาพปัจจุบัน (ข้อมูล) เราจำเป็นต้องไปให้ถึงจุดหมาย (นโยบาย/วิสัยทัศน์) ดังนั้น แผนการนิเทศฉบับนี้จึงมีความจำเป็นเพื่อลดช่องว่างดังกล่าว” 6
ขั้นที่ 3 การกำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมาย
วัตถุประสงค์และเป้าหมายที่ดีควรเป็นไปตามหลัก SMART 3 คือ มีความเฉพาะเจาะจง (Specific), วัดผลได้ (Measurable), บรรลุผลได้ (Achievable), มีความเกี่ยวข้อง (Relevant), และมีกรอบเวลาที่ชัดเจน (Time-bound) ควรแยกความแตกต่างระหว่าง “วัตถุประสงค์” (สิ่งที่เราต้องการบรรลุในภาพกว้าง) และ “เป้าหมาย/ตัวชี้วัดความสำเร็จ (KPIs)” (ผลลัพธ์ที่วัดได้เชิงปริมาณและคุณภาพ) ตัวอย่างเช่น
- วัตถุประสงค์: เพื่อพัฒนาความสามารถของครูในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)
- เป้าหมาย: ครูร้อยละ 80 ผ่านเกณฑ์การประเมินการใช้กลยุทธ์ Active Learning 3 รูปแบบใหม่ ภายในสิ้นภาคเรียนที่ 2 ตามเกณฑ์ในแบบสังเกตการสอน 6
ขั้นที่ 4: การออกแบบวิธีดำเนินการและกิจกรรม
ส่วนนี้คือแผนปฏิบัติการ (Action Plan) ที่ระบุรายละเอียดว่า ใคร จะทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ และอย่างไร การเลือกกิจกรรมต้องสอดคล้องกับวัตถุประสงค์และรูปแบบการนิเทศที่เลือกใช้ในส่วนที่ 2 กิจกรรมอาจประกอบด้วย การจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ (Workshop), การนิเทศแบบเพื่อนช่วยเพื่อน (Peer Coaching), การศึกษาบทเรียนร่วมกัน (Lesson Study), การสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC), การเป็นพี่เลี้ยง (Mentoring), และการสังเกตชั้นเรียนพร้อมให้ข้อมูลป้อนกลับ 30 สิ่งสำคัญคือการจัดทำปฏิทินการนิเทศที่ชัดเจน 6
ขั้นที่ 5: การพัฒนาสื่อและเครื่องมือนิเทศ
ขั้นตอนนี้คือการสร้างเครื่องมือที่จะใช้ในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ เช่น แบบสังเกตการสอน, แบบประเมินแผนการจัดการเรียนรู้, แบบตรวจสอบรายการ (Checklist), แบบบันทึกการสนทนา, และแบบประเมินตนเองสำหรับครู 30 เครื่องมือเหล่านี้ต้องมีความเที่ยงตรงและสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของแผน
ขั้นที่ 6 การวางแผนการประเมินผลและรายงาน
การประเมินผลในขั้นตอนนี้หมายถึงการประเมินความสำเร็จของ “แผนการนิเทศทั้งฉบับ” ไม่ใช่การประเมินครูรายบุคคล ศึกษานิเทศก์ต้องตอบคำถามว่า “เราจะรู้ได้อย่างไรว่าแผนการนิเทศนี้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้” ซึ่งอาจทำได้โดยการเปรียบเทียบข้อมูลก่อนและหลังการดำเนินงาน เช่น การเปรียบเทียบคะแนนความสามารถของครู, ผลสัมฤทธิ์ของนักเรียน, หรือผลสำรวจความพึงพอใจของครู 6 จากนั้นจึงสรุปผลและจัดทำรายงานเพื่อสื่อสารไปยังผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนสำหรับวงจรการนิเทศครั้งต่อไป 30
ส่วนที่ 4 ตัวอย่างแผนการนิเทศตามสถานการณ์
เพื่อเชื่อมโยงทฤษฎีสู่การปฏิบัติ ส่วนนี้จะนำเสนอกรณีศึกษาของแผนการนิเทศใน 3 สถานการณ์ที่แตกต่างกัน โดยแต่ละแผนจะประยุกต์ใช้ขั้นตอนการเขียนทั้ง 6 ขั้นตอนจากส่วนที่ 3
กรณีศึกษาที่ 1: แผนการนิเทศการสอนสำหรับครูบรรจุใหม่
- บริบท: ครูบรรจุใหม่มีความกังวลและขาดความมั่นใจในการบริหารจัดการชั้นเรียนและการวางแผนการสอนที่เหมาะสมกับเวลา
- แนวทางการนิเทศ: ใช้แนวทางชี้นำ (Directive Approach) ร่วมกับการเป็นพี่เลี้ยง (Mentoring) และประยุกต์ใช้วงจรการนิเทศคลินิก (Clinical Supervision) เพื่อให้การสนับสนุนอย่างใกล้ชิดและเป็นระบบ 3
- สาระสำคัญของแผน
- หลักการและเหตุผล: อ้างอิงความจำเป็นในการพัฒนาครูใหม่ให้มีสมรรถนะพื้นฐานที่แข็งแกร่งเพื่อสร้างรากฐานที่ดีในการสอน
