fbpx
Digital Learning Classroom
Active Learningการเรียนรู้เชิงรุกวิทยฐานะเชี่ยวชาญ

แนวทางการออกแบบ Framework ของวิธีการสอนด้วยการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem–based Learning : PBL) โดยใช้ TPACK Model

แชร์เรื่องนี้

แนวทางการออกแบบ Framework ของวิธีการสอนด้วยการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem–based Learning : PBL) โดยใช้ TPACK Model เป็นหลักการในการออกแบบการสอน สามารถทำได้โดยการปฏิบัติตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ครับ

คำว่า “ปัญหา” (Problem) หมายถึง สถานการณ์ หรือปัญหาที่ต้องการการแก้ไข หรือการค้นหาทางออก ซึ่งเป็นที่มาของการเรียนรู้ และพัฒนาทักษะ ของผู้เรียน ในทางทฤษฎีการสอนด้วยการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem–based Learning : PBL) จะเน้นการให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาจริง ๆ ซึ่งมีลักษณะเป็นปัญหาที่มีความซับซ้อน และมักจะไม่มีคำตอบที่ชัดเจนจากต้นตอของปัญหา ผู้เรียนจะต้องใช้ทักษะและความรู้ที่มีอยู่เพื่อหาทางแก้ไขปัญหานั้น

ทักษะที่ผู้สอนควรเน้นให้เกิดกับผู้เรียนที่ต้องการแก้ไขปัญหาจะต้อง ควรมีกิจกรรมดังนี้

  • ค้นหาข้อมูล (Search) ต้องทำการค้นคว้าเพื่อรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับปัญหาที่ต้องการแก้
  • วิเคราะห์ปัญหา (Analyze the Problem) ต้องทำการวิเคราะห์ปัญหาเพื่อทำความเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับปัญหานั้น
  • คิด (Critically) ต้องมีการคิด Critically เพื่อวิเคราะห์ข้อมูล, ทำความเข้าใจ และพิจารณาสิ่งต่าง ๆ อย่างลึกซึ้ง
  • ประยุกต์ใช้ความรู้ (Apply knowledge) ต้องสามารถนำความรู้ที่มีไปประยุกต์ใช้ในการแก้ไขปัญหา
  • ทำงานร่วมกับผู้อื่น (Work with others) การแก้ปัญหาบางครั้งต้องการการทำงานร่วมกับผู้อื่น
    • เพื่อแลกเปลี่ยนความคิด
    • ข้อมูล
    • แนวทางแก้ไข

การจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem–based Learning : PBL) จะส่งผลให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะทางปัญหา ทักษะการค้นหาข้อมูล และทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น ที่จะเป็นประโยชน์สูงในการแก้ไขสถานการณ์ทางวิชาการและชีวิตประจำวันต่อไป

การจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน หรือ Problem-based Learning (PBL) เป็นวิธีการสอนที่ให้นักเรียนเรียนรู้และพัฒนาทักษะต่าง ๆ ผ่านการแก้ไขปัญหาตามสถานการณ์จริง ๆ หรือปัญหาที่ได้จำลองขึ้นมา การสอนด้วย PBL มุ่งเน้นการทำให้นักเรียนเป็นผู้เรียนที่สามารถคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหา และทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดี โดยมีขั้นตอนการสอนที่แตกต่างจากวิธีการสอน การออกแบบการสอนจึงมีความจำเป็นอย่างมาก อาจดำเนินขั้นตอนการสอนดังนี้ครับ

