Digital Learning Classroom
การพัฒนาผู้เรียนบทความวิทยฐานะเชี่ยวชาญหลักการและแนวคิด

แนวทางการแปรมาตรฐานประสบการณ์วิชาชีพครูปฐมวัยสู่การปฏิบัติจริง

แชร์เรื่องนี้

แนวทางการแปรมาตรฐานประสบการณ์วิชาชีพครูปฐมวัยสู่การปฏิบัติจริง

ส่วนที่ 1: กรอบแนวคิดและโครงสร้างการปฏิบัติการสอน 1 ปี (Conceptual Framework and Structure of the 1-Year Practicum)

มาตรฐานประสบการณ์วิชาชีพครูปฐมวัยตามประกาศของคณะกรรมการคุรุสภา ได้กำหนดกรอบการพัฒนาผู้ประกอบวิชาชีพครูที่มุ่งเน้นการบูรณาการความรู้ทางทฤษฎีสู่การปฏิบัติงานจริงในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย หัวใจสำคัญของมาตรฐานนี้คือการกำหนดให้ผู้เข้ารับการฝึกประสบการณ์ต้อง “ผ่านการปฏิบัติการสอน…เป็นเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งปี” ข้อกำหนดนี้มิได้มีความหมายเพียงการฝึกทักษะการสอน (Teaching Practice) แต่เป็นการกำหนดสภาวะ “การฝังตัว” (Immersion) อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อให้นักศึกษาได้เปลี่ยนผ่านจากสถานะ “ผู้เรียนรู้” (Learner) ไปสู่การเป็น “ผู้ปฏิบัติงานเต็มเวลา” (Full-Time Practitioner) อย่างแท้จริง 1

1.1 การถอดรหัส “ประสบการณ์วิชาชีพ 1 ปี”: จากผู้เรียนรู้สู่ผู้ปฏิบัติงานเต็มเวลา

การปฏิบัติการสอนในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยเป็นเวลา 1 ปี ถูกออกแบบมาให้เป็น “การจำลองสภาวะ” (Full Simulation) ของการเป็นครูวิชาชีพอย่างสมบูรณ์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ามาตรฐาน “การปฏิบัติหน้าที่ครู” (สมรรถนะ 1.2.1) ไม่ได้หมายถึงการสอนเพียงอย่างเดียว แต่หมายถึงการบริหารจัดการและการพัฒนาวิชาชีพอย่างครบวงจร

ผู้เข้ารับการฝึกประสบการณ์มิได้มีหน้าที่เพียงการจัดกิจกรรม 6 กิจกรรมหลัก แต่ต้องรับผิดชอบภาระงานที่ซับซ้อนและหลากหลายเทียบเท่าครูประจำการ 3 ภาระงานเหล่านี้ได้รับการยืนยันในคู่มือการฝึกประสบการณ์ของสถาบันผลิตครูหลายแห่ง ซึ่งรวมถึง:

  1. การปฏิบัติการสอน (Teaching): การวางแผนการจัดประสบการณ์ (Lesson Planning) 3, การผลิตและใช้สื่อ 3, และการสอนตามตารางสอนที่ได้รับมอบหมาย
  2. งานธุรการในชั้นเรียน (Classroom Administration): การจัดทำเอกสารธุรการต่างๆ เช่น บัญชีเรียกชื่อ, สมุดรายงานประจำตัวนักเรียน, และระเบียนนักเรียน 3
  3. การวิจัยในชั้นเรียน (Classroom Action Research): การกำหนดให้นักศึกษาต้องจัดทำ “วิจัยในชั้นเรียน 1 เรื่อง” 2 ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการเชื่อมโยงทฤษฎีสู่การปฏิบัติ และเป็นเครื่องมือในการประเมินและพัฒนาผู้เรียนอย่างเป็นระบบ (สอดคล้องกับสมรรถนะ 1.2.2.5)
  4. การพัฒนาโครงการ (Project Development): การจัดทำ “โครงการพัฒนาผู้เรียน” 2 หรือโครงการที่ใช้ชุมชนเป็นฐาน 3 ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถในการวางแผนและการทำงานร่วมกับผู้อื่น

การที่มาตรฐานกำหนดให้ผู้เข้ารับการฝึกต้องปฏิบัติภารกิจที่หลากหลายเหล่านี้ (สอน, วิจัย, ธุรการ, โครงการ) แสดงให้เห็นเจตนารมณ์ที่ชัดเจนว่า การฝึกประสบการณ์ 1 ปี คือกระบวนการพิสูจน์ตนเองในทุกมิติของวิชาชีพครู โดยมี “การวิจัยเชิงปฏิบัติการ” (Action Research) เป็นหัวใจสำคัญในการหลอมรวมทฤษฎีและการปฏิบัติเข้าด้วยกัน

1.2 ระบบนิเวศการเรียนรู้: การวิเคราะห์ปฏิสัมพันธ์ 3 ฝ่าย

ความสำเร็จของการฝึกประสบการณ์ 1 ปี ไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวนักศึกษาเพียงลำพัง แต่ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของ “ระบบนิเวศการเรียนรู้” (The Learning Ecosystem) ซึ่งประกอบด้วยปฏิสัมพันธ์ของบุคลากร 3 ฝ่ายหลัก (Tripartite Relationship) การประเมินสมรรถนะของนักศึกษาจึงต้องพิจารณาผ่านพลวัตของความสัมพันธ์นี้

  • 1.2.1 นักศึกษาฝึกประสบการณ์ (The Intern): เป็นผู้ปฏิบัติงานหลัก (Primary Practitioner) ที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์จริง ต้องบูรณาการความรู้ที่เรียนมาทั้งหมดเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า 3 และต้องเป็นผู้แสดงออกซึ่งสมรรถนะ (Competency Demonstration) เพื่อรับการประเมิน
  • 1.2.2 ครูพี่เลี้ยง (The Mentor Teacher): เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญที่สุดในการพัฒนาระดับปฏิบัติการ ทำหน้าที่ “การให้คำแนะนำรายวัน” (Daily Coaching) 3 ครูพี่เลี้ยงคือผู้ที่ตรวจสอบแผนการสอน 3, สังเกตการสอน, ให้ข้อมูลป้อนกลับ (Feedback) และเป็นผู้ประเมินผลการปฏิบัติงานอย่างใกล้ชิดที่สุด 4
  • 1.2.3 อาจารย์นิเทศก์ (The University Supervisor): ทำหน้าที่เป็น “สะพาน” เชื่อมโยงทฤษฎีจากสถาบันผลิตครูสู่การปฏิบัติจริงในสถานศึกษา 2 อาจารย์นิเทศก์มีบทบาทในการให้คำปรึกษาเชิงวิชาการ, สนับสนุนการทำวิจัยในชั้นเรียน, และเป็นผู้ประเมินผลในภาพรวม (Summative Assessment) เพื่อให้มั่นใจว่านักศึกษาบรรลุมาตรฐานวิชาชีพ 2

การทำงานร่วมกันของทั้งสามฝ่ายนี้ (ดังแสดงในตารางที่ 1) คือกลไกสำคัญที่จะช่วยให้นักศึกษาสามารถพัฒนาตนเองจาก “ผู้ช่วยครู” ไปสู่การเป็น “ครูมืออาชีพ” ที่สมบูรณ์ได้