- วัตถุประสงค์: 1) เพื่อให้ครูสามารถจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ที่ครบถ้วนและมีประสิทธิภาพ 2) เพื่อพัฒนาทักษะการบริหารจัดการชั้นเรียนของครู
- กิจกรรม: การเป็นพี่เลี้ยงโดยครูอาวุโส, การนิเทศคลินิกรายเดือนโดยศึกษานิเทศก์, การเข้าร่วมสังเกตชั้นเรียนของครูต้นแบบ, การอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่องเทคนิคการควบคุมชั้นเรียนเชิงบวก
- เครื่องมือ: แบบประเมินแผนการจัดการเรียนรู้ (อาจอิงตามกรอบของ Hunter’s Model), แบบสังเกตพฤติกรรมการสอนในชั้นเรียน, แบบบันทึกการให้คำปรึกษาหลังการนิเทศ 5
- การประเมินผล: ประเมินจากความสมบูรณ์ของแผนการสอน และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการสอนที่สังเกตได้
กรณีศึกษาที่ 2: แผนการนิเทศการศึกษาสำหรับโรงเรียนขนาดเล็ก
- บริบท: โรงเรียนขนาดเล็กในพื้นที่ห่างไกล มีครูไม่ครบชั้น และขาดแคลนทรัพยากร
- แนวทางการนิเทศ: เน้นการสร้างความเข้มแข็งจากภายในและการสร้างเครือข่ายความร่วมมือ 42
- สาระสำคัญของแผน:
- หลักการและเหตุผล: ชี้ให้เห็นถึงความท้าทายของโรงเรียนขนาดเล็กและความจำเป็นในการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด
- วัตถุประสงค์:
- 1) เพื่อจัดตั้งและพัฒนากระบวนการ PLC ภายในโรงเรียนให้มีความเข้มแข็ง
- 2) เพื่อสร้างเครือข่ายแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับโรงเรียนใกล้เคียง
- 3) เพื่อส่งเสริมการใช้เทคโนโลยี (DLTV/DLIT) ในการจัดการเรียนรู้ 30
- กิจกรรม: การจัดตั้งวง PLC รายสัปดาห์, การจัดกิจกรรม “เปิดห้องเรียน” (Open Class) ระหว่างโรงเรียนในกลุ่มเครือข่าย, การอบรมการใช้สื่อ DLIT, การพัฒนาคลังสื่อการสอนร่วมกัน 44
- เครื่องมือ: แบบบันทึก PLC, แบบประเมินความพึงพอใจในการเข้าร่วมเครือข่าย, แบบสำรวจการใช้เทคโนโลยีในการสอน
- การประเมินผล: ประเมินจากความสม่ำเสมอและคุณภาพของวง PLC, จำนวนกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่เกิดขึ้น, และระดับการใช้เทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้นของครู
กรณีศึกษาที่ 3: แผนการนิเทศเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)
- บริบท: โรงเรียนต้องการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์การสอนจากแบบบรรยาย (Teacher-Centered) ไปสู่การเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ (Student-Centered)
- แนวทางการนิเทศ: ใช้แนวทางร่วมมือ (Collaborative Approach) และหลักการนิเทศที่แตกต่าง (Differentiated Supervision) โดยให้ครูมีส่วนร่วมในการวางแผนและเลือกรูปแบบการพัฒนา
- สาระสำคัญของแผน:
- หลักการและเหตุผล: อ้างอิงผลการวิเคราะห์ที่พบว่านักเรียนขาดทักษะการคิดขั้นสูงและนโยบายที่เน้นการพัฒนาผู้เรียนในศตวรรษที่ 21
- วัตถุประสงค์: เพื่อให้ครูร้อยละ 85 สามารถออกแบบและจัดการเรียนรู้เชิงรุกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- กิจกรรมหลัก: การใช้กระบวนการศึกษาบทเรียนร่วมกัน (Lesson Study) เป็นแกนหลักในการพัฒนา 30 โดยมีศึกษานิเทศก์ทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยความสะดวก (Facilitator) จัดให้มีเวที PLC เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้และสะท้อนผลการปฏิบัติงาน
- เครื่องมือ: แบบสังเกตการสอนที่เน้นพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียน, แบบบันทึกการสะท้อนผลหลังการสอน (Post-lesson Reflection), แบบประเมินชิ้นงาน/ภาระงานของนักเรียน 38
- การประเมินผล: ประเมินจากคุณภาพของแผนการสอนที่เน้น Active Learning, ระดับการมีส่วนร่วมของนักเรียนในชั้นเรียน, และคุณภาพของผลงานนักเรียนที่สะท้อนทักษะการคิดขั้นสูง
