Digital Learning Classroom
การย้ายข่าวการศึกษา

แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการย้าย การประมวลผล และการพิจารณาย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ผ่านระบบการย้ายข้าราชการครู (Teacher Rotation System : TRS)

แชร์เรื่องนี้


ระบบการย้ายข้าราชการครู (Teacher Rotation System : TRS)

“ระบบการย้ายข้าราชการครู (Teacher Rotation System : TRS)” เรียกโดยย่อว่า “ระบบ TRS” หมายความว่า ระบบการย้ายผู้ดำรงตำแหน่งครูให้ดำรงตำแหน่งเดิมในสถานศึกษา สังกัดส่วนราชการเดิม โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการส่งผ่าน จัดการและประมวลผลข้อมูล เพื่อใช้ในการพิจารณาย้ายผู้ดำรงตำแหน่งครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ

เข้าระบบ TRS ทางเว็บไซต์ https://www.trs.otepc.go.th

เอกสารที่เกี่ยวข้อง

ว24/2567 แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการย้าย การประมวลผล และการพิจารณาย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ผ่านระบบ TRS (Teacher Rotation System)

ที่ ศธ 0206.4/ว24 สำนักงาน ก.ค.ศ. สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ 4 ธันวาคม 2567

เรื่อง แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการย้าย การประมวลผล และการพิจารณาย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ผ่านระบบ TRS (Teacher Rotation System)

เรียน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เลขาธิการ อธิบดี และผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

อ้างถึง หนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.4/ว 6 ลงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567

สิ่งที่ส่งมาด้วย แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการย้าย การประมวลผล และการพิจารณาย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ผ่านระบบ TRS (Teacher Rotation System)

ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงาน ก.ค.ศ. ได้แจ้งหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ให้ส่วนราชการและหน่วยงานการศึกษาทราบและถือปฏิบัติ นั้น

ก.ค.ศ. พิจารณาแล้ว มีมติกำหนดแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการย้าย การประมวลผล และการพิจารณาย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ผ่านระบบ TRS (Teacher Rotation System) ปฏิทินการย้าย ประจำปี พ.ศ. 2568 รวมทั้งข้อกำหนดและเงื่อนไขในการดำเนินการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ผ่านระบบ TRS (Teacher Rotation System) แนบท้ายแนวปฏิบัตินี้ รายละเอียดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย โดยให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 เป็นต้นไป

สิ่งที่ส่งมาด้วย

แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการย้าย การประมวลผล และการพิจารณาย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ผ่านระบบ TRS (Teacher Rotation System)

(ส่งพร้อมหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.4/ว24 ลงวันที่ 4 ธันวาคม 2567)

ตามที่ ก.ค.ศ. ได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.4/ว 6 ลงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567 (หลักเกณฑ์และวิธีการย้ายฯ ว 6/2567) และให้สำนักงาน ก.ค.ศ. จัดทำระบบการย้ายข้าราชการครู (Teacher Rotation System : TRS) เรียกโดยย่อว่า “ระบบ TRS” ซึ่งการดำเนินการประมวลผลการย้าย และการนำเสนอ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา หรือ อ.ก.ค.ศ. สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ หรือ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้ง แล้วแต่กรณี ให้ดำเนินการตามแนวปฏิบัติที่ ก.ค.ศ. กำหนด นั้น

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 19 (4) มาตรา 59 วรรคหนึ่งและวรรคสี่ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 8 วรรคหนึ่งและวรรคสอง มาตรา 10 และมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2565 ข้อ 26 ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ประกอบกับหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายฯ ว 6/2567 และมติ ก.ค.ศ. ในคราวประชุมครั้งที่ 12/2567 เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 ก.ค.ศ. จึงกำหนดแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการย้าย การประมวลผล และการพิจารณาย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ผ่านระบบ TRS (Teacher Rotation System) ดังนี้

ก. ในแนวปฏิบัตินี้

“ระบบการย้ายข้าราชการครู (Teacher Rotation System : TRS)” เรียกโดยย่อว่า “ระบบ TRS” หมายความว่า ระบบการย้ายผู้ดำรงตำแหน่งครูให้ดำรงตำแหน่งเดิมในสถานศึกษา สังกัดส่วนราชการเดิม โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการส่งผ่าน จัดการและประมวลผลข้อมูล เพื่อใช้ในการพิจารณาย้ายผู้ดำรงตำแหน่งครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ

“การย้าย” หมายความว่า การแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู ให้ดำรงตำแหน่งเดิมในสถานศึกษาอื่น ในส่วนราชการเดิม ซึ่งอาจเป็นการย้ายไปดำรงตำแหน่งว่าง หรือการย้ายสับเปลี่ยนกับตำแหน่งที่มีคนครอง หรือการย้ายโดยการตัดโอนตำแหน่งและอัตราเงินเดือน

“การย้ายไปดำรงตำแหน่งว่าง” หมายความว่า การย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู ไปแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเดิมที่เป็นตำแหน่งว่างและมีอัตราเงินเดือนในสถานศึกษาอื่น ในส่วนราชการเดิม

“การย้ายสับเปลี่ยน” หมายความว่า การย้ายสับเปลี่ยนกับตำแหน่งที่มีคนครอง ซึ่งเป็นการย้ายผู้ดำรงตำแหน่งครูด้วยกัน ที่ดำรงตำแหน่งในต่างสถานศึกษา ในส่วนราชการเดิม

“การย้ายโดยการตัดโอนตำแหน่งและอัตราเงินเดือน” หมายความว่า การย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีคนครอง โดยการตัดโอนตำแหน่งและอัตราเงินเดือนตามตัวบุคคล จากสถานศึกษาเดิมไปกำหนดในสถานศึกษาอื่น ในส่วนราชการเดิม

“สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา” หมายความว่า สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา หรือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา

“สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ” หมายความว่า สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

“ส่วนราชการอื่น” หมายความว่า สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา หรือ กรมส่งเสริมการเรียนรู้

“สถานศึกษา” หมายความว่า สถานศึกษาสังกัดส่วนราชการในกระทรวงศึกษาธิการ ยกเว้น โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย

“อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา” หมายความว่า อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา หรือ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา

“อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้ง” หมายความว่า อ.ก.ค.ศ. สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ อ.ก.ค.ศ. สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา หรือ อ.ก.ค.ศ. กรมส่งเสริมการเรียนรู้