  • กำหนดปัญหา (Problem Identification) ตัวอย่างของปัญหาจะต้องเป็นสิ่งที่นักเรียนสามารถเข้าใจและสนใจ และสามารถเชื่อมโยงกับความรู้ที่ต้องการเรียนได้ ปัญหานี้จะบ่งบอกถึงวัตถุประสงค์หรือความรู้ที่นักเรียนควรได้จากการเรียนรู้นั้น ๆ
  • การกำหนดกลุ่ม (Define Groups) นักเรียนจะถูกกำหนดให้เป็นกลุ่ม เพื่อทำการแก้ไขปัญหาร่วมกัน การทำงานเป็นกลุ่มสามารถส่งเสริมทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่นและการแลกเปลี่ยนความรู้
  • ยการแก้ไขปัญหา (Problem Solving) นักเรียนจะต้องใช้ทักษะและความรู้ที่มีอยู่เพื่อแก้ไขปัญหาที่กำหนดมา โดยการค้นคว้าข้อมูล วิเคราะห์ และหาทางแก้ไข
  • การติดตามและส่งเสริม (Feedback and Facilitation) ผู้สอนจะต้องให้ข้อคิดเห็นและส่งเสริมกระบวนการการเรียนรู้ของนักเรียน โดยการให้คำปรึกษา และช่วยเหลือในกระบวนการแก้ไขปัญหา
  • การสรุปและการแบ่งปันความรู้ (Summary and Sharing) นักเรียนจะต้องสรุปความรู้ที่ได้รับจากการแก้ไขปัญหา และแบ่งปันกับผู้อื่นในกลุ่มหรือทั้งกลุ่ม
  • การวิเคราะห์และสะท้อน (Analysis and Reflection) นักเรียนต้องทำการวิเคราะห์ผลลัพธ์ที่ได้รับจากการแก้ไขปัญหาและทำการสะท้อนเพื่อพัฒนาทักษะและความรู้ของตนเอง
กิจกรรมการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem–based Learning : PBL)

ตัวอย่างการเปรียบเทียบวิธีการสอนด้วยการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem–based Learning : PBL) กับขั้นตอนการสอนในตาราง Bloom’s Taxonomy

1. การกำหนดปัญหา (Problem Identification) อยู่ในระดับการเรียนรู้ Remembering (จดจำ) และ Understanding (เข้าใจ)

PBL: การกำหนดปัญหาใน PBL ส่งผลให้นักเรียนต้องจดจำข้อมูลที่เกี่ยวข้องและเข้าใจเนื้อหาเพื่อให้สามารถตั้งปัญหาและตอบคำถามที่เกี่ยวข้องได้.Bloom’s

Taxonomy: ส่วนนี้เกี่ยวข้องกับการจดจำ (Remembering) และเข้าใจ (Understanding) ในระดับความคิดที่ต่ำ.

2. การกำหนดกลุ่ม (Group Formation) อยู่ในระดับการเรียนรู้  Applying (ประยุกต์ใช้)

PBL: การทำงานเป็นกลุ่มใน PBL ส่งผลให้นักเรียนต้องประยุกต์ใช้ความรู้และทักษะที่มีต่อการแก้ไขปัญหาร่วมกับผู้อื่น.

Bloom’s Taxonomy: ส่วนนี้เกี่ยวข้องกับการประยุกต์ใช้ความรู้ (Applying) ในระดับความคิดที่สูงขึ้น.

3. การสอนด้วยการแก้ไขปัญหา (Problem Solving) อยู่ในระดับการเรียนรู้ Applying (ประยุกต์ใช้) และ Analyzing (วิเคราะห์)

PBL: การแก้ไขปัญหาใน PBL ต้องการการประยุกต์ใช้ความรู้, การวิเคราะห์สถานการณ์ และการคิดวิเคราะห์.

Bloom’s Taxonomy: ส่วนนี้เกี่ยวข้องกับการประยุกต์ใช้ (Applying) และการวิเคราะห์ (Analyzing) ในระดับความคิดที่สูงขึ้น.

4. การติดตามและส่งเสริม (Feedback and Facilitation) อยู่ในระดับการเรียนรู้ Evaluating (ประเมิน)

PBL: การให้คำปรึกษาและส่งเสริมใน PBL ส่งผลให้นักเรียนได้โอกาสประเมินตนเองและการประเมินผลงานของผู้อื่น.

Bloom’s Taxonomy: ส่วนนี้เกี่ยวข้องกับการประเมิน (Evaluating) ในระดับความคิดที่สูง.