ส่วนที่ 5 การประกันคุณภาพแผนการนิเทศ
การสร้างแผนการนิเทศเป็นเพียงจุดเริ่มต้น การทำให้แน่ใจว่าแผนนั้นมีคุณภาพและนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ต้องการเป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่า ส่วนนี้จึงนำเสนอเครื่องมือสำหรับการประเมินคุณภาพของแผนและการนำไปใช้
เครื่องมือตรวจสอบคุณภาพของแผนการนิเทศ
แผนการนิเทศที่มีคุณภาพไม่ใช่แค่รายการของกิจกรรม แต่เป็นเอกสารที่แสดงให้เห็นถึงตรรกะและความเชื่อมโยงอย่างเป็นเหตุเป็นผล ตั้งแต่การวิเคราะห์ปัญหาไปจนถึงการวัดความสำเร็จ ดังนั้น เครื่องมือตรวจสอบคุณภาพแผนจึงต้องประเมินความสอดคล้องภายใน (Internal Consistency) และความสมเหตุสมผลภายนอก (External Validity) ของแผน การพัฒนารูบริค (Rubric) สำหรับประเมินแผนจะช่วยให้ศึกษานิเทศก์สามารถประเมินแผนของตนเองหรือแลกเปลี่ยนเพื่อให้เพื่อนนิเทศก์ช่วยประเมินก่อนนำไปใช้จริงได้ โดยมีเกณฑ์การประเมินที่อิงตามขั้นตอนการเขียนแผนที่ดีในส่วนที่ 3
ตารางที่ 2 รูบริคสำหรับประเมินคุณภาพแผนการนิเทศ (Rubric for Supervision Plan Quality Assessment)
เกณฑ์การประเมิน (Criteria) | ระดับ 1: กำลังพัฒนา (Developing) | ระดับ 2: ดี (Proficient) | ระดับ 3: ดีเยี่ยม (Exemplary) |
1. การวิเคราะห์ความต้องการและหลักการและเหตุผล | ระบุปัญหาอย่างกว้าง ๆ โดยใช้ข้อมูลแหล่งเดียวหรือขาดข้อมูลสนับสนุน | อ้างอิงข้อมูลจากหลายแหล่งเพื่อระบุปัญหาและความต้องการ แต่การเชื่อมโยงกับนโยบายยังไม่ชัดเจน | วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพเพื่อระบุรากของปัญหา และเขียนหลักการและเหตุผลที่เชื่อมโยยงสภาพจริง นโยบาย และความจำเป็นได้อย่างน่าเชื่อถือ 6 |
2. วัตถุประสงค์และเป้าหมาย | วัตถุประสงค์ไม่ชัดเจน วัดผลได้ยาก และไม่สอดคล้องกับปัญหาที่ระบุ | วัตถุประสงค์และเป้าหมายส่วนใหญ่เป็นไปตามหลัก SMART และสอดคล้องกับปัญหา | วัตถุประสงค์และเป้าหมายเป็นไปตามหลัก SMART อย่างครบถ้วน มีความท้าทาย และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพที่ชัดเจน 3 |
3. วิธีดำเนินการและกิจกรรม | กิจกรรมที่เลือกไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ ปฏิทินการดำเนินงานไม่ชัดเจนหรือไม่สมจริง | กิจกรรมมีความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์และกลุ่มเป้าหมาย ปฏิทินมีความชัดเจน | กิจกรรมมีความหลากหลาย เหมาะสมกับรูปแบบการนิเทศที่เลือกใช้ และส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน ปฏิทินการดำเนินงานมีความเป็นไปได้สูงและระบุผู้รับผิดชอบชัดเจน 6 |
4. สื่อและเครื่องมือนิเทศ | ไม่ได้ระบุเครื่องมือที่ชัดเจน หรือเครื่องมือที่เลือกไม่สอดคล้องกับกิจกรรมและวัตถุประสงค์ | มีการระบุเครื่องมือที่ต้องใช้ แต่ยังขาดรายละเอียดหรือความสอดคล้องกับเป้าหมายการนิเทศ | ออกแบบหรือเลือกใช้เครื่องมือที่มีคุณภาพ สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ และสามารถเก็บข้อมูลเพื่อการพัฒนาได้อย่างเป็นรูปธรรม 30 |
5. การวางแผนการประเมินผล | ไม่ได้ระบุวิธีการประเมินผลของแผน หรือระบุอย่างคลุมเครือ | ระบุวิธีการประเมินผลของแผน แต่ยังขาดตัวชี้วัดและเกณฑ์การประเมินที่ชัดเจน | กำหนดแนวทางการประเมินผลกระทบของแผนที่มีต่อครูและผู้เรียนอย่างชัดเจน ระบุเครื่องมือและเกณฑ์การตัดสินความสำเร็จของแผนไว้อย่างเป็นระบบ 6 |
ตัวอย่างเครื่องมือที่ใช้ในการนิเทศ
- แบบสังเกตการสอน (Classroom Observation Form): ควรออกแบบโดยอิงกรอบแนวคิดที่ชัดเจน เช่น Danielson’s Framework for Teaching 46 หรือกรอบที่เน้นการเรียนรู้เชิงรุกโดยเฉพาะ โดยมีรายการสังเกตที่เน้นพฤติกรรมที่สังเกตได้จริง ไม่ใช่การตัดสินคุณค่า 37