“ภูมิลำเนาของผู้ขอย้าย” หมายความว่า ถิ่นอันเป็นสถานที่อยู่ตามทะเบียนบ้านของผู้ขอย้าย และให้หมายความรวมถึง ถิ่นอันเป็นสถานที่อยู่ตามทะเบียนบ้านบิดาและหรือมารดาของผู้ขอย้ายหรือถิ่นอันเป็นสถานที่อยู่ของผู้อุปการะเลี้ยงดูของผู้ขอย้ายด้วย

“ผู้อุปการะเลี้ยงดูฯ” หมายความว่า ผู้ที่ได้อุปการะเลี้ยงดูให้การศึกษาผู้ขอย้ายมาแต่เยาว์ฉันท์บิดา มารดากับบุตร

“รอบ” หมายความว่า รอบในการพิจารณาคำร้องขอย้ายในแต่ละครั้ง โดยคำร้องขอย้ายในแต่ละครั้งสามารถพิจารณาย้ายได้มากกว่า 1 รอบ

ข. การดำเนินการย้าย

1. การย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ตามแนวปฏิบัตินี้ เป็นการย้ายผ่านระบบ TRS ซึ่งสามารถเข้าถึงได้โดยใช้คอมพิวเตอร์ที่ดี หรือโน๊ตบุ๊ก ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต รวมถึงอุปกรณ์พกพาใช้สาย (Mobile Devices) เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต เป็นต้น

2. การย้ายทุกกรณีให้ดำเนินการผ่านระบบ TRS เท่านั้น

3. คุณสมบัติของผู้ขอย้ายให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายฯ ว 6/2567

4. การย้ายทุกกรณี สถานศึกษาที่รับย้ายต้องมีอัตรากำลังสายผู้สอนในภาพรวมไม่เกินเกณฑ์อัตรากำลังที่ ก.ค.ศ. กำหนด และเป็นตำแหน่งที่ไม่มีเงื่อนไขในการใช้ตำแหน่ง

สำหรับสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานและสถานศึกษา ที่รับย้ายต้องมีจำนวนตำแหน่งในสายงานการสอนในวิชาเอกไม่เกินเกณฑ์มาตรฐานวิชาเอกตามที่ ก.ค.ศ. กำหนดด้วย

5. การลงทะเบียนและการกำหนดสิทธิการใช้งานระบบ TRS

ให้ส่วนราชการหรือหน่วยงานการศึกษาเข้าสู่ระบบ TRS ทางเว็บไซต์ https://www.trs.otepc.go.th และให้ดำเนินการดังนี้

5.1 สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือผู้อำนวยการสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ แล้วแต่กรณี ลงทะเบียนเข้าใช้งานระบบ TRS และสามารถกำหนดสิทธิการใช้งานเพิ่มเติมให้แก่เจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายได้เพียง 1 สิทธิเท่านั้น รวมทั้งอนุมัติการลงทะเบียนให้แก่ผู้อำนวยการสถานศึกษาในสังกัด

5.2 สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ให้หัวหน้าส่วนราชการ หรือผู้ที่หัวหน้าส่วนราชการมอบหมาย ลงทะเบียนเข้าใช้งานระบบ TRS และสามารถกำหนดสิทธิการใช้งานเพิ่มเติมให้แก่เจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายได้เพียง 1 สิทธิเท่านั้น รวมทั้งอนุมัติการลงทะเบียนให้แก่ผู้อำนวยการสถานศึกษาในสังกัด

5.3 สังกัดกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ให้หัวหน้าส่วนราชการหรือผู้ที่หัวหน้าส่วนราชการมอบหมาย ลงทะเบียนเข้าใช้งานระบบ TRS และสามารถกำหนดสิทธิการใช้งานเพิ่มเติมให้แก่เจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายได้เพียง 1 สิทธิเท่านั้น รวมทั้งอนุมัติการลงทะเบียนให้แก่ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัด/กรุงเทพมหานคร หรือผู้อำนวยการสถานศึกษาในสังกัด

เมื่อผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัด/กรุงเทพมหานครได้รับการอนุมัติสิทธิการใช้งานแล้ว สามารถอนุมัติการลงทะเบียนให้แก่ผู้อำนวยการสถานศึกษาในสังกัดได้

ทั้งนี้ การลงทะเบียนและการกำหนดสิทธิการใช้งานให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนดตามปฏิทินแนบท้ายแนวปฏิบัตินี้

5.4 กรณีที่ผู้อำนวยการสถานศึกษาได้รับคำสั่งย้ายหรือไปปฏิบัติหน้าที่ ณ สถานศึกษาอื่น หรือเปลี่ยนตำแหน่ง หรือพ้นสภาพการดำรงตำแหน่งด้วยเหตุอื่น ให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัด/กรุงเทพมหานคร หรือหัวหน้าส่วนราชการ แล้วแต่กรณี ดำเนินการระงับสิทธิการใช้งานทันที แล้วจึงกำหนดสิทธิการใช้งานให้แก่ผู้อำนวยการสถานศึกษาคนใหม่ต่อไป

6. การย้ายกรณีปกติ ผ่านระบบ TRS (ไม่รวมถึงการย้ายสับเปลี่ยน)

6.1 การนำข้อมูลตำแหน่งว่างที่ใช้ในการรับย้ายเข้าสู่ระบบ TRS

6.1.1 ตำแหน่งว่างที่ใช้ในการรับย้าย ต้องเป็นตำแหน่งว่างที่จะเงื่อนไขในการใช้ตำแหน่งของสถานศึกษาที่ต้องมีอัตรากำลังสายงานการสอนในภาพรวมไม่เกินเกณฑ์อัตรากำลังที่ ก.ค.ศ. กำหนด และเป็นตำแหน่งที่ไม่มีเงื่อนไขในการใช้ตำแหน่ง สำหรับสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ต้องมีจำนวนตำแหน่งในสายงานการสอนในวิชาเอกไม่เกินเกณฑ์มาตรฐานวิชาเอกตามที่ ก.ค.ศ. กำหนดด้วย

6.1.2 ให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ หรือส่วนราชการอื่น นำตำแหน่งว่างตามข้อ 6.1.1 เสนอ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา หรือ อ.ก.ค.ศ. สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ หรือ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้ง แล้วแต่กรณี เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนนำตำแหน่งว่างดังกล่าวเข้าสู่ระบบ TRS