5. การสรุปและการแบ่งปันความรู้ (Summary and Sharing) อยู่ในระดับการเรียนรู้ Creating (สร้าง)

PBL: การสรุปและแบ่งปันความรู้ใน PBL ส่งผลให้นักเรียนต้องสร้างผลงานที่สามารถแบ่งปันกับผู้อื่นได้.

Bloom’s Taxonomy: ส่วนนี้เกี่ยวข้องกับการสร้าง (Creating) ในระดับความคิดที่สูงสุด.

6. การวิเคราะห์และสะท้อน (Analysis and Reflection) อยู่ในระดับการเรียนรู้ Evaluating (ประเมิน) และ Creating (สร้าง)

PBL: การวิเคราะห์และสะท้อนใน PBL ส่งผลให้นักเรียนต้องประเมินผลลัพธ์และสรุปความรู้.

Bloom’s Taxonomy: ส่วนนี้เกี่ยวข้องกับการประเมิน (Evaluating) และการสร้าง (Creating) ในระดับความคิดที่สูง.

ตารางเปรียบเทียบระหว่าง Problem-Based Learning (PBL) และ Bloom’s Taxonomy

ขั้นตอนการสอนProblem-Based Learning (PBL)Bloom’s Taxonomy
1. กำหนดปัญหาการตั้งปัญหาที่ต้องการแก้Remembering, Understanding
2. กำหนดกลุ่มการทำงานร่วมกับกลุ่มApplying
3. สอนด้วยการแก้ไขปัญหาการประยุกต์ใช้ความรู้ในการแก้ปัญหาApplying, Analyzing
4. ติดตามและส่งเสริมการให้คำปรึกษาและส่งเสริมกระบวนการการเรียนรู้Evaluating
5. สรุปและแบ่งปันการสรุปและแบ่งปันความรู้Creating
6. วิเคราะห์และสะท้อนการประเมินผลและการสะท้อนEvaluating, Creating

แนวทางการออกแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน  หรือ Problem-based Learning (PBL)

การจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน หรือ Problem-ased Learning (PBL) เป็นแนวทางการสอนที่ส่งเสริมให้นักเรียนเรียนรู้ และพัฒนาทักษะต่าง ๆ ผ่านการแก้ไขปัญหาตามสถานการณ์จริง หรือปัญหาที่ได้จำลองขึ้นมา การสอนด้วย PBL นักเรียนจะไม่ได้รับเพียงแค่ เนื้อหาการเรียนรู้ ข้อมูล และการจดจำเฉพาะทฤษฎีเทาสนั้น วิธีการสอนนี้จะมุ่งเน้นการพัฒนาทักษะในการคิด เช่น Critically (วิเคราะห์อย่างลึกซึ้ง) Collaboratively (การทำงานร่วมกัน) และ Creatively (การสร้างสรรค์) ขั้นตอนการสอนควรออกแบบ ดังนี้

  • การตั้งปัญหา (Problem Identification) ในขั้นนี้ผู้สอนควรเน้นไปที่การสร้างปัญหาที่นำเสนอต้องมีความน่าสนใจ และเกี่ยวข้องกับหัวข้อการเรียน นักเรียนจะต้องมีโอกาสที่จะตั้งคำถามเพิ่มเติม, ค้นคว้า, และหาทางแก้ไขปัญหา
  • การทำงานเป็นกลุ่ม (Group Work) ในขั้นนี้ผู้สอนควรเน้นไปที่การเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ทำงานร่วมกับกลุ่ม เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น, แบ่งปันข้อมูล, และแก้ไขปัญหาร่วมกัน
  • การค้นคว้าและการเรียนรู้ (Research and Learning) ในขั้นนี้ผู้สอนควรเน้นไปที่การเปิดโอกาสให้นักเรียนต้องใช้ทักษะการค้นคว้าเพื่อหาข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการแก้ไขปัญหา และเรียนรู้ในระหว่างกระบวนการ
  • การวิเคราะห์และการคิด (Critically) ในขั้นนี้ผู้สอนควรเน้นไปที่การเปิดโอกาสให้นักเรียนต้องมีการพิจารณาและวิเคราะห์ข้อมูล, แสดงความคิด Critically เพื่อทำให้ได้ข้อสรุปที่สมเหตุสมผล
  • การสร้างและการแบ่งปันความรู้ (Getting started and sharing knowledge) ในขั้นนี้ผู้สอนควรเน้นไปที่การเปิดโอกาสให้นักเรียนต้องสร้างผลงาน, นำเสนอ, และแบ่งปันความรู้ที่ได้รับผลจากการแก้ไขปัญหา
  • การสะท้อนและการประเมิน (Reflection and Assessment) ในขั้นนี้ผู้สอนควรเน้นไปที่การเปิดโอกาสให้นักเรียนต้องสะท้อนในกระบวนการการเรียนรู้, ประเมินผลสัมฤทธิ์ของทักษะและความรู้ที่ได้, และวางแผนการพัฒนาต่อไป
การจัดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem–based Learning : PBL)
ตามแนวทางของ Bloom’s Taxonomy