- แบบประเมินแผนการจัดการเรียนรู้ (Lesson Plan Rubric): มีเกณฑ์การประเมินที่ชัดเจนในด้านความสอดคล้องของวัตถุประสงค์ กิจกรรมการเรียนรู้ สื่อ และการวัดผล รวมถึงการออกแบบกิจกรรมเพื่อผู้เรียนที่หลากหลาย 36
- แบบบันทึกการสะท้อนคิด (Reflection Log for Post-Observation): ออกแบบเป็นชุดคำถามนำ (Guiding Questions) เพื่อช่วยให้ครูสามารถสะท้อนคิดเกี่ยวกับบทเรียนของตนเองได้อย่างลึกซึ้ง เช่น “สิ่งใดในคาบเรียนนี้ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด เพราะเหตุใด” “หากจะสอนเรื่องนี้อีกครั้ง ท่านจะปรับเปลี่ยนสิ่งใด” 31
ส่วนที่ 6 การอ้างอิงและการเขียนบรรณานุกรมตามหลักสากล
เพื่อยกระดับรายงานและการเขียนทางวิชาการให้มีมาตรฐานน่าเชื่อถือ การอ้างอิงแหล่งข้อมูลอย่างถูกต้องจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง รูปแบบที่ได้รับความนิยมในแวดวงการศึกษาคือ APA (American Psychological Association) ฉบับที่ 7 (APA 7th Edition) 48
หลักการอ้างอิงในเนื้อหา (In-Text Citations)
การอ้างอิงในเนื้อหาเป็นการระบุแหล่งที่มาของข้อมูล ณ จุดที่นำข้อมูลนั้นมาใช้ มี 2 รูปแบบหลัก 48:
- การอ้างอิงแบบวงเล็บ (Parenthetical Citation): ใส่ชื่อผู้แต่งและปีพิมพ์ไว้ในวงเล็บท้ายข้อความ เช่น (Glickman, 2010)
- การอ้างอิงแบบแทรกในเนื้อหา (Narrative Citation): เอ่ยชื่อผู้แต่งในเนื้อหา แล้วตามด้วยปีพิมพ์ในวงเล็บ เช่น Glickman (2010) กล่าวว่า…
- ผู้แต่ง 3 คนขึ้นไป: ให้ระบุชื่อแรกตามด้วย “และคณะ” (ในภาษาไทย) หรือ “et al.” (ในภาษาอังกฤษ) ตั้งแต่การอ้างอิงครั้งแรก 48
- ไม่มีปีพิมพ์: ให้ใช้ “ม.ป.ป.” (ไม่ปรากฏปีที่พิมพ์) หรือ “n.d.” (no date) 48
การเขียนรายการอ้างอิงท้ายเล่ม (Reference List)
รายการอ้างอิง หรือ บรรณานุกรม คือส่วนที่รวบรวมข้อมูลฉบับเต็มของทุกแหล่งข้อมูลที่ถูกอ้างอิงในเนื้อหา โดยเรียงตามลำดับตัวอักษรของชื่อผู้แต่ง 52
- บทความในวารสาร (Journal Article):
ผู้แต่ง, นามสกุล. (ปี). ชื่อบทความ. ชื่อวารสาร, เล่มที่(ฉบับที่), หน้าแรก-หน้าสุดท้าย. https://doi.org/xxxx - Munjiatun. (2019). Models, approaches, and techniques of educational supervision to improve teachers’ professionalism. Tarbawi: Jurnal Keilmuan Manajemen Pendidikan, 5(1), 93-102.
- หนังสือ (Book):
ผู้แต่ง, นามสกุล. (ปี). ชื่อหนังสือ (พิมพ์ครั้งที่). สำนักพิมพ์. - Glickman, C. D., Gordon, S. P., & Ross-Gordon, J. M. (2018). SuperVision and instructional leadership: A developmental approach (10th ed.). Pearson.
- เอกสารราชการหรือรายงานจากองค์กร (Government Report):
ชื่อองค์กร. (ปี). ชื่อรายงาน. URL - สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2562). แนวทางการนิเทศบูรณาการโดยใช้พื้นที่เป็นฐานเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา. https://info.pyo1.go.th/…
- เว็บไซต์ (Website):
ผู้แต่ง, นามสกุล. (ปี, วันที่ เดือน). ชื่อหัวข้อบนเว็บไซต์. ชื่อเว็บไซต์. URL - Krukob. (2024, 13 พฤศจิกายน). องค์ประกอบและขั้นตอนการเขียนแผนการนิเทศ. Krukob.com. https://krukob.com/web/sv-7/
บรรณานุกรม
American Psychological Association. (2020). Publication manual of the American Psychological Association (7th ed.). https://doi.org/10.1037/0000165-000
Dettlaff, A. (2003). From mission to evaluation: A field instructor training program. The Clinical
Supervisor, 22(1), 125-141.