6.1.3 ให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือผู้อำนวยการสำนักบริหารงาน การศึกษาพิเศษ หรือหัวหน้าส่วนราชการ หรือเจ้าหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมาย เป็นผู้นำข้อมูลตำแหน่งว่างที่ใช้ในการรับย้ายเข้าสู่ระบบ TRS

ทั้งนี้ การนำเข้าข้อมูลตำแหน่งว่างที่ใช้ในการรับย้ายและการแก้ไขข้อมูลตำแหน่งว่าง ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ส่วนราชการกำหนดให้ยื่นคำร้องขอย้าย โดยห้ามมิให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมข้อมูลตำแหน่งว่างในภายหลังจนกว่าการพิจารณาย้ายในครั้งนั้นๆ จะเสร็จสิ้น เพื่อมิให้มีผลกระทบต่อคำร้องขอย้ายที่ได้ยื่นผ่านระบบ TRS ไว้แล้ว

6.2 การดำเนินการย้ายกรณีปกติ ผ่านระบบ TRS

6.2.1 การดำเนินการของข้าราชการครูผู้ขอย้าย ให้ดำเนินการ ดังนี้

6.2.1.1 เข้าสู่ระบบ TRS ทางเว็บไซต์ https://www.trs.otepc.go.th

6.2.1.2 ยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขการย้ายผ่านระบบ TRS ตามที่กำหนดแนบท้ายแนวปฏิบัตินี้

6.2.1.3 ลงทะเบียนเข้าใช้งานระบบ TRS ให้ตรงตามส่วนราชการต้นสังกัดของผู้ขอย้าย

6.2.1.4 ค้นหาตำแหน่งว่างตามที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ หรือส่วนราชการอื่น แล้วแต่กรณี ประกาศตำแหน่งว่างที่ใช้ในการรับย้ายไว้ในระบบ TRS โดยบันทึกข้อมูลคำร้องขอย้ายให้ถูกต้อง ครบถ้วนสมบูรณ์ พร้อมทั้งแนบไฟล์เอกสารหลักฐานตามที่กำหนดไว้ในระบบ TRS ในรูปแบบไฟล์ PDF

6.2.1.5 หลังจากยื่นคำร้องขอย้ายแล้ว สามารถติดตามสถานะการดำเนินการคำร้องขอย้ายผ่านระบบ TRS ได้

6.2.1.6 กรณีที่ข้าราชการครูผู้ขอย้ายต้องการแก้ไขข้อมูลในคำร้องขอย้ายที่ได้บันทึกยื่นข้อมูลในระบบ TRS เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ให้ยกเลิกคำร้องขอย้ายดังกล่าวก่อน แล้วจึงยื่นคำร้องขอย้ายใหม่ผ่านระบบ TRS หรือหากต้องการยกเลิกคำร้องขอย้ายไม่ว่ากรณีใด ๆ ให้ดำเนินการยกเลิกผ่านระบบ TRS ไม่หลังวันสุดท้ายที่กำหนดให้ยื่นคำร้องขอย้ายในแต่ละครั้ง

6.2.2 การดำเนินการของผู้อำนวยการสถานศึกษา

6.2.2.1 กรณีสถานศึกษามีข้าราชการครูขอย้ายออก ให้ดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติและเอกสารหลักฐานของผู้ขอย้ายในระบบ TRS ดังนี้

1) กรณีผู้ขอย้ายมีคุณสมบัติเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายฯ ว 6/2567 และเอกสารหลักฐานถูกต้อง ครบถ้วน ให้ขอความเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษา พร้อมแนบความเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษา ซึ่งปรากฏในรายงานการประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาในรูปแบบไฟล์ PDF (ยกเว้นสังกัดกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ไม่ต้องขอความเห็นคณะกรรมการสถานศึกษา) แล้วจึงให้ความเห็นว่าเห็นควรหรือไม่เห็นควรให้ย้าย และส่งผ่านข้อมูลไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ หรือสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา หรือสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัด/กรุงเทพมหานคร แล้วแต่กรณี ผ่านระบบ TRS สำหรับสถานศึกษาที่ขึ้นตรง สังกัดกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ให้ส่งผ่านข้อมูลไปยังกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ผ่านระบบ TRS ต่อไป

2) กรณีผู้ขอย้ายมีคุณสมบัติเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายฯ ว 6/2567 แต่เอกสารหลักฐานไม่ถูกต้อง หรือไม่ครบถ้วน ให้ผู้อำนวยการสถานศึกษาส่งคืนคำร้องขอย้ายให้ผู้ขอย้ายตรวจสอบและแนบเอกสารหลักฐานที่ถูกต้อง ครบถ้วน ผ่านระบบ TRS ภายในระยะเวลาที่กำหนดให้ยื่นคำร้องขอย้าย แล้วจึงดำเนินการตามข้อ 1)

3) กรณีผู้ขอย้ายมีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายฯ ว 6/2567 ให้ผู้อำนวยการสถานศึกษาส่งคืนคำร้องขอย้ายผ่านระบบ TRS และคำร้องขอย้ายดังกล่าวถือเป็นอันติ

4) กรณีผู้ขอย้ายได้เปลี่ยนตำแหน่ง โอน ลาออก เสียชีวิต หรือกรณีอื่นที่ไม่สามารถพิจารณาคำร้องขอย้ายต่อไปได้ ให้ผู้อำนวยการสถานศึกษายุติคำร้องขอย้ายดังกล่าวผ่านระบบ TRS

6.2.2.2 กรณีที่ผู้อำนวยการสถานศึกษาเห็นควรให้ข้าราชการครูรายใดย้ายออกและสถานศึกษาดังกล่าวมีอัตรากำลังสายงานการสอนในภาพรวมไม่เกินเกณฑ์อัตรากำลังที่ ก.ค.ศ. กำหนด (สถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ต้องมีจำนวนตำแหน่งในสายงานการสอนในวิชาเอกไม่เกินเกณฑ์มาตรฐานวิชาเอกตามที่ ก.ค.ศ. กำหนดด้วย) ให้ระบุด้วยว่าต้องการข้าราชการครู กลุ่มวิชา หรือทาง หรือสาขา/สาขาวิชาใด มาทดแทน โดยให้ถือเป็นตำแหน่งว่างที่จะว่างเพื่อใช้ในการรับย้ายต่อเนื่อง หรือรับย้ายในรอบต่อไป สำหรับการย้ายในครั้งนั้น ๆ