แนวทางการออกแบบ TPACK Framework ของการสอนด้วยการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem–based Learning : PBL) โดยใช้ TPACK Model 

การทำความเข้าใจเรื่องเนื้อหา (Content Knowledge)

  • ทำการวิเคราะห์เนื้อหาที่ต้องสอน และตระหนักถึงความสำคัญและแนวทางของพหุปัญหาที่มีความเชื่อมโยงกับวิชาที่นำเสนอ
  • จัดทำรายการความรู้ทางเนื้อหาที่น่าสนใจและสำคัญที่ควรให้นักเรียนทราบ

การทำความเข้าใจเรื่องการสอน (Pedagogical Knowledge)

  • พิจารณาวิธีการสอนที่เหมาะสมสำหรับการแก้ปัญหาและทำให้นักเรียนได้เรียนรู้
  • ออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และการทำงานร่วมกัน

การทำความเข้าใจเรื่องเทคโนโลยี (Technological Knowledge)

  • ระบุเทคโนโลยีที่เหมาะสมในการแก้ปัญหาและการสอน
  • ทบทวนและเลือกรูปแบบการใช้เทคโนโลยีที่สามารถช่วยในกระบวนการเรียนรู้และการสอน

การผสมผสาน (Blending) TPACK

  • ทบทวน TPACK Model และรวมความรู้ทั้งหมด (Content Knowledge, Pedagogical Knowledge, Technological Knowledge) ที่ได้มา
  • พิจารณาความสอดคล้องของ TPACK ในบทเรียนที่ใช้วิธีการสอนด้วยพหุปัญหา.

การออกแบบพหุปัญหา (Problem Design)

  • ตั้งคำถามหรือสร้างพหุปัญหาที่ท้าทายและเกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่ต้องสอน
  • ให้นักเรียนมีโอกาสในการใช้ความรู้ทางเนื้อหา, ทักษะทางการสอน, และเทคโนโลยีในการแก้ปัญหา

การสร้างกิจกรรมการเรียนรู้ (Learning Activities)

  • ออกแบบกิจกรรมที่สนับสนุนการแก้ปัญหา, การทำงานร่วมกัน, และการใช้เทคโนโลยี
  • ให้นักเรียนมีโอกาสในการสร้างผลงานหรือโปรเจกต์ที่เกี่ยวข้อง

การวัดและประเมิน (Assessment)

  • พิจารณาวิธีการวัดและประเมินที่สอดคล้องกับการแก้ปัญหาและการทำงานร่วมกัน
  • ให้การประเมินเน้นทั้งความรู้ทางเนื้อหา, ทักษะการสอน, และการใช้เทคโนโลยี

การพัฒนาต่อไป (Continuous Improvement)

  • รีวิวผลประเมินและปรับปรุง framework ตามความเรียบร้อย
  • จัดทำบทเรียนแบบดั้งเดิมโดยใช้ประสบการณ์และความรู้ที่ได้จากการสอน

กรอบแนวคิดการวิจัยที่เน้นการสอนด้วยการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem–based Learning : PBL)

การออกแบบกรอบแนวคิดที่ชัดเจนจะช่วยให้งานวิจัยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถทำนายผลลัพธ์การสอนด้วย PBL ควรมีขั้นตอน ดังนี้

