Digital Learning Classroom
การพัฒนาผู้เรียนวิทยฐานะเชี่ยวชาญวิทยฐานะเชี่ยวชาญหลักการและแนวคิด

แนวทางมาตรฐานการปฏิบัติงานสำหรับครูปฐมวัย (SOP Manual) ตามสมรรถนะหลัก ข้อ 6 (ก) ว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ครู

แชร์เรื่องนี้


แนวทางมาตรฐานการปฏิบัติงานสำหรับครูปฐมวัย (SOP Manual) ตามสมรรถนะหลัก ข้อ 6 (ก) ว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ครู

ดร.อนุศร หงษ์ขุนทด
ศึกษานิเทศก์ วิทยฐานะศึกษานิเทศก์เชี่ยวชาญ สพม.นครราชสีมา
Musicmankob@gmail.com 


__________________________________

บทนำ: การถอดรหัสมาตรฐานวิชาชีพสู่การปฏิบัติที่เป็นเลิศ

ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูปฐมวัย พ.ศ. 2568 ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของการยกระดับวิชาชีพครูปฐมวัยในประเทศไทย 1 โดยเป็นการแยกมาตรฐานวิชาชีพเฉพาะทางออกจากมาตรฐานวิชาชีพครูทั่วไป 3 สะท้อนถึงการตระหนักรู้ว่า การพัฒนาเด็กในช่วงปฐมวัยต้องการศาสตร์และศิลป์ขั้นสูงที่แตกต่างจากการศึกษาระดับอื่น

รายงานฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทำหน้าที่เป็น “คู่มือปฏิบัติการ” (Operational Manual) ในการแปลสมรรถนะเชิงนามธรรม 8 ประการ ภายใต้ข้อ 6 (ก) “การปฏิบัติหน้าที่ครู” 5 ให้กลายเป็นแนวทางมาตรฐานการปฏิบัติงาน (Standard Operating Procedures – SOPs) ที่ชัดเจน เป็นรูปธรรม และสามารถนำไปใช้ได้จริงในสถานศึกษา

การปฏิบัติงานของครูปฐมวัยมืออาชีพตั้งอยู่บนระบบนิเวศของเอกสารหลัก 3 ฉบับ:

  1. ข้อบังคับคุรุสภา (พ.ศ. 2568): ทำหน้าที่เป็น “มาตรฐานวิชาชีพ” ที่กำหนดว่าครูต้องมีสมรรถนะอะไร
  2. หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พ.ศ. 2568: ทำหน้าที่เป็น “คัมภีร์ด้านเนื้อหา” (What to teach) ที่กำหนดปรัชญา จุดหมาย และสาระการเรียนรู้ที่เด็กควรได้รับ 6
  3. แนวปฏิบัติที่เหมาะสมตามพัฒนาการ (Developmentally Appropriate Practice – DAP): ทำหน้าที่เป็น “กลยุทธ์หลักด้านการสอน” (How to teach) โดยเน้น 3 องค์ประกอบสำคัญ ได้แก่ ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับพัฒนาการเด็ก (Commonality), ความแตกต่างระหว่างบุคคล (Individuality), และบริบททางสังคมและวัฒนธรรม (Context) 7

ประเด็นสำคัญของรายงานนี้คือ การเชื่อมโยงระหว่างสมรรถนะในข้อ 6 (ก) “การปฏิบัติหน้าที่ครู” และข้อ 6 (ข) “การจัดประสบการณ์การเรียนรู้” (ซึ่งมักหมายถึง 6 กิจกรรมหลัก) 10 สมรรถนะทั้งสองส่วนนี้มิได้แยกขาดจากกัน แต่มีความสัมพันธ์เชิงเหตุและผลอย่างลึกซึ้ง

สมรรถนะ 8 ประการในข้อ 6 (ก) คือ “สมรรถนะพื้นฐาน” (Enabling Competencies) ที่ครูต้องมีและปฏิบัติ เพื่อเตรียมความพร้อมของตนเองและสภาพแวดล้อมให้สมบูรณ์ ส่วนข้อ 6 (ข) คือ “สมรรถนะเชิงปฏิบัติการ” (Execution Competencies) ที่ครูใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 6 กิจกรรมหลัก 10 ครูไม่สามารถจัด “6 กิจกรรมหลัก” (ข้อ 6(ข)) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากขาดซึ่งรากฐาน 8 ประการของข้อ 6(ก)

ดังนั้น แนวทางมาตรฐานการปฏิบัติงาน (SOPs) ทั้ง 8 ประการต่อไปนี้ จึงเป็นรากฐานที่สำคัญที่สุดในการปฏิบัติงานวิชาชีพครูปฐมวัย


ส่วนที่ 1: การพัฒนาและคุณลักษณะที่ดี (สมรรถนะ 1.2.1.1)

มาตรฐานสมรรถนะ: ครูต้อง พัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ด้านความรู้ความสามารถเกี่ยวกับการพัฒนาเด็กปฐมวัย, จิตวิญญาณ, และคุณลักษณะที่ดีของความเป็นครูปฐมวัย

การตีความ

สมรรถนะนี้คือการบูรณาการ 3 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ (1) ความรู้ (Knowledge) ที่ทันสมัย, (2) จิตวิญญาณ (Spirituality) หรือความตระหนักรู้จากภายใน, และ (3) การปฏิบัติ (Practice) ที่สะท้อนคุณลักษณะที่ดีของครู

แนวปฏิบัติที่ 1.1: การพัฒนาความรู้ (Knowledge) อย่างต่อเนื่อง

ครูต้องแสวงหาความรู้ที่ทันสมัยและลึกซึ้งกว่าทฤษฎีพัฒนาการพื้นฐาน โดยต้องครอบคลุมถึงแนวคิดการจัดการเรียนรู้ใหม่ๆ เช่น การพัฒนาทักษะทางสมอง (Brain-based Learning) 11, สะเต็มศึกษา (STEM) สำหรับปฐมวัย 12, และการบูรณาการทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 13

SOP: การพัฒนาวิชาชีพผ่านชุมชนการเรียนรู้เชิงวิชาชีพ (PLC) ด้วยกระบวนการ Lesson Study

การพัฒนาตนเองที่มีประสิทธิภาพสูงสุดคือการพัฒนาผ่านการปฏิบัติงานร่วมกัน 15 กระบวนการ “การพัฒนาบทเรียนร่วมกัน” (Lesson Study) คือ SOP ที่เป็นรูปธรรมที่สุด 15

  1. ขั้นที่ 1: วางแผน (Plan): ทีมครูในสายชั้น (เช่น อนุบาล 1) ร่วมกันออกแบบ “แผนการจัดประสบการณ์” (ดูรายละเอียดในส่วนที่ 3) โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาเด็กในประเด็นที่ท้าทาย
  2. ขั้นที่ 2: สอนและสังเกต (Teach & Observe): ครู 1 คน นำแผนไปใช้สอนจริง ทีมครูที่เหลือทำหน้าที่ “สังเกตการเรียนรู้ของเด็ก” (Observe children’s responses) โดยเน้นว่าเด็กตอบสนองต่อกิจกรรมอย่างไร (ไม่ใช่การจับผิดครูผู้สอน)
  3. ขั้นที่ 3: สะท้อนผล (Reflect): ทีมร่วมกันสะท้อนผลว่าแผนดังกล่าวส่งผลต่อเด็กอย่างไร จุดใดสำเร็จ จุดใดควรปรับปรุง เพื่อใช้ในการพัฒนาแผนสำหรับห้องต่อไปหรือในครั้งต่อไป 15

แนวปฏิบัติที่ 1.2: การบ่มเพาะ “จิตวิญญาณความเป็นครู” (Spirituality)

“จิตวิญญาณ” แตกต่างจาก “อุดมการณ์” 16 อุดมการณ์คือเป้าหมายร่วมที่กำหนดจากภายนอก แต่จิตวิญญาณคือ “ความตระหนักถึงหน้าที่” และ “การหยั่งรู้” ที่เกิดขึ้นจากภายใน 16 การพัฒนาจิตวิญญาณครูจึงไม่ใช่การท่องจำปรัชญา แต่คือการส่งเสริม “การสะท้อนคิด” (Reflective Practice)

SOP: การปฏิบัติเพื่อการสะท้อนคิด (Reflective Practice SOP)

  1. รายวัน (Daily Reflective Journal): สิ้นสุดการสอนในแต่ละวัน ครูใช้เวลา 5-10 นาที เขียนบันทึกสะท้อนคิดส่วนตัว (ไม่จำเป็นต้องส่งผู้บริหาร) โดยตอบคำถาม 3 ข้อ:
  • (1) สถานการณ์/ปฏิสัมพันธ์ที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นในวันนี้คืออะไร เพราะเหตุใด
  • (2) ความท้าทายที่สุดในการจัดการเรียนรู้หรือดูแลเด็กวันนี้คืออะไร
  • (3) หากย้อนกลับไปได้ จะปรับปรุงการกระทำของตนเองในสถานการณ์ท้าทายนั้น 1 สิ่งอย่างไร
  1. รายสัปดาห์ (Weekly PLC): ในการประชุม PLC (ตาม SOP 1.1) ให้นำประเด็นท้าทายที่พบจากการสะท้อนคิดรายวัน มาแลกเปลี่ยนเพื่อเปลี่ยนปัญหาส่วนบุคคลให้เป็นแนวทางปฏิบัติของทีม

แนวปฏิบัติที่ 1.3: การแสดงออกซึ่งคุณลักษณะที่ดี (Practice)

คุณลักษณะที่ดีของครูปฐมวัย (เช่น ความเป็นมิตร, การดูแลเอาใจใส่, ความอดทน) 16 คือผลลัพธ์ที่จับต้องได้ของจิตวิญญาณที่เข้มแข็ง การปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณวิชาชีพที่คุรุสภากำหนด 16 คือกรอบการปฏิบัติที่ชัดเจนที่สุดในการแสดงออกซึ่งคุณลักษณะเหล่านี้


ส่วนที่ 2: การสร้างสัมพันธภาพเชิงบวก (สมรรถนะ 1.2.1.2)

มาตรฐานสมรรถนะ: ครูต้อง สร้างสัมพันธภาพที่ดี รัก เมตตา และเอื้ออาทร ปฏิบัติอย่างให้เกียรติ ไม่เลือกปฏิบัติ เพื่อให้เกิด ความผูกพัน และความไว้วางใจจากเด็กปฐมวัย