6.2.2.3 กรณีสถานศึกษามีข้าราชการครูขอย้ายเข้า

ให้ดำเนินการขอความเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษา พร้อมแนบความเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษา ซึ่งปรากฎในรายงานการประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาในรูปแบบไฟล์ PDF และส่งผ่านข้อมูลไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ หรือสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา แล้วแต่กรณี ผ่านระบบ TRS ให้แล้วเสร็จตามระยะเวลาที่กำหนดในปฏิทินแนบท้ายแนวปฏิบัตินี้

6.2.3 การดำเนินการของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ หรือส่วนราชการแล้วแต่กรณี

6.2.3.1 ตรวจสอบคุณสมบัติและเอกสารหลักฐานของผู้ขอย้ายในระบบ TRS

1) ให้ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ขอย้ายให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และวิธีการย้ายฯ ว 6/2567 และตรวจสอบเอกสารหลักฐาน ตามองค์ประกอบและตัวชี้วัดแนบท้ายหลักเกณฑ์ และวิธีการย้ายฯ ว 6/256 ดังนี้

1.1  ที่ตั้งของสถานศึกษาที่ต้องการย้ายไปดำรงตำแหน่งตรวจสอบจากทะเบียนบ้านที่ผู้ขอย้ายระบุเป็นภูมิลำเนา

1.2 กลุ่มวิชา หรือทาง หรือสาขาวิชาที่สอนปัจจุบัน ตรวจสอบจากตารางสอน

1.3 เหตุผลในการขอย้าย ตรใจสอนจากเอกสารที่เกี่ยวต้องกับเหตุผลในการขอย้าย เช่น ทะเบียนบ้าน ใบรับรองแพทย์ ใบรับรองการเป็นผู้มีหน้าที่หลัก หรือเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ เป็นต้น

1.4 ระยะเวลาการปฏิบัติหน้าที่สอนในสถานศึกษาปัจจุบัน

1.5 อายุราชการ ตรวจสอบจาก ก.พ.7 หรือ ก.ศ.ศ.16

1.6 สภาพคครรมยากลำบากในการปฏิบัติงานในสถานศึกษาปัจจุบัน ระบบ TRS จะตรวจสอบจากบัญชีรายชื่อสถานศึกษาในพื้นที่พิเศษ ตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด โดยอัดโนมัติ

1.7 ผลการปฏิบัติงานที่เกิดกับผู้เรียนและสถานศึกษาปัจจุบัน ตรวจสอบจาก

(1) ผลการประมินตามข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA) หรือ
(2) ผลการประมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลการปฏิบัติงาน ตามมาตรฐานตำแหน่งครูผู้ช่วยที่ผู้บังคับบัญชาประเมินรอบสุดท้ายก่อนยื่นคำร้องขอย้าย (องค์ประกอบที่ 1)

1.8 การรักษาวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรมวิชาชีพตรวจสอบจาก ก.พ.7 หรือ ก.ศ.ศ.16

6.2.3.2 การดำเนินการกรณีคำร้องของขอย้ายภายในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเดียวกัน หรือสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ หรือส่วนราชการอื่น แล้วแต่กรณี

1) คำร้องขอย้ายของข้ารารายการครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ หรือส่วนราชการอื่น

1.1 เจ้าหน้าที่ของสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษา หรือสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ หรือส่วนราชการอื่น แล้วแต่กรณี ที่ได้รับมอบหมาย ดำเนินการตรวจจสอบคุณสมบัติ และเอกสารหลักฐานของผู้ขอย้ายในระบบ TRS ให้ถูกต้อง ครบถ้วน เป็นไปตามหลักเกมฑ์และวิธีการย้ายฯ ว 6/2567 โดยดำเนินการตามข้อ 6.2.3.1 หากพบว่ามีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายๆ ว 6/2567
หรือเป็นกรณีที่ต้องยุติติดำร้องขอย้าย เนื่องจากผู้ขอย้ายได้เปลี่ยนตำแหน่ง โอน ลาออก เสียชีวิต หรือกรณีอื่นที่ไม่สามารถพิจารณาคำร้องขอย้ายต่อไปได้ ให้ระบุเหตุผลไว้ในระบบ TRS ให้ชัดเจนด้วย

1.2 ผู้อำนวยการสำนักงานเขขตพื้นที่การศึกษา หรือผู้อำนวยการสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ หรือหัวหน้าส่วนราชการอื่น แล้วแต่กรณี พิจารณาให้ความเห็นว่า เห็นควร หรือไม่เห็นควรให้ย้าย พร้อมทั้งให้ความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการบริหารอัตรากำลังที่ว่างผ่านระบบ TRS ก่อนดำเนินการประมวลผลข้อมูลของผู้ขอย้าย ตามที่กำหนดในข้อ 6.3 ต่อไป

6.2.3.3 การดำเนินการกรณีคำร้องขอย้ายต่างเขตพื้นที่การศึกษา หรือกรณีคำร้องขอย้ายระหว่างสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากับสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ

1) เจ้าหน้าที่ของสำนักงานเขตขึ้นที่การศึกษา หรือสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ต้นทาง แล้วแต่กรณี ที่ได้รับมอบหมาย ดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติและเอกสารหลักฐามของผู้ขอย้ายในระบบ TRS ให้ถูกต้อง ครบถ้วน เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการย้าย ว 6/2567 โดยดึงเนินการตามข้อ 6.2.3.1 หากพบว่ามีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายฯ ว 6/2567 หรือเป็นกรณีที่ต้องยุติคำร้องขอย้าย เนื่องจากผู้ขอย้ายได้เปลี่ยนตำแหน่ง โอน ลาออก เสียชีวิต หรือกรณีอื่นที่ไม่สามารถพิจารณาคำร้องต่อไปได้ ให้ระบุเหตุผลไว้ในระบบ TRS ให้ขัดเจนด้วย

2) ผู้อำนวยการสำนักงางานเขตพื้นที่การศึกษา หรือผู้อำนวยการ สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ต้นทาง แล้วแล้วแต่กรณี พิจารณาให้ความเห็นว่า เห็นควรหรือไม่เห็นควรให้ย้ายพร้อมทั้งให้ความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการบริหารอัตรากำลังที่ว่าง เพื่อเสนอ อ.ก.ก.ค.ศ. เขตที่การศึกษา หรือ อภ.ศ.ศ สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ แล้วแต่กรณี พิจารณาส่งคำร้องขอย้ายไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
หรือสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ปลายทาง ผ่านระบบ TRS ต่อไป