ตารางที่ 1: การวิเคราะห์บทบาทและความรับผิดชอบในระบบนิเวศการฝึกประสบการณ์ 1 ปี

ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียบทบาทหลักภาระงานและความรับผิดชอบ (อ้างอิง)เครื่องมือประเมินที่เกี่ยวข้อง (อ้างอิง)
นักศึกษาฝึกประสบการณ์ผู้ปฏิบัติงานหลัก (Practitioner) / ผู้รับการประเมิน– ปฏิบัติการสอนและงานครูที่ได้รับมอบหมาย 3
– จัดทำแผนการจัดประสบการณ์ 3
– จัดทำวิจัยในชั้นเรียน 1 เรื่อง 2
– จัดทำโครงการพัฒนาผู้เรียน 1 โครงการ 2
– ปฏิบัติงานธุรการในชั้นเรียน 3
– แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) 3
– รายงานการวิจัย 2
– แผนการจัดประสบการณ์ 5
ครูพี่เลี้ยงผู้ให้คำแนะนำรายวัน (Coach) / ผู้ประเมินหน้างาน– ปฐมนิเทศนักศึกษา 3
– ตรวจสอบแผนการสอนก่อนนำไปใช้ 3
– นิเทศการสอนและให้ข้อมูลป้อนกลับ 3
– แนะนำการปฏิบัติงานธุรการ 3
– ประเมินผลการปฏิบัติงานอย่างใกล้ชิด 4
– แบบประเมินการปฏิบัติการสอน (ฉบับครูพี่เลี้ยง) 4
– แบบประเมินแผนการสอน 5
– แบบสังเกตพฤติกรรมการสอน
อาจารย์นิเทศก์ผู้เชื่อมโยงทฤษฎีสู่การปฏิบัติ (Facilitator) / ผู้ประเมินภาพรวม– ปฐมนิเทศและชี้แจงภาระงาน 2
– ให้คำปรึกษาเชิงวิชาการ (โดยเฉพาะการวิจัย) 2
– ประสานงานกับผู้บริหารและครูพี่เลี้ยง 2
– นิเทศการสอนตามกำหนด [1]
– ประเมินผลและตัดสินการผ่านเกณฑ์ 2
– แบบประเมินการปฏิบัติการสอน (ฉบับอาจารย์นิเทศก์) 5
– แบบประเมินรายงานการวิจัย 2
– แบบประเมินแฟ้มสะสมผลงาน

1.3 กลไกการประเมินผล: การวัดสมรรถนะตามเกณฑ์คุรุสภา

การฝึกประสบการณ์ 1 ปี จะสิ้นสุดลงด้วยกระบวนการประเมินผลที่เข้มข้น ซึ่งมุ่งเน้นการประเมิน “พฤติกรรมที่แสดงออก” (Observed Behaviors) ไม่ใช่แค่การประเมิน “ความรู้” (Knowledge) 6

กลไกการประเมินนี้ใช้เครื่องมือที่เป็นรูปธรรม เช่น “แบบประเมินการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา” 5 ซึ่งออกแบบมาเพื่อวัดสมรรถนะตามมาตรฐานของคุรุสภาโดยตรง เมื่อวิเคราะห์แบบประเมินเหล่านี้ 5 จะพบว่ามีการเชื่อมโยงภาระงานเข้ากับมาตรฐานสมรรถนะอย่างชัดเจน ตัวอย่างเช่น:

  • กิจกรรมที่ประเมิน: “สามารถทําวิจัยในชั้นเรียนเพื่อพัฒนาผูเรียน” 5
  • เชื่อมโยงกับมาตรฐาน: สมรรถนะ 1.2.2.5 “สังเกต บันทึกและประเมินพัฒนาการของเด็กแต่ละคนอย่างรอบด้านและเป็นระบบ”

การเชื่อมโยงนี้แสดงให้เห็นว่า “การวิจัยในชั้นเรียน” ไม่ใช่ภาระงานที่แยกส่วน แต่เป็น “กระบวนการ” ที่นักศึกษาใช้เพื่อแสดงสมรรถนะในการ “ประเมินและพัฒนา” ผู้เรียนตามที่มาตรฐานกำหนดนั่นเอง

นอกจากนี้ เกณฑ์การประเมิน 4 ยังมุ่งเน้นการวัดความสม่ำเสมอของพฤติกรรม (เช่น ระดับ “มาก/ไม่เคยมีพฤติกรรมบกพร่อง”) ซึ่งตอกย้ำว่าการประเมินนี้ต้องการเห็น “การปฏิบัติตน” (สมรรถนะหมวด 2) ที่ฝังลึกเป็นนิสัย ควบคู่ไปกับ “การปฏิบัติงาน” (สมรรถนะหมวด 1)


ส่วนที่ 2: หมวดที่ 1 – การถอดรหัสสมรรถนะเชิงปฏิบัติการ (Category 1: Deconstructing Performance Competencies)

มาตรฐานหมวดที่ 1 (การปฏิบัติตามมาตรฐานการปฏิบัติงาน) คือหัวใจสำคัญของการฝึกประสบการณ์ 1 ปี แบ่งออกเป็น 3 ด้านหลัก ได้แก่ การปฏิบัติหน้าที่ครู, การจัดประสบการณ์การเรียนรู้, และความสัมพันธ์กับผู้ปกครองและชุมชน การวิเคราะห์นี้จะถอดรหัสสมรรถนะย่อยแต่ละข้อ (1.2.1, 1.2.2, และ 1.2.3) เพื่อแสดงแนวทางการนำไปปฏิบัติจริง

2.1 การปฏิบัติหน้าที่ครู (1.2.1): จาก “จิตวิญญาณ” สู่ “การปฏิบัติ”

สมรรถนะด้านการปฏิบัติหน้าที่ครู (1.2.1) ประกอบด้วย 8 ข้อย่อย ซึ่งได้ยกระดับบทบาทครูปฐมวัยจากการเป็น “ผู้จัดประสบการณ์” (Experience Organizer) ไปสู่การเป็น “ผู้ปฏิบัติการทางสุขภาวะและการเรียนรู้” (Health and Learning Practitioner) อย่างเต็มตัว

2.1.1 การพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ด้านความรู้ความสามารถ, จิตวิญญาณ, และคุณลักษณะที่ดี

  • แนวปฏิบัติ: การพัฒนาตนเองในบริบทนี้ ไม่ใช่แค่การเข้ารับการอบรม แต่คือการแสดงพฤติกรรมการเรียนรู้ตลอดเวลา นักศึกษาต้องแสดงความสามารถในการสร้าง “ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ” (Professional Learning Community: PLC) ภายในสถานศึกษา 7 โดยการ “ร่วมประชุม ปรึกษาหารือและแลกเปลี่ยนเรียนรู้” กับครูพี่เลี้ยงและเพื่อนครู เพื่อพัฒนาการจัดประสบการณ์ 8
  • จิตวิญญาณความเป็นครู (Teacher Spirituality): นี่ไม่ใช่คุณสมบัติเชิงนามธรรม แต่หมายถึง “ความตระหนักถึงหน้าที่…เพื่อพัฒนานักเรียนและวิชาชีพ” 9 การมีศรัทธาในวิชาชีพ และการมุ่งมั่นพัฒนาผู้เรียน 9 นักศึกษาแสดงสิ่งนี้ผ่านความมุ่งมั่นในการเตรียมการสอน, ความอดทนต่อเด็ก 9, และการปฏิบัติตนตามหลัก “ครองตน ครองคน ครองงาน” 8

2.1.2 สร้างสัมพันธภาพที่ดี รัก เมตตา เอื้ออาทร ปฏิบัติอย่างให้เกียรติ ไม่เลือกปฏิบัติ

  • แนวปฏิบัติ: สมรรถนะ “รัก เมตตา” ไม่ใช่แค่ความรู้สึก แต่เป็น “เทคนิค” ที่ปฏิบัติได้ นักศึกษาต้องแสดงความสามารถในการใช้ “วินัยเชิงบวก” (Positive Discipline) 10 ซึ่งเน้นการสร้างกติการ่วมกันและการให้เหตุผล แทนการดุว่าหรือลงโทษ
  • การสร้างความผูกพัน (Bonding) สามารถทำได้ผ่านโปรแกรมที่มีโครงสร้าง เช่น การใช้กิจกรรม “กอด เล่า เล่น เต้น วาด” เพื่อสร้างสัมพันธภาพและความไว้วางใจจากเด็ก 11 การ “ไม่เลือกปฏิบัติ” จะถูกประเมินอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะในการปฏิบัติต่อเด็กที่มีความต้องการพิเศษหรือมาจากบริบททางสังคมที่แตกต่าง