การตีความ

สมรรถนะนี้คือหัวใจของการศึกษาปฐมวัย เป็นการเปลี่ยนกระบวนทัศน์จาก “การควบคุม” (Control) ไปสู่ “การเชื่อมโยง” (Connection) 18 เครื่องมือหลักในการปฏิบัติคือ “วินัยเชิงบวก” (Positive Discipline)

กรอบแนวคิดหลัก: วินัยเชิงบวก (Positive Discipline)

วินัยเชิงบวก ไม่ใช่การตามใจ แต่เป็นแนวทางที่ “ใจดีและหนักแน่น” (Kind and Firm) ในเวลาเดียวกัน 19 โดยมีหลักการคือ:

  • เคารพในคุณค่าและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของเด็ก 20
  • ไม่ใช้ความรุนแรง การลงโทษ การประจาน หรือการข่มขู่ 22
  • มุ่งเน้นการสอนทักษะทางอารมณ์และสังคม (Social-Emotional Skills) ที่เด็กยังขาด 23
  • ใช้เทคนิคที่หลากหลาย (เช่น เทคนิค 101s) 24 เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและส่งเสริมให้เด็กควบคุมตนเองได้ 28

SOP 2.1: การสร้างปฏิสัมพันธ์เชิงบวกในกิจวัตรประจำวัน (Daily Positive Interactions)

  1. การต้อนรับ (Arrival): ครูต้องยืนต้อนรับเด็กที่ประตูห้อง (ไม่ใช่การนั่งรอที่โต๊ะ) สบตาระดับเดียวกับเด็ก (Get on child’s eye level) 26 ยิ้ม และทักทาย “ด้วยชื่อ” ของเด็กทุกคนอย่างเจาะจง นี่คือการสร้างความรู้สึกปลอดภัย (Secure Attachment) 22
  2. ระหว่างกิจกรรม (During Activities): ใช้เทคนิค “Powerful Interactions” 31 คือ (1) Be Present: อยู่กับเด็กอย่างแท้จริง วางโทรศัพท์และงานเอกสาร, (2) Connect: เชื่อมโยงกับความสนใจของเด็ก, (3) Extend Learning: ต่อยอดการเรียนรู้จากสิ่งที่เด็กกำลังทำ ผ่านการตั้งคำถามปลายเปิด
  3. การสื่อสาร (Communication): ใช้ภาษากายเชิงบวก (รอยยิ้ม, การพยักหน้า, การสัมผัสที่เหมาะสม) 29 และใช้ “โทนเสียงที่สงบ” (Calm Tone) 29 แม้ในสถานการณ์ที่เด็กกำลังท้าทาย

SOP 2.2: การตอบสนองต่อพฤติกรรมท้าทาย (Responding to Challenging Behavior)

การ “ไม่เลือกปฏิบัติ” (Non-Discrimination) ไม่ได้หมายถึงแค่เชื้อชาติหรือเพศ แต่หมายถึงการไม่ “เลือกปฏิบัติ” ต่อเด็กที่แสดงพฤติกรรมท้าทาย แนวทางปฏิบัติสากล (NAEYC) แนะนำให้ “มุ่งเน้นจุดแข็ง” (Focus on strengths) 33 และเปลี่ยนพฤติกรรมของครูเองเพื่อสนับสนุนเด็ก แทนที่จะคาดหวังให้เด็กเปลี่ยนก่อน 33 ครูต้องตระหนักว่าพฤติกรรมท้าทายคือ “การสื่อสาร” ถึงความต้องการที่ยังไม่ได้รับการตอบสนอง

ขั้นตอนการปฏิบัติ (Stop – Validate – Teach):

  1. หยุด (Stop): ครูเข้าไประงับพฤติกรรมที่เป็นอันตราย (เช่น การตี, การขว้างของ) โดยใช้หลัก “ใจดีและหนักแน่น” 19 (เช่น จับมือเด็กเบาๆ และพูดด้วยเสียงสงบแต่จริงจังว่า “หนูตีไม่ได้ค่ะ ครูไม่ให้หนูตีเพื่อน”)
  2. สะท้อน (Validate): สะท้อนอารมณ์และความต้องการของเด็ก 19 เพื่อสอนคำศัพท์ทางอารมณ์ 25 (เช่น “ครูรู้ว่าหนูกำลังโกรธมากที่เพื่อนเอาของเล่นไป”)
  3. สอน (Teach): สอนทักษะที่เด็กขาดไป (เช่น “ถ้าหนูอยากได้ของเล่น ให้หนูพูดกับเพื่อนว่า ‘ขอเล่นด้วยครับ'” หรือ “ถ้าหนูโกรธ ให้หนูมากอดหมอนใบนี้ หรือมาบอกครู”)

SOP 2.3: การจัดการช่วงรอยต่อ (Managing Transitions)

ช่วงรอยต่อ (เช่น การเปลี่ยนจากเล่นเสรีไปเก็บของ) เป็นช่วงเวลาที่ท้าทายที่สุด ครูต้องหลีกเลี่ยงการตะโกนสั่งการ

  1. การเตือนล่วงหน้า (Warning): ให้สัญญาณเตือนที่ชัดเจน “อีก 5 นาทีจะเก็บของเล่นนะคะ” และ “อีก 1 นาทีค่ะ” 35
  2. ใช้สัญญาณ (Signals): ใช้เพลง, กริ่ง, หรือไฟสัญญาณที่ตกลงกันไว้ แทนการใช้เสียงดัง 36

ตารางที่ 2.1: แนวปฏิบัติการสร้างวินัยเชิงบวก (SOPs for Positive Discipline)

ตารางนี้คือเครื่องมือสำหรับครูในการเปลี่ยนทฤษฎี (วินัยเชิงบวก) ไปสู่การปฏิบัติ (คำพูดและท่าทาง)

สถานการณ์ท้าทายการตอบสนองแบบเดิม (ที่ควรเลี่ยง)แนวทางปฏิบัติ (SOP) วินัยเชิงบวกเทคนิค 101s ที่เกี่ยวข้อง [26]
เด็ก 2 คน แย่งของเล่น“ใครเริ่มก่อน! เอามานี่เลย ไม่ต้องเล่นทั้งคู่!” (การลงโทษ)1. เข้าไประดับสายตา วางมือบนของเล่น “ครูเห็นว่ามีปัญหา”
2. สะท้อนอารมณ์: “ดูเหมือนทั้งสองคนอยากเล่นรถคันนี้มาก”
3. สร้างพลังให้เด็กแก้ปัญหา: “เราจะแก้ปัญหานี้ยังไงดี ให้ยุติธรรมทั้งคู่?” (เช่น “เล่นด้วยกัน” “ผลัดกันเล่น” “ตั้งนาฬิกาจับเวลา”)
Eye-Level Principle, Problem-Solving, Validate Feelings
เด็กไม่ยอมเก็บของเล่น“ถ้าไม่เก็บ ครูจะเอาไปทิ้ง!” “ครูจะไม่ให้เล่นอีกแล้ว!” (การข่มขู่)1. ใช้เสียงกระซิบ (Whisper): “ถึงเวลาเก็บของแล้ว ครูจะกระซิบว่าให้เก็บสีแดงก่อน”
2. ทำให้เป็นเกม: “มาแข่งกันว่าใครจะเก็บบล็อกสีฟ้าใส่กล่องได้เร็วกว่าครู”
3. ให้ทางเลือก (จำกัด): “หนูจะเก็บตุ๊กตา หรือจะเก็บรถ ก่อนดีคะ?”
Whisper Principle, Make it a Game, Limited Choices
เด็กวิ่งในห้องเรียน“หยุดวิ่งเดี๋ยวนี้! บอกกี่ครั้งแล้วว่าห้ามวิ่ง!” (การดุ)1. สื่อสารสิ่งที่ ควร ทำ (Positive Phrasing): “ใช้เสียงเดินเบาๆ ในห้องนะคะ” (แทน “ห้ามวิ่ง”)
2. สะท้อนความต้องการ: “ครูรู้ว่าหนูอยากวิ่ง ร่างกายหนูมีพลังเยอะ”
3. นำเสนอทางเลือกที่เหมาะสม: “หนูเก็บพลังวิ่งไว้ตอนไปสนามกลางแจ้งนะคะ ตอนนี้เราเดินในห้องกัน”
Tell them WHAT to do, Acknowledge Needs
เด็กทำน้ำหก“ซุ่มซ่ามอีกแล้ว! ดูสิ เปียกหมดเลย!” (การตำหนิ, ประจาน)1. เน้นการแก้ปัญหา (Focus on Solution): “อุ๊ย น้ำหก” (พูดด้วยน้ำเสียงปกติ)
2. ให้อำนาจในการรับผิดชอบ: “เราต้องใช้อะไรเช็ดดีคะ? ผ้าอยู่ตรงไหนเอ่ย? มา..เรามาช่วยกันเช็ด”
Focus on Solutions, Not Blame; Empower Responsibility

ส่วนที่ 3: การวางแผนและประเมินคุณภาพ (สมรรถนะ 1.2.1.3)

มาตรฐานสมรรถนะ: ครูต้อง ใช้ความรู้ในการวางแผน พัฒนา และประเมินอย่างเหมาะสม โดยสอดคล้องกับ พัฒนาการตามวัย, ความแตกต่างของเด็กปฐมวัยแต่ละคน, บริบททางสังคม และวัฒนธรรม ที่เด็กปฐมวัยอาศัยอยู่ รวมถึงใช้ความรู้ดังกล่าวในการ ประกันคุณภาพการศึกษาระดับปฐมวัย

การตีความ

นี่คือสมรรถนะที่เป็นหัวใจของ “กระบวนการสอน” ซึ่งอธิบาย “วงจรคุณภาพ” (Quality Cycle) ที่เชื่อมโยงการวางแผน, การประเมิน, และการประกันคุณภาพ เข้าด้วยกันเป็นกระบวนการเดียว ไม่ใช่ 3 งานที่แยกกัน กระบวนการนี้คือ “วงจรทองคำ” (The Golden Loop) ของการปฏิบัติงานครู

“วงจรทองคำ” (The Golden Loop) ของการปฏิบัติงานครู:

  1. วางแผน (Plan): ครู “วางแผน” การจัดประสบการณ์ โดยใช้หลักสูตร 2568 (สาระการเรียนรู้) 6 และ DAP (บริบทเด็ก) 9 ซึ่งแสดงออกมาในรูปแบบ “6 กิจกรรมหลัก” 10
  2. ปฏิบัติ (Implement): ครูนำแผนไป “ปฏิบัติ” (ซึ่งคือสมรรถนะข้อ 6(ข)) 10
  3. ประเมิน (Assess): ครู “ประเมิน” พัฒนาการเด็กที่เกิดขึ้นระหว่างการปฏิบัติ โดยใช้ “การประเมินตามสภาพจริง” (Authentic Assessment) 38
  4. ปรับปรุง (Adapt): ครูนำข้อมูลจากการประเมิน มา “ปรับปรุง” แผนในข้อ 1 เพื่อใช้ในวันถัดไปหรือกับเด็กคนต่อไป
  5. ประกันคุณภาพ (Assure): ผลลัพธ์ของวงจรนี้ (หลักฐานพัฒนาการเด็ก) คือสิ่งที่ใช้ใน “การประกันคุณภาพ” 38

SOP ของครูจึงไม่ใช่การ “ทำแผน” ให้เสร็จ แต่คือการ “ใช้วงจรนี้” ในทุกวัน

แนวปฏิบัติที่ 3.1: การวางแผน (Planning) ตามหลัก DAP และ 6 กิจกรรมหลัก

การวางแผนต้องเน้นการเล่น (Play-Based) 43 และให้เด็กเป็นศูนย์กลาง 10 โดยต้องออกแบบให้ครอบคลุม 6 กิจกรรมหลัก 10 ได้แก่: (1) กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ 44, (2) กิจกรรมเสริมประสบการณ์ 44, (3) กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ 45, (4) กิจกรรมการเล่นเสรี (เล่นตามมุม) 46, (5) กิจกรรมกลางแจ้ง 47, และ (6) กิจกรรมเกมการศึกษา 46

ตารางที่ 3.1: แบบร่างแผนการจัดประสบการณ์รายวัน (DAP Lesson Plan Template)

นี่คือเครื่องมือมาตรฐานสำหรับครูในการออกแบบการสอนที่สอดคล้องกับหลักสูตร 6 และ DAP 9

หน่วยการเรียนรู้: (เช่น “กินดีอยู่ดีมีสุข” )วันที่:………………..สัปดาห์ที่:………………..
กิจกรรมหลัก (1-6)จุดประสงค์การเรียนรู้ (ระบุเชิงพัฒนาการ 4 ด้าน ตามมาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์)สาระการเรียนรู้ (ประสบการณ์สำคัญ/สาระที่ควรเรียนรู้)
1. เคลื่อนไหวและจังหวะ(เช่น 2.1.3 เคลื่อนไหวอวัยวะ… 47)(เช่น การเคลื่อนไหวตามสัญญาณ)
2. เสริมประสบการณ์(เช่น 8.3.1 ฟังแล้วปฏิบัติตาม… 47)(เช่น ประโยชน์ของการล้างมือ 47)
3. ศิลปะสร้างสรรค์(เช่น 4.1.1 แสดงออกผ่านงานศิลปะ 45)(เช่น การปั้นดินน้ำมันอิสระ)
4. การเล่นเสรี (ตามมุม)(เช่น 6.2.1 เก็บของเล่นเข้าที่ได้ 47)(เช่น เล่นมุมบล็อก, มุมบทบาทสมมติ 45)
5. กลางแจ้ง(เช่น 1.3.1 เล่นอย่างปลอดภัย 40)(เช่น การเล่นเกมมอญซ่อนผ้า 47)
6. เกมการศึกษา(เช่น 10.1.2 สังเกตและจับคู่ภาพ… 47)(เช่น เกมจับคู่ภาพความสัมพันธ์ 47)
กระบวนการจัดกิจกรรม (ที่เน้นเด็กเป็นศูนย์กลาง)(อธิบายขั้นตอนการจัดกิจกรรมแต่ละประเภท เช่น [44, 46])
สื่อและแหล่งเรียนรู้(ระบุสื่อสำหรับแต่ละกิจกรรม เช่น เครื่องเคาะจังหวะ, หนังสือนิทาน, เกมที่เคยเล่น [46])
การประเมินพัฒนาการ (ตามสภาพจริง)(ระบุวิธีสังเกต/เครื่องมือ เช่น “สังเกตการเก็บของเล่นเข้าที่” 47, “สังเกตการเล่นเกมร่วมกับผู้อื่น” 47)

แนวปฏิบัติที่ 3.2: การประเมิน (Assessment) ตามสภาพจริง (Authentic Assessment)

หลักการ: การประเมินต้องเกิดขึ้น “ตามสภาพจริง” ผ่านการเล่นและกิจวัตรประจำวัน 38 ไม่ใช่การจัดห้องสอบ และต้องประเมินอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ 49

เครื่องมือ (Tools) ในการประเมินตามสภาพจริง 40:

  1. การสังเกตอย่างเป็นระบบ (Systematic Observation): การสังเกตพฤติกรรมระหว่างกิจกรรม (เช่น สังเกตการเล่นกลางแจ้ง 40) โดยใช้แบบบันทึกพฤติกรรม หรือ Anecdotal Records
  2. แฟ้มสะสมงาน (Portfolio): การรวบรวมผลงาน (ภาพวาด, งานปั้น, ภาพถ่าย) ที่แสดงถึง “ความก้าวหน้า” ของพัฒนาการ ไม่ใช่แค่ “ความสวยงาม” 49
  3. การสัมภาษณ์/สนทนากับเด็ก (Child Interviews): การถามคำถามปลายเปิดเกี่ยวกับผลงานของเด็ก (“เล่าให้ครูฟังหน่อยได้ไหมว่าหนูกำลังทำอะไรอยู่?”) 50
  4. เกณฑ์การประเมิน (Rubrics): การใช้เกณฑ์การให้คะแนนที่ชัดเจน (เช่น ระดับ 3: ทำได้ด้วยตนเอง, ระดับ 2: ทำได้เมื่อมีผู้ชี้แนะ, ระดับ 1: ทำไม่ได้แม้มีผู้ชี้แนะ 40) เพื่อประเมินทักษะต่างๆ เช่น การทำงานกลุ่ม 52 หรือการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก

ตารางที่ 3.2: เมทริกซ์เครื่องมือประเมินตามสภาพจริง (Authentic Assessment Matrix)

ตารางนี้ช่วยให้ครูเห็นภาพว่า พัฒนาการแต่ละด้าน สามารถประเมินผ่านกิจกรรมใดได้บ้าง

มาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ (ตามหลักสูตร 2568 [6, 40])เครื่องมือ/กิจกรรม ที่ใช้ประเมินตามสภาพจริง (SOP 3.2)
ด้านร่างกาย (มฐ. 1)
(เช่น 1.3.1 เล่น…อย่างปลอดภัย)
การสังเกต (กิจกรรมกลางแจ้ง): บันทึกพฤติกรรมการเล่นเครื่องเล่นอย่างปลอดภัย 40
Rubric (กิจกรรมเคลื่อนไหว): ประเมินการควบคุมร่างกาย
ด้านอารมณ์-จิตใจ (มฐ. 3)
(เช่น 3.2.1 กล้าพูดกล้าแสดงออก, 3.2.2 พอใจในผลงานตนเอง)
การสังเกต (กิจกรรมเสรี): บันทึกการแสดงความคิดเห็นในกลุ่มย่อย
การสัมภาษณ์/สนทนา: ถามเด็กเกี่ยวกับผลงานศิลปะของตนเอง 45
แฟ้มสะสมงาน (Portfolio): ดูความภาคภูมิใจในการนำเสนอผลงาน 49
ด้านสังคม (มฐ. 6)
(เช่น 6.2.1 เก็บของเล่นเข้าที่)
Checklist (กิจกรรมเสรี): สังเกตการเก็บของเล่นเข้าที่หลังเลิกเล่น 47
Rubric (เกมการศึกษา): ประเมินการเล่นตามกติกา, การรอคอย 52
ด้านสติปัญญา (มฐ. 10)
(เช่น 10.1.2 จับคู่/เปรียบเทียบ)
ผลงาน (เกมการศึกษา): ตรวจสอบความสำเร็จในการเล่นเกมจับคู่ 47
การสังเกต (กิจกรรมเสริมประสบการณ์): สังเกตการตอบคำถาม, การสนทนาโต้ตอบ 50

แนวปฏิบัติที่ 3.3: การประกันคุณภาพ (Quality Assurance)

ข้อมูลที่ครูรวบรวมจากการประเมินตามสภาพจริง (3.2) จะถูกนำไปใช้เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ในการรายงานผลการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา 38 เพื่อพิสูจน์ “มาตรฐานที่ 1: คุณภาพของเด็ก” และ “มาตรฐานที่ 3: การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ” 38


ส่วนที่ 4: การทำงานเป็นทีม (สมรรถนะ 1.2.1.4)

มาตรฐานสมรรถนะ: ครูต้อง ทำงานเป็นทีม ร่วมมือกับครู เครือข่าย และบุคลากรที่เกี่ยวข้องทั้งในและนอกสถานศึกษา เพื่อส่งเสริมพัฒนาการของเด็กปฐมวัยอย่างเหมาะสมตามวัย

การตีความ

สมรรถนะนี้กำหนดให้ครูทำงานเป็นทีมใน 3 ระดับ: (1) ทีมภายใน (ครู-ครู), (2) ทีมผู้ปกครอง, และ (3) ทีมสหวิชาชีพ (ซึ่งเป็นหัวใจหลักของสมรรถนะที่ 7)

แนวปฏิบัติที่ 4.1: การทำงานเป็นทีมภายใน (Internal Teamwork)

SOP: การใช้กระบวนการ PLC และ Lesson Study (ตามที่ระบุใน SOP 1.1) 15 เป็นกลไกมาตรฐานในการทำงานร่วมกันของครู เพื่อพัฒนาการสอนและร่วมกันแก้ปัญหาของเด็กเป็นรายบุคคล

แนวปฏิบัติที่ 4.2: การทำงานเป็นทีมกับผู้ปกครอง (Parent-Teacher Collaboration)

การทำงานเป็นทีมกับผู้ปกครอง 54 ไม่ใช่เพียงการ “แจ้ง” ผลการประเมินเมื่อสิ้นเทอม แต่คือการยกระดับผู้ปกครองจาก “ผู้รับรายงาน” (Receiver) สู่การเป็น “หุ้นส่วน” (Partner) 33 หรือ “ผู้ประเมินร่วม” (Co-Assessors) 50