ประเด็นวิจัย (Research Questions)

  • กำหนดคำถามวิจัยที่ชัดเจนและเชื่อมโยงกับการสอนด้วย PBL
  • ตั้งคำถามที่ช่วยในการทบทวนประสบการณ์การเรียนรู้ของนักเรียน ผลกระทบของ PBL ต่อความรู้และทักษะ และวิธีการสอนที่มีผล

วัตถุประสงค์ (Objectives)

  • ระบุวัตถุประสงค์ของงานวิจัย ว่าต้องการทราบอะไร และวัตถุประสงค์เหล่านี้จะช่วยในการแก้ปัญหาการสอนด้วย PBL

ข้อมูลและตัวอย่าง (Data and Samples)

  • ระบุแหล่งข้อมูลที่ใช้ในการวิจัย เช่น ข้อมูลนักเรียน, ข้อมูลผลการเรียน, และข้อมูลการทำงานร่วมกัน
    บอกแนวทางเกี่ยวกับการเก็บข้อมูล เช่น สำรวจ สัมภาษณ์ หรือการสำรวจผลงาน

กรอบทฤษฎี (Theoretical Framework)

  • อธิบายกรอบทฤษฎีที่ใช้ในงานวิจัย เช่น TPACK Model ทฤษฎีการเรียนรู้ หรือทฤษฎีการสอน
  • บอกหลักการทฤษฎีที่เป็นพื้นฐานของงานวิจัย

รูปแบบการวิจัย (Research Design)

  • ระบุวิธีการทดลอง หรือการเก็บข้อมูล เช่น การทดลองควบคู่ การศึกษากรณี หรือการทำสัมภาษณ์
  • อธิบายขั้นตอนวิธีการวิจัย และเหตุผลที่เลือกวิธีนี้

การวัดและประเมิน (Measurement and Evaluation)

  • ระบุวิธีการวัดและประเมินผล เช่น ทดสอบ การสัมภาษณ์ หรือการทำสรุปผลงาน
  • อธิบายวิธีที่ใช้ในการวัดความสำเร็จของ PBL และผลกระทบต่อการเรียนรู้ของนักเรียน

การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analysis)

  • บอกวิธีการวิเคราะห์ข้อมูลที่ใช้ในการตอบคำถามวิจัย
  • อธิบายการใช้ซอฟต์แวร์หรือเทคนิคการวิเคราะห์ข้อมูล

การสรุปผล (Conclusion)

  • สรุปผลที่ได้จากการวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูล
  • บอกถึงผลที่สำคัญและการใช้งานของผลลัพธ์

ข้อจำกัดและแนวทางการวิจัยส่วนต่อไป (Limitations and Future Research)

  • ระบุข้อจำกัดของงานวิจัย
  • ให้แนวทางในการพัฒนางานวิจัยในอนาคต

การเผยแพร่ผล (Dissemination of Results)

  • อธิบายวิธีที่ผลลัพธ์จะถูกเผยแพร่, เช่น การเขียนบทความ, การนำเสนอในสัมมนา, หรือการเผยแพร่ออนไลน์

แหล่งอ้างอิงที่เกี่ยวข้องกับการสอนด้วยการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem–based Learning : PBL) ด้วยTPACK Model

  • Niess, M. L., Ronau, R. N., Shafer, K. G., Driskell, S. O., Harper, S. R., Johnston, C., & Browning, C. (2009). Mathematics teacher TPACK standards and development model. Contemporary Issues in Technology and Teacher Education, 9(1), 4-24.

บทความนี้มีกรอบ และมีแนวทางสำหรับการพัฒนา TPACK สำหรับครูคณิตศาสตร์ และวิจัยเกี่ยวกับแนวทางในการสอนด้วย PBL ในครั้งต่อไป

  • Schmidt, D. A., Baran, E., Thompson, A. D., Mishra, P., Koehler, M. J., & Shin, T. S. (2009). Technological pedagogical content knowledge (TPACK): The development and validation of an assessment instrument for preservice teachers. Journal of Research on Technology in Education, 42(2), 123-149.