2.1.3 ใช้ความรู้ในการวางแผน พัฒนา และประเมิน… และในการประกันคุณภาพการศึกษา

  • แนวปฏิบัติ: นักศึกษาต้องแสดงความสามารถในการเชื่อมโยง “แผนการจัดประสบการณ์รายวัน” (Daily Plan) 12 ให้สอดคล้องกับ “หลักสูตรสถานศึกษา” 14 และเป้าหมายการประกันคุณภาพของโรงเรียน
  • นี่คือการพิสูจน์ว่านักศึกษาไม่ได้สอนไปวันๆ แต่เข้าใจภาพใหญ่ (Macro-level) ของการจัดการศึกษา และรู้ว่ากิจกรรมที่ตนจัดในวันนี้ ตอบสนองต่อมาตรฐานการประกันคุณภาพของสถานศึกษาอย่างไร

2.1.4 ทำงานเป็นทีม ร่วมมือกับครู เครือข่าย และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง

  • แนวปฏิบัติ: การทำงานเป็นทีมในที่นี้ หมายถึง การทำงานร่วมกับ “ครูพี่เลี้ยง” 3 ในการวางแผนและแก้ปัญหา, การประสานงานกับบุคลากรอื่นในโรงเรียน (เช่น แม่ครัว, นักการภารโรง) 7 เพื่อสนับสนุนการจัดประสบการณ์ และการทำงานร่วมกับ “สหวิชาชีพ” (ดังข้อ 2.1.7)

2.1.5 คุ้มครองสิทธิของเด็กปฐมวัยทุกคนให้อยู่รอดปลอดภัย… ปกป้องคุ้มครอง

  • แนวปฏิบัติ: นี่คือบทบาท “ผู้พิทักษ์” (Guardian) นักศึกษาต้องแสดงความรู้ความเข้าใจใน “บทบาทครูในการส่งเสริมพฤติกรรมความปลอดภัย” 15 ซึ่งรวมถึง:
  • การจัดสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย: ตรวจสอบเครื่องเล่นสนาม, ความปลอดภัยของสื่อในห้องเรียน 15
  • การดูแลและปกป้องคุ้มครอง: เฝ้าระวังอันตรายจากคนแปลกหน้า, การล่วงละเมิด, และภัยคุกคามทางเทคโนโลยี 15

2.1.6 ส่งเสริมสุขนิสัยที่ดี ดูแลโภชนาการ สุขอนามัย และดูแลความปลอดภัย

  • แนวปฏิบัติ: นักศึกษาต้องบูรณาการการส่งเสริมสุขภาวะเข้าไปในกิจวัตรประจำวัน 17 เช่น การล้างมือ, การรับประทานอาหาร, การแปรงฟัน และต้องสามารถออกแบบกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ (1 ใน 6 กิจกรรมหลัก) เพื่อส่งเสริมสุขภาพกายที่แข็งแรง 17

2.1.7 เฝ้าระวัง คัดกรองปัญหา… และให้ความช่วยเหลือในระยะแรกเริ่ม โดยทำงานร่วมกับผู้ปกครองและ/หรือสหวิชาชีพ

  • แนวปฏิบัติ: นี่คือสมรรถนะสำคัญที่ยกระดับครูปฐมวัยสู่การเป็น “ผู้ปฏิบัติการด่านแรก” (First-line Practitioner)
  1. การเฝ้าระวังและคัดกรอง (Surveillance and Screening): นักศึกษาต้องแสดงความสามารถในการใช้เครื่องมือคัดกรองที่เป็นมาตรฐาน ไม่ใช่แค่การสังเกตทั่วไป เครื่องมือสำคัญคือ “คู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย (DSPM)” 11 ซึ่งใช้ประเมินพัฒนาการ 5 ด้าน (GM, FM, RL, EL, PS) 18
  2. การให้ความช่วยเหลือระยะแรกเริ่ม (Early Intervention): เมื่อพบเด็กที่ “สงสัยล่าช้า” จากการใช้ DSPM นักศึกษาต้องรู้วิธีการกระตุ้นพัฒนาการเบื้องต้น 11
  3. การทำงานร่วมกับสหวิชาชีพ (Multidisciplinary Team): หากการกระตุ้นเบื้องต้นไม่ได้ผล นักศึกษาต้องรู้ “กระบวนการส่งต่อ” (Referral Process) 19 เพื่อทำงานร่วมกับ “สหวิชาชีพ” 20 เช่น นักจิตวิทยาคลินิก, จิตแพทย์, หรือนักกิจกรรมบำบัด 19
  • การที่นักศึกษาฝึกสอน 1 ปี ต้องแสดงความสามารถในการใช้เครื่องมือ DSPM และเข้าใจกระบวนการส่งต่อ 19 สะท้อนการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของวิชาชีพ ที่ครูไม่ได้ทำหน้าที่ “สอน” เพียงอย่างเดียว แต่ต้อง “คัดกรอง” และ “ประสานงาน” ด้านสุขภาวะด้วย

2.1.8 รู้เท่าทันและสามารถใช้สื่อดิจิทัล เทคโนโลยีทางการศึกษา ในการปฏิบัติหน้าที่

  • แนวปฏิบัติ: สมรรถนะนี้มีสองมิติที่นักศึกษาต้องแสดงออก:
  1. การใช้เทคโนโลยีเพื่อ “การปฏิบัติงาน” (Technology for Teaching): การใช้สื่อดิจิทัลเพื่อส่งเสริมพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน 21 เช่น การใช้แอปพลิเคชันเกมเต้นออกกำลังกาย (พัฒนาร่างกาย) 21, การใช้แอปวาดรูป (พัฒนาอารมณ์/กล้ามเนื้อมัดเล็ก) 21, หรือการใช้เทคโนโลยีช่วยในการประเมินพัฒนาการ 22
  2. การสอนเกี่ยวกับเทคโนโลยี (Teaching about Technology): การที่ครูต้อง “รู้เท่าทัน” (Digital Literacy) หมายถึง การเข้าใจผลกระทบของสื่อ (Video Deficit) 16, การสอนเด็กให้ตระหนักถึงความปลอดภัยทางไซเบอร์ 23, และการสร้าง “พลเมืองดิจิทัล” (Digital Citizenship) 24
  • นักศึกษาต้องแสดงวุฒิภาวะในการเลือกใช้สื่ออย่างเหมาะสมตามพัฒนาการ (Developmentally Appropriate Practice – DAP) 25 แม้ว่าในทางปฏิบัติจริง จากการวิจัย 26 พบว่าครูส่วนใหญ่ยังใช้เทคโนโลยีในการผลิตสื่อและนวัตกรรมอยู่ในระดับต่ำก็ตาม มาตรฐานนี้จึงผลักดันให้นักศึกษารุ่นใหม่ต้องมีความเชี่ยวชาญด้านนี้สูงขึ้น

2.2 การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ (1.2.2): การสร้างสถาปัตยกรรมการเรียนรู้

สมรรถนะด้านการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ (1.2.2) คือแกนหลักทางวิชาชีพ (Pedagogy) ของครูปฐมวัย “6 กิจกรรมหลัก” ไม่ใช่ 6 วิชที่แยกจากกัน แต่เป็น “สถาปัตยกรรม” (Architecture) ที่ครูใช้ในการบูรณาการปรัชญา (Play-Based Learning) และการประเมินผล (Authentic Assessment) ให้เป็นเนื้อเดียวกัน

2.2.1 ออกแบบ วางแผน การจัดประสบการณ์การเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ โดย บูรณาการการเรียนรู้ผ่านการเล่น

  • แนวปฏิบัติ: นักศึกษาต้องแสดงความสามารถในการนำปรัชญา “การเรียนรู้ผ่านการเล่น” (Play-Based Learning) 27 และ “การบูรณาการ” (Integration) 29 มาใช้เป็นแกนหลักในการออกแบบ “หน่วยการเรียนรู้” (Thematic Units)
  • หลักฐานเชิงประจักษ์คือ “แผนการจัดประสบการณ์” (Lesson Plan) 12 ที่แสดงให้เห็นการเชื่อมโยงระหว่างกิจกรรมการเล่นกับเป้าหมายพัฒนาการ 4 ด้านอย่างชัดเจน

2.2.2 จัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการ ที่สอดคล้องกับพัฒนาการตามวัย ความแตกต่างระหว่างบุคคล และความต้องการพิเศษ