SOP: การสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับผู้ปกครอง

  1. การสื่อสารเชิงรุก (Proactive Communication): 55 ครูต้องสื่อสารเรื่องราวเชิงบวกและความก้าวหน้าเล็กๆ น้อยๆ ของเด็กให้ผู้ปกครองทราบเป็นประจำ (เช่น ผ่านสมุดสื่อสาร, แอปพลิเคชันของโรงเรียน) ไม่ใช่ติดต่อเฉพาะเมื่อเกิดปัญหา
  2. การประชุมผู้ปกครอง (Parent-Teacher Conference): การประชุมต้องใช้ข้อมูลเป็นฐาน (Data-Driven) โดยใช้หลักฐานจาก “การประเมินตามสภาพจริง” (จากสมรรถนะที่ 3) และ “การคัดกรองพัฒนาการ” (จากสมรรถนะที่ 7) เป็นเครื่องมือในการสนทนา (ดู SOP 7.2)
  3. การเชิญร่วมประเมิน (Invite Co-Assessment): ครูต้องนำผู้ปกครองเข้าสู่ “วงจรทองคำ” (Golden Loop) 54 โดยการส่ง “ภารกิจสังเกตการณ์” ง่ายๆ ให้ผู้ปกครองช่วยสังเกตพฤติกรรมเด็กที่บ้าน 50 (เช่น “สัปดาห์นี้ รบกวนคุณแม่ช่วยสังเกตการแปรงฟันด้วยตนเองของน้อง และบันทึกผลกลับมาให้ครูนะคะ”) และนำข้อมูลนั้นกลับมาแลกเปลี่ยนเพื่อวางแผนพัฒนาร่วมกัน

ส่วนที่ 5: การคุ้มครองสิทธิและความปลอดภัย (สมรรถนะ 1.2.1.5)

มาตรฐานสมรรถนะ: ครูต้อง คุ้มครองสิทธิของเด็กปฐมวัยทุกคนให้อยู่รอดปลอดภัย, ได้รับการดูแล พัฒนา ปกป้อง คุ้มครอง และให้มีส่วนร่วมในการแสดงออก และ ใส่ใจต่อเด็กปฐมวัยที่ตกอยู่ในสภาวะเสี่ยงต่าง ๆ

การตีความ

นี่คือสมรรถนะด้านการ “ป้องกัน” (Safeguarding) และ “การตอบสนอง” (Response) ต่ออันตรายทุกรูปแบบ ทั้งทางกายภาพ (อุบัติเหตุ) และทางจิตใจ (การล่วงละเมิด)

แนวปฏิบัติที่ 5.1: การสร้างสภาพแวดล้อมทางกายภาพที่ปลอดภัย

SOP: การตรวจสอบความปลอดภัยรายวัน (Daily Safety Check SOP)

ก่อนเด็กคนแรกมาถึงในตอนเช้า ครูเวรหรือครูประจำชั้นต้องเดินสำรวจพื้นที่และทำเครื่องหมายใน Checklist 57

ตารางที่ 5.1: Checklist ตรวจสอบความปลอดภัยรายวัน (Daily Safety Checklist)

นี่คือหลักฐานการปฏิบัติงาน (Due Diligence) ของครู เพื่อป้องกันเหตุและใช้ในการตรวจสอบ

ผู้ตรวจสอบ:……………….. วันที่:………………..

พื้นที่รายการตรวจสอบ [58, 59, 60]สถานะ (ผ่าน / ไม่ผ่าน)การแก้ไข (หากไม่ผ่าน)
ห้องเรียน1. ปลั๊กไฟทุกจุดมีที่ปิดครอบ [58]
2. สารเคมี (น้ำยาล้างห้องน้ำ), ยา 61, ของมีคม ถูกเก็บในตู้ที่ล็อกกุญแจ
3. เฟอร์นิเจอร์ (โต๊ะ, ตู้) ไม่มีขอบคม หรือมีวัสดุป้องกัน [60]
4. พื้นห้องสะอาด แห้ง ไม่ลื่น [58]
สนามเด็กเล่น5. เครื่องเล่นไม่แตกหัก, ไม่มีสนิม, ไม่มีขอบคม, น็อตไม่ยื่น [58, 62]
6. พื้นผิวรองรับการตกกระแทก (ทราย, ยาง) อยู่ในสภาพดี [60]
7. ไม่มีขยะ, เศษแก้ว, หรือสิ่งแปลกปลอม [58]
ห้องน้ำ/สุขา8. พื้นแห้ง ไม่ลื่น
9. น้ำยาทำความสะอาดเก็บพ้นมือเด็ก
ความปลอดภัยทั่วไป10. ประตูรั้ว/ประตูทางเข้าหลัก ล็อกเรียบร้อย [60]
11. ระบบตรวจสอบผู้รับ-ส่งเด็ก พร้อมใช้งาน [59, 63]

แนวปฏิบัติที่ 5.2: การคุ้มครองสิทธิและการปกป้อง (Child Protection)

กฎหมายไทย (พ.ร.บ. คุ้มครองเด็ก) 64 กำหนดให้โรงเรียนต้องมี “ระบบ” ในการคุ้มครองเด็กจากการถูกทารุณกรรมหรือละเลย 64 แนวปฏิบัติที่เป็นเลิศในระดับสากล 66 กำหนดให้มี “ผู้รับผิดชอบด้านการป้องกันคุ้มครอง” (Designated Safeguarding Lead – DSL) 65

SOP: กระบวนการรายงานเมื่อสงสัยการล่วงละเมิด (Child Protection Reporting SOP)

  1. การสังเกต (Observe): ครูสังเกตเห็นสัญญาณ (เช่น ร่องรอยการบาดเจ็บที่อธิบายไม่ได้ 68, พฤติกรรมถดถอย, การวาดภาพที่รุนแรง, หรือการกลัวผู้ใหญ่/การกลับบ้านอย่างชัดเจน)
  2. การบันทึก (Document): ครูต้องบันทึกสิ่งที่ “เห็น” และ “ได้ยิน” (ข้อเท็จจริง) อย่างละเอียด (เช่น “วันที่… เวลา… พบบาดแผล… ที่… เด็กพูดว่า…”) ห้าม ทำการสืบสวนสอบสวน, ถามคำถามชี้นำ, หรือสัญญากับเด็กว่าจะเก็บเป็นความลับ
  3. การรายงาน (Report): ครูต้องรายงานข้อกังวลและข้อเท็จจริงที่บันทึกไว้ ต่อ “ผู้รับผิดชอบด้านการคุ้มครองเด็ก (DSL)” ที่ได้รับการแต่งตั้งของโรงเรียน 66 ทันที
  4. การดำเนินการ (Action): DSL จะเป็นผู้ประเมินสถานการณ์และประสานงานกับผู้บริหาร เพื่อดำเนินการตามขั้นตอน (เช่น การพูดคุยกับผู้ปกครอง หรือการประสานงานกับทีมสหวิชาชีพภายนอก 69 หรือหน่วยงานภาครัฐ)
  5. การคุ้มครองสิทธิ (In-Class): ครูมีหน้าที่สอนทักษะการป้องกันตัวให้เด็ก 70 เช่น การปฏิเสธเมื่อถูกสัมผัสในที่ลับ, การตะโกนว่า “ไม่” หรือ “ช่วยด้วย”, และการวิ่งหนีไปหาผู้ใหญ่ที่ไว้ใจ 70

ส่วนที่ 6: การดูแลสุขภาวะและโภชนาการ (สมรรถนะ 1.2.1.6)

มาตรฐานสมรรถนะ: ครูต้อง ส่งเสริมสุขนิสัยที่ดี ดูแลโภชนาการ สุขอนามัย และดูแลความปลอดภัย ทางสภาพแวดล้อม สังคม และเทคโนโลยีที่มีผลต่อพัฒนาการของเด็กปฐมวัย

การตีความ

สมรรถนะนี้คือการจัดการ “กิจวัตรประจำวัน” ด้านสุขภาพ (Health Routines) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการป้องกัน (Safeguarding) ในสมรรถนะที่ 5

แนวปฏิบัติที่ 6.1: การเฝ้าระวังสุขอนามัย

SOP: การคัดกรองสุขภาพรายวัน (Daily Health Screening SOP)

ระหว่างการต้อนรับเด็กตอนเช้า (SOP 2.1) 59 ครูต้องทำการตรวจและบันทึกผลการคัดกรองสุขภาพเบื้องต้น 68 หากพบเด็กป่วย ต้องแยกเด็กไปยัง “ห้องแยก” (Sick Bay) 61 และติดต่อผู้ปกครองทันที

ตารางที่ 6.1: แบบบันทึกการคัดกรองสุขภาพรายวัน (Daily Health Screening Log)

นี่คือเครื่องมือบันทึกทางสาธารณสุข เพื่อติดตามและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคในสถานศึกษา

ห้อง:……………….. วันที่:……………….. ผู้ตรวจ:………………..