บทความนี้ได้ทำการพัฒนาและทดสอบเครื่องมือการประเมินด้วย TPACK สำหรับครูที่กำลังศึกษาอยู่ และสามารถนำไปใช้ในการวิจัยเกี่ยวกับการสอนด้วย PBL

  • Angeli, C., & Valanides, N. (2009). Epistemological and methodological issues for the conceptualization, development, and assessment of ICT-TPCK: Advances in technological pedagogical content knowledge. Computers & Education, 52(1), 154-168.

การศึกษานี้เกี่ยวข้องกับการใช้เทคโนโลยีในการสอน (ICT-TPCK) และสามารถเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับการบูรณาการ TPACK ในบทเรียนที่ใช้ PBL

  • Harris, J. B., & Hofer, M. J. (2011). Technological pedagogical content knowledge (TPACK) in action: A descriptive study of secondary teachers’ curriculum-based, technology-related instructional planning. Journal of Research on Technology in Education, 43(3), 211-229.

งานวิจัยนี้ศึกษา TPACK ในบทเรียนที่ใช้เทคโนโลยี และสามารถให้มุมมองที่ตรงไปตรงมาว่า TPACK มีบทบาทในการวางแผนการสอนที่ใช้ PBL

  • Koehler, M. J., & Mishra, P. (2009). What is technological pedagogical content knowledge (TPACK)? Contemporary Issues in Technology and Teacher Education, 9(1), 60-70.

บทความนี้เป็นพื้นฐานในการเข้าใจ TPACK และสามารถให้ความเข้าใจเกี่ยวกับเนื้อหาในบทเรียนที่ใช้ PBL

แหล่งอ้างอิงที่เกี่ยวข้องกับการสอนด้วยการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem–based Learning : PBL)

  • Savery, J. R., & Duffy, T. M. (1995). Problem based learning: An instructional model and its constructivist framework. Educational Technology, 35(5), 31-38.

บทความนี้นำเสนอแนวคิดของ PBL และโครงสร้างการสอนที่เป็นการสร้างความรู้

  • Barrows, H. S., & Tamblyn, R. M. (1980). Problem-based learning: An approach to medical education. Springer Publishing Company.

หนังสือนี้เป็นหนังสือหลักที่กำหนดกรอบการสอนด้วย PBL และเน้นในบริบทของการศึกษาทางการแพทย์

  • Dochy, F., Segers, M., Van den Bossche, P., & Gijbels, D. (2003). Effects of problem-based learning: A meta-analysis. Learning and Instruction, 13(5), 533-568.

งานวิจัยนี้ทำการวิเคราะห์ผลของ PBL จากหลายแหล่งที่แตกต่างกันและสรุปผลลัพธ์

  • Hmelo-Silver, C. E. (2004). Problem-based learning: What and how do students learn? Educational Psychology Review, 16(3), 235-266.

บทความนี้สรุปข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการเรียนรู้ของนักเรียนใน PBL และวิเคราะห์ว่านักเรียนได้เรียนรู้อะไร

  • Hung, W. (2009). Theory to reality: A few issues in implementing problem-based learning. Educational Technology Research and Development, 57(1), 5-20.

บทความนี้เน้นที่ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในการนำ PBL มาใช้ในทางปฏิบัติ

  • Dolmans, D. H., Wolfhagen, I. H., Scherpbier, A. J., & Vleuten, C. P. (2001). Relationship of tutors’ group-dynamic skills to their performance ratings in problem-based learning. Teaching and Learning in Medicine, 13(1), 21-26.

งานวิจัยนี้เกี่ยวกับการประเมินทักษะและทักษะในการทำงานกลุ่มของผู้สอนใน PBL

  • Wood, D. F. (2003). Problem-based learning. BMJ: British Medical Journal, 326(7384), 328.

บทความนี้นำเสนอภาพรวมถึงการใช้ PBL ในการศึกษาทางการแพทย์

  • Hendry, G. D., Cumming, J. M., Lyon, P. M., & Gordon, J. A. (1999). Problem-based learning: Cognitive skills and metacognitive control. Medical Education, 33(11), 758-763.