  • แนวปฏิบัติ: การปฏิบัติการสอนในแต่ละวันของครูปฐมวัย จะถูกขับเคลื่อนด้วย “6 กิจกรรมหลัก” (The “6 Core Activities”) 27 นักศึกษาต้องแสดงให้เห็นว่าสามารถจัดกิจกรรมทั้ง 6 นี้ได้อย่างมีความหมาย เพื่อใช้เป็น “สนามเด็กเล่น” (Playground) และ “ห้องทดลอง” (Laboratory) ที่พวกเขาสามารถสังเกตและบันทึกพัฒนาการเด็กได้อย่างแนบเนียน
  • รายละเอียดของ 6 กิจกรรมหลัก มีดังนี้ 31:
  1. กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ: พัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่, การควบคุมร่างกาย, และการทำตามคำสั่ง 17
  2. กิจกรรมเสริมประสบการณ์: พัฒนาทักษะการคิด, ภาษา, สังคม และสติปัญญา ผ่านการสนทนา, อภิปราย, หรือทดลอง 17
  3. กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์: พัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก, การประสานสัมพันธ์มือ-ตา, จินตนาการ, และการแสดงออกทางอารมณ์ 17
  4. กิจกรรมการเล่นเสรี (มุมเล่น): พัฒนาทักษะสังคม, การตัดสินใจ, การแก้ปัญหา, และการรอคอย ผ่านการเล่นในมุมต่างๆ ที่จัดไว้ 13
  5. กิจกรรมกลางแจ้ง: พัฒนาร่างกาย, การสำรวจธรรมชาติ, และการเล่นอย่างอิสระ 31
  6. กิจกรรมเกมการศึกษา: พัฒนาการคิดเชิงตรรกะ, การสังเกต, การเปรียบเทียบ, และการจัดหมวดหมู่ 27

ตารางที่ 2: การแปร “6 กิจกรรมหลัก” สู่การปฏิบัติและการประเมินพัฒนาการ

6 กิจกรรมหลัก (จาก )คำนิยามและเป้าหมาย (จาก )ตัวอย่างการปฏิบัติจริง (จาก [13, 17, 28])พัฒนาการหลักที่ถูกประเมิน (จาก [32])เครื่องมือประเมินเด็ก (จาก [34, 35])
1. เคลื่อนไหวและจังหวะให้เด็กเคลื่อนไหวร่างกายตามจังหวะ ดนตรี หรือคำสั่ง– ครูเปิดเพลงบรรเลง ช้า-เร็ว สลับกัน 17
– ให้เด็กเคลื่อนไหวเป็นผู้นำ-ผู้ตาม 17
– ร่างกาย (กล้ามเนื้อมัดใหญ่, การทรงตัว) 17
– สังคม (การปฏิบัติตามกฎ, การเป็นผู้นำ)
– แบบสังเกตพฤติกรรม
– แบบสำรวจรายการ (Checklist) [35]
2. เสริมประสบการณ์จัดให้เด็กได้ฟัง พูด สังเกต คิด และทดลอง เพื่อสร้างองค์ความรู้– กิจกรรมวงกลม สนทนาเรื่อง “ครอบครัว” [12]
– ทดลองวิทยาศาสตร์ “จม-ลอย”
– อ่านนิทานและตั้งคำถาม [12]
– สติปัญญา (การใช้เหตุผล, การแก้ปัญหา) 17
– ภาษา (การฟัง, การพูด) [12]
– อารมณ์-จิตใจ
– แบบบันทึกพฤติกรรม (Anecdotal) 34
– การประเมินผลงาน
3. ศิลปะสร้างสรรค์งานศิลปศึกษา เช่น วาดภาพ, ปั้น, พิมพ์ภาพ, ฉีกปะ เพื่อการแสดงออก– กิจกรรมปั้นดินน้ำมันอิสระ
– การวาดภาพระบายสีตามจินตนาการ
– การประดิษฐ์เศษวัสดุ 31
– อารมณ์-จิตใจ (การแสดงออก, ความสุข) [17, 32]
– ร่างกาย (กล้ามเนื้อมัดเล็ก) [32]
– สติปัญญา (ความคิดสร้างสรรค์)
– แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio)
– แบบประเมินผลงาน (Rubric)
4. การเล่นเสรี (มุมเล่น)ให้เด็กเลือกเล่นกับสื่อใน “มุมการเล่น” (เช่น มุมบล็อก, มุมบ้าน) อย่างอิสระ– เด็ก 4 คน เล่นบทบาทสมมติในมุมบ้าน 13
– เด็ก 2 คน ต่อบล็อกไม้ในมุมบล็อก
– สังคม (การเล่นร่วมกัน, การแบ่งปัน) [12]
– อารมณ์ (การจัดการความขัดแย้ง)
– สติปัญญา (การตัดสินใจ)
– แบบบันทึกพฤติกรรม 34
– แบบสังเกตพฤติกรรมการเล่น
5. กิจกรรมกลางแจ้งให้เด็กออกนอกห้องเรียน สู่สนามเด็กเล่น เพื่อเล่นอย่างอิสระ– การเล่นเครื่องเล่นสนาม (ชิงช้า, สไลเดอร์)
– การเล่นทราย, เล่นน้ำ (ถ้ามี)
– การวิ่งไล่จับ 31
– ร่างกาย (กล้ามเนื้อมัดใหญ่, พลัง) [32]
– สังคม (การเล่นกับเพื่อน)
– อารมณ์ (การปลดปล่อย, ความสนุกสนาน)
– แบบสังเกตพฤติกรรม
– แบบสำรวจรายการ [35]
6. เกมการศึกษาเกมที่มีกติกา ช่วยพัฒนาสติปัญญา, การสังเกต, และการคิดรวบยอด– เกมจับคู่ภาพเหมือน/ภาพกับเงา 33
– เกมเรียงลำดับเหตุการณ์ 33
– เกมโดมิโน, ลอตโต [27]
– สติปัญญา (การสังเกต, การเปรียบเทียบ, การคิดรวบยอด) [27, 33]
– อารมณ์ (การรอคอย, การทำตามกติกา)
– การประเมินผลงาน (ความสำเร็จของเกม)
– แบบสังเกตพฤติกรรม

2.2.3 จัดสื่อ สภาพแวดล้อมทางกายภาพ และทางสังคม ทั้งในและนอกห้องเรียน

  • แนวปฏิบัติ: นักศึกษาต้องแสดงความสามารถในการจัด “มุมเล่น” (Learning Corners) 13 ที่สะอาด ปลอดภัย และ “ยั่วยุ” (Provoke) ให้เด็กเกิดความสนใจอยากเรียนรู้ สภาพแวดล้อมทางสังคมหมายถึงการสร้างบรรยากาศที่อบอุ่น, ปลอดภัยทางใจ, และยอมรับความแตกต่าง

2.2.4 จัดกิจกรรมและกิจวัตรประจำวัน ที่เสริมสร้างทักษะชีวิต ทักษะอารมณ์ สังคม (SEL)

  • แนวปฏิบัติ: นักศึกษาต้องแสดงให้เห็นว่า “กิจวัตรประจำวัน” (เช่น การรับประทานอาหาร, การเข้าห้องน้ำ, การเก็บของ) ไม่ใช่แค่การ “จัดการ” เด็ก แต่เป็น “โอกาสทอง” ในการสอนทักษะชีวิตและ SEL 17
  • ตัวอย่างเช่น: ระหว่างการรับประทานอาหาร 17 นักศึกษาสามารถบูรณาการการสอนเรื่องมารยาท (สังคม), การช่วยเหลือตนเอง (ทักษะชีวิต), และการขอบคุณ (อารมณ์)