ลำดับชื่อ-สกุล เด็กอุณหภูมิ (°C)อาการที่พบ (ทำเครื่องหมาย ✓)การดำเนินการ
ไอ / น้ำมูก / เจ็บคอผื่น / ตุ่มใส
1
2
3

แนวปฏิบัติที่ 6.2: การส่งเสริมโภชนาการและสุขนิสัย

SOP: การจัดการสุขอนามัยและอาหาร (Hygiene and Nutrition SOP)

  1. สุขนิสัย (Hygiene): ครูต้องนำและกำกับดูแลให้เด็ก “ล้างมือ” อย่างถูกวิธี ตามขั้นตอนของกรมอนามัย 72 ในช่วงเวลาสำคัญ (เช่น ก่อน/หลังรับประทานอาหาร, หลังเข้าห้องน้ำ, หลังเล่นกิจกรรมกลางแจ้ง, หลังสัมผัสสิ่งสกปรก)
  2. โภชนาการ (Nutrition): ครูมีหน้าที่ตรวจสอบเมนูอาหารกลางวัน 73 เพื่อให้มั่นใจว่า (1) มีความหลากหลาย ไม่ซ้ำกันในรอบ 1 สัปดาห์ 74, (2) ถูกหลักโภชนาการ (เช่น มีผัก ผลไม้), และ (3) ปลอดภัย
  3. สภาพแวดล้อม (Environment): ครูต้องตรวจสอบสถานที่เตรียม/ปรุงอาหาร และสถานที่รับประทานอาหาร 72 ว่าสะอาด ถูกสุขลักษณะ, โต๊ะอาหารต้องมีความสูงจากพื้นอย่างน้อย 60 เซนติเมตร 72, และมีการจัดการขยะที่มิดชิด ถูกสุขลักษณะ 74

ส่วนที่ 7: การเฝ้าระวังและช่วยเหลือระยะแรกเริ่ม (สมรรถนะ 1.2.1.7)

มาตรฐานสมรรถนะ: ครูต้อง เฝ้าระวัง คัดกรองปัญหาการเจริญเติบโต พัฒนาการและการเรียนรู้ และ ให้ความช่วยเหลือเด็กปฐมวัยในระยะแรกเริ่ม โดยทำงานร่วมกับผู้ปกครอง และหรือสหวิชาชีพ

การตีความ

นี่คือสมรรถนะเชิงคลินิก (Clinical Competency) ที่สำคัญและท้าทายที่สุด เป็นการบูรณาการสมรรถนะที่ 3 (การประเมิน), ที่ 4 (ทีมผู้ปกครอง), และที่ 2 (สัมพันธภาพเชิงบวก) เพื่อปฏิบัติการ นี่คือ “SOP เส้นทางวิกฤต” (The Critical Pathway SOP) สำหรับการช่วยเหลือเด็กที่มีความต้องการพิเศษ

กระบวนการนี้ไม่ใช่แค่ “การเฝ้าระวัง” แต่เป็น “กระบวนการแทรกแซง” (Intervention Process) ที่ครบวงจร ตั้งแต่การ “พบเห็น” สู่การ “ส่งต่อ” และ “การทำงานร่วมกัน” 75

แนวปฏิบัติที่ 7.1: SOP การคัดกรองและเฝ้าระวังพัฒนาการ

  1. เครื่องมือ: ครูปฐมวัยต้องใช้เครื่องมือคัดกรองมาตรฐานของประเทศ คือ “คู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย (DSPM)” 77 ควบคู่ไปกับการประเมินตามสภาพจริง (จากสมรรถนะที่ 3)
  2. ขั้นตอนการคัดกรอง:
  • (ก) ครูคำนวณอายุเด็กที่แน่นอน 79
  • (ข) ทำการประเมินเด็กตามข้อกำหนดในคู่มือ DSPM ตามช่วงวัย 81
  • (ค) หากพบว่าเด็ก “ไม่ผ่าน” (สงสัยล่าช้า) ในด้านใดด้านหนึ่ง ให้ครูทำการ “ส่งเสริม” (Promotion) ตามคำแนะนำในคู่มือ DSPM เป็นเวลา 1 เดือน 82
  • (ง) ทำการประเมินซ้ำ (Re-evaluate) ในข้อที่ “ไม่ผ่าน” 82
  • (จ) หากประเมินซ้ำแล้วยัง “ไม่ผ่าน” ให้ครูดำเนินการตาม SOP 7.2 ทันที

แนวปฏิบัติที่ 7.2: SOP การสื่อสารกับผู้ปกครองเมื่อพบพัฒนาการที่น่ากังวล

นี่คือขั้นตอนที่ละเอียดอ่อนที่สุด และต้องใช้สมรรถนะที่ 2 (สัมพันธภาพเชิงบวก) สูงสุด

  1. เตรียมการ (Prepare): นัดหมายผู้ปกครองเป็นการส่วนตัว (ไม่ใช่การคุยหน้าห้องเรียน) ครูต้องรวบรวม “หลักฐานเชิงรูปธรรม” (Objective Evidence) ไม่ใช่ความรู้สึก หลักฐาน ได้แก่:
  • (ก) ผลการคัดกรอง DSPM (จาก SOP 7.1)
  • (ข) ข้อมูลจากการประเมินตามสภาพจริง (จาก SOP 3.2) เช่น แฟ้มสะสมงาน, แบบบันทึกพฤติกรรม
  1. การประชุม (Conduct Meeting): 83
  • (ก) เริ่มต้นด้วยจุดแข็ง: กล่าวถึงพฤติกรรมเชิงบวกและความน่ารักของเด็กก่อนเสมอ 84
  • (ข) แจ้งข้อสังเกต (I Noticed…): ใช้ภาษาเชิงสังเกต ไม่ใช่ภาษาเชิงตัดสิน 83 (เช่น พูดว่า “ครูสังเกตว่าตามเกณฑ์พัฒนาการ (DSPM) ในวัยนี้น้องควรจะ… แต่ครูลองกระตุ้น 1 เดือนแล้วน้องยังไม่… ” 84)
  • (ค) ห้ามวินิจฉัย (No Diagnosis): ครูต้อง ห้าม วินิจฉัยเด็ดขาด 84 (เช่น ห้ามพูดว่า “น้องน่าจะเป็นออทิสติก” หรือ “เขามีปัญหา…”) 85
  • (ง) ถามกลับ (Inquire): ถามผู้ปกครองว่าสังเกตเห็นพฤติกรรมนี้ที่บ้านหรือไม่ “คุณพ่อคุณแม่สังเกตเห็นเรื่องนี้ที่บ้านบ้างไหมคะ?” 83
  • (จ) เสนอแนวทาง (Recommend): “ครูเป็นห่วงพัฒนาการของน้อง และอยากให้น้องได้รับการช่วยเหลือที่ดีที่สุด ครูจึงอยากแนะนำให้ลองปรึกษาคุณหมอด้านพัฒนาการ (หรือหน่วยงานสาธารณสุขใกล้บ้าน) เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยประเมินให้แน่ใจ”
  • (ฉ) วางแผนร่วมกัน (Shared Plan): วางแผนขั้นตอนต่อไปร่วมกัน 83

แนวปฏิบัติที่ 7.3: SOP การส่งต่อและทำงานร่วมกับสหวิชาชีพ

  1. การส่งต่อ (Referral): หากผู้ปกครองยินยอม ครูต้องจัดทำเอกสารส่งตัว (ใบส่งต่อ 86) ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลการคัดกรอง (DSPM) และแบบบันทึกพฤติกรรม (จาก SOP 3.2) เพื่อให้ผู้ปกครองนำไปยื่นต่อหน่วยบริการสาธารณสุข (เช่น รพ.สต., โรงพยาบาลชุมชน, โรงพยาบาลศูนย์) 78
  2. การประชุมทีม (Team Meeting): เมื่อเด็กได้รับการวินิจฉัยและเข้าสู่กระบวนการช่วยเหลือ 89 ครูจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของ “ทีมสหวิชาชีพ” (Multidisciplinary Team) 75 ซึ่งอาจประกอบด้วย นักจิตวิทยา 92, นักกิจกรรมบำบัด, ครูการศึกษาพิเศษ 75
  3. การนำกลับมาใช้ (Implementation): ครูมีบทบาทสำคัญในการประชุมทีม 76 ในฐานะ “ผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพแวดล้อมในห้องเรียน” ครูต้องนำคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญและแผนการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP) 76 มาปรับใช้ในแผนการจัดประสบการณ์ (SOP 3.1) ในห้องเรียนปกติ

ตารางที่ 7.1: แผนผังมาตรฐานการปฏิบัติงาน (SOP) การเฝ้าระวังและส่งต่อ

นี่คือแผนที่การทำงาน (Roadmap) ที่ชัดเจนสำหรับครูและผู้บริหารเมื่อพบภาวะพัฒนาการที่น่ากังวล

ขั้นตอนการปฏิบัติงาน (SOP)ผลลัพธ์
1. เฝ้าระวัง (Surveillance)ครูคัดกรองเด็กทุกคนด้วย DSPM ตามรอบอายุ [79, 80]-> (A) ผ่าน: เฝ้าระวังตามปกติ
-> (B) ไม่ผ่าน (สงสัยล่าช้า): ไปขั้นตอนที่ 2
2. กระตุ้น (Promotion)ครูใช้คู่มือ DSPM เพื่อกระตุ้นพัฒนาการในข้อที่ไม่ผ่าน เป็นเวลา 1 เดือน 82-> ไปขั้นตอนที่ 3
3. ประเมินซ้ำ (Re-Assess)ครูประเมินซ้ำในข้อเดิม-> (A) ผ่าน: เฝ้าระวังตามปกติ
-> (B) ไม่ผ่าน: ไปขั้นตอนที่ 4
4. สื่อสาร (Communication)ครูดำเนินการประชุมผู้ปกครองตาม SOP 7.2 (เตรียมข้อมูล, ใช้ I noticed, ไม่วินิจฉัย) 83-> (A) ผู้ปกครองไม่ยินยอม: ครูให้ข้อมูล, เฝ้าระวังใกล้ชิด, บันทึกข้อมูลต่อเนื่อง
-> (B) ผู้ปกครองยินยอม: ไปขั้นตอนที่ 5
5. ส่งต่อ (Referral)ครูจัดทำเอกสารส่งตัว (ใบส่งต่อ 86, ผล DSPM, แบบสังเกต) ให้ผู้ปกครองนำไปพบแพทย์/ผู้เชี่ยวชาญ [78, 87]-> เด็กเข้าสู่ระบบสาธารณสุข
6. ทำงานเป็นทีม (Collaboration)เด็กได้รับการประเมิน/วินิจฉัย ครูเข้าร่วมประชุมทีมสหวิชาชีพ (IEP Meeting) 75-> ครูได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ 89
7. ปรับแผน (Adaptation)ครูนำคำแนะนำจากทีมสหวิชาชีพ มาปรับใช้ในแผนการจัดประสบการณ์ (SOP 3.1) ในห้องเรียน-> เด็กได้รับการช่วยเหลือในระยะแรกเริ่ม

ส่วนที่ 8: การใช้เทคโนโลยี (สมรรถนะ 1.2.1.8)

มาตรฐานสมรรถนะ: ครูต้อง รู้เท่าทันและสามารถใช้สื่อดิจิทัล เทคโนโลยีทางการศึกษาในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้เกิดผลดีต่อพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย

การตีความ

สมรรถนะนี้มี 2 มิติที่ครูต้องปฏิบัติ: (1) การใช้เทคโนโลยีอย่างมีจรรยาบรรณ (Ethical Use) และ (2) การใช้เทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อการเรียนรู้ (Effective Use)

แนวปฏิบัติที่ 8.1: การใช้เทคโนโลยีอย่างมีจรรยาบรรณ (Ethical & Literate Use)