3) เจ้าหน้าที่ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ปลายทาง แล้วแต่กรณี ที่ได้รับมอบหมาย ดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติและเอกสารหลักฐามของผู้ขอย้ายในระบบ TRS ให้ถูกต้อง ครบถ้วน เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายฯ ว 6/2567 โดยดำเนินการตามข้อ 6.2.3.1 อีกครั้ง

4) ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือผู้อำนวยการสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ปลายทาง แล้วแต่กรณี พิจารณาให้ความเห็นในเบื้องต้นว่าเห็นควร หรือไม่เห็นควรรับย้ายผ่านระบบ TRS ก่อนดำเนินการประมวลผลข้อมูลของผู้ขอย้าย ตามที่กำหนดในข้อ 6.3.3 ต่อไป

6.3 การประมวลผลการย้ายกรณีปกติ ผ่านระบบ TRS

6.3.1 เมื่อผู้อำนวยการสำนักงางานคนที่การศึกษา หรือผู้อำนวยการสำนักบริหาหารการศึกษาพิเศษ หรือหัวหน้าส่วนรายการ แล้วแต่กรณี พิจารณาให้ความเห็นในเมืองต้นว่าเห็นควรอไม่เห็นควรับย้ายพร้อมทั้งบันทึกและยืนอันผลการตรวจสอบคำร้องของขอย้ายผ่านระบบ TRS เรียบร้อยแล้ว ระบจะประมวลผลคะแบนของผู้ขอย้ายแต่ละรายตามองค์ประกอบและตัวชี้วัด และจะแสดงผลตามวันที่ ก.ค.ศ. กำหนดในปฏิทินการย้ายแนบท้ายแนวปฏิบัตินี้

6.3.2 ระบบจะแสดงผลการประมวลคะแนนเป็นรายสถานศึกษาตามลำดับตำแหน่งว่าว่างที่ประกาศในระบบ TRS และจะแสดงผลคะแนนและอันดับที่ได้ในแต่ละสถานศึกษาตามลำดับที่ผู้ขอย้ายประสงค์ขอย้ายไปดำรงตำแหน่ง

6.3.3 ในกรณีที่มีผู้อื่นคำร้องขอย้ายได้คะแนนเท่ากัน ระบบ TRS จะประมวลผล โดยจัดเรียงอันดับที่ได้ตามเงื่อนไขการพิจารณาการย้ายกรณีผู้ขอย้ายได้คะแนนเท่ากัน ตามที่กำหนด แนบท้ายหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายฯ ว 6/2567

6.3.4 กรณีที่ข้าราชการครูรายใดที่ได้ยื่นคำร้องขอย้ายในระบบ TRS ไว้ก่อนวันวันที่คำสั่งเปลี่ยนตำแหน่ง หรือโอน มีผล หรือลาออก หรือเสียชีวิต หรือกรณีอื่นที่ไม่สามารถพิจารณาค้าค้าขอย้ายต่อไปได้ ให้ผู้อำนวยการสถานศึกษา เจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือหัวหน้าส่วนราชการ แล้วแต่กรณี เป็นผู้บันทึกข้อมูลและยุติการพิจารณาคำร้องขอย้ายนั้น โดยไม่ไม่ให้นำคำร้องขอย้ายของผู้ขอย้ายรายนั้นมาดำเนินการอีก

6.4 การพิจารณาย้ายกรณีปกติ

6.4.1 ให้ อ.ก.ศ.ศ. เขตที่การศึกษา หรือ อ.ก.ค.ศ. สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ หรือ อ.ก.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้งแล้วแล้วแต่กรณี พิจาย้ายเป็นรายสถานศึกษา ตามตำแหน่งว่างที่ประกาศในระบบ TRS โดยพิจารณาผู้ที่ได้คะแนนและอันดับที่บที่ดีที่สุดในกลุ่มสาขา หรือทาง หรือสาข ขาในสถานศัทษานั้น และต้องคำนึงถึงลำดับสถานศึกษาที่ผู้ขอย้ายแสดงความประสงค์ขอย้ายด้วย หาก อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา
หรือ อ.ก.ค.ศ. สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ หรือ อ.ก.ค.ศ. ที่ก.ศ.ศ. แล้วแต่กรณีมีความเห็นจากการประมวลผลของระบบ TRS ต้องระบุเหตุผลให้ชัดเจน

6.4.2 กรณีสถานศึกษาใดมีตำแหน่งว่างที่เกิดขึ้นภายหลัง เนื่องจากมีข้าราชการครูได้รับการพิจารณาให้ย้ายออก และผู้อำนวยการสถานศึกษานั้นได้ระบไว้ในระบบ TRS แล้วว่าต้องการข้าราชการครู กลุ่มสาขา หรือทาง หรือสาชาวิชาใดมาทดแทน ระบบจะประมวลผลการย้ายในสถานศึกษานั้น เพื่อใช้ในการรับย้ายต่อเนื่อง หรือรับย้ายในรอบต่อไป สำหรับการย้ายในครั้งนั้น ๆ

6.4.3 เมื่อผู้ขอย้ายได้รับอนุมัติให้ย้ายแล้ว หากได้ยื่นคำร้องขอย้ายกรณีอื่นไว้ด้วยระบบ TRS จะระงับคำร้องขอย้ายกรณีอื่น ๆ โดยอัตโนมัติ เมื่อพิจารณาย้ายเสร็จสิ้นแล้ว ให้บันทึกมติ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา หรือ อ.ก.ศ.ศ. สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ หรือ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ ตั้ง แล้วแต่กรณี ในระบบ TRS ด้วย ทั้งนี้ ระบบจะแสดงรายงานผลการอนุมัติหรือไม่อนุมัติรับย้าย และแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้ขอย้ายทราบทางอีเมลต่อไป