2.2.5 สังเกต บันทึกและประเมินพัฒนาการของเด็กแต่ละคนอย่างรอบด้านและเป็นระบบ

  • แนวปฏิบัติ: นี่คือสมรรถนะที่เชื่อมโยงการปฏิบัติทั้งหมดเข้าด้วยกัน นักศึกษาต้องเปลี่ยนกระบวนทัศน์จาก “การทดสอบ” (Testing) ไปสู่ “การประเมินตามสภาพจริง” (Authentic Assessment) 36 ซึ่งเป็นการประเมินที่เกิดขึ้นระหว่างกิจกรรมประจำวัน โดยที่เด็กไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกประเมิน 36
  • นักศึกษาต้องแสดงความเชี่ยวชาญในการใช้ “5 ขั้นตอน” ในการประเมินอย่างเป็นระบบ 37:
  1. การวางแผนการประเมิน (สอดคล้องกับหลักสูตร)
  2. ประเมินให้ครบทุกด้าน (ร่างกาย, อารมณ์-จิตใจ, สังคม, สติปัญญา)
  3. ประเมินเป็นรายบุคคลอย่างสม่ำเสมอ
  4. ประเมินตามสภาพจริง (Authentic)
  5. (ขั้นตอนที่ 5 ที่อนุมานได้จาก 37 และ 33) คือ การนำผลไปใช้พัฒนาเด็กและรายงานผล
  • เครื่องมือเชิงคุณภาพ (Qualitative Tools): นักศึกษาต้องใช้เครื่องมือที่หลากหลาย 36 ไม่ใช่แค่แบบทดสอบ ได้แก่:
  • แบบบันทึกพฤติกรรม (Anecdotal Record): การจดบันทึกเหตุการณ์และพฤติกรรมที่สังเกตอย่างละเอียด (ใคร, ทำอะไร, ที่ไหน, เมื่อไหร่, อย่างไร) เพื่อใช้ทำความเข้าใจพฤติกรรมเชิงลึก 34
  • แบบสำรวจรายการ (Checklist): การตรวจสอบว่าเด็กแสดงพฤติกรรมตามมาตรฐานพัฒนาการหรือไม่ (ทำได้/ทำไม่ได้) 35
  • แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio): การรวบรวมหลักฐานการเรียนรู้ของเด็ก (เช่น ภาพวาด, ภาพถ่าย) เพื่อแสดงความก้าวหน้า

2.3 ความสัมพันธ์กับผู้ปกครองและชุมชน (1.2.3): การสร้างพันธมิตรทางการศึกษา

สมรรถนะด้านนี้ (1.2.3) มีความสำคัญอย่างยิ่ง และได้เปลี่ยนบทบาทของครูอย่างชัดเจน จากเดิมที่เป็น “ผู้ให้บริการ-ผู้รับบริการ” (Provider-Client) ไปสู่การเป็น “พันธมิตรทางการศึกษา” (Educational Partners)

2.3.1 ให้ความรู้ ความเข้าใจกับผู้ปกครอง เกี่ยวกับพัฒนาการและการเรียนรู้… ปัญหาและแนวทางแก้ปัญหา โดยใช้วิธีการสื่อสารเชิงบวก

  • แนวปฏิบัติ: นี่คือการยกระดับบทบาทจากการ “รายงานผล” (Reporting) สู่การเป็น “ที่ปรึกษาและโค้ช” (Consulting and Coaching)
  • นักศึกษาไม่ได้มีหน้าที่แค่ “แจ้ง” ผู้ปกครองว่า “วันนี้ลูกคุณ ก. ก้าวร้าว” แต่ต้องสามารถ “วิเคราะห์” (Analyze) พฤติกรรมนั้น และ “แนะนำ” (Recommend) แนวทางปฏิบัติเชิงบวกให้ผู้ปกครองนำกลับไปใช้ที่บ้าน
  • เทคนิคการสื่อสารเชิงบวก (Positive Communication): นักศึกษาต้องฝึกฝนการใช้ภาษาเชิงบวก 40 เช่น เปลี่ยนจาก “ลูกคุณไม่ยอมแบ่งของเล่น” เป็น “วันนี้เรากำลังฝึกเรื่องการรอคอยและการแบ่งปันค่ะ ที่บ้านคุณแม่สามารถช่วยฝึกได้โดย…” การสื่อสารลักษณะนี้จะสร้างบรรยากาศเชิงบวกและความร่วมมือ 41
  • นักศึกษาสามารถประยุกต์ใช้หลักการจากโปรแกรมที่มีโครงสร้าง เช่น “Triple-P” (Positive Parenting Program) 11 ซึ่งเน้นการพัฒนาทักษะการเลี้ยงดูของผู้ปกครองควบคู่ไปกับการพัฒนาเด็ก

2.3.2 สร้างระบบเครือข่ายความร่วมมือ ระหว่างโรงเรียน บ้าน ชุมชน และเครือข่ายสหวิชาชีพ

  • แนวปฏิบัติ: นักศึกษาต้องมีส่วนร่วมในการสร้างเครือข่าย “บ้าน-วัด/ชุมชน-โรงเรียน” 42 ไม่ใช่แค่การเชิญผู้ปกครองและชุมชนมาร่วมงานวันสำคัญของโรงเรียน 42 แต่คือการดึง “ภูมิปัญญาท้องถิ่น” หรือ “ทรัพยากรชุมชน” (เช่น ผู้ประกอบการในชุมชน, ผู้สูงอายุ) เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ 43
  • การสร้างเครือข่าย “สหวิชาชีพ” (ตามข้อ 2.1.7) ก็เป็นส่วนหนึ่งของสมรรถนะนี้ 20

2.3.3 ประสานความร่วมมือกับเพื่อนครู ผู้ปกครอง ชุมชน และเครือข่ายสหวิชาชีพ ให้มีส่วนร่วม

  • แนวปฏิบัติ: นักศึกษาต้องแสดงบทบาท “ผู้ประสานงาน” (Coordinator) 43 ในการจัดกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการวางแผนและส่งเสริมพัฒนาการเด็ก

2.3.4 ติดตามและประเมินผล การประสานความร่วมมือในการส่งเสริมพัฒนาการเด็ก

  • แนวปฏิบัติ: นักศึกษาจะใช้กลไก “การวิจัยในชั้นเรียน” 3 หรือ “โครงการพัฒนาผู้เรียน” 2 ที่ตนรับผิดชอบ เป็นเครื่องมือในการติดตามและประเมินผลว่า ความร่วมมือที่สร้างขึ้นกับผู้ปกครอง 3 นั้น ส่งผลดีต่อการพัฒนาของเด็กจริงหรือไม่ อย่างไร

ส่วนที่ 3: หมวดที่ 2 – การปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณของวิชาชีพ (Category 2: Adherence to the Code of Ethics)

มาตรฐานหมวดที่ 2 (การปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณ) ไม่ใช่ส่วนเสริม (Add-on) หรือข้อกำหนดนามธรรม แต่เป็น “ระบบปฏิบัติการ” (Operating System) ที่ทำให้สมรรถนะในหมวดที่ 1 ทั้งหมดสามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์ หากระบบปฏิบัติการนี้ล่ม (ขาดจรรยาบรรณ) สมรรถนะทั้งหมด (เช่น การสื่อสาร, การสร้างทีม) จะล้มเหลวทันที

การประเมินนักศึกษาตลอด 1 ปี จึงต้องประเมินจรรยาบรรณ 44 ควบคู่ไปกับทักษะการสอน 5 อย่างเข้มข้น เพราะจรรยาบรรณคือตัวกำหนด “คุณภาพ” ของสมรรถนะ

3.1 การวิเคราะห์ข้อบังคับคุรุสภา พ.ศ. 2556: จรรยาบรรณ 5 หมวดในบริบทปฐมวัย

ตามข้อกำหนด นักศึกษาต้องปฏิบัติตนตาม “ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. 2556” 45 ซึ่งประกอบด้วย 5 หมวดหลัก เมื่อนำมาตีความในบริบทปฐมวัย จะมีความหมายดังนี้:

  1. จรรยาบรรณต่อตนเอง: การมีวินัย, พัฒนาตนเองด้านเศรษฐกิจ สังคม และคุณธรรมจริยธรรม 48 (เช่น การแต่งกายสุภาพ, การตรงต่อเวลา)
  2. จรรยาบรรณต่อวิชาชีพ: รัก, ศรัทธา, และซื่อสัตย์สุจริตต่อวิชาชีพ 48 (เช่น ไม่ละทิ้งการสอน, ภาคภูมิใจในความเป็นครู)
  3. จรรยาบรรณต่อผู้รับบริการ (เด็กและผู้ปกครอง): รัก, เมตตา, ไม่เลือกปฏิบัติ 44, ไม่กระทำการอันเป็นการล่วงละเมิดทางเพศ 49, ไม่แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ (เช่น การสอนพิเศษเด็กในห้องตนเอง), และการรักษาความลับของเด็กและผู้ปกครอง
  4. จรรยาบรรณต่อผู้ร่วมประกอบวิชาชีพ: ช่วยเหลือเกื้อกูลกันอย่างสร้างสรรค์ 15, ยึดมั่นในระบบคุณธรรม, และสร้างความสามัคคี 46
  5. จรรยาบรรณต่อสังคม: เป็นผู้นำในการอนุรักษ์และพัฒนาภูมิปัญญา, สิ่งแวดล้อม, และยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตย 10

3.2 จรรยาบรรณในทางปฏิบัติ: การเชื่อมโยง “การปฏิบัติตน” (หมวด 2) สู่ “การปฏิบัติงาน” (หมวด 1)

จรรยาบรรณ (หมวด 2) เป็นรากฐานที่กำหนดคุณภาพของสมรรถนะ (หมวด 1) ดังแสดงในตารางเมทริกซ์ความเชื่อมโยงต่อไปนี้

ตารางที่ 3: การวิเคราะห์เมทริกซ์ความเชื่อมโยงระหว่างจรรยาบรรณ (หมวด 2) และสมรรถนะ (หมวด 1)

จรรยาบรรณ (หมวด 2) (อ้างอิง)สมรรถนะ (หมวด 1) ที่สัมพันธ์กัน (จากข้อกำหนด)สถานการณ์/กรณีศึกษาที่ท้าทาย (อ้างอิง)
3. ต่อผู้รับบริการ (เด็ก/ผู้ปกครอง)
– รัก เมตตา ไม่เลือกปฏิบัติ 44
– ไม่แสวงหาประโยชน์
– รักษาความลับ
1.2.1.2 สร้างสัมพันธภาพ… ไม่เลือกปฏิบัติ
1.2.1.5 คุ้มครองสิทธิเด็ก
1.2.3.1 สื่อสารเชิงบวกกับผู้ปกครอง
กรณีที่ 1: การจัดการความลำเอียง (Bias) 44
นักศึกษาอาจมีแนวโน้มที่จะให้ความสนใจเด็กที่น่ารัก หรือเด็กที่เรียนรู้เร็ว มากกว่าเด็กที่ซนหรือเด็กที่มีความต้องการพิเศษ การปฏิบัตินี้ขัดต่อจรรยาบรรณและทำให้สมรรถนะ 1.2.1.2 ล้มเหลว
4. ต่อผู้ร่วมประกอบวิชาชีพ
– ช่วยเหลือเกื้อกูล [46, 47]
– สร้างความสามัคคี 46
– ยึดมั่นในระบบคุณธรรม
1.2.1.4 ทำงานเป็นทีม
1.2.3.3 ประสานความร่วมมือกับเพื่อนครู
กรณีที่ 2: การพบเห็นการปฏิบัติที่ไม่เหมาะสม 49
นักศึกษาพบเห็นครูพี่เลี้ยงใช้คำพูดรุนแรง (Verbal Abuse) กับเด็ก นี่คือสถานการณ์การตัดสินใจเชิงจริยธรรม 50 ที่จรรยาบรรณต่อผู้รับบริการ (เด็ก) ขัดแย้งกับความเกรงใจต่อผู้ร่วมงาน (ครูพี่เลี้ยง) นักศึกษาที่ยึดมั่นในจรรยาบรรณต้องมี “กรอบการตัดสินใจ” (Ethical Framework) ที่ถูกต้อง โดยยึดประโยชน์ของเด็กเป็นที่ตั้ง 49
2. ต่อวิชาชีพ
– รัก ศรัทธา ซื่อสัตย์สุจริต 48
– รับผิดชอบต่อวิชาชีพ
1.2.1.1 พัฒนาตนเอง… จิตวิญญาณความเป็นครู
1.2.1.3 การวางแผน… ประกันคุณภาพ
กรณีที่ 3: การขัดกันแห่งผลประโยชน์
ผู้ปกครองเสนอให้ “ค่าขนม” เพิ่มเติม เพื่อให้นักศึกษาช่วย “ดูแลลูกตนเองเป็นพิเศษ” การรับผลประโยชน์นี้ขัดต่อจรรยาบรรณ และทำลายความน่าเชื่อถือ (Integrity) ของการประเมินพัฒนาการเด็ก (สมรรถนะ 1.2.2.5)
1. ต่อตนเอง
– มีวินัยในตนเอง 48
– ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี 44
1.2.1.1 คุณลักษณะที่ดีของความเป็นครู
1.2.1.6 ส่งเสริมสุขนิสัยที่ดี (เป็นแบบอย่าง)
กรณีที่ 4: การจัดการตนเอง
นักศึกษามาสาย, แต่งกายไม่สุภาพ, หรือใช้เวลาในห้องเรียนไปกับการใช้โทรศัพท์มือถือส่วนตัว พฤติกรรมนี้ขัดต่อจรรยาบรรณต่อตนเอง และทำลาย “แบบอย่างที่ดี” (Role Model) ที่ครูปฐมวัยพึงมี 44

3.3 สถานการณ์จำลองและกรณีศึกษา (Ethical Scenarios and Case Studies)

การประเมินจรรยาบรรณของนักศึกษาฝึกสอน 1 ปี ไม่สามารถทำได้ด้วยแบบทดสอบ แต่ต้องประเมินผ่าน “การตัดสินใจ” (Decision-Making) ในสถานการณ์จริงที่ท้าทาย 50

  • สถานการณ์: การรักษาความลับ (Confidentiality)
  • สถานการณ์: ผู้ปกครองของเด็กหญิง A มาถามนักศึกษาว่า “เมื่อเช้าเห็นเด็กชาย B กัดลูกชายครู บีเป็นอะไรหรือเปล่าคะ เห็นซนมากทุกวันเลย”
  • การปฏิบัติที่ผิดจรรยาบรรณ: “ใช่ค่ะ ซนมาก ครูพี่เลี้ยงก็ปวดหัวเหมือนกัน สงสัยที่บ้านมีปัญหา”
  • การปฏิบัติตามจรรยาบรรณ (เชื่อมโยง 1.2.3.1): “ขอบคุณที่เป็นห่วงเพื่อนนะคะ ตอนนี้ครูดูแลสถานการณ์เรียบร้อยแล้วค่ะ แต่ถ้าคุณแม่กังวลเรื่องพัฒนาการของน้อง A (ลูกตนเอง) ครูยินดีให้ข้อมูลค่ะ…” (นักศึกษาต้องรักษาความลับของเด็ก B [จรรยาบรรณ] ในขณะที่ยังคงสื่อสารเชิงบวกกับผู้ปกครอง A [สมรรถนะ])

สถานการณ์: การละเมิดสิทธิเด็ก (Child Abuse)

  • สถานการณ์: นักศึกษาพบว่าเด็กคนหนึ่งมีรอยฟกช้ำตามแขนขาบ่อยครั้ง และเด็กมีอาการหวาดกลัวเมื่อพูดถึงบ้าน
  • การปฏิบัติที่ผิดจรรยาบรรณ: เพิกเฉย (ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่) หรือซักถามเด็กต่อหน้าเพื่อน (ละเมิดสิทธิ)
  • การปฏิบัติตามจรรยาบรรณ (เชื่อมโยง 1.2.1.5): นักศึกษาต้องปฏิบัติตามหน้าที่ “คุ้มครองสิทธิเด็ก” โดยการบันทึกสิ่งที่สังเกตอย่างเป็นกลาง (Anecdotal Record) 34 และ “รายงาน” ครูพี่เลี้ยง หรือผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อเริ่มกระบวนการตรวจสอบและช่วยเหลือตาม พ.ร.บ. คุ้มครองเด็กฯ

การที่นักศึกษาสามารถวิเคราะห์และตัดสินใจในสถานการณ์เหล่านี้ได้อย่างถูกต้อง คือหลักฐานที่แท้จริงว่าได้บรรลุมาตรฐานประสบการณ์วิชาชีพทั้งหมวด 1 และหมวด 2