งานวิจัยนี้เน้นที่กระบวนการควบคุมขั้นสูงทางทฤษฎีและทักษะทางความคิดใน PBL

แหล่งอ้างอิงที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem–based Learning : PBL) ในระดับประถมศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะแห่งศตวรรษที่ 21

  • Hung, W. (2009). The 9-step problem design process for problem-based learning: Application of the 3C3R model. Educational Research Review, 4(2), 118-141.

บทความนี้เสนอกระบวนการออกแบบปัญหาใน PBL ที่สามารถนำไปใช้ในระดับประถมศึกษา

  • Capon, N., Kuhn, D., & Carver, S. (2005). Theory and practice in the design of learning environments: A contextual action theory of instructional design. Instructional Science, 33(3), 163-185.

งานวิจัยนี้เสนอทฤษฎีและปฏิบัติในการออกแบบสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่ให้การพัฒนาทักษะแบบพหุปัญญา

  • Barron, B. (2003). When smart groups fail. The Journal of the Learning Sciences, 12(3), 307-359.

งานวิจัยนี้มองไปที่การทำงานและการเรียนรู้ในกลุ่มและสามารถใช้กับการสอน PBL ในระดับประถม

  • Hmelo-Silver, C. E., Duncan, R. G., & Chinn, C. A. (2007). Scaffolding and achievement in problem-based and inquiry learning: A response to Kirschner, Sweller, and Clark (2006). Educational Psychologist, 42(2), 99-107.

งานวิจัยนี้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการให้การช่วยเหลือและการสนับสนุนใน PBL

  • Larmer, J., & Mergendoller, J. R. (2010). PBL in the Elementary Grades: Step by Step Guidance, Tools and Tips for Standards-Focused K-5 Projects. Buck Institute for Education.

หนังสือนี้ให้คำแนะนำขั้นตอนที่ชัดเจนสำหรับการใช้ PBL ในระดับประถมศึกษา

  • Dochy, F., Segers, M., Van den Bossche, P., & Gijbels, D. (2003). Effects of problem-based learning: A meta-analysis. Learning and Instruction, 13(5), 533-568.

งานวิจัยนี้ทำการวิเคราะห์ผลของ PBL ในการพัฒนาทักษะ

  • Strobel, J., & Van Barneveld, A. (2009). When is PBL more effective? A meta-synthesis of meta-analyses comparing PBL to conventional classrooms. Interdisciplinary Journal of Problem-based Learning, 3(1), 44-58.

งานวิจัยนี้ทำการรวมข้อมูลจาก meta-analysis เพื่อเปรียบเทียบ PBL กับการสอนปกติ

  • Blumenfeld, P. C., Soloway, E., Marx, R. W., Krajcik, J. S., Guzdial, M., & Palincsar, A. (1991). Motivating project-based learning: Sustaining the doing, supporting the learning. Educational Psychologist, 26(3-4), 369-398.

บทความนี้สนใจในการส่งเสริมการเรียนรู้ที่นักเรียนทำได้ผ่านการทำโปรเจกต์

  • Thomas, J. W. (2000). A review of research on project-based learning. The Autodesk Foundation.

รายงานนี้รวบรวมความรู้จากงานวิจัยที่เกี่ยวกับการสอนด้วยพหุปัญหาและโปรเจกต์เบสเลิร์นิง

  • Hmelo-Silver, C. E. (2004). Problem-based learning: What and how do students learn? Educational Psychology Review, 16(3), 235-266.

บทความนี้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการเรียนรู้ของนักเรียนใน PBL ที่สามารถนำมาปรับใช้ในระดับประถมศึกษาได้

  • Savery, J. R. (2006). Overview of problem-based learning: Definitions and distinctions. Interdisciplinary Journal of Problem-Based Learning, 1(1), 3.