7. การย้ายสับเปลี่ยน

7.1 การดำเนินการของข้าราชการครูผู้ขอย้ายสับเปลี่ยน ให้ดำเนินการ ดังนี้

7.1.1 เมื่อผู้ขอย้ายลับเปลี่ยน ลงทะเบียนเข้าใช้งานและบันทึกข้อมูลคำร้องขอย้ายสับเปลี่ยน ถูกต้อง ครบถ้วนสมบูรณ์ พร้อมทั้งแนบไฟล์เอกสารหลักฐานตามที่กำหนดไว้ในระบบ TRS ในรูปแบบไฟล์ PDF เรียบร้อยแล้ว ระบบจะแสดงรายชื่อสถานศึกษาของผู้ขอย้ายสับเปลี่ยน เพื่อให้ผู้ขอย้ายสับเปลี่ยนด้วยกัน สามารถจับคู่ย้ายสับเปลี่ยนผ่านระบบ TRS ได้ โดยผู้ขอย้ายสับเปลี่ยนจะมีสาขาวิชาที่ได้รับการบรรจุและแต่งตั้ง หรือสาขาวิชาที่ผ่านการประเมินวิทยฐานะ ที่ตรงกันหรือไม่ตรงกันก็ได้ ทั้งนี้ ให้จับคู่ย้ายสับเปลี่ยนได้ครั้งละ 1 คน

7.1.2 เมื่อผู้ขอย้ายสับเปลี่ยนได้เลือกจับคู่ย้ายสับเปลี่ยนในระบบ TRS และได้รับการตอบรับจากคู่ย้ายสับเปลี่ยนแล้ว ให้บันทึกยืนยันยันการจับคู่ผ่านระบบ TRS แต่หากไม่ได้รับการตอบรับจากคู่ย้ายสับเปลี่ยนภายในระยะเวลา 3 วัน ระบบ TRS จะยกเลิกการขอจับคู่ย้ายสับเปลี่ยนโดยอัตโนมัติ ทั้งนี้ ผู้ขอย้ายสับเปลี่ยนสามารถปฏิเสธการจับคู่ย้ายสับเปลี่ยนได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องรอให้ครบระยะเวลา 3 วัน เพื่อให้สามารถเลือกจับคู่ย้ายสับเปลี่ยนใหม่ได้

7.1.3 หลังจากยื่นคำร้องขอย้ายสับเปลี่ยนแล้ว สามารถติดตามสถานะการดำเนินการคำร้องขอย้ายสับเปลี่ยนผ่านระบบ TRS ได้

7.1.4 หากสถานศึกษาต้นสังกัดของผู้ขอย้ายสับเปลี่ยนมีอัตรากำลังสายงานการสอบในภาพรวมเกินเกณฑ์อัตรากำลังที่ ก.ค.ศ. กำหนด จะไม่สามารถยื่นคำร้องขอย้ายสับเปลี่ยนในระบบ TRS ได้

7.1.5 กรณีที่ข้าราชการครูผู้ขอย้ายสับเปลี่ยนต้องการแก้ไขข้อมูลในคำร้องขอย้ายสับเปลี่ยนที่ได้บันทึกยืนยันข้อมูลในระบบ TRS เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ให้ยกเลิกคำร้องขอย้ายสับเปลี่ยนดังกล่าวก่อนแล้ว จึงยื่นคำร้องขอย้ายสับเปลี่ยนใหม่ผ่านระบบ TRS หรือหากต้องการยกเลิกคำร้องขอย้ายไม่ว่ากรณ์ได ๆ ให้ดำเนินการยกเลิกผ่านระบบ TRS ไม่หลังวันสุดท้ายที่กำหนดให้ยื่นคำร้องขอย้ายในแต่ละครั้ง

7.2 การดำเนินการของผู้อำนวยการสถานศึกษา

เมื่อผู้ขอย้ายสับเปลี่ยนได้รับการตอบรับจากคู่ย้ายสับเปลี่ยนแล้ว ให้ผู้อำนวยการสถานศึกษาของผู้ขอย้ายสับเปลี่ยน ดำเนินการตามข้อ 6.2.2.2.1 และข้อ 6.2.2.3 

7.3 การดำเนินการกรณีคำร้องขอย้ายสับเปลี่ยนภายในสำนักงานเขตพื้นที่เดียวกัน หรือสำนักบริหารการศึกษาพิเศษ หรือส่วนราชการอื่น แล้วแต่กรณี

7.3.1 เจ้าหน้าที่ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ หรือส่วนราชการอื่น แล้วแต่กรณี ที่ได้รับมอบหมาย ตรวจสอบเอกสารและหลักฐานของผู้ขอย้ายสับเปลี่ยนในระบบ TRS ให้ถูกต้อง ครบถ้วน เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายฯ ว 6/2567 หากพบว่ามีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายฯ ว 6/2567 หรือเป็นกรณีที่ต้องยุติคำร้องขอย้าย เนื่องจากผู้ขอย้ายได้เปลี่ยนตำแหน่ง โอน ลาออก เสียชีวิต หรือกรณีอื่นที่ไม่สามารถพิจารณาคำร้องขอย้ายต่อไปได้ ให้ระบุเหตุผลในระบบ TRS ให้ชัดเจนด้วย

7.3.2 ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหรือผู้อำนวยการสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ หรือหัวหน้าส่วนราชการอื่น แล้วแต่กรณี พิจารณาให้ความเห็นว่า เห็นควรหรือไม่เห็นควรให้ย้ายผ่านระบบ TRS เพื่อเสนอ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา หรือ อ.ก.ค.ศ. สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ หรือ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้ง แล้วแต่กรณี พิจารณา

7.4 การดำเนินการกรณีคำร้องขอย้ายสับเปลี่ยนต่างสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือกรณีคำร้องขอย้ายสับเปลี่ยนระหว่างสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากับสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ

7.4.1 เจ้าหน้าที่ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษต้นทาง แล้วแต่กรณี ที่ได้รับมอบหมาย ดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติและเอกสารหลักฐานของผู้ขอย้ายในระบบ TRS ให้ถูกต้อง ครบถ้วน เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายฯ ว 6/2567 หากพบว่ามีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายฯ ว 6/2567 หรือเป็นกรณีที่ต้องยุติคำร้องขอย้าย เนื่องจากผู้ขอย้ายได้เปลี่ยนตำแหน่ง โอน ลาออก เสียชีวิต หรือกรณีอื่นที่ไม่สามารถพิจารณาคำร้องขอย้ายต่อไปได้ ให้ระบุเหตุผลในระบบ TRS ให้ชัดเจนด้วย

7.4.2 ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือผู้อำนวยการสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ต้นทาง แล้วแต่กรณี พิจารณาให้ความเห็นว่า เห็นควรหรือไม่เห็นควรให้ย้ายผ่านระบบ TRS เพื่อเสนอ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา หรือ อ.ก.ค.ศ. สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ หรือ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้ง แล้วแต่กรณี พิจารณาส่งคำร้องขอย้ายสับเปลี่ยนไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ปลายทาง ผ่านระบบ TRS ต่อไป