ส่วนที่ 4: บทสรุปเชิงบูรณาการ (Integrative Conclusion)

4.1 การสังเคราะห์องค์รวม: สู่ความเป็นครูปฐมวัยมืออาชีพ

การวิเคราะห์แนวทางและมาตรฐานประสบการณ์วิชาชีพครูปฐมวัยตลอด 1 ปี แสดงให้เห็นถึงการยกระดับ (Upgrading) บทบาทของครูปฐมวัยในศตวรรษที่ 21 อย่างชัดเจน การฝึกประสบการณ์ 1 ปีนี้ ไม่ใช่เพียงการฝึก “สอน” แต่เป็นกระบวนการ “หลอมรวม” (Integration) สมรรถนะที่ซับซ้อน

ผลการสังเคราะห์พบว่า มาตรฐานใหม่นี้ได้ผลักดันให้ครูปฐมวัย (และนักศึกษาฝึกสอน) ต้องเปลี่ยนบทบาทจากการเป็น “ผู้ให้ความบันเทิง” (Entertainer) หรือ “ผู้ดูแล” (Caregiver) ไปสู่การเป็น “ผู้ปฏิบัติการสหวิชาชีพ” (Multidisciplinary Practitioner)

ความเป็น “ผู้ปฏิบัติการสหวิชาชีพ” นี้ สังเคราะห์ได้จากการหลอมรวมสมรรถนะสำคัญ 3 ประการ:

  1. นักวินิจฉัยและคัดกรอง (The Diagnostician): มีความสามารถในการใช้เครื่องมือมาตรฐาน (เช่น DSPM) 18 เพื่อ “คัดกรอง” ปัญหาพัฒนาการเบื้องต้น (สมรรถนะ 1.2.1.7)
  2. นักออกแบบการเรียนรู้ (The Learning Architect): มีความสามารถในการ “จัด” ประสบการณ์ผ่าน “6 กิจกรรมหลัก” 31 และ “ประเมิน” พัฒนาการตามสภาพจริงผ่านเครื่องมือเชิงคุณภาพ (เช่น Anecdotal Records) 34 (สมรรถนะ 1.2.2)
  3. ที่ปรึกษาและพันธมิตร (The Consultant and Partner): มีความสามารถในการ “โค้ช” ผู้ปกครอง โดยใช้ “การสื่อสารเชิงบวก” 40 เพื่อร่วมกันหาแนวทางแก้ปัญหาพัฒนาการเด็ก (สมรรถนะ 1.2.3.1) และประสานงานกับ “สหวิชาชีพ” 19

โดยทั้งหมดนี้ ถูกกำกับด้วย “จรรยาบรรณวิชาชีพ” (หมวด 2) 47 ซึ่งทำหน้าที่เป็นระบบปฏิบัติการที่ควบคุมคุณภาพของการปฏิบัติงานทั้งหมด

4.2 ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย (Policy Recommendations)

เพื่อให้การแปรมาตรฐานประสบการณ์วิชาชีพ 1 ปีนี้ สู่การปฏิบัติจริง บรรลุผลสัมฤทธิ์สูงสุด จึงมีข้อเสนอแนะเชิงนโยบายต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้ง 3 ฝ่าย ดังนี้:

  1. สำหรับสถาบันผลิตครู (Teacher Education Institutions):
  • ปรับปรุงหลักสูตร: ต้องปรับหลักสูตรภาคทฤษฎีให้มีการฝึกปฏิบัติการ (Workshop) ที่เข้มข้นในสมรรถนะยุคใหม่ ได้แก่ การฝึกใช้เครื่องมือคัดกรองพัฒนาการ (DSPM) 18, การฝึกสถานการณ์จำลอง “การสื่อสารเชิงบวก” (Positive Communication) กับผู้ปกครอง 40, และการฝึกใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการประเมิน 22
  • ยกระดับอาจารย์นิเทศก์: อาจารย์นิเทศก์ต้องมีความเชี่ยวชาญในการให้คำแนะนำเรื่อง “การวิจัยในชั้นเรียน” (Action Research) 2 ไม่ใช่แค่การตรวจแผนการสอน
  1. สำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย (ครูพี่เลี้ยง):
  • สร้างวัฒนธรรม PLC: สถานศึกษาต้องสร้างวัฒนธรรม “ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ” (PLC) 7 ที่แท้จริง และปฏิบัติต่อนักศึกษาในฐานะ “ผู้ร่วมวิจัย” (Co-Researcher) 5 ไม่ใช่แค่ “ผู้ช่วยงาน” (Assistant) เพื่อให้นักศึกษามีโอกาสได้พัฒนาสมรรถนะการวิจัยและการแก้ปัญหาอย่างเต็มที่
  • พัฒนาครูพี่เลี้ยง: ครูพี่เลี้ยงต้องได้รับการอบรมเทคนิคการให้คำแนะนำ (Mentoring) และการประเมินสมรรถนะตามเกณฑ์ของคุรุสภา 4
  1. สำหรับคุรุสภา (The Teachers’ Council of Thailand):
  • ปรับปรุงแบบประเมิน: แบบประเมินการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา 5 ควรได้รับการทบทวนและปรับปรุง เพื่อให้สะท้อน “น้ำหนัก” (Weighting) ของสมรรถนะยุคใหม่ (การคัดกรอง 1.2.1.7, การใช้ดิจิทัล 1.2.1.8, และการให้คำปรึกษาผู้ปกครอง 1.2.3.1) ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เพื่อเป็นหลักประกันว่าผู้ที่ผ่านการประเมิน 1 ปี มีคุณสมบัติที่พร้อมสำหรับความท้าทายในปัจจุบันอย่างแท้จริง