“การรู้เท่าทัน” (Digital Literacy) ไม่ได้หมายถึงแค่การใช้แอปพลิเคชันเป็น แต่หมายถึงการเข้าใจผลกระทบและปฏิบัติตนอย่างมีจรรยาบรรณ 93

SOP: การรักษาจรรยาบรรณดิจิทัลของครู

  1. การสื่อสาร (Communication): ครูต้องใช้ช่องทางสื่อสาร “ที่เป็นทางการ” ของโรงเรียน (เช่น Official Line, E-mail, หรือแอปพลิเคชันของโรงเรียน) ในการติดต่อกับผู้ปกครอง ห้าม ใช้บัญชีโซเชียลมีเดียส่วนตัว (เช่น Facebook ส่วนตัว) ในการติดต่อสื่อสารเรื่องงานหรือเรื่องเด็ก
  2. ความเป็นส่วนตัว (Privacy): ครู ห้าม โพสต์ภาพหรือวิดีโอที่ระบุตัวตนเด็กได้ (เห็นใบหน้าชัดเจน) ลงในพื้นที่สาธารณะหรือโซเชียลมีเดียส่วนตัว โดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ปกครอง
  3. การเป็นแบบอย่าง (Role Model): ครูต้องตระหนักว่าพฤติกรรมการใช้ออนไลน์ของตนเอง (แม้ในเวลาส่วนตัว) ถูกจับตามอง 96 และต้องประพฤติตนให้เป็นแบบอย่างที่ดีทางจริยธรรม 97
  4. ความปลอดภัยของข้อมูล (Data Security): ครูต้องประเมินแอปพลิเคชันหรือสื่อที่จะนำมาใช้ ว่ามีการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของเด็กหรือไม่ (เช่น ปฏิบัติตามนโยบายความเป็นส่วนตัวสากลอย่าง COPPA/FERPA) 98 และต้องระวังแอปที่มีโฆษณาแฝงหรือเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม 99

แนวปฏิบัติที่ 8.2: การใช้เทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพ (Effective Use)

หลักการสำคัญจาก NAEYC (สมาคมแห่งชาติเพื่อการศึกษาปฐมวัย สหรัฐอเมริกา) ระบุว่า เทคโนโลยีไม่ใช่ “พี่เลี้ยงเด็ก” (Passive) แต่ต้องเป็นเครื่องมือที่ “กระตุ้นการมีส่วนร่วม, การลงมือทำ, และการเสริมพลัง” (Active, hands-on, engaging, and empowering) 100

SOP: การเลือกและใช้สื่อดิจิทัลในห้องเรียน

  1. ประเมิน (Evaluate): ก่อนนำสื่อใดๆ (แอป, วิดีโอ) มาใช้ในห้องเรียน ครูต้องประเมินคุณภาพของสื่อนั้น โดยใช้ Rubric (ดูตาราง 8.1)
  2. บูรณาการ (Integrate): ครูต้องใช้สื่อเทคโนโลยีเป็น “เครื่องมือ” ประกอบ “6 กิจกรรมหลัก” (สมรรถนะที่ 3) 103 ไม่ใช่การ “แยก” เวลามาให้เด็กจ้องจอ (เช่น ใช้แอปวาดรูปในกิจกรรมสร้างสรรค์, ใช้กล้องถ่ายรูปในการเดินสำรวจกิจกรรมกลางแจ้ง, ใช้แอปสร้างนิทานในมุมหนังสือ)
  3. ใช้ร่วมกัน (Co-Engage): ครูหรือผู้ปกครองต้อง “ร่วมใช้” สื่อกับเด็ก 105 ต้องนั่งข้างๆ พูดคุย ตั้งคำถาม และเชื่อมโยงสิ่งที่เห็นในจอกับโลกความจริง 105 ไม่ปล่อยให้เด็กเล่นคนเดียว

ตารางที่ 8.1: Rubric การประเมินสื่อดิจิทัล (App Evaluation Rubric) สำหรับครูปฐมวัย

นี่คือเครื่องมือมาตรฐานสำหรับครูในการตัดสินใจเลือกแอปพลิเคชัน 98

เกณฑ์การประเมินระดับ 1 (ควรปรับปรุง/เลี่ยง)ระดับ 2 (พอใช้)ระดับ 3 (ดีมาก/เหมาะสม)
1. การมีส่วนร่วม (Engagement)Passive: เด็กทำได้แค่จ้องมอง หรือกดแบบสุ่ม (เช่น ดูวิดีโออย่างเดียว)Reactive: เด็กมีส่วนร่วมแบบจำกัด (เช่น ตอบคำถามตัวเลือก)Active & Creative: เด็กได้ “สร้าง” ชิ้นงาน, แก้ปัญหา, หรือควบคุมการเล่นด้วยตนเอง [102]
2. ความเหมาะสมตามพัฒนาการ (DAP)เนื้อหาไม่เหมาะสมกับวัย (เช่น รุนแรง) 99, ยาก/ง่ายเกินไป, หรือเน้นการท่องจำแบบเจาะจงเนื้อหาสอดคล้องกับวัย แต่เน้นทักษะเดียวเนื้อหาเปิดกว้าง (Open-ended), ส่งเสริมทักษะรอบด้าน (เช่น การคิดวิเคราะห์, ศิลปะ) 98
3. การส่งเสริมปฏิสัมพันธ์ (Social Interaction)ออกแบบมาให้เล่นคนเดียว (Solitary), แยกเด็กออกจากสังคมสามารถเล่น 2 คนได้ แต่ไม่จำเป็นต้องสื่อสารกันกระตุ้นให้เกิดการทำงานร่วมกัน, การพูดคุย, หรือการแก้ปัญหาร่วมกัน (Collaborative) 99
4. จริยธรรมและความปลอดภัย (Ethics & Safety)มีโฆษณา/ป๊อปอัปมาก 99, มีการซื้อในแอป (In-app purchases), นโยบายความเป็นส่วนตัวไม่ชัดเจน 98มีโฆษณาบ้าง แต่ไม่รบกวนไม่มีโฆษณา, ไม่มีการซื้อในแอป, นโยบายความเป็นส่วนตัวชัดเจน (ปลอดภัยสำหรับเด็ก) 98

บทสรุป: การขับเคลื่อนสมรรถนะครูสู่คุณภาพเด็กปฐมวัย

รายงานแนวทางมาตรฐานการปฏิบัติงาน (SOP Manual) ฉบับนี้ แสดงให้เห็นว่าสมรรถนะหลัก 8 ประการในข้อ 6 (ก) “การปฏิบัติหน้าที่ครู” ไม่ใช่รายการตรวจสอบ (Checklist) ที่แยกส่วนกัน แต่เป็น “ระบบนิเวศ” (Ecosystem) ของการปฏิบัติงานวิชาชีพที่สัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง

“สัมพันธภาพเชิงบวก” (สมรรถนะที่ 2) และ “การทำงานเป็นทีม” (สมรรถนะที่ 4) ทำหน้าที่เป็น “สารหล่อลื่น” (Lubricant) ที่ทำให้กระบวนการที่ยากลำบากที่สุด เช่น “การเฝ้าระวังและส่งต่อ” (สมรรถนะที่ 7) สามารถสำเร็จลุล่วงได้โดยสร้างความร่วมมือแทนความขัดแย้ง

“การวางแผนและประเมิน” (สมรรถนะที่ 3) คือ “วงจรปฏิบัติการ” (The Golden Loop) ที่ครูใช้หมุนเวียนในทุกวัน เพื่อเชื่อมโยงการสอนกับการประเมิน

ในขณะที่ “การพัฒนาตนเอง” (สมรรถนะที่ 1), “ความปลอดภัย” (สมรรถนะที่ 5), “สุขภาวะ” (สมรรถนะที่ 6), และ “เทคโนโลยี” (สมรรถนะที่ 8) ทำหน้าที่เป็น “โครงสร้างพื้นฐาน” (Infrastructure) ที่ค้ำจุนวงจรการทำงานนั้นไว้

การที่ผู้ประกอบวิชาชีพครูปฐมวัยสามารถปฏิบัติงานตาม SOPs ทั้ง 8 นี้ (ข้อ 6(ก)) ได้อย่างเชี่ยวชาญ จะนำไปสู่รากฐานที่มั่นคงในการจัด “การจัดประสบการณ์การเรียนรู้” (ข้อ 6(ข)) 10 ได้อย่างมีคุณภาพสูงสุด ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อ “คุณภาพของเด็ก” 38 อันเป็นเป้าหมายสูงสุดของการประกันคุณภาพการศึกษาปฐมวัยและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของชาติต่อไป