บทความนี้ให้ภาพรวมของ PBL และการจัดทำความเข้าใจคำจำกัดและความแตกต่างที่สำคัญ

  • Krajcik, J. S., Blumenfeld, P. C., Marx, R. W., Bass, K. M., Fredricks, J., & Soloway, E. (1994). Investigating and questioning: A tool for learning science. Journal of Research in Science Teaching, 31(6), 699-725.

งานวิจัยนี้โฆษณาถึงการใช้ PBL เพื่อส่งเสริมการตั้งคำถามและการวิจัยในวิทยาศาสตร์

  • Helle, L., Tynjälä, P., Olkinuora, E., & Lonka, K. (2007). ‘Ain’t nothin’ like the real thing’. Motivation and study processes on a work-based project course in information systems design. British Journal of Educational Technology, 38(1), 145-162.

งานวิจัยนี้เน้นที่การใช้ PBL ในรูปแบบของคอร์สที่เน้นการทำงาน

  • Walker, A., Recker, M., Robertshaw, M. B., O’Connell, L., & Leary, H. (2003). Problem-Based Learning in K-12 Education: Is It Effective and How Does It Achieve Its Effects? Center for the Application of Information Technologies (CAIT).

รายงานนี้นำเสนอการวิจัยเกี่ยวกับการสอนด้วย PBL ในระดับประถมศึกษา

แหล่งอ้างอิงที่เกี่ยวข้องกับการสอนด้วยการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem–based Learning : PBL) (Problem-Based Learning, PBL) ในระดับมัธยมศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะแห่งศตวรรษที่ 21

  • Walker, A., Leary, H., & Hmelo-Silver, C. E. (2009). Promoting reflective interactions in a computer-supported collaborative learning environment for elementary students. Instructional Science, 37(5), 519-538.

งานวิจัยนี้เกี่ยวกับการส่งเสริมการแสดงความคิดเห็นและการทำงานร่วมกันใน PBL ด้วยการใช้เทคโนโลยี

  • Savery, J. R., & Duffy, T. M. (1995). Problem based learning: An instructional model and its constructivist framework. Educational Technology, 35(5), 31-38.

บทความนี้เสนอกรอบและโครงสร้างของ PBL ที่สามารถนำมาใช้ในระดับมัธยมศึกษา

  • Hmelo-Silver, C. E. (2004). Problem-based learning: What and how do students learn? Educational Psychology Review, 16(3), 235-266.

บทความนี้สรุปข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการเรียนรู้ของนักเรียนใน PBL ที่สามารถนำมาปรับใช้ในระดับมัธยมศึกษา

  • Hmelo-Silver, C. E., Marathe, S., & Liu, L. (2007). Fish swim, rocks sit, and lungs breathe: Expert-novice understanding of complex systems. Journal of the Learning Sciences, 16(3), 307-331.

งานวิจัยนี้สนใจในการเข้าใจของนักเรียนในสาระการเรียนรู้ที่ซับซ้อน

  • Blumenfeld, P. C., Soloway, E., Marx, R. W., Krajcik, J. S., Guzdial, M., & Palincsar, A. (1991). Motivating project-based learning: Sustaining the doing, supporting the learning. Educational Psychologist, 26(3-4), 369-398.

บทความนี้มุ่งเน้นที่การสร้างและสนับสนุนการเรียนรู้ผ่านการทำโปรเจกต์

  • Helle, L., Tynjälä, P., Olkinuora, E., & Lonka, K. (2007). ‘Ain’t nothin’ like the real thing’. Motivation and study processes on a work-based project course in information systems design. British Journal of Educational Technology, 38(1), 145-162.

งานวิจัยนี้เน้นที่การทำงานและการเรียนรู้ในกลุ่มใน PBL

  • Strobel, J., & van Barneveld, A. (2009). When is PBL more effective? A meta-synthesis of meta-analyses comparing PBL to conventional classrooms. Interdisciplinary Journal of Problem-based Learning, 3(1), 44-58.

งานวิจัยนี้ทำการรวมข้อมูลจาก meta-analysis เพื่อเปรียบเทียบ PBL กับการสอนปกติ

Comments

comments

Powered by Facebook Comments

ติดต่อ ดร.อนุศร หงษ์ขุนทด
error: Content is protected !!