7.4.3 เจ้าหน้าที่ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษปลายทาง แล้วแต่กรณี ที่ได้รับมอบหมาย ดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติและเอกสารหลักฐานของผู้ขอย้ายสับเปลี่ยนในระบบ TRS ให้ถูกต้อง ครบถ้วน เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายฯ ว 6/2567 อีกครั้ง

7.4.4 ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือผู้อำนวยการสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ แล้วแต่กรณี พิจารณาให้ความเห็นในเบื้องต้นว่าเห็นควรหรือไม่เห็นควรรับย้ายผ่านระบบ TRS เพื่อเสนอ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา หรือ อ.ก.ค.ศ. สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ หรือ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้ง แล้วแต่กรณี พิจารณา

7.5 การพิจารณาย้ายสับเปลี่ยน

7.5.1 ให้ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา หรือ อ.ก.ค.ศ. สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ หรือ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้ง แล้วแต่กรณี พิจารณาจาก กลุ่มวิชา หรือทาง หรือสาขาวิชาเอก ที่ได้รับการบรรจุและแต่งตั้ง หรือรายวิชา หรือวิชา หรือสาขา หรือกลุ่มสาระการเรียนรู้ ที่ผ่านการประเมินวิทยฐานะตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ที่ ก.ค.ศ. กำหนด รวมทั้งภูมิลำเนาของผู้ขอย้ายด้วยหาก อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา หรือ อ.ก.ค.ศ. สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ หรือ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้ง แล้วแต่กรณี มีมติไม่อนุมัติ ต้องระบุเหตุผลให้ชัดเจน

7.5.2 เมื่อผู้ขอย้ายได้รับอนุมัติให้ย้ายแล้ว หากได้ยื่นคำร้องขอย้ายกรณีอื่นไว้ด้วยระบบ TRS จะระงับคำร้องขอย้ายกรณีอื่น ๆ โดยอัตโนมัติ เมื่อพิจารณาย้ายเสร็จสิ้นแล้ว ให้บันทึกมติ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา หรือ อ.ก.ค.ศ. สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ หรือ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้ง แล้วแต่กรณี ในระบบ TRS ด้วย ทั้งนี้ ระบบ TRS จะแสดงรายงานผลการอนุมัติหรือไม่อนุมัติรับย้าย และแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้ขอย้ายทราบทางอีเมลต่อไป

8. การย้ายกรณีพิเศษ

8.1 การดำเนินการของข้าราชการครูผู้ขอย้าย ให้ดำเนินการ ดังนี้

8.1.1 เมื่อผู้ขอย้ายลงทะเบียนเข้าใช้งานแล้ว ให้บันทึกข้อมูลคำร้องขอย้ายให้ถูกต้อง ครบถ้วนสมบูรณ์ และให้ระบุสถานที่ที่สถานศึกษาที่ประสงค์ขอย้ายไปดำรงตำแหน่งว่าง หรือสถานศึกษาที่คาดว่าจะว่าง พร้อมทั้งแนบไฟล์เอกสารหลักฐานตามที่กำหนดไว้ในระบบ TRS ในรูปแบบไฟล์ PDF

8.1.2 กรณีที่ข้าราชการครูผู้ขอย้ายต้องการแก้ไขข้อมูลในคำร้องขอย้ายที่ได้บันทึกยื่นข้อมูลในระบบ TRS เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ให้ยกเลิกคำร้องขอย้ายดังกล่าวก่อน แล้วจึงยื่นคำร้องขอย้ายใหม่ผ่านระบบ TRS หรือหากต้องการยกเลิกคำร้องขอย้ายไม่ว่ากรณีใด ๆ ให้ดำเนินการยกเลิกผ่านระบบ TRS

8.2 การดำเนินการของผู้อำนวยการสถานศึกษาของผู้ขอย้าย ให้ดำเนินการ ดังนี้

8.2.1 กรณีสถานศึกษามีข้าราชการครูขอย้ายออก ให้ดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติและเอกสารหลักฐานของผู้ขอย้ายในระบบ TRS ดังนี้

8.2.1.1 กรณีผู้ขอย้ายมีคุณสมบัติเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายฯ ว 6/2567 และเอกสารหลักฐานถูกต้อง ครบถ้วน ให้ขอความเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษา พร้อมแนบความเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษา ซึ่งปรากฏในรายงานการประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาในรูปแบบไฟล์ PDF (ยกเว้นสังกัดกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ไม่ต้องขอความเห็นคณะกรรมการสถานศึกษา) แล้วจึงให้ความเห็นว่า เห็นควรหรือไม่เห็นควรให้ย้าย และส่งผ่านข้อมูลไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ หรือสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา หรือสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัด/กรุงเทพมหานคร แล้วแต่กรณี ผ่านระบบ TRS สำหรับสถานศึกษาที่ขึ้นตรง สังกัดกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ให้ส่งผ่านข้อมูลไปยังกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ผ่านระบบ TRS ต่อไป

8.2.1.2 กรณีผู้ขอย้ายมีคุณสมบัติเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายฯ ว 6/2567 แต่เอกสารหลักฐานไม่ถูกต้อง หรือไม่ครบถ้วน ให้ผู้อำนวยการสถานศึกษาส่งคืนคำร้องขอย้ายให้ผู้ขอย้ายตรวจสอบและแนบเอกสารหลักฐานที่ถูกต้อง ครบถ้วน ผ่านระบบ TRS แล้วจึงดำเนินการตามข้อ 8.2.1.1

8.2.1.3 กรณีผู้ขอย้ายมีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายฯ ว 6/2567 ให้ผู้อำนวยการสถานศึกษาส่งคืนคำร้องขอย้ายผ่านระบบ TRS และคำร้องขอย้ายดังกล่าวถือเป็นอันสิ้นสุด

8.2.1.4 กรณีผู้ขอย้ายได้เปลี่ยนตำแหน่ง โอน ลาออก เสียชีวิต หรือกรณีอื่นที่ไม่สามารถพิจารณาคำร้องขอย้ายต่อไปได้ ให้ผู้อำนวยการสถานศึกษายุติคำร้องขอย้ายดังกล่าวผ่านระบบ TRS

8.2.2 กรณีสถานศึกษามีข้าราชการครูขอย้ายเข้า

ให้ดำเนินการขอความเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษา พร้อมแนบความเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษา ซึ่งปรากฏในรายงานการประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาในรูปแบบไฟล์ PDF และส่งผ่านข้อมูลไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ หรือสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา แล้วแต่กรณี ผ่านระบบ TRS