Works cited

  1. ราชกิจจานุเบกษา (22 สิงหาคม 2568) เผยแพร่ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูปฐมวัย พ.ศ. 2568 – 366 Q-KIDS, accessed November 5, 2025, https://www.366q-kids.com/news-2140/
  2. ราชกิจจานุเบกษา (22 สิงหาคม 2568) เผยแพร่ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วย …, accessed November 5, 2025, https://obectv.tv/news_detail/52
  3. ข้อบังคับคุรุสภา – ราชกิจจานุเบกษา, accessed November 5, 2025, https://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2562/E/068/T_0018.PDF
  4. ข้อบังคับคุรุสภา, accessed November 5, 2025, https://ops.moe.go.th/wp-content/uploads/2023/03/3.2.5%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%89%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%8852563.pdf
  5. ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูปฐมวัย พ.ศ. 2568 | สช., accessed November 5, 2025, https://opec.go.th/news/detail/2543
  6. หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐, accessed November 5, 2025, https://academic.obec.go.th/images/document/1590998426_d_1.pdf
  7. หลักการปฏิบัติที่เหมาะสมตามพัฒนาการ ประโยชน์ และกลยุทธ์ในห้องเรียนคืออะไร – Xiair World, accessed November 5, 2025, https://xiairworld.com/th/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%8F%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B1/
  8. การปฏิบัติที่เหมาะสมกับพัฒนาการ(Developmentally Appropriate Practice : DAP) – Pecerathailand, accessed November 5, 2025, https://www.pecerathailand.org/assets/pdf/18.pdf
  9. Early Childhood: Developmentally Appropriate Practices (DAP) | Wisconsin Department of Public Instruction, accessed November 5, 2025, https://dpi.wi.gov/early-childhood/devel-approp
  10. การจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการ: 6 กิจกรรมหลักสำหรับเด็กปฐมวัย – Child Impact, accessed November 5, 2025, https://childimpact.co/learning/6activities-integrated-child
  11. รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะของครูปฐมวัยเพื่อส่งเ – มหาวิทยาลัยนเรศวร, accessed November 5, 2025, https://nuir.lib.nu.ac.th/dspace/bitstream/123456789/6354/3/IradaNumrith.pdf
  12. รูปแบบการพัฒนาครูด้านการจัดประสบการณ์การเร, accessed November 5, 2025, https://doi.nrct.go.th/admin/doc/doc_655646.pdf
  13. การพัฒนาคุณลักษณะครูปฐมวัยมืออาชีพในศตวรรษ, accessed November 5, 2025, https://nakhonnayok.dusit.ac.th/wp-content/uploads/2015/11/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A32.59.pdf
  14. แนวทางการพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้ในศต, accessed November 5, 2025, https://ir.stou.ac.th/bitstream/123456789/10729/1/FULLTEXT.pdf
  15. การพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้ของครูปฐมว – ThaiJO, accessed November 5, 2025, https://so02.tci-thaijo.org/index.php/ECEM/article/download/261221/175333/1007755
  16. บทที่5 จิตวิญญาณความเป็นครู – มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา, accessed November 5, 2025, https://ssru.ac.th/content-rank/7.pdf
  17. ประกาศคณะกรรมการคุรุสภา – ราชกิจจานุเบกษา, accessed November 5, 2025, https://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2563/E/109/T_0010.PDF
  18. Building Positive Teacher-Child Relationships – CSEFEL, accessed November 5, 2025, http://csefel.vanderbilt.edu/briefs/wwb12.pdf
  19. Positive Discipline 101: How to Discipline a Child in a Way That Actually Works, accessed November 5, 2025, https://afineparent.com/be-positive/positive-discipline.html
  20. วินัยเชิงบวกของเด็กปฐมวัยสู่การเรียนรู้บนฐ P – ThaiJO, accessed November 5, 2025, https://so02.tci-thaijo.org/index.php/edubuu/article/download/264673/179971/1115716
  21. วินัยเชิงบวก – สำนักงานราชบัณฑิตยสภา, accessed November 5, 2025, http://legacy.orst.go.th/wp-content/uploads/2018/08/07132561-%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%A7%E0%B8%81.pdf
  22. และสร างวินัยเชิงบวก โดยครอบครัวมีส วนร วม Preschool Parenting Program: Triple-P – ศูนย์สุขภาพจิตที่ 3, accessed November 5, 2025, https://mhc3.dmh.go.th/file/info/%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%ADTriple%20-%20P%2031_05_2022.pdf
  23. ผลของโปรแกรมเทคนิค 101s การสร้างวินัยเชิงบวกส า – ThaiJO, accessed November 5, 2025, https://he01.tci-thaijo.org/index.php/JHR/article/download/256189/174414/1010549
  24. ความเป็นมาของ 101s เทคนิคการสร้างวินัยเชิงบวก – GotoKnow, accessed November 5, 2025, https://www.gotoknow.org/posts/515200
  25. เจาะวิธีเสริมอีคิวแบบ ‘101s’ สร้าง ‘วินัยเชิงบวก’ ให้ลูก – กระทรวงศึกษาธิการ, accessed November 5, 2025, https://www.moe.go.th/%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A-%C2%92101s/
  26. 101 Positive Discipline TechniquesBy Elizabeth O – Community Connections for Children, accessed November 5, 2025, https://cccforpa.org/wp-content/uploads/2017/12/101-Positive-Discipline-Techniques.doc
  27. The Impact of the 101s: A Guide to Positive Discipline Training on Teacher Interaction Practices, Attitudes, and Prosocial Skill, accessed November 5, 2025, https://digitalcommons.odu.edu/context/earlychildhood_etds/article/1008/viewcontent/Masterson_3348343.pdf
  28. บ้านไหนอยากให้ลูกมีระเบียบฟังไว้! พ่อแม่ต้องฝึก ‘วินัยเชิงบวก’ ให้ลูก | โรงพยาบาลนครธน, accessed November 5, 2025, https://www.nakornthon.com/article/detail/%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B8%9F%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A7%E0%B9%89-%E0%B8%9E%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9D%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81
  29. Positive Teacher-Child Interactions – Center for Early Childhood Professional Development, accessed November 5, 2025, https://cecpd.org/Portals/1400/Assets/Documents/Positive%20Teacher-Child%20Interactions.pdf?ver=i9tHGoD1zv5t8Buq2Ur2LQ%3D%3D
  30. Interactions in the Early Childhood Classroom – TYM THE TRAINER, accessed November 5, 2025, https://www.tymthetrainer.com/documents/interactions.pdf
  31. Planning for Positive Guidance: Powerful Interactions Make a Difference | NAEYC, accessed November 5, 2025, https://www.naeyc.org/resources/pubs/tyc/dec2012/planning-for-positive-guidance
  32. 5 Strategies for Building Positive Relationships with the Children In Your Classroom, accessed November 5, 2025, https://teachingstrategies.com/blog/5-strategies-for-positive-relationships-with-children/
  33. Recommendations for Early Childhood Educators – NAEYC, accessed November 5, 2025, https://www.naeyc.org/resources/position-statements/equity/recommendations-ece
  34. Principles of Child Development and Learning and Implications That Inform Practice, accessed November 5, 2025, https://www.naeyc.org/resources/position-statements/dap/principles
  35. Family Routine Guide – National Center for Pyramid Model Innovations, accessed November 5, 2025, https://challengingbehavior.org/docs/Positive-Solutions_Family-Routine_Guide.pdf
  36. How to Lesson Plan for Kindergarteners in Thailand – CIEE, accessed November 5, 2025, https://www.ciee.org/go-abroad/work/teach-english-abroad/blog/how-lesson-plan-kindergarteners-thailand
  37. การจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการ: 6 กิจกรรมหลักสำหรับเด็กปฐมวัย, accessed November 5, 2025, https://ecd.onec.go.th/knowledge/articles/3604/
  38. ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ – ราชกิจจานุเบกษา, accessed November 5, 2025, https://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2561/E/235/T_0004.PDF
  39. การประเมินตามสภาพจริง Authentic Assessment – Active Learning in Online Teaching, accessed November 5, 2025, https://active-learning.thailandpod.org/assessments/authentic-assessment
  40. คู่มือดำเนินงาน – ประเมินพัฒนาการนักเรียน ที่จบหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 – สำนัก วิชาการ, accessed November 5, 2025, https://academic.obec.go.th/web/images/media/1675829310_d_1.pdf
  41. 60 นวทางการประเมินคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา – ระดับปฐมวัย, accessed November 5, 2025, https://www.thepsala.ac.th/uploads/files/SAR/%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%992561-%E0%B8%89%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%81%E0%B8%81.pdf
  42. มาตรฐานการศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน, accessed November 5, 2025, http://www.thaischool.in.th/_files_school/66010007/data/66010007_1_20230630-160257.pdf
  43. Developmentally Appropriate Practice: A Guide for Parents – Trying Together, accessed November 5, 2025, https://tryingtogether.org/dap/dap-guide-general/
  44. แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ระดับปฐมวัย ป, accessed November 5, 2025, https://www.phulek.go.th/index/add_file/k3PAOEHThu20339.pdf
  45. ชุดกิจกรรมการจัดประสบการณ์ – สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา, accessed November 5, 2025, http://academic.obec.go.th/web/images/media/1675829264_d_1.pdf
  46. แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ระดับปฐมวัย ป, accessed November 5, 2025, https://www.thajalung.go.th/fileupload/527156.pdf
  47. แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ระดับปฐมวัย, accessed November 5, 2025, https://www.huaypongsao.go.th/post/000000896-fd6e3f4ed7cea401ebece27c843937e5.pdf
  48. การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่เหมาะสมสำหรับเด็กปฐมวัย: หน้า 3 – ห้องเรียนครูแมว, accessed November 5, 2025, http://www.nareumon.com/index.php?option=com_content&task=view&id=19&Itemid=50&limit=1&limitstart=2
  49. การประเมินตามสภาพจริง ครั้งที่ 3, accessed November 5, 2025, http://sagawanketwong.blogspot.com/p/blog-page_45.html
  50. การประเมินพัฒนาการเด็กปฐมวัยเมื่อต้องเรียนที่บ้าน – ThaiJo, accessed November 5, 2025, https://so06.tci-thaijo.org/index.php/tmd/article/download/253040/172190/931541
  51. การวิจัยเรื่อง การใช้แฟ้มสะสมงานในกิจกรรมสร้างสรรค์สำหรับเด็กอนุบาล มีวัตถุประสงค์วิธี ดำเนินการวิจัย สรุปผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ ดังต่อไปนี้, accessed November 5, 2025, https://archive.lib.cmu.ac.th/full/T/2542/edel1242pk_ch5.pdf
  52. การประเมินตามสภาพจริง (Authentic Assessment) – ACT, accessed November 5, 2025, https://www.act.ac.th/doc/download/academics/7.rubilc.pdf
  53. คู่มือการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา ระดับการศึกษาปฐมวัย และระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย, accessed November 5, 2025, https://lamphuncity.go.th/wp-content/uploads/2022/04/%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD06-3-%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A8%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A9.pdf