Glickman, C. D. (1980). The developmental approach to supervision. Educational Leadership,
38(2), 178-180.
Glickman, C. D., Gordon, S. P., & Ross-Gordon, J. M. (2018). SuperVision and instructional
leadership: A developmental approach (10th ed.). Pearson.
Harris, B. M. (1985). Supervisory behavior in education (3rd ed.). Prentice-Hall.
Hunter, M. (1982). Mastery teaching. TIP Publications.
Krukob. (2024, 13 พฤศจิกายน). องค์ประกอบและขั้นตอนการเขียนแผนการนิเทศ.
Krukob.com. https://krukob.com/web/sv-7/
Munjiatun. (2019). Models, approaches, and techniques of educational supervision to improve
teachers’ professionalism. Tarbawi: Jurnal Keilmuan Manajemen Pendidikan,
5(1), 93-102.
Purdue University. (n.d.). APA formatting and style guide (7th edition). Purdue Online
Writing Lab.
https://owl.purdue.edu/owl/research_and_citation/apa_style/apa_formatting_and_style_guide/general_format.html
Spears, H. (1953). Improving the supervision of instruction. Prentice-Hall.
Stoltenberg, C. D., & Delworth, U. (1987). Supervising counselors and therapists: A developmental approach. Jossey-Bass.
ธรรมบำรุง, สันต์. (2545). การนิเทศการศึกษา. โอเดียนสโตร์.
สุรัตน์นารี ธิลาใจ. (2566). แนวทางการเขียนแผนนิเทศการศึกษา. เอกสารประกอบการอบรม.
สงัด อุทรานันท์. (2530). การนิเทศการศึกษา: หลักการ ทฤษฎี และปฏิบัติ. มิตรสยาม.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2562). แนวทางการนิเทศบูรณาการโดยใช้พื้นที่เป็นฐาน
เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา. กระทรวงศึกษาธิการ.
ผลงานที่อ้างอิง
- Supervision and Evaluation – Washington Central Unified Union School District, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 https://www.wcuusd.org/ad-min/human-resources/supervision-and-evaluation
- From Obligation to Opportunity: Teacher Supervision That Improves Student Learning, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 https://awsa.memberclicks.net/obligation
- Differentiated Supervision Plan for Professional Growth, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 https://resources.finalsite.net/images/v1700660570/mifflinburgorg/uw8peofjpeyvu7y7hmqo/FinalDifferentiatedSupervisionPlan.pdf
- บทที่1 – โรงเรียนร่มเกล้า สกลนคร, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 https://www.rk.ac.th/wp-content/uploads/2024/07/1.9-การนิเทศการศึกษา.pdf
- แผนการนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการศึกษา – สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดแม่ฮ่องสอน, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 แผนการนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการศึกษา
- เมื่อศึกษานิเทศก์ต้อง…เขียนแผนการนิเทศ » – Digital Learning Classroom, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 https://krukob.com/web/sv-7/
- Supervisory Plan | PDF | Schools | Teachers – Scribd, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 https://www.scribd.com/document/392413192/Supervisory-Plan
- ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการนิเทศการศึกษา, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 https://ladapaja.files.wordpress.com/2012/01/word_activity.doc
- การนิเทศการศึกษา (Educational Supervision ), เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 http://ea.grad.ssru.ac.th/useruploads/files/20200718/679ca73d17e40d7d887615a33bcd3eefbc8aa99e.pdf
- elibrary.ksp.or.th, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 การนิเทศการศึกษา Catalogue en ligne
- “การนิเทศการศึกษา” หนึ่งตัวช่วยในการพัฒนาสม – ThaiJo, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 https://so06.tci-thaijo.org/index.php/jra/article/download/248267/172396/938183
- krukob.com, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 แนวทางการเขียนแผนการนิเทศการศึกษา สำหรับศึกษานิเทศก์ »
- 5. แผนการนิเทศ – พัฒนาศึกษานิเทศก์ 2567, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 พัฒนาศึกษานิเทศก์ 2567 – 5. แผนการนิเทศ
- แผนปฏิบัติการนิเทศ – สำนักงาน ศึกษาธิการ จังหวัด นนทบุรี, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 แผนปฏิบัติการนิเทศ
- Instructional Supervision Plan | PDF | Educational Assessment | Teachers – Scribd, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 https://es.scribd.com/document/670471406/Instructional-Supervision-Plan
- กลุ่มนิเทศ ติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา – เอกสารวิชาการ – Google Sites, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 กลุ่มนิเทศ ติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา – เอกสารวิชาการ