Works cited

  1. ขั้นที่2 การปฏิบัติการสอนในโรงเรียน 1 (Teaching Practicum in – สาขาวิชาศึกษาศาสตร์, accessed November 5, 2025, https://edu.stou.ac.th/wp-content-wpwp/uploads/2025/03/20596-2-Childhood-2.pdf
  2. ฝ กประสบการณ วิชาชีพครู – หลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิต, accessed November 5, 2025, https://educ.su.ac.th/wp-content/uploads/2023/12/%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%9D%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%9E%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9-%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3-4-%E0%B8%9B.pdf
  3. Untitled – มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, accessed November 5, 2025, https://repository.dusit.ac.th/bitstreams/509bc112-19e4-4a44-8494-d0698236ab37/download
  4. Untitled – คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง, accessed November 5, 2025, https://edu.lpru.ac.th/g-559
  5. ๑ แบบประเมินการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา ตามม, accessed November 5, 2025, https://www.tnsumk.ac.th/reg/images/article/file/pvk_evaluation.pdf
  6. “คุรุสภา” แจงเกณฑ์ทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู66, accessed November 5, 2025, https://www.kroobannok.com/createpdf.php?article_id=90987
  7. 4.ภาคผนวก PLC.docx, accessed November 5, 2025, https://info.pyo1.go.th/news/index.php?action=dlattach;topic=1428.0;attach=1933
  8. บทที่ ๑ – ThaiJo, accessed November 5, 2025, https://so06.tci-thaijo.org/index.php/mcjou/article/download/261367/175809/989282
  9. บทที่5 จิตวิญญาณความเป็นครู – มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา, accessed November 5, 2025, https://ssru.ac.th/content-rank/7.pdf
  10. ผลของโปรแกรมเทคนิค 101s การสร้างวินัยเชิงบวกส า – ThaiJO, accessed November 5, 2025, https://he01.tci-thaijo.org/index.php/JHR/article/download/256189/174414/1010549
  11. และสร างวินัยเชิงบวก โดยครอบครัวมีส วนร วม Preschool Parenting Program: Triple-P – ศูนย์สุขภาพจิตที่ 3, accessed November 5, 2025, https://mhc3.dmh.go.th/file/info/%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%ADTriple%20-%20P%2031_05_2022.pdf
  12. แผนการจัดประสบการณ์ สัปดาห์ที่18 ชั้นอนุบาลปี – โรงเรียน, accessed November 5, 2025, https://web2.schoolmaster.in.th/super/modules/adviser/file_upload/57020123/1261/1261_12611696777323.pdf
  13. แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ระดับปฐมวัย, accessed November 5, 2025, https://www.huaypongsao.go.th/post/000000896-3e3569f4c3b86b488aa0d68e6ff02a8b.pdf
  14. แผนงานการจัดประสบการณ์การเรียนรู้, accessed November 5, 2025, http://ms.ac.th/doc/2565/performance/7/01-%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%99%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3/03-%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%9B%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%99%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C.pdf
  15. การศึกษาบทบาทครูในการส่งเสริมพฤติกรรมความปลอดภัยของเด็กวัยอนุบาลในโรงเรียนสังกัด – Chula Digital Collections, accessed November 5, 2025, https://digital.car.chula.ac.th/cgi/viewcontent.cgi?article=3854&context=chulaetd
  16. คำแนะนำสำหรับผู้ปกครองในการใช้สื่อ IT ในเด็กเล็ก, accessed November 5, 2025, https://www.nakornthon.com/article/detail/%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%B3%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%9B%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD-it-%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%81
  17. ชุดกิจกรรมการจัดประสบการณ์ – สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา, accessed November 5, 2025, http://academic.obec.go.th/web/images/media/1675829264_d_1.pdf
  18. คู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย(DSPM), accessed November 5, 2025, https://www.thaichilddevelopment.com/images/doc/%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%9D%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%90%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%A2(DSPM).pdf
  19. คู่มือการปฏิบัติงาน – สพป.สุราษฎร์ธานี เขต 2, accessed November 5, 2025, https://surat2.go.th/2021/files/com_agency/2025-06_26653c069a8579c.pdf
  20. การศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการความจำเป็นต – ThaiJO, accessed November 5, 2025, https://so03.tci-thaijo.org/index.php/journal-peace/article/download/282723/188523/1300163
  21. การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของครู – STOUIR at Sukhothai …, accessed November 5, 2025, https://ir.stou.ac.th/bitstream/123456789/4477/1/FULLTEXT.pdf
  22. ประสิทธิผลของโปรแกรมประเมินพัฒนาการเด็กปฐมวัย – บ ท วิ ท ย า ก า ร, accessed November 5, 2025, https://thaidj.org/index.php/tjha/article/view/15245/12087
  23. เด็กกับการรู้เท่าทันดิจิทัล – ThaiJo, accessed November 5, 2025, https://so06.tci-thaijo.org/index.php/jcosci/article/download/169372/121850/
  24. Digital Harmonizing Balance: ดิจิทัลสมดุลของเด็กยุคใหม่ – DEPA, accessed November 5, 2025, https://www.depa.or.th/en/article-view/digital-harmonizing-balance
  25. การนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้กับการจัดการศึกษาปฐมวัย – Wix.com, accessed November 5, 2025, https://newnutcharee2538.wixsite.com/nutcharee/week1
  26. O J E D – in Thai, accessed November 5, 2025, https://so01.tci-thaijo.org/index.php/OJED/article/download/40526/33446/
  27. การจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการ: 6 กิจกรรมหลักสำหรับเด็กปฐมวัย – Child Impact, accessed November 5, 2025, https://childimpact.co/learning/6activities-integrated-child
  28. Play-Based Learning การเรียนรู้ผ่านการเล่น – Code Genius, accessed November 5, 2025, https://codegeniusacademy.com/play-based-learning/
  29. การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ (Integrated Learning Management) – YouTube, accessed November 5, 2025, https://www.youtube.com/watch?v=oat2oSDjRcY
  30. การจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการ: 6 กิจกรรมหลักสำหรับเด็กปฐมวัย, accessed November 5, 2025, https://ecd.onec.go.th/knowledge/articles/3604/
  31. การจัดประสบการณ์โรงเรียนอนุบาลสามเสนฯ, accessed November 5, 2025, http://www.abss.ac.th/anubansamsen/6.2Experience-2.html
  32. กิจกรรมหลักที่สอดคล้องกับหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย – พุทธศักราช – Thai Education, accessed November 5, 2025, https://www.thaieducation.net/sarsystem/data4.php?s=58&f1=field29&f2=field30&f3=field31&f4=field32
  33. การจัดประสบการณ์ส าหรับเด็กปฐมวัย – ttb foundation, accessed November 5, 2025, https://www.ttbfoundation.org/images/knowledge-management/download_file/SDG04/%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%90%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%A2_2018.pdf
  34. บทที่ 6 การวัดพฤติกรรมด้านทักษะพิสัย, accessed November 5, 2025, https://ssrudlp.ssru.ac.th/data-file/teacher_work/file/656b5e8dcdd209af81d210f63793ec36.pdf
  35. ความต้องการจาเป็นในการพัฒนาสมรรถนะตามสายงา, accessed November 5, 2025, https://ir.stou.ac.th/bitstream/123456789/12041/1/FULLTEXT.pdf
  36. การวัดและประเมินผลพัฒนาการเด็กปฐมวัย – ครูเชียงราย, accessed November 5, 2025, https://www.kruchiangrai.net/2019/10/28/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%9B%E0%B8%90%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%A2/
  37. 5 ขั้นตอนการประเมินพัฒนาการปฐมวัย …ที่คุณครูอนุบาลต้องรู้! – รัฐกุล, accessed November 5, 2025, https://www.rathakun.com/%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%B2/
  38. รัฐกุล…พาดูแผนภาพการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรแกนกลาง, accessed November 5, 2025, https://www.rathakun.com/%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B9%8C-%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%81/
  39. การประเมินพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย – ห้องเรียนครูแมว, accessed November 5, 2025, http://www.nareumon.com/index.php?option=com_content&task=view&id=15&Itemid=46
  40. เคล็ดลับในการสื่อสารเชิงบวก – Child Impact, accessed November 5, 2025, https://childimpact.co/learning/positive-communication-house
  41. เทคนิคการสื่อสารกับผู้ปกครอง (Communication Skill), accessed November 5, 2025, https://th.rajanukul.go.th/_admin/file-download/D0000075.pdf
  42. งาน/โครงการ โครงการสายสัมพันธ์ บ้าน วัด โรงเรี – โรงเรียนวัดด่านสำโรง, accessed November 5, 2025, https://www.wds.ac.th/doc_file/toupi/01.pdf
  43. สมรรถนะครู, accessed November 5, 2025, https://www.jobok.go.th/file_upload/1671174748_1.%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9.pdf
  44. บุคลิกภาพ คุณลักษณะอันพึงประสงค์และบทบาทหน้าที่ครูปฐมวัย – elleschools – GotoKnow, accessed November 5, 2025, https://www.gotoknow.org/posts/541431
  45. ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. 2556 – ระบบสืบค้นกฎหมาย (E-LAW), accessed November 5, 2025, https://dla.wu.ac.th/elaw/2323/
  46. หน้า ๗๒ เล่ม ๑๓๐ ตอนพิเศษ ๑๓๐ ง ราชกิจจานุเบกษา ๔ ตุลาคม ๒๕๕๖ – ข้อบังคับคุรุสภา, accessed November 5, 2025, https://ops.moe.go.th/wp-content/uploads/2023/03/3.3.4%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%93-2556.pdf
  47. ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. ๒๕๕๖, accessed November 5, 2025, http://lpn.nfe.go.th/pranee/UserFiles/Pdf/A73886980.pdf
  48. จรรยาบรรณวิชาชีพครู ล่าสุด พ.ศ. 2556 – ครูเชียงราย, accessed November 5, 2025, https://www.kruchiangrai.net/2023/01/22/%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%9E%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9-2556/
  49. คำวินิจฉัยชี้ขาดของคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ กรณีผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ, accessed November 5, 2025, https://www.tsn.ac.th/web/wp-content/uploads/2023/07/34567/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%B5%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%89%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%8E%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A2_0001.pdf
  50. การพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมเด็กปฐมวัย : เริ่มต้น, accessed November 5, 2025, https://preschool.or.th/content/documents/moral-development-from-the-heart.pdf

Comments

comments

Powered by Facebook Comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

ติดต่อ ดร.อนุศร หงษ์ขุนทด
error: Content is protected !!