  54. รูปแบบการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการจัดการศึกษาปฐมวัย Parental Participation Model In Early Childhood Education Management, accessed November 5, 2025, https://edu.buu.ac.th/vesd/year7_2554_1/artical6_2554_1.pdf
  55. Communicating with Parents: Strategies for Teachers – Academic Development Institute, accessed November 5, 2025, https://www.adi.org/journal/ss05/graham-clay.pdf
  56. Teacher-Parent Communication Strategies to Start the Year Off Right – Edutopia, accessed November 5, 2025, https://www.edutopia.org/article/teacher-parent-communication-strategies-start-year-right/
  57. Free Preschool Safety Checklist | PDF | SafetyCulture, accessed November 5, 2025, https://safetyculture.com/checklists/preschool-safety
  58. Daily Safety Checklist | Virtual Lab School, accessed November 5, 2025, https://www.virtuallabschool.org/preschool/safe-environments/lesson-1/act/19186
  59. 12 Common Checklists Used in Childcare and Kindergartens – Blog | Falcony, accessed November 5, 2025, https://blog.falcony.io/en/12-common-checklists-used-in-childcare-and-kindergartens
  60. มาตรฐานศูนย์เด็กเล็กคุณภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข, accessed November 5, 2025, https://www.dinudom.go.th/datacenter/doc_download/a_260214_143602.pdf
  61. คู่มือปฏิบัติและข้อตกลงร่วมกัน เรื่อง การคุ้มครองและช่วยเหลือเด็กในภาวะเสี่ยง และเป็นผู้เสียหายจากการละเมิด ละเลยทอดทิ้ง แสวงประโยชน์, accessed November 5, 2025, https://www.dcy.go.th/public/mainWeb/file_download/1645693386343-29741025.pdf
  62. นโยบายการคุ มครองเด็ก และการดูแลความปลอดภัย สำหรับทั้งโรงเรียน, accessed November 5, 2025, https://resources.finalsite.net/images/v1759138030/rugbyschoolacth/srrm9a4jnhwyagusf7jr/RST_006_Child-Protection-and-Safeguarding-Th.pdf
  63. Child Protection & Safeguarding Policy – Bangkok Prep, accessed November 5, 2025, https://www.bangkokprep.ac.th/wp-content/uploads/CHILD-PROTECTION-AND-SAFEGUARDING-POLICY-2019-20.pdf
  64. Child Protection Policy.docx – SBS Bangkok, accessed November 5, 2025, https://sbsbangkok.ac.th/wp-content/uploads/sites/4/2024/10/Child-Protection-Policy.docx.pdf
  65. แนวทางการส่งเสริมคุณภาพ – สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ด้านสุขภาพ (4D) – กระทรวงสาธารณสุข, accessed November 5, 2025, https://pkto.moph.go.th/document/Department/10/%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%90%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E(4D)/%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%90%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E(4D).pdf
  66. แนวทางการพัฒนาการปฏิบัติงานของทีมสหวิชาชีพในการช่วยเหลือ ผู้ถูกกระทําด้วยความรุนแรงในครอบครัวของศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก และสตรีโรงพยาบาล – TU e-Thesis (Thammasat University) – มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, accessed November 5, 2025, http://ethesisarchive.library.tu.ac.th/thesis/2015/TU_2015_5105034424_3202_2115.pdf
  67. วิธีเอาตัวรอดจากสถานการณ์เสี่ยง | มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก, accessed November 5, 2025, https://www.thaichildrights.org/articles/article-tip/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2/
  68. กรมอนามัย – ศูนย์ ข้อมูล ข่าวสาร อิเล็กทรอนิกส์, accessed November 5, 2025, https://infocenter.oic.go.th/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%A2/topic-detail.php?conid=5300817
  69. แนวทางการจัดอาหาร บริบาลนํ า และสร้างสุขภาวะ – Unicef, accessed November 5, 2025, https://www.unicef.org/thailand/media/2691/file/UNICEF%20Nutrition%20and%20Hygiene%20Guideline%202019.pdf
  70. การพัฒนารูปแบบการจัดการโภชนาการในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านบึงมะลู – ThaiJO, accessed November 5, 2025, https://he01.tci-thaijo.org/index.php/bcnsurin/article/download/262978/178049/1082336
  71. คู่มือมาตรฐานศูนย์เด็กเล็ก, accessed November 5, 2025, https://hpc03.wordpress.com/wp-content/uploads/2012/07/0dek.pdf
  72. บทบาทครูในการจัดการศึกษาสำหรับเด็กพิเศษระดับปฐมวัย – มหาวิทยาลัยนเรศวร, accessed November 5, 2025, https://nuir.lib.nu.ac.th/dspace/bitstream/123456789/6290/3/WarapornUttiya.pdf
  73. หน้า 4: ทีมสหวิชาชีพ, accessed November 5, 2025, https://iris.peabody.vanderbilt.edu/th/module/asd1/cresource/q2/p04/
  74. การติดตามการคัดกรองพัฒนาการเด็กโดยคู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย เขตสุขภาพที่5, accessed November 5, 2025, https://www.hpc5.go.th/rcenter/_fulltext/20190521213956_4243/20190523164029_2672.pdf
  75. Thailand’s national universal developmental screening programme for young children: action research for improved follow-up – PMC – PubMed Central, accessed November 5, 2025, https://pmc.ncbi.nlm.nih.gov/articles/PMC5859813/
  76. คู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย(DSPM) – Thaichilddevelopment, accessed November 5, 2025, https://www.thaichilddevelopment.com/images/doc/%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%9D%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%90%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%A2(DSPM).pdf
  77. การพัฒนาคู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการ เด็กปฐมวัย The Development of Developmental Surveillance and Promotion Manual; DSPM – สมาคม จิตแพทย์, accessed November 5, 2025, https://www.psychiatry.or.th/JOURNAL/63-1/01_Samai.pdf
  78. รวมทุกคลิป ของ คู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย (DSPM) ไว้ที่นี่ที่เดียวครับ – YouTube, accessed November 5, 2025, https://www.youtube.com/watch?v=yKBFoMbUvFc
  79. Thai Model of Early Detection and Intervention of Children with Developmental Delay: Guidelines for Health Care System – ResearchGate, accessed November 5, 2025, https://www.researchgate.net/publication/340095077_Thai_Model_of_Early_Detection_and_Intervention_of_Children_with_Developmental_Delay_Guidelines_for_Health_Care_System
  80. Teacher and Parent Communication Guide – Panorama Education, accessed November 5, 2025, https://www.panoramaed.com/blog/teacher-and-parent-communication-guide
  81. Tips for Talking with Parents about Developmental Concerns – CDC, accessed November 5, 2025, https://www.cdc.gov/ncbddd/actearly/pdf/parents_pdfs/tipstalkingparents.pdf
  82. พัฒนาการล่าช้าในเด็ก (Developmental Delay in Children) – โรงพยาบาลเมดพาร์ค, accessed November 5, 2025, https://www.medparkhospital.com/disease-and-treatment/developmental-delay-in-children
  83. กระบวนงาน………… ชื่อกระบวนงาน… รับ – ส่งต่อผู้ป่วย – โรงพยาบาลยุวประสาทไวทโยปถัมภ์, accessed November 5, 2025, https://ycap.go.th/download-content_detail/229
  84. แนวทางการพัฒนาระบบส่งต่อการดูแลเด็กปฐมวัยระหว่างครอบครัว โรงเรียน และโรงพยาบาล ในเด็กอายุ 1 เดือน ถึง 2 ปี – ThaiJO, accessed November 5, 2025, https://he01.tci-thaijo.org/index.php/bcnpy/article/view/150018
  85. Thai Referral System, accessed November 5, 2025, https://w1.med.cmu.ac.th/commed/wp-content/uploads/2021/04/Referral-System-Amornphat.pdf
  86. Early Intervention Program in Bangkok – Pathway Educational Center, accessed November 5, 2025, https://pathway.co.th/education/early-intervention-program-in-bangkok/
  87. การจัดทีมงานและการใช ผู ประกอบวิชาชีพ ที่เกี่ยวข องกับการปฏิบัติงานกับเด็กผู เสียหาย0, accessed November 5, 2025, https://dcy.go.th/public/mainWeb/file_download/1661760946608-880126436.pdf
  88. รูปแบบการทำงานร่วมกันเป็นทีมของนักสหวิชาชีพในการให้บริการช่วยเหลือระยะแรกเริ่มสำหรับบุคลลพิการซ้อนของศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดเชียงราย – CMU DC – มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, accessed November 5, 2025, https://cmudc.library.cmu.ac.th/frontend/Info/item/dc:163725
  89. นักจิตวิทยา, accessed November 5, 2025, https://www.cpn2.go.th/wp-content/uploads/2024/05/06Orawan.pdf
  90. The Development of a Digital Literacy Assessment Tool for Thai Grade 10-12 Students – ERIC, accessed November 5, 2025, https://files.eric.ed.gov/fulltext/EJ1463333.pdf
  91. The Development of a Digital Literacy Model for Thai Education – PJLSS, accessed November 5, 2025, https://pjlss.edu.pk/pdf_files/2024_2/5047-5056.pdf
  92. Development of Ethics Literacy Pedagogical Innovation for Pre-service Teachers within the Post Digital Society Context, accessed November 5, 2025, https://jpse.gta.org.uk/index.php/home/article/download/106/158
  93. Suggested Guidelines for Ethical Use of Social Media and Ethical Remote Learning – GaPSC, accessed November 5, 2025, https://www.gapsc.com/Ethics/Downloads/GaPSC_Social%20Media%20and%20Remote%20LearningGuidelines_12-20-21.pdf
  94. EJ1103897 – Social Media Use and Teacher Ethics, Educational Policy, 2016-Jul – ERIC, accessed November 5, 2025, https://eric.ed.gov/?id=EJ1103897
  95. Digital Tool Evaluation Rubric – Mississippi Department of Education, accessed November 5, 2025, https://www.mdek12.org/sites/default/files/Offices/MDE/OTSS/DL/digital_tool_evaluation_rubric.pdf
  96. Rubric for the Evaluation of Educational Apps for preschool Children (REVEAC) – YouTube, accessed November 5, 2025, https://www.youtube.com/watch?v=TLoMmSH74gI
  97. Technology and Young Children: Online Resources and Position Statement – NAEYC, accessed November 5, 2025, https://www.naeyc.org/resources/topics/technology-and-media/resources
  98. Technology and Media | NAEYC, accessed November 5, 2025, https://www.naeyc.org/resources/topics/technology-and-media
  99. Technology and Interactive Media as Tools in Early Childhood Programs Serving Children from Birth through Age 8 – NAEYC, accessed November 5, 2025, https://www.naeyc.org/files/naeyc/file/positions/ps_technology_web2.pdf
  100. การใช สื่อเทคโนโลยีสำหรับเด็กปฐมวัย, accessed November 5, 2025, https://preschool.or.th/content/documents/technology.pdf
  101. แนวทางการพัฒนาแหล่งการเรียนรู้ ในยุคดิจิทัลที่เหมาะสมกับผู้เรียนปฐมวัย, accessed November 5, 2025, https://www.sesalpglpn.go.th/wp-content/uploads/2021/05/book43-64.pdf
  102. การมีส่วนร่วมของผู้ปกครองและครูปฐมวัยต่อการใช้สื่อดิจิทัลของเด็กปฐมวัย | วารสารวิจัยวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ – ThaiJO, accessed November 5, 2025, https://so02.tci-thaijo.org/index.php/jmsr/article/view/265230

Comments

comments

Powered by Facebook Comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

ติดต่อ ดร.อนุศร หงษ์ขุนทด
error: Content is protected !!