- แผนนิเทศการศึกษา ปีงบประมาณ 2564, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 แผนนิเทศการศึกษา ปีงบประมาณ 2564
- (PDF) Models, Approaches, and Techniques of Educational …, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 https://www.researchgate.net/publication/336237545_Models_Approaches_and_Techniques_of_Educational_Supervision_to_Improve_Teachers’_Professionalism
- Lect5 (Models of Supervision in Education) | PDF | Teachers … – Scribd, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 https://www.scribd.com/document/602188389/Lect5-Models-of-Supervision-in-Education
- Models of supervision, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 https://zourpri.files.wordpress.com/2014/01/models-of-supervision.pdf
- Clinical Supervision Model in Teaching Practice: Does it Make a Difference in Supervisors’ Performance? – ERIC, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 https://files.eric.ed.gov/fulltext/EJ1127714.pdf
- Developmental supervision | PPTX | Education – SlideShare, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 https://www.slideshare.net/slideshow/developmental-supervision-249606420/249606420
- (PDF) An Investigation on Developmental Supervision Model …, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 https://www.researchgate.net/publication/315934158_An_Investigation_on_Developmental_Supervision_Model_Supervisors’_and_Administrators’_Opinions_and_Teachers’_Expectations
- Glickman (2010) Ch 7: Developmental Supervision: An Introduction – Doctoral Readings, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 https://mca160.wordpress.com/2013/07/11/glickman-2010-ch-7-developmental-supervision-an-introduction/
- EJ236674 – The Developmental Approach to Supervision., Educational Leadership, 1980-Nov – ERIC, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 https://eric.ed.gov/?id=EJ236674
- THE DEVELOPMENTAL APPROACH TO SUPERVISION – ASCD, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 https://files.ascd.org/staticfiles/ascd/pdf/journals/ed_lead/el_198011_glickman.pdf
- Outline of Direct Instruction – Hunter Direct Instruction Model, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 https://www.asa3.org/ASA/education/teach/hunter.htm
- Hunter’s ITIP Model for Direct Instruction – Miss Schoffstall’s Weebly, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 https://melissaschoffstall.weebly.com/hunters-itip-model-for-direct-instruction.html
- “How does effective educational supervision impact teacher performance and professional development?” | ResearchGate, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 https://www.researchgate.net/post/How_does_effective_educational_supervision_impact_teacher_performance_and_professional_development
- info.pyo1.go.th, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 https://info.pyo1.go.th/news/index.php?action=dlattach;topic=1846.0;attach=2510
- แนวทางการเขียนแผนการนิเทศการศึกษา สำหรับศึกษานิเทศก์ » – Digital Learning Classroom, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 https://krukob.com/web/sv-5/
- วันเสาร์ที่ 20 พฤศจิกายน 2564 เวลา 13.00-16.00 น. ดร.สุรัตน์นารี ธิลาใจ ศึกษานิเทศก์ช านาญการพิเศษ – ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคเหนือ, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 http://km.nsdv.go.th/files/10000001_23080716160703.pdf
- แผน ปฏิบัติการ นิเทศ การ ศึกษา – สพป.เพชรบูรณ์ เขต 1, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 https://www.phetchabun1.go.th/2558/images/files/data_basic/ITA/O4/No4(3).pdf
- รูปแบบการนิเทศที่การส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning), เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 https://www.sesaoskt.go.th/wp-content/uploads/2023/11/2.-เล่มรูปแบบการนิเทศ-Active-Learning-สพม.สุโขทัย.pdf
- แผนนิเทศ – สพป.พะเยา เขต 2, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 https://www.phayao2.go.th/wp-content/uploads/2024/07/แผนนิเทศขับเคลื่อน-OBEC-CC.pdf
- โครงการนิเทศภายใน จัดทำขึ้นเพื่อพัฒนาบุคลากรให้มี … – โรงเรียนวัดห้วยโป่ง, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 https://www.wathauypong.ac.th/super/modules/adviser/file_upload/21010042/772/772_7721711873366.pdf
- แจกไฟล์เวิร์ดเอกสาร แบบรายงานนิเทศการสอน 2564 แก้ไขได้นำไปใช้ได้เลย – ครูเชียงราย, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 https://www.kruchiangrai.net/2021/07/22/แบบรายงานนิเทศการสอน/
- แบบประเมินการนิเทศการสอน เพื่อพัฒนาการจัดกา – โรงเรียนมัธยม …, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 https://thonglang.ac.th/images/download/document-2565/1-65แบบประเมินการนิเทศ.pdf
- 2.ตัวอย่างรูปเล่มรายงานการนิเทศการสอน 2-2566.docx – โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 https://www.surasak.ac.th/web/ssmfile/เอกสารวิชาการ/นิเทศการสอน/2.ตัวอย่างรูปเล่มรายงานการนิเทศการสอน 2-2566.docx
- แบบนิเทศการสอน | PDF – Scribd, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 https://www.scribd.com/document/707235768/แบบนิเทศการสอน
- A Proposed Plan for the Improvement of Instruction in Central School through the Supervisory Activities of the Teaching Principal – ScholarWorks@CWU, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 https://digitalcommons.cwu.edu/cgi/viewcontent.cgi?article=1184&context=all_gradpapers
- แผนปฏิบัติการนิเทศการศึกษา-ปีงบประมาณ-2565. – สพป.นครพนม เขต 2, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 https://www.nkp2.go.th/wp-content/uploads/2022/06/แผนปฏิบัติการนิเทศการศึกษา-ปีงบประมาณ-2565…pdf
- รูปแบบการนิเทศภายในของสถานศึกษาขนาดเล็ก สัง – ThaiJo, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 https://so06.tci-thaijo.org/index.php/jomld/article/download/248964/169539
- แผนนิเทศภายในโรงเรียน ประจาปีการศึกษา 2566, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 http://thaischool.in.th/_files_school/55101999/data/55101999_1_20230619-090343.pdf
- แผนนิเทศเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาตามนโยบายและจุดเน้น ปีการศึกษา 2559/ปีงบประมาณ 2560 – ส พ ป.สุราษฎร์ธานี เขต 2, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 https://surat2.go.th/2021/files/com_news_manual/2021-06_eb1c7adb1a92cee.pdf
- SUPERVISION AND EVALUATION PLAN – Lamoille North Supervisory Union, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 https://www.lnsd.org/fs/resource-manager/view/7ab67045-cd65-4e77-8c45-f58f351f7f95
- Effective supervision – Skills for Care, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 https://www.skillsforcare.org.uk/resources/documents/Support-for-leaders-and-managers/Managing-people/Supervision/Effective-supervision-guide.pdf
- General notes: APA (7th ed., 2020) citation guide – SFU Library, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 https://www.lib.sfu.ca/help/cite-write/citation-style-guides/apa
- APA Style, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 https://apastyle.apa.org/
- APA Overview and Workshop – Purdue OWL, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 https://owl.purdue.edu/owl/research_and_citation/apa_style/apa_overview_and_workshop.html
- APA Format & APA Citation Generator – Citation Machine, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 https://www.citationmachine.net/apa
- How to Cite Sources in APA Citation Format – Mendeley, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 https://www.mendeley.com/guides/apa-citation-guide
- Reference List: Basic Rules – Purdue OWL, เข้าถึงเมื่อ กันยายน 4, 2025 https://owl.purdue.edu/owl/research_and_citation/apa6_style/apa_formatting_and_style_guide/reference_list_basic_rules.html
ภาคผนวก
ตัวอย่างแบบฟอร์มแผนการนิเทศการศึกษา/การสอน
ประจำปีการศึกษา/ภาคเรียนที่…………………………………………………………..
หน่วยงาน…………………………………………………………..
ชื่อแผนการนิเทศ……………………………………………………………………………………………………………………….
ผู้นิเทศ…………………………………………………………… ตำแหน่ง………………………………………………………..
กลุ่มเป้าหมายผู้รับการนิเทศ………………………………………………………………………………………………………..
ส่วนที่ 1: หลักการและเหตุผล
ส่วนนี้เป็นการชี้ให้เห็นถึงความสำคัญและความจำเป็นของการจัดทำแผน โดยอ้างอิงจากข้อมูลและนโยบายที่เกี่ยวข้อง 1
1.1 สภาพปัจจุบัน ปัญหา และความต้องการจำเป็น
(โปรดวิเคราะห์และระบุสภาพการจัดการศึกษาในปัจจุบัน โดยอ้างอิงข้อมูลเชิงปริมาณ เช่น ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน O-NET, NT, RT และข้อมูลเชิงคุณภาพ เช่น ผลการสังเกตการณ์ในชั้นเรียน, ผลการสำรวจ หรือการสัมภาษณ์ครูและผู้บริหาร เพื่อระบุปัญหาที่ต้องการพัฒนาอย่างเร่งด่วน) 2
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
1.2 นโยบายและแนวคิดที่เกี่ยวข้อง
(โปรดระบุถึงนโยบายของหน่วยงานต้นสังกัด แผนยุทธศาสตร์ชาติ หรือแนวคิดทฤษฎีทางการศึกษาที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสนับสนุนความจำเป็นในการจัดทำแผนฉบับนี้) 3
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ส่วนที่ 2 วัตถุประสงค์และเป้าหมาย
ส่วนนี้เป็นการกำหนดทิศทางและผลลัพธ์ที่คาดหวังจากการนิเทศให้ชัดเจนและวัดผลได้ 5
2.1 วัตถุประสงค์ (ระบุสิ่งต้องการให้บรรลุในภาพรวม)
1…………………………………………………………………………………………………………………………………….
2…………………………………………………………………………………………………………………………………….
3…………………………………………………………………………………………………………………………………….
2.2 เป้าหมายและตัวชี้วัดความสำเร็จ (KPIs) (ระบุผลลัพธ์ที่คาดหวังในเชิงปริมาณและคุณภาพ พร้อมตัวชี้วัดที่ชัดเจน)
เป้าหมายเชิงปริมาณ | เป้าหมายเชิงคุณภาพ | ตัวชี้วัดความสำเร็จ |
1. ครูร้อยละ….. | 1. ครูมีความมั่นใจและทักษะใน… | 1. ผลการประเมินจากแบบสังเกตการสอน |
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชา… เพิ่มขึ้นร้อยละ….. | 2. ผู้เรียนมีส่วนร่วมในชั้นเรียนมากขึ้น | 2. ผลการทดสอบก่อน-หลังเรียน |
3. (ระบุเพิ่มเติม) | 3. (ระบุเพิ่มเติม) | 3. (ระบุเพิ่มเติม) |
ส่วนที่ 3 วิธีดำเนินการ
ส่วนนี้เป็นการวางแผนกิจกรรมและขั้นตอนการดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรม 6
3.1 รูปแบบ/เทคนิคการนิเทศที่ใช้ (โปรดระบุรูปแบบการนิเทศหลักที่เลือกใช้ เช่น การนิเทศแบบคลินิก (Clinical Supervision), การสอนงาน (Coaching), การสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) พร้อมให้เหตุผลประกอบการเลือก) 2
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….3.2 ปฏิทินและกิจกรรมการนิเทศ (ระบุกิจกรรมที่จะดำเนินการตามลำดับเวลาอย่างชัดเจน)
ลำดับ | กิจกรรม | ระยะเวลาดำเนินการ | ผู้รับผิดชอบ |
1. | ประชุมชี้แจงแผนและสร้างความเข้าใจร่วมกัน | (ระบุสัปดาห์/เดือน) | |
2. | อบรมเชิงปฏิบัติการเรื่อง……………………………… | (ระบุสัปดาห์/เดือน) | |
3. | สังเกตการณ์ในชั้นเรียนและให้ข้อมูลป้อนกลับ (ครั้งที่ 1) | (ระบุสัปดาห์/เดือน) | |
4. | ประชุม PLC เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ | (ระบุสัปดาห์/เดือน) | |
5. | สังเกตการณ์ในชั้นเรียนและให้ข้อมูลป้อนกลับ (ครั้งที่ 2) | (ระบุสัปดาห์/เดือน) | |
6. | (ระบุเพิ่มเติม) |
ส่วนที่ 4 สื่อ เครื่องมือ และงบประมาณ
ส่วนนี้เป็นการระบุทรัพยากรที่จำเป็นต้องใช้ในการดำเนินงานตามแผน 1
4.1 สื่อและเครื่องมือที่ใช้ในการนิเทศ (ระบุรายการเครื่องมือที่จะใช้ในแต่ละกิจกรรม)
- [ ] แบบสังเกตการสอน
- [ ] แบบประเมินแผนการจัดการเรียนรู้
- [ ] แบบบันทึกการสนทนาหลังการนิเทศ (Post-observation Conference Form)
- [ ] แบบประเมินตนเองของครู (Teacher Self-Assessment)
- [ ] แบบสอบถามความพึงพอใจ
- [ ] อื่นๆ (โปรดระบุ)……………………………………………………………………………………..
4.2 งบประมาณ (ระบุแหล่งที่มาและรายละเอียดค่าใช้จ่ายที่คาดว่าจะเกิดขึ้น)…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ส่วนที่ 5 การประเมินผลและรายงานผล
ส่วนนี้เป็นการกำหนดวิธีการตรวจสอบความสำเร็จของ “แผนการนิเทศ” ฉบับนี้ 8
5.1 วิธีการประเมินผลแผนการนิเทศ (ระบุว่าจะประเมินความสำเร็จของแผนนี้ได้อย่างไร)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
5.2 เกณฑ์การประเมินความสำเร็จของแผน
(ระบุเกณฑ์ที่จะใช้ตัดสินว่าแผนบรรลุเป้าหมายหรือไม่ เช่น “แผนจะถือว่าประสบความสำเร็จเมื่อตัวชี้วัดเชิงปริมาณบรรลุเป้าหมายไม่น้อยกว่าร้อยละ 80”)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ลงชื่อผู้จัดทำแผน
………………………………………………………………..
(………………………………………………………………)
ตำแหน่ง………………………………………………………………..
วันที่………………………………………………………………..
ความเห็นชอบ/อนุมัติ
………………………………………………………………..
(………………………………………………………………)
ตำแหน่ง………………………………………………………………..
วันที่………………………………………………………………..
https://docs.google.com/document/d/12_ZYt8gdOGy2lk-rYQaKnK76RCYwEJVT3Cd9Z3H6azk/edit?usp=sharing
Comments
Powered by Facebook Comments