ทั้งนี้ เมื่อดำเนินการตามข้อ 8.2.1.1 แล้ว ให้ส่งผ่านข้อมูลไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ หรือส่วนราชการอื่น แล้วแต่กรณี เพื่อดำเนินการย้ายตามหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายฯ ว 6/2567

8.3 การพิจารณาย้ายกรณีพิเศษ

8.3.1 ให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ หรือส่วนราชการอื่น แล้วแต่กรณี นำคำร้องขอย้ายกรณีพิเศษ เสนอคณะกรรมการกลั่นกรองการย้าย เพื่อพิจารณากลั่นกรองก่อนเสนอ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา หรือ อ.ก.ค.ศ. สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ หรือ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้ง แล้วแต่กรณี พิจารณาย้ายให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายฯ ว 6/2567 ต่อไป

8.3.2 เมื่อผู้ขอย้ายได้รับอนุมัติให้ย้ายแล้ว หากได้ยื่นคำร้องขอย้ายกรณีอื่นไว้ด้วยระบบ TRS จะระงับคำร้องขอย้ายกรณีอื่น ๆ โดยอัตโนมัติ เมื่อพิจารณาย้ายเสร็จสิ้นแล้ว ให้บันทึกมติ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา หรือ อ.ก.ค.ศ. สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ หรือ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้ง แล้วแต่กรณี ในระบบ TRS ทั้งนี้ ระบบจะแสดงรายงานผลการอนุมัติหรือไม่อนุมัติรับย้าย และแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้ขอย้ายทราบทางอีเมลต่อไป

9. การย้ายกรณีเพื่อประโยชน์ของทางราชการ

9.1 ให้ดำเนินการเช่นเดียวกับการย้ายกรณีพิเศษ ทั้งนี้ การย้ายเพื่อประโยชน์ของทางราชการให้อยู่ในดุลยพินิจของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ หรือส่วนราชการอื่น แล้วแต่กรณี ที่จะพิจารณานำเสนอคณะกรรมการกลั่นกรองการย้าย เพื่อพิจารณากลั่นกรองก่อนเสนอ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา หรือ อ.ก.ค.ศ. สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ หรือ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้ง แล้วแต่กรณี พิจารณา โดยอาจพิจารณาจากคำร้องขอย้ายหรือไม่ก็ได้

9.2 เมื่อผู้ขอย้ายได้รับอนุมัติให้ย้ายแล้ว หากได้ยื่นคำร้องขอย้ายกรณีอื่นไว้ด้วยระบบ TRS จะระงับคำร้องขอย้ายกรณีอื่น ๆ โดยอัตโนมัติ เมื่อพิจารณาย้ายเสร็จสิ้นแล้ว ให้บันทึกมติ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา หรือ อ.ก.ค.ศ. สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ หรือ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้ง แล้วแต่กรณี ในระบบ TRS ทั้งนี้ ระบบจะแสดงรายงานผลการอนุมัติหรือไม่อนุมัติรับย้าย และแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้ขอย้ายทราบทางอีเมลต่อไป

 

การดำเนินการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ตามแนวปฏิบัตินี้ให้เป็นไปตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี โดยยึดถือระบบคุณธรรม ความเสมอภาคระหว่างบุคคลและหลักการให้ได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน

กรณีที่ไม่สามารถดำเนินการตามแนวปฏิบัตินี้ได้ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามแนวปฏิบัตินี้ ให้เสนอ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา หรือ อ.ก.ค.ศ. สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ หรือ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้ง แล้วแต่กรณี พิจารณาก่อนเสนอให้ ก.ค.ศ. พิจารณาต่อไป

การย้ายกรณีพิเศษ

1. สำเนา ก.พ.7 หรือ ก.ค.ศ.16
2. สำเนาทะเบียนบ้านตนเอง/สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ที่จะไปดูแล
3. สำเนาใบสำคัญการสมรส
4. ใบรับรองแพทย์ของตนเอง/ใบรับรองแพทย์ผู้ที่จะไปดูแล แล้วแต่กรณี
5. บันทึกประจำวัน ตำรวจ/ฝ่ายปกครอง
6. ใบรับรองจากฝ่ายปกครองและหรือจากทายาทว่าเป็นผู้มีหน้าที่หลักต้องรับผิดชอบดูแล
7. เอกสารแสดงความยินยอมจากหน่วยงานที่ติดเงื่อนไข
8. คำสั่งย้ายหรือคำสั่งแต่งตั้งของคู่สมรส
เอกสารหลักฐานต่าง ๆ ให้เป็นไปตามแต่กรณี โดยกรณีผู้ขอย้ายเจ็บป่วยร้ายแรง และกรณีผู้ขอย้ายถูกคุกคามต่อชีวิตหากติดเงื่อนไขการบรรจุและแต่งตั้งต้องมีเอกสารแสดงความยินยอมจากหน่วยงานที่ติดเงื่อนไขด้วย

การย้ายกรณีเพื่อประโยชน์ของทางราชการ

1. สำเนา ก.พ.7 หรือ ก.ค.ศ.16
2. แบบรายงานอัตรากำลัง (อัตรากำลังสายงานการสอนภาพรวมในสถานศึกษาต้องไม่เกินเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ. กำหนด)

– การย้ายครั้งที่ 1 ใช้ข้อมูล ณ 10 พฤศจิกายน 2567
– การย้ายครั้งที่ 2 ใช้ข้อมูล ณ 10 มิถุนายน 2568

3. แบบรายงานมาตรฐานวิชาเอก (สำหรับสถานศึกษาสังกัด สพฐ. ต้องมีสาขาวิชาเอกไม่เกินเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ. กำหนด)
4. รางวัลที่ได้รับ หรือผลงานที่แสดงถึงความรู้ความสามารถ ภายในระยะเวลา 5 ปีย้อนหลัง นับถึงวันที่ยื่นคำขอ (ถ้ามี)
5. หนังสือสอบถามและหนังสือแสดงความสมัครใจของผู้ที่ประสงค์จะให้ย้าย

การย้ายเพื่อแก้ปัญหาในการบริหารจัดการสถานศึกษา ไม่ต้องใช้เอกสารข้อ 4 และ 5

 

Comments

comments

Powered by Facebook Comments

ติดต่อ ดร.อนุศร หงษ์ขุนทด
error: Content is